ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า สร้างมาจากหนังสือชื่อเรื่องเดียวกัน ผลงานของนักเขียนรุ่นเก๋าอย่าง บุษบาพาฝัน ที่ผลงานหลายเรื่องได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับการนำไปสร้างเป็นละครอีกด้วย ซึ่งเรื่องที่ทุกคนจำได้ดีก็คือ เกมร้ายเกมรัก ที่ทำให้คนจำชื่อ "สายชล-นางฟ้า" ได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้ผู้คนติดอกติดใจทั้งฉบับนิยายและละครกันขนาดนี้ สถาพรบุ๊คส์จะรอช้าได้อย่างไร รีบติดต่อไปพูดคุยกับ บุษบาพาฝัน เจ้าของผลงานแสนสนุกที่มัดใจคนอ่านและคนดูไปอยู่หมัดทันที




  สถาพรบุ๊คส์  : แนะนำตัวให้นักอ่านรู้จักสักนิดนะคะ

บุษบาพาฝัน : ชื่อจริง สุชาดา ภู่แก้ว นามปากกา บุษบาพาฝัน เป็นคนกรุงเทพฯ และก็เรียนจบมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา รุ่น 14ตุลา เป็นคนชอบเขียนไดอะรีมาตั้งแต่เด็กๆ และมีหน้าที่เป็นคนอ่านหนังสือพิมพ์ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังทุกเช้าก็เลยรักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือทุกประเภท โดยมีคุณพ่อเป็นคนที่ซื้อหนังสือมาให้ และคุณแม่รับนิตยสารรายปักษ์ รายสัปดาห์ ก็เลยติดนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ อ่านทั้งนิยายไทย นิยายแปล นิยายวิทยาศาสตร์ เรียกว่าการอ่านอยู่ในสายเลือด

 

บุษบาพาฝัน : เพิ่งจะเดินเข้ามาตรงนี้ไม่ถึงสิบปี เพราะเริ่มต้นการทำงานด้วยการรับราชการในสังกัด กรุงเทพมหานคร และต่อมาได้ลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว แต่การอ่านก็ไม่เคยทิ้ง และเริ่มเขียนนิยายเล่นๆ ไม่จริงจัง พรินต์เป็นต้นฉบับให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อ่าน เลยได้รับแรงเชียร์ให้พิมพ์เป็นรูปเล่ม ครั้งแรกลองส่งไปที่สำนักพิมพ์ดังแห่งหนึ่ง และมีคำตอบกลับมาว่าสำนวนดีใช้ได้ แต่เนื้อเรื่องยังเพียงแต่อ่านไปได้เรื่อยๆ ไม่ประทับใจที่จะหยิบมาอ่านอีกครั้ง คำวิจารณ์ตรงนี้จึงเป็นแรงผลักดัน ให้ไปหานิยายมาเริ่มอ่านอีก และก็พบแนวทางในการเขียน เริ่มเขียนลงในเว็บเด็กดี เรื่องแรกมีสำนักพิมพ์ติดต่อขอพิมพ์มาถึงสองที่ รู้สึกดีใจมาก และ ณ จุดนี้ทำให้เข้ามาเดินถนนสายนี้อย่างเต็มตัว

 

บุษบาพาฝัน : เรื่องปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า เป็นนิยายเรื่องที่14 เป็นนิยายกึ่งแฟนตาซีเป็นเรื่องราวของการผจญภัยในป่าที่อยากเขียนมาก ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่แนวนิยายที่นักอ่านส่วนมากชอบ แต่ก็เขียนด้วยความสุขไม่กดดัน และรักตัวละครโดยเฉพาะเขตพนามาก จากการที่เราสร้างให้เขาเป็นสุภาพบุรุษในจินตนาการของเรา ส่วนนางเอกเก่งกล้ามีความกตัญญูและมุ่งมั่น เข้มแข็ง กล้าที่คิดจะไปตามหาพ่อในป่า เพียงเพื่อขอโทษที่ตนเองเคยทำผิดกับท่านไว้ ได้ใช้จินตนาการจากเรื่องเล่าจากปากคนที่เคยเข้าป่า และจากการอ่านนิยาย อย่างเช่นเรื่อง เพชรพระอุมา และยังได้ดูภาพยนตร์แนวนี้อยู่หลายเรื่อง ทำให้ผูกเรื่องราวได้อย่างที่อยากให้เป็นไปตามแนวคิดในจินตนาการของเรา






 สถาพรบุ๊คส์ : คิดว่าเพราะอะไร ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า ถึงได้ถูกนำมาทำละครโทรทัศน์ และฉบับละครแตกต่างจากในหนังสือไหมคะ

บุษบาพาฝัน : ครั้งแรกที่ผู้จัดติดต่อมา เหตุผลที่บอกก็คือชอบที่นิยายเรื่องนี้มีเพราะครบรส ทั้งดรามา คอเมดี แอกชัน แฟนตาซี  ซึ่งถ้าถ่ายทอดออกมาเป็นละคร ก็จะหาตัวรายล้อมหรือเหตุการณ์ต่างๆ มาเสริมลงไปได้ไม่ยาก และจากที่ได้คุยกับผู้จัดก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากบทประพันธ์ของเรามากนัก โครงสร้างเรื่องการผจญภัยในป่าก็ยังเป็นเรื่องราวที่เราเขียนไว้ทุกอย่าง มีเพียงการเพิ่มตัวละครเพื่อสร้างสีสันให้ได้อรรถรสในแบบฉบับละครโทรทัศน์ 

ผู้จัดละครเรื่องนี้ก็น่ารักมาก จะโทร. มาคุยด้วยและบอกถึงเหตุผลที่บางช่วงบางตอนต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อย่างเช่นในตอนท้ายๆ เรื่อง แต่โครงเรื่องก็ยังคงไว้ซึ่งก็ไม่ทำให้เราเสียความรู้สึก เพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเนื้อเรื่องของเราไว้ ซึ่งเมื่อออนแอร์ก็ยังยิ้มออกที่เห็นจินตนาการของเรามีชีวิตจริง ถึงแม้จะมีตัวแสดงเพิ่มเติมเข้ามา อย่างฉากเสือสมิง ฉากนางเอกถูกน้ำพัดไปในระหว่างข้ามลำธารอันไหลเชี่ยว ฉากพระนางต่อปากต่อคำกัน คนป่าเผ่าเยติก็ตรงตามบทประพันธ์ก็ดีใจมีความสุขที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายนัก จะเปลี่ยนก็ตรงหลุดมิติ แต่ระหว่างอยู่ในอีกมิติก็ยังคงบทประพันธ์ตรงที่พระเอกนางเอกต้องไปพบรักสามเส้า ซึ่งตรงนี้เป็นโครงเรื่องของเรา เพียงแต่เปลี่ยนแปลงเมืองในมิติให้เป็นแฟนตาซีมากขึ้น และตรงนี้เป็นบทเป็นดรามาบีบคั้นอารมณ์ เมื่อพระเอกนางเอกซึ่งรักกันแล้วมีเหตุให้ต้องพรากจากกัน  

 

บุษบาพาฝัน : ตอนแรกทราบว่านางเอกไม่ใช่น้องมิว แต่เป็นนางเอกลูกครึ่งตามบทประพันธ์จริงๆ แต่น้องนักแสดงท่านนั้นติดคิวถ่ายละครอีกเรื่องหนึ่งซึ่งก็ถ่ายทำในต่างจังหวัด จึงเหนื่อยเกินไปที่จะรับละครสองเรื่องซึ่งต้องเดินทางไกลทั้งสองเรื่อง จึงได้น้องมิวมาเป็นนางเอกเปลี่ยนบทจากลูกครึ่งมาเป็น นางเอกที่เติบโตจากต่างประเทศแทน ก็ไม่เพี้ยนสักเท่าไหร่ และน้องมิวก็แสดงออกมาเป็นไอรดาสาวห้าวเก่งกล้าได้ดี 

 


สถาพรบุ๊คส์ : กลับมาที่เรื่องตัวนิยาย แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่อง ปาฏิหาริย์รักข้ามขอบฟ้า คืออะไรคะ

บุษบาพาฝัน : มาจากการอ่านหนังสือแนวผจญภัย อย่างเรื่อง เพชรพระอุมา ของคุณพนมเทียน และนิยายของ Sir Henry Rider Haggard  เรื่องสมบัติพระศุลี (King Solomon's Mines) ซึ่งมีหลายเรื่องที่อ่านของนักประพันธ์ท่านนี้  และได้ดูภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นด้วยค่ะ ความจริงบุษบาพาฝันอยากเขียนรายละเอียดการผจญภัยของนิยายเรื่องนี้ ให้มากกว่านี้ แต่ก็เกรงว่าจะยาวจนไม่มีสำนักพิมพ์ใดกล้าพิมพ์ เพราะไม่ได้เป็นนิยายแนวตลาด ซึ่งคิดไว้ว่าในอนาคตอาจจะเขียนออกมาอีกสักเล่มหนึ่ง 

 

บุษบาพาฝัน : บุคลิกตัวละครที่เขียนเป็นเขตพนานั้น ได้มาจากพระเอกในอดีตคนหนึ่งคือคุณพิเศก อินทรครรชิต ชายหนุ่มร่างแกร่งว่องไวปราดเปรียว สีหน้าเคร่งขรึม ยิ้มยาก แต่มาได้น้องไม้พระเอกของเรื่องนี้ซึ่งสูงสมาร์ตหน้าคมหล่อ  แต่น้องก็สวมบทบาทของเขตพนาได้เท่ดี ส่วนนางเอกเรียกว่าเป็นสาวมั่นสั่งตรงจากต่างประเทศ เข้มแข็ง เก่งกล้า ก็จะคิดถึงแองเจลิน่า โจลี่ ซึ่งความจริงไม่ได้เข้ากับพระเอกเลย แต่ชอบความเท่ของเธอก็เลยเก็บมาจินตนาการ

 

บุษบาพาฝัน : ฟังเพลงค่ะ หรือไม่ก็นอนหลับให้สมองได้ผ่อนคลาย แล้วค่อยลุกขึ้นมาเขียนใหม่ 

 

บุษบาพาฝัน : นิยายที่เคยเป็นละครมาแล้วของบุษบาพาฝัน ก็เรื่องเกมร้ายเกมรัก ออนแอร์เมื่อปี 2554 ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ชมมากพอสมควร และพระเอกนางเอกได้รับรางวัลจากการแสดงเรื่องนี้แทบทุกสำนักในปีนั้น เป็นความทรงจำที่มีความสุขของบุษบาพาฝันค่ะ และตอนนี้ก็มีซีรีส์ที่กำลังรอการดำเนินการสร้างเรื่องหนึ่ง และที่ผู้จัดติดต่อมาอีกสองเรื่อง ความจริงแล้วเขียนละครหลายแนว ที่สามารถสร้างละครได้ก็หลายเรื่อง คงแล้วแต่ความต้องการของผู้จัดและตลาดด้วยค่ะ เพราะผู้ประพันธ์ก็อยากให้เป็นละครทุกเรื่อง





สถาพรบุ๊คส์ : ฝากเคล็ดลับถึงนักเขียนมือใหม่หน่อยค่ะ

บุษบาพาฝัน : ถ้าจะให้ฝากเคล็ดลับถึงน้องนักเขียนมือใหม่ ก็คงบอกได้ตามที่ตัวเองคิด คือให้เขียนให้เรื่องน่าตื่นเต้นชวนติดตามตั้งแต่หน้าแรก และถ้าต้องอ้างอิงถึงเรื่องสำคัญ อย่างเช่น ประวัติศาสตร์ ข้อกฎหมาย รายละเอียดอาชีพของตัวละครที่เราสร้าง สถานที่ที่เราใช้เป็นฉากสร้างเรื่องราว หรือการใช้คำราชาศัพท์ คำเปรียบเทียบ คำพังเพย คำสุภาษิต ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น สมควรต้องค้นคว้าก่อนเขียน เพราะนักอ่านบางท่านไม่ยอมรับ ถ้าเราเขียนไปผิดจากความเป็นจริง ซึ่งบุษบาพาฝันก็ไม่ได้เก่งกาจอะไร และก็อาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง แต่ในการเขียนนิยายแต่ละเรื่องควรพยายามค้นคว้าข้อมูลที่ใช้อ้างอิงในการดำเนินเรื่อง หรือสอบถามจากผู้รู้ อีกทั้งภาษาก็ควรแม่นด้วยค่ะ ถ้าไม่แน่ใจต้องเสิร์ชหาก่อน ซึ่งจะทำให้เราจำคำนั้นๆ ได้ในโอกาสต้องใช้ต่อไป และทำให้กองบรรณาธิการทำงานได้เร็วขึ้น 

แต่บุษบาพาฝันก็มีพลาดอยู่เหมือนกันค่ะ และบอกกับตัวเองเสมอว่าอย่าขี้เกียจค้นคว้า และข้อสำคัญนักเขียนควรเป็นนักอ่านมาก่อน และถ้าอยากเป็นนักเขียนก็ต้องเริ่มเขียน เขียนอะไรก็ได้ทุกๆ วันอย่างเช่นไดอะรี เป็นการฝึกการเล่าเรื่อง ลำดับความก่อนหลัง ซึ่งเคล็ดลับนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ เพราะนักเขียนทุกท่านก็อาจจะมีแนวคิดแนวปฏิบัติของตนเองแตกต่างกันออกไป 

 

บุษบาพาฝัน : บุษบาพาฝันอยากให้อ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะได้บรรยายการใช้ชีวิตในป่าไว้อย่างละเอียดพอสมควร ทั้งอาถรรพ์ป่า สัตว์ในจินตนาการ ผีสางนางไม้ การข้ามมิติเวลา ซึ่งบางเรื่องราวได้ข้อมูลจากปากผู้รู้ที่เคยเดินป่าจริงๆ อย่างที่เรียกว่านิทานข้างกองไฟ และจากนิยายที่อ่านมาประกอบการเขียน ท่านผู้อ่านจะสนุกตื่นเต้นเร้าใจในหลายฉากที่ละครไม่สามารถนำมาสร้างได้ทั้งหมด และยังรักหวานๆ ซึ่งเกิดจากความเห็นอกเห็นใจกัน ท่ามกลางอันตรายรอบด้าน คุณจะทั้งตื่นเต้นจนหัวใจแทบหยุด และเมื่อเปลี่ยนฉากอาจจะหัวเราะหรือร้องไห้ ละครเรื่องนี้จึงครบรสจริงๆ ค่ะ