จะอยู่แห่งหนไหนเมื่อได้พบกันแล้วก็ ‘มิอาจพรากขวัญ’ กับ Pinkforest

บทสัมภาษณ์

บทสัมภาษณ์นักเขียน ‘Pinkforest’ กับผลงานนิยายวายเรื่อง ‘มิอาจพรากขวัญ’

 

 

นักเขียนแนะนำตัว
       สวัสดีค่ะ เราชื่อใบเตยนะคะ เป็นเจ้าของนามปากกา Pinkforest ‘มิอาจพรากขวัญ’ ถือเป็นนิยายเรื่องแรกที่เราตัดสินใจแต่งอย่างจริงจัง ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวสำหรับผลงานถัดไปด้วยนะคะ ทางนี้ก็จะพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไป อยากมีผลงานดีๆ ออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ

แนะนำเรื่อง ‘มิอาจพรากขวัญ’
       ‘มิอาจพรากขวัญ’ เป็นนิยายแนวพีเรียด โรแมนติก-ดรามา เซตติงอยู่ในสมัยอยุธยาช่วงเสียกรุงครั้งที่ 1 การดำเนินเรื่องจะค่อยๆ ไต่ระดับความเข้มข้น คิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นเปรี้ยว หวาน หรือขม เป็นเรื่องราวของเด็กสองคนที่เคยรู้จักกันในชื่อปลอม เด็กๆ จะหนีครอบครัวออกมาเล่นด้วยกันหลังเกิดลมหวน อยู่มาวันหนึ่งก็มีเหตุให้พลัดพรากจากกัน สิบปีต่อมาทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งแต่กลับจำกันไม่ได้ ต้องมาทำความรู้จักกันใหม่ในฐานะคนแปลกหน้า ก็ต้องมาลุ้นว่าพวกเขาจะจำกันได้ไหม นอกจากเส้นเรื่องความรักก็ยังมีปมของพระเอก-นายเอกที่ต้องตามสืบตามแก้ เรียกได้ว่าอยู่ลุ้นด้วยกันไปจนถึงตอนจบเลยค่ะ

 

 

เรื่องนี้เขียนยาก-ง่ายตรงไหนอย่างไรบ้าง?
       ด้วยความที่เป็นพีเรียดย้อนไปค่อนข้างไกล ช่วงแรกเราจะมีปัญหาเรื่องการเลือกใช้ภาษาในการบรรยายและภาษาพูดของตัวละคร ขณะเดียวกันก็อยากแต่งให้นักอ่านเข้าใจง่าย พอแต่งๆ ไปก็เริ่มคุ้นชิน คิดว่าแต่งประมาณนี้น่าจะพอดีแล้ว เป็นภาษาที่ไม่ใหม่เกินไปและไม่ได้อ่านยากจนเกินไป ความยากในช่วงแรกอีกอย่างคือการจินตนาการถึงบ้านเมืองในสมัยนั้น พอได้หาข้อมูลเพิ่มเติม ได้กางแผนที่ปักหมุดบ้านของตัวละคร ภาพในหัวก็เริ่มชัดเจน ดูเป็นหลักเป็นแหล่งมากขึ้น และที่ยากอีกอย่างคือการที่เราอยากทำให้นักอ่านอินไปกับเรื่องราว โดยเฉพาะฉากดรามาเข้มข้น อยากให้นักอ่านรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้น พยายามถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครออกมาให้ได้มากที่สุด เหมือนตัวเองกำลังสวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นไปด้วย สุดท้ายก็หวังว่าทุกคนจะรู้สึกร่วมไปด้วยกันนะคะ

 

 

แนะนำพระเอก-นายเอก
       เริ่มจากพระเอกก่อน ‘หมื่นพลทัต’ เป็นลูกคนเล็กของขุนนางยศพระยา เรียกได้ว่าเป็นลูกคุณหนูคนหนึ่งเลยค่ะ เพราะเป็นลูกรักที่ถูกตามใจมาโดยตลอด เลยค่อนข้างเอาแต่ใจ กล้าได้กล้าเสีย แต่ก็มีมุมร่าเริง ชอบอ้อนพ่อแม่ จนมาเจอกับเหตุการณ์พลิกชีวิต โตขึ้นมาเลยกลายเป็นคนเย็นชา จริงจัง ไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน พอมี ‘ขวัญ’ เข้ามา ชีวิตก็เริ่มกลับมามีสีสัน รวมถึงมีความหวังที่จะได้เจอแม่ที่หายไปด้วย
       ส่วน ‘ขวัญ’ เป็นนายเอกที่เก่งเกือบทุกอย่างยกเว้นเรื่องการต่อสู้ เป็นคนใฝ่รู้มาก ชอบอ่านเขียน อยากเป็นหมอยา ที่จริงขวัญก็มีปัญหาเรื่องครอบครัวเหมือนกัน แต่เพราะตอนนั้นขวัญยังเด็กมาก ไม่ได้พบเจอเหตุการณ์สะเทือนใจโดยตรง เลยไม่ได้รู้สึกขาดเหมือนพระเอก แต่ก็ยังอยากรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ขวัญจะมีความหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ เป็นเล็กพริกขี้หนู แต่ก็เป็นคนที่ปรับตัวง่ายถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง เรียกได้ว่าเป็นเด็กหัวกะทิคนหนึ่ง หมื่นพลทัตก็เลยถูกน้องใช้โดยไม่รู้ตัว

ถ้าให้เปรียบความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นอะไรสักอย่าง จะเปรียบกับอะไร?
       เป็นต้นไม้กับน้ำฝนค่ะ ก่อนหน้านี้หมื่นพลทัตเป็นเหมือนต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาในหน้าแล้ง แต่พอมีขวัญเข้ามาต้นไม้ก็ได้รับน้ำจนกลับมามีชีวิตชีวา เช่นเดียวกับขวัญที่รู้สึกสดชื่นเมื่อได้รู้จักกับหมื่นพลทัต บางครั้งก็มีกระทบกระทั่งกันบ้าง เจ็บๆ คันๆ เหมือนฝนเม็ดเล็กที่ตกกระทบผิว ขณะเดียวกันฝนก็อาจตกหนักจนเกือบทำให้ต้นไม้ตาย แต่พวกเขาจะฝ่าฟันมรสุมนั้นไปด้วยกัน อย่างน้อยก็ยังมีกันและกันท่ามกลางฝนโปรยปราย

 

 

จะได้เรียนรู้เรื่องอะไรผ่านความสัมพันธ์ของสองคนนี้บ้าง?
       ความรักทำให้ทั้งคู่อยากเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น เหมือนหมื่นพลทัตที่ค่อนข้างเป็นคนใจร้อน อารมณ์แปรปรวน จนทำให้ขวัญไม่อยากเข้าใกล้ในช่วงแรกๆ พอรู้ว่าขวัญไม่ชอบตัวเองเพราะเรื่องนี้ หมื่นพลทัตก็ค่อยๆ ปรับปรุงนิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง ส่วนขวัญก็อยากเป็นคนเก่งกว่าเดิมเพื่อให้หมื่นพลทัตชมเชยและเห็นความสำคัญของการมีอยู่ของตน แล้วก็สอนให้รู้ว่าถ้ามีปัญหาต้องเปิดใจคุยกัน คิดก่อนจะพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจคนรัก ปัญหาบางเรื่องแก้ไขได้ถ้าพูดคุยกันดีๆ ถ้ายึดอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ ทุกอย่างก็จะยิ่งแย่ เหมือนหมื่นพลทัตที่เกือบเสียขวัญไปตลอดกาล

ฝากผลงาน
       ขอฝาก ‘มิอาจพรากขวัญ’ ไว้บนชั้นหนังสือของเพื่อนๆ ด้วยนะคะ เราตั้งใจกับเรื่องนี้ตั้งแต่วางโครง ใส่รายละเอียด ใส่บทกลอนที่คิดว่าเข้ากับเนื้อหา เข้ากับความเป็นพีเรียด อยากทำให้ออกมาดีเท่าที่นักเขียนมือใหม่อย่างเราจะทำได้ มิอาจพรากขวัญเหมือนเป็นลูกคนแรกที่เราค่อนข้างภูมิใจ ย้อนกลับมาอ่านทีไรก็น้ำตาซึมเกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะกลอนสรุปตอนท้าย พระเอก-นายเอก รวมถึงตัวนักเขียนเดินทางมาอย่างสมบุกสมบัน ในที่สุดก็จบบริบูรณ์เสียที ความเหนื่อยระหว่างทางหายเป็นปลิดทิ้งเลย หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ

 

 

ติดตามความสนุกใน มิอาจพรากขวัญ ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.com หรือดาวน์โหลดอีบุ๊กได้ที่ Application : Satapornbooks,  MebNaiin AppHytextOokbeePinto E-BookSE-ED และ comico

ร่วมรีวิวหนังสือและพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ นักอ่านได้ที่แฮชแท็ก #มิอาจพรากขวัญ

...

ผลงานนักเขียน