ขั้นตอนการทำงานของการเขียนนิยายชุดตามสไตล์ของนวตา โดยเฉพาะชุดที่มีหลายเล่มจบ เป็นอย่างไรบ้าง? “เก่อนอื่นนิยายชุดในความเห็นของนวตามันมีสองแบบค่ะ แบบแรกคือ แบบที่มีตัวละครที่เกี่ยวข้องกัน แต่เนื้อเรื่องในแต่ละเล่มในชุดจะแยกขาดออกจากกัน ไม่เกี่ยวข้องกันแบบเด็ดขาดเลย ส่วนแบบที่สองคือแบบที่มีตัวละครเชื่อมโยงกันและเนื้อเรื่องบางส่วนก็ยังยึดโยงต่อกัน ส่วนตัวแล้วนิยายชุดของนวตามีทั้งสองแบบเลยค่ะ ถ้าเป็นเซต พรหมลิขิต จะมีแนวการเขียนแบบแรก ส่วนเซต ดวงใจเพชร จะมีแนวการเขียนแบบที่สองค่ะ ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะเซต ดวงใจเพชร เนอะ
ขั้นตอนของการทำงานของนิยายชุดนี้ก็คือการวางโครงเรื่องทั้งเซตก่อน แล้วจากนั้นก็ค่อยๆ ย่อยข้อมูลไปเขียนแยกในแต่ละเล่ม ปมใหญ่ในแต่ละเล่มของชุดนี้จะแยกกันและจบในเล่ม เพราะเป็นเรื่องราวของตัวละครหลักในเล่มนั้นๆ เพียงแต่จะมีบางปมบางประเด็นที่เชื่อมต่อไปยังเล่มต่อไปในชุดค่ะ ซึ่งก็ขอแนะนำให้อ่านครบชุดจะได้อรรถรสมากกว่า”

ความยากของการเขียนนิยายชุดอยู่ตรงไหน? “คิดว่าความยากมันอยู่ตรงที่ทำยังไงเนื้อเรื่องและตัวละครในชุดถึงจะเชื่อมต่อกันแบบต่อเนื่องและไม่สะดุดค่ะ และยิ่งถ้ามีหลายเล่มจบแล้ว ทั้งประเด็นต่างๆ และตัวละครที่ต้องยึดโยงเข้าด้วยกันก็จะมีมากตาม ทำให้เราพลาดข้อมูลอะไรไปไม่ได้เลย ต้องระวังมากๆ ทั้งคาแรกเตอร์ตัวละคร ปูมหลัง และเนื้อหา เพราะถ้าทำอะไรพลาดไปหนึ่งอย่าง ส่วนที่เหลือมันจะล้มเป็นโดมิโนเลย เพราะมันเชื่อมต่อกันหมด จึงจำเป็นต้องจดโน้ตกันลืมข้อมูลสำคัญด้วยค่ะ และต้องมีการทบทวนข้อมูลตลอดด้วย โดยเฉพาะถ้าเว้นช่วงการเขียนนานๆ (ฮา)”

การเว้นช่วงไปนานๆ หรือสลับไปเขียนเรื่องอื่น มีผลกับการกลับมาเขียนเรื่องต่อไปบ้างไหม ถ้ามีคุณมีวิธีจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร? “มีผลบ้างเหมือนกันนะคะ คือต้องใช้เวลาปรับอารมณ์ในการเขียนอยู่เหมือนกัน เวลาเปลี่ยนแนวหรือสลับแนวเขียน คือส่วนตัวแล้วแม้ว่าตนเองจะเขียนได้หลายแนวก็จริง แต่ถ้าเขียนเรื่องหนึ่งจบแล้วจะยังเขียนเรื่องใหม่ต่อทันทีไม่ได้ค่ะ ต้องเว้นช่วงสักระยะ ไปทำอย่างอื่นก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะติดฟีลในโทนเรื่องที่เพิ่งจบไป เช่น ถ้าเขียนคอเมดีจบมันก็จะติดฟีลคอเมดี้ เขียนแอกชันจบก็จะติดฟีลแอกชัน เรียกว่ายังมูฟออนไม่ได้ ฮี่ๆๆ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร พักสักนิดก็ไปต่อได้ค่ะ”

พูดถึงบุคลิกพูดน้อยของพชพัชร และความช่างมโนของมุกอันดา ทำไมถึงจับสองคนนี้มาคู่กัน? “จริงๆ แล้วพี่พชของเราพูดน้อยก็จริง แต่อ้าปากพูดเมื่อไร สาวๆ มีร้องไห้นะเออ เพราะพี่แกไม่ได้คมแต่ฝีมือ แต่ฝีปากก็คมกริบกว่าใคร (หัวเราะ) เอาจริงๆ คิดว่ามันสนุกดีค่ะ ถ้านำคาแรกเตอร์ต่างกันสุดขั้วมาอยู่ด้วยกัน มาเฟียโหดที่ไม่ค่อยพูด และต่อให้พูดสาวๆ ก็พากันวิ่งหนี ด้วยความเป็นพี่ชายคนโตเขาเลยเป็นคนที่รักกฎเกณฑ์ ชอบบงการ พอถึงเวลาต้องต้องมาเจอกับสาวน้อยรักอิสระเสรี ช่างจ้อ ช่างมโน แต่ไหวพริบดี และไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติง่ายๆ มันจึงเป็นความต่างที่ลงตัวไปอีกแบบดีนะ”

ความยากง่ายของการเขียนนิยายเรื่องนี้อยู่ตรงไหน? “ความยากง่ายของเล่มนี้ก็จะคล้ายๆ กับอีกสองเล่มในเซตที่ออกมาก่อนหน้านี้ค่ะ อาจจะง่ายตรงที่เราเคยเขียนงานเซตนี้มาแล้ว ตัวละครหลักๆ ก็จะมีคาแรกเตอร์ของเขาอยู่แล้ว เราไม่ได้คิดขึ้นใหม่ แต่ก็ยากตรงที่ต้องหาจุดสมดุลระหว่างความเข้มข้นของเรื่องกับการสอดแทรกคอเมดีเข้าไปในบางฉาก เพราะเล่มนี้จะเป็นเล่มแรกที่ตั้งใจเบลนด์สีโทนเรื่องให้ทะมึนน้อยลง เพราะอยากให้เสพกันง่ายขึ้นหน่อยค่ะ”

ใครจะได้เป็นหัวหน้าแก๊งฟอลโค่คนต่อไป? “อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าลูกของหมาป่าร้อยเขี้ยวคนไหนที่จะแสดงความสามารถได้เข้าตาพ่อที่สุดอะเนอะ บอกเลยว่างานนี้สู้กันยิบตาไม่มีใครยอมใคร (หัวเราะ) ต้องไปติดตามในเล่มกันค่ะ เมื่อจบเซตจะรู้ว่านายท่านคนใหม่คือใคร”

ตอนนี้นิยายที่เขียนค้างอยู่คือเรื่องอะไร และจะมีกำหนดให้ได้อ่านกันเมื่อไร? “ตอนนี้ที่ค้างอยู่ก็จะเป็นเซต ‘ดวงใจเพชร’ เหลืออีก 3 เล่ม และเซต ‘พรหมลิขิต’ เหลืออีก 2 เล่มค่ะ เล่มต่อไปที่จะเขียนคือ ‘พรนำพา’ ซึ่งเป็นเล่มสอง ในเซต ‘พรหมลิขิต’ ค่ะ เป็นแนวโรแมนติกคอเมดี พารานอมอลนิดๆ ถ้าไม่มีอะไรติดขัดก็น่าจะช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าคงได้อ่านกัน”

นักเขียนฝากผลงาน “นวตาก็ขอฝากผลงานเรื่องใหม่ล่าสุด มุกลายเพชร ด้วยนะคะ เป็นเล่มที่สามในเซตดวงใจเพชรแล้ว หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนักอ่านทุกท่าน เพราะนวตาเองก็ตั้งใจมากๆ เช่นเคย ฝากเอ็นดูพี่พชกับหนูมุกมากๆ ด้วยนะค้า”

ติดตามความสนุกใน มุกลายเพชร ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.comร่วมรีวิวหนังสือ และพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ นักอ่าน ได้ที่ แฮชแท็ก #มุกลายเพชร