นาทีนี้นวนิยายที่นักอ่านพูดถึงมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีเรื่อง ‘วิวาห์ในม่านรัก’ นวนิยายรักหวานซึ้ง สนุกสนานครบรส และชวนตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น อีกทั้งยังได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์ด้วยการเข้าชมมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง น่าสนใจใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นเราไปรู้จักกับ ‘ฉัตรเกล้า’ เจ้าของผลงานเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ
แนะนำตัวคร่าวๆ และเล่าถึงเส้นทางนักเขียน
ฉัตรเกล้า : สวัสดีค่ะ อีฟ ฉัตรเกล้าค่ะ ^ ^
มาเป็นนักเขียนได้อย่างไร? อืม...คงจะเหมือนกับนักเขียนส่วนใหญ่ ที่เริ่มต้นจากการอ่านค่ะ โดยเฉพาะนิยาย และการ์ตูน คืออีฟอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ อ่านมาเรื่อยๆ มีทั้งยืมจากห้องสมุดโรงเรียนบ้าง ห้องสมุดประชนชนบ้าง เช่าจากร้านหนังสือบ้าง คือเราไม่ได้อ่านหนังสือจริงจังอะไรแบบนั้นนะคะ อ่านคลายเครียด อ่านตามใจตัวเอง เรียกง่ายๆ ว่าสะเปะสะปะมาก มารู้ตัวอีกทีกิจกรรมนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว เหมือนเสพติดการอ่าน (หัวเราะ) นอกจากนี้ก็ยังชอบดูรายการโทรทัศน์ ละคร ซีรีส์เกาหลี การ์ตูนอนิเมชั่นของญี่ปุ่น และฟังเพลง
ต้องบอกก่อนว่าอีฟมีนิสัยอย่างหนึ่งคือเป็นนางห้องน่ะค่ะ ไม่ค่อยออกไปไหน และชอบทำอะไรซ้ำๆ เป็นรูทีน ดังนั้นกิจกรรมเหล่านี้มันคือประตูที่เปิดออกไปสู่โลกกว้างของอีฟ และแน่นอนมันทำให้เราได้ฝึกคิด วิเคราะห์ สร้างแรงบันดาลใจ และจินตนาการต่อยอดโดยไม่รู้ตัว
พอมาถึงจุดหนึ่ง เราก็เริ่มมีความคิดที่จะเขียนออกมาบ้าง ซึ่งในตอนนั้นการเขียนแล้วโพสต์นิยายให้อ่านในอินเตอร์เนตเป็นที่นิยมมากค่ะ ถือเป็นเวทีที่สำคัญมากๆ ในการโชว์ผลงานให้ผู้อ่าน และสำนักพิมพ์ได้รู้จักเรา (ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่เนอะ) แต่เอาจริงๆ นะคะ ตอนนั้นอีฟยังไม่ได้คิดข้ามขึ้นไปขนาดนั้น คิดง่ายๆ แบบเด็กๆ แค่ว่าอยากจะลองเขียน และแชร์เรื่องราวเหล่านี้ออกไป เพื่อที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยน และเรียนรู้การเขียนจากคนอ่าน ซึ่งหลายๆ ท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นนักเขียน และเป็นผู้อ่านที่อ่านงานมามากกว่าเรา ที่สำคัญคือเราไม่ต้องเสียเงินหรืออะไรเลยก็สามารถแสดงผลงานได้ แถมได้เพื่อนด้วย
แรกๆ ผลงานก็ออกมาแบบเด็กๆ มึนๆ ไม่มีหลักหรือทิศทางใดๆ เลยล่ะค่ะ แต่เพราะการที่เราได้เรียนรู้จากคนอ่าน หรือนักเขียนที่ได้มีโอกาสทำความรู้จักสนิทสนมนั่นเอง จึงทำให้เราค่อยๆ พัฒนา จนสุดท้ายก็พอจะเป็นที่รู้จักบ้าง และมีโอกาสได้ตีพิมพ์ผลงานกับสำนักพิมพ์
ซึ่งสำหรับอีฟนี่ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น อีฟยังคงต้องเรียนรู้ และพัฒนาตนเองต่อไปจึงขอฝากความหวังไว้ตรงนี้ว่า หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสอ่านงานของอีฟ สามารถติติง หรือแนะนำได้เลยนะคะ เพื่อที่อีฟจะได้พิจารณา และนำมาพัฒนาผลงานของตัวเองให้ดีขึ้นต่อไปค่ะ (ยิ้ม)
เล่าเรื่อง วิวาห์ในม่านรัก
ฉัตรเกล้า : นวนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของ อินทุอร สาวน้อยอายุ 19 ที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน ตามใจ และเป็นที่รัก แต่จู่ๆ ก็ถูกครอบครัวจับมาแต่งงานกับหม่อมราชวงศ์หนุ่มซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณอาต่างสายเลือด โดยทางบ้านไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไมจึงบังคับ และให้เธอมาแต่งงานกับเขา
แต่หม่อมราชวงศ์ปราบดา ซึ่งเป็นพระเอกของเรารู้ทุกอย่างเลยค่ะ คือมันมีปัญหาอยู่หลายๆ เรื่องทั้งทางฝั่งเขาและอินทุอร เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอมแต่งงานกับเธอ แม้ว่าจะรู้สึกต่อต้านอยู่ลึกๆ ก็ตาม
เหตุผลสำคัญอีกหนึ่งข้อก็คือ เขาเคยให้สัญญากับผู้เป็นย่าเอาไว้ ดังนั้นเมื่อนี่คือคำสั่งของท่าน เขาจึงต้องทำตามโดยไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆ
ซึ่งด้วยความที่ปราบดาพระเอกของเราเขาเป็นคนเก่ง และแบกรับภาระหน้าที่หัวหน้าครอบครัว (ราชสกุล) มานาน เขาจึงคิดในแง่บวกว่าการแต่งงานกับอินทุอรก็ถือเป็นหน้าที่หนึ่งที่เขาจะต้องทำเหมือนกัน ถึงลึกๆ แล้วจะรู้ว่าอินทุอรไม่ใช่เด็กที่จะยอมอยู่ในกรอบง่ายๆ และต่อไปชีวิตของเขาก็อาจจะยากขึ้น แต่เขาก็ตั้งใจจะทำทุกอย่างให้ดี ตามหน้าที่สามีในนามและผู้ปกครองของอินทุอร เพื่อที่วันหนึ่งหากเธอเรียนจบแล้ว และโตพอจะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองได้ ก็จะสามารถเป็นอิสระ โดยที่เขาเองก็ไม่ต้องทำผิดสัญญากับใคร ได้ปกป้องครอบครัวของตัวเอง และอินทุอรด้วย
หาก...สิ่งที่ปราบดาประมาทเกินไปหน่อยก็คือความรู้สึกที่มีให้กับเด็กสาวกะโปโลอย่างอินทุอร (เพราะนางเอกของเราก็น่ารักไม่ใช่เล่นๆ นะคะ)
สุดท้ายก็ต้องมาลุ้นกันแล้วล่ะค่ะ ว่าหม่อมราชวงศ์ปราบดาจะสะสางปัญหาต่างๆ และจะประคับประครองชีวิตคู่ของตัวเองกับเด็กสาวอายุไม่ถึง 20 ปีคนนี้อย่างไรให้ตลอดรอดฝั่ง แล้วสิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้แต่แรกเริ่มนั้น จะถูกทำลายลงรึเปล่า...ก็คงต้องมาติดตามกันในเล่มนะคะ (ยิ้ม)
แรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้
ฉัตรเกล้า : จะหัวเราะไหมนะ ถ้าจะบอกว่านวนิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงเพลงหนึ่งค่ะ (หัวเราะ) คือพอฟังเพลงนี้ ตัวละคร และโทนเรื่องก็วืบขึ้นมาในหัวเลย เพลงนั้นคือเพลง..
พรหมลิขิต เวอร์ชั่นที่ขับร้องโดย ที Jetset'er ประกอบละครเรื่อง
วนิดา
พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนี้อยู่กันแสนไกลพรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ
เออชะรอยเธอเป็นเนื้อคู่ ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ
แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอใจนึกเชื่อเมื่อแรกเจอ ฉันและเธอคือคู่สร้างมา
พอภาพตัวละครขึ้นมาในหัวปุ๊บ อีฟก็มีความตั้งใจเลยว่าจะเขียนนวนิยายเรื่องนี้ให้ออกมามีกลิ่นอายเหมือนกับเพลงๆ นี้ คือ ดูสดใส สวยงาม หวานซึ้ง โรแมนติก และไม่เครียด โดยใช้เมนหลักคือพรหมลิขิตที่ขีดชะตาให้คนสองคนที่ไม่น่าจะรักกันได้ และไม่น่าจะแต่งงานกันได้ มาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน
หลังจากนั้น...เรื่องราววิวาห์ในม่านรักจึงได้เริ่มเปิดฉากขึ้นค่ะ
จุดเด่นของเรื่องนี้
ฉัตรเกล้า : แมวค่ะ (หัวเราะ) เชื่อว่าใครที่อ่านเรื่องนี้จะต้องรู้จักเจ้าแมวตัวนี้กันทุกคน เพราะมันคอยแต่จะแย่งซีนนางเอกหรือไม่ก็พระเอกอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่แทบไม่มีบทอื่นนอกจาก กิน นอน และมองค้อนด้วยความรำคาญ (หัวเราะ) จนทำให้ท่านผู้อ่านในเพจฉัตรเกล้าต่างก็ยกตำแหน่ง พระเอก ให้มันแทนหม่อมราชวงศ์ปราบดา (หัวเราะ)
แต่ถ้าเอาแบบเข้าเรื่องจริงๆ นะคะ จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป คนอ่านจะเห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตไปพร้อมๆ กับตัวละครค่ะ ซึ่งคนที่ฟังอาจจะสงสัยว่า เอ...ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป งั้นก็อาจจะน่าเบื่อน่ะสิ บอกเลยว่าไม่ใช่ค่ะ เรื่องราวของตัวละครเอกค่อยๆ พัฒนาก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้เขาค่อยๆ พัฒนาและเติบโตนั้น คือเรื่องราวที่พบเจอตลอดเรื่อง ไหนจะยังมีเส้นเรื่องของตัวละครอื่นๆ ที่อยู่รายล้อม ซึ่งจัดจ้านและมีสีสันมากเลยล่ะค่ะ
เรียกง่ายๆ ว่านวนิยายเรื่องนี้มีเรื่องราวให้ได้ลุ้น และเซอร์ไพรส์กันตลอดๆ รับรองว่าอ่านแล้ว นอกจากจะไม่เบื่อ ยังวางไม่ลงอีกด้วยนะคะ (ยิ้ม)
นักอ่านออนไลน์ชอบอะไรในนวนิยายของเรา
ฉัตรเกล้า : โห คำถามนี้ยาก (หัวเราะ) เพราะจริงๆ ถ้าอีฟตอบก็อาจจะเหมือนตอบแทนคนอ่าน เอาเป็นว่าเรามองในมุมเรานะคะว่าทำไมถึงมีคนติดตาม ก็เพราะนวนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวหวานๆ สบายๆ ยิ้มตามไปกับความน่ารักของพระนางรวมถึงเจ้าแมวอ้วน แต่ก็มีเรื่องชวนลุ้น ทำให้คนที่เข้ามาอ่าน อยากจะติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ตกหลุมรักหม่อมราชวงศ์ปราบดา อินทุอร และเจ้าแมวชายน้อยโดยไม่รู้ตัว (ยิ้ม)
ดังนั้นคนที่ยังไม่เคยอ่านต้องลองนะคะ บอกเลยว่าลองแล้วจะติดใจ (ยิ้ม)
คำถามสุดท้ายแล้ว หาก ฉัตรเกล้า ถูกบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 19 จะทำอย่างไร
ฉัตรเกล้า : หูย... คำถามนี้ทำเอาสตั๊นท์ไป 10 วิ (หัวเราะ)
ถ้าอีฟถูกบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 19 ปีงั้นเหรอ? อืม...อีฟว่าอีฟคงจะก่อเรื่องหนักยิ่งกว่าอินทุอรนางเอกเรื่อง วิวาห์ในม่านรัก แน่นอนค่ะ (หัวเราะ) คือตอนนั้นคงกำลังเรียนมหา’ลัย ดังนั้นไม่มีทางเลย ไม่มีทางที่อีฟจะยอมแต่งงานง่ายๆ คือจะพูดยังไงดี...มันเหมือนเป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจะก้าวไปเป็นผู้ใหญ่ และกำลังจะได้มีความคิดเป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์ แต่จู่ๆ ก็มาถูกจับแต่งงานทั้งๆ ที่ยังใช้ชีวิตไม่เต็มที่ อีฟว่าอีฟคงคัดค้านก่อนเป็นอันดับแรกเลยล่ะค่ะ
แต่...แต่นะคะ ถ้าเรื่องราวเหล่านั้นมันมีเหตุผลที่มากพอจนไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ (ซึ่งอีฟต้องรู้ และเข้าใจเรื่องทั้งหมดเลยนะ) สิ่งที่อีฟเลือกก็อาจจะเป็นในทางตรงกันข้ามค่ะ ยังไงก็คงดูเจตนา เหตุผล สถานการณ์ รวมถึงคนที่เราจะแต่งงานด้วย จึงจะบอกได้ว่าสุดท้ายอีฟจะทำหรือให้คำตอบยังไงกับเหตุการณ์นั้น (ยิ้ม)
พูดคุยกับ ฉัตรเกล้า จบแล้ว อย่าลืมไปเพิ่มความสุขให้หัวใจกับนวนิยายอบอุ่น ละมุนและหอมหวานกันได้ใน วิวาห์ในม่านรัก นะคะ
