“ข้าพเจ้าจะมีความสุขกับการเขียน ไม่ว่าอะไรจะมากระทบก็ตาม” คือโจทย์ที่ minikikaboo ตั้งให้ตัวเองเมื่อลงมือเขียน Roxenia (โรเซเนีย) นิยายแฟนตาซีที่บอกเล่าถึงคำสาป การผจญภัย มิตรภาพ และมังกร จนวันนี้งานเขียนที่เธอไม่ได้คาดหวังอะไร โรเซเนียก็กลายเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งในชีวิตเธอ และยังเป็นเครื่องมือสร้างความสุขให้เหล่านักอ่านจนเรื่องนี้ทะยานติดอันดับฮอตฮิต และยังทำให้เธอเป็นนักเขียนดาวรุ่งคนหนึ่งบนเว็บไซต์ Dek-D อีกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปพูดคุยกับ minikikaboo กันเลยดีกว่า
ทำไมถึงเลือกที่จะเขียน
สิ่งที่ทำให้อยากลองเขียน ก็มีสาเหตุคล้ายกับนักเขียนรุ่นพี่หลายท่าน คือมีนักเขียนในดวงใจและมีผลงานที่ชื่นชอบมาก หนูมีโอกาสได้อ่านนิยายแฟนตาซี แล้วเกิดความประทับใจการใช้ภาษา เกิดความชื่นชอบใน ‘โลกใหม่’ ที่ผู้เขียนทั้งหลายสร้าง ตัวหนูเองส่วนใหญ่อ่านแต่การ์ตูน ไม่ค่อยได้อ่านนิยายที่มีแต่ตัวหนังสือเป็นพืด กลับอ่านนิยายแฟนตาซีได้โดยไม่มีเบื่อ ทำให้หนูอยากลองเขียนดูบ้างค่ะ เพื่อหาคำตอบแก่ตัวเองว่า “ฉันจะทำแบบนั้นได้บ้างไหมนะ เอ้า ลองดูสักตั้ง”
การเขียนสนุกอย่างไร
การเขียนนั้นมีเสน่ห์อยู่ตรงที่ ‘การให้กำเนิด’ ตัวละครที่หนูให้กำเนิดนั้นมีนิสัยเฉพาะของตัวเอง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องรับกับนิสัยของตัวละครชนิดนั้นด้วย พวกเขาไม่ได้มีแบบแผนจนเกินไป แต่จะเป็นไปธรรมชาติของนิสัย เมื่อเขียนถึงการกระทำของเขา หนูจะนึกถึงนิสัยของตัวละครเป็นหลัก ซึ่งบางทีนิสัยเสียของเขาก็จะชักพาให้ทุกคนได้พบอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ หนูจะมีความสุขทุกครั้งที่คนอ่านมีอารมณ์ร่วมกับนิยายที่หนูแต่ง
เส้นทางนักเขียนของ minikikaboo
เริ่มจากชอบอ่านการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ จากนั้นก็ขยับมาอ่านนิยายแฟนตาซี รู้สึกชื่นชอบสำนวนการเขียนของนักเขียนหลายท่าน และประทับใจกับสาระสำคัญที่นักเขียนแต่ละท่านสอดแทรกไว้ในเรื่องอย่างแนบเนียน สิ่งเหล่านี้จุดประกายให้อยากจะลองเขียนและเผยแพร่ในเว็บดูบ้าง เมื่อก่อนหนูก็เคยแต่งนิยายให้เหล่าคนรู้จักอ่านค่ะ แต่เพราะขี้อายเลยไม่กล้าเอาลงเว็บ ทีแรก หนูไม่กล้าเขียนด้วยซ้ำ หากไม่โดนกระทุ้งด้วยประโยคที่ว่า “อยากเขียนก็ทำไมไม่ลองเขียนเล่า ปากกาก็อยู่ในมือ” หนูคงไม่ลองเขียนนิยายสักเรื่อง ‘โรเซเนีย’ นั้นเป็นเรื่องแรกที่ลองเอาลงเว็บเด็กดี ความจริงหนูไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก นอกจากจะพาโรเซเนียไปจนจบ แต่การได้รับโอกาสจากสำนักพิมพ์นี้ หนูต้องขอขอบคุณทางสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์มากค่ะ
การเขียนให้อะไรบ้าง
การเขียนคือความสุขของหนูค่ะ อาจจะมากกว่าการอ่านด้วยซ้ำ เพราะว่าหนูสามารถตั้งค่าโลกที่ตัวเองเขียนได้ ความสุขคือประโยชน์อย่างแรกที่หนูได้รับมาตั้งแต่ตัวอักษรแรกที่ได้พิมพ์ลงไป และสิ่งที่ตามมาก็คือมิตรภาพจากผู้อ่าน ซึ่งไม่อาจจะประเมินค่าได้ หนูเชื่อว่านักเขียนทุกท่านได้ประโยชน์มากมายจากงานเขียนของตนเอง แต่หนูไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูด หรือแจกแจงได้หมด ถ้าหากให้เปรียบก็คือ ประโยชน์บางอย่างหนูรู้ว่ามีตัวตน แต่ไม่อาจจะอธิบายลักษณะของมันได้ ทุกวันนี้จึงรู้สึกขอบคุณมากๆ ค่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเป็นนักเขียน
ในความคิดของหนู นักเขียนก็เหมือนพ่อแม่ งานเขียนคือลูกของหนูเอง ตัวหนูจะต้องประคบประหงม เติมสรรปั้นแต่งให้ลูกออกมาดูดีที่สุด และไม่มีทางปฏิเสธลูกของตัวเองโดยเด็ดขาด ใครคนอื่นอาจจะมองว่างานของเราไม่มีคุณค่า แต่เจ้าของผลงานจะมองเช่นนั้นไม่ได้ พวกเขาคือลูกของเรา เราต้องรักเขา และพาให้เขาไปถึงฝั่งฝันคือตอนจบของเรื่อง
โรเซเนีย ของ minikikaboo
โรเซเนียเป็นเด็กดื้อค่ะ (หัวเราะ) แต่เดิมเธอเป็นผู้ชายที่ชื่อโรเลนโซ่ แล้วถูกสาปให้เป็นผู้หญิง เธอเลยอยากจะกลับไปเป็นผู้ชาย และเพราะความอยากกลับไปเป็นผู้ชายเนี่ยแหละ เธอเลยเอาตัวไปพัวพันหลายอย่าง ทั้งองค์ชาย เทพ มังกร มาร ปีศาจ ตำนาน และสงครามด้วย และเพราะโรเซเนียของหนูได้พบเจออะไรหลายอย่าง ด้วยตัวตนที่เปิดรับทุกสิ่ง ไม่มีอคติ เป็นดั่งคำพูดที่ว่า ‘สิ่งที่ทำให้คนเราเติบโตไม่ใช่อายุ แต่เป็นประสบการณ์’ ดังนั้นเธอจึงมองเห็นมุมมองหลายอย่าง ที่คนอื่นอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ เข้าตำรา ‘สิ่งที่เรารู้ อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เรารู้ สิ่งที่เราเห็น มันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น ดังนั้นจงอย่าได้ตัดสินอะไรง่ายๆ เพราะเรื่องทุกอย่างย่อมมีมากกว่าหนึ่งมุมมองเสมอ’
แรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้
แรงบันดาลใจนั้นหาได้รอบตัวค่ะ อาจจะเป็นความชอบ เช่นตัวหนูค่อนข้างดูการ์ตูน อ่านหลายเรื่อง และได้รับอิทธิพลมามากพอสมควร เป็นคนติดการ์ตูนมากขนาดว่า มีหนังสือการ์ตูนล้นตู้ จนต้องหาลังมาเก็บใส่แทน เพราะตู้หนังสือมีพื้นที่ไม่พอค่ะ
จุดเริ่มต้นในการแต่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวในการ์ตูนเรื่องที่ชอบ ไม่ได้เป็นไปในแบบที่ตนหวังก็ได้ ถึงได้คิดเรื่องราวของโรเซเนียขึ้นมา คิดโลกของตัวเองขึ้นมา และให้มันเป็นไปในแบบที่หนูต้องการ สะท้อนมุมมองที่หนูอยากจะบอกแก่ทุกคน
ใช้เวลาเขียนนานไหม
จำไม่ได้แล้วค่ะ เพราะมีช่วงหนึ่งที่เคยหยุดเขียนไปนานมาก แต่รวมเวลาเขียนจริงๆ ไม่ถึงสามปี เพราะหนูสนุกกับการเขียน มีเนื้อหาอยู่ในหัว เลยไปไวจนแม้แต่ตัวเองยังตกใจเลย
เคยคิดไหมว่าผลงานของเราจะได้ตีพิมพ์เป็นเล่ม
ไม่เคยคิดค่ะ เพราะตั้งแต่แรกเริ่มเขียนแล้วบอกกับตัวเองว่า แค่มีความสุขกับการเขียนก็พอ อย่างอื่นอย่าเพิ่งไปสนใจมัน ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ได้รับมานอกเหนือจากนั้นคือกำไรของชีวิตแล้ว หากคิดว่าจะต้องได้ตีพิมพ์ โรเซเนีย คงไม่ออกมาเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น เพราะหนูคงตีกรอบตัวเองน่าดู และคงไม่มีความสุขกับการเขียนขนาดนี้หรอก หนูมีความคิดว่าคนที่ชอบวาดรูป ทำไมต้องคิดว่าสักวันตัวเองจะได้แต่งตั้งเป็นศิลปินล่ะ ของพวกนี้คืองานศิลปะ งานอดิเรกที่ต้องใช้ความสุขในการสรรค์สร้าง มากกว่าความคาดหวัง ดังนั้นหนูจึงไม่คาดหวังอะไรกับงานเขียนของตัวเอง แค่ทำมันให้ดีที่สุดก็พอ
เคยกลัวไหมที่จะเขียนไม่จบ
ไม่เคยกลัวว่าจะเขียนไม่จบค่ะ เพราะอย่างที่บอก นักเขียนในความคิดของหนูต้องเป็นเหมือนพ่อแม่ เข็นลูกไปให้ถึงฝั่ง จะเขียนช้า เขียนเร็ว ยังไงก็ต้องเขียนให้จบ เพื่อรับผิดชอบต่อตัวละคร รับผิดชอบต่อตัวเอง และรับผิดชอบต่อผู้อ่านด้วย
เมื่อจบแล้วรู้สึกอย่างไร
ตอนที่โรเซเนียถึงบรรทัดสุดท้าย รู้สึกอาวรณ์มากค่ะ (หัวเราะ) ก็เพราะหนูคิดว่าตัวเองเป็นพ่อแม่นั่นแหละ จึงเกิดคำถามประมาณว่า ลูกฉันโตป่านนี้แล้วเหรอ เธอยังเด็กอยู่เลย ต้องไปมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้วเหรอ ขอออกตัวก่อนว่าหนูยังไม่มีครอบครัวนะ แต่มีอารมณ์ร่วมมากไปเท่านั้นเอง (หัวเราะ) เชื่อว่าทุกคนที่รักโรเซเนีย ก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน และในขณะเดียวกันก็รู้สึกปลาบปลื้ม ว่า...อา ในที่สุดก็ได้เขียนฉากจบแล้ว
อุปสรรคระหว่างเขียน
การงานในชีวิตจริงคืออุปสรรคอย่างใหญ่หลวงค่ะ สิ่งอื่นนอกจากงานไม่ค่อยมีผลกระทบกับตัวหนูค่ะ อาจจะมีบ่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้สึกอะไร ส่วนการแก้ปัญหา หากงานยุ่งก็ให้เวลากับงานมากหน่อย ให้เวลากับการเขียนน้อยลง และอธิบายให้นักอ่านเข้าใจว่าขอตัวไปทำงานก่อน แต่ยังไงก็จะกลับมาเขียนต่อให้จบแน่ๆ และเราก็โชคดีที่มีนักอ่านที่น่ารักและเข้าใจค่ะ
เคยท้อบ้างไหม
นักเขียนทุกคนย่อมมีความท้อเป็นของตัวเอง (หัวเราะ) การปลุกกำลังใจตัวเองนั้น ตัวหนูใช้วิธีการคิดถึงวันแรกที่เริ่มเขียน เพราะว่าหนูอยากเขียนไม่ใช่เหรอถึงได้เริ่มเขียน หนูแค่อยากเขียนเรื่องของเด็กคนหนึ่ง ให้เขาได้เจออะไรหลายอย่างที่มีอยู่ในหัวของเรา รังแกเขาให้สะใจ พาเขาไปถึงตอนจบที่สวยงาม อย่างอื่นไม่ต้องสนมันหรอก นี่เป็นวิธีที่ค่อนข้างเผด็จการ แต่ได้ผลนะคะ และวิธีที่สอง คือนึกถึงฉากที่อยากเขียนมากๆ แต่ยังไม่ทันได้เขียน คุณจะมีแรงเดินหน้าต่อเอง มีฉากจบเป็นเป้าหมาย และเขียนไปเรื่อยๆ ไม่ช้า กำลังใจก็กลับมาเองค่ะ
เป้าหมายต่อไปบนเส้นทางนักเขียน
ความสนุกสนานในการเขียนนิยายเรื่องที่สอง พัฒนาการเขียนของตัวเอง ยังมีจินตนาการอีกมากมายที่อยากจะแสดงให้ผู้อ่านเห็น ตราบใดที่จินตนาการยังไม่มีคำว่าสิ้นสุด หนูก็อยากจะเขียนผลงานออกมาให้คนได้เห็นกันเรื่อยๆ และตราบใดที่ปากกายังอยู่ในมือ ก็จะเขียนต่อไปเพราะมันเป็นความสุขของหนูค่ะ
ผลงานเรื่องต่อไป
ผลงานใหม่มีชื่อว่า ‘เรเชล’ เขาเป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในโลกเดียวกับโรเซเนีย แต่อยู่คนละทวีปกัน แม่อยากให้เขาแก้แค้น แต่เพราะไม่ชอบเลือด ไม่ชอบฆ่า เรเชลเลยไปเรียนเป็นจอมยาซะงั้น อุปสรรคมากมายที่เหลือ เชิญไปตามอ่านกันในเว็บเด็กดีนะคะ ขอถือโอกาสนี้โปรโมตนิดนึง (หัวเราะ)
ฝากถึงนักอ่าน
สิ่งที่อยากฝากถึงนักอ่าน ก็คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าคำขอบคุณ แม้ว่าคุณจะอ่านงานของหนูแค่หนึ่งตัวอักษรก็ตาม สิ่งที่หนูได้รับมาจากผู้อ่านไม่เป็นแค่เพียงกำลังใจค่ะ แต่เป็นสิ่งที่มีค่ามากจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูด ไม่มีคำสวยงามใดที่สามารถบรรยายมันได้ แต่สิ่งที่หนูทำให้พวกเขาได้ ก็มีเพียงแค่การทุ่มเทกับงานเขียนของตัวเองให้มากขึ้น และหวังว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
----------
ติดต่อสอบถามและสั่งซื้อหนังสือ
Add Auto : line.me/ti/p/~@satapornbooks
ติดตาม Satapornbooks ได้ที่นี่
♥ Website : http://www.satapornbooks.com
♥ Instagram : Satapornbooks
♥ Facebook : https://www.facebook.com/Satapornbooksfan/
♥ Youtube : https://www.youtube.com/user/satapornbooks