‘ดรรชนีชี้ตาย’ นิยายแอบรักข้างเดียวแนวผสมผสานแปลกใหม่ โดย อสิตา

บทสัมภาษณ์

บทสัมภาษณ์นักเขียน ‘อสิตา’ กับผลงานนิยายรักเรื่อง ‘ดรรชนีชี้ตาย’

 

 

แนะนำเรื่อง ‘ดรรชนีชี้ตาย’
       เริ่มจากรักข้างเดียว...เพื่อนแอบรักเพื่อน เพราะนางเอกต้องปลอมตัวเป็นชายเข้าร่วมทัพ (ใช้อะไรที่คล้ายๆ มนตร์บังตา) พ่วงด้วยอีกประเด็นรัก คือแม่ทัพใหญ่จากพม่ามาหลงรักทหารเอกของกรุงศรีอยุธยา นอกจากเป็นรักข้ามฝั่ง...จะเรียกว่าข้ามเผ่าพันธุ์ด้วยก็ได้ค่ะ ฝั่งพม่าเป็นยักษ์ ฝั่งไทยเป็นวานรสมุนพระราม หน้าตาเหมือนมนุษย์แต่ก็จะมีความสามารถที่ต่างออกไป ไม่ใช่พีเรียดย้อนยุค และไม่ใช่วรรณคดีประยุกต์เสียทีเดียว เขียนออกมาเป็นแนวผสมผสานให้แปลกใหม่ และเพราะแต่ละคนไปรักคนที่ไม่สามารถรักได้ ปมในอดีตเลยไม่ลงตัว แถมยังฆ่ากันตายด้วยความเข้าใจผิด (ไม่บอกว่าใครฆ่าใคร) เลยต้องรอเวลาเพื่อมาแก้ไขอะไรต่างๆ ให้ถูกต้อง ย้ายมารบตัดสินกันต่อในกรุงเทพฯ แต่ไม่รู้นะคะว่าคู่ไหนจะได้สมหวัง คู่เพื่อนรักเพื่อน หรือฝ่ายที่ต้องเอาชนะใจศัตรูจะทำคะแนนตีตื้น

อะไรคือจุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้?
       ส่งเรื่องประกวด ‘โครงการ ช่องวัน-อ่านเอา’ พี่ๆ วงการหนังสือกับวงการทีวีเฟ้นหานิยายที่จะเอาไปสร้างเป็นละครค่ะ เลือกเรื่องที่ตัวเองมีไฟกับมัน เขียนได้เข้ามือ ไปๆ มาๆ เพลินนะคะ ออกมาอลังการเชียว พอไฟเริ่มติดจะปลดปล่อยแบบไม่มีกั๊ก ชอบรามเกียรติ์แต่เด็ก แทบไม่ต้องเปิดโพย แล้วคือไม่ได้คิดมาก...ว่าทุนสร้างจะบานปลายขนาดไหน ต้องตามใจตัวละครไว้ก่อน เพราะพวกเขามีชีวิตขึ้นมาแล้ว เราต้องรับผิดชอบเขา เอาส่วนที่เป็นงานเขียนให้รอด ให้ดี อย่าไปกลัวว่าอย่างอื่นจะได้ไม่สุด ถ้าได้เป็นละครทีหลังค่อยถือเป็นโบนัส เราไปให้สุดทางของเรา เพื่อตัวเองและเพื่อคนอ่าน เพราะชีวิตคนไม่ได้อยู่นาน ขอเลือกทำสิ่งที่จะไม่เสียดายทีหลัง

เรื่องนี้แตกต่างจากแนวที่เคยเขียนมาก่อนไหม?
       คนจะชินตาว่างานของ ‘อสิตา’ เน้นพลอตใหญ่ จัดเต็ม ถ้าในแง่นั้นก็ยังเป็นคนเดิม แต่จะไม่ยอมเขียนอะไรซ้ำๆ เด็ดขาดค่ะ เป็นนักเขียนขี้เบื่อ ไม่ใช่แค่ไม่ซ้ำกับคนอื่น คือไม่อยากซ้ำกับตัวเองด้วย...ก็จะสนุกกับมันให้เหมือนผจญภัยไปพร้อมตัวละคร ไม่ออกทะเล แต่ไม่บีบให้มันอยู่ในขนบการเล่าเรื่อง คิดเสมอ ถ้าเราคนเขียนเองยังเดาไม่ถูก คนอ่านก็น่าจะเดาไม่ถูก แล้วเราอยากเห็นอะไรน่าสนุกอีกบ้าง แม้เป็นฉากที่ยากก็จะไปให้ถึงจุดนั้น กำหนดหลักชัยไว้เป็นพักๆ จุดพลิก จุดพีกในเนื้อเรื่อง พอวิ่งไปถึงก็จะดีใจ มีแรงไปต่อ พวกทำทรีตเมนต์หรือร่างไว้โดยละเอียดนี่ไม่เคยทำค่ะ เปลี่ยนได้เสมอ ถึงจะซับซ้อนก็อาศัยการเชื่อมโยงแล้วค่อยย้อนไปตบๆ ให้เข้ารูป แต่ไม่ลืมเก็บรายละเอียดนะคะ ต้องลงลึก ให้คนอ่านแล้วอึ้งว่านี่ไม่ได้คิดไว้ก่อนจริงอะ งานเขียนคืองานศิลปะ สาดอารมณ์เข้าไปสดๆ ดีกว่าบังคับมัน ก็เรียกว่าใช้วิถีตั้งต้นแบบเดิม ซึ่งชาวบ้านเรียกฉีกกรอบ...แต่สำหรับเราไม่เคยมีกรอบแต่แรก ใช้มัน ‘ทำเรื่องที่ไม่ใช่เดิมๆ’ งานทุกเล่มก็จะต่างจากที่เคยเขียนเสมอค่ะ
 

 

อะไรคือสิ่งที่ยากและคิดว่าท้าทายที่สุดในการเขียนเรื่องนี้?
       อาจเป็นการตอบคำถามข้อสามเพิ่มเติม แต่ก่อนเคยเขียน...เรื่องยักษ์ถือขวาน ไล่เขวี้ยงใส่นางฟ้าตอนฟ้าแลบฟ้าร้อง (แบบหยอกๆ สาว) แต่ไม่มีรบกับลิงสักตัว อารมณ์ผิดกันมากค่ะ เรื่องนี้ยักษ์เจอคู่ปรับตลอดกาลเป็นวานรตัวแสบๆ อย่างหนุมาน นิลพัท รับรองว่าต้องเลือดขึ้นหน้า ตีกันกระจาย ยิ่งเวลาคับขันฉุกละหุก ต้องไม่ให้ผิดคิว ไม่หลงลืมตัวไหน แต่จะแจกบทให้สำคัญเท่ากันหมดก็ไม่ได้ จังหวะการเล่าจะยากเวลาตัวละครเยอะ ต้องไม่ลืมความรู้สึกที่แต่ละคนมีต่อกัน เช่น ถ้าคู่หนึ่งกำลังเหยียบ (ตื้บ) กันอยู่ อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ อาจหันมาหัวเราะเยาะแล้ววิ่งไปทำภารกิจส่วนตัวต่อ หรืออะไรกวนๆ เขินๆ เวลายักษ์-ลิงแขวะกันไป ตบจูบกันไป ยักษ์สองตนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันต่อยกันเองจนพินาศ ต้องบรรยายฉากถล่มไปด้วย แถมต้องปากจัดหลอกด่ากันอย่างลื่นไหล ไม่ให้สะดุด

แนะนำตัวละครหลักในเรื่อง ‘ดรรชนีชี้ตาย’
       ‘สหัสเดชะ’ พญายักษ์ขาว ในโลกนอกหนังสือยืนเฝ้าประตูวัดพระแก้วอยู่คู่ทศกัณฐ์ ถ้าด้วยศักดิ์ นับเป็นยักษ์รุ่นพี่ไปอีก แถมมีกระบองขั้นเทพ ‘ต้นชี้ตาย ปลายชี้เป็น’ แต่ดันมาแพ้กลอุบายลิงอย่างน่าเสียดาย พอมีโอกาสแก้ตัว ท่านยักษ์อยากได้อำนาจมาไว้ในตัว จึงยืมไอเดียนิ้วชี้ตายมาจากนนทุกขอพรพระอิศวร แต่อย่าลืม ยังมีอำนาจ ‘ชี้เป็น’ เหลืออยู่อีกอย่าง มันไม่ได้ตกหายไปไหน แต่จะถูกนำมาใช้เปลี่ยนเกมอย่างไร ความน่าลุ้นจะอยู่ตรงนี้ ในส่วนของความรัก ยักษ์ตนนี้แมนๆ จะรักลิงก็รัก ไม่ยึดติดเรื่องความแตกต่าง แต่ลิงสาวไม่ค่อยอยากเล่นด้วยเพราะนางชอบลิงด้วยกันมากกว่าค่ะ ‘หนุมาน’ นี่คือไอดอลสุดหล่อของเหล่าวานร ดูน่าหมั่นไส้ ก็แบบว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด แต่ก่อนคนเขียนเกลียดลิงเจ้าชู้ พอมาเขียน เออ เขาก็เป็นตัวเขา ลูกพระพาย ลมเพลมพัด...แล้วก็มีเหตุผลที่ทำให้เป็นไป สุดท้ายลิงสาวต้องเลือกนะคะว่าจะอยู่ข้างเพื่อนเก่าหรือศัตรู

 

 

ตัวละครในเรื่องนี้ถอดบุคลิกลักษณะมาจากต้นฉบับในรามเกียรติ์เลยหรือมีการปรับบ้างไหม?
       เรียกว่าเพิ่มดีเทลเข้าไปจะดีกว่า เพราะการเขียนถึงสิ่งที่เคยมีมาก่อน ควรให้เกียรติด้วยการไม่ไปเปลี่ยนของเขา แต่เราตีความเพิ่มได้มากมาย ถ้าจะบอกว่าหนุมานเกิดมารักเดียวใจเดียวมันก็คงแปลกๆ แต่ตัวละครสามารถมีพัฒนาการ (หรือถูกดัดสันดาน) ได้ไม่มากก็น้อยจากความเจ็บปวดและบทเรียนระหว่างทาง อย่างสหัสเดชะเป็นยักษ์ขาใหญ่ ขี้โอ่ขี้อวด จนลิงฉกเอาตะบองคู่ใจไปหักทิ้ง มาเกิดชาติใหม่ก็จะขี้ระแวง ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ประมาณนี้ค่ะ เนื้อแท้พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปจนสิ้นเชิง...แค่สานต่อ สืบเนื่องมาจากสิ่งที่ตัวละครพบเจอ เขย่าๆ คนๆ ให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

มีสารหรือข้อคิดอะไรที่อยากฝากเป็นพิเศษผ่านนิยายเรื่องนี้ไหม?
       เป็นคนค่อนข้างสุดโต่ง คงไม่สามารถพูด บอก สิ่งที่เหมือนเสียงในใจทุกประการ (เล่นตัว) ถนัดแค่แสดงเหตุการณ์ให้ดู เล่าให้เห็นภาพ...ว่าทั้งหมดเป็นมา เป็นไป และจบอย่างไร ตัวละครตัวนี้ตัวนั้นได้เรียนรู้สิ่งไหน ซึ่งคนอ่านก็คงไม่ได้มีพื้นนิสัย การคิดการตัดสินใจเหมือนตัวละคร ถูกแล้วค่ะ แต่ละท่านก็ต้องเลือกสิ่งที่จะหยิบไปจากเรื่องราวของอสิตาด้วยตัวเอง (ถ้าตีกรอบมันก็ไม่สนุก)
       ที่อยากจิ้มให้ลองย้อนมองในหน้ากระดาษ จุดที่ทำให้ผู้คนในเรื่อง ‘ดรรชนีชี้ตาย’ เติบโตขึ้น ไม่ว่าจะโตมาเน่าหรืองอกงาม ล้วนเกี่ยวกับทางเลือกที่เราต้องคว้าไว้ยามถึงทางแยก จุดเปลี่ยนของชีวิต...เลือกจะแค้น เลิกแค้น หรือแค้นมากขึ้น เลือกรักคนใหม่ ให้โอกาสคนเก่า ทุกทางเลือกล้วนมีสิ่งที่ต้องสูญเสียไปทั้งนั้น ไม่ได้บอกว่ามันไม่คุ้มหากจะยอมแลก ถ้าในเมื่อสิ่งที่อยู่บนหนทางใหม่ดูมีน้ำหนักมากกว่าก็อาจคุ้มค่า แค่ว่า...ทุกครั้ง เราต้องมีสติ เลือกให้ดีๆ เพราะสายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ

ฝากผลงานเรื่อง ‘ดรรชนีชี้ตาย’
       มีอยู่สามประการที่อสิตารักมากกว่าชีวิตของตัวเอง คือพ่อ แม่ และงานเขียน (รักใคร่ประหนึ่งลูก) ในเมื่อปั้นมาอย่างดี ก็อยากให้ลองรับไปอุ้มๆ พลิกๆ ดูสักนิด เด็กคนนี้ที่ชื่อ ‘ดรรชนีชี้ตาย’ กำลังทำตาปริบๆ ให้ท่านเอ็นดู แล้วท่านจะได้มีเพื่อนสนิทเป็นยักษ์ เป็นลิง หรือไม่อยากเป็นแค่เพื่อน จะหลงรักกล้ามแน่นๆ กับเขี้ยวเสน่ห์ของเขาก็ได้ ขอบอกว่ามีเขี้ยวทั้งสองเผ่าพันธุ์...อีกสิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้ “อ่านแล้วจะเลือกมีใจให้พระเอกอีกคนที่ต้องกินแห้วก็ได้นะคะ แต่ช่วยแวะมาบอกคนเขียนด้วย เผื่อจะเขียนต่ออีกสักเล่ม ให้เขาได้มีโอกาสสมหวังบนทางเลือกของตัวเอง...สักที”

 

 

ติดตามความสนุกใน  ดรรชนีชี้ตาย ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.com หรือดาวน์โหลดอีบุ๊กได้ที่ Application : Satapornbooks,  MebNaiin AppHytextOokbeePinto E-BookSE-ED และ comico

ร่วมรีวิวหนังสือและพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ นักอ่านได้ที่แฮชแท็ก #ดรรชนีชี้ตาย

...

ผลงานนักเขียน