ทลายทิฐิแห่งรักในแดนอาทิตย์อุทัย ใน ดุจใจซ่อนกล โดย พิณณ์อวี

บทสัมภาษณ์

ดุจใจซ่อนกล คือนิยายแนวโรแมนติกเบาๆ ดราม่าเล็กน้อยตามแนวถนัดของพิณณ์อวี โดยนิยายเรื่องนี้จะทำให้นักอ่านได้เข้าใจถึง 'ความรัก' ลึกซึ้งกว่าเดิม

พิณณ์อวีเล่าถึงนิยายเรื่องนี้ว่า "ดุจใจซ่อนกล เป็นเรื่องราวของ มิลิน นักศึกษาเอกภาษาญี่ปุ่น เป็นลูกสาวของคนมีเงิน ร่ำรวย และใช้ชีวิตอย่างเท้าไม่เคยแตะพื้นดิน แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอโหยหาอิสระ คนรักที่เป็นหมอก็พยายามจะให้เธอมีชีวิตอย่างนกน้อยในกรงทอง ทำให้มิลินคิดว่าเธอไม่น่าจะอยู่ด้วยกันกับเขาได้ 

“ในขณะที่วันหนึ่ง ‘ภาม’ คนไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างคนยากจน ต้องลำบากเลี้ยงชีพ หาเช้ากินค่ำ ท่าทางสกปรกมอมแมมเหมือนคนจรได้ผ่านเข้ามาในชีวิต ความเรียบง่ายและฉลาดในการเอาตัวรอดในภาวะคับขันของภาม ทำให้มิลินรู้สึกประทับใจ และรู้สึกว่าชีวิตที่เรียบง่ายอย่างนี้คือชีวิตที่ต้องการ ขณะเดียวกันมิลินก็ยังมีคุณหมอโคบายาชิ ซึ่งมีนิสัยอันธพาล หึงหวง และเจ้าชู้ เมื่อมิลินจับได้ว่าโคบายาชินอกใจจึงขอเลิก แม้ผิดหวังแต่ก็มีภามคอยช่วยปลอบใจ จนกลายเป็นความสนิทสนมและความรักที่ทั้งสองคนค่อยๆ มีใจให้แก่กัน แต่ฐานะและความเป็นอยู่ของภามคือสิ่งที่ค้านไม่ให้มิลินยอมเปิดใจทั้งหมด ภามเองก็ทราบและได้แต่เสียใจในโชคชะตา ...วันหนึ่งเมื่อมิลินเผลอใจให้กับภาม เธอจึงรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด และพยายามจะต่อต้าน พาตัวเองออกจากผู้ชายคนนี้ทำให้ภามเสียใจและโกรธแค้น ต่อจากนี้ขอไม่สปอยล์นะ แต่...คนอ่านทุกคนคงเดาถูก” โดยเรื่องนี้พิณณ์อวีหักตรงกลางเรื่องให้มีความเจ็บปวดจากความไม่เข้าใจกันระหว่างพระเอกและนางเอก วางแครักเตอร์พระเอกเป็นคนขี้ใจน้อย และเหวี่ยงพาลได้ทุกเรื่อง แต่ผู้เขียนบอกว่าคนประเภทนี้เวลาน่ารักก็จะน่ารักมาก

ถามถึงแรงบันดาลใจ พิณณ์อวีบอกว่า “ผมไม่เคยนึกอยากเขียนเรื่องที่ดำเนินเรื่องในต่างประเทศเลย อาจจะเพราะรู้สึกว่าไม่ถนัด แต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมาได้ไปใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่น ไปๆ กลับๆ อยู่หลายครั้ง จนรู้สึกเริ่มผูกพัน และคิดว่ามันคงถึงเวลาที่เราพอจะเขียนอะไรแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับตัวละครอยู่ในประเทศนั้นได้แล้วก็เลยตัดสินใจจะเขียน 

“จริงๆ มีพลอตเรื่องอื่นอยู่มากมายหลายพันล้าน แต่ว่าวันหนึ่งเปิดดู MV เพลง คนถูกทิ้ง ของ Muzu แล้วหลงรักพระเอกเลย...ก็คิดว่า อยากได้พระเอกเป็นคนเซอร์ๆ บ้าง ปกติไม่ชอบคนเซอร์นะ แต่ว่า พระเอก MV เพลงนี้น่ารักจริง ก็เลยเริ่มเขียน ด้วยความที่ผมไม่ค่อยมีเวลา แล้วก็ทิ้งห่างการเขียนมานานแล้วก็เลยรีบเขียน กลัวไม่จบ ดีใจมากที่เขียนจบ เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ลงถังไปหลายเรื่องแล้ว”

ส่วนฉากที่พิณณ์อวีชอบมากที่สุด “ฉากสุดท้าย ตอนพิเศษ ผมชอบมาก ริมทะเล (เอ๊ะจริงๆ ไม่ใช่ฉาก) ผมชอบคำนี้ Tsuki no kirei desune คำนี้มีที่มา...แต่จะไม่สปอยล์ ลองไปอ่านในเรื่องดูนะว่า Tsuki no kirei desune มันเป็นยังไง ^^”

สำหรับการเขียนนิยายเรื่องนี้ พิณณ์อวีบอกว่าเขียนยากเพราะไม่ค่อยถนัดเขียนนิยายนอกประเทศตัวเอง แต่ด้วยความที่มีความคิดว่า ถ้าเขียนอะไรแล้วก็ต้องเขียนให้อินจึงไม่ค่อยอยากเขียนเรื่องไกลตัว และสำหรับเรื่อง ดุจใจซ่อนกลนี้ ผู้เขียนได้ใช้ประสบการณ์ของตัวเองตอนอยู่ญี่ปุ่น “คงเพราะไปเรียน เลยได้รู้จักญี่ปุ่นในแง่มุมของคนที่ต้องไปอยู่นานๆ และก็มีเซนเซที่สนิท ผมก็เรียกว่า โอโต้ซัง ชื่อ ฮิโตะชิ เหมือนในเรื่องแหละ เซนเซก็ชอบสอนวิถีวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นให้รู้จักก็เลยพอที่จะมีอะไรมาให้เขียนได้บ้าง อย่างเช่น ผักชี เป็นอาหารไทยที่พอปพิวลาร์ที่สุดในญี่ปุ่น อันนี้รู้มาเพราะว่าเซนเซชอบกินและก็กินแกล้มเบียร์ เลยไปถามพี่คนอื่นๆ ว่ารู้จักผักชีมั้ย ปรากฏว่าคนญี่ปุ่นรู้จักทุกคนเลย ผมแปลกใจมาก 

“มีข้อมูลที่พลาดอยู่เหมือนกันจริงๆ เรื่องหนึ่ง คือเรื่องการซ้อนท้ายจักรยาน อาจจะเพราะว่าผมไม่เคยปั่นจักรยานในโตเกียว ไม่นั่งรถไฟก็เดินเลยไม่รู้ว่าในญี่ปุ่นห้ามซ้อนท้ายจักรยาน ส่วนตัวเคยปั่นซ้อนที่คาวากูจิโกะ แต่ก็ถือว่าโชคดีไปที่ไม่โดนจับ ต่อไปคงไม่กล้าทำอีก ฮ่าๆๆ”

ก่อนจากกันไป ผู้เขียนขอฝากทิ้งท้าย “ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ยังให้กำลังใจ ยังถามถึง ยังรีวิว สารพัดอยู่ตลอดเวลา...กลับมาแล้ว...และจะไม่หนีไปไหนอีก จะพยายามเขียนเรื่องให้สม่ำเสมอและพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่าเดิม กลัวทุกครั้งที่หนังสือได้ตีพิมพ์ว่างานของเราจะไม่คุ้มค่าเงินที่นักอ่านเสียไป...รักทุกคนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแวะเข้ามาทักทายที่เพจได้  'พิณณ์อวี มัธยอรุณ' ”

ใครชอบนิยายโรแมนติกเบาๆ ชอบบรรยากาศและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ลองอ่านเรื่องราวความรักของหนุ่มมาดเซอร์กับสาวสวยที่เพอร์เฟกต์ทุกด้านได้ในเรื่อง ดุจใจซ่อนกล โดย พิณณ์อวี รับรองไม่ผิดหวัง