แรงบันดาลใจในการแต่งนิยายเรื่องนี้คืออะไร? “ตอนนั้นเรานึกเล่นๆ ว่าอยากจะเขียนแฟนเด็กเย็นชาสักคนก็เลยลองถามคนอ่านดูว่าเขาอยากอ่านไหม ผลปรากฏคือคนอ่านเขาเชียร์ให้เขียน เราก็เลยเขียนเลยค่ะ ฮ่าๆ เขียนบทนำก่อนที่จะมาวางพล็อตวางโครงเรื่องอีก”

พี่ต้องฟังผมแตกต่างจากนิยายที่เคยเขียนอย่างไร? “ถ้าถามถึงความต่างจากเรื่องที่เขียนมา ก็คงเรื่องอายุ พระ-นาย แหละค่ะ ปกติเราจะเขียนให้พระเอกอายุเยอะกว่า แต่ในเรื่องนี้พระเอกอายุน้อยกว่า”

คาแรกเตอร์ของ ‘ฐานทัพ’ กับ ‘นาวา’ เป็นอย่างไร? “ฐานทัพเขาจะเป็นคนขี้รำคาญ พูดจาใจร้ายตลอด ส่วนนาวาเนี่ยเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นคนที่พยายามจะร่าเริงและแสดงออกว่าตัวเองมีความสุขอยู่ตลอด ถึงตอนนั้นจะเศร้าแค่ไหน ถ้าไม่เกินความอดทนจริงๆ เขาก็จะไม่แสดงความรู้สึกออกมา ต้องคนสนิทจริงๆ ถึงจะดูออก”

‘นาวา’ ใช้วิธีการใดจึงเอาชนะใจ ‘ฐานทัพ’ ได้ “ความซื่อๆ จริงใจของพี่เขาแหละค่ะ ใจดีด้วย เป็นห่วงเป็นใยน้องฐานทัพถึงแม้บางทีจะถูกน้องใจร้ายใส่ก็ตาม”

ความสัมพันธ์ของพระเอก-นายเอกในนิยายเรื่องนี้เป็นไปในรูปแบบไหน? “ความสัมพันธ์ค่อนข้างต่อกันติดยากอยู่ในตอนแรก แต่พอหลังๆ มาตอนที่ฐานทัพเขาเริ่มเปิดรับพี่ก็ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ เรื่อยๆ ดูแลกันและกัน อยู่ข้างๆ กันเวลาที่ใครอีกคนมีปัญหา”

ชอบฉากไหนในนิยายเรื่องนี้มากที่สุด? “ฉากที่นาวาเข้าไปปลอบฐานทัพตอนอกหักค่ะ ความเอาผ้าเช็ดหน้าให้ แล้วก็เล่นมุกเพื่อให้อีกฝ่ายยิ้ม คิดว่าฐานทัพเองก็เริ่มมองพี่นาวาจากฉากนี้เหมือนกัน”

ฉากเลิฟซีนในนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง? “ฉากเลิฟซีนในเล่มนี้จะค่อนข้างนุ่มนวลกว่าเรื่องผ่านๆ มาที่เคยเขียน ด้วยความที่ฐานทัพเขาค่อนข้างจะถนอมพี่เป็นพิเศษ ส่วนเรื่องความแซบ ก็น่าจะแซบอยู่นะคะ แต่มากแค่ไหนก็ต้องลองไปอ่านเองแล้วละค่ะ”

นักเขียนฝากผลงาน “ก็ขอฝากผลงานเรื่อง พี่ต้องฟังผม ด้วยนะคะ นิยายสายฟีลกู๊ด ไม่มีเรื่องราวให้เคร่งเครียด อ่านสบายๆ เด็กก็อ่านได้ แต่ต้องใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ บางเหตุการณ์ บางสถานการณ์ภายในเรื่องก็ไม่สมควรลอกเลียนแบบ ขอให้สนุกไปกับการอ่านนะคะ”

ติดตามความสนุกใน พี่ต้องฟังผม ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.comร่วมรีวิวหนังสือ และพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ นักอ่าน ได้ที่ แฮชแท็ก #พี่นาวาต้องฟังผมรัก