มนุษย์กับแม่มดจะรักกันได้ไหมติดตามใน “มารีมายา” โดย ณารา

บทสัมภาษณ์

สำหรับใครที่เป็นแฟนนวนิยายของ “ณารา” คงเคยได้ยินชื่อนวนิยายเรื่อง มารีมายา กันมาบ้างแล้ว เพราะเมื่อสองปีก่อนได้เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน และเมื่อตีพิมพ์จนครบทุกบทจึงได้รวมรวบมาเป็นรูปเล่ม โดยพิมพ์คำสำนักพิมพ์

มารีมายา เป็นเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มปลาย Gen X ที่โคจรมาพบกับแม่มดสาวพราวเสน่ห์จากศตวรรษที่ 16 ใครจะเชื่อล่ะว่าหัวใจมันจะวุ่นวายอีนุงตุงนังได้ขนาดนี้ แล้วนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าทุกสิ่งต้องพิสูจน์ได้อย่างเขาจะห้ามใจไม่ให้หลงเสน่ห์แม่มดสาวแสนสวยที่ไม่มีหลักการใดๆ บนโลกนี้รองรับได้อย่างนั้นหรือ?

เพราะเวทมนตร์ทำให้ ดร. ธาย ธนนันทน์ ตัดสินใจซื้อหนังสือโบราณด้วยความจำใจ มารี แม็กอัลฟี่ แม่มดสาวที่ถูกสาปให้อยู่ในหนังสือหลงรักเขาทั้งแต่แรกพบ หญิงสาวแง้มหนังสือแอบมองชายหนุ่มทุกวัน แต่เขากลับตกใจและหวาดกลัวเธอตั้งแต่แรกเจอ! ทว่าเขาคือเนื้อคู่ของเธอ เป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอให้ออกจากหนังสือ และเป็นคนเดียวที่จะลบล้างคำสาปที่ขังเธอเอาไว้ได้ แต่เธอจะต้องทำให้เขาหลงรักและยอมแต่งงานด้วยภายในสามเดือน เธอจึงต้องหลอกล่อให้เขาติดกับดักเสน่ห์ของเธอให้จงได้ ก่อนที่จะต้องระเห็จกลับเข้าไปอยู่ในหนังสือและรอเนื้อคู่คนใหม่มาปลดปล่อยเธออีกครั้งในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าความผูกพันที่ก่อเกิดขึ้นระหว่างคนกับแม่มดในหนังสือจะมีวันเป็นจริงได้ไหม วอนเวทมนตร์ใดๆ ก็ได้ช่วยที! 

ณาราเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้ว่า “ตอนที่คิดพลอตเรื่องมารีมายา เป็นเพราะลูกสาวแต่งตัวไปงานฮาโลวีน แล้วก็นั่งคิดเล่นๆ ว่า ถ้าลูกสาวแต่งตัวเป็นแม่มดแล้วจะเป็นยังไง จากนั้นก็คิดเล่นๆ ว่า ถ้ามีแม่มดมาโผล่ในโลกปัจจุบันคงจะสนุกไม่น้อย จึงค่อยๆ รวบรวมพลอตขึ้นมาทีละเล็กละน้อยน่ะค่ะ ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวได้”

นอกจากมารีมายา ยังมีเล่มต่อที่ชื่อว่า มนตราสิตางคุ์ ด้วย ณาราเล่าถึงที่ มาเรื่องนี้ว่าเนื่องจากพระรองจากเล่มแรกที่โดดเด่นเป็นสง่าเหลือเกินจนกลบพระเอกไปหมดจึงได้มาเป็นพระเอกเต็มตัวและด้วยความที่เคยเกินหน้าเกินตา ทำให้เขม่นกันในเล่มนี้ เป็นแนว พ่อตาหนวดกระดิก และ ธาย นักวิทยาศาสตร์ในเล่มก่อน ก็จะไม่อ่อนแออีกต่อไปแล้ว เขาจะกลาย มาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ นูเอด้าเลยทีเดียว ต้องคอยติดตาม 

 

โดยทั้งสองเรื่องมีธีมที่คล้ายคลึงกันคือมีเผ่าพาโธลานที่ต้องการจะดื่มเลือดจากแม่มดของสองเผ่า เพื่อความเป็นอมตะ และมีภารกิจสำคัญที่จะต้องกำจัดนูเอด้าและเนื้อคู่ของเขา เพราะมีคำทำนายเอาไว้ว่า สองคนนี้จะเป็นคนกำจัดเผ่าพาโธลานให้สูญสิ้น ทาราน หัวหน้าเผ่า จะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ จึงส่งคนไปตามล่านูเอด้าและเนื้อคู่ของเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ เรื่องราวจึงออกแนว เวทมนต์ ปนอิทธิฤทธิ์ บู๊ และคอมเมดี้ไปพร้อมๆ กัน

นอกจากจะคุยเรื่องหนังสือแล้ว เนื่องในเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งวันแม่ เราจึงมาคุยกับ “ณารา” ในเรื่องการเลี้ยงลูกกัน แน่นอนการไปใช้ชีวิตในต่างประเทศทำให้ “น้องเชรี” ลูกสาวของณาราต้องฝึกฝนภาษาไทยมากเป็นพิเศษ ณาราจึงให้ลูกฝึกอ่านหนังสือภาษาไทยเพื่อให้ชำนาญขึ้น

“เนื่องจากลูกสาวอ่านหนังสือไทยไม่ค่อยเก่ง พี่ก็ไม่รู้จะแนะนำเรื่องอะไร ส่วนภาษาอังกฤษพี่ก็ไม่ค่อยถนัด แต่หากลูกสาวอ่านหนังสือไทยได้ พี่อยากจะแนะนำ นิทานเวตาล และอาหรับราตรี เพราะเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ให้ข้อคิดแก่เด็กๆ และทำให้เด็กๆ คิดตามได้ดีค่ะ” 

ส่วนวิธีการเลี้ยงลูกณาราบอกกับเราว่า “พี่เลี้ยงลูกอย่างอิสระพอสมควรค่ะ และเคารพการตัดสินใจของเขาในหลายๆ เรื่อง ให้โอกาสเขาได้พูด ได้คุยในสิ่งที่ต้องการ จะไม่ขัด ไม่ทำให้แกต้องขายหน้า ลูกก็จะกล้าพูด กล้าที่จะคุยกับเราในทุกๆ เรื่อง ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าไม่ดี ก็รับฟังไว้ก่อน พอมีโอกาสก็จะมานั่งคุยกัน อธิบายเหตุและผล แกโตมาด้วยเหตุและผลจริงๆ ค่ะ ตัวเองจะเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย เอาตัวอย่างจากหลายๆ เหตุการณ์มาประกอบ ให้แกเห็นภาพชัดเจน ดีใจที่ลูกเป็นคนจิตใจดี รักความถูกต้อง มีน้ำใจ และเพื่อนๆ รัก ทั้งหมดนี้ ก็เกิดมาจากการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ”  

 

 
ได้คุยกับณาราทั้งเรื่องนวนิยายเล่มใหม่และการเลี้ยงลูกแล้ว แฟนนักอ่านของณาราก็อย่าลืมติดตาม มารีมายา นิยายสนุก พลอตแฟนตาซีเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีนวยายเรื่อง ดุจอัปสร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ ดวงใจเทวพรหม กำลังจะวางแผงในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับเรื่อง อัสดรพิโรธ ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายของชุด เลือดทระนง ด้วย