สำหรับใครที่เป็นแฟนนวนิยายของ “ณารา” คงเคยได้ยินชื่อนวนิยายเรื่อง มารีมายา กันมาบ้างแล้ว เพราะเมื่อสองปีก่อนได้เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน และเมื่อตีพิมพ์จนครบทุกบทจึงได้รวมรวบมาเป็นรูปเล่ม โดยพิมพ์คำสำนักพิมพ์ มารีมายา เป็นเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มปลาย Gen X ที่โคจรมาพบกับแม่มดสาวพราวเสน่ห์จากศตวรรษที่ 16 ใครจะเชื่อล่ะว่าหัวใจมันจะวุ่นวายอีนุงตุงนังได้ขนาดนี้ แล้วนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าทุกสิ่งต้องพิสูจน์ได้อย่างเขาจะห้ามใจไม่ให้หลงเสน่ห์แม่มดสาวแสนสวยที่ไม่มีหลักการใดๆ บนโลกนี้รองรับได้อย่างนั้นหรือ? |
|
ณาราเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้ว่า “ตอนที่คิดพลอตเรื่องมารีมายา เป็นเพราะลูกสาวแต่งตัวไปงานฮาโลวีน แล้วก็นั่งคิดเล่นๆ ว่า ถ้าลูกสาวแต่งตัวเป็นแม่มดแล้วจะเป็นยังไง จากนั้นก็คิดเล่นๆ ว่า ถ้ามีแม่มดมาโผล่ในโลกปัจจุบันคงจะสนุกไม่น้อย จึงค่อยๆ รวบรวมพลอตขึ้นมาทีละเล็กละน้อยน่ะค่ะ ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวได้” นอกจากมารีมายา ยังมีเล่มต่อที่ชื่อว่า มนตราสิตางคุ์ ด้วย ณาราเล่าถึงที่ มาเรื่องนี้ว่าเนื่องจากพระรองจากเล่มแรกที่โดดเด่นเป็นสง่าเหลือเกินจนกลบพระเอกไปหมดจึงได้มาเป็นพระเอกเต็มตัวและด้วยความที่เคยเกินหน้าเกินตา ทำให้เขม่นกันในเล่มนี้ เป็นแนว พ่อตาหนวดกระดิก และ ธาย นักวิทยาศาสตร์ในเล่มก่อน ก็จะไม่อ่อนแออีกต่อไปแล้ว เขาจะกลาย มาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ นูเอด้าเลยทีเดียว ต้องคอยติดตาม |
|
โดยทั้งสองเรื่องมีธีมที่คล้ายคลึงกันคือมีเผ่าพาโธลานที่ต้องการจะดื่มเลือดจากแม่มดของสองเผ่า เพื่อความเป็นอมตะ และมีภารกิจสำคัญที่จะต้องกำจัดนูเอด้าและเนื้อคู่ของเขา เพราะมีคำทำนายเอาไว้ว่า สองคนนี้จะเป็นคนกำจัดเผ่าพาโธลานให้สูญสิ้น ทาราน หัวหน้าเผ่า จะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ จึงส่งคนไปตามล่านูเอด้าและเนื้อคู่ของเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ เรื่องราวจึงออกแนว เวทมนต์ ปนอิทธิฤทธิ์ บู๊ และคอมเมดี้ไปพร้อมๆ กัน นอกจากจะคุยเรื่องหนังสือแล้ว เนื่องในเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งวันแม่ เราจึงมาคุยกับ “ณารา” ในเรื่องการเลี้ยงลูกกัน แน่นอนการไปใช้ชีวิตในต่างประเทศทำให้ “น้องเชรี” ลูกสาวของณาราต้องฝึกฝนภาษาไทยมากเป็นพิเศษ ณาราจึงให้ลูกฝึกอ่านหนังสือภาษาไทยเพื่อให้ชำนาญขึ้น |
|
|
|
|
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ
18 ซอยลาดปลาเค้า 63 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220