อยากให้แนะนำผลงานเรื่องนี้ให้แก่นักอ่านที่อาจจะยังไม่เคยอ่านผลงานของชญาน์พิมพ์ค่ะ “นิยายชุดบาปปรารถนา มีที่มาจากการดูรายการ Top Chef ที่ผู้เข้าแข่งขันจะแข่งกันทำขนมที่มีคอนเซ็ปต์เป็นบาป 7 ประการในศาสนาคริสต์ค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นคนเพ้อเจ้อประสาคนเขียนนิยายก็เลยคิดว่า เอ...ถ้าเปลี่ยนจากขนมเป็นผู้ชายใจบาป 7 คน จะเป็นยังไงน้อ ก็เลยออกมาเป็นเป็นนิยายอย่างที่เห็นค่ะ ตอนนี้ทั้งหมดที่เข็นออกมาจากกรุแล้วมีทั้งหมด 4 เล่มด้วยกัน คือ ‘กฤษณามันตรา’ (บาปโลภะ) พระเอกเป็นโจรห้าร้อย (เป็นโจรอายุ 500 ปีจริงๆ ค่ะ) ‘บุหลันยาตรา’ (บาปราคะ) พระเอกเป็นแมว ‘ดวงใจเจ้าวายุ’ (บาปโทสะ) พระเอกเป็นสิงโตและเป็นมือปืนรับจ้าง และเรื่องล่าสุด ‘สาปริษยา’ พระเอกเป็นเหยี่ยวและเป็นศิลปินวาดภาพค่ะ ‘สาปริษยา’ เป็นเล่มที่ 4 ของชุด ‘บาปปรารถนา’ แล้ว เล่มนี้หากเทียบกันแล้วเขียนยาก-ง่ายกว่าเล่มที่ผ่านมาอย่างไรบ้างคะ? “ในแง่ของข้อมูลถือว่าเป็นนิยายที่สบายๆ ไม่ได้มีข้อมูลอะไรที่ทำให้เขียนยาก แต่จะยากในแง่ของความสัมพันธ์และอารมณ์ของตัวละครมากกว่า ‘เควาน’ เป็นตัวละครที่เปิดหน้ามาก็ทำให้ทุกคนเกลียดได้ไม่ยาก ทั้งปากร้าย ขวางโลก มองทุกอย่างเป็นสีดำไปหมด แต่คนเขียนจะรู้เองว่าจริงๆ แล้วเป็นคนที่น่าเวทนามาก แล้วก็ต้องหาวิธีสื่อให้คนอ่านเห็นด้วย มันยากตรงนี้แหละค่ะ เพราะพฤติกรรมตัวละครร้ายกาจแบบนี้จะทำยังไงให้เห็น แล้วตัวละครที่เกี่ยวพันกันก็มีอีก เหมือนจับปูใส่กระด้งเลย (ฮา) ส่วนนางเอกก็ดูยอมคนเหลือเกิน ไม่สู้คนเลย ซึ่งมันก็มีเหตุผลของตัวละครนะคะ ถึงจะเริ่มเปลี่ยนมาสู้คนบ้างในตอนท้าย แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้คนที่เป็นแบบนี้มาตลอดชีวิต เปลี่ยนปุบปับในพริบตา ก็อาจจะเปลี่ยนได้แค่บางส่วน ตอนจะเขียนก็เลยต้องมาคิดว่าจะทำยังไงให้มันไม่ดูเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเกินไป ตัวละครก็เลยดูเหมือนหลงทาง ทั้งพระเอกและนางเอกเลยค่ะ กว่าจะหาทางตั้งหลักได้ ก็เกือบลงเหวไปทั้งคู่เหมือนกัน ” อยากให้นิยามความรักของ ‘เควาน’ กับ ‘นฎา’ ค่ะ พร้อมบอกเหตุผล “ความรักของคู่นี้ต้องเรียกว่า Bleeding Love เลยค่ะ คือรู้ว่ารักแล้วเจ็บก็ยังรัก คนหนึ่งก็ผ่านการทรยศหักหลังจากคนที่ใกล้ชิดมาจนไม่เชื่อในเรื่องของความรักแล้ว ส่วนอีกคนก็สับสนกับชีวิตจนไม่รู้จะไปทางไหน เลยประชดชีวิตด้วยการกระโดดลงนรกกับปีศาจเลยก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือความโดดเดี่ยวอ้างว้างและปรารถนาจะเป็นที่รักอยู่ลึกๆ ในใจ ส่วนนี้เองที่ดึงดูดให้สองคนที่ไม่น่ามาบรรจบกันได้มาพบกัน” ในชีวิตจริงบางครั้งก็คงมีที่คนทั่วไปนึกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น อิจฉาในโชคชะตาของคนอื่น ในมุมมองของชญาน์พิมพ์คิดว่าสามารถจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ได้อย่างไรคะ? “เรื่องของความรู้สึกมันเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการได้หมดจดร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึกอิจฉาริษยา มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่มีแรงปรารถนาแบบหลุมดำ ถมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม ต่อให้มีมากกว่า หรือดีกว่าในทุกๆ ด้าน ก็ยังอยากจะได้ในสิ่งที่คนอื่นมีเสมอ สำหรับตัวเองแล้ว วิธีที่จะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้ดีที่สุดคือ เราต้องประเมินศักยภาพของตนเองก่อนว่าเราจะไปถึงจุดหมายที่ปรารถนาได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ต้องเริ่มทุ่มเทในการพัฒนาศักยภาพที่มีอย่างสุดความสามารถ การนั่งอิจฉาคนอื่นโดยไม่ทำอะไรเลยก็เหมือนปล่อยตัวเองให้จมน้ำทั้งที่เห็นฝั่งอยู่รำไรนั่นละค่ะ อยากได้ อยากมี อยากเป็น อะไรใดๆ ก็แล้วแต่ต้องลงมือค่ะ ไม่ใช่ลงมือขัดแข้งขัดขาคนอื่นนะคะ ลงมือทำให้ตัวเองแกร่งพอที่จะไปถึงจุดนั้นได้ค่ะ คนอื่นๆ เองก็ต้องสู้มามากกว่าจะมายืนให้เราอิจฉาเหมือนกัน” ผลงานเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลของการ “ยืมจมูกคนอื่นหายใจ” กับ “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” ชัดมากๆ ชญาน์พิมพ์อยากให้ข้อคิดเพิ่มเติมไหมคะ? “มนุษย์ทุกคนติดอยู่กับความกลัวค่ะ ไม่ว่าจะกลัวตนเองไม่ดีพอ ไม่มีคุณค่าพอ กลัวที่จะก้าวออกมาให้พ้นกรอบของตนเอง นฎาคือตัวแทนของคนที่ถูกกดไว้โดยคนรอบข้าง กดจนเหมือนเป็นคนอ่อนแอ ทำอะไรไม่เป็น ทั้งที่ตนเองมีศักยภาพยิ่งใหญ่กว่าที่คิด นฎาโชคดีตรงที่มีเควานทั้งจิกทั้งผลักจนยอมหลุดกรอบออกมาได้และลงมือทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่กล้า แต่ในความเป็นจริงเราไม่มีเควานเป็นของตัวเอง ดังนั้นเราก็ควรที่จะสลัดความกลัวต่างๆ ที่มาครอบงำทิ้งไปแล้วลงมือทำตามความฝัน เอาแค่เริ่มต้นง่ายๆ ไปทีละก้าวก็ได้ค่ะ อย่าได้ยอมให้ใครหรืออะไรก็ตามมาฉุดรั้งไว้เด็ดขาด เราเกิดมามีชีวิตในร่างนี้ ชื่อนี้แค่ครั้งเดียว ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ดังนั้นจงไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้ ไม่ว่าช้าหรือเร็วก็อย่ายอมแพ้นะคะ” ผลงานเรื่องต่อไปเป็นเรื่องแนวไหนแล้วกำหนดออกเมื่อไหร่? “เรื่องต่อไปก็เป็นแนวพารานอร์มัลเช่นเคยค่ะ คือเรื่อง ‘จันทร์พยับหมอก’ เรื่องนี้บินไปเก็บข้อมูลที่มองโกเลียมาแล้ว 2 รอบ เป็นประเทศที่น่าประทับใจมากๆ แล้วก็เชื่อว่ามีมนตร์เสน่ห์พอที่จะทำให้นักอ่านได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวการผจญภัยของ ‘ชาแมน’หนุ่มและสาวน้อยที่มีชะตาต้องสาปด้วยค่ะ ^_^” ฝากผลงานเล่มนี้ “ฝากผลงานเรื่อง ‘สาปริษยา’ ด้วยนะคะ เป็นชุดที่เขียนยาวนานมากพอๆ กับชุดมาเฟียเลย ตัวละครทุกตัวเลยสนิทสนมกับคนเขียนจนเหมือนเป็นลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกที่ค่อนข้างเกเรอยู่สักหน่อยค่ะ บางทีก็ร้ายจนน่าตี บางทีก็ดีจนน่าหยิกให้คืนสติ แต่ก็นะ...อย่างที่ตัวละครในเรื่องได้พูดไว้แหละค่ะ ไม่มีใครฉลาดได้ตลอดเวลาหรอก มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าทางที่เลือกเดินหรือสิ่งที่เลือกทำจะไปทางไหน ถ้าหลงทางก็แค่หาทางย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ จะช้าหรือเร็วสิ่งที่บังตาไว้ก็ต้องสลายไปอยู่ดีค่ะ ติดตามความสนุกใน สาปริษยา ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.co.th |