‘สื่อรักฮัสกี’ ให้น้องหมาและนิยายเยียวยาจิตใจไปกับ แพรณัฐ

บทสัมภาษณ์

บทสัมภาษณ์นักเขียน ‘แพรณัฐ’ กับผลงานนิยายรักเรื่อง ‘สื่อรักฮัสกี’

 

สื่อรักฮัสกี

 

ชื่อเรื่องอาจเข้าใจว่าเรื่องนี้เน้นความสำคัญไปที่น้องหมาพันธุ์ไซบีเรียนฯ เท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วในเรื่องนี้มีเขียนเกี่ยวกับต้นไม้ด้วย และน่าสนใจมาก อยากให้นักเขียนช่วยแนะนำ ‘สื่อรักฮัสกี’ ให้ผู้อ่านที่อาจยังไม่เคยอ่านผลงานสไตล์แพรณัฐได้รู้จัก
       ผลงานสไตล์แพรณัฐมักเป็นนวนิยายรักโรแมนติกหวานๆ อ่านได้เรื่อยๆ สบายๆ มีดราม่าให้ตื่นเต้นแต่ไม่หนักมาก พระเอกมักรักเดียวใจเดียวและมีความชัดเจน เพราะคนเขียนอยากเขียนอะไรที่ตัวเราเองรู้สึก feel good ในระหว่างการเขียน และอยากให้คนอ่านรู้สึก feel good เมื่อได้อ่านค่ะ
       สำหรับเรื่อง ‘สื่อรักฮัสกี’ แพรได้แรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตในช่วงสถานการณ์โควิดซึ่งเราทุกคนต้องรักษาระยะห่างและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในบ้านจากมาตรการล็อกดาวน์และการ work from home ค่ะ แพรก็เหมือนหลายคนที่หันมาสนใจในการทำสวน เลี้ยงต้นไม้ และเล่นกับสุนัขที่บ้านเกือบทั้งวันยิ่งกว่าเดิม จากนั้นแพรก็ขยับไปดูสวน ต้นไม้ และสุนัขของคนอื่นในโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ จนได้ค้นพบว่าในเฟซบุ๊กมีกลุ่มสาธารณะและกลุ่มปิดสำหรับคนที่เลี้ยงต้นไม้เฉพาะอย่างหรือสุนัขเฉพาะพันธุ์นั้นๆ
       ไซบีเรียนฮัสกีเป็นสุนัขที่ยิ่งดูก็ยิ่งช่วยให้แพรคลายเครียดได้มากที่สุดเลยค่ะ เพราะพวกมันส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมเพี้ยนๆ ขัดกับหน้าตาเท่ๆ จนแพรอยากเลี้ยงแต่รู้ว่ามีคุณสมบัติไม่พอเพราะรับมือกับความไฮเปอร์แอ็กทิฟของน้องๆ ไม่ได้แน่ๆ เลยคิดว่าเราควรเลี้ยงไซบีเรียนฯ ทิพย์ในนิยายแทน
       ‘สื่อรักฮัสกี’ จึงเป็นนวนิยายซึ่งรวมสิ่งต่างๆ ที่ช่วยคลายเครียดให้ตัวแพรเองในช่วงสถานการณ์โควิด ทั้งไซบีเรียนฮัสกีและต้นไม้ค่ะ
       เป็นเรื่องของคนรักกันที่มีเหตุให้จดจำกันไม่ได้ แต่ความผูกพันทำให้กลับมารักกันอีกครั้ง ระหว่างทางเกิดหลายเหตุการณ์ เน้นเศร้าน้อยแต่ฮาหนักค่ะ

อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในการเขียนเรื่องนี้?
       ส่วนที่ยากที่สุดในการเขียนเรื่องนี้คือ การเขียนถึงสุนัขที่เป็นตัวละครเอกค่ะ ในเรื่องมีไซบีเรียนฯ อยู่หลายตัว แต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน มีการใช้เสียงต่างๆ ในการสื่อสาร มีท่าทางแสดงความรู้สึกในแบบของมัน สุนัขเป็นตัวละครสำคัญพอๆ กับพระเอกนางเอก มันอยู่ในแทบทุกฉากของเรื่อง การหาวิธีที่จะบรรยายถึงท่าทางของพวกมันและจับมันมาร่วมอยู่ในบทสนทนาจึงค่อนข้างยาก ต้องไปนั่งดูคลิปสุนัขพันธุ์นี้หลายตัวเลยเหมือนกันค่ะกว่าจะเขียนได้ตามที่พวกมันควรจะเป็น

แนะนำ ‘ศิคาล’ กับ ‘ลานไพลิน’ คร่าวๆ
       ‘ศิคาล’ เป็นภูมิสถาปนิก เจ้าของบริษัทออกแบบแลนด์สเคปค่ะ เขาเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกีตัวผู้ชื่อ ‘เจ้ายิมโน’ ส่วน ‘ลานไพลิน’ เป็นลูกสาวเจ้าของสวนไม้ประดับ เธอเลี้ยงไซบีเรียนฯ ตัวเมียชื่อ ‘น้องแสนแซ่บ’ ที่จริงศิคาลกับลานไพลินเคยคุยกันทางโทรศัพท์หลายครั้งแล้วค่ะเพราะบริษัทของศิคาลเป็นลูกค้าต้นไม้ของสวนคุณพ่อลานไพลิน และสองคนนี้ก็ยังเคยพูดคุยตอบโต้กันในเฟซบุ๊กกลุ่ม ‘เรารักไซบีลิง’ ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะสำหรับให้คนเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้มาแลกเปลี่ยนวีรกรรมสุดป่วนของลูกๆ ตนเอง
       ทั้งคู่ไม่เคยเจอกันจริงๆ จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งสองคนได้พบกันในเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นกับไซบีเรียนฮัสกีของเพื่อนซึ่งทั้งสองมีร่วมกัน ผลจากเหตุการณ์นั้นทำให้ทั้งคู่เพิ่งรู้ว่าพวกเขาเฉียดกันไปมานานแล้ว ศิคาลจึงส่งยิมโนไปเป็นหมาสื่อในการจีบแสนแซ่บและแม่ของมันค่ะ แน่นอนว่าเขาต้องใช้ความภูมิสถาปนิกนักจัดสวนมาช่วยจีบลูกสาวเจ้าของสวนไม้ใบในร่มด้วยเช่นกัน

ถ้าต้องเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของสองคนนี้ คิดว่าจะเปรียบกับอะไร?
       ความสัมพันธ์ของศิคาลกับลานไพลินน่าจะเปรียบได้กับพ่อแม่ไซบีเรียนฮัสกีที่มาเจอกันค่ะ เพราะทั้งสองคนเลี้ยงยิมโนกับแสนแซ่บเหมือนเป็นลูกตัวเองเลย การใช้ชีวิตและกิจวัตรประจำวันของพวกเขาขึ้นอยู่กับลูกๆ สองตัวนี้ มีความเข้าใจต่อกันอย่างที่คนอื่นที่ไม่ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้อาจไม่เข้าใจ

 

สื่อรักฮัสกี

 

ประทับใจฉากไหนในนิยายเรื่องนี้มากที่สุด?
       ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากตอนแต่งงานค่ะ เพราะเป็นฉากอลังการงานสร้างที่แพรพยายามใส่รายละเอียดของพิธีแต่งงานแบบไทยซึ่งไซบีเรียนฮัสกีทั้งหมดในเรื่องเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีพร้อมกับตัวละครสำคัญทุกตัวทางฝั่งพระเอกนางเอก แล้วแพรก็พยายามใส่คอนเซปต์ความเป็นภูมิสถาปนิก นักจัดสวน และงานแต่งในสวนไม้ใบลงไปด้วย พร้อมกับใช้การนำเสนอในรูปแบบคล้ายๆ คนอ่านกำลังชมคลิปงานแต่งงานนี้จากอินฟลูเอนเซอร์ทางช่องยูทูบ และไล่อ่านโพสต์ต่างๆ ของแขกที่มาร่วมงานในโซเชียลมีเดีย

เอกลักษณ์ของนิยายเรื่องนี้คืออะไร และเพราะอะไร?
       เอกลักษณ์ของเรื่องนี้น่าจะเป็นการเล่าเรื่องที่สอดแทรกโซเชียลมีเดียของกลุ่มคนรักสุนัขและต้นไม้เข้ามาด้วยให้มีความทันสมัยค่ะ ไม่ได้มีการบรรยายหรือใช้บทสนทนาอย่างในนวนิยายตามปกติ แต่บางครั้งก็มีส่วนที่เลียนแบบการโพสต์ทางช่องทางโซเชียลมีเดียและพูดคุยโต้ตอบในนั้น การแชตของตัวละคร การทำงานของยูทูบเบอร์ช่องสุนัขและช่องต้นไม้ เพจนักวาดการ์ตูนสุนัข เป็นต้นค่ะ ทุกอย่างล้วนโยงไปสู่ไซบีเรียนฮัสกีที่เป็นตัวชูโรงของเรื่องค่ะ

มีข้อคิดอะไรที่อยากส่งต่อให้ผู้อ่านผ่านนิยายเรื่องนี้ไหม?
       ข้อคิดในเรื่องคือความรักในโลกนี้มีหลายแบบ ไม่ใช่แค่ความรักระหว่างมนุษย์กับมนุษย์เท่านั้น แต่มีความรักระหว่างสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่น มนุษย์กับสุนัข สุนัขกับสุนัข ตลอดจนมนุษย์กับต้นไม้ที่พวกเราเลี้ยงก็สามารถส่งผ่านความรักระหว่างกันและกันได้เหมือนกัน สัตว์ทุกชนิดรับรู้ว่ามนุษย์รักมันหรือไม่และมันก็แสดงความรักต่อเราตอบมาด้วยการกระทำ ขณะเดียวกันต้นไม้ที่รับรู้ว่าเราดูแลรดน้ำ ใส่ปุ๋ยให้ก็มอบความรักตอบกลับมาด้วยการผลิดอกออกใบให้เราชื่มชม
       ความสุขของเราในแต่ละวันหาได้ง่ายๆ จากสิ่งใกล้ตัวเหล่านี้ รอยยิ้มของคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง การกระดิกหางดิ๊กๆ ของสุนัข หรือดอกไม้ดอกใหม่หรือใบไม้หลอดใหม่ที่งอกออกมาลำต้น เพียงแค่เราหันไปมองและพยายามชื่นชมกับมัน ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดเราอาจผ่อนคลายลงได้บ้างค่ะ

นักเขียนฝากผลงาน
       ‘สื่อรักฮัสกี’ เป็นผลงานเรื่องแรกในรอบสองปีที่แพรหายไปเนื่องจากเครียดกับสถานการณ์โควิดจนเขียนอะไรไม่ออกค่ะ แพรเขียนเรื่องนี้เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง โดยตั้งโจทย์ว่าต้องการเขียนเรื่องที่ให้อารมณ์ feel good เบาๆ และชวนให้ผ่อนคลายที่สุดตั้งแต่เขียนมาเพื่อเยียวยาจิตใจคนอ่านที่อาจกำลังรู้สึกเครียด ต้องการการผ่อนคลายมากๆ เหมือนกับเรา แพรจึงขอฝาก ‘สื่อรักฮัสกี’ นวนิยายเยียวยาจิตใจเรื่องนี้ด้วยนะคะ

 

สื่อรักฮัสกี

 

ติดตามความสนุก สื่อรักฮัสกี ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์สถาพรบุ๊คส์ www.satapornbooks.com หรือดาวน์โหลดอีบุ๊กได้ที่ Application : Satapornbooks, Meb, Naiin App, Hytext, Ookbee, Pinto E-Book, SE-ED และ comico

ร่วมรีวิวหนังสือและพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ นักอ่านได้ที่แฮชแท็ก #สื่อรักฮัสกี

...

ผลงานนักเขียน