บทนำ

บทนำ

เหม่อมองฟ้าพาหงอยเหงาช่างเศร้าจิต  

เขาจะคิดถึงเราไหมใจถามหา

ฝากสายลมกระซิบย้ำคำสัญญา

บอกจะมาแต่ทำไมไยจึงลืม

‘เฮ้อ ฝนหนอฝน แทนที่จะไปตกจังหวัดอื่นที่มันแห้งแล้งและจำเป็นมากกว่านี้ มาตกทำไมในกรุงเทพฯ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ’

สิตางศุ์นั่งโอดครวญกับตัวเองด้วยความเซ็งพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขณะทอดสายตาเหงาๆ เหม่อมองสายฝน ซึ่งกำลังตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักราวกับฟ้าพิโรธ ทั้งยังไม่มีวี่แววหรือทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด

ทำให้อดคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดไม่ได้ เพราะถ้าฝนตกหนักเช่นนี้ ตาของเธอต้องคิดว่าจะเกิดอาเพศอะไรแน่นอน ตามความเชื่อของคนโบร่ำโบราณ ที่มักจะมองปรากฏการณ์ธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

จำได้ว่าตอนเด็กๆ ตัวเธอเคยเห็นฝูงมดเดินตามกันเป็นแถว จากที่ต่ำไปยังที่สูง และเดินกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งคาบไข่ของตัวเองไปด้วย จึงถามผู้เป็นตาด้วยความสงสัย ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกว่าอีกไม่นานจะเกิดฝนตกหนักและก็เป็นตามคำพูดดังกล่าวจริงๆ 

หญิงสาวนั่งคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เพื่อฆ่าเวลา พลางก้มมองนาฬิกาข้อมืออย่างกลัดกลุ้มระคนอึดอัด ทั้งรู้สึกหน่วงหนักๆ อยู่ในใจ

ซึ่งเธอรู้ว่าสาเหตุนั้นมาจากอะไร เพราะเธอไม่ชอบเวลาฝนตก มันมีที่มาและที่ไป 

และจากสายฝนที่ตกหนักกระหน่ำอยู่ ส่งผลให้การจราจรซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนพลันหยุดชะงักกลายเป็นอัมพาตไปในทันที แม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ที่ปกติจะวิ่งลัดเลาะแซงซ้ายปาดขวายังต้องจอดนิ่งๆ เพราะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ 

ส่วนตัวเธอเองนั้นนั่งติดแหง็กอยู่ในรถแท็กซี่ ที่จอดนิ่งๆ ไปไหนไม่รอดมาร่วมชั่วโมงแล้ว

แล้วก็พลันนึกถึงคำนิยามที่ว่า หลังท้องฟ้าสดใสย่อมมีสิ่งดีงามเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งเธอคิดว่าไม่น่าจะเสมอไปหรอก

เพราะก่อนหน้านี้ท้องฟ้ายังกระจ่างสดใส ไม่มีวี่แววว่าฝนจะตกเลยสักนิด

แต่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันคืออะไรกัน!

และที่น่าเจ็บใจมากไปกว่านั้นคือ ตึกสำนักงานของเธอตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่รถแท็กซี่จอดนัก เพราะเห็นได้ในระยะสายตา และถ้าขืนนั่งอยู่กับที่โดยรถยังไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเช่นนี้ มีหวังตัวเธอต้องเข้าประชุมไม่ทันเป็นแน่แท้

เมื่อคิดได้ดังนั้นสิตางศุ์จึงตัดสินใจบอกกับคนขับรถแท็กซี่วัยกลางคน ที่นั่งเปิดเพลงลูกทุ่งฟังอย่างสบายอารมณ์ แถมยังร้องคลอไปอีกต่างหาก และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวนึกถึงผู้เป็นตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเพลงที่อีกฝ่ายเปิดฟังก็เป็นเพลงที่ตาของเธอชอบฟังเช่นกัน

“คุณลุงคะ เดี๋ยวหนูลงเดินไปเองน่าจะดีกว่า”

ลุงคนขับแท็กซี่หันมายิ้มกว้าง

“ฝนยังตกหนักอยู่เลยนะหนู” ตอบพลางเพ่งมองสายฝนที่กำลังตกกระหน่ำ และชำเลืองมองผู้โดยสารสาวสวยด้วยความเป็นห่วง “แล้วหนูมีร่มมาด้วยหรือเปล่าล่ะ”

สิตางศุ์ส่ายหน้าแล้วก้มลงมองชุดที่สวมใส่ นึกด่าตัวเองอยู่ครามครัน ไม่รู้อะไรดลใจให้ตัวเองเลือกชุดกระโปรงผ้ายืดสีเทาเข้ารูป แขนยาว เว้าไหล่ แถมยาวกรอมเท้าอีกต่างหากมาสวม ซึ่งดูตามรูปการณ์แล้ว ถ้าเปียกฝนขึ้นมาสภาพคงดูไม่จืดเป็นแน่ แถมร่มก็ไม่ได้ถือติดมือมาอีกต่างหาก

โอย...วันนี้ทำไมถึงซวยอย่างนี้

แต่ใครจะไปรู้ล่ะ เพราะตอนออกจากบ้าน ฝนก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะตกเลยสักนิด จึงได้แต่ตอบเสียงอ่อยๆ ออกไปว่า

“ไม่ได้ถือติดตัวมาเลยค่ะ ตอนออกจากบ้านอากาศยังดีอยู่เลย”

“ฝนเอาแน่เอานอนกับมันไม่ได้หรอกหนู ลุงมีร่มที่ผู้โดยสารลืมไว้เมื่อวันก่อนอยู่ในรถพอดี หนูเอาไปใช้ก่อนแล้วกัน ไม่อย่างนั้นคงเปียกมะล่อกมะแล่กเป็นลูกหมาตกน้ำเป็นแน่” คนขับแท็กซี่วัยกลางคนบอกอย่างใจดี พลางหยิบร่มคันไม่เล็กนักส่งให้ผู้โดยสารคนสวย

“ขอบคุณมากค่ะคุณลุง” สิตางศุ์ยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณคนขับรถแท็กซี่วัยกลางคนผู้มากไปด้วยน้ำใจ ที่หาได้ยากยิ่งนักในสังคมคนเมืองในปัจจุบัน แล้วจึงหยิบเงินซึ่งมีจำนวนมากกว่ามิเตอร์ที่ปรากฏบนหน้าจอส่งให้ “คุณลุงไม่ต้องทอนนะคะ”

“ขอบใจมาก โชคดีนะหนู”

ร่างสูงเพรียวสมส่วนเปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วกางร่มที่ได้รับอภินันทนาการมาจากลุงคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งแม้คันจะไม่เล็กนัก ทว่าก็ยังถูกสายฝนสาดกระเซ็นใส่ กระทั่งเสื้อผ้าโดยเฉพาะชายกระโปรงเปียกปอนเป็นบางส่วน จนต้องใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่ยกชายกระโปรงขึ้น ช่างเป็นเช้าวันจันทร์ที่แสนจะทุลักทุเลสำหรับเธอจริงๆ

ครั้นสิตางศุ์ก้าวขึ้นฟุตบาทสาวเท้าเข้าไปภายในอาคารสูงได้ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นจึงรีบเดินตรงไปยังลิฟต์โดยสารแล้วกดขึ้นไปยังชั้นที่ ๒๕ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทเพอร์เฟกต์โฮม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำที่เธอทำงานอยู่ทันที

สิตางศุ์ไม่รู้เลยว่า ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตาอยู่นั้น นัยน์ตาคมกริบวาววับของเจ้าของร่างสูงผึ่งผาย ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยบนรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีดำคันหรู กำลังทอดสายตามองตามร่างระหงไป โดยไม่ให้คลาดสายตาเลยแม้สักเสี้ยววินาทีเดียว ดวงหน้าที่มักจะขรึมอยู่เป็นนิตย์แตะแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆ อย่างสมใจ

สิตางศุ์...อีกไม่นานหรอก พระอาทิตย์กับพระจันทร์จะต้องโคจรมาพบเจอกันอย่างแน่นอน

แม้พระอาทิตย์ในตำนานจะไม่มีวันได้พบกับพระจันทร์อีกเลยตราบชั่วฟ้าดินสลาย ทว่าพระอาทิตย์อย่างเขาจะไม่มีวันปล่อยให้พระจันทร์อย่างเธอคลาดจากสายตาอีกเป็นอันขาด ตราบชั่วฟ้าดินสลายเช่นกัน

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น