0

บทนำ


 

บทนำ

 

                ถ้าจะมีอะไรในโลกนี้ที่เขาจะเกลียด เขาก็ต้องบอกเลยว่า งานสังคมที่มีนักข่าวและกล้องเป็นพันๆ ตัวเช่นนี้ละที่ แมทธิว เทรเวน คนนี้จะขอหนีห่างไปให้ไกลอย่างน้อยสักร้อยหรือสองร้อยโยชน์

                ร่างสูงในชุดสูทออกงานหรูหราแต่ไม่เป็นทางการเกินไปคุยกับตัวเองผ่านกระจกเงา คิ้วหนากระตุกเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเขาลังเลว่าจะผูกไทหรือติดหูกระต่าย แต่เมื่อชั่งใจดู ไม่ต้องใส่มันทั้งคู่นั่นละ

                ชายหนุ่มได้ชื่อว่าเป็นศัลยแพทย์ทางสมองชื่อดังที่สุดแห่งแอลเอ ควบด้วยตำแหน่งรองผู้บริหารไฟแรงแห่งอาณาจักรเทรเวนแกรนด์ ผละออกมาจากกระจกเงา เพียงเพื่อมาหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเมื่อมีเสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้น

                ข้อความนั้นเป็นข้อความจากน้องสาวของเขา แสนดี เทรเวน หญิงสาวที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ล้วนอยากได้เธอมาเป็นแฟน เพราะนอกจากเธอจะสวยจนหาคนเทียบชั้นได้ยากแล้ว น้องสาวของเขายังมีชื่อเสียงและนิสัยน่าคบหามากกว่าดาราเซเลบคนอื่นๆ ในฮอลลีวูด และแสนดีก็ถือเป็นคนที่เป็นมิตรกับคนนอกมากที่สุดในบรรดาคนตระกูลเทรเวน

                น้องสาวของเขาส่งข้อความมาถามหาน้องชายคนสุดท้องของบ้าน เจ้า วิลเลี่ยม เทรเวน ที่รับปากเขากับแสนดีเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาร่วมงานประกาศรางวัลในวันนี้ แต่จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังไม่โผล่หัวมา ร้อนถึงคนที่มีหน้ามีตาที่สุดในวงการอย่างแสนดีต้องวิ่งเต้นหาตัวกันจ้าละหวั่น

                หากจะถามว่าทำไมน้องสาวเขานั้นต้องเป็นเดือดเป็นร้อนที่วิลเลี่ยมจะไม่มาร่วมงานในวันนี้ เขาคงจะตอบได้เพียงว่าเพราะแสนดีรู้จักคนในงาน และเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเธอที่ต้องลากตัวเจ้าน้องตัวแสบมางานให้ได้ เพราะวันนี้แสนดีและวิลเลี่ยมนั้นรับหน้าที่เป็นตัวแทนจากเทรเวน ส่วนตัวเขาเองนั้นไปร่วมงานแค่เพียงในฐานะคนที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล

                รางวัลนักธุรกิจไฟแรงแห่งปี ที่เขาไม่เคยคิดอยากมีเอี่ยวเลยด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นละ หมอต๊อกต๋อยอย่างเขาจะเกี่ยงงอนอะไรได้ ในเมื่อน้องสาวสั่งให้ไปร่วมงาน เขาก็ต้องไป ถึงความจริงเขาเองก็คิดจะเบี้ยวเหมือนน้องชายอยู่เหมือนกัน

                และเหตุผลที่สำคัญที่สุด เขาไม่สามารถที่จะปล่อยน้องสาวของเขา ซึ่งตอนนี้มีไอ้คนเม็กซิกันตามติดตอแยไม่ห่างให้ออกงานสังคมใหญ่เช่นนี้คนเดียว เพราะเกิดว่าไอ้หมอนั่นมันบ้าขึ้นมาแล้วลักพาตัวน้องสาวเขาไปขังไว้เหมือนที่ทำกับเพื่อนของแสนดี เขาก็แย่น่ะสิ

                อันที่จริงเขาไม่ได้จะหวงน้องสาวเกินเหตุอะไรหรอกนะ แต่ว่าไอ้วิกเตอร์นั่นมันเกินที่เขาจะรับเป็นน้องเขยไหวจริงๆ แล้วเพราะอย่างนั้น เขากับวิลเลี่ยมเลยต้องกลั้นใจ หลับหูหลับตามางานประกาศรางวัลของหนังสือบ้าอะไรนี่กับแสนดี เพื่อที่จะได้ดูแลและปกป้องน้องสาวคนสวยของเขาจากพวกผู้ชายชีกอทุกคนในงาน โดยเฉพาะไอ้เม็กซิกันตัวร้ายนั่นตามคำสั่งของคุณพ่อ เคลวิน เทรเวน

                แต่นรกเถอะ อย่าบอกนะว่าไอ้น้องชายตัวดีของเขาจะทิ้งเขาเอานาทีสุดท้ายอย่างนี้ ฝันไปเถอะไอ้วิล ถ้าฉันต้องฝืนใจไปงานนี้ แกก็ต้องไปกับฉัน

                แล้วคุณหมอหนุ่มก็ต่อสายหาคนที่ใครๆ ต่างก็ตามตัวกันให้วุ่นอย่างกับมันเป็นคนสำคัญนักหนา

 

                “ชุดนี่โป๊เป็นบ้า ฉันรู้สึกเหมือนยืนเปลือยอยู่เลย” เสียงบ่นเบาๆ ของหญิงสาวในชุดที่ในชีวิตปกติเธอคงไม่มีทางได้สวม เธอหันไปพูดกับตากล้องคู่หู เท้าเล็กขยับไปมาเมื่อเธอต้องสอดส่ายสายตาแข่งกับนักข่าวสำนักข่าวอื่นเพื่อหาเป้าหมายสำคัญซึ่งได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะมาร่วมงานในงานวันนี้ “พวกเทรเวนจะมากันตอนไหนเนี่ย งานมันจะเริ่มแล้วไม่ใช่หรือ” หญิงสาวหันไปถามเพื่อน

                “คนสำคัญน่ะ มาช้าที่สุดตลอดนั่นแหละ” คอนเนอร์ ผู้รับหน้าที่เป็นตากล้องเก็บภาพนิ่งหันมาตอบ ซึ่งวันนี้เขาเองก็อยู่ในชุดสูทเต็มยศ ผิดกับลุคประจำวัน “ใจเย็นๆ สิชาร์ลี ขวัญใจเธอมางานนี้แน่ๆ เขาถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลนะ”

                “ขอให้มาจริงๆ เถอะ ตามเป็นชาติแล้วยังไม่เคยได้เข้าใกล้ ไม่รู้เป็นคนหรือเป็นผี” ชาร์ล็อต เจมส์ หรือคนที่ใครๆ ต่างก็พากันเรียกจนติดปากว่าชาร์ลีนั้นบ่นอุบตามประสา ใบหน้าสวยที่ถูกช่างแต่งหน้าประโคมเครื่องสำอางจนสวยผิดหูผิดตากว่าทุกวันนั้นง้ำงอ เมื่อ ‘ขวัญใจของเธอ’ ที่คอนเนอร์พูดถึงนั้นช่างเป็นคนที่เจอตัวยากเสียเหลือเกิน

                “ถ้าตามชาติเดียวแล้วได้เจอ เธอก็ถือว่าโชคดีมากแล้วชาร์ลี” โรรัน ตากล้องอีกคนในทีม ซึ่งรับหน้าที่เก็บภาพเคลื่อนไหวรามือจากการตรวจสอบกล้องตัวใหญ่ในมือ แล้วเหลือบตามองชาร์ล็อตระหว่างบอกเพื่อนร่วมงาน

                “ใช่ ถ้างานนี้มันง่าย มันคงไม่ตกมาถึงเด็กฝึกงานอย่างเธอหรอกชาร์ลี” คอนเนอร์สำทับ ระหว่างก้มหน้าก้มตามองรูปผู้หญิงคนเดียวในทีมของตนในกล้องแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ “คิดเหรอว่าสาวๆ ในฮอลลีวูดไทม์ไม่มีใครไม่อยากเข้าใกล้ แมทธิว เทรเวน” พูดแล้วคอนเนอร์ก็ทำหน้าตาคล้ายขบขัน แค่นึกถึงสภาพสาวๆ ที่ทำงานกับฮอลลีวูดไทม์แต่ละคนที่สะบักสะบอมกลับมา หลังจากเสนอตัวไปขอสัมภาษณ์ แมทธิว เทรเวน แล้วก็อดขำไม่ได้

                “สงสัยสาวๆ ในฮอลลีวูดไทม์คงอ่านนิยายกันมากไป” เด็กฝึกงานหน้าง้ำ ความสวยที่ไม่ค่อยจะมีใครชื่นชมดูหม่นลงไปเมื่อขาดความสดใสที่เธอมักจะแจกจ่ายให้คนรอบข้างอยู่เป็นนิตย์ “นี่ถ้าฉันขอแลกงานกับคนอื่นได้ ป่านนี้ฉันคงได้เป็นพนักงานประจำไปแล้ว ไม่ต้องมาวิ่งเต้น คอยเทียวไล้เทียวขื่อ ซื้อของไปเซ่นแม่เลขาฯ หน้าโหดของอีตาเทรเวนเหมือนอย่างทุกวันนี้หรอก”

                เธอบ่นอีกตามเคย ซึ่งทั้งคอนเนอร์และโรรันนั้นฟังเสียจนชินหู บ่อยเสียจนรู้ว่าใส่ใจไปก็เท่านั้น เพราะอีกไม่นานชาร์ล็อตก็จะหาเรื่องใหม่มาบ่นแทนเรื่องแม่เลขาฯ หน้าห้องขาโหดของ แมทธิว เทรเวน

                “คงยากหน่อยละชาร์ลี เพราะตอนนี้ทั้งฮอลลีวูดไทม์ไม่มีใครอยากจะตามข่าว แมทธิว เทรเวน กันแล้วละ” คอนเนอร์เอ่ย “เขาลือกันว่าโดนดีกันมาทุกคน”

                “เฮอะ โดนเจ๊เลขาฯ แกสกัดดาวรุ่งละสิ” ชาร์ล็อตทำเสียงเยาะในลำคอ รู้จักความร้ายกาจของยายเลขาฯ นั่นดีทีเดียว เพราะถ้าเธอเองมีทางเลือกอื่นละก็ เธอก็ต้องขอโบกมือลาเจ๊แกเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เธอดันไม่มีทางเลือก “อีตานี่ก็ยังไง เป็นคนจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ พอเราจะเข้าไปสัมภาษณ์นะ พี่แกก็หายวับไปอย่างกับผี ไม่รู้ว่าได้กลิ่นนักข่าวหรือยังไง”

                คอนเนอร์และโรรันเหลือบมองหน้ากันด้วยสายตาที่ว่า ‘นั่นไง บ่นเรื่องใหม่อีกแล้ว’ ก่อนจะส่ายหัว ไม่ต้องพูดอะไรก็เป็นอันเข้าใจตรงกัน

                “อย่างน้อยก็นึกเสียว่าเธอจะได้เห็นหน้าหล่อๆ นั่นไปอีกสักพักไง” โรรันบอกข้อดี เพราะความหล่อของ แมทธิว เทรเวน นั้น ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังนึกชอบ ไม่แปลกใจที่ผู้หญิงทั้งโลกจะอยากนอนกับผู้ชายคนนั้น “ไม่ดีหรือ”

                “นั่นมันก็จริงของนาย” ชาร์ล็อตกลอกตาขึ้นฟ้า โดยลืมไปว่าวันนี้เธอต้องวางมาดเป็นคนสวย “เพราะถ้าพี่แกไม่หล่อล่ำน่าหม่ำเบอร์แรงขนาดนี้นะ ชาร์ลีคนนี้คงลาขาดตั้งแต่เดือนแรก”

                “อ้าว นี่ยังรู้สึกกับใครเขาเป็นอยู่หรือเนี่ย ไอ้ชาร์ลีของเรา ฉันก็นึกว่าตายด้านไปนานแล้ว” คอนเนอร์แกล้งว่า ก่อนที่เขาจะได้รับหมัดจากชาร์ล็อตที่ประเคนให้จนร้องโอย “เจ็บนะเว้ยชาร์ลี แกเห็นฉันเป็นกระสอบทรายหรือไง ต่อยมาได้นะ” คนโดนต่อยลูบต้นแขนตัวเองป้อยๆ ปากก็ด่าว่าเพื่อนผู้หญิงที่ทำตัวไม่สมเป็นผู้หญิงอย่างชาร์ล็อตไปด้วย

                “ใครใช้ให้แกมาว่าฉันล่ะ ปากดีก็ต้องโดนอย่างนี้แหละ” ชาร์ล็อตเชิดหน้าโต้ เขย่งเท้าเล็กของเธอให้สูงเพื่อหวังข่มเพื่อน แล้วก็บ่นอีกครั้ง “ไอ้รองเท้าส้นสูงพวกนี้ใส่แล้วเมื่อยเท้าชะมัดเลย ทำไมแม่พวกนี้ถึงใส่เหมือนกับไม่รู้สึกอะไรกันเลยนะ” แม่พวกนี้ที่เธอพูดถึงก็คือพวกนักข่าวสาวสวยจากสำนักข่าวอื่น

                “เขาคงชิน” โรรันออกความเห็นสั้นๆ ตามประสาคนพูดน้อย

                “หรือไม่ก็ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีใครขี้บ่นเหมือนแกไงไอ้ชาร์ลี” คอนเนอร์ว่า

                “ปากอย่างนี้อย่าแก่ตายเลยแก!” สาวสวยเพียงรูป แต่กิริยานั้นห้าวไม่ผิดไปจากผู้ชายง้างขา เตรียมยกเท้าเตะเพื่อนร่วมทีมด้วยความโมโห

                ทว่าคอนเนอร์นั้นเหมือนดวงยังไม่กุด เพราะเสียงเรียกของทีมงานที่ดูแลความเรียบร้อยส่งสัญญาณบอกให้เหล่านักข่าวที่ยืนรออยู่เตรียมตัวเข้ามาประจำที่ โดยหนึ่งทีมจะมีได้เพียงสามคนเท่านั้นเพื่อความเรียบร้อยและง่ายต่อการจัดระเบียบ

                “ฝากไว้ก่อนนะแก” ชาร์ล็อตลดขาลง กัดฟันมองหน้าเพื่อนอย่างเคียดแค้น หยิบป้ายประจำตัวมาคล้องคอก่อนจะยกมือจัดผมยาวของเธอให้เข้าทรงพอเป็นพิธี

                “เจอกันในงาน” คอนเนอร์พยักหน้า ไม่ได้เดือดร้อนที่ถูกหญิงสาวคาดโทษ เขาหยิบเครื่องมือทำมาหากินของตนติดมือมาแล้วเดินแยกออกมาจากกลุ่ม เพราะช่างภาพที่เก็บภาพนิ่งอย่างเขานั้นต้องไปปักหลักรอที่หน้างาน ผิดกับชาร์ล็อตและโรรันที่ต้องทำหน้าที่สัมภาษณ์บรรดาแขกในงานและเก็บภาพเคลื่อนไหวบริเวณพรมอย่างใกล้ชิด

                แต่นักข่าวอย่างพวกเขาก็ใช่ว่าจะสามารถเดินเตร่ไปได้ทั่ว พวกเขาต้องยืนประจำจุดที่มีป้ายชื่อสำนักข่าวของตนปักไว้ และรอดักสัมภาษณ์เหล่าเซเลบริตีที่จะต้องเดินผ่านพวกเขาและนักข่าวจากหนังสือและสื่ออีกหลายเจ้าเพื่อเข้าไปในงาน

                ตรงนี้ละที่สนุก เพราะเป็นหน้าที่ของสาวสวยอย่างเธอที่จะต้องใช้เสน่ห์ที่แทบจะไม่มีเรียกความสนใจจากเหล่าคนดังพวกนั้นให้มาหยุดที่เธอให้ได้ และแน่นอน เธอมั่นใจว่าเธอสู้นักข่าวจากที่อื่นไม่ได้ แต่เอาเถอะ อย่างไรเสียวันนี้เธอก็มีเป้าหมายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

                และคนที่เธอหมายหัวเอาไว้ว่าอย่างไรก็ต้องได้บทสัมภาษณ์ก็คือ แมทธิว เทรเวน หวานใจของเธอนั่นเอง

                “พระเจ้าขา อย่างน้อยๆ ก็ให้อีตาแมทธิวอะไรนั่นมาหยุดที่หนูสักคนก็ยังดี ได้โปรดเถอะนะคะ” ชาร์ล็อตกุมมือแน่น พร้อมอธิษฐานออกมาดังๆ จนโรรันที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หลุดยิ้มขำ “แต่ถ้าจะให้ดีเอาน้องเขาด้วยก็ได้นะคะ น้องทั้งสองคนของเขาเลย เอ่อ สรุปแล้วก็บ้านเทรเวนทั้งบ้านนั่นแหละค่ะ” เธอเสริมคำอธิษฐาน เผื่อว่าวันนี้พระเจ้าจะใจดีกับเธอเป็นพิเศษ จนโรรันที่ไม่ค่อยออกความเห็นเรื่องอะไรเอ่ยขึ้นมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้

                “โลภมากจังชาร์ลี ฉันว่าได้แค่คุณแมทธิวก็น่าจะกันตายไปได้สักพักแล้วนะ”

                “ฉัน ‘ต้อง’ ได้บทสัมภาษณ์ของตานั่นต่างหาก” ชาร์ล็อตหันมาตอบเพื่อนตาขวาง เธอตามนายแมทธิวมาหลายเดือน แต่ก็คว้าน้ำเหลวกลับไป จนว่าที่เจ้านายของเธอชักจะไม่แน่ใจว่าจะจ้างเธอเป็นพนักงานประจำดีหรือเปล่าแล้ว

                ถ้าวันนี้เธอยังพลาดอีก ตำแหน่งพนักงานประจำสายข่าวอาชญากรรมของฮอลลีวูดไทม์ที่เธอใฝ่ฝันนักหนาคงได้ลอยตามลมไปจริงๆ แน่ละคราวนี้ “ฉันจะมาตายกับอีตาผีดิบนี่ไม่ได้หรอก ฉันไม่อยากจ่ายค่าชุดนี่เองนะ” ว่าแล้วเธอก็ดึงชุดกระโปรงที่บ่นว่าโป๊นักหนาให้โรรันดู

                แต่พ่อคนพูดน้อยก็ทำแค่พยักหน้ารับรู้แล้วเมินหนี รอฟังคำบ่นต่อไปของเพื่อนร่วมงานอย่างรู้นิสัยกันดี

                “แพงขนาดนี้ ใครจะไปโง่จ่าย สู้เอางานไปเบิกเงินมาจ่ายค่าชุดนี่ดีกว่า ฟังดูฉลาดกว่าเป็นไหนๆ”

                “ขอให้เขาหยุดที่เธอแล้วกัน” โรรันอวยพร

                “ต่อให้ไม่หยุด ฉันก็ไม่ให้เขาเดินหนีฉันไปดื้อๆ อีกหรอก ฉันจะกระโดดขี่คอเขาเลย ไม่เชื่อก็คอยดู” แล้วเธอก็ทำท่าทางโมโห เข่นเขี้ยวอย่างมาดหมาย

                และโรรันก็คือโรรัน เขาเพียงแค่มองหน้าชาร์ล็อตด้วยสายตาวางเปล่า ลงมือตั้งกล้องไว้บนไหล่ เมื่อเหลือบเห็นแสงไฟในงานเริ่มสว่างขึ้นจนชาร์ล็อตหรี่ตาหนี

                “จะเปิดอะไรนักหนา พวกนี้ก็คนเหมือนกันนะ ไม่ต้องใช้แสงไฟขนาดนี้ก็มองเห็นอยู่แล้ว ไม่รู้หรือไงว่าใช้ไฟสิ้นเปลือง โลกมันยิ่งร้อนอยู่นะ!” เช่นเคย เธอก็หาเรื่องบ่นอีกจนได้

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น