1

แรกพบอริรัก


 

1

แรกพบอริรัก

 

                “เราสวยจังแสนดี” แมทธิวเอ่ยชมน้องสาวระหว่างยืนรอรับแสนดีอยู่ด้านล่างของโรงแรม

                หญิงสาวร่างระหงเดินเข้ามาหาพี่ชายที่หล่อจนเธอตาพร่าไป แสนดียิ้มกว้าง ซึ่งเธอก็ได้รับรอยยิ้มชื่นชมจากพี่ชายกลับมาเช่นกัน

                “คุณพ่อต้องโกรธมากแน่ถ้าเห็นว่าเราสวยขนาดนี้” พี่ชายคนโตแห่งบ้านเทรเวนเอ่ยเบาๆ ถอดเสื้อตัวนอกคลุมไหล่น้องสาว ก่อนจะก้าวนำแสนดีให้เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่แล้ว

                “พี่ก็หล่อมากค่ะแมท หล่อจริงๆ” แสนดีกวาดตามองพี่ชายที่หล่อกว่าทุกวันอย่างล้อเลียน แม้เธอจะคิดว่าตัวเองชินกับความหล่อของพี่ชายแล้ว แต่แมทธิวก็ทำให้ความเชื่อของเธอสั่นคลอนได้ทุกครั้งไป อย่างเช่นวันนี้ “ส่วนเรื่องคุณป๋า แสนดีดีใจที่คุณป๋าหวงมามี้มากจนไม่ยอมมางาน”

                “ถือว่าเป็นโชคดีของเราไป” แมทธิวยักไหล่ เอาจริงๆ เขาก็ไม่อยากให้พ่อของเขามางานเท่าไรนัก เพราะนอกจากท่านจะชอบทำท่าว่าจะเข้าไปควักลูกตาหนุ่มๆ ในงานข้อหามองลูกสาวคนสวยของท่านนานเกินไปแล้ว ท่านอาจจะลงมือฆ่าใครก็ตามที่เข้าใกล้ภรรยาสุดที่รักท่านมากเกินไปด้วย

                “วิลเลี่ยมว่าไงบ้างคะ ออกมาหรือยัง” หญิงสาวเงยหน้าถามเจ้าของอ้อมแขนที่ประคองเธอให้เดินขึ้นรถราวกับเธอเป็นไข่ในหิน “อย่าบอกนะว่าวิลเลี่ยมจะเบี้ยวแสนดี” พูดแล้วหน้าสวยก็ง้ำลง ส่วนคนฟังนั้นส่ายหัวเป็นคำตอบ ดันให้เธอขึ้นไปนั่งด้านในรถก่อนจะตามติดขึ้นไป

                “มันไม่กล้าหรอก” แมทธิวตอบ หน้าหล่อเหลานั้นพลอยบึ้งตึงตามน้องสาวไปด้วย “มันบอกว่ามันกำลังมา”

                “ขอให้มาจริงๆ เถอะค่ะ” แสนดีระบายลมหายใจ เอ่ยคล้ายภาวนา

                “ถ้าเจ้าวิลไม่มา พี่จะไปฆ่ามันให้แสนดีเอง” แมทธิวให้คำมั่น เสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ก่อนจะหันกลับมาเมื่อคิดเรื่องบางอย่างออก “แฟนเราน่ะ ดูท่าจะไม่รามือง่ายๆ นะ ระวังตัวไว้หน่อย” เขาเตือนน้องสาว

                ทำเอาคนมีแฟนกระแทกลมหายใจ ใบหน้าบูดบึ้งเมื่อแมทธิวย้ำเตือนให้เธอหวนคิดถึงใครคนหนึ่งที่เธอเกือบจะลืมไปแล้ว

                “เขาทำอะไรอีกคะเนี่ย” แสนดีถามอย่างขอไปที ตาคู่สวยหรี่แคบลงเมื่อตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ “หรือพี่ทำอะไรเขาอีกคะแมท”

                “ก็ทำตามที่เห็นสมควร” คุณหมอหนุ่มกระตุกยิ้ม อันที่จริงเขาไม่ได้แตะไอ้เม็กซิกันนั่นเลยสักนิด ส่วนมากจะตามอุดช่อง ไม่ให้คนของฝั่งนั้นตามตัวน้องสาวเขาได้

                หลังจากที่แสนดีไปช่วยเพื่อนที่โดนไอ้บ้าวิกเตอร์ลักพาตัวไปแล้ว น้องสาวเขาก็ถูกควานหาตัวไปทั่วทุกหัวระแหง เห็นได้ชัดเลยว่าไอ้หมอนี่ไม่ใช่หมูในอวยที่จะจัดการได้ง่ายๆ เหมือนอย่างผู้ชายที่เคยมาติดพันแสนดีคนก่อนๆ

                “แต่ยังไงเราก็ยังต้องระวังตัว หมอนั่นคงไม่เลิกตอแยเราเร็วๆ นี้หรอก ตื๊อน่าดู”

                “นี่พี่หวงแสนดีหรือคะ” คนเป็นน้องหันมาถาม ยิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นหน้าคมคายของแมทธิวบึ้งหนักขึ้น   

                “พี่เคยไม่หวงเราด้วยหรือไง” แมทธิวตอบด้วยการถามกลับ สายตาเย็นชาที่แสนดีเห็นจนชินตานั้นจ้องหน้าเธอนิ่ง “แล้วจำได้ใช่มั้ยที่พี่บอกให้ระวังตัว”

                “ทราบแล้วค่ะ จะระวังตัวอย่างที่สุดเลยค่ะ คุณเทรเวน” คนเป็นน้องยิ้มแป้น เต๊ะท่ารับคำจนคนหน้าตายหลุดยิ้ม ส่ายศีรษะกับท่าทางแสนทะเล้นของน้องสาว

                “งานนี้งานสุดท้ายนะแสนดี” แมทธิวเปรยออกมาเสียงเบา แต่คนฟังนั้นทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับปาก

                “ค่ะ งานนี้งานสุดท้ายที่แสนดีจะขอให้พี่มา”

                “เราบังคับพี่ต่างหากล่ะ” แมทธิวแย้ง หายใจแรงๆ อย่างไม่พอใจ นี่ถ้าคนที่ขอร้องไม่ใช่แสนดี อย่าหวังเลยว่าเขาจะยอมมา

                “นี่มันเป็นงานของพี่นะแมท พี่ก็ต้องมาสิ” แสนดีว่า “เกิดพี่ได้รางวัลขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”

                “ก็ให้คนอื่นรับแทนไปสิ” แมทธิวบอกวิธีแก้ไข ไม่เห็นว่ารางวัลที่ว่านี่จะมีความสำคัญกับชีวิตเขาอย่างไร “พี่ไม่ชอบออกงานแบบนี้ เราก็รู้”

                “เอาน่า งานนี้งานเดียว แสนดีสัญญา” คนเป็นน้องเกลี้ยกล่อม “แล้วถ้าเป็นเรื่องพวกนักข่าว ถ้าพี่ไม่อยากให้สัมภาษณ์ พี่ก็แค่เดินตรงเข้าไปในงานแค่นั้น รับรองว่าไม่มีใครกล้าดึงตัวพี่ไว้แน่”

                “ขอให้จริงเถอะ” แมทธิวรับคำพูดของน้องสาวอย่างขอไปที อย่างไรเสียเขาก็คงได้มีปัญหากับนักข่าวไม่จากสำนักใดก็สำนักหนึ่งจนได้นั่นละ

                ไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นอะไรกับเขานักหนา .เห็นหน้าเป็นไม่ได้ คอยแต่บินโฉบลงมาหาเหมือนเขาเป็นเนื้อสดเหม็นๆ จ้องแต่จะจิกทึ้งเอาเรื่องของครอบครัวเขาไปขาย ยิ่งตอนนี้แสนดีมีคดีกับไอ้เม็กซิกันนั่นอยู่ วันนี้คงจะไม่ใช่แค่เขาที่จะโดนแร้งพวกนั้นจ้องทึ้งเอาข่าว

 

                “ดีใจที่ได้คุยกับคุณนะคะ” ชาร์ล็อตยิ้มหวาน โบกมือลานักแสดงหน้าใหม่คนหนึ่งหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ แล้วเธอก็ชะเง้อคอมองหาคนที่เธอรอมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะสลดลงอย่างผิดหวังเมื่อหันไปเห็นนาฬิกา “ป่านนี้แล้วพวกเทรเวนยังไม่มีใครโผล่มาเลย เราจะมาเก้ออีกหรือเปล่าเนี่ย” เธอหันไปถามโรรัน ซึ่งตอบเธอได้เพียงการพยักหน้า

                “ให้ตายเถอะ นายผีดิบนั่นจะทำอย่างนี้กับฉันอีกไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม” นักข่าวสาวในชุดกระโปรงพอดีตัวโวยวาย กระทืบเท้าพอเป็นพิธีก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วมองหาคนที่กำลังมีประเด็นข่าวให้เธอเล่นเพื่อที่จะขอสัมภาษณ์ เพราะหากวันนี้เธอดันดวงซวย พลาดจากนายแมทธิวอะไรนั่น เธอจะยังพอกล้อมแกล้ม เล่นข่าวที่สังคมกำลังให้ความสนใจกันอยู่ตอนนี้เพื่อต่อชีวิต

                แต่คิดแล้วก็เซ็งจิต เพราะข่าวที่ดังโครมครามที่สุดตอนนี้หนีไม่พ้นข่าวกุ๊กกิ๊กของน้องสาวอีตาผีดิบกับหนุ่มเม็กซิกันแสนอันตรายที่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย จินตนาการออกหรือเปล่าว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของนางแบบดัง ลูกสาวเจ้าพ่อกับมาเฟียบ้าเลือดที่ทำตัวล่องหนไม่ต่างกับนายแมทธิวอะไรนี่จะขายดีขนาดไหน ยังไม่รวมความดีความชอบถ้าเธอเป็นคนหาข่าวสุดหินนี่ได้อีกนะ รับรองเลยว่าปัญหาเรื่องตำแหน่งพนักงานประจำจะกลายเป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย

                “นั่นๆ วิกเตอร์ แบล็คครอสส์” เสียงตะโกนของคนที่ยืนอยู่ต้นพรมทำให้ชาร์ล็อตหลุดจากภวังค์

                เธอรีบดันนักข่าวจากสำนักอื่นเพื่อแหวกทาง ต้องการเห็นคนที่จะเป็นแหล่งข่าวชั้นดีที่หาได้ในวันนี้หากว่าพวกเทรเวนไม่มีใครโผล่มา ทันทีที่เธอเห็นหน้าหล่อเหลา เท้าเล็กของหญิงสาวก็ก้าวถอยหลังอย่างไม่มีสาเหตุ ใบหน้าดุดันของ วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ ทำให้หัวใจที่ฟูฟ่องเมื่อครู่เหี่ยวลงพร้อมความกลัว หนำซ้ำตาสีฟ้าสว่างไสวของเขายังทำให้เธออยากจะวิ่งออกไปจากตรงนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด

                ให้ตายเถอะ น่ากลัวขนาดนี้ คงไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนกล้ายุ่งด้วยหรอก อย่าว่าแต่คุณแสนดี เทรเวน เลย

                ชาร์ล็อตสรุป ล้มเลิกแผนการสัมภาษณ์ชายหนุ่มหน้าโหดนี้ไป เพราะดูท่าแล้วข่าวของสองคนนี้คงไม่พ้นเป็นแค่ข่าวโคมลอย ก็ดูเอาสิ หน้าโหดขนาดนี้ใครจะไปชอบลง ไหนจะข่าวลือเรื่องความเลือดเย็นของเขาอีก อย่างน้อยก็เธอคนหนึ่งละที่ไม่เชื่อข่าวนี้

                แล้วดูเหมือนว่าวันนี้พระเจ้าหรือใครก็ตามที่อยู่บนฟ้าไม่ได้ใจร้ายกับเธอนัก เพราะเพียงแค่วิกเตอร์เดินเข้ามาบนพรม เสียงฮือฮาก็ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏให้เห็นร่างสูงของคนที่ชาร์ล็อตรอคอยมาตลอดทั้งวัน

                รอยยิ้มหวานขยายกว้างบนหน้างาม เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่ควงมากับผู้หญิงที่สวยจนเธอเองยังนึกอิจฉานั้นคือ แมทธิว เทรเวน

                เยส! ในที่สุดอีตาผีดิบนี่ก็มาหาเธอจนได้ แต่กว่าจะมาได้นะพ่อคู้ณ เกือบจะทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอกลายเป็นคนตกงานอีกรอบ แต่เอาเถอะ หล่อขนาดนี้ ต่อให้ลำบากกว่านี้ก็น่าจะคุ้มแสนคุ้ม ชาร์ล็อตคนนี้จะสู้ต่อไปค่ะ!

                โรรันมองเพื่อนร่วมงานที่แทบจะกระโดดตัวลอยด้วยสายตาว่างเปล่า ชาร์ล็อตคงไม่รู้สินะว่า การที่นายแมทธิวมางานมันไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมให้สัมภาษณ์เธอ

                เพื่อนที่โรรันเป็นห่วงนั้นยังไม่รู้ตัว เธอเร่งให้เขาจับภาพพี่น้องบ้านเทรเวนยิกๆ แถมย้ำนักหนาว่าตอนที่เธอสัมภาษณ์แมทธิวนั้น เขาต้องเก็บภาพให้ชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเขารับปากแล้วเธอจึงหันมายกมือสางผมยาวนั้นให้เข้าทรง พลิกกระดาษคำถามในมือที่เตรียมมาถาม แมทธิว เทรเวน โดยเฉพาะขึ้นมาเตรียมการ และรอ รอ รอ

 

                “ทางนี้ครับ! ทางนี้ แมทธิว หันมาทางนี้หน่อยครับ!” เสียงตะโกนของบรรดาช่างภาพทำให้ชายร่างสูงที่ควงมากับหญิงสาวที่การันตีได้เลยว่าสวยที่สุดในงานนั้นรู้สึกหงุดหงิดจนอยากชักสีหน้าใส่ แต่มารยาทและชื่อเสียงของครอบครัวทำให้แมทธิวต้องซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ใต้หน้ากากเย็นชาที่ใครๆ ต่างพูดกันว่าหล่ออย่างนั้นหล่ออย่างนี้

                ร่างสูงเดินเข้ามาบนพรม โอบแขนโอบเอวน้องสาวสุดที่รักของตนจนเกิดเสียงฮือฮา แต่เขาก็ไม่คิดจะใส่ใจ เพราะคนที่ยืนรออยู่กลางพรมก่อนหน้าพวกเขานั้นคือ วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ ตัวอันตรายที่เขาจะปล่อยให้มันเข้าใกล้น้องสาวของเขาไม่ได้เด็ดขาด

                ไอ้หมอนี่ มันมางานแบบนี้ด้วยงั้นหรือ คุณหมอหนุ่มคิดกับตัวเองเงียบๆ หน้าหล่อเหลานั้นเข้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเหล่าช่างภาพเรียกร้องจะเอารูปเดี่ยวของเขาเสียให้ได้ แมทธิวนั้นถือว่าเป็นคนที่มีความอดทนที่สุดในบรรดาผู้ชายทั้งสามของบ้านเทรเวน เพราะนอกจากที่เขาจะไม่ชักสีหน้าหรือหันไปด่านักข่าวพวกนั้นแล้ว คุณหมอหนุ่มยังปลดแขนออกจากเอวบางของน้องสาว ก้าวออกมายืนให้ห่างแสนดีพอสมควรตามคำขอของช่างภาพ

                แมทธิวหันตามเสียงร้องสั่งของนักข่าวพวกนั้นอยู่นานหลายนาที จวนความอดทนที่เป็นที่เล่าลือของเขาจะหมดลงนั่นละ ความสนใจของพวกนักข่าวกับช่างภาพพวกนี้ก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยังทายาทคนสุดท้องของบ้านเทรเวน น้องชายของเขาที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามางานด้วยสภาพที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย

                “อย่างน้อยแกก็น่าจะให้เกียรติเจ้าของงานเขาหน่อยนะวิลเลี่ยม” แมทธิวเตือนน้องชาย หลังจากที่ได้ยินคำพูดแก้ตัวของเจ้าน้องชาย เชิงว่าจะแต่งมาทำไมให้วุ่นวาย อีกเดี๋ยวก็โดนจับเปลี่ยนชุดอยู่ดี

                แต่น้องชายเขามันก็เป็นเจ้าสายลมที่ลอยละลิ่วปลิวไปเรื่อยๆ ตามใจชอบ เพราะนอกจากวิลเลี่ยมจะไม่เดือดร้อนในคำค่อนแคะของเขาแล้ว มันยังตอบกลับด้วยคำพูดกวนประสาทอีกต่างหาก

                เพื่อเป็นการตัดปัญหา แมทธิวจึงชวนน้องๆ ให้เดินเข้าไปในงาน “เข้างานกันเถอะ แขกเริ่มทยอยมากันเยอะแล้ว มาเถอะแสนดี” ครั้งแรกนั้นคุณหมอหนุ่มหมายใจว่าจะควงน้องสาวเข้าไปในงาน แล้วปล่อยให้น้องชายคนเล็กฉายเดี่ยวเข้างานให้สมฉายาพ่อคนเจ้าชู้ของมัน และอีกอย่างเจ้าวิลก็ต้องถูกพวกนักข่าวดักสัมภาษณ์เรื่องแฟนเก่าคนล่าสุด ซึ่งเป็นคดีใหญ่ทีเดียว

                แต่วิลเลี่ยมนั้นกลับไม่ยอมง่ายๆ เพราะนอกจากจะเบียดเขาจนเกือบเสียหลักแล้ว มันยังชิงสอดแขนเข้าไปที่แขนอีกข้างของแสนดี จนคนในงานส่งเสียงฮือฮาไปตามๆ กันอีกระลอก

                “เล่นอะไรของแกไอ้วิล” แมทธิวหรี่ตา ถามเสียงลอดไรฟัน แต่คนฟังกลับลอยหน้าลอยตาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

                “วันนี้แสนดีสวยที่สุดในงาน ผมอยากควงคนที่สวยที่สุด”

                “ไอ้น้องเวร” เสียงบริภาษจากปากหนาของพี่ชายเรียกรอยยิ้มขบขันให้มาประดับใบหน้างามของน้องสาวที่เป็นคนกลาง ก่อนที่ทั้งสามจะเดินเคียงกันผ่านหน้ามาเฟียเม็กซิกันซึ่งมาติดพันแสนดีอยู่ตอนนี้ไป

                ซ้ำร้ายไอ้น้องชายตัวดีของเขายังไม่วายทิ้งระเบิดเอาไว้ให้ไอ้หมอนั่นอกแตกตายเล่นๆ นี่ถ้าสายตาไอ้หมอนั่นสามารถเผาน้องชายเขาได้ ป่านนี้วิลเลี่ยมคงกลายเป็นจุณไปแล้ว

                แมทธิวครุ่นคิดกับตัวเองเล่นๆ สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเป็นคนที่ดึงแขนออกมาจากแสนดี ไม่อยากให้น้องสาวกลายเป็นตัวประหลาดด้วยการควงผู้ชายสองคนเข้างานพร้อมกัน และเขาก็ได้รอยยิ้มขอบคุณจากแสนดีเป็นของตอบแทน

                “คุณแมทธิวค้า” เสียงเรียกหนึ่งดังแหวกอากาศแข่งกับเสียงอ้อนวอนของนักข่าวสาวคนอื่นๆ ดังเข้ามากระทบหู เสียงนุ่มนั้นคุ้นหูจนแมทธิวทำผิดความตั้งใจก่อนหน้า ว่าเขาจะทำเป็นหูทวนลมกับเสียงเรียกของพวกนักข่าวแล้วตรงเข้าไปในงานเลย “ทางนี้ค่ะ ทางนี้”

                เจ้าของตาคมหันไปตามเสียงเรียก และทันทีที่เห็นคนที่กระโดดโบกมือให้เขาราวกับสนิทกันมานมนาน ความรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าก็ฟาดลงมากลางหัว หัวใจเหมือนหยุดเต้นไปชั่วครู่

                “ได้โปรดเถอะค่ะ ได้โปรด” เสียงร่าเริงด้วยความดีใจเมื่อครู่แผ่วลง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย ผิดกับตัวเธอที่ดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่ไหว

 

                “ได้โปรดเถอะค่ะ ได้โปรด” ไม่นะ อย่าไปง่ายๆ แบบนี้นะ ชาร์ล็อตคร่ำครวญ หน้าสวยสลดลงจนเพื่อนร่วมงานเห็นใจ นี่ถ้าเป็นเวลาปกติโรรันคงไม่แปลกใจถ้าเธอจะลงไปกอดขาอ้อนวอนผู้ชายคนนั้น

                แต่กลางงานใหญ่เช่นนี้ นอกจากชาร์ล็อตจะลงไปเกาะขาอ้อนวอน แมทธิว เทรเวน ไม่ได้แล้ว เธอยังแทบจะเข้าใกล้เขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำไมน่ะหรือ ก็สาวๆ จากสำนักข่าวอื่นนั้นต่างก็เบียดตัวกันเข้ามาหาเหล่าทายาทตระกูลเทรเวนราวกับมดได้กลิ่นขนมหวานน่ะสิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองหนุ่มหล่ออย่างแมทธิวกับวิลเลี่ยม

                นักข่าวต๊อกต๋อยแถมเกิดมาเตี้ยอย่างชาร์ล็อตที่ชั่วโมงบินยังไม่ถึงขั้นจึงโดนเบียดมาอยู่ข้างหลังง่ายๆ เช่นนี้อย่างไรเล่า

                “ไม่นะ ยายพวกนี้นี่” ชาร์ล็อตชักสีหน้า เมื่อใบหน้าหล่อๆ ของคุณแมทธิวนั้นกำลังลอยออกห่างเธอไปไกลกว่าเดิม ทำให้คนที่กำลังจะพลาดโอกาสทองครั้งสำคัญอย่างเธออดออกปากบริภาษสาวๆ ที่ดันเธอออกมาไม่ได้ “พวกหล่อนได้งานแล้วนะ ฉันนี่สิยังไม่ได้ ทำไมต้องมาเบียดเบียนกันด้วย” เธอบ่นอุบตามนิสัย แต่น้ำตากลับรื้นขึ้นมาคลอหน่วยด้วยความผิดหวัง เมื่อคิดว่าคงไม่ได้บทสัมภาษณ์จากแมทธิวทั้งๆ ที่เธอควรจะได้

                “โธ่ คุณแมทธิว!” เธอตะโกนด้วยความหวังเฮือกสุดท้าย เขย่งปลายเท้าให้สูงเมื่อเธอดันตัวเล็กที่สุดในบรรดานักข่าวสาวสวยพวกนี้ กรรมของเธอจริงๆ เล้ย!

                 เมื่อกี้เธอเรียกให้เขาหันมาหาเธอได้แล้วนะ! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะยายพวกนี้เธอคงได้คุยกับเขาแล้ว บ้าเอ๊ย!

                “ว่าไงครับ” เสียงทุ้มเหมือนระฆังช่วยชีวิตดังมาจากข้างบน ทำเอาชาร์ล็อตเกือบล้มหัวคะมำ ตาของเธอพร่าไปเพราะไม่อยากจะเชื่อสายตา แมทธิว เทรเวน อยู่ตรงหน้าเธอ เขาอยู่ตรงหน้าเธอจริงๆ ให้ตายสิ!

                “คุณแมทธิว!” เธอตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยความตื่นเต้น ความผิดหวังเมื่อครู่หายไปราวกับมันไม่เคยมีอยู่ในหัวใจ เร็วพอๆ กับรอยยิ้มกว้างที่แต้มขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ

                “ครับ คุณเรียกผมหลายครั้งแล้ว” แมทธิวตอบมาพร้อมรอยยิ้มเก้อ สายตาคมจ้องใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มดีใจของชาร์ล็อตเขม็ง จนกลายเป็นเธอที่สะบัดร้อนสะบัดหนาว ยกมือขึ้นมาลูบผมตัวเองอย่างเคอะเขินโดยไม่รู้ตัว “เรียกเสียงดังเชียว ตัวแค่นี้เอง”

                เธอคงไม่ได้ดูประหลาดอะไรหรอกใช่มั้ย

                “อ้อ ถ้านั่นทำให้คุณไม่พอใจก็ขอโทษด้วย” ชาร์ล็อตละล่ำละลักบอก หน้าเสียไปทีเดียวเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดอย่างนั้น

                “ไม่เป็นไรหรอก เสียงคุณเบากว่าคนอื่นๆ มาก” ชายหนุ่มที่ใครๆ ต่างพูดตามกันว่าเย็นชานั้นกำลังพูดจาเล่นหัวอยู่กับนักข่าวสาว ทำให้บรรดาหญิงสาวที่โดนแมทธิวแหวกให้หลบทางเพื่อมาหาคนตัวเล็กนั้นมองตากันปริบๆ ด้วยความคาดไม่ถึง ไม่เว้นแม้แต่น้องสาวและน้องชายของแมทธิวเองก็ตาม

                แสนดีและวิลเลี่ยมพลอยหยุดเดินตามพี่ชาย ก่อนจะมองตามแผ่นหลังแกร่งของพี่ชายคนโตเมื่อแมทธิวนั้นลงมือแหวกทางนักข่าวที่ห้อมล้อมเขาเพื่อไปหานักข่าวอีกคน!

                วันนี้ฝนจะตกในที่ร่มหรือยังไง ทำไมพี่ชายที่ขึ้นชื่อว่าไม่ถูกกับนักข่าวสุดๆ เดินเข้าไปหานักข่าวเสียเองอย่างนี้

                “อ้อ ฉันชาร์ล็อต จากฮอลลีวูดไทม์ค่ะ” ชาร์ล็อตรับคำแล้วอ้อมแอ้มแนะนำตัว ยืนสลับเท้าไปมาระหว่างเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบของเขาไปตามมารยาท “วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้างคะแมทธิว”

                “ดีมากครับ” เขาตอบสั้นๆ อย่างสงวนถ้อยคำ แต่สายตาคมกริบยังทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดไม่เปลี่ยน

                “ฉันได้ยินว่าคุณได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นั่นคงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก คุณตื่นเต้นหรือเปล่าคะ” เธอถามอย่างร่าเริง แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรกับสายตานั้นเสีย

                “เอิ่ม ผมควรต้องรู้สึกอะไรด้วยหรือครับ” แมทธิวถามด้วยความไม่เข้าใจจริงจัง หน้าหล่อเหลานั้นหันมาจ้องหน้าชาร์ล็อตอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เป็นการเอาเป็นเอาตายที่ทำให้คนโดนจ้องรู้สึกเหมือนว่าตัวเธอลีบเล็กลง จนกลายเป็นเด็กสาววัยมัธยม ที่กำลังเขินอายเพราะโดนดวงตาสีฟ้าคู่นี้หลอมละลาย

                “แหม ถ้าเป็นฉัน​ ฉันคงจะตื่นเต้นที่ฉันอาจจะเป็นคนที่ได้รับรางวัล” ชาร์ล็อตยิ้มหวานกลบเกลื่อน คราวนี้จึงกลายเป็นชายหนุ่มที่ต้องรีบเสหลบตา

                “ผมว่าคนที่ได้รับการเสนอชื่อคนอื่นๆ คงจะรู้สึกอย่างนั้น แต่วันนี้ผมเหนื่อยมาก ผมเลยต้องตอบตามตรงว่าตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนอกเสียจากอยากกลับบ้านไปนอน”

                ชาร์ล็อตหน้าเหลอกับคำตอบนั้นก่อนจะสะบัดหัว กระแอมสองสามครั้งเพื่อเรียกสติ แล้วถามคำถามใหม่กับชายหนุ่ม “เอ่อ ว้าว คำตอบน่าประทับใจมากค่ะ”

                …

                “ฉันรู้ว่าคุณยุ่งมาก ทั้งเรื่องงานของคุณและธุรกิจของครอบครัว” ชาร์ล็อตเกริ่น “ฉันเห็นคุณออกงานน้อยมาก ไม่ทราบว่าเพราะอย่างนี้หรือเปล่าคะ”

                “ครับ” แมทธิวพยักหน้า เอนตัวเข้าหาหญิงสาวจนชาร์ล็อตหายใจสะดุด แต่เธอก็ยังยิ้มสู้

                “แล้วอะไรทำให้คุณมาร่วมงานนี้ได้คะคุณแมทธิว งานนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ”

                “ตอนแรกก็ไม่มีครับ แต่ตอนนี้มีแล้ว” แมทธิวมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตามีความหมาย แต่ก็ยังตอบคำถามสั้นๆ เหมือนอย่างเคย ตาคมมองสำรวจเครื่องหน้าของชาร์ล็อตก่อนหัวคิ้วหนาจะย่นเข้าหากัน

                “นั่นแปลกมากเลย” ชาร์ล็อตหลุดพูดออกมาเบาๆ อย่างไม่ได้ตั้งใจ ด้วยเพราะเห็นว่าปกติงานใหญ่กว่านี้มาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมไปร่วมงาน  

                “ครับ แปลก” แมทธิวพยักหน้ารับแกนๆ

                “แล้วเรื่องคดีความของคุณไปถึงไหนแล้วคะคุณแมทธิว” ชาร์ล็อตตัดเข้าคำถามที่จะทำให้เธอได้งาน โดยไม่สนเรื่องความเหมาะสม และไม่ได้เตรียมใจมารับสายตาเกรี้ยวกราดจาก แมทธิว เทรเวน

                “อะไรนะ!” แมทธิวย่นหน้า ใบหน้าคมคายที่ไม่ค่อยจะแสดงอาการยินดียินร้ายไม่ว่ากับเรื่องอะไร ตอนนี้เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และโทสะ ชนิดที่น้องชายอย่างวิลเลี่ยมต้องรุดเข้ามาดักหน้า สะกิดพี่ชายเพื่อเรียกสติ

                “เฮ้ๆ ใจเย็นน่าพี่ชาย” วิลเลี่ยมแกล้งเสเข้ามายืนเคียงพี่ชาย

                รอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยของเขาทำให้ชาร์ล็อตผละห่างโดยไม่รู้ตัว ไม่เท่านั้น คนเจ้าเสน่ห์แห่งบ้านเทรเวนยังเผื่อแผ่รอยยิ้มไปยังตากล้องที่กำลังเก็บภาพเขากับพี่ชายด้วย

                “ผมกับพี่ชายคงต้องขอตัวแล้วนะครับคุณผู้หญิง ขอโทษด้วย เราไม่สะดวกจริงๆ” เขาพูดแล้วก็รั้งร่างสูงของแมทธิวหลบฉากออกไป

                ชาร์ล็อตจึงทำได้เพียงพยักหน้าหงึกๆ อย่างไม่มีทางเลือก แล้วกะพริบตาปริบๆ มองตามแผ่นหลังแกร่งของหนุ่มหล่อทั้งสองไปด้วยสายตาละห้อยอย่างเสียดาย

 

                “เธอบ้าไปแล้วหรือไง!” โรรันกระชากเสียงถามเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็เป็นปฏิกิริยาที่เห็นได้ยากอีกเช่นกัน “เสียสติไปแล้วหรือไง ถึงได้ถามเขาออกไปแบบนั้นชาร์ลี”

                “เอ๊ะ แล้วนายจะมาดุฉันทำไมล่ะเนี่ย” ชาร์ล็อตเท้าสะเอว เพิ่งตระหนักได้ว่ามือของเธอกำลังสั่น สงสัยเพราะเสียขวัญตอนที่โดนนายผีดิบนั่นขึ้นเสียงใส่แน่ๆ หน็อย ตาผู้ชายคนนี้ยังไงกันแน่ เดี๋ยวยิ้มหวาน เดี๋ยวขึ้นเสียง เธอละตามอารมณ์ไม่ทัน

                มือบางยกขึ้นมาแตะหน้าอก เพื่อตรวจดูว่าหัวใจเธอหยุดเต้นไปเพราะความกลัวหรือเปล่า ให้ตายเถอะ หัวใจเธอเต้นเร็วมากเลย

                พระเจ้าช่วย! ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน ชาร์ล็อตสรุปกับตัวเอง เท้าเล็กก้าวถอยหลังไปหลายก้าว บอกให้รู้ว่าเธอขวัญเสียมากพอๆ กับหน้าที่แทบไร้สีเลือดของเธอ

                “แล้วเธอสมควรโดนหรือเปล่าล่ะ” โรรันย้อนถาม “เธอไม่โดนเขาฆ่าตรงนี้ก็ดีแค่ไหนแล้วชาร์ล็อต เธอนี่มันบ้าจริงๆ”

                “เอ้า ถ้านายไม่ให้ฉันถามเรื่องนี้ แล้วนายจะให้ฉันถามเรื่องที่เขาเป็นเกย์หรือยังไง” ชาร์ล็อตย้อนคืนอีกหน ถ้าจะโทษเธอที่โพล่งถามเรื่องคดีความออกไป ก็ต้องโทษนายแมทธิวนั่นละที่จ้องเธอเอาเป็นเอาตายจนเธอเสียสมาธิ ลืมคำถามที่เตรียมมาไปจนหมด

                แล้วอีกอย่าง เรื่องคดีการฆาตกรรมเศรษฐีเจ้าของอู่เรือที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ก็เป็นข่าววงในมากๆ เธอต้องวิ่งจนขาขวิดกว่า ‘เพื่อน’ ที่ประจำอยู่นิวยอร์กไทม์จะยอมกระซิบบอกเธอ ว่า แมทธิว เทรเวน นั้นเป็นลูกชายแท้ๆ ของชายที่เพิ่งโดนฆาตกรรมไป

                และนั่นก็อาจจะทำให้เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับต้นๆ ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าของอู่ต่อเรือเจ้าใหญ่เพียงไม่กี่เจ้าในอเมริกา ซึ่งก็ต้องมีสมบัติพัสถานอยู่ไม่น้อย

                นายแมทธิวนี่เลยมีเหตุจูงใจในการฆาตกรรมมากที่สุด เพราะพินัยกรรมของผู้ชายที่เพิ่งตายไปได้ยกเงินทุกเหรียญทุกเซนต์ให้เขาเพียงคนเดียว ส่วนลูกสาวกับภรรยาใหม่นั้น ไม่ได้อะไรเลย!

                แต่สำหรับชาร์ล็อตแล้ว เรื่องนี้มันไร้สาระสิ้นดี เพราะถ้าเธอเป็นแมทธิว เอาแค่เป็นหมอเฉยๆ ที่ไม่ได้รวมถึงการเป็นรองประธานบริษัทอย่างเขา เธอก็ไม่มีทางเสียเวลาลงมือฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองหรอก สู้รออีกไม่กี่สิบปี ผู้ชายคนนั้นก็ต้องแก่ตายอยู่ดี อาจจะรอนานหน่อย แต่คุณค่าก็เท่ากันแถมไม่ต้องเหนื่อย เพราะต้องคอยระแวงว่าจะโดนจับอีกหรือเปล่า

                ไม่ต้องพูดถึงว่า แมทธิว เทรเวน เป็นถึงรองประธานบริษัทที่มีทรัพย์สินอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าหมื่นหมื่นล้าน ถึงจะเป็นแค่ลูกเลี้ยงแต่ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าบ้านนี้รักกันอย่างกับอะไรดี เพราะฉะนั้นมันเลยไม่สมเหตุสมผลที่เขาจะฆ่าพ่อแท้ๆ เพื่อเงินไม่กี่ล้านเหรียญ ในขณะที่เขามีเงินอยู่แล้วในมือไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน คิดดูสิ ต่อให้เด็กอมมือก็ดูออกว่านี่เป็นข่าวโคมลอย

                อาจจะเป็นข่าวโคมลอยพอๆ กับข่าวของคุณแสนดีกับมาเฟียเม็กซิกันนั่นเลยทีเดียว

                แต่เอาเถอะ ในเมื่อได้เบาะแสมาอย่างนี้ เธอก็ต้องขุดคุ้ยข่าวไปให้บก. ขาโหดของเธอให้จงได้ ไม่ว่าข่าวจะโคมลอยหรือลอยโคม ชาร์ล็อตคนนี้ก็ไม่มีทางเลือก เพราะเธอมีตำแหน่งพนักงานประจำเป็นเดิมพัน!

                “เพราะถ้าจะถามว่าเขาชอบนอนกับผู้ชายด้วยกันหรือเปล่า ฉันก็คงโดนมองว่าสอดรู้สอดเห็นไม่ต่างกัน”

                “ไม่ต่างกับผีน่ะสิ เธอถามเขาออกไปอย่างนั้นเดี๋ยวก็โดนฟ้องเอาหรอก” โรรันว่า “คุณแมทธิวเขายังไม่โดนตั้งข้อหานะชาร์ลี”

                “ฉันก็แค่ถามเขาว่า ‘คดีเป็นยังไงบ้างคะ’ ไม่ได้กล่าวหาอะไรเขาสักหน่อย” ชาร์ล็อตอ้อมแอ้ม ย้ำเสียงหนักตรงคำพูดที่โรรันกังวลว่าจะทำให้เธอโดนฟ้องแล้วโคลงหัว “อีกอย่างหลังจากที่ฉันตามเฝ้าคุณแมทธิวอะไรนี่เช้าเย็นมาไม่รู้กี่เดือนนะโรรัน ฉันพนันได้เลยว่าเขาไม่ฟ้องฉันเพราะแค่ฉันพูดไม่เข้าหูเขาหรอก เขาเป็นผู้ชายประเภทเลี่ยงได้ก็เลี่ยงน่ะ เขารักสงบม้าก” คำพูดสุดท้ายนั้นหญิงสาวกลอกตาขึ้นฟ้าไปด้วยขณะพูด จะพูดว่ารักสงบก็ไม่ถูกนักหรอก ต้องบอกว่าคุณแมทธิวอะไรนี่ไม่ชอบให้มือตัวเองเปื้อนเลือดจะถูกกว่า เพราะจากที่เธอหาข้อมูลมา อีตาสุดหล่อนี่จะเป็นคนจัดการปัญหาเกือบทุกอย่างให้ครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สมองไม่ก็เงินแก้ไขปัญหา

                เรื่องการใช้กำลังนั้นเธอยังไม่เห็น ตอนนี้ยังไม่เคยเห็น

                “ยังไงก็เถอะ คราวหน้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน” โรรันแนะตามประสารุ่นพี่ที่ทำงานมานานกว่าชาร์ล็อต และเห็นเพื่อนร่วมอาชีพจำนวนไม่น้อยที่ต้องหมดอนาคตเพราะการไม่ระวังคำพูด “ยิ่งบ้านเทรเวนด้วย อย่าเอาหัวตัวเองไปเสี่ยงนัก ไม่ได้ข่าวน่ะไม่แย่เท่าไม่มีอาชีพนะ”

                “แต่เผอิญว่าถ้าฉันไม่ได้ข่าวนายเทรเวนนี่ ฉันก็ไม่ได้มีอาชีพน่ะสิ” ชาร์ล็อตยิ้มจอมปลอมให้โรรัน

                “อย่างนั้นก็ยิ่งต้องระวัง” ชายหนุ่มย้ำด้วยความเป็นห่วง

                “ทราบแล้วค่า” ชาร์ล็อตพูดเสียงยานคาง ล้อเลียนโรรันเหมือนเด็กกำลังล้อเลียนผู้ใหญ่ เธอจึงได้สายตาดุๆ จากรุ่นพี่เป็นรางวัล

 

                นี่มันอะไรกัน ทำไมผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ควรจะท่องเที่ยวรอบโลกอย่างมีความสุขตามที่เธอฝันกลับมาอยู่ที่นี่ เป็นนักข่าว แถมยังออกปากถามเขาเรื่องที่แม้กระทั่งคนในครอบครัวไม่กล้าจะเอ่ยปากถาม

                ชาร์ล็อต...เธอไม่ควรจะมาโผล่ที่นี่ และไม่ควรอย่างมากที่เธอจะมาทำงานเป็นนักข่าว อาชีพที่เขาไม่เคยถูกชะตาด้วยเลยสักครั้ง นี่สวรรค์เล่นตลกอะไร!

                “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันคะ” เสียงของแสนดีทำให้เขาหันไปมอง ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าที่แมทธิวจะรู้ว่าน้องสาวถามถึงใคร “ทำไมพี่ถึงเดินไปหาเธอล่ะแมท พี่รู้จักเธอหรือ”

                แสนดีถามด้วยความสงสัย ไม่เคยเห็นแมทธิวให้สัมภาษณ์กับใครที่ไหน อย่าว่าแต่เดินไปหาด้วยความเต็มใจเหมือนอย่างวันนี้เลย

                “นั่นสิแมท ดูท่าจะสอดรู้สอดเห็นเอาเรื่อง แถมยังรู้เรื่องคดีด้วยนะ” วิลเลี่ยมออกความเห็นแล้วเบ้ปาก ผู้หญิงคนนั้นก็หน้าตาพอดูได้อยู่หรอกนะ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับแสนดีและไวโอเล็ตแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็คงจะเหมือนดอกไม้สีสวย ในขณะที่แสนดีเป็นเพชรและไวโอเล็ตเป็นไข่มุก

                มีคุณค่าต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ใครเป็นคนมอง แต่ก็ต่างล้วนเป็นที่หนึ่งในหมู่เดียวกัน

                “เคยรู้จักนานมาแล้ว” แมทธิวสลัดความโกรธออกจากหัว กลับมาตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งตามแบบฉบับ “แต่เธอจำพี่ไม่ได้หรอก”

                “แปลกนะ ไม่เคยเห็นใครที่จำพี่ไม่ได้” แสนดีงึมงำกับตัวเองเบาๆ เธอเห็นนักข่าวคนนั้นเพียงไกลๆ เลยไม่เห็นว่าหล่อนหน้าตาเป็นอย่างไร

                “ในที่สุดก็มีผู้หญิงที่ลืมความหล่อของพี่ลง ขอบคุณพระเจ้า” วิลเลี่ยมทำท่าดีอกดีใจเกินเหตุ

                “เธอไม่เคยจำอะไรได้ทั้งนั้นแหละ” ความประชดประชันในน้ำเสียงของพี่ชายทำให้เหล่าน้องๆ พากันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

                “ผู้หญิง” วิลเลี่ยมย่นจมูกว่า เลยได้หยิกแรงๆ จาก ‘ผู้หญิง’ คนข้างๆ จนเขาร้องโอดโอย

                “พูดอย่างนี้หมายความว่าไงฮะ พี่ไม่ใช่ผู้หญิงหรือไง” แสนดีเข่นเขี้ยวใส่น้องชาย

                “แหม แสนดีเป็นผู้หญิงก็จริง แต่แสนดีเป็นผู้หญิงเทรเวนไง มันไม่เหมือนกันสักหน่อย” คนกะล่อนอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน ซบไหล่พี่สาวพร้อมประคองเอวบางไว้เหมือนอย่างที่ทำจนเป็นนิสัย “ไปเถอะ ทีมงานเขาเร่งแล้ว”

                แสนดีถอนหายใจกับความเจ้าเล่ห์ของน้องชาย “จับไม่ได้ไล่ไม่ทันเชียวนะพ่อวิลเลี่ยม มันน่าตีจริงๆ” หญิงสาวกัดฟันพูดอย่างหมั่นไส้น้องชาย แต่กระนั้นเธอก็ยอมเดินตามแรงประคองของเขาเพื่อไปเตรียมตัวหลังเวที เหลือแต่แมทธิวที่ต้องนั่งประจำที่รอฟังการประกาศรางวัลไปเงียบๆ แต่ในหัวของเขานั้นกลับครุ่นคิดเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งไม่ตก

                เริ่มตรงที่ว่าเธอกลับมาที่อเมริกาตั้งแต่เมื่อไร และคนของเขาพลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร และทำไมเธอถึงจับพลัดจับผลูมาทำงานที่เขาเกลียดเข้าไส้ โดยที่เขาไม่แม้แต่จะระแคะระคายเลยสักนิด!

                ชาร์ล็อตช่างเป็นคนที่น่าโมโหไม่เปลี่ยนเลย ไม่ว่าจะกี่ปีเธอก็ไม่เคยเปลี่ยน ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ

 

                “ไงชาร์ลี ได้ยินพวกนักข่าวสำนักอื่นลือกันให้แซ่ดว่าเธอได้สัมภาษณ์ แมทธิว เทรเวน งั้นหรือ” คอนเนอร์ที่สะพายกล้องบนบ่าเดินมาเอ่ยถามเพื่อนรุ่นน้องในทีมด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเอ่ยชมว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่บ่อยนักหรอกที่เขาจะยอมหยุดตอบคำถาม เก่งมากชาร์ลี”

                “ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรอกคอนเนอร์ แต่ก็ถือเป็นฤกษ์ที่ดีใช่มั้ยล่ะ” หญิงสาวเดินหลบมุมออกมาเพื่อที่คอนเนอร์จะส่งรูปไปที่ฮอลลีวูดไทม์ ให้ทางนั้นจัดการเอาภาพนิ่งไปอัปเดตความเคลื่อนไหวทางเว็บไซต์ของสำนักข่าว จึงลืมเห็นสายตาซังกะตายของโรรัน

                “ดีแน่นอนสิ วันนี้เราเป็นสำนักข่าวเดียวที่ได้บทสัมภาษณ์คุณแมทธิวนะ ยิ่งถ้าวันนี้เขาได้รางวัลละก็ รับรองว่าเราจะยิ่งกว่าถูกรางวัล”

                “แหม งั้นก็ขอให้เขาได้รางวัลทีเถอะ” ชาร์ล็อตถูมือเข้าหากัน

                รอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างมีแผนการของเธอทำให้โรรันไม่สบายใจ มีเขาคนเดียวหรือเปล่าที่เห็นว่าคุณแมทธิวไม่พอใจที่ชาร์ล็อตถามเรื่องคดีความ ‘มากๆ ’ น่ะ

                “ฉันจะได้หาโอกาสสัมภาษณ์เขาหลังงานจบ เขาจะเปิดให้นักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใช่มั้ย”

                “เปิดสิ” คอนเนอร์บอก “แต่ไม่รับปากนะว่าคุณแมทธิวนี่จะอยู่จนถึงตอนนั้น แต่เราก็น่าจะพอมีหวังอยู่”

                “เขาไม่อยู่หรอก” โรรันแย้งขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เขาไม่อยู่หรอก ไม่เห็นสายตาที่เขามองนายวิกเตอร์คนนั้นหรือไง พวกเขาไม่มีทางทนอยู่จนงานจบหรอก ดีไม่ดีอาจจะแอบออกไปหลังจากประกาศรางวัลที่คุณแมทธิวถูกเสนอชื่อเสร็จ”

                “ไม่หรอกน่า ทำอย่างนั้นน่าเกลียดแย่เลย” ชาร์ล็อตพูด แต่เป็นการให้กำลังใจตัวเองเสียมากกว่า ก่อนหน้าสวยจะเปลี่ยนเป็นคล้ายคนที่กำลังกลืนของขมลงคออย่างยากเย็นเมื่อเอ่ยว่า “ฉันหวังว่าพวกเขาจะคิดแบบเดียวกันนะ”

                “หวังต่อไปเถอะ” โรรันแนะสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจคอนเนอร์ที่กำลังส่งรูปและรายงานให้สำนักข่าว

                เมื่อพวกเขาจัดการส่งรูปแล้วรายงานสั้นๆ ไปให้ที่สำนักข่าวแล้ว ทั้งสามก็เดินตามทางเข้ามายังฮอลล์ที่จัดงาน โดยครั้งนี้จะมีเพียงคอนเนอร์ที่ได้สิทธิ์ลงไปยืนใกล้บริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อเก็บภาพนิ่ง ส่วนโรรันกับชาร์ล็อตนั้นต้องแยกออกมานั่งบริเวณที่เกือบจะเรียกว่าอยู่ด้านหลังสุดของฮอลล์

                แต่ชาร์ล็อตไม่ได้เกี่ยงงอนเรื่องที่ต้องนั่งไกลเวที เพราะเธอไม่ได้สนใจการประกาศรางวัลนี้อยู่แล้ว แต่ที่ทำให้เธอขมวดคิ้วหนักก็คือ

                “นั่งไกลขนาดนี้ เราจะไปทันนักข่าวจากสำนักอื่นหรือโรรัน” ชาร์ล็อตกระซิบถามเพื่อน ก่อนจะบ่นอุบอิบถึงสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นกังวล “ฉันยิ่งขาสั้นแล้วแถมยังไม่ถนัดใส่ส้นสูงอีกต่างหาก”

                “ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าคุณแมทธิวอยู่จนถึงงานจบจริงๆ เขาก็ไม่มีทางให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไหนหรอก” โรรันบอกตามจริง “ถ้าวันนี้เธอโชคดีไปตลอด เขาอาจจะได้ยินเสียงเรียกของเธออีกครั้งก็ได้”

                “คิดแล้วก็แปลกเนาะ ทั้งๆ ที่คุณแมทธิวอะไรนี่หยิ่งแสนหยิ่ง แถมไม่ค่อยจะญาติดีกับนักข่าวอย่างพวกเรา ทำไมบก. เราถึงอยากได้ข่าวเขานักหนา”

                “เพราะผู้หญิงทั้งรัฐพร้อมที่จะตายขอแค่ให้รู้เรื่องราวของเขาละมั้ง” คำพูดของโรรันทำให้คิ้วข้างหนึ่งของชาร์ล็อตเลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับไอ้เรื่องความหล่อไม่บันยะบันยังของเขา

                นี่เธอเห็นอยู่ตำตา รู้ดีทีเดียวว่าเขาหล่อแค่ไหน แต่ผู้หญิงทั้งรัฐนี่นะ? ไม่พูดเกินไปหน่อยหรือ

                และเหมือนโรรันจะเดาสีหน้าเพื่อนร่วมงานออก เขาจึงชิงบอกว่า “ใช่ ทั้งรัฐเลย ฉันไม่ได้พูดเกินไป เพราะคุณแมทธิวทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมฉลาดสุดๆ”

                “เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ใช่ว่าเขาจะชอบผู้หญิงพวกนั้นนี่” ชาร์ล็อตเอ่ย สีหน้ายังคงยุ่งเหยิงเพราะคิดตามคำพูดของโรรันให้วุ่นไปหมด “เขาลือกันไม่ใช่หรือว่าคุณแมทธิวเป็นเกย์”

                “แล้วยังไง” คราวนี้เป็นโรรันที่เป็นคนเลิกคิ้ว

                “ก็เป็นเกย์ไง” ชาร์ล็อตย้ำคำเดิม

                “นี่เธอเกิดยุคไหนชาร์ลี สมัยนี้เขารักกันได้หมดนั่นแหละ” ชายหนุ่มที่มีเลือดอเมริกันเต็มเปี่ยมว่าเสียงดัง “เราจะรักใครก็ได้น่ะ มันไม่ได้มีตัวกำหนดตรงคำว่าเกย์หรือเลสเบี้ยนหรอกนะ”

                “ได้ยังไงล่ะ”

                “ฉันเห็นว่าเธอไปอยู่ฝั่งเอเชียนานหรอกชาร์ลี ฉันจะบอกอะไรให้” โรรันหยุดพูด สูดหายใจเข้าปอดเพื่อสะกดความรำคาญ “เดี๋ยวนี้เขารักกันได้หมดแล้ว จะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คงจะประมาณ ‘ก็แค่มนุษย์รักกับมนุษย์ไงล่ะ’ ”

                “โอ้…” คนที่ไปอยู่ฝั่งเอเชียนานอ้าปากค้างอยู่เกือบนาทีก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ

                โอเค มนุษย์รักมนุษย์ ฟังดูสมเหตุสมผลและยุติธรรมดี

                อย่างนี้มนุษย์อย่างเธอก็มีสิทธิ์จะรักใครก็ได้น่ะสิ ชักจะชอบความคิดนี้แล้วแฮะ

                “ฉันชอบจัง ฟังแล้วดูยุติธรรมดี” ชาร์ล็อตอ้อมแอ้มบอกหลังจากใช้เวลาทำความเข้าใจกับตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ “แบบนี้ใครๆ ก็มีหวังกับคุณแมทธิวของฉันน่ะสิ”

                “เขาไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่” โรรันหลุดขำ เมื่อหันมาเห็นอาการย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจของชาร์ล็อต

                “ก็เป็นตั้งแต่ฉันตามไปเฝ้าเขาเช้าเย็น” หญิงสาวสรุปอย่างเอาแต่ใจ “แล้วก็เป็นไปจนกว่าฉันจะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ เพราะฉันจะผูกติดเขาไปจนกว่าฉันจะได้ข่าวเขาไปให้บก.”

                “อย่างนั้นเธอก็ต้องผูกติดกับเขาตลอดไปนั่นแหละ” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ นี่ชาร์ล็อตคิดว่าเรื่องหาบทสัมภาษณ์ของผู้ชายคนนี้มันจะง่ายหรือยังไง “เขาไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรอก อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่”

 

                แม้ชาร์ล็อตจะบอกว่าเธอไม่ได้ตื่นเต้นกับงานประกาศรางวัลในค่ำคืนนี้เท่าไรนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่านิตยสารเล่มนี้จัดงานได้น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว การแสดงและพิธีกรที่มักปล่อยมุกขำๆ มาทำให้เธอหัวเราะได้ตลอดเวลาสองชั่วโมง

                การประกาศรางวัลดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงรางวัลที่คุณแมทธิวได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ซึ่งจะถูกประกาศโดยน้องๆ ของเขา คุณแสนดีและคุณวิลเลี่ยม เทรเวน แม้ชาร์ล็อตจะเห็นครอบครัวนี้มาจนชินตา แต่ก็ต้องยอมรับว่า วันนี้ทายาทบ้านเทรเวนดูดีผิดหูผิดตาสมชื่อตระกูลที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยหล่อกันทุกคน ยิ่งคุณแสนดีแล้วด้วยนั้น ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดชื่นชมความงามแบบนั้นไม่ได้ และเธอก็อิจฉาความสมบูรณ์แบบนั้นอยู่นิดๆ ด้วยละ

                พระเจ้านี่ช่างไม่ยุติธรรม ให้หน้าสวยๆ ผู้หญิงคนนั้นมาแล้วยังแถมขาที่ยาวสุดๆ นั่นมาอีก แต่กับเธอละก็ดันให้ความสูงมาแค่ร้อยห้าสิบแปด แถมหน้าตาก็ยังให้มาแค่พอไปวัดไปวา เฮ้อ รอให้เธอตายเมื่อไรก่อนเถอะ เธอจะไปจัดการบ่นให้พระองค์ฟังจนหูชาแน่ เชอะ!

                คุณแมทธิวได้เสนอชื่อเข้าชิงร่วมกับนักธุรกิจอีกสองคน หนึ่งในนั้นก็คือคนที่กำลังเป็นข่าวว่ากุ๊กกิ๊กกับน้องสาวของเขา วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ นั่นเอง ถึงเธอจะอยากเชียร์คุณแมทธิวให้ชนะแบบไม่ลืมหูลืมตาแค่ไหน แต่ชาร์ล็อตก็ไม่สามารถหลับหูหลับตา ลืมความจริงที่ว่าคู่แข่งในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้ทั้งสามคนเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจมาก และเขี้ยวลากดินกันสุดๆ ทุกคนด้วย

                แต่ วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ จะมีภาษีดีกว่าคุณแมทธิวก็ตรงที่เขาบริหารบริษัทของเขาด้วยตัวเองคนเดียว ในขณะที่คุณแมทธิวยังมีพ่อบุญธรรมเป็นคนดูแลและให้คำปรึกษาอยู่อีกทอด ถ้า วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ จะได้รางวัลนี้ไปก็คงไม่มีใครกล้าโต้แย้งเรื่องนี้

                ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็อยากให้คุณแมทธิวของเธอชนะอยู่ดี และเมื่อมาถึงเวลาที่หญิงสาวบนเวทีประกาศรางวัลจริงๆ ชาร์ล็อตก็อดตื่นเต้นแทนเขาไม่ได้ ยิ่งเมื่อผลออกมาว่าเขาได้รางวัล เธอเลยชกหมัดกลางอากาศแล้วร้อง เยส! ออกมาเบาๆ

                “ดีใจด้วยนะ ขวัญใจเธอนี่เก่งจริงๆ” โรรันหันมาพยักหน้า เอ่ยชม พร้อมปรายตาไปที่หนุ่มร่างสูงซึ่งกำลังเดินไปยังเวทีด้วยฝีเท้าสม่ำเสมอ

                “เขาหล่อจังเลย” ชาร์ล็อตเองก็มองตามแผ่นหลังนั้นตาปรอย ก่อนจะเบนสายตาไปที่จอขนาดใหญ่ข้างเวทีแล้วพึมพำ “จะมีใครในโลกที่หล่อกว่าเขาไปได้อีกนะ ฉันละอยากรู้จริงๆ”

                “ถ้าหน้าตาหล่อกว่าก็คงจะพอหาได้ แต่ถ้าจะหาคนเทียบเรื่องอื่นๆ ก็คงจะยากหน่อย” โรรันออกความเห็น

                “ฉันไม่แปลกใจแล้วทำไมเขาถึงไม่มีแฟน” เธอโพล่งออกไปก่อนจะขมวดคิ้วใส่โรรันอย่างครุ่นคิด

                “ก็เธอบอกว่าเขาเป็นเกย์” ชายหนุ่มกระซิบ

                “ไม่ใช่อย่างนั้น ดูหน้าเขาสิ” ชาร์ล็อตชี้ไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่ตอนนี้มีสามพี่น้องตระกูลเทรเวนกอดกันกลมอยู่บนหน้าจอ “ดูสิโรรัน”

                “ฉันไม่เห็นอะไรเลย” เขามองไม่เห็นว่าอะไรในตัวแมทธิวที่ทำให้ชาร์ล็อตตื่นเต้นขนาดนี้

                “หน้าเขาไงล่ะ!” เธอว่าเสียงดัง ไม่ใส่ใจที่โรรันจะกลอกตาใส่เธอแล้วพูดต่อว่า “เขาหล่อมาก หล่อเกินไป ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมกับเขาหรอก”

                “หล่อเกินไป? นี่น่ะหรือเหตุผลของเธอ” โรรันกลั้วหัวเราะในลำคอ ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจกับคำตอบของเพื่อนร่วมงาน

                “ใช่ คนดีๆ ที่ไหนจะหล่อขนาดนี้” ชาร์ล็อตพยักหน้า โบกมือโบกไม้เพื่อประท้วงคนที่สร้างผู้ชายคนนี้ขึ้นมา “ดูหน้าเขาสิ ไหนจะสมองเขาอีก มันจะสมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว!”

                “เฮ้อ…” โรรันถอนหายใจเสียงดัง เลิกสนใจท่าทางตื่นเต้นของหญิงสาวข้างตัวแล้วกลับมาตั้งใจฟังคำพูดของแมทธิวที่กำลังเอ่ยขอบคุณครอบครัวที่ทำให้เขาได้รางวัลนี้ ก่อนที่เขาจะทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณน้องๆ ของเขาที่ช่วยสนับสนุนและช่วยเหลือ

                คำพูดของชายบนเวทีไม่ทำให้โรรันแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รับรางวัล ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่น่าชื่นชมและถ่อมตัว ทุกคำพูดของเขานั้นยกความดีความชอบทั้งหมดให้ครอบครัว รวมทั้งการแสดงความเคารพต่อหุ้นส่วนที่อายุมากกว่าเขาได้อย่างน่าชื่นชม โรรันจึงอดหันไปมองหน้าของ ‘เจ้าของคุณแมทธิว’ ที่นั่งอยู่ข้างตัวไม่ได้ว่าเธอจะมีปฏิกิริยากับคำพูดนั้นอย่างไร

                ชาร์ล็อตนั่งย่นหน้า ยกมือขึ้นกอดอกมองหน้าของชายหนุ่มในจอขนาดใหญ่อย่างคิดไม่ตกและไม่พอใจเล็กๆ ซึ่งโรรันไม่สงสัยเลยว่าเธอไม่พอใจชายคนนั้นเพราะอะไร จะเรื่องอะไรได้อีกนอกเสียจากเรื่องที่คุณแมทธิว ‘หล่อเกินไป’

                เสียงปรบมือดังสนั่นฮอลล์ทำให้ชาร์ล็อตสะดุ้งหลุดจากภวังค์ เธอรีบดันตัวขึ้นมานั่งหลังตรงแล้วปรบมือตามคนในงานแม้จะไม่รู้ว่าทำไปทำไมก็ตามที

                “ฉันเกลียดเขา” เธอผรุสวาทออกมาเบาๆ จนคนข้างตัวรีบหันหน้ามามอง

                “อะไรนะ” โรรันถาม ไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินไป

                “ฉันเกลียดเขา” ชาร์ล็อตย้ำ หน้าเล็กบูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะบอกเหตุผล “เขาสมบูรณ์แบบเกินไป โลกนี้ไม่ยุติธรรม ฉันเกลียดเขา”

                “เฮอะ นั่นคงจะเป็นปัญหาของเธอคนเดียวแล้วละ” โรรันหัวเราะหึๆ แล้วเหยียดยิ้มบอกเพื่อนร่วมงาน “เพราะฉันว่าคุณแมทธิวของเธอคงไม่แยแสว่าเธอจะรักหรือเกลียดเขาหรอก”

                ชาร์ล็อตฟังคำพูดนั้นแล้วเม้มปาก มองใบหน้าหล่อเหลาที่เธอเพิ่งตัดสินใจว่าจะไม่ชอบหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด ผู้ชายคนนี้ทำอะไรให้พระเจ้ากัน ทำไมเขาถึงได้เกิดมามีทุกอย่าง ทั้งมันสมองระดับอัจฉริยะยังอายพร้อมกับไอ้หน้าหล่อๆ นั่นอีก

                เธอไม่มีทางชอบคนที่เกิดมาเพื่อทำร้ายคนทั้งโลกอย่างเขา เธอไม่มีทางชื่นชมเขา ไม่มีทางที่จะชอบเขาอีกคนหรอก

                หลังจากบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีทางเป็นเหยื่อหน้าหล่อๆ นั่นเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ แล้ว ชาร์ล็อตก็หันมาทุ่มความสนใจทั้งหมดให้แก่การประกาศผลรางวัลบนเวทีต่อ ซึ่งหลังจากที่เธอรู้แล้วว่าคุณแมทธิวของเธอเป็นคนได้รางวัล ผลของรางวัลอื่นๆ ก็ไม่น่าสนใจขึ้นทันที ชาร์ล็อตถึงกับอ้าปากหาวหวอดด้วยความเบื่อ

                จนกระทั่งร่างระหงของลูกสาวแห่งตระกูลเทรเวนปรากฏขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งด้วยชุดกระโปรงสั้น อวดขาสวยๆ ให้คนในงานได้ยลกันเป็นบุญตา ชาร์ล็อตจึงหลุดปากร้องวู้แล้วทำตาโตอย่างตื่นเต้นดีใจ

                “อะไรกันชาร์ลี เธอนี่มันแปลกพิกล เกลียดพี่ชายเขา แต่พอกับน้องสาวนี่ตาโตเป็นไข่ห่าน” โรรันหันมาค่อนแคะ “เป็นผู้หญิงจริงๆ หรือเปล่าเธอเนี่ย”

                “ไอ้บ้า! สวยขนาดนี้ใครจะไม่ชอบ” เธอเอ็ดเพื่อนร่วมงาน “หรือแกจะเถียงว่าแกไม่ชอบคุณแสนดีฮะโรรัน”

                “ก็ต้องชอบสิ ใครจะไม่ชอบของสวยๆ งามๆ” โรรันตอบ หน้าคมยิ้มกว้างออกมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในงานประกาศรางวัล ดวงตาเปล่งประกายวิบวับด้วยความสุขเมื่อมองคนในจอขนาดใหญ่

                คุณแซนดีของเขา

                ชาร์ล็อตเองก็ชื่นชมใบหน้าสวยๆ นั้นตาลอยด้วยความชื่นชม ความอิจฉาก่อนหน้านี้ลอยหายไปทันทีที่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนบนหน้าของคุณแสนดี รอยยิ้มแบบนี้ ไม่แปลกใจทำไมเธอถึงมีข่าวว่ามาเฟียเม็กซิกันตามตอแย ใครล่ะจะไม่หลงเสน่ห์ความสวยและรอยยิ้มหวานๆ นี่ ใครที่จะต้านทานความสวยของผู้หญิงคนนี้ได้บ้าง

                เธอพนันได้เลยว่าไม่มี

                “ตายโหง หมอนั่นได้รางวัลได้ไงวะ” โรรันอุทานด้วยเสียงร้อนรนผิดวิสัย จ้องมองจอใหญ่ตาแทบถลนออกมาจากเบ้าเมื่อ วิกเตอร์ แบล็คครอสส์ ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งก่อนจะเดินตรงไปที่เวทีเพื่อรับรางวัล นักธุรกิจทรงเสน่ห์ที่สาวๆ อยากจูบด้วยมากที่สุด

                อี๋ สาวที่ไหนอยากจูบกับอีตาหน้าโหดนี่กัน นับคะแนนผิดหรือเปล่าเนี่ย ชาร์ล็อตเบ้หน้าเมื่อเห็นชื่อรางวัลที่มาเฟียหน้าโหดรายนี้เพิ่งได้รับไป

                “รับๆ แล้วรีบไปเลยนะนายหน้าโหด อย่าแตะคุณแสนดีของฉันเชียวนะ” ชาร์ล็อตเข่นเขี้ยวบอกชายหนุ่มบนหน้าจอ ซึ่งเธอบอกได้เลยว่าขนาดเธอนั่งมองเขาผ่านจอจากตรงนี้ยังรู้สึกถึงสายตาที่เขาใช้มองคุณแสนดีคนสวยของเธอเลย นายมาเฟียคนนี้คิดอะไรกับคุณแสนดีคนสวยเห็นๆ  

                “ไป๊ๆ ชิ่วๆ” เธอส่งเสียงไล่อย่างไม่นึกอาย พอๆ กับโรรันที่กระสับกระส่าย อยู่ไม่สุข เพราะกลัวว่าขวัญใจของเขาจะโดนคนที่มีชื่อเสียงไม่ดีทำมิดีมิร้าย

                “รีบๆ ลงมาสักทีสิวะ ไอ้หมอนี่” ชายหนุ่มบอกอย่างไม่พอใจ “จะพิรี้พิไรอะไรนักหนา”

                “เฮ้ย!!!”

                เสียงอุทานที่ครั้งแรกชาร์ล็อตเข้าใจว่ามีเพียงเธอนั้นกลายเป็นว่าเป็นเสียงอุทานเดียวกับคนในฮอลล์ ภาพบนหน้าจอที่มีคุณแสนดี นางแบบซึ่งชาร์ล็อตเองเหมารวมว่าเป็นคนสวยของตนนั้นกำลังโดนปล้ำจูบโดยมาเฟียหน้าโหดที่เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น

                ไม่นะ คุณแสนดีคนสวยของเธอจะแปดเปื้อนกับผู้ชายชื่อเสียงร้ายกาจแบบนายวิกเตอร์นี่ไม่ได้นะ! เธอไม่ยอม!

                ยังไม่ทันที่ชาร์ล็อตจะลุกขึ้นมาโวยวาย จู่ๆ หน้าจอก็ถูกตัดกลายเป็นหน้าจอดำสนิท

                “ลุกๆ ชาร์ลี ไปเร็ว” โรรันบอกเพื่อนร่วมงานที่ยังงงงวย ตามเหตุการณ์ไม่ทัน ผิดกับเขาซึ่งตั้งกล้อง เตรียมพร้อมเก็บภาพเรียบร้อยจนต้องออกปากเร่ง “เร็ว! ชาร์ลี นักข่าวสำนักอื่นเขาไปกันหมดแล้ว”

                ไม่ต้องรอให้ชายหนุ่มพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เพียงได้ยินว่านักข่าวจากสำนักอื่นออกหน้าไปก่อน ชาร์ล็อตก็ก้มลงถอดรองเท้าส้นสูง ลุกขึ้นวิ่งตามกลุ่มนักข่าวคนอื่นๆ ไป โดยอาศัยความตัวเล็กของเธอลัดเลาะไปจนเกือบแซงคนอื่นๆ ได้ ด้านโรรันนั้นดูเหมือนว่าความสูงของเขาจะสร้างปัญหาให้ก็คราวนี้ เพราะนอกจากเครื่องมือทำมาหากินที่ใหญ่เทอะทะแล้ว ขนาดตัวของเขายังทำให้เขาหาช่องเบียดตากล้องคนอื่นๆ ไปหาเพื่อนร่วมงานตัวเองไม่ได้

                ชาร์ล็อตเบียดนักข่าวคนอื่นออกมา วิ่งตามหลังบอดีการ์ดร่างยักษ์ของตระกูลเทรเวนมาติดๆ โดยทุกอย่างนั้นต้องยกความดีความชอบให้ตัวอันแสนกะทัดรัดของเธอทั้งหมด

                ไม่แค่ตากล้องในงานเท่านั้นที่ตามถ่ายรูปนางแบบสาว ปาปารัซซีที่ดักรออยู่ก่อนหน้าก็กรูกันเข้ามาเก็บภาพทายาทแห่งบ้านเทรเวนที่กำลังหนีนักข่าวเอาไว้เหมือนกัน ทว่าโทสะของคนบ้านเทรเวนไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาลองดีหรือท้าทายเล่นๆ ได้ วิลเลี่ยมสบถด่าไม่ไว้หน้า และปัดกล้องทุกตัวที่จ่อไปทางพี่สาวของเขาออก จนมีบางตัวหล่นกระแทกพื้นเสียหาย

                พอๆ กับพี่ชายของเขาที่เป็นคนแหวกทางบรรดานักข่าวพลางข่มขู่ด้วยสายตาและสีหน้าเย็นชา ความโกรธที่ไม่สามารถบรรยายได้ของแมทธิวทำให้ชาร์ล็อตครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่ชอบสายตาคมที่จ้องมายังเธอเหมือนประณามและผิดหวัง จนหญิงสาวต้องกลั้นใจลดมือที่กำลังเก็บภาพลง ยอมแพ้ที่จะทำข่าวฉาวโฉ่ของคุณแสนดีไป เพียงเพราะสายตาของ แมทธิว เทรเวน ที่ใช้มองเธอ

                ชาร์ล็อตหยุดเท้า ล้มเลิกความพยายามที่จะเบียดเสียดกับกองทัพช่างภาพและนักข่าว แล้วมองตามแผนหลังแกร่งของทายาทคนโตแห่งตระกูลเทรเวนที่กำลังก้าวขึ้นรถไปด้วยหัวใจเบาหวิวเพราะความรู้สึกผิด

                ดวงตาสีฟ้าสว่างไสวของเขาที่มองเธอราวกับเธอเป็นคนทรยศทำให้ชาร์ล็อตหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกเหมือนเธอกำลังทำผิดอย่างใหญ่หลวง เขามองเธอเหมือนกับเธอกำลังทรยศความไว้ใจของเขา นั่นทำให้ชาร์ล็อตไม่สบายใจเอาเสียเลย

                สายตาแบบนั้น เธอเคยเห็นมาก่อนหรือเปล่านะ...ชาร์ล็อตถามตัวเองอย่างสับสน คลับคล้ายคลับคลาว่าเธอเคยเห็นสายตาแบบนี้จากที่ไหนสักแห่งเมื่อนานมาแล้ว ทว่าความคิดของเธอก็ถูกขัดจังหวะโดยเพื่อนร่วมทีมที่ชื่อคอนเนอร์

                “ได้เรื่องมั้ยไอ้ชาร์ลี” คอนเนอร์เกาะไหล่บางถามเพื่อนที่เขาเห็นเธอไม่ต่างจากเพื่อนผู้ชายอย่างสนิทสนม “ฉันตามนายวิกเตอร์ไป แต่ไม่ทัน ชิ่งกลับไปได้เสียก่อน”

                “ไม่ คุณแมทธิวกับวิลเลี่ยมเอาเสื้อคลุมหน้าคุณแสนดีเอาไว้ อย่าว่าแต่เราเลย คนอื่นๆ ไม่มีใครได้อะไรมากหรอก” ชาร์ล็อตสั่นศีรษะ เธอก้มหน้าลดเสียงลงจนเหลือเพียงเสียงกระซิบเมื่อเอ่ยว่า “คุณวิลเลี่ยมชกกล้องแตกไปตั้งหลายตัวแน่ะ”

                “โหดจริง” คอนเนอร์ทำหน้าเหยเก กอดเครื่องมือทำมาหากินของตัวเองแนบอกแน่นอย่างไม่รู้ตัว

                “โหดมาก” เธอว่าแล้วทำหน้าตาใส่อารมณ์ ปัดความรู้สึกพรั่นพรึงเล็กๆ เพราะสายตาเย็นชาของผู้ชายที่ชื่อแมทธิว ออกไปจากหัว แล้วกลับมาเป็นเธอที่แสนแปร๋นและขี้บ่นอีกครั้ง “นี่บทสัมภาษณ์คุณแมทธิวที่ฉันอุตส่าห์ตะโกนจนคอแตกกว่าจะได้มาก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ” เธอว่าแล้วย่นจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ ดูท่าแล้วเรื่องที่จะเป็นข่าวใหญ่ของเย็นวันนี้ และพาดหัวข่าวใหญ่ของหนังสือซุบซิบในวันพรุ่งนี้ คงหนีไม่พ้นการปล้นจูบคุณหนูบ้านเทรเวนอย่างอุกอาจโดยมาเฟียตระกูลแบล็คครอสส์

                “ไม่ได้เรื่องหรือ” โรรันที่เดินมาสมทบเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มถามแม้จะพอเดาคำตอบได้ และเขาก็ได้คำตอบเป็นการส่ายหัวเบาๆ จากทั้งคอนเนอร์และชาร์ล็อต เขาจึงส่ายศีรษะตามเพื่อนร่วมงานด้วยความเสียดายและเซ็งที่ขวัญใจของเขาถูกไอ้โรคจิตปล้นจูบกลางเวทีประกาศรางวัล “บ้าชะมัด ฉันคงต้องชิงตัดนิ้วของเอลลี่ทิ้งก่อนที่เธอจะใส่สีตีไข่คุณแซนดีของฉันในคอลัมน์ของเธอวันพรุ่งนี้” เขาเอ่ยด้วยอารมณ์เป็นครั้งแรก

                เอลลี่คือนักข่าวสายบันเทิง เจ้าของคอลัมน์ซุบซิบของดารา เซเลบในหนังสือพิมพ์ฮอลลีวูดไทม์ และเธอก็เป็นแฟนเก่าของโรรันที่จบกันไปไม่ค่อยสวยนัก เธอมักแก้เผ็ดโรรันทุกครั้งที่มีโอกาส เอลลี่จะทำทุกสารพัดวิธีเพื่อเอาคืนแฟนเก่าเกินกว่าที่โรรันจะจินตนาการได้ ไม่เว้นแม้แต่การใช้หน้าที่การงาน เขียนข่าวพาดพิงถึงบรรดานางแบบที่โรรันชื่นชอบจนเกือบจะโดนฟ้องมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เข็ด และครั้งนี้เอลลี่ก็คงไม่ปล่อยผ่าน เพราะคุณแซนดีคนนี้ เป็นยิ่งว่าขวัญใจของโรรันเสียอีก

                “นายยังเก็บกุญแจอะพาร์ตเมนต์เธอไว้นี่ เอาไว้จัดการคืนนี้ก็ยังไม่สาย” คอนเนอร์แนะเพื่อน เขาจึงได้สายตาขุ่นขวางจากโรรันมาเป็นของตอบแทน

                “หุบปากไปเลยไป” โรรันสบถลอดไรฟัน หายใจฟืดฟาดเมื่อคิดภาพสีหน้าเยาะเย้ยของแฟนเก่าที่เขาจะต้องเผชิญในวันพรุ่งนี้

                “ถ้าแฟนเก่านายหนักมือ ฉันรับรองเลยว่าเธอได้ซวยแน่”​ ชาร์ล็อตออกความเห็น ยังจำสายตาของแมทธิวได้ไม่ลืม “คุณแสนดีไม่ใช่คนที่เอลลี่จะเอามาเขียนสาดเสียเทเสียได้ง่ายๆ หรอก เตือนเธอหน่อยก็ดีนะโรรัน”

                “เธอไม่ฟังฉันหรอก” โรรันปฏิเสธอย่างเย็นชาด้วยรู้จักแฟนเก่าของตนดี “เอลลี่เป็นคนที่เหลือทนมากจริงๆ ขืนฉันเตือนเธอคงหนักมือเข้าไปใหญ่ คราวนี้แหละ นอกจากเธอจะไม่ได้ไปนอนคุกแล้ว อาจจะถูกอุ้มฆ่าไปเลย”

                “อย่าพูดเรื่องนี้เลย” คอนเนอร์ส่งเสียงเยาะก่อนจะหันไปมองหน้าชาร์ล็อตซึ่งก็มีแววขยาดพอกันกับเขา “เรื่องของใครก็ให้คนนั้นรับผิดชอบไป แต่เอลลี่คงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก”

                “ใครจะรู้” ชาร์ล็อตยักไหล่กับคำพูดของคอนเนอร์ เอี้ยวหน้ามองตามนักข่าวที่วิ่งออกมาจากงานพร้อมกับเธอเดินกลับเข้าไปในงานแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ “ไม่นะ นี่ยังไม่จบเรื่องกันอีกเหรอ” เธอโอดครวญเหมือนเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้กินยาขม

                “มาเถอะ ทนอีกหน่อย” โรรันวางมือบนบ่าเพื่อนร่วมงาน บังคับให้ชาร์ล็อตเดินตามนักข่าวคนอื่นๆ ไป แม้เธอจะมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็ตามที “ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้เธอไม่ต้องเข้าสำนักข่าวตอนเช้า”

                เขาซึ่งเปรียบเสมือนพี่เลี้ยงของชาร์ล็อตให้คำมั่น ทำให้สีหน้าคนที่ต้องกลับเข้าไปในงานประกาศรางวัลต่อแช่มชื่นขึ้น

                “ไม่เข้าเลยไม่ได้เหรอ” เธอต่อรอง

                “ได้…” คำตอบของโรรันทำให้ชาร์ล็อตหน้าบาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเก้อและบูดบึ้งในที่สุด “แล้วไม่ต้องมาอีกเลยตลอดไป”

                “พูดเล่นแค่นี้ทำเป็นจริงจัง” ชาร์ล็อตบ่นอุบ หน้าบึ้งขึ้นระหว่างเดินกลับเข้างาน

                แต่ชายหนุ่มที่เดินตามหลังเธอกลับไม่เอ่ยปลอบ รู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้านี้ไม่ต้องการคนเอาอกเอาใจเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ แค่ปล่อยเธอไปอีกหน่อยเธอก็หาเรื่องบ่น และนั่นหมายถึงว่าเธอหายงอนเรียบร้อยแล้ว

                “พูดก็พูดเถอะ ถ้าไม่เห็นกับตาฉันคงไม่เชื่อว่านายแบล็คครอสส์นั่นจะกล้าทำเรื่องพรรค์นี้กับคุณแสนดีได้” เธอพูดขึ้นมาลอยๆ “คนอะไรแย่จริงๆ ลูกเขามีพ่อมีแม่”

                นั่นไงละ ว่าไว้ไม่มีผิด โรรันและคอนเนอร์มองหน้ากันโดยไม่ต้องนัดหมาย สีหน้าซังกะตายของทั้งสองต่างบอกสิ่งที่พวกเขาคิดออกมาโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาเดา ก่อนจะพากันส่ายศีรษะอย่างปลงตกแล้วเดินตามหลังคนที่บ่นไม่หยุดกลับเข้าไปในงาน เพื่อทำหน้าที่ของตนต่อจนเสร็จ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น