10

เผลอจูบ เผลอมีใจ


บทที่ ๑๐
เผลอจูบ เผลอมีใจ

 

 เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องซ้อม มือที่เกาะเกี่ยวก็คลายออกทันที ดราก้อนมองไปรอบๆ เขาเพิ่งมีโอกาสเข้ามาในบ้านของเหวินลู่ชิง ไม่นึกว่าคนที่เคยย้ำว่าไม่อยากให้ลูกสาวประกวดร้องเพลงจะลงทุนสร้างห้องซ้อมที่ครบเครื่องขนาดนี้

ผนังรอบห้องบุด้วยวัสดุเก็บเสียงอย่างดี ฝ้าเป็นสองชั้น ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกต่อกับห้องควบคุมซึ่งมีอุปกรณ์สำหรับปรับแต่งเสียงเหมือนกับในห้องอัดเสียงในสตูดิโอชั้นนำ ฝากหนึ่งเป็นเครื่องดนตรี ซึ่งมีทั้งเปียโนและกีตาร์ ลำโพงขนาดใหญ่เครื่องเสียงครบชุดตั้งอยู่บนพื้น มองแค่มองยี่ห้อของมันก็รู้ว่าราคาแพงมาก ผนังด้านซ้ายเป็นกระจกใส ดราก้อนลองผลักประตูและพบว่ามีประตูบานนี้มีสองชั้น ด้านหลังคือห้องซ้อมเต้นขนาดใหญ่ คงเป็นพื้นที่สำหรับหยางอิงซ้อมเต้น พื้นทำจากวัสดุชั้นเยี่ยม ผนังฝั่งหนึ่งเป็นกระจกขนาดใหญ่ มีเครื่องเสียงวางอยู่อีกชุด 

บ้านของเหวินลู่ชิงใหญ่กว่าดราก้อนมาก พื้นที่ใช้สอยมากกว่าหลายเท่า อีกทั้งยังมีคนงานอยู่เป็นจำนวนมาก มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิส หยางอิงสามารถทำทุกอย่างได้ในบ้านหลังนี้ แต่น่าแปลกที่หญิงสาวผู้เพียบพร้อมกลับนั่งคู้ตัวอยู่บนพื้น มือสองข้างกอดตัวเองแน่นๆ ชายหนุ่มเหลือบมองและพบว่าหยางอิงกำลังร้องไห้ 

“เอ้า เป่าปี่อีกแล้ว เธอนี่เป็นยังไงนะ เอะอะก็ร้องไห้” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าส่งให้ แต่หล่อนปัดออกอย่างไม่ไยดี

“นายยุ่งอะไรด้วย ออกไปให้พ้น ฉันอยากอยู่คนเดียว”

“เฮ้ย ไหงงั้นล่ะ ไหนเธอบอกพ่อว่าคิดถึงฉันไม่ใช่หรือ”

“ฉันแค่ประชด ไม่เข้าใจหรือไง ออกไป”

ดราก้อนกอดอกมองหญิงสาว เขาแค่นเสียง “ถ้าฉันยอมออก เธอก็ไม่ได้เอาคืนป๊าเธอน่ะสิ”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา มองดราก้อนอย่างประหลาดใจ “นี่นายมีแผนการดีๆ งั้นหรือ”

“เล่นมุกเด็กขี้แยอย่างเธอรับมือไม่ไหวหรอก ประเดี๋ยวป๊าเธอหาของมาประเคนให้หน่อยก็ใจอ่อน”

“ไม่มีทาง ฉันเกลียดป๊า ป๊าเอาแต่หลงนังนั่น”

“พูดไม่เพราะแล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นงั้นหรือ ไม่คิดหรือว่าทำแบบนี้มันดูเหมือนเธอกำลังเสียเปรียบ จะถูกเขาจูงจมูกเอาง่ายๆ” สิ่งที่จีน่าทำคือยั่วให้หยางอิงโมโหและขาดสติ ดังนั้นเหวินลู่ชิงจึงมองว่าหญิงสาวเอาแต่ใจและอาละวาด

“ไม่มีทาง สักวันหนึ่งฉันจะทำให้พ่อรู้ว่ามันไม่จริงใจ”

“ถ้างั้นเธอก็ต้องหัดควบคุมสติให้มากกว่านี้ มองให้ออกว่าแผนการของฝั่งตรงข้ามคืออะไร”

“ดีแต่สอนคนอื่น ว่าแต่นายมาบ้านฉันทำไม อย่าโกหกว่าอยากซ้อมร้องเพลงนะฉันไม่เชื่อ”

“เธอไม่คิดว่าเราควรจะซ้อมร้องเพลงบ้างหรอกหรือ อีกสามวันก็จะต้องเข้าบริษัทแล้ว อยากงานพังไม่เป็นท่าเหมือนวันนั้นงั้นหรือ”

หยางอิงอึ้ง ใช้มือปาดน้ำตาออกไปจากพวงแก้มมองหน้าดราก้อน 

“ไม่อยาก แต่ฉันไม่รู้ว่าเราควรซ้อมอะไร”

ดราก้อนเดินไปหยิบกีตาร์ที่วางอยู่ฝั่งหนึ่งของห้อง ในห้องซ้อมนี้มีกระจกบานใหญ่ ด้านหนึ่งเป็นกระจกใสมองเห็นว่าลี่ฟางนั่งสังเกตการณ์อยู่อีกฝาก

“เราควรหัดร้องเพลงคู่กันไงล่ะ”

“แต่เรายังไม่เคยมีเพลงคู่”

“ยายบื้อ เพลงคู่ในโลกนี้มีตั้งเยอะ เลือกเอาสักเพลงที่เธอชอบสิ เธอกับฉันต้องหัดรู้โทนเสียงกันและกัน เมื่อถึงวันจริง เราจะได้ร้องได้แบบไม่ติดขัด”

“ฉันกับนายคงไม่ฟังเพลงแบบเดียวเดียวกัน”

ดราก้อนนั่งลงและพาดกีตาร์ลงบนตัก ก่อนไล่คอร์ด ปรับเสียง เอ่ยเสียงแข็ง

“รู้ได้ไง เธอกับฉันอาจไม่ถูกกัน แต่เราสองคนก็รักดนตรีเหมือนกัน”

หยางอิงอึ้งด้วยเหตุผล สำหรับหญิงสาวแล้วเพลงคือเครื่องปลอบใจยามเหงา ทุกครั้งที่เครียดหล่อนมักจะใช้เสียงเพลงช่วยเยียวยา 

“นายชอบเพลงของใครบ้างล่ะ”

“ไม่เจาะจง ฉันฟังเพลงของใครก็ได้ แต่ฉันว่าเพลงของนักร้องคนนี้เหมาะกับเธอที่สุด”

ดราก้อนเริ่มเล่นอินโทรดนตรี หยางอิงประหลาดใจที่จู่ๆ เขาก็เล่นเพลงโปรดของหล่อนขึ้นมา เนื้อเพลงเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีแต่ความเหงาเป็นเพื่อน

“นายเดาใจผู้หญิงเก่งขนาดนี้เลยหรือ”

“ฉันไม่เคยต้องเดา สมองมันปิ๊งขึ้นมาเอง”

“ลืมไป คนอย่างนายมีผู้หญิงมาให้เลือกเป็นร้อยๆ”

“รู้ก็ดีแล้ว”

ดราก้อนยุติการโต้เถียงด้วยการเล่นเพลงต่อ หยางอิงค่อยๆ ฟังจับจังหวะก่อนเปล่งเสียงร้องออกไป หล่อนจำเนื้อเพลงนี้ได้แม่น เสียงทุ้มต่ำที่ร้องคลอไปทำให้หญิงสาวลืมความขุ่นใจไปอย่างสิ้นเชิง สมองของหล่อนจดจ่ออยู่กับเนื้อเพลงและตัวโน้ต ที่สำคัญคือความหมายของเพลง ผู้หญิงคนนี้มีชีวิตไม่ต่างจากหล่อน แม้จะร่ำรวยและมีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่กลับมีแต่ความอ้างว้างโดดเดี่ยว 

เสียงใสกังวานที่เปล่งออกมาทำให้ดราก้อนอดทึ่งไม่ได้ เขาเหลือบมองหยางอิงเป็นระยะๆ อดคิดไม่ได้ว่าเวลาร้องเพลงหล่อนสวยมาก นัยน์ตากลมโตที่มีน้ำตาคลอตลอดเวลาบ่งให้รู้ว่าหญิงสาวซาบซึ้งกับเนื้ออย่างที่สุด ชายหนุ่มตั้งใจไล่นิ้วไปตามสายกีตาร์จงใจให้เพลงนี้ออกมาไพเราะที่สุด เขาไม่รู้สึกสุขใจมากเท่านี้มาก่อน การได้เล่นดนตรีและร้องเพลงกับหยางอิงไม่ได้แย่อย่างที่คิด ชายหนุ่มบรรจงขยับนิ้วไปบนสายกีตาร์เพื่อบรรเลงเพลงต่อๆ ไป 

 

ลี่ฟางมองผ่านกระจกเห็นหยางอิงกับดราก้อนกำลังซ้อมร้องเพลง สีหน้าหยางอิงสดชื่นขึ้นมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทะเลาะกับประมุขของบ้านเสียงดังลั่น ผู้ช่วยแม่บ้านอีกคนแง้มประตูเข้ามาพอดี เมื่อลี่ฟางเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นเวลาสิบโมงครึ่ง

“ถึงเวลาเตรียมอาหารเที่ยงแล้วหรือ มีใครอยู่บ้าง”

“คุณท่านออกไปแล้วกับคุณเอ่อ”

“ช่างเถอะ สรุปว่ามีแค่คุณหนู คุณดราก้อนแล้วก็คุณลี่หง”

“เขาเพิ่งขับรถออกไปเมื่อกี้เหมือนกันค่ะป้าฟาง เห็นบอกว่าตอนเย็นจะแวะมารับคุณดราก้อน”

“งั้นก็แสดงว่ามีคนรับอาหารเที่ยงสองคน เราจัดอาหารที่โต๊ะในสวนแล้วกัน ตั้งโต๊ะหน้าน้ำตกใต้ต้นไม้พอดี วันนี้อากาศดี แดดไม่ร้อนจัด เอาอาหารอะไรดี”

“สเต๊กดีไหมคะป้าฟาง มันอบเนย ของหวานเป็นไอศกรีมเย็นๆ”

“ดีเหมือนกัน ของคุณดราก้อนเป็นสเต๊กเนื้อ คงต้องเพิ่มขนมปังกระเทียมสักหน่อย ส่วนคุณหนูสเต๊กปลาของโปรด กับโคลสลอว์”

“ดีจังเลยค่ะ”

“ของสดในตู้เย็นมีครบไหม”

“ครบค่ะ แต่สเต๊กมีแค่ชิ้นเดียว อาจจะไม่พอ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอออกไปซื้อที่ร้านเดิมของเรานะ ฉันจะโทร. ไปบอกเถ้าแก่ให้เตรียมไว้ให้ วนรถไปรับแล้วก็รีบกลับมาเลย”

“ได้ค่ะป้าฟาง หนูจะรีบไปรับกลับ”

ร่างบางเดินปลีกตัวออกไปโดยมีลี่ฟางเดินตาม ผู้ช่วยแม่บ้านหันมามอง เอ่ยถาม

“ป้าฟางไม่อยู่เฝ้าคุณหนูหรือคะ”

“เฝ้าทำไม คุณดราก้อนไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย เขากำลังทำโพรเจกต์กับคุณหนูอยู่ต่างหาก”

“แต่คุณท่านสั่งไว้”

“เราก็แค่ไม่บอกคุณท่านยังไงล่ะ หรือว่าเธอจะเอาไปฟ้อง?” ลี่ฟางหรี่ตามอง 

สาวใช้บอกละล่ำละลัก “ไม่ค่ะ หนูไม่ฟ้อง ป้าฟางเชื่อใจหนูได้ หนูไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด”

“ก็ดีแล้ว เราสองคนปล่อยให้คุณหนูกับคุณดราก้อนได้ทำความคุ้นเคยกัน ต่อไปเวลาร้องเพลงคู่ ทั้งสองคนจะได้ทำได้อย่างมั่นใจยังไงล่ะ”

“จริงด้วยค่ะป้าฟาง ว่าแต่คุณดราก้อนตัวจริงหล่อมากเลยนะคะ” ผู้ช่วยแม่บ้านสาวเพ้อ ลี่ฟางหันไปหยิกแขนเบาๆ เพื่อปราม

“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว นี่มันเรื่องของคุณหนู เราเป็นแม่บ้าน ไม่ควรยุ่ง”

“หนูแค่ชมเฉยๆ ก็เขาหล่อจริงๆ”

“ใช่ หล่อ แล้วก็ดูนิสัยดีมากๆ ด้วย ถ้าคุณผู้หญิงยังอยู่คงดีใจ” ลี่ฟางพึมพำ

“ป้าฟางพูดว่าอะไรนะคะ”

“เปล่า ไปได้แล้ว รีบออกไปซื้อเนื้อแล้วเอาไปให้ฉันในครัว ฉันจะรีบไปเตรียมอาหารเที่ยงให้คุณหนูกับคุณดราก้อน เดี๋ยวซ้อมเสร็จจะได้กินด้วยกัน”

 

เสียงร้องเพลงที่เงียบไปทำให้ดราก้อนหันไปมอง ใครจะนึกว่าหญิงสาวที่ร้องเพลงอย่างสดชื่นเมื่อครู่จู่ๆ ก็ผล็อยหลับไปเสียงอย่างนั้น..ชายหนุ่มกับหยางอิงซ้อมร้องเพลงด้วยกันเกือบสองชั่วโมง หลังจากนั้นจึงพักกินอาหารเที่ยงด้วยกันในสวน

เขามาขลุกอยู่ที่นี่เกือบอาทิตย์แล้วเพื่อสร้างความคุ้นเคย ดราก้อนยังไม่มีโอกาสได้ออกไปเดินสำรวจรอบบ้านเพราะช่วงแรกบอดีการ์ดของหญิงสาวคุมแจ เขาแสร้งทิ้งเวลาให้อีกฝ่ายตายใจ 

ดราก้อนเสนอให้ลองซ้อมเต้นบ้างในช่วงบ่าย หลังจากนั้นก็กลับมาร้องเพลงด้วยกันต่อ เขาคั่นด้วยการร้องเพลงของตน แต่พอหันไปอีกทีหญิงสาวก็หลับสนิทไปแล้ว หยางอิงคงเหนื่อยที่ต้องทะเลาะกับเมียน้อยของบิดา

ดราก้อนเคยได้ยินกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของเหวินลู่ชิงมานานมากแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนคู่ควงถี่ขนาดนี้ นักร้องหนุ่มไม่แปลกใจที่บรรดาผู้หญิงเหล่านั้นไม่เคยออกมาโวยวาย เขาเคยได้ยินมาว่าค่าจ้างเลิกของพวกหล่อนแพงระยับ แต่สิ่งหนึ่งที่พ่ออย่างเหวินลู่ชิงไม่รู้ก็คือเขาได้สร้างแผลเป็นขนาดใหญ่ไว้ในจิตใจของหยางอิง 

หยางอิงประชดด้วยการทำตัวสนิทสนมกับดราก้อนมากขึ้น ยิ่งได้ยิ่งสองพ่อลูกทะเลาะกันแทบทุกวัน เขาก็เดาเรื่องทุกอย่างได้ หญิงสาวคงเหงาและต้องการเพื่อน แม้จะรู้สึกผิด เขาไม่ควรฉวยโอกาสที่หยางอิงกำลังอ่อนแอ แต่ดราก้อนก็ไม่มีทางเลือก เขาต้องเร่งสืบหามารดาโดยด่วนที่สุด 

บ้านหลังนี้ใหญ่มาก จะมีพื้นที่ไหนบ้างไหมที่ใช้เป็นที่กักขังมารดาเอาไว้ ทางเดียวที่จะรู้ก็คือต้องพิสูจน์ ดราก้อนแอบดูเส้นทางตอนเดินเข้ามา เขาจำได้ว่ามีทางเชื่อมไปยังตึกด้านหลังของบ้านและบันไดที่ทอดยาวสู่ชั้นใต้ดิน บ้านแห่งนี้ออกแบบอย่างสลับซับซ้อน เขาต้องรีบสำรวจพื้นที่ทั้งหมดโดยเร็วก่อนหยางอิงจะตื่น 

ดราก้อนค่อยๆ ย่องออกจากห้อง งับประตูอย่างเบามือ เขามองไปยังบันไดที่ทอดสู่ชั้นบนกับชั้นใต้ดิน เขาเลือกที่จะเดินขึ้นไปด้านบนก่อนแต่กลับพบว่ามีประตูอยู่หลายบานด้วยกัน จังหวะที่แม่บ้านคนเปิดออกมาจากห้องทำให้เห็นว่าห้องนอนของเหวินลู่ชิงและลูกสาว ห้องทางซ้ายสุดประตูเล็กกว่าห้องอื่นน่าจะเป็นห้องนอนแขก ชายหนุ่มเปลี่ยนเส้นทางลงไปยังชั้นใต้ดินแทน เมื่อเดินลงไปถึงก็พบว่าอากาศเริ่มเย็นลง ทางเดินเป็นรูปตัวที สุดปลายทางแต่ละฝั่งมีประตูสีดำบานใหญ่ฝั่งละบาน เขาเดินเร็วๆ และลองบิดลูกบิดแต่พบว่ามันล็อก ชายหนุ่มจึงหันไปยังประตูอีกบานที่อยู่ถัดมา เขาลองบิดลูกปิดแต่ก็พบว่าล็อกอยู่เช่นเดียวกัน ขณะกำลังจะเดินย้อนกลับมา ดราก้อนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าด้วยความตกใจสุดขีดจึงรีบหาที่หลบ แต่เนื่องจากประตูทุกบานปิด ชายหนุ่มจึงยืนละล้าละลังอยู่ เขาตัดสินใจหลบและรอว่าเป็นฝีเท้าของใคร สายตาเพ่งมองเมื่อเสียงใกล้เข้ามาเป็นระยะๆ ชายหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าชายผมขาวคนหนึ่งกำลังเดินมา ชายกำลังใช้ความคิดว่าจะแก้ตัวอย่างไรดี แต่เสียงหวานใสกลับดังขึ้นก่อน

“พ่อบ้านหยุนคะ”

“อ้าว คุณหนู ทำไมลงมาที่นี่ต้องการอะไรหรือครับ”

เสียงสนทนาห่างออกไปเรื่อยๆ ดราก้อนเดาว่าหยางอิงกำลังพาพ่อบ้านหยุนไปอีกทาง เสียงฝีเท้าของทั้งคู่เดินขึ้นบันไดไป ดราก้อนหันหลังพิงผนังแอบพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วจู่ๆ มือของใครบางคนก็แตะลงบนบ่า

สัญชาตญาณทำให้เผลอคว้าจับข้อมือและบิดอย่างแรงแต่อีกฝ่ายไวมาก พลิกมาเป็นฝ่ายคว้าจับข้อมือแทน ดราก้อนเงื้อหมัดแต่ยังไม่ทันชกอีกฝ่ายก็ได้ยินเสียงห้าม

“เฮ้ ใจเย็นๆ ฉันเอง”

เขามองคนตรงหน้าอย่างตกใจ แม้ภาพลักษณ์จะถูกแปลงโฉมจนต่างไปจากเดิมโดยสวมชุดเหมือนช่างซ่อมบำรุง อีกทั้งเส้นผมที่ย้อมจนกลายเป็นสีดอกเลาแต่ดราก้อนก็จำคริสได้

“พี่มาทำอะไรที่นี่”

คริสทำมือให้อีกฝ่ายหรี่เสียงลงก่อนดึงดราก้อนเข้าไปในห้อง เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าประตูบานนั้นเปิดได้ หรือว่าคริสหลบอยู่ในห้องตั้งแต่ต้น 

“พี่รู้ไหมว่ามันเสี่ยงมาก”

“เสี่ยงยังไงฉันก็ต้องยอม”

คริสปลอมตัวเป็นช่างแอร์แอบเข้ามาในบ้านตอนกลางวันแสกๆ แถมเขายังเดินร่อนไปทั่วบ้านเหวินลู่ชิง

“เขาออกไปกับจีน่าแล้ว คงไม่กลับมาอีกจนถึงตอนค่ำ”

“ถ้าพี่โดนจับได้ เขาเล่นงานพี่หนักแน่”

“รู้น่า แต่ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ ก็ไม่ได้ลูกเสือน่ะสิ ว่าแต่นายเข้ามาที่นี่ทำไม หรือว่านายอยากมาหาอะไร”

“ผมมาหาแม่ ผมสงสัยว่าเขาจับแม่มาขังเอาไว้”

“เหวินลู่ชิงไม่โง่จนเอาแม่นายมาไว้ที่นี่หรอก เขามีบ้านอีกเป็นสิบๆ หลัง”

“พี่รู้หรือว่าเขาจับแม่ผมไปไว้ที่ไหน”

“ฉันไม่รู้ สายของฉันกำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ แต่ที่ฉันแอบเข้ามาเพราะมาตามหาคนต่างหาก”

“พี่มาหาใคร” ดราก้อนหรี่ตามองอย่างสงสัย 

คริสส่ายหน้า ตบที่บ่าเบาๆ “ยิ่งรู้น้อยเท่าไหร่ นายก็ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น ฉันเข้ามานานเกินไปแล้วต้องรีบออกไปก่อนพ่อบ้านจะสงสัย นายรอที่นี่สักครู่ ประเดี๋ยวค่อยตามออกไป”

“เดี๋ยวก่อนสิ พี่พอรู้ไหมว่าใครจับตัวแม่ผมไป”

“ฉันไม่รู้ แต่ถ้ารู้ฉันจะรีบส่งข่าวบอกนายทันที นายเองก็ต้องระวังตัว อย่าคิดว่าเข้ามาบ้านเหวินลู่ชิงแล้วจะเดินเล่นตามอำเภอใจได้ ในบ้านหลังนี้มีกล้องวงจรปิดซ่อนอยู่เต็มไปหมด”

“ผมทราบ ผมจะระวังตัว พี่ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน”

“ไม่ต้องห่วง เอาไว้ฉันจะติดต่อไปหานายเอง”

ร่างในชุดเปิดประตูออกไป ดราก้อนรอเมื่อคิดว่าคริสขึ้นไปถึงด้านบนแล้วก็รีบผลักประตูออกไปทันที แต่พอเห็นว่าใครยืนกอดอกอยู่หน้าห้องก็ตกใจสุดขีด 

“นายเข้าไปทำอะไรในนั้น”

หยางอิงตะคอกเมื่อเห็นชายหนุ่มออกมาจากห้องที่อยู่ชั้นใต้ดิน ปกติห้องนี้ใช้สำหรับเก็บของ ส่วนห้องทางซ้ายสุดประตูดำสุดทางเดินคือห้องของหยุนซีซึ่งเป็นพ่อบ้าน เขาทำงานที่นี่มานานมากแล้ว 

“ฉันเอ่อ” ดราก้อนอึกอักกำลังคิดหาคำแก้ตัว สุดท้ายจึงพูดไปว่า “ฉันปวดห้องน้ำ ก็เลยออกมาเดินหา”

“โกหก ห้องน้ำอยู่หน้าห้องซ้อมย่ะ ห้องใหญ่เบ้อเริ่ม บอกความจริงมาดีกว่านายมาทำอะไรที่นี่”

“ฉันก็หาห้องน้ำยังไงล่ะ ใครใช้ให้บ้านเธอใหญ่โตขนาดนี้พอเดินก็เลยหลง”

“เพ้อเจ้อ นายต้องการค้นหาอะไรกันแน่ บอกฉันมา”

“เอ๊ะ เธอนี่พูดไม่เข้าใจหรือไงเดวิล ฉันบอกว่าหาห้องน้ำทำไมไม่เชื่อกันบ้าง” ดราก้อนตัดบทเดินหนี แต่เป็นหยางอิงที่เดินตามมากระชากหัวไหล่ให้หยุด

“ยังไปไหนไม่ได้ นายต้องเข้าไปในห้อง ฉันมั่นใจว่านายต้องแอบขโมยอะไรไปแน่ๆ”

หญิงสาวลากแขนดราก้อนเข้าไปในห้องแต่พอเปิดไปกลับพบว่าเป็นเพียงห้องเก็บของสำหรับเก็บน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ทำครัว พวกน้ำมันพืชซอสปรุงรส ดราก้อนกอดอก

“ว่าไง เจอไหมที่ว่าฉันขโมยของ คิดหรือว่าคนรวยอย่างฉันจะขโมยน้ำมันพืชจากบ้านเธอกันล่ะ”

หยางอิงไม่ยอมแพ้ หล่อนลากดราก้อนออกจากห้องและไปยังห้องของหยุนซีบ้าง มือบางขยับลูกบิดแต่พบว่าล็อกอยู่ ดราก้อนยักคิ้ว

“พอใจหรือยัง หรือจะยัดเยียดข้อหาอะไรอีก เสียแรงที่ฉันอุตส่าห์ช่วยเป็นคู่ซ้อมร้องเต้นให้เธอ อกตัญญูจริงๆ”

“ไม่ต้องมาทำไก๋หน่อยเลย ฉันรู้นะว่านายต้องกำลังคิดอะไรไม่ดีแน่ คอยดูนะฉันนะฟ้อง”

เสียงฝีเท้าที่เดินลงมา ดราก้อนชะโงกหน้าไปมองและเห็นพ่อบ้านอาวุโสกำลังเดินมา เขารีบดึงหยางอิงให้หลบ มือยกขึ้นมาปิดปาก

“ปล่อยฉันนะ”

“ฉันจะปล่อย ถ้าเธอไม่โวยวาย” เขากระซิบข้างหู

“ฉันจะฟ้องพ่อบ้านหยุนว่านายแอบเข้ามาค้นของในบ้าน”

“จะบ้าหรือ บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ”

หญิงสาวถลันจะไปฟ้องแต่ดราก้อนไวกว่าเขากอดเอวหล่อนและดึงเข้าหาตัว มืออีกข้างปิดปากหญิงสาวดิ้น ดราก้อนหมุนไหล่หล่อนให้หันมา หยางอิงเงื้อมือหมายตบแต่เขากลับตรึงแขนข้างหนึ่งเอาไว้ เมื่อหล่อนเงื้อมืออีกข้างชายหนุ่มก็ตรึงแขนเอาไว้อีก ร่างสูงใช้ความได้เปรียบทางสรีระกดหล่อนเข้ากับกำแพงมือสองข้างถูกรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างปิดปาก พ่อบ้านหยุนหยุดตรงบันไดไม่เดินลงมาต่อ เสียงเหมือนเขากำลังคุยกับใครสักคนและรีบร้อนเดินกลับขึ้นไปด้านบนแทน ดราก้อนรอจนเสียงห่างไปก่อนหันสบตาหญิงสาว

“อ่อยอั๊น”

ดราก้อนส่ายหน้าอย่างยียวน หยางอิงใช้เข่ากระแทกเข้าที่เข่าของเขาอย่างแรง ชายหนุ่มเจ็บแต่ยังไม่ยอมปล่อยหล่อนเป็นอิสระ

“ฤทธิ์มากจริงๆ นะตัวแค่เนี้ย”

“อ่อยอั๊น”

 ชายหนุ่มยักคิ้ว ยิ้มแบบล้อๆ “ไม่ปล่อยมีอะไรไหม”

“อ่อยอั๊นอ๊ะ”

เขากักหล่อนไว้ในอ้อมกอดใช้ร่างแข็งแรงเบียดหยางอิงเข้ากับกำแพงมากขึ้นอีกเพื่อปราบพยศ แต่ชายหนุ่มคงไม่รู้หรอกว่าความใกล้ชิดนั้นจะทำร้ายตัวเอง กลิ่นหอมจากกายสาวเจือด้วยน้ำหอมอ่อนๆ ยิ่งผนวดกับนัยน์ตากลมโตที่จ้องมาอย่างตื่นตระหนกยิ่งทำให้ดราก้อนคิดอยากจะแกล้ง ใบหน้านวลแดงระเรื่อเมื่อเขาแกล้งลดสายตาต่ำลงไป

“อื้อ อ่อยอั๊น”

“บอกให้อยู่นิ่งๆ ยังไงล่ะ ไม่งั้นฉันไม่รับประกันความปลอดภัยรู้เอาไว้ด้วย”

ทั้งสองอยู่ในสภาพเนื้อแนบเนื้อ ร่างเพรียวแทบจะจมไปในแผ่นอก หยางอิงดิ้น ดราก้อนก็ยิ่งตรึงมือหล่อนขึ้นสูงส่งผลให้อกอวบเชิดขึ้น เขารับรู้ได้ถึงความอวบอิ่มของทรวงอกสาว ร่างบางหน้าแดงก่ำเมื่อรับรู้ถึงความใกล้ชิดนั้น ในความเงียบเมื่อทั้งสองประสานสายตากัน ดราก้อนก็รู้สึกเหมือนถูกร่ายมนตร์ รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ควรเลย แต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่

“รู้ตัวไหมว่าเธอสวยมาก ทั้งดวงตาและก็ริมฝีปาก”

วูบหนึ่งที่เขาอยากรู้รสริมฝีปากอิ่มของคนตรงหน้าอีกครั้ง ดราก้อนแนบริมฝีปากลงไปก่อนบดเคล้าหาความหวาน มือบางที่ถูกตรึงเปลี่ยนเป็นจิกเล็บอย่างแรงเข้าที่หลังมือชายหนุ่ม แต่ดราก้อนไม่ยอมหยุดเขาบดเบียดริมฝีปากจูบหล่อนให้ลึกซึ้งขึ้น ลิ้นดุนดันให้หยางอิงเผยอริมฝีปากจนเขาสามารถสอดลิ้นเข้าไปรุกล้ำ เสียงครางดังขึ้นเมื่อความร้อนเข้าเล่นงานคนทั้งคู่ 

ดราก้อนเลื่อนมือข้างหนึ่งมาประคองต้นคอเพื่อให้หล่อนแหงนเงยจะได้จูบหยางอิงอย่างถนัดถนี่ ริมฝีปากของหญิงสาวช่างหวานราวกับน้ำหวานจากเกสรดอกไม้และเขาก็ทำตัวเป็นผึ้งที่แอบดอมดมเก็บชิมความหวานอย่างไม่รู้เบื่อ ชายหนุ่มครางเหมือนคนละเมอเมื่อเห็นร่างบางเริ่มระทวยเพราะฤทธิ์จูบ ตอนนี้หยางอิงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนด้วยซ้ำ มือที่เคยตรึงแขนลดลงจนเข้าเกาะกุมอกคู่งาม หยางอิงเอ่ยห้ามเสียงสั่น 

“อย่า”

“เธอสวยมาก”

ไม่พูดเปล่าแต่ดราก้อนกลับไล้ปลายยอดทรวงเบาๆ ปทุมถันคู่งามหดตัวเป็นตุ่มไต เสียงห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงคราง มือเปลี่ยนมาเกาะที่บ่าชายหนุ่มและจิกอย่างแรง ดราก้อนเพิ่งรู้ว่าการได้จูบใครสักคนจะทำให้อารมณ์ตื่นเตลิดได้ถึงเพียงนี้ เขาทั้งฉกทั้งดูดดึงริมฝีปากอย่างย่ามใจ

“อื้อ”

หยางอิงคราง เช่นเดียวกับดราก้อนที่ร้อนรุ่มจนแทบฉุดไม่อยู่ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอประคองสะโพกหญิงสาวและบดเบียดความแข็งขืนเข้าหา กายสาวสั่นเทิ้ม ชายหนุ่มแทบไม่มีสติ เขาต้องการหยางอิงบนเตียง วันนี้และก็เดี๋ยวนี้ แต่ 

เหมียว เหมียว

เสียงร้องเหมือนแมวดังขึ้น แต่ดราก้อนจำได้แม่นว่าเสียงนั้นคือลี่หง เขาผละออกจับที่หัวไหล่หญิงสาว ร่างของหล่อนสั่นเทิ้มจนแทบยืนไม่อยู่ สมองก่นด่าตัวเองที่เผลอไผลไปจูบลูกสาวเจ้าพ่อมาเฟียถึงในบ้าน 

“ฉะ..ฉันขอโทษ”

หยางอิงเงยหน้ามองอย่างมึนงง ก่อนที่นัยน์ตาจะแปรเป็นโกรธขึ้งและตอบแทนด้วยการตบหน้าเขาอย่างแรง

“ฉันขอโทษ”

เผียะ! เผียะ!

หยางอิงตบหน้าชายหนุ่มติดกันอีกสองข้าง ดราก้อนยกมือลูบแก้ม ถึงไม่มีกระจกแต่ก็น่าจะมีรอยแดงปรากฏขึ้น แต่ทุกอย่างสมควรแล้ว เขามือไวใจเร็วอย่างนี้มาก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาดราก้อนให้เกียรติผู้หญิงแต่เพราะอะไร เขาถึงได้ปล่อยให้อารมณ์ดำฤษณาเข้าครอบงำ ยิ่งมองเห็นหยางอิงร้องไห้เขาก็ยิ่งรู้สึกผิด

“เธอจะตบฉันอีกก็ได้นะ”

เผียะ!

หยางอิงตบเขาอีกหนึ่งฉาด หล่อนเงื้อมือคว้าข้อมือหล่อนไว้ หญิงสาวทุบที่อกชายหนุ่มอย่างแรง ดราก้อนไม่โต้ตอบเขาปล่อยให้หล่อนระบายอารมณ์ด้วยการผลักอย่างแรงจนหลังไปกระแทกกำแพง 

“ฉันเกลียดนาย ไอ้คนลามก”

ร่างบางชกที่ท้องชายหนุ่มก่อนวิ่งหนีไป ทิ้งให้ดราก้อนอึ้ง เขาได้แต่ถามตัวเองว่าทำแบบนี้ทำไม คำตอบหนึ่งผุดขึ้น 

‘ชอบงั้นหรือ’

นี่เขาชอบหยางอิงงั้นหรือ ดราก้อนส่ายหน้ากับคำตอบอันน่าตกใจ เขาควรจะทำยังไงดี เมื่อหลวมตัวหลงรักลูกสาวเจ้าพ่อมาเฟียเข้าเต็มเปา 

 

ดราก้อนไม่ได้อยู่กินข้าวเย็นที่บ้านของเหวินลู่ชิง ถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาถูกลี่หงลากออกมาขึ้นรถโดยแทบไม่ได้ล่ำลาลี่ฟางเลยด้วยซ้ำ หยางอิงวิ่งหนีขึ้นห้องและไม่ยอมลงมาอีก ตลอดเวลาเกือบสิบนาทีที่ชายหนุ่มนั่งนิ่งราวกับถูกสาป เขาเหมือนคนเป็นใบ้ พูดอะไรไม่ออก

“จะแก้ตัวว่าอะไรอีกไอ้ริว แกนี่มันบ้าเข้าขั้น รู้ตัวหรือเปล่า”

“เออฉันยอมรับ ฉันพลาด”

“แกไม่เคยเป็นแบบนี้นี่หว่าคิดยังไงถึงได้ไปปล้ำจูบลูกสาวเจ้าพ่อมาเฟียแบบนั้น นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่มีใครเห็น ไม่อย่างนั้นมีหวังโดนเอ็มสิบหกไล่ยิงตั้งแต่ประตูเลย”

“ฉันคิดไม่รอบคอบเอง”

“ไม่รอบคอบหรือไม่ได้คิดอะไรเลยกันแน่”

“เอาน่า ฉันยอมรับผิด คราวนี้ผิดเต็มประตูเลย ฉันยอมให้นายด่าสามวันสามคืนเลยเป็นไง”

ดราก้อนยอมรับอย่างลูกผู้ชาย เขาพลาดที่ไม่คิดถึงเกียรติของหยางอิง นอกจากปล้ำจูบหล่อนแล้วเขายังลวนลามหญิงสาวอีกด้วย น่าละอายเหลือเกิน ตลอดเวลาที่ผ่านมามารดาพร่ำสอนว่าต้องให้เกียรติผู้หญิง

“นายจะทำยังไงต่อไป”

“เรื่องหยางอิงนะหรือ”

“ฉันจะทำยังไงได้ ในเมื่อพ่อเขาเกลียดฉันขนาดนั้น”

“เฮ้ย นี่นายอย่าบอกนะว่าคิดจะสมัครเป็นลูกเขยเหวินลู่ชิงน่ะ ต่อให้มีเก้าชีวิตก็คงไม่พอหรอก มีหวังถูกสั่งฆ่าทุกวันเลย”

“ฉันชอบหยางอิง”

ลี่หงเหยียบเบรกดังเอี๊ยด ส่งผลให้รถที่แล่นตามมากดแตรด่าดังสนั่น ผู้จัดการหนุ่ม รีบเคลื่อนรถออกไป สายตาเหลือบมองดราก้อนอีกครั้ง

“นายแน่ใจงั้นหรือ”

“อือ” ดราก้อนพยักหน้า เขามาคิดทบทวนดีแล้ว เขาไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปล้ำจูบหยางอิง อย่างวันนั้นที่ข้างถนนเขาก็เผลอจูบหล่อน และยังครั้งนี้อีก รู้ทั้งรู้ว่าไม่เหมาะทั้งสถานที่และเวลาแต่เขาก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้

“ก็ยังดีนะที่รู้ตัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเสียทีเดียว”

“นายคิดว่าเหวินลู่ชิงจะยอมรับฉันหรือ”

“ช้าก่อน พ่อพระเอก คนที่นายต้องทำให้ยอมรับน่ะคือคุณแองเจิ้ลต่างหาก”

ชายหนุ่มเห็นด้วย เขาทำตัวเอาแต่ใจปล้ำจูบหญิงสาว ป่านนี้หยางอิงอาจจะเกลียดเขาเข้าไส้ไปแล้ว แถมที่ผ่านมาดราก้อนไม่เคยบอกว่าคิดยังไง นั่นคงทำให้หญิงสาวน้อยใจ

“ฉันควรจะคุยกับหยางอิงก่อนสินะ”

“ใช่ และก็คุยเฉยๆ ไม่ใช่ไปลวนลามเธออีก บอกให้เธอรู้ว่านายคิดยังไงทำเป็นไหม”

“แต่ฉันไม่เคยสารภาพกับใคร”

“เฮ้อ นี่นายอยู่ในยุคไหนวะ นี่มันยุคห้าจีแล้วนะ หนังหรือละครไม่เคยเปิดดูบ้างหรือไง เวลาพระเอกเขาสารภาพรักนางเอกทำกันยังไง”

“ฉันแค่ชอบ ไม่ได้รัก”

“ไอ้ลิเก มันก็เหมือนกันนั่นละ อย่างนายเขาเรียกว่าคนคลั่งรักหนึ่งอัตรา” ลี่หงยกคำพูดติดหูขึ้นมาพูด ดราก้อนหน้าบึ้งส่ายหน้า

“บอกแล้วไงว่าแค่ชอบ”

“จะชอบหรือจะรัก นายค่อยๆ คิดเอาเอง แต่สิ่งที่นายต้องทำคือหาเวลาอยู่กับคุณแองเจิ้ลสองต่อสอง แล้วก็พูดมันออกไป”

“เธอจะยอมฟังฉันหรือ”

“ฟังสิ ถ้านายพูดทุกอย่างด้วยความจริงใจ ฉันมั่นใจว่าเธอฟังแน่ อ้อ แต่ระหว่างที่พูดห้ามใช้กำลังแบบเมื่อกี้นี้เด็ดขาด”

“ฉันไม่เคยรุนแรงกับหยางอิง” ดราก้อนเถียง

“สิ่งที่นายทำมันไม่เรียกว่ารุนแรง แต่มันเรียกว่าใจร้อนต่างหาก คุณแองเจิ้ลยังเด็ก เธอยังไร้เดียงสาแต่นายเล่นไปสอนบทเรียนแอดวานซ์สุดขั้วให้แบบนั้น มีหวังคืนนี้นอนร้องไห้ขี้มูกโป่งทั้งคืนแน่ๆ”

“นายเห็นหรือ”

“เออสิวะ ตาฉันไม่ได้บอดนี่นา บทรักถึงพริกถึงขิงขนาดนั้น”

“ฉันแค่ชอบ”

“เออ น่า ไอ้บ้าแกจะใช้คำพูดอะไรก็ตามใจ แต่สำหรับฉันมันก็เหมือนกัน”

“ขอโทษ”

“สรุปว่านายต้องหาโอกาสพูดความจริงกับเธอ บอกให้เธอรู้ว่านายชอบเธอและอยากคบกับเธอ”

ดราก้อนอ้าปากค้างมองลี่หง อีกฝ่ายยักคิ้ว เขาจึงจำต้องพยักหน้า

“ใช่ ฉันชอบเธอ และอยากคบกับเธอ”

“เห็นไหม ไม่ยากเรื่องแค่นี้เอง ตอนนี้เราก็แค่หาโอกาส” ลี่หงอมยิ้มหลังพวงมาลัย 

“แล้วเธอจะยอมพูดกับฉันหรือ”

“ยอมสิ ฉันคิดว่ามีวิธี แต่นายต้องสัญญาว่าจะเก็บไม้เก็บมือไม่ทำให้คุณหนูแองเจิ้ลต้องตบนายจนแก้มแดงเป็นก้นลิงแบบนี้”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น