0

บทนำ


บทนำ

 

พระอาทิตย์ดวงโตลอยอยู่เหนือทิวไม้เขียวชอุ่ม ฝูงนกสีน้ำตาลเหลือบทองโผบินออกจากรัง ส่งเสียงแหลมเล็กดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณวัด ผสานไปกับเสียงสวดมนต์ทุ้มต่ำที่ดังมาจากเรือนไทยหลังงาม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้ายวัดห่างจากศาสนอาคารอื่นๆ เรือนหลังนี้สร้างตามแบบเรือนไทยภาคกลาง ตัวเรือนยกพื้นสูง ด้านล่างเปิดโล่ง มีบันไดเก้าขั้นเชื่อมระหว่างพื้นดินกับตัวเรือน ด้านหน้าเป็นนอกชานกว้าง ส่วนด้านในกั้นเป็นห้องสำหรับเก็บอัฐิสมาชิกตระกูลเทวาพิทักษ์ โยมอุปัฏฐากคนสำคัญของวัดกลางสวนผลไม้แห่งนี้

ตรงนอกชานพระสงฆ์เก้ารูปนั่งเรียงแถวตามลำดับอาวุโส เริ่มจากเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน แล้วตามด้วยพระลูกวัดลำดับถัดไป เบื้องหน้าคณะสงฆ์ ชลธิศ มณีเนตร และลูกสาวตัวน้อย นั่งพนมมือฟังบทสวดด้วยสีหน้าสงบ วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบห้าขวบของแม่หนูชลันธร พ่อกับแม่จึงพาหล่อนมาถวายภัตตาหารเพล เด็กหญิงขยับริมฝีปากสวดมนต์ตาม แต่ดวงตากลมโตกลับมองไปยังต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ ด้วยสงสัยว่าดอกไม้สีชมพูแกมเหลืองที่ร่วงอยู่ตรงโคนต้น จะมีกลิ่นหอมเหมือนรูปร่างสวยแปลกตาของมันหรือเปล่า

บทสวดมนต์จบลง พ่อกับแม่ลุกไปประเคนถาดภัตตาหารถวายพระสงฆ์ เปิดโอกาสให้เด็กหญิงแอบย่องลงจากเรือน เท้าเรียวเล็กวิ่งลงบันไดอย่างคล่องแคล่ว หยุดสวมรองเท้าที่เชิงบันได แล้ววิ่งต่อไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ ดวงหน้ารูปไข่แหงนมองดอกไม้ประหลาดเหนือศีรษะ ก่อนยิ้มกว้างเมื่อเห็นดอกหนึ่งถูกลมพัดจนหลุดจากขั้ว แล้วปลิวมาตกแทบเท้าหล่อน แม่หนูน้อยก้มลงเก็บขึ้นมาดม กลิ่นของมันแปลกพอๆ กับรูปร่างหน้าตา เป็นกลิ่นหอมที่หล่อนไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน

หนูน้อยชลันธรเดินไปหยุดริมตลิ่ง โยนดอกไม้ในมือลงไป แล้วพนมมือสักการะพระแม่คงคาตามที่ผู้เป็นแม่เคยสอนไว้ ดอกไม้สีชมพูลอยไปตามกระแสน้ำ ก่อนลับหายไปจากสายตาของหล่อน เด็กหญิงหันไปมองพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆ เมื่อได้ยินเสียงขู่ฟ่อแผ่วเบาดังแว่วมา เจ้าของเสียงเป็นงูตัวเล็กสีทองสุกปลั่ง มีดวงตากลมโตสีน้ำเงินเข้ม มันยืดตัวมองสบตาหล่อนอย่างท้าทาย แม่หนูน้อยเหลียวมองไปรอบๆ ก่อนวิ่งไปหยิบกิ่งไม้บนพื้นดิน แล้ววิ่งกลับไปหาเจ้างูสีทองตัวนั้น

“น้ำ”

มารดาร้องเรียก เด็กหญิงหันไปมอง แม่เดินลงจากเรือนมาหา แล้วจับมือทั้งสองของหล่อนไว้

“แอบมาเล่นซนอยู่นี่เอง แล้วจะเอาไม้ไปไหนคะ”

“น้ำจะเอาไปตีงูค่ะ มีงูสีทองอยู่ตรงนั้น” เด็กน้อยชี้มือไปที่พุ่มไม้

แม่หันไปมอง แล้วหันมาสบตาหล่อน “อย่าไปตีมันเลยลูก งูก็รักชีวิตเหมือนเรา ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาปนะคะ”

“ไม่บาปค่ะ” เด็กหญิงส่ายหน้า “พ่อบอกว่าตีงูสีทองไม่บาป ถ้าน้ำเจอเมื่อไรให้ตีให้ตาย เพราะงูสีทองเป็นปีศาจ มันจะลักตัวน้ำไปจากพ่อกับแม่”

แม่เอาไม้ออกจากมือหล่อน โยนทิ้งไปด้านหลัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“พ่อแค่พูดเล่น ใครก็เอาตัวน้ำไปไม่ได้ ถ้าน้ำไม่อยากไป เชื่อแม่นะคะคนดี”

“แต่พ่อบอกว่า...” เด็กหญิงทำหน้ายุ่ง “ถ้าน้ำไม่ทำตาม พ่อจะไม่รักน้ำ”

แม่หันไปมองเรือนไทย ถอนใจยาว แล้วหันมายิ้มให้หล่อน

“พระฉันเสร็จแล้ว เราขึ้นไปรับพรกันดีกว่า วันนี้วันเกิดของน้ำ เดี๋ยวกลับจากวัดแล้ว เราไปกินไอศกรีมกันดีไหมคะ”

“ดีค่ะ น้ำขอกินไอศกรีมช็อกโกแลตนะคะ” เด็กหญิงตอบเสียงใส จับมือแม่เดินกลับขึ้นเรือน ลืมเจ้างูสีทองไปสนิท

ณ พุ่มไม้ริมแม่น้ำ งูสีทองจ้องมองสองแม่ลูก ดวงตาสีน้ำเงินหรี่ลง ก่อนหายวับไปอย่างอัศจรรย์ พร้อมสายลมวูบใหญ่ที่พัดผ่านผิวน้ำ แว่วยินเสียงทุ้มลึกดังมาจากที่ไกลแสนไกล

“เจ้าขัดขวางเราไม่ได้หรอก ชลธิศ อีกสิบสี่ปีเราจะมารับนาง...”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น