บทนำ
ภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถัดจากโบสถ์ของพระประธานประจำวัดมาทางทิศตะวันออก มีอาคารเล็กๆ อันเป็นสถานที่ตั้งของเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรเรื่องเนื้อคู่ สองสาวนั่งอยู่บนพื้นพรมหน้าสถานที่สักการะรูปปั้นเจ้าแม่ผู้ขึ้นชื่อเรื่องขอพรทางด้านความรัก
นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับสองสาวเพื่อนรักคู่ซี้ที่ต้องมาไหว้เจ้าแม่ด้วยกัน โดยครั้งแรกที่มาคือเมื่อเกือบๆ หนึ่งปีที่แล้ว ตอนนั้นอารดาเป็นคนชวนเพื่อนมาขอพรหลังจากที่เพิ่งเลิกกับแฟน แต่ผลสุดท้ายคนที่ได้แฟนกลับกลายเป็นรติยาแทน คราวนี้คนที่ทั้งนกทั้งแห้วจึงตั้งใจมาขอพรใหม่ หลังจากที่ถอดใจไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาฮึดใหม่เพราะได้รับช่อดอกไม้เจ้าสาวจากเพื่อนรัก บวกกับต้องการมีความรักที่เลือกด้วยตัวเองมากกว่าจะให้ผู้ใหญ่จับคู่ให้ ภารกิจหาแฟนครั้งใหม่นี้จึงเกิดขึ้น!
“ถ้าฉันเป็นเจ้าแม่นะ ฉันคงคิดว่าแกนี่ทู่ซี้สุดยอดจริงๆ”
รติยาเปรย ไม่รู้จะขำหรือจะสงสารวีรกรรมของเพื่อนดี ที่แค่หล่อนกลับจากไปฮันนีมูนกับสามีได้สองสัปดาห์ แม่เพื่อนรักก็โทรศัพท์มาชวนไปหาเจ้าแม่ด้วยกัน ตอนแรกหล่อนก็ไม่อยากมาหรอก แต่พอคิดว่าถ้าอารดาได้แฟนเป็นตัวเป็นตนสักทีก็อาจจะช่วยให้เพื่อนสาวหายเวิ่นเว้อได้ จึงได้ยอมมาด้วย
“เจ้าแม่ท่านคงชินกับแม่สาวหน้าด้านหน้าทนอย่างฉันแล้วแหละ ก็ช่วยไม่ได้ ฉันมันอาภัพคู่นี่”
“อาภัพคู่ อื้อฮือ พูดซะน่าสงสารเชียวนะจ๊ะคุณปุ๊ก”
รติยาอดแซวไม่ได้ จะว่าอาภัพคู่ก็ไม่ใช่ เพราะใช่ว่าอารดาจะไม่มีใครมาจีบ หรือไม่เคยมีแฟนเลยสักคน แต่คนที่เข้ามาล้วนคบหากันไม่ยืดมากกว่า ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ไม่ใช่อาภัพคู่ แค่ยังไม่เจอคู่ที่แท้จริงของตัวเองมากกว่า
“ฉันน่าสงสารน่ะถูกต้องแล้ว ครั้งก่อนฉันอุตส่าห์ลากแกมาขอพรเป็นเพื่อน แต่สุดท้ายคนที่ได้แฟนจนกลายเป็นผัว กลับเป็นแกไปเสียได้ ดวงฉันมันช่างอาภัพจริงๆ”
อารดาจีบปากจีบคอแสร้งถอนหายใจและทำหน้าน่าสงสารไปด้วย แต่ในสายตาของรติยาแล้วกลับกลายเป็นความขบขันมากกว่า เมื่อหล่อนมองออกว่าเพื่อนแกล้งทำล้วนๆ ไม่ได้รู้สึกสลด หรือรู้สึกอาภัพรักอย่างที่พูดไปเลยสักนิด
“แกนี่มันจริงๆ เลย” รติยาถอนหายใจอีกรอบ “ฉันชักสงสัยแล้วว่าถ้าการมาขอพรครั้งนี้ได้ผล เพราะเจ้าแม่ท่านเบื่อหน้าแกแล้ว ก็เลยยอมส่งใครสักคนมาให้ แบบเป็นคนที่ใช่และเป็นเนื้อคู่ของแกจริงๆ เนื้อคู่ของแกคนนั้น เขาต้องเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้”
“หืม...ฉันออกจะเป็นคนดีศรีสยาม”
“ศรีสยองน่ะสิแก”
“เชอะ ไม่พูดด้วยแล้ว ยายคนมีผัวแล้ว” อารดาค้อนปะหลับปะเหลือกใส่ก่อนจะตัดบท “ไม่รู้แหละครั้งนี้ฉันจะออดอ้อนเจ้าแม่ขอให้ท่านเมตตาสาวน้อยตาดำๆ คนนี้ ยังไงครั้งนี้ฉันก็ไม่ขอพรผิดวิธีแน่นอน”
รติยาถึงกับนิ่วหน้าทันที “เดี๋ยวนะ แกขอผิดวิธีเหรอ ยังไง? ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังเลย”
“ฉันไม่กล้าบอกแกน่ะสิ”
อารดายอมรับอ้อมแอ้ม เล่นเอารติยาถึงกับนิ่วหน้าหนักกว่าเดิม แล้วจึงซักไซ้เพื่อนรักต่อหน้าเจ้าแม่เสียเลย
“บอกมาเสียดีๆ ว่าแกขอท่าไหน ถึงได้ผิดวิธี”
“ก็...ครั้งก่อนฉันขอและบนบานไปด้วย เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเจ้าแม่ท่านไม่ชอบให้บนบาน”
อารดายอมเปิดปากบอกว่าครั้งที่แล้วหล่อนขอและบนบานไปด้วยว่าถ้าได้แฟนจริงจะทำนั่นทำนี่ให้ ไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าแม่ไม่ชอบให้บนบาน บวกกับเพื่อนรักอย่างรติยาดันขอพรให้หล่อนมีแฟน แต่ขอผิดชีวิตเปลี่ยนเลยกลายเป็นสองเด้ง ผลสุดท้ายคนที่มีแฟนไปก่อนก็เลยกลายเป็นรติยา ส่วนหล่อนที่ขอพรไม่ถูกวิธีจึงได้กินแห้วไปตามระเบียบ
“ถามจริง! ปกติแกจะไปมูที่ไหน ก็ต้องศึกษาวิธีมาก่อนว่าที่นั้นๆ ต้องขอพรยังไง ด้วยอะไร แล้วนี่พลาดได้ไง”
“ก็พลาดไปแล้ว เลยต้องมาขอเจ้าแม่ใหม่ให้ถูกวิธีนี่ไง” อารดาทำหน้าจ๋อยแล้วจึงพนมมือ “พอๆ ฉันขอเจ้าแม่แล้ว ส่วนแกจะขออะไรก็ขอไป แต่อย่าขอให้มีผัวคนที่สองก็แล้วกัน งานเข้าได้ผัวเพิ่มขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ”
“ไอ้เพื่อนบ้า! ฉันมีแต่คุณรุจคนเดียวย่ะ”
“จ้ะๆ ยายคนผัวรัก ผัวหลง และหลงผัวมาก!” อารดาเน้นคำสุดท้ายแล้วก็หัวเราะอย่างขบขัน แม้จะอิจฉาเพื่อนอยู่ลึกๆ ที่ได้สามีดี แต่หล่อนคิดว่าครั้งนี้ละจะต้องเป็นทีของตัวเองบ้าง เจ้าตัวจึงตั้งสมาธิและหลับตาลง ก่อนจะขอพรต่อเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าด้วยความตั้งใจยิ่ง
‘เจ้าแม่ขา วันนี้ลูกมาขอพรเจ้าแม่อีกครั้ง ขอให้เจ้าแม่ช่วยเมตตา ประทานแฟน หรือจะประทานผัวมาให้ลูกเลยก็ได้นะเจ้าคะ หรือจะให้ลูกข้ามขั้นตีหัวลากเขาเข้าห้องกันเลยก็ได้เจ้าค่ะ แต่ขอให้เขาคนนี้เป็นคนเดียวและคนสุดท้าย ให้ลูกได้แต่งงานกับเขา ได้อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าด้วยเถิดเจ้าค่ะ เพี้ยง!’
ความคิดเห็น |
---|