1

บทที่ 1


1

 

                  ปราณธรในวัยสามสิบเก้า หล่อเหลา สูงใหญ่ สมาร์ต เป็นซีอีโอของบริษัทในเครือไมเนอร์ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ไมเนอร์มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งโรงแรม ภัตตาคาร อาหาร และเครื่องดื่ม เขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หวงชีวิตโสด ด้วยเหตุที่เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และสติปัญญา จึงขึ้นทำเนียบหนุ่มไฮโซที่ชวนหลงใหลในลำดับต้นๆ ของเมืองไทย

           ในชีวิตไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง มีสาวๆ ดาหน้ามาให้เลือกมากมายและเขาไม่เคยปฏิเสธ ยกเว้นเด็กสาววัยกระเตาะหรือสาวน้อยบริสุทธิ์ที่เขาพยายามเลี่ยง ไม่แตะต้อง ไม่ใช่เพราะเป็นคนดีมีศีลธรรมอะไร แค่ไม่อยากเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง

            ปราณธรได้ชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง เรื่องบนเตียงขึ้นชื่อลือชาในหมู่สาวๆ จนได้ฉายาว่านักรักตัวยง ชายหนุ่มกำลังยืนเอามือไขว้หลัง มองผ่านผนังที่กรุด้วยกระจกไปยังการจราจรขวักไขว่เบื้องล่าง สมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยขณะรอแขกรายล่าสุด

            เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาหันมาเผชิญหน้า แล้วต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าแขกรายล่าสุดเยาว์วัยและสวยมากๆ อย่างที่เลขานุการว่า เธอมาในชุดเดรสสั้นสีเหลืองน่ารัก มีกระเป๋าสะพายข้าง สวมรองเท้าผ้าใบ เหนือศีรษะมัดมวยจุกเดียว

“นั่งสิ เลขาฯ บอกว่าเธออยากพบฉัน” ปราณธรผายมือเชิญ

เธอยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนทรุดตัวนั่งหน้าโต๊ะทำงาน ในจังหวะเดียวกับที่เขากลับมานั่ง

“คุณจำหนูได้ไหมคะ” เธอเริ่มต้นบทสนทนา

เขาต้องทวนความทรงจำจึงพยักหน้า “จำได้ เธอโตขึ้นมากทีเดียว”

สามปีก่อนลลิษามาหาเขาที่บริษัทนี้ในชุดนักเรียนชั้น ม.3 เธอตัวเล็กบอบบางจนแทบปลิวลม แต่วันนี้สูงโปร่ง มีเนื้อมีหนังมากขึ้น ตอนนั้นลลิษามาแนะนำตัวว่าเป็นลูกสาวของลักษณา พร้อมกับยื่นเอกสารหลักฐานสูติบัตร จากนั้นเอ่ยขอยืมเงินเขาเพื่อไปรักษาลักษณาซึ่งป่วยเป็นมะเร็ง

ลักษณาเป็นคนรักเก่าเขาสมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาตั้งความหวังกับลักษณาว่าจะเป็นภรรยาและว่าที่แม่ของลูก แต่แล้วจู่ๆ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาและออกจากมหาวิทยาลัยไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เธอตัดขาดกับเขาทุกทาง เขาตามไปที่บ้าน ก็ไม่ได้รับความกระจ่างใดๆ จากพ่อแม่เธอ มารู้เหตุผลที่เธอจากไปก็ตอนที่ลลิษาโผล่มาที่นี่ในครั้งนั้น ถึงได้รู้ว่าลักษณาหนีไปแต่งงานกับผู้ชายแก่คราวพ่อเพื่อชดใช้หนี้แทนครอบครัว

เขาไม่รู้ว่าชีวิตใครจะน้ำเน่ากว่ากัน ระหว่างคนหนึ่งหนีไปแต่งงานกับชายแก่อายุคราวพ่อ กับอีกคนหนีไปหลบเลียแผลใจถึงอเมริกาและไม่กลับมาอีกเลยตลอดสิบสามปีต่อมา และถ้าห้าปีก่อนพ่อไม่ทั้งขู่ทั้งปลอบและเคี่ยวเข็ญให้เขากลับมาเมืองไทยเพื่อรับช่วงกิจการต่อ เขาก็คงยังไม่กลับมา ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งจบปริญญาโทใบที่สอง

สามปีก่อนเขาแกล้งแหย่ไปว่าเงินสี่ล้านไม่ใช่น้อยๆ ทำไมถึงคิดว่าเขากล้าให้ เธอตอบว่า เพราะเขาเป็นแฟนเก่าของแม่ ยังไงก็ต้องช่วย ฟังแล้วอึ้งไปเหมือนกัน เพราะเท่ากับลลิษาไม่ตระหนักว่าคนเป็นแม่ทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่ถึงกระนั้นสุดท้ายเขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลง ที่สุดเขียนเช็คเงินสดให้เธอในจำนวนเงินที่เด็กสาวต้องการ

“ลักษณ์เป็นไงบ้าง” เขาถามต่อ

“แม่เสียแล้วค่ะ”

ปราณธรอึ้ง “เสียใจด้วย ศพอยู่วัดไหน ฉันจะไปเคารพศพ” ตอนรู้ข่าวลักษณาป่วย เขายังทำใจไม่ได้กับเรื่องราวในอดีต เลยไม่คิดไปเยี่ยมหรือขอเบอร์โทร. จากเด็กสาว มาวันนี้พอรู้ว่าลักษณาเสียชีวิตแล้ว จึงอดใจหายไม่ได้

“หนูเผาไปแล้วตั้งแต่วานซืน ครอบครัวเราไม่เหลือใคร มีแต่หนู หนูเลยจัดงานศพแค่สามวัน”

ปราณธรอึ้ง “ฉันเสียใจด้วย ว่าแต่เธอไม่เหลือใครอีกเลยหรือ คุณตาคุณยายหรือไม่ก็คุณปู่คุณย่า”

“ไม่ค่ะ” ลลิษาส่ายหน้า “ตายายเสียไปนานแล้วตั้งแต่หนูยังเล็กๆ ส่วนปู่ย่า แม่พ่อไม่เคยติดต่อ ทางนั้นรับไม่ได้กับการแต่งงานของพ่อแม่ ก็เลยตัดขาดกันตั้งแต่ตอนนั้น”

ปราณธรนึกเสียใจแทนเด็กสาว “แล้วเธออยู่ยังไงตัวคนเดียว” ถามด้วยความปากไวแล้วนึกอยากกัดลิ้นตัวเองเพราะไม่ใช่ธุระกงการของเขา เธอไม่ใช่ญาติใช่เชื้อ ทำไมเขาต้องไปสงสารด้วย ตรงกันข้ามแม่เธอทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจมามาก ฉะนั้นเขาไม่ควรสงสารหรือเห็นใจ

“ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่คะ มีใครอีกหลายคนในโลกนี้ที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว หนูอยู่ได้ หนูวางแผนจะเรียนต่อ ป.ตรี จะขอทุนมหา’ลัยหรือไม่ก็กู้กองทุนรัฐ”

ปราณธรอึ้ง มองใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราตรงหน้าซึ่งไม่ปรากฏรอยหวาดหวั่นให้เห็น ตรงข้ามมีแต่ความมุ่งมั่น ลลิษาเป็นเด็กสวยคมแต่อ่อนหวาน เป็นส่วนผสมที่แปลกทั้งสวยคมอย่างหาตัวจับยาก แต่อ่อนหวานชวนมองไม่รู้เบื่อ เธอดูจะสวยและมีเสน่ห์กว่าลักษณาในวัยใกล้เคียงกัน ลลิษาสามารถเป็นดารานักแสดงหรือนางแบบพรีเซนเตอร์ได้สบายๆ เพราะสูงยาวเข่าดี

แต่เด็กสวยๆ มักใจแตก ถ้าเธอไม่เสียคนตั้งแต่เด็ก ชีวิตเธอน่าจะไปได้ดีเพราะดูเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจและกตัญญู

“เอาละ เอาเป็นว่าฉันรับรู้ และฉันขออวยพรให้เธอโชคดี ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัว บ่ายนี้ฉันมีประชุม”

“หนูยังไม่ได้คุยธุระเลยค่ะ”

ปราณธรเลิกคิ้ว

“หนูมาหาคุณวันนี้ก็เพื่อมารักษาสัญญา หนูมาตามสัญญา” ลลิษาย้ำ

“สัญญาอะไร” ปราณธรขมวดคิ้ว

“สามปีก่อนหนูขอเงินจากคุณไปรักษาแม่สี่ล้านบาท ตอนนั้นคุณถามหนูว่าเงินไม่ใช่น้อยๆ หนูจะให้อะไรตอบแทนในเมื่อคุณเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่คนใจบุญที่คิดจะบริจาคเงินให้ใครฟรีๆ”

“ใช่ ฉันจำได้” ปราณธรตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ

“หนูบอกว่า หนูจะมอบตัวเองให้คุณเพื่อเป็นการตอบแทน” แววตาคนพูดไม่หวั่นไหวขัดกับใบหน้าที่ซีดเผือด

“แล้วฉันก็จำได้ว่า ตอนนั้นฉันตอบไปว่า ฉันไม่สนใจ เพราะเธอยังเด็กเกินไป”

“หนูก็เลยตอบไปว่าอีกสามปีหนูจะกลับมา หนูสัญญาว่าหนูจะกลับมาเมื่อหนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และตอนนี้หนูก็โตแล้ว”

ปราณธรกวาดตามองทั่วเจ้าของวงหน้าเรียวรูปไข่จดขาเรียวยาวที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่หน้าโต๊ะกระจก ลลิษาเยาว์วัยทั้งรูปร่างและหน้าตา

“ตอนนี้เธอก็ยังเด็กอยู่ดี” เขาตอบด้วยเสียงราบเรียบ

“ไม่เด็กแล้ว หนูอายุสิบเจ็ด หนูจบ ม.6 แล้ว”

“ก็ยังไม่พ้นข้อหาพรากผู้เยาว์อยู่ดี ฉันยังไม่อยากติดคุก”

“อีกสองเดือนหนูก็จะสิบแปดแล้ว อีกอย่างหนูไม่เหลือญาติคนไหนอีกแล้ว หนูตัวคนเดียว เพราะงั้นไม่มีใครเอาผิดคุณได้หรอก”

“แต่เธอก็ยังเด็กเกินไปสำหรับฉันอยู่ดี วัยขนาดเธอเป็นลูกฉันได้ด้วยซ้ำ ฉันไม่มีรสนิยมขึ้นเตียงกับเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กมัธยมด้วยแล้วไม่เคยอยู่ในความคิด”

“หนูบอกแล้ว หนูจบ ม.6 แล้ว อีกไม่กี่วันก็จะเข้ามหา’ลัย”

“รอให้จบมหา’ลัยก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน”

“หนูบอกว่าหนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง หนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

ปราณธรนิ่วหน้าเมื่อลลิษาแผดเสียงกลับมา “งั้นก็พิสูจน์สิ การพยายามเอาชนะด้วยการเถียงอย่างโง่ๆ เขาไม่เรียกว่าโตหรอกนะ ต้องคุยกันด้วยเหตุผลถึงจะเรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เอาละ...กลับไปซะ กลับไปเรียนหนังสือให้จบมหา’ลัย ส่วนเรื่องเงินค่ารักษาแม่เธอ ฉันยกให้ ถือซะว่าฉันทำบุญให้งานศพแม่เธอ ไม่ต้องใช้คืน”

“แต่หนูไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ หนูไม่อยากผิดคำพูดที่ให้ไว้กับคุณ แล้วหนูก็บอกแม่ก่อนตายไปแล้วว่าหนูจะมอบตัวเองให้คุณเพื่อตอบแทน”

“เธอไม่ได้ติดหนี้อะไรฉัน เพราะเงินนั่นฉันยกให้เธอตั้งแต่สามปีก่อน”

“ไม่ค่ะ สามปีก่อนหนูบอกคุณแล้ว หนูจะตอบแทนคุณด้วยตัวของหนูเอง วันนี้หนูพร้อมแล้วที่จะขึ้นเตียงกับคุณ”

ปราณธรอึ้ง เมื่อลลิษาไม่แค่พูด แต่ยังเดินตรงมาหา เขาผละห่างด้วยความตกใจ แต่เธอไม่ได้หยุดที่เขา เธอแทรกตัวขึ้นไปนั่งหมิ่นเหม่บนขอบโต๊ะ หัวเข่าแทบชนกับแผงอกเขาจนปราณธรต้องดันเก้าอี้ล้อลากออกห่าง ลลิษาถ่างขากว้างอย่างจงใจจนเห็นกางเกงในเนื้อบาง ปราณธรมองตามอย่างอดใจไม่อยู่ ขาเรียวยาวขาวนวลเนียนราวกับหยวกกล้วย ลลิษายกมือไขว้หลัง ได้ยินเสียงรูดซิปตามมา ถึงตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเด็กสาวจะทำอะไร

เขามองตามตาไม่กะพริบ ยังรู้สึกอึ้งๆ คาดไม่ถึง

เธอขยับหัวไหล่ แขนเสื้อร่วงมากองอยู่ที่เอว แววตาปราณธรเปลี่ยนจากความว่างเปล่าเป็นหิวกระหายด้วยดำฤษณาเมื่อเห็นบราเซียร์ลายลูกไม้ที่ประคองทรวงอกอวบอิ่มแทบไม่อยู่ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แถมเรื่องอย่างว่าเขาไม่เคยขาดและขาดไม่ได้ด้วย ลลิษาซ่อนรูปกว่าที่เห็นภายนอก รูปร่างเธอดูผอมบางไม่ต่างจากเด็กมัธยม แต่ที่ไหนได้ หน้าเธออาจมัธยม แต่หน้าอกเธอใหญ่เกินตัวจนดูเหมือนบราเซียร์ปิดไม่มิด เนินอกโผล่กว่าครึ่งและคล้อยต่ำด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้งอย่างน่าดูชม

แล้วลลิษาก็ทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องมากกว่านั้นด้วยการเอื้อมมือไปข้างหลัง ปลดตะขอบราเซียร์ก่อนปล่อยให้สายบราเซียร์ไหลมาตามแขนแล้ววางมันลงบนโต๊ะราวกับสาวอะโกโก้ที่กำลังเปลื้องผ้า ปราณธรกวาดตามองอย่างเพลิดเพลินทั่วใบหน้างามแฉล้ม ก่อนเลื่อนสายตาอ้อยอิ่งอยู่ที่ทรวงอกอวบอูมขาวสล้าง

หน้าอกเด็กสาวกลมกลึงอวบอิ่มและเต่งตึง ยอดอกเป็นสีทับทิม ซึ่งตอนนี้กำลังผลิขยายราวกับมีชีวิตจากเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำ เธอมีหน้าอกสวย ดูจะสวยกว่าสาวทุกรายที่เขาเคยขึ้นเตียงมา อาจเพราะทุกอย่างลงตัว ทั้งรูปร่างหน้าตาและวัย แล้วลลิษาก็ทำให้เขาตกใจมากกว่านั้นเมื่อเธอถือวิสาสะฉวยมือเขาไปวางบนทรวงอกเปลือยข้างหนึ่ง

“เธอจะทำอะไร” ปราณธรถามอย่างตกใจปนดุ อยากดึงมือกลับ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาสะกดใจไว้ เธอวางมือทาบบนหลังมือเขา ยามนั้นเขาอยากรู้ว่าเธอต้องการอะไรและจะไปสิ้นสุดที่ไหน

“พิสูจน์ให้คุณเห็นว่าหนูโตแล้ว หนูใช้งานได้แล้ว”

ปราณธรอึ้ง เขายังจ้องเธอนิ่งๆ ราวกับถูกสะกด ยอมรับว่าลลิษามีรูปร่างยั่วกิเลส เขาลดสายตาลงต่ำมายังหน้าท้องแบนราบ เอวคอดกิ่วไร้ซึ่งส่วนเกินใดๆ ก่อนจะเงยหน้าสำรวจวงหน้าหวานเงียบๆ แววตาเด็กสาวมุ่งมั่นอย่างที่ดูออกว่าเป็นคนไม่ยอมคน ผมยาวสลวยรวบเป็นมวย คิ้วเรียวเป็นคันศรพาดเหนือดวงตาสีนิลรับกับจมูกโด่งปลายงอนและริมฝีปากได้รูปกระจับ

ลลิษาสวยคมและอ่อนหวานแถมมีรูปร่างเซ็กซี่เร้าใจ เธอมีเซ็กซ์แอปพีลและความเยาว์วัยเป็นข้อได้เปรียบ แล้วเขาก็อึ้งมากกว่านั้นเมื่อจังหวะที่กำลังพินิจเพลินๆ เธอก็กดมือเขาให้บีบเคล้นยอดทรวง ก่อนจะพาย้ายไปสำรวจอีกข้าง รู้สึกได้ถึงผิวที่นุ่มลื่นยังกับผ้าไหมและความนุ่มหยุ่นมือของทรวงอกที่เต่งตึงชูชัน ยอดอกแข็งเป็นไต

ลลิษาจับมือเขาลากต่ำผ่านเดรสที่กองอยู่ที่เอว แต่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เธอลากมือเขาสอดเข้าไปในเดรส ทะลุผ่านกางเกงใน เกาะกุมส่วนที่พึงสงวน เขารู้สึกได้ถึงเส้นไหมที่อ่อนนุ่ม ปลายนิ้วสัมผัสส่วนที่ไวต่อประสาทสัมผัส

“คิดว่าหนูยังเด็กอยู่อีกมั้ย”

ปราณธรไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังบดกรามแน่นอย่างพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ “ฉันหวังว่าเธอจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่” เขาปรามเสียงแหบห้าวและสั่นพร่าอย่างห้ามไม่ได้

ลลิษาไม่ตอบ เธอจ้องเขาไม่คลาดสายตาเมื่อยกก้นข้างหนึ่ง รูดกางเกงในผ่านช่วงขาเรียวยาว วางไว้ไม่ห่างจากบราเซียร์นัก แล้วเธอก็ถ่างขากว้าง จับมือเขาให้ลูบไล้ส่วนอ่อนไหวจนเขารู้สึกได้ถึงความชุ่มฉ่ำ

ปราณธรครางในลำคอ เขาอยากถอนสายตา แต่ไม่อาจทำได้ สายตาเขาตรึงกับอากัปกิริยาตรงหน้าราวกับกำลังเพลิดเพลินกับโชว์สักโชว์ที่สุดแสนเร้าใจ เขาจ้องภาพสวยงามตรงหน้าอย่างไม่อาจถอนสายตาได้ ผิวเธอขาวผุดผาดจนเห็นเลือดฝาดตัดกับเส้นไหมอ่อนนุ่มสีนิล

สวรรค์ช่วย...ปราณธรรีบกระตุกมือกลับ ผละลุกจากเก้าอี้ เดินไปเกือบสุดผนังกระจก หันหลังให้เด็กสาวเมื่อกระชากเสียง

“แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกไปซะ” ปราณธรกำหมัดข้างลำตัวแน่น น้ำเสียงเย็นชาแข็งกร้าว ราวกับอุปาทานกลิ่นนวลเนื้อหอมกรุ่นยังตามมาหลอกหลอน

ให้ตายเถอะ...ลลิษาเติบโตมาแบบไหนกัน ลักษณาเลี้ยงลูกมาแบบไหนถึงได้ก๋ากั่น เธอกำลังเสนอตัวให้เขาและที่ร้ายไปกว่านั้น ใจเขาตอบรับไปแล้ว ทั้งที่รู้ว่าผิด แม้ไม่ผิดศีลข้อกาเมฯ ด้วยว่าเขายังโสด แต่ก็ผิดครรลอง ไม่ถูกต้องด้วยประการทั้งปวง เธอยังเด็ก เพิ่งจบ ม.6 หมาดๆ ถ้าเขากับลักษณาไม่เลิกกัน ป่านนี้เด็กสาวที่อยู่ข้างหลัง อาจเป็นลูกเขากับลักษณาก็ได้ นึกมาถึงตรงนี้ปราณธรบดกรามแน่น นึกแช่งชักหักกระดูกโชคชะตา

“คุณไม่สนใจร่างกายหนูหรือคะ”

“ไม่...เธอไม่ใช่สเปกฉัน ฉันไม่ชอบเด็ก”

“หนูบอกแล้ว หนูไม่ใช่เด็กๆ แล้ว หนูโตเป็นสาวแล้ว มีเด็กมากมายอายุน้อยกว่าหนูด้วยซ้ำ แต่งงานมีสามีไปแล้ว”

“ยังไงฉันก็ไม่ชอบเด็ก โดยเฉพาะเด็กบริสุทธิ์ด้วยแล้ว ฉันยิ่งไม่สนใจ” ปราณธรยังคงปักหลักหันหลัง เขากลัวว่าลลิษาจะเห็นประจักษ์พยานเดียวที่มีอยู่ในกายที่กำลังทรยศต่อคนเป็นนาย ด้วยมันกำลังแข็งขึงแทบกลายเป็นหินจนเขาปวดหนึบอยู่ในตอนนี้

“หนูเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้ว”

ปราณธรชะงัก บดกรามแน่น บอกตัวเองไม่ถูกว่าทำไมต้องหงุดหงิดเมื่อได้ยินว่าลลิษาไม่ใช่เด็กเวอร์จิน เคยผ่านมือชาย เขาตอบเสียงกร้าว “ยังไงเธอก็ไม่ใช่สเปกฉัน กลับไปซะ”

“คุณเป็นผู้ชายที่ใจเสาะที่สุดรู้มั้ย หนูรักษาสัญญา แต่คุณกลับเห่ยไม่กล้ารับ ทำไมเราไม่ทำให้มันจบๆ ไปซะ จะได้ไม่ต้องติดค้างหนี้ต่อกัน”

ปราณธรฉุนเมื่อถูกเด็กวัยละอ่อนคราวลูกหมิ่นเกียรติ เธอคิดจะมีเซ็กซ์เพียงแค่ทำให้มันจบๆ เพื่อล้างหนี้ต่อกัน เขารู้สึกถูกหยามเกียรติ เซ็กซ์สำหรับเขามีความหมายมากกว่านั้น ปราณธรพูดอย่างถอนฉุนว่า

“สี่ล้านเชียวนะ เธอคิดจะล้างหนี้ได้หมดภายในครั้งเดียวที่ขึ้นเตียงกับฉันอย่างนั้นหรือ คิดว่าตัวเองมีค่าตัวสูงขนาดนั้นเชียว” ปราณธรเย้ยพลางหันกลับมาเผชิญหน้าแล้วเขาก็พบว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ เมื่อแสงที่สาดกระทบกระจกทำให้เห็นนวลเนื้อส่วนที่พึงสงวนได้อย่างชัดเจน

สวรรค์ช่วย...ถึงเธอไม่บอกว่าไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ ก็คงไม่มีสาวบริสุทธิ์คนไหนกล้านั่งอล่างฉ่างเปิดเผยเนื้อตัวต่อหน้าคนแปลกหน้าเหมือนเธออีกแล้ว

ใบหน้าลลิษาแดงก่ำตลอดสรรพางค์ แต่แววตาถมึงทึง เธอเม้มริมฝีปากแน่น “กี่ครั้งล่ะ คุณต้องการกี่ครั้งบอกมาเลย”

“จนกว่าฉันจะเบื่อเป็นไง” ปราณธรกระแทกเสียงกลับอย่างถอนฉุน ก่อนเลิกคิ้วอย่างยียวน “ถ้าไม่แน่จริง ก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก ฉันรำคาญเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแต่ทำตัวอวดเก่ง” ปราณธรปรามาส หวังว่าเธอจะยอมแพ้ล่าถอยกลับไปและไม่กลับมาเจอเขาอีก

ลลิษาอ้าปากจะโต้ แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับเลขาฯ ของปราณธรที่โผล่หน้ามา รินดาอ้าปากจะพูด แต่เมื่อเห็นแขกของปราณธรที่กำลังนั่งกึ่งเปลือยอยู่บนโต๊ะก็ทำหน้าตกใจ

“ขะ...ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ทราบ เดี๋ยวดิฉันจะเข้ามาใหม่” รินดากล่าวโดยที่มือยังยึดขอบประตู

“ไม่ต้อง แขกผมจะกลับอยู่แล้ว ช่วยไปส่งแขกด้วย”

ลลิษาคอแข็งเมื่อถูกไล่ดื้อๆ เธอเอื้อมมือไปรูดซิปทางด้านหลัง ดึงชายกระโปรงที่ร่นถึงหน้าขาลงมาคลุมขา กระโดดลงจากโต๊ะ แล้วหันไปคว้ากระเป๋าสะพาย ทำท่าจะเดินออกไป

“เดี๋ยวลลิษา”

เธอชะงัก แต่ไม่หันมามองเขา

“เธอลืมอะไรหรือเปล่า”

“ถ้าหมายถึงยกทรงกับกางเกงใน หนูยกให้คุณเป็นที่ระลึก”

ปราณธรบดกรามแน่นเมื่อเธอพูดจบก็แทรกตัวผ่านรินดาราวกับนางพญา

จังหวะแทรกผ่าน รินดารีบปล่อยประตูจนดีดกลับ เด็กสาวใช้เท้ายันก่อนออกแรงถีบให้ประตูเปิดออกกว้างแล้วเดินผ่านไปด้วยมาดนิ่งสงบ รินดามองตามตาปริบๆ ยื่นมือดันประตูที่กำลังดีดกลับ จ้องเด็กสาวจนลับตาแล้วจึงหันมามองปราณธร

“เด็กคนนั้นเป็นใครคะ ก๋ากั่นยังกับสาวให้บริการ”

รินดาชะงักอย่างรู้ตัว เมื่อปราณธรยังคงวางนิ่ง ไม่ตอบ เธอยิ้มแหยๆ เพราะรู้ดีว่าปราณธรเป็นคนถือตัว ไม่ชอบให้ลูกน้องคุยเล่นหัวและท่าทางเขาก็ด่าได้เจ็บแสบเสียยิ่งกว่าคำพูด

รินดากลืนน้ำลาย เอ่ยเสียงอ่อยๆ “ขอโทษค่ะที่ก้าวก่าย”

“ว่าธุระของเธอมาเถอะ”

“คุณมิญชยารออยู่ที่ห้องรับรองค่ะ”

“บอกให้เธอเข้ามา”

 

“พระเจ้า!...” มิญชยาอุทานเมื่อปราณธรดันเธอติดประตู

ปราณธรไม่พูดพร่ำทำเพลง กดล็อกประตูก้านโยก ผลักเธอเบียดติดประตูก่อนตามมาบดเบียดจนร่างแทบหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันและบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อนดุดัน จูบตะกละตะกลามราวกับคนตายอดตายอยากกับเรื่องอย่างว่า ทั้งที่แท้จริงแล้วข้างกายเขามีผู้หญิงนับไม่ถ้วน

เพนต์เฮาส์หรูคือโรงเชือดสาวดีๆ นี่เอง เขาพาสาวและไม่สาวสลับหมุนเวียนไปค้าง ที่ผ่านมาเธอพยายามไม่หึงหวง ปลอบใจตัวเองว่าไม่ใช่เจ้าของเขา แค่เขายอมให้เธอไปค้างด้วยบ่อยๆ ก็พิเศษมากแล้ว

เขาเป็นเพลย์บอย คุณสมบัติเพียบพร้อม ขณะที่เธอเป็นแค่นางแบบหางแถว ไม่มีคุณสมบัติเลิศเลอจะไปต่อกรกับสาวคนไหน แต่เขาเลือกเธอ เธอจึงควรภูมิใจ ยามออกงานสังคมหรือประชุมสัมมนาต่างประเทศ เขาโทร. ชวนเธอไปเป็นเพื่อน เธอเดาว่าเพราะผู้หญิงคนอื่นใจไม่ถึง ก็อย่างว่าพวกผู้ดีมักเหนียมอาย ขณะที่ปราณธรเป็นผู้ชายเร่าร้อน ความต้องการสูง มีเสน่ห์ชวนหลงใหล รูปร่างหน้าตาจัดว่าเพอร์เฟกต์ เรื่องบนเตียงไร้ที่ติยิ่งกว่า สมกับฉายาแคซาโนวา บทรักเขาร้อนแรงถึงใจ อึดและใส่ใจคู่นอนทำให้เธอถึงจุดสุดยอดหลายต่อหลายครั้งในคืนเดียว ทั้งหมดล้วนเป็นเหตุผลให้เธอตกบ่วงเสน่ห์เขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

มิญชยาครางกระเส่าอย่างถูกใจกับจุมพิตร้อนแรง เธอจูบตอบเขาอย่างเร่าร้อนปานกัน ลมหายใจหอบกระชั้นเมื่อเขายื่นมือมาขยำอกผ่านเสื้อลูกไม้ราคาแพง เขาบีบเคล้นหนักหน่วง อารมณ์ดิบเถื่อนร้อนแรงกว่าทุกครั้ง เขาไม่เคยมีเซ็กซ์ในที่ทำงานทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอยั่วเขามาตลอดแต่เขาไม่เคยเออออ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป

ปราณธรสอดมือเข้าไปในกระโปรง ผ่านจีสตริงแล้วรัวปลายนิ้วลงบนนวลเนื้อที่แสดงความเป็นหญิงราวกับนักเปียโนที่ช่ำชองเพลงรัก เธอครางอย่างสุขสมแกมรัญจวน เขาก็ยิ่งเร่งปลายนิ้วเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้น

“ปราณ คุณทำให้ฉันร้อนยังกับไฟ ฉันคิดอะไรไม่ออก” มิญชยาคราง

ปราณธรไม่ตอบ เขาจับขาเรียวข้างหนึ่งพาดแขน รูดซิปกางเกงสแล็กก่อนใช้หลังมือดันขอบจีสตริง จับกายแกร่งที่แข็งปานหินสอดกายนุ่ม ก่อนขยับโยกอย่างรุนแรงหนักหน่วง

มิญชยาสะดุ้งเฮือกเพราะขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร เธอยกมือยันอกเขา สีหน้าเหยเก แต่ปราณธรยังคงเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่ง บีบกระชับสะโพกเธอกดให้บดเบียดกับกายแกร่งพลางก้มศีรษะลงมาบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน รุนแรง และดิบเถื่อนราวกับสัตว์ป่า ซึ่งเธอไม่เคยพานพบกับอารมณ์ชนิดนี้มาก่อน ปกติแล้วเขานุ่มนวลอ่อนหวาน ให้ความสุขเธอก่อนและรอจนเธอเสร็จถึงจะตักตวงความสุขจากร่างกายเธอ แต่นี่นอกจากจะไม่เล้าโลมแล้ว เขายังเร่งจังหวะราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้

ปราณธรโยกสะโพกด้วยจังหวะกระแทกกระทั้นหนักหน่วง ไม่นานร่างกายก็กระตุกเกร็งแล้วถอนกายออก นี่คือปราณธร ต่อให้เขากลัดมันแค่ไหน เขาก็ไม่ปล่อยสายธารรักในกายหญิงคนไหนเด็ดขาดหากไม่ได้สวมเครื่องป้องกันไว้ก่อน เขาระมัดระวังตัวเองที่จะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนไหนใช้ข้ออ้างเรื่องท้องมาจับเขาได้

มิญชยานั่งยองๆ คว้ากายแกร่งที่ยังแข็งขึงใส่ปากอย่างรู้งาน เธอครอบครองอย่างหิวกระหาย คล่องแคล่วชำนิชำนาญอย่างคนที่หลงรักและหลงใหลในเนื้อตัวเขาอย่างแท้จริง

ปราณธรมีรูปร่างงดงามสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะแก่นกายแกร่งซึ่งเป็นส่วนที่ถูกใจเธอที่สุด แถมลีลาเขายังชนะขาดผู้ชายทุกคนที่เธอเคยขึ้นเตียงด้วยจนเธอยอมหยุดที่เขาคนเดียว

เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ่งกว่าเทพบุตรกำลังหรี่ตามองเธอด้วยแววตากระหาย ปราณธรเป็นผู้ชายเย็นชา ยิ้มยาก ไม่เคยอ่อนไหวหรือหวั่นไหวกับสิ่งใดง่ายๆ นอกจากเรื่องเซ็กซ์ที่ทำให้เขาอ่อนโยนซึ่งขัดกับบุคลิก มิญชยามองชู้รักด้วยแววตาชื่นชม ปราณธรมีรูปร่างสูงใหญ่ยังกับฝรั่ง เป็นนายแบบได้สบายๆ ขนาดเธอเป็นนางแบบที่จัดว่าสูงกว่าเพื่อนนางแบบด้วยกันแล้ว ก็ยังเตี้ยกว่าเขาเกือบสองคืบ

มิญชยายังคงดูดกลืนตัวตนเขาอย่างหิวกระหาย รู้สึกราวกับกำชัยชนะเมื่อปราณธรหอบหายใจรุนแรงสลับกับคราง เขาโน้มตัวและสอดมือเข้ามาในคอเสื้อ บีบเคล้นอกเธออย่างหนักหน่วง ไม่นานกายแกร่งกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ปล่อยสายธารรักให้เธอทำความสะอาดให้เขาทุกหยาดหยด เธอชอบรสชาติเขา ปราณธรให้ความรู้สึกต่างจากผู้ชายทุกคน มิญชยาอยากโรมรันกับเขาอีกครั้ง เธอปรารถนาเขาจนเนื้อตัวครัดเคร่งและร้อนรุ่มไปหมดแล้ว

“สวรรค์” ปราณธรอุทานแล้วกระตุกร่างมิญชยาขึ้นมากอดจูบ มิญชยาให้ความรู้สึกยอดเยี่ยม ถึงเธอจะแทนลลิษาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยผ่อนคลายอาการร้อนรุ่มที่เกิดจากแม่ตัวแสบคนนั้นให้เบาบางลงได้ จนถึงตอนนี้เขายังต้องการลลิษา แม้เธอจะสะบัดก้นจากเขาไปหลายนาทีแล้ว แต่เขาก็ยังต้องการเธอจนเนื้อตัวครัดเคร่ง การมีเซ็กซ์รวดเร็วและถึงใจกับมิญชยาจึงช่วยแก้ขัดไปได้บ้าง

“เกิดอะไรขึ้น ปกติคุณไม่ได้กลัดมันขนาดนี้”

ปราณธรรู้สึกผิด เขาไม่อาจให้คำตอบมิญชยาได้ เลยเสมาโอบกระชับรอบกาย ซุกหน้ากับซอกคอหอมกรุ่นเพื่อซ่อนความรู้สึกทางสีหน้า เขากำลังละอายใจที่ใช้ร่างกายมิญชยามาระบายความใคร่แทนลลิษา ภาพที่อยู่ในหัวตลอดเวลาคือเรือนร่างขาวโพลนที่นั่งอ้าซ่าของลลิษา

เขาไม่อาจสลัดภาพที่เธอจับมือเขาลูบไล้ไปตามเนื้อตัว จนถึงตอนนี้ภาพที่เขาบีบเคล้นไปตามเรือนร่างอบอุ่น ไล่ตั้งแต่อกเปลือย หน้าท้องแบนราบ จนถึงนวลเนื้อที่แสดงความเป็นหญิงก็ยังคงให้ความรู้สึกหวานซาบซ่านและแจ่มชัดในความทรงจำ เขายังจำได้ดีว่ามันให้ความรู้สึกเร่าร้อนและชวนวาบหวามแค่ไหน ภาพเหล่านั้นยังคงติดตา ตรึงใจ เขาอยากฝังใบหน้า ลิ้มรสชาติว่านวลเนื้อกลางกายจะให้ความรู้สึกฉ่ำหวานซาบซ่านดั่งภาพที่เห็นหรือไม่

เขาอยากชิมรสชาติของกลีบกุหลาบสีชมพู อยากเป็นส่วนหนึ่งในกายเธอกระทั่งเธอสั่นระริกและร้องครวญครางด้วยความสุขสมไปกับเขา เขาต้องการเธอกระทั่งเนื้อตัวร้อนรุ่มและรวดร้าวไปหมด ฉะนั้นตลอดเวลาที่เขากระแทกกระทั้นใส่มิญชยา เขาจินตนาการตลอดว่าอีกฝ่ายคือลลิษา

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น