2

บทที่ 2



 2

 

“เจ็บหรือเปล่า ขอโทษที่ผมรุนแรงกับคุณ”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณก็รู้ ฉันชอบเซ็กซ์เร่าร้อนและรุนแรง โดยเฉพาะกับคุณ” มิญชยาย้ำแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างสาวขี้เล่น

ปราณธรมองคู่ขาที่เขาถูกใจมากที่สุดในบรรดาคู่นอนทุกคน ด้วยความรู้สึกอึ้งๆ แล้วกล่าวเสียงนุ่ม “ให้ผมแก้มือเถอะนะ”

มิญชยาเลิกคิ้ว “คะ?”

ปราณธรไม่ตอบ แต่ช้อนข้อพับเข่ามิญชยาพาอุ้มไปวางบนโต๊ะตำแหน่งเดียวกับที่ลลิษาเพิ่งลุกไป บอกตัวเองว่าไม่ใช่เพื่อมาแทนแม่สาวก๋ากั่นนั่น เพียงแต่ใช้โต๊ะช่วยอำนวยความสะดวกให้

ปราณธรดันบ่าบอบบางให้เอนราบ ตามไปแทรกกลางหว่างขาก่อนชะโงกหน้าไปควานหาจูบดูดดื่ม สองมือปลดกระดุมเสื้อไปพลางด้วยกิริยานุ่มนวลเนิบช้า เขาอยากแก้มือกับความผิดพลาดเมื่อครู่

เขาไม่เคยมีปัญหากับการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่นับแต่ลลิษาโผล่มาวันนี้ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปหมด เขาสูญเสียการควบคุม มีปัญหากับการจัดการอารมณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาใส่ใจและห่วงใยคู่นอนก่อนเป็นอันดับแรก ความสุขของเขาคือได้ปรนเปรอ ทำให้พวกเธอถึงจุดสุดยอดหลายต่อหลายครั้ง มันเป็นความท้าทายและเป็นความสุขของเขา แต่นับตั้งแต่แม่ตัวยุ่งโผล่มา เรื่องเซ็กซ์ของเขาก็หกคะเมนตีลังกา อยากแต่จะปลดปล่อยความต้องการ

ลลิษาทำให้เขาร้อนรุ่ม เนื้อตัวครัดเคร่งจนต้องระบายกับใครสักคนที่ผ่านเข้ามา และบังเอิญมิญชยาโชคร้ายผ่านมาพอดี

ลลิษาปรากฏกายขึ้นไม่ถึงสิบนาที แต่อานุภาพของมันส่งผลร้ายแรงไม่ต่างจากเชื้อโรคร้ายที่แพร่กระจายลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนถึงตอนนี้เขายังไม่อาจสลัดภาพที่เธอเปิดเผยเนื้อตัวซึ่งเป็นสัญญาณที่อันตรายอย่างยิ่ง ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนก่อกวนจิตใจที่สงบนอนก้นมากว่าสิบปีได้ ถึงจะมีอะไรกับผู้หญิงมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทั้งไทยและเทศ แต่ไม่เคยมีใครมีอิทธิพลต่อเขาเหมือนที่ลลิษากำลังเขย่าโลกของเขาอยู่ตอนนี้

ปราณธรพยายามสลัดภาพเด็กสาวออกไปจากความคิดคำนึง บังคับตัวเองให้จดจ่อกับร่างอรชรตรงหน้า เขาปลดบราเซียร์รูดไปตามช่วงแขน ตามด้วยกระโปรงและจีสตริง ก่อนเชยชมทรวงอกงาม แต่ภาพในหัวกลับกระหวัดถึงทรวงอกกลมกลึงได้รูปสวยของลลิษาที่คล้อยต่ำด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้งอย่างน่าดูชม...ปราณธรชะงักเมื่อรู้ตัวว่าไพล่ไปคิดถึงเธออีกครา ภาพที่ลลิษาจับมือเขาบีบเคล้นไปตามทรวงอกทั้งสองข้างย้อนกลับมาในความทรงจำ

เขาร้องคราง และโดยไม่รู้ตัวปราณธรเผลอขบเม้มและดูดกลืนยอดอกสีทับทิมอย่างหนักหน่วงรุนแรง สะท้อนอารมณ์ปั่นป่วนภายใน

มิญชยาสะดุ้ง ก่อนครางด้วยความเสียวซ่านแกมระบม กระนั้นกลับให้ความสุขสมแก่เธอ เธอรักและคลั่งไคล้หนุ่มใหญ่ร้อนแรงภาคดิบเถื่อนที่อยู่ตรงหน้านี้ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงยอดอกที่กำลังครัดเคร่ง และผลิขยายราวกับมีชีวิตเมื่อปราณธรครอบครองมันอย่างหนักหน่วงดุดัน ลมหายใจเธอขาดเป็นห้วงๆ เมื่อปราณธรเลื่อนศีรษะลงต่ำเรื่อยๆ เขาใช้ลิ้นร้อนๆ และเล็มระเรื่อยไปยังหน้าท้องจดเนินเนื้อที่แสดงความเป็นหญิง ก่อนยกขาเธอตั้งชันบนโต๊ะ เชยชมทั่วจุดที่ไวต่อสัมผัส

มิญชยาสะดุ้งเฮือก ร่างกายบิดเร่ารุนแรง เกร็งและแอ่นโค้งตัวอย่างต้านทานไม่อยู่ ปราณธรรู้เสมอว่าจะสร้างความสุขสมให้เธออย่างไร แล้วจังหวะที่เขารัวปลายลิ้นทั่วจุดหวามไหว ตามด้วยดูดกลืนขบเม้ม กายเธอก็สั่นเทิ้ม ปั่นป่วนไปทั่วช่องท้อง เธอกวาดแขนรอบโต๊ะอย่างต้องการหาหลักยึด เสี้ยววินาทีนั้นก็ต้องชะงักเมื่อมือกวาดไปโดนอะไรบางอย่างที่นุ่ม เธอเอียงศีรษะมอง เกิดอาการตาค้างเมื่อพบว่าเป็นบราเซียร์ลายลูกไม้ และที่แย่กว่านั้น ศีรษะเธอกำลังหนุนกางเกงในลายลูกไม้อย่างที่ดูออกว่าเป็นของเด็กวัยรุ่น ด้วยว่าเป็นลายการ์ตูน มีโบเล็กๆ ผูกด้านข้าง

มิญชยาอยากกรี๊ดลั่นด้วยความขยะแขยง แต่วินาทีนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ปราณธรห่อปลายลิ้นบุกรุกรัวเร็วและหนักหน่วงจนเธอลืมเลือนทุกอย่างเสียสิ้น เธอคิดอะไรไม่ออก นอกจากความสุขสมที่เขากำลังหยิบยื่นให้ มิญชยาครวญครางด้วยความเสียวซ่าน กายบิดเร่าและสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่ ไม่กี่วินาทีต่อมาปลายเท้าก็จิกเกร็ง ร่างกระตุก ซึ่งเกิดจากภาวะการถึงจุดไคลแมกซ์รุนแรง

ปราณธรรีบเปลื้องผ้า ตามไปประกบเธอ แล้วดูดกลืนเสียงร้องพลางจับกายแกร่งที่กลับมาเหยียดขยายแข็งขึงราวกับหินสอดไปในกายนุ่มจนเธอสะดุ้งเฮือก ด้วยว่าขนาดที่ใหญ่โต ส่งผลให้ถึงแม้เขาจะนุ่มนวลอย่างไร เธอก็ยังจุกและอึดอัดอยู่ดี

“คุณโอเคมั้ยหวานใจ” ปราณธรถามเสียงนุ่ม เมื่อพบว่ามิญชยาสั่นสะท้านอย่างที่เขารู้สึกได้ เขายืดตัวสำรวจใบหน้าหวาน ก่อนยื่นมือไปรุกรานอกอิ่มเพื่อช่วยกระตุ้นเร้าความรู้สึก บังคับตัวเองให้แช่นิ่งๆ เพื่อให้เธอปรับสภาพร่างกายให้พร้อมรับขนาดของเขาที่ถูกกระตุ้นความกำหนัดอย่างรุนแรงจากลลิษา

มิญชยารับกับความต้องการของเขาได้ทุกรูปแบบและทุกสถานการณ์ เขาเจอเธอเมื่อสองปีก่อนในงานการกุศลของโรงแรมที่เขาจัดขึ้น แผนกการตลาดคัดเลือกนางแบบและตัดสินใจจ้างเธอมาเดินแบบ หลังเจอเธอ เขาถูกใจรูปร่างหน้าตาด้วยว่ามิญชยามีทุกอย่างที่ผู้ชายต้องการ สูงยาวเข่าดี นมเป็นนม เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก หลังจบงานเขาชวนเธอไปฟังเพลงต่อ ก่อนจบที่เพนต์เฮาส์ของเขา นับแต่นั้นเธอก็กลายมาเป็นขาประจำที่เขาพาขึ้นเตียงด้วยบ่อยที่สุด

“โอเคค่ะ” มิญชยาตอบ ใบหน้าแดงก่ำจดลำคอ

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

เธอส่ายหน้าจนผมสยายไปกับโต๊ะ “ไม่ค่ะ คุณอ่อนโยนกับฉันมาก”

“คุณด่วนสรุปหรือเปล่ายาหยี” ปราณธรกระเซ้ากลั้วเสียงหัวเราะ รั้งตัวเธอเข้ามา สะโพกชิดขอบโต๊ะ เริ่มต้นโยกขยับด้วยจังหวะเนิบช้า ก่อนเพิ่มความเร็วและหนักหน่วงจนกลายเป็นการกระแทกกระทั้น

อารมณ์ปราณธรเตลิดอีกครั้งเมื่อภาพในหัวกลับมาเป็นลลิษาที่กำลังนอนแผ่หลา เขาบีบกระชับสะโพกของมิญชยาบังคับให้บดเบียดกับแก่นกาย เคลื่อนไหวด้วยจังหวะดุดันเร่าร้อน เสียงเนื้อแนบเนื้อเสียดสีกันดังชัดเจนในห้องทำงานแห่งนั้น กลิ่นความใคร่หอมรัญจวน พร้อมกับที่เหงื่อเม็ดโป้งๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าและทั่วกาย

ปราณธรยื่นมือไปให้มิญชยายึดเมื่อเธอกำหมัดข้างตัวแน่น มืออีกข้างเขาเลื่อนไปสัมผัสโลมลูบจุดอ่อนไหว พลางชะโงกหน้าไปดูดเม้มอกเปลือย มิญชยาตัวสั่นระริกก่อนกระตุกเกร็ง ในขณะที่ปราณธรยังคงขยับโยกอย่างหนักหน่วงพร้อมกับใช้ปลายนิ้วลูบวนเคล้นคลึงไปพลาง เขาเร่งจังหวะการครอบครอง ไม่นานร่างกระตุกเกร็งในจังหวะเดียวกับที่เขาถอนกายออกมา ชะโงกหน้าไปจูบอีกฝ่ายอย่างนึกขอโทษอยู่ในที เพราะวินาทีสุดท้ายที่ถึงจุดไคลแมกซ์ เขาก็ยังนึกถึงลลิษา เขาอยากให้เป็นแม่ตัวแสบคนนั้นที่นอนอ่อนระทวยใต้ร่างเขา อยากให้เป็นเธอที่ถึงฝั่งฝันไปพร้อมกับเขา เขาต้องการลลิษามากจนเนื้อตัวครัดเคร่งและปวดร้าวไปหมด

สวรรค์...จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่อาจสลัดเด็กสาวออกไปได้ ปราณธรนึกสงสัยว่าชาตินี้จะสลัดภาพลลิษาออกจากใจได้ไหมโดยเฉพาะภาพที่เธอนั่งแยกขากว้างเปิดเผยเนื้อตัว บางทีอาจจะไม่...จนกว่าเขาจะได้เชยชมเธออย่างดิบเถื่อนและร้อนแรงนั่นละ แค่คิดปราณธรก็แทบคลั่งด้วยความปรารถนา

“ขอบคุณมิ้น คุณยอดเยี่ยมมาก” ปราณธรชม และเล็มกลีบปากล่างเบาๆ อย่างหยอกเย้า

มิญชยาหน้าแดง ยื่นมือไปเกี่ยวรอบคอเขาแล้วยิ้มซุกซน “คุณต่างหากที่ยอดเยี่ยมที่สุด คุณไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง”

ปราณธรเลิกคิ้ว “ผมดีใจที่คุณรับมันได้”

“ไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมายนี่คะ รู้อยู่คุณเป็นนักรักตัวยง”

ปราณธรหัวเราะ “ไปอาบน้ำกันเถอะ ผมจะอาบให้คุณ” เขาอุ้มพาเธอตรงไปยังห้องน้ำ

 

ห้องน้ำกว้างขวาง แยกเป็นสัดส่วนระหว่างพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้ง มีวอล์กอินโคลเซตและห้องแต่งตัวแยกมาต่างหาก

มิญชยาเล้าโลมเขา เริ่มจากไซ้ซอกคอระเรื่อยไปยังแผงอกกว้าง ปราณธรต่างจากผู้ชายทั่วไป แม้ไม่ใช่ฝรั่งแต่มีไรขนอ่อนๆ ปกคลุมทั่วแผงอกซึ่งเซ็กซี่ ให้ความรู้สึกเสียวซ่านแกมจั๊กจี้ยามนัวเนีย

ปราณธรรีบฉวยบ่ามิญชยาเมื่อเธอทำท่านั่งยองๆ คว้าน้องชายเขาจะเข้าปาก

“เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นทูนหัว บ่ายนี้ผมต้องเตรียมตัวเข้าประชุม” น้ำจากฝักบัวไหลพรั่งพรูรดตัวพวกเขา เขากดหัวสเปรย์กระปุกสบู่เหลวแล้วถูไปตามตัวหญิงสาว

มิญชยาทำหน้าเคลิบเคลิ้มเมื่อเขาคลึงยอดอก “หลังเลิกงานเราเจอกันได้ไหมคะ ฉันจะรอคุณในห้องทำงานนี้ เราจะได้กลับด้วยกัน” มิญชยาบอกเสียงแหบพร่า โอบรอบเอวเขา ทำเสียงประจบ

“คืนนี้ผมต้องค้างบ้านใหญ่ ไม่ได้ไปนอนหลายอาทิตย์แล้ว”

มิญชยาทำหน้าผิดหวัง

ปราณธรเห็นแล้วใจอ่อน “เอางี้ พรุ่งนี้เช้าก่อนมาทำงาน ผมแวะไปหาคุณที่คอนโด”

มิญชยาฉีกยิ้มกว้างทันที “ดีค่ะ เราจะได้กินมื้อเช้าด้วยกัน ฉันจะรอนะคะ”

ปราณธรพยักหน้า เขาทำความสะอาดเนื้อตัวให้มิญชยาจนเสร็จแล้วจึงจัดการตัวเอง

“คุณจะออกไปก่อนก็ได้นะ ไม่งั้นได้เปื้อนอีกรอบแน่” ปราณธรเตือนเมื่อมิญชยายังปักหลักจ้องเขาตาไม่กะพริบ สายตามิญชยาอ่านง่าย เธอต้องการเขา เขาก็อยากต่อกับเธออีกสักรอบถ้ามีเวลา แต่เขาเสียเวลาไปมากแล้ว เหลือเวลาไม่ถึงสี่สิบห้านาทีที่จะต้องไปให้ถึงห้องประชุม

“ฉันกะนอนแช่อ่างสักพัก รู้สึกเมื่อย”

“งั้นเชิญตามสบายเลยครับ” ปราณธรปิดก๊อกฝักบัว เดินออกจากตู้อาบน้ำโดยมีมิญชยาเดินตาม เขาเอื้อมหยิบผ้าขนหนูมาซับใบหน้าก่อนพันรอบเอวหลวมๆ แล้วหันไปบอกเธอ “ตามสบายนะ ชุดลำลองของผมอยู่ในห้องแต่งตัวข้างๆ คุณเลือกใช้ได้เลย ผมขอตัวเข้าประชุมก่อน เจอกันพรุ่งนี้” ปราณธรชะโงกหน้าไปจุ๊บริมฝีปากนุ่มเร็วๆ ทีหนึ่ง แล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว

มิญชยามองตามหลังจนประตูปิดลง จึงเดินไปนอนแช่อ่างจากุซซี จังหวะนั้นนึกได้ว่ายังไม่ได้ซักไซ้เขาเรื่องบราเซียร์กับกางเกงในจึงลุกขึ้นจากอ่าง ฉวยชุดคลุมมาสวมลวกๆ ก่อนเดินตามเขาเข้าไปในห้องทำงาน แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ไม่มีแม้บราเซียร์กับกางเกงในอยู่บนโต๊ะ

 

คืนถัดมา

ปราณธรตรงดิ่งกลับบ้านเมื่อได้รับโทรศัพท์จาก รปภ. แจ้งว่ามีเด็กสาววัย 14-15 หน้าตาสะสวยยังกับนางฟ้ามารออยู่ที่บ้าน ฟัง รปภ. บรรยายลักษณะรูปร่างแล้วนึกรู้ได้ทันทีว่าเป็นลลิษา

หลังเลิกงานเขายกเลิกนัดทุกนัดแล้วบึ่งรถกลับบ้าน บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าเธอมารอและเขาไม่รู้ว่าเธอรู้ที่ตั้งบ้านเขาได้อย่างไร เดาว่าน่าจะเซิร์ชหาจากอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก ปราณธรเลี้ยวรถหรูราคาแพงระยับเข้าไปจอดหน้าบ้าน สายตาปะทะเข้ากับร่างบางของลลิษาที่กำลังลากกระเป๋าล้อลากใบเขื่องตรงมาที่เขา เขาลงจากรถก่อนกดรีโมตล็อกประตูรถในจังหวะเดียวกับที่เธอมาหยุดยืนตรงหน้า

“หนูมาตามสัญญา” เธอประกาศ

ปราณธรเลิกคิ้ว ยกมือกอดอกพลางยืนพิงข้างตัวรถ “สัญญาอะไร”

เขากวาดตามองทั่วร่างบางสูงโปร่งด้วยสายตาหยาบโลนอย่างจงใจ

ค่ำนี้เธออยู่ในชุดทะมัดทะแมงด้วยกางเกงวอร์ม เสื้อยืดตัวโคร่ง ร่างนี้เคยหลอกตาเขาสำเร็จมาแล้ว เขาเคยเชื่อว่าเธอผอมบางทั้งที่เนื้อแท้แล้วเปล่าเลย เธอมีรูปร่างยั่วกิเลสผู้ชาย หน้าอกใหญ่เกินตัว แถมได้รูปทรงสวยน่าสัมผัส หน้าท้องแบนราบ เหมือนได้พรจากเบื้องบนเพราะมีทุกอย่างที่ผู้ชายอย่างเขาต้องการ อกเอวสะโพกรับกันเหมาะเจาะยังกับฟ้าประทาน แถมหน้าตายังจิ้มลิ้มพริ้มเพรา

ลลิษาเหมือนนางฟ้า เห็นแล้วนึกถึงตุ๊กตาเคลือบดินเผาเนื้อดี เขาสามารถกกกอดเธอได้ตลอดวันตลอดคืนจวบจนรุ่งสางโดยไม่รู้เบื่อ เธอทำให้เขาคลั่งไคล้ถึงกับเก็บบราเซียร์กับกางเกงในไว้ข้างตัว เวลานี้มันถูกเก็บอย่างดีในถุงพลาสติกที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักเก็บของหน้ารถ

“คุณบอกว่า จะมีอะไรกับหนูจนกว่าจะเบื่อ”

ปราณธรเลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าเธอจะยังจำและยึดคำพูดเขาเป็นจริงเป็นจัง เพราะสำหรับเขาพูดออกไปด้วยแรงประชด ไม่ได้หมายความตามนั้น และถึงแม้จะต้องการเธอแค่ไหน เขาก็ตระหนักดีถึงความไม่เหมาะไม่ควร ลลิษาเด็กเกินกว่าที่เขาจะพาขึ้นเตียง แถมยังเป็นลูกของลักษณา เปรียบไปไม่ต่างจากลูกเขา เพราะถ้าเขากับแม่เธอยังไม่เลิกกัน ป่านนี้เธออาจเป็นลูกเขาก็ได้

“คุณบอกว่าหนูไม่ได้มีค่าตัวสูงขนาดที่จะเอาแค่ครั้งเดียวแล้วล้างหนี้สี่ล้านได้หมด คุณบอกว่าจะเอาหนูจนกว่าจะเบื่อ หนูเลยขนเสื้อผ้าย้ายมาอยู่ที่นี่เผื่อคุณต้องการเมื่อไหร่ ก็เรียกใช้ได้ทันที”

ปราณธรสะดุ้งกับคำพูดลุ่นๆ ของเด็กสาว เขาขยับตัวยืนตรง หน้าแดงก่ำจดลำคอ ลลิษาเป็นเด็กสาวประเภทไหนกัน สามารถใช้คำหยาบโลนได้โดยไม่สะทกสะท้าน โอเค...เขาอาจเคยใช้คำเหล่านั้นอยู่บ้างกับคู่นอน แต่ยามอยู่บนเตียงและต่างอารมณ์กลัดมันด้วยกันทั้งคู่เท่านั้น ไม่ใช่ใช้พร่ำเพรื่อแบบนี้

“ฉันแค่ประชด ไม่ได้หมายความตามนั้น อย่างที่บอกเงินนั้นฉันยกให้ ถือเป็นค่างานศพแม่เธอ”

“คุณจะผิดคำพูดหรือ คุณบอกเองว่าจะเอาหนูจนเบื่อ”

ปราณธรสะดุ้งอีกคำรบ เขายกมือเสยผมอย่างเก้อกระดาก มองเลยศีรษะเด็กสาวไปยังสนามหญ้ากว้างใหญ่ด้านหลังเธอ เพิ่งสังเกตว่าลลิษาสูงเท่าไหล่เขา แปลว่าเธอสูงมาก อาจถึง 170 เซนติเมตร เพราะเขาสูงเกือบ 200 เซนติเมตร อย่างว่าเด็กสมัยนี้สูงๆ กันทั้งนั้น อย่างน้องชายเขายังเกือบ 180 เซนติเมตรทั้งที่เพิ่งจะ 17-18 ปี ซึ่งแปลว่ายังสูงได้อีก

ลลิษาพูดต่อว่า “เพราะคุณบอกว่าจะเอาหนูจนเบื่อ หนูเลยคืนห้องเช่าแล้วก็ขนข้าวของทั้งหมดออกมา ข้าวของมีแค่นี้ เพราะหนูอยู่ตัวคนเดียวมาหลายเดือนแล้ว หลังพ่อเสีย แม่กับหนูก็ย้ายไปอยู่บ้านเช่าเล็กๆ แล้วพอแม่ป่วยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายเดือน หนูเลยย้ายไปอยู่ห้องเช่าถูกๆ เพื่อประหยัดเงิน เพราะงั้นหนูไม่มีข้าวของอะไรมาก นอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ชุดนักเรียนก็ขายไปหมดแล้ว รอซื้อชุดนักศึกษา”

ปราณธรเหลือบมองคนที่พูดเป็นต่อยหอยได้ไม่รู้เบื่อ แถมไม่รู้สึกอับอายกับความยากจนของตัวเอง วูบหนึ่งเขานึกสงสารแกมเห็นใจและชื่นชม เธอต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งแค่ไหนถึงเติบโตมาและยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตัวเองแบบนี้ คงปากกัดตีนถีบเพราะเสียเสาหลักถึงสองคน แต่ก็ยังเข้มแข็ง ไม่ทำตัวฟูมฟายหรือตีอกชกหัวกับโชคชะตา ไม่ได้โอดครวญเรียกร้องความเห็นใจจากเขา ตรงกันข้าม เธอเล่าให้ฟังสบายๆ ราวกับพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ใช่โศกนาฏกรรมหนังชีวิตของตัวเอง

“ขอบคุณที่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่อย่างที่บอก ฉันไม่นิยมกินเด็ก”

“คุณจะผิดคำพูดไม่ได้นะ ในเมื่อหนูคืนห้องเช่าไปแล้ว ตอนนี้หนูไม่มีที่ซุกหัวนอน เพราะงั้นคุณต้องรับผิดชอบเรื่องหาที่อยู่ให้หนู ไม่รู้ละ ต่อไปนี้หนูจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบมหา’ลัยหนูถึงจะย้ายออก ส่วนคุณ ถ้าจะไม่เอาหนูก็เป็นเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับหนู”

ปราณธรอ้าปากค้าง มองตาปริบๆ เพราะพอพูดจบเธอก็สะบัดก้น เดินลากกระเป๋าเข้าไปในบ้าน ปราณธรมองภาพนั้นอ้ำอึ้ง เพิ่งเข้าใจเหตุผลที่เธอสาธยายเป็นคุ้งเป็นแควเรื่องคืนบ้านเช่า ก็เพื่อหวังให้เขารับผิดชอบหาที่ซุกหัวนอนใหม่ให้เธอนั่นเอง

“เดี๋ยวลลิษา รอก่อน” เขาเรียกเด็กสาวพลางเอื้อมมือจะคว้าตัวแต่ไม่ทัน เพราะเธอเลื่อนบานประตูกระจก ลากกระเป๋าเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาตามไปทันตอนที่เธอเกือบจะชนกับแม่บ้านพอดี

 

“อุ๊ย!...” ลลิษาอุทาน เบรกตัวโก่งเมื่อเกือบชนกับร่างท้วมของหญิงสูงวัยคนหนึ่ง

“ยายเด็กจรจัด ฉันบอกแล้วไงไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามในบ้าน ถ้าอยากจะรอคุณปราณ ก็ออกไปรอข้างนอกโน่น” รำไพเอ็ดตะโรแล้วพลันต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของปราณธรตามหลังเด็กสาวมาติดๆ จึงหันไปฟ้อง

“คุณปราณคะ แม่เด็กกะโปโลนี่อ้างว่ารู้จักคุณปราณ พยายามจะเข้ามารอคุณปราณในบ้านให้ได้ ป้าไล่ก็ไม่ยอมไป แถมอ้างว่าเป็นอีหนูรายล่าสุดที่คุณปราณโปรดปราน ขู่ป้าว่าถ้าทำอะไรให้ไม่พอใจ มีสิทธิ์ตกงานได้ง่ายๆ พอป้าบอกไม่เชื่อ แม่นี่ก็ขู่ว่าจะฟ้องคุณปราณ พอป้าขู่กลับบ้างว่าจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก ถึงได้ยอมออกไปนอกบ้าน เรื่องที่แม่นี่พูดเป็นความจริงไหมคะ หรือเป็นแค่เรื่องกุของพวกสิบแปดมงกุฎ ป้าจะได้โทร. แจ้งตำรวจให้มาลากคอเข้าคุกจริงๆ” ประโยคหลังรำไพส่งสายตาอาฆาตไปยังลลิษา แต่เด็กสาวกลับมองเฉยอย่างไม่กลัวเกรง รำไพนึกอยากจับมาหวดก้นเสียให้เข็ด

ปราณธรกลอกตาอย่างอ่อนใจ ยกมือคลึงขมับ นึกอยากได้ยาแก้ปวดหัว แววออกว่านับแต่นี้ชีวิตเขาคงหาความผาสุกไม่ได้ ลางสังหรณ์บอกว่าลลิษาจะเป็นตัวป่วน เธอจะเข้ามาปั่นป่วนจนเขาหาความสงบสุขในชีวิตไม่ได้ เพราะลำพังเจอเธอไม่ถึงสองวัน ชีวิตเขาก็วุ่นวายชวนปวดหัว

เริ่มจากเมื่อเช้าที่แวะไปหามิญชยา เธอคาดคั้นเรื่องบราเซียร์กับกางเกงในที่อยู่บนโต๊ะ พอเขาปฏิเสธไม่ยอมเล่า เธอก็งอนตุ๊บป่องไม่ยอมให้เขาขึ้นเตียงด้วย ก็ดี เขาเลยตรงดิ่งเข้าออฟฟิศเช้ากว่าทุกวัน เขาไม่ได้ง้อมิญชยา เพราะเขาไม่เคยง้อผู้หญิงคนไหนก่อน ไม่ใช่วิสัยเขาที่จะตามง้อตามอธิบายเรื่องราวส่วนตัวให้ใครฟัง แล้วพอตกเย็นกลับมาบ้านก็ยังเจอลลิษาอ้างตัวเป็นอีหนู แถมเป็นอีหนูที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ ข่มขู่คนเก่าคนแก่ของตระกูลที่ดูแลเขามาตั้งแต่เล็กให้ออกจากงาน เยี่ยม...ลลิษาเป็นตัวป่วนขนานแท้

“ป้าไปเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ปราณธรหันไปบอกรำไพ

“แต่...” รำไพจะประท้วง

“ไม่ต้องห่วง ผมจัดการเองได้ ถ้าต้องการอะไรเดี๋ยวจะกดอินเตอร์คอมไปบอก” ปกติที่บ้านเขา แม่บ้านและเด็กรับใช้จะไม่โผล่หน้ามาถ้าไม่กดเรียก เพราะทุกคนรู้ว่ามีผู้หญิงมากมายมาหาเขาบ่อยๆ แถมเดินเพ่นพ่านทั่วบ้านด้วยชุดนอนบางๆ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำซึ่งเป็นที่ต้องห้าม เพราะแขกส่วนใหญ่นิยมเปลื้องผ้าว่ายน้ำ มีเซ็กซ์กับเขาบริเวณริมสระ ฉะนั้นไม่มีใครกล้าโผล่หน้ามาถ้าเขาไม่เรียก

“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ” แม่บ้านตัดใจกล่าวลา ยอมเดินจากไปอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่วายปรายตามองไปทางลลิษาอย่างกำราบ

ลลิษาทำท่าลิงหลอกเจ้าใส่ ปราณธรกลอกตาอย่างระอาแกมอ่อนใจ เขารอจนรำไพพ้นไปแล้ว จึงเดินไปทรุดตัวนั่งที่โซฟาตัวหนึ่ง เรียกเด็กสาวไปหา

“มานั่งนี่สิ”

ลลิษาเดินมานั่งบนโซฟาตรงข้ามเขา

“ทำไมถึงไปโกหกป้ารำไพอย่างนั้น” ปราณธรถามตรงๆ แววตาที่มองลลิษาคมปลาบแฝงแววดุ

“ก็มนุษย์ป้านั่นจะไล่หนูท่าเดียว ไม่ยอมฟังเหตุผล”

“ก็แล้วทำไมต้องไปโกหกว่าเป็นอีหนูฉัน”

ลลิษาไหวไหล่ซึ่งเป็นภาพที่ขัดตา ปราณธรนึกอยากจับเด็กสาวมาเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอนเพื่อสั่งสอนว่าการยักไหล่ต่อหน้าผู้ใหญ่เป็นกิริยาที่หยาบคาย

“หนูโกหกตรงไหน ในเมื่อคุณบอกเองว่าจะเอาหนูจนเบื่อถึงจะหมดหนี้สี่ล้านนั่น เพราะงั้นหนูเป็นอีหนูคุณก็ถูกแล้ว หรือคุณจะให้หนูเป็นเมียคุณคะ”

ปราณธรชะงัก ถ้ามีหนวด หนวดเขาคงกระตุกไปแล้วกับคำเถรตรงของเด็กสาว เขารู้สึกขัดเขินขณะที่ตัวคนพูดไม่รู้สึกรู้สา ลลิษายังวางหน้าเฉย ไม่ได้รู้สึกเหนียมอาย เยี่ยม...โลกของเขากลับตาลปัตรไปแล้วจริงๆ

“ฉันจำได้ว่าฉันปฏิเสธเธอไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานว่าฉันไม่พิสมัยเด็กๆ”

“หนูก็จำได้ว่าหนูก็บอกคุณไปแล้วเหมือนกันว่าหนูไม่ใช่เด็กๆ คุณประจักษ์แก่ตาและคุณก็มีโอกาสจับมันด้วยมือของคุณเองแล้ว หนูรับประกันว่าหนูเซ็กซ์ดีด้วย”

ปราณธรหน้าแดง รีบเมินจากเด็กสาว พระเจ้า...เพิ่งเข้าใจศัพท์แสงวัยรุ่นสมัยนี้ ที่ธราธรเคยบอกว่าเห็นเด็กสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยแล้วใจเต้นแรง เลือดกำเดาพานจะกระฉูดเป็นแบบนี้นี่เอง ตอนนี้เขาก็กำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่

ปราณธรรีบยกมือแตะจมูก นึกกังวลว่าจะมีเลือดกำเดาพุ่งออกมาจริงๆ

“เอาละ เรามาตกลงกัน” ปราณธรกระแอมเมื่อรู้สึกว่าเสียงตัวเองแหบพร่า

“ตกลงอะไร หนูไม่ตกลงด้วยหรอก หนูรู้แต่ว่าคุณต้องรับผิดชอบหนู เพราะคุณบอกเองว่าจะเอาหนูจนกว่าจะเบื่อ หนูถึงได้คืนห้องเช่าแล้วขนย้ายข้าวของทั้งหมดมานี่ ตอนนี้หนูไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว”

ปราณธรทั้งโกรธทั้งขำ แม่เด็กตัวแสบหัวหมอนี่หาว่าเขาเป็นต้นเหตุ “จะโทษว่าเป็นความผิดของฉันอย่างนั้นสิที่ทำให้เธอระเห็จออกจากบ้านเช่า ไม่มีที่ซุกหัวนอนอยู่ในตอนนี้”

“แหงสิ เห็นๆ อยู่”

“เยี่ยม งั้นเรามาตกลงกัน ฉันจะให้เงินเธอไปหาที่อยู่ใหม่ เงินนั้นจะมากพอให้เธอหาหอพักดีๆ เธอจะอยู่ได้ด้วยเงินจำนวนนั้นจนจบมหา’ลัย”

“คุณจะซื้อตัวหนูหรือ”

“ไม่ ถือว่าฉันช่วยเธอโดยไม่หวังผลตอบแทน”

“งั้นหนูก็ไม่ต้องการ หนูมีมือมีเท้า หนูหาเลี้ยงตัวเองได้ ที่หนูต้องการก็แค่ที่ซุกหัวนอนกับอยู่ใกล้ๆ คุณ หนูตั้งใจแล้วว่าจะมอบตัวเองให้คุณแล้วหนูก็ยืนยันต่อหน้าแม่ทั้งตอนป่วยและตอนเผาศพว่าหนูจะมอบตัวเองให้คุณ เพราะงั้นทำไมเราไม่ทำให้เรื่องจบๆ ไป เราจะได้ไม่ติดหนี้ต่อกัน แล้วถ้าคุณไม่ถูกใจ โอเค...หนูไปจากบ้านนี้ก็ได้”

ปราณธรกลัวว่าเขาจะถูกใจจนไม่อาจสลัดทิ้งเธอได้ต่างหาก อะไรบางอย่างเตือนเขาว่าระหว่างพวกเขาเหมือนมีเคมีทำปฏิกิริยากัน นับแต่เขาเห็นเธอเปิดเผยเนื้อตัว เขาก็ไม่อาจสลัดภาพเธอออกจากใจได้ ครั้นจะออกปากไล่เขาก็ใจไม่แข็งพอ เขากลัวว่าถ้าลลิษาออกไปใช้ชีวิตลำพังข้างนอกซึ่งมีเสือสิงกระทิงแรดมากมาย เธออาจเสียคนได้ง่าย

ปราณธรผ่อนลมหายใจ สบตาลลิษาที่จ้องมองมาอย่างรอคอยคำตอบ

“เอาละ เธอจะอยู่บ้านหลังนี้ก็ได้ ไม่...อย่าเพิ่งดีใจ” ปราณธรรีบปรามเมื่อเด็กสาวทำหน้าดีใจ “ถ้าจะอยู่บ้านนี้ เราต้องตกลงกัน”

“ได้เลยค่ะ”

“ฟังเงื่อนไขฉันก่อน เธอต้องอยู่เรือนคนใช้ ที่นั่นจะมีป้ารำไพกับเด็กรับใช้อีกสามคน แล้วถ้าฉันไม่เรียก เธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาเพ่นพ่านบนบ้านนี้”

ลลิษาหน้ามุ่ย “ถ้าแบบนั้นคุณจะเอาหนูได้ไง”

ปราณธรหน้าแดง “ฉันเกรงว่าเธอจะยังเข้าใจไม่ดีพอ เธอจะอยู่บ้านนี้ในฐานะคนอาศัย ไม่ใช่อีหนูของฉัน หน้าที่เธอคือทำงานใช้แรงงานตอบแทนฉัน เข้าใจหรือยัง เธอต้องทำทุกอย่างที่ป้ารำไพสั่ง นั่นถือว่าเป็นการใช้ตัวเองล้างหนี้ให้ฉันรูปแบบหนึ่ง”

“แล้วนานแค่ไหนกว่าจะหมดหนี้”

“ก็จนกว่าเธอจะจบมหา’ลัย โอเคมั้ย”

“คุณจะไม่เอาหนูจริงๆ หรือ”

“ไม่ ฉันบอกเธอแล้ว ฉันไม่นิยมขึ้นเตียงกับเด็กๆ”

“ตลอดไปเลยหรือ ถ้าหนูโตกว่านี้ ถ้าจบมหา’ลัยแล้วคุณก็จะไม่เอาหรือ”

 

ปราณธรหน้าแดง “เอาไว้ถึงตอนนั้นเราค่อยมาว่ากัน ตอนนี้ว่ากันตามนี้ ฉันไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะเรียกป้ารำไพมาพาเธอไปดูที่พัก”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น