6

ตอนที่ 6


 

6

 

ตั้งแต่วันที่บัวบูชารับแอด ‘เสือใหญ่’ เป็นเพื่อนในโลกออนไลน์นั้น เสือใหญ่ก็มักจะเปิดโปรแกรมเข้าไปส่องดูกิจวัตรประจำวันต่างๆ ของบัวบูชาเสมอ เพราะเธอมักจะถ่ายภาพและอัปเดตสเตตัสตลอดเวลา ชายหนุ่มก็ได้แต่ทำตัวเป็นเสือซุ่มที่ไม่กล้าแม้แต่จะกดไลก์ให้ เขาชอบทุกภาพที่เธอลง ชอบอ่านสเตตัสต่างๆ ที่เธอเขียนคล้ายกับบันทึกประจำวัน เพราะนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้เธออีกมุมหนึ่ง

เสียงเปิดประตูห้องทำงานของกฤตนัยดังขึ้น พร้อมกับเสียงการรายงานของคนสนิท

            “คุณเตชินมาขอพบครับนาย” พนารายงาน

กฤตนัยพนักหน้ารับทราบ “ว่าไงท่านทนาย วันนี้ว่างมาหาฉันได้เหรอ” กฤตนัยทักทายทันทีที่เตชินเดินเข้ามาในห้อง

“อืม ว่างมาก วันนี้ทีมงานออกไปข้างนอกกันหมด แม้แต่เลขาฯ ก็ขออนุญาตไปกินข้าวกับเพื่อน ฉันเลยกลายเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ ก็เลยจะมาชวนแกไปหาอะไรกินนี่ละ” เตชินตอบ

ยังไม่ทันที่เตชินจะเอ่ยจบประโยคดี กฤตนัยก็ผลุนผลันหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันยอดฮิต เพื่อดูว่าหญิงสาวมีการอัปเดตอะไรบ้าง และแล้วก็พบกับภาพที่เพื่อนของเธอแท็กมาว่า ‘5 สาวโสด lunch reunion’ มีบัวบูชานั่งตรงกลางล้อมรอบไปด้วยเพื่อนผู้หญิงอีกสี่คน มือขวาของเธอถือตะเกียบคีบกุ้งตัวโตพร้อมกับอ้าปากพร้อมกิน

“โอเค ไปสิ กินอะไรดี วันนี้ป๋าเลี้ยงเอง” กฤตนัยยักคิ้ว

“แกสบายดีนะใหญ่” เตชินโคลงศีรษะ ถึงแม้นจะไม่รู้ว่าเพื่อนรักหุนหันพลันแล่นหยิบมือถือขึ้นมาทำอะไร แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าต้องเกี่ยวกับเลขาฯ หน้าหวานของเขาแน่นอน

“สบายดี สบายมาก” คนฟอร์มจัดยืนยันความปกติของตัวเอง

“เออ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ขี้เกียจทำงานแทน” เตชินถอนหายใจ “งั้นไปร้านอาหารฝรั่งเศสข้างออฟฟิศเป็นไง”

กฤตนัยพยักหน้าแล้วลุกขึ้น “ป้ะ ไปเถอะ หิว” ก่อนที่จะเดินนำออกจากห้องไป

“ฟอร์มเยอะไปเถอะ ไว้ฉันจะยุให้คนอื่นมาจีบตัดหน้าแก คอยดู” เตชินทำปากพะงาบๆ ตามหลังเจ้ามืออาหารกลางวันด้วยความหมั่นไส้เต็มประดา

 

“โอ้ยบัว แกอย่ามาแย่งปลาชิ้นนี้ของฉันอีกนะ ฉันคอยพลิกกลับด้านอยู่ตั้งนาน เมื่อกี้ก็แอบคีบของฉันไปทีละ” จีน่าโวยวายทันทีที่เห็นว่าบัวบูชากำลังจ้องชิ้นปลาที่เธอย่างไว้อยู่

“โหย งกแล้วสายตายังดีอีก” บัวบูชาตอบเสียงสูง

“ไม่เกี่ยวกับความงกย่ะ เกี่ยวกับความตะกละของแกล้วนๆ” ฟ้าใสรีบตอบ สายตาตำหนิอย่างรู้ทัน

“ก็ฉันหิวนี่ แล้วก็ต้องทำเวลาด้วย ต้องรีบกลับไปทำงานต่อ” บัวบูชาย่นจมูก

“งั้นแกก็ไม่ต้องกินย่างสิ ต้มลงไปในหม้อให้หมดเลย จะได้กินไวๆ ไง” เพนนีเสนอทางออกให้เพื่อนสาวตัวแสบ เห็นเรียบร้อยๆ แบบนี้ แต่เวลาที่บัวบูชาอยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนสนิทก็แสนแสบเลยทีเดียว อีกทั้งยังขี้หลงขี้ลืมอีกต่างหาก

จบประโยคของเพนนีห้าสาวก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

“ปาร์ตีสาวโสดเสาร์นี้ว่าไง พร้อมไหม ใครเบี้ยวนะโดนดีแน่” ผกากรองเช็กความพร้อมของทีมงานสาวโสด

“คอนเฟิร์ม พร้อมมาก ณ จุดนี้” จีน่าตอบ โดยมีใบบัว ฟ้าใส และเพนนีพยักหน้ายืนยันความพร้อมด้วยเช่นกัน

           

            “สวัสดีครับคุณใหญ่ คุณชิน” จักรภพ เจ้าของบริษัทขนส่งขนาดใหญ่เดินเข้ามาทักระหว่างที่ทั้งสองกำลังรับประทานอาหารอยู่

“อ้าวคุณจักร เชิญนั่งด้วยกันครับ” เตชินทักทาย

“ขอบคุณครับคุณชิน ผมเพิ่งทานเสร็จครับ กำลังจะกลับ บังเอิญเห็นคุณสองคนก็เลยแวะเข้ามาทัก” ผู้มาใหม่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตชินตามคำเชิญ

“มาทานข้าวไกลเหมือนกันนะครับคุณจักร” กฤตนัยกล่าว

“พอดีมาดูงานแถวนี้ครับ ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปหาคุณชินที่ออฟฟิศเหมือนกัน บังเอิญเจอที่นี่ก่อน” จักรภพตอบ

“คุณจักรมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เตชินถามด้วยความสงสัย

“เปล่าครับ ผมไม่กล้ารบกวนคุณชินหรอก” เจ้าของบริษัทขนส่งโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “วันก่อนที่เจอคุณชินกับผู้ช่วย ผมหมายถึงคุณใบบัวน่ะครับ”

“ครับ” เตชินพยักหน้าพลางสบตากับเจ้าที่ที่เริ่มแผ่รัศมีความไม่พอใจอยู่เนืองๆ

“เอาตามตรงเลยนะครับ ผมอยากทำความรู้จักกับคุณใบบัว เลยจะลองมาถามคุณชินดูก่อนว่าเธอยังว่างหรือเปล่า” แมนๆ คุยกัน จักรภพถามในสิ่งที่อยากรู้ตามตรง

“ไม่ว่าง” เสียงปฏิเสธจริงจังดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม

“ไม่ว่าง คุณใหญ่พูดจริงหรือล้อผมเล่นครับ” จักรภพถามขำๆ

“หน้าตาผมเหมือนล้อเล่นหรือครับ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นเดิม

“ใช่ครับคุณจักร ตามที่ใหญ่บอกเลย” เตชินช่วยยืนยันสิ่งที่กฤตนัยตอบ

“เสียดายจัง เฮ้อ เจอคนที่ใช่แต่ไม่มีวาสนา” จักรภพทำเสียงเศร้าด้วยความเสียดาย “งั้นผมไม่รบกวนคุณใหญ่กับคุณชินแล้วนะครับ ขอตัวไปดื่มน้ำใบบัวบกก่อน”

สองเพื่อนสนิทมองตามหลังคนที่เดินไปหาน้ำใบบัวบกกินจนลับตา “แกไปโกหกคุณจักรทำไมวะใหญ่” เตชินถาม

“คุณจักรขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ แกจะปล่อยให้คนแบบนี้เข้าหาเลขาฯ แกหรือไง” กฤตนัยตอบ ก่อนที่จะตั้งหน้าตั้งตากินอาหารต่อเงียบๆ

“ฉันให้โอกาสแกแล้วนะ” เตชินพูดเสียงลอดไรฟัน

“บ่นอะไร” คนหูเกือบดีถาม

“ป๊าว” เตชินยักไหล่ตอบ

“เสียงสูงไปนะ” คนอารมณ์แปรปรวนเหล่ตามอง

 

หลังจากจบมื้ออาหารกลางวัน กฤตนัยก็เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาดูอีกรอบ “ผมจะทำยังไงกับคุณดี บัวบูชา” ชายหนุ่มลูบคางพลางใช้ความคิดอย่างหนัก เพื่อหาวิธีบริหารจัดการกับสิ่งเร้าต่างๆ ที่วิ่งเข้ามากระทบ

“คุณดา ตามผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลมาพบผมด้วย” ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ภายในสั่งการกับเลขานุการหน้าห้อง

หลังจากหารือกันพักใหญ่ๆ กฤตนัยจึงพาผู้อำนวยการคนดังกล่าวเดินไปหาเตชินที่ห้องทำงาน

“ชิน นายเซ็นเอกสารสองแผ่นนี้หน่อย แผ่นแรกคือใบขอรับพนักงานใหม่ ฉันจะให้ฝ่ายบุคคลหาเลขานุการใหม่มาให้นาย ส่วนอีกแผ่นคือใบโอนย้าย ฉันจะขอย้ายบัวบูชามาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของฉัน” กฤตนัยเข้าเรื่องทันทีที่มาถึง

“แกว่าไงนะ! จะโอนใบบัวไปเป็นเลขาฯ แก แล้วคุณดาล่ะ” เตชินกอดอกจ้องมองใบหน้าเจ้าของบริษัทเพื่อค้นหาคำตอบ

“คุณดาก็ทำในส่วนของเธอ ฉันจะให้บัวบูชาดูแลอีกส่วนหนึ่ง”

“ดูแลส่วนไหนช่วยแจกแจงให้ฟังด้วย แกมีคุณดา พนา แล้วก็เดชาอยู่แล้ว งานก็ดูลงตัวดี แล้วแกมีเหตุผลอะไรที่จะรับเลขาฯ เพิ่มอีก”

กฤตนัยถอนหายใจยาว “เออ ฉันจะบอกเหตุผลกับนายอย่างตรงไปตรงมา”

“งั้นคุณกลับไปทำงานต่อก่อนก็แล้วกัน ไว้เตชินลงนามเรียบร้อยแล้วผมจะให้พนาเอาเอกสารไปคืนให้” ชายหนุ่มหันไปบอกกับผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล

เมื่อบุคคลที่สามออกจากห้องไปแล้ว ทนายเตชินก็เริ่มซักจำเลยอีกครั้ง “ว่าไงไอ้ใหญ่ เหตุผลของแกคืออะไร”

“เออ ฉันอยากได้ใบบัว” จำเลยสารภาพตามตรง

“หา อะไรนะ แกอยากได้ใบบัว”

“เฮ้ย! ไม่ใช่แบบนั้น ฉันสนใจเลขาฯ แกว่ะไอ้ชิน ขอโอกาสให้ฉันได้อยู่ใกล้เธอ ได้เรียนรู้ ได้ทำความรู้จักเธอเถอะนะ”

“อยากทำความรู้จัก อยากเรียนรู้ ถึงเธอจะเป็นเลขาฯ ฉัน แกก็ทำได้นี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องขอย้ายเลย”

“ไม่ได้ เพราะแกชอบพาบัวบูชาไปออกงาน แล้วไงล่ะ มีหนุ่มตามมาขอสานสัมพันธ์ถึงที่”

“แกจริงจังแค่ไหน คุณอาฉันเอ็นดูใบบัวเหมือนลูกเหมือนหลาน แล้วฉันเองก็เอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ถ้าหากแกคิดกับเธอแค่คลายเหงา ฉันไม่ยอม”

“แกเห็นฉันเป็นคนประเภทนั้นหรือวะไอ้ชิน ถ้าฉันคิดจะหาผู้หญิงมาแก้เหงา ตอนนี้คงมีเมียสักสิบคนได้ แล้วก็คงไม่อยู่คนเดียวมาจนอายุสามสิบหกหรอกนะ” กฤตนัยตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เตชินยิ้มกว้าง “นี่สมภารจะกินไก่วัดจริงๆ หรือวะ”

นี่ถ้าคุณจักรไม่มากระตุ้นต่อม แกจะอมพะนำไว้อีกนานไหมใหญ่”

“แกรู้?” กฤตนัยถาม น้ำเสียงแลดูแปลกใจด้วยความคาดไม่ถึง

“เออ ฉันรู้”

“รู้ได้ไงวะ ฉันว่าฉันเก็บอาการแล้วนะ” คนถูกรู้ทันเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“โอ๊ย ไอ้ใหญ่ ใครๆ ก็ดูออกทั้งนั้น ก็แกเล่นจ้องจนใบบัวจะท้องอยู่แล้ว” เตชินส่ายหน้า “ถ้าบอกกันตรงๆ ตั้งแต่แรก ตอนนี้แกคงได้ใจเธอไปสักครึ่งห้องแล้วมั้ง”

“ไม่ต้องมาทับถมเลย แกต้องช่วยฉันด้วยนะ ช่วยหาเหตุผลดีๆ บอกใบบัวด้วยว่าทำไมฉันถึงขอให้เธอย้ายไปอยู่ออฟฟิศฉัน ขออย่างเดียวอย่าเพิ่งให้เธอรู้ความจริง ฉันกลัวเธอจะหนี”

“แล้วทำไมภาระนี้ต้องมาตกที่ฉันวะไอ้ใหญ่ ทำไมไม่หาเหตุผลมาเอง”

“เหอะน่า เพื่อนอยากมีเมียจะแย่แล้ว ช่วยหน่อยเถอะนะ แล้วก็รีบเซ็นเลยเอกสารเนี่ย” กฤตนัยยักคิ้วอย่างอารมณ์ดีแล้วหยิบเอกสารที่เตชินลงนามเรียบร้อยขึ้นมา จากนั้นจึงเดินฮัมเพลงออกจากห้องไป

 

เตชินเร่งเคลียร์งานที่กองอยู่บนโต๊ะ เมื่อเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้องพบว่าเกือบถึงเวลาเลิกงานแล้วจึงลุกออกจากโต๊ะเพื่อที่จะเดินไปแจ้งบัวบูชาเรื่องการโอนย้าย เพราะเธอต้องย้ายไปนั่งหน้าห้องกฤตนัยในวันจันทร์ที่จะถึงแล้ว เรียกได้ว่าคืองานด่วนที่สุดของวันนี้เลยก็ได้

“ฉันเบื่อแกจริงๆ ไอ้ใหญ่ จะเอาเหตุผลอะไรไปอ้างดีเนี่ย” เตชินบ่นพึมพำก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องทำงาน

“ใครอ้ะ” ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย เพราะเมื่อเปิดประตูออกมาก็พบกับทหารหญิงคนหนึ่งนั่งหลังตรงอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของบัวบูชา และภาพรอยยิ้มสดใสของทหารหญิงที่มีดาวประดับบนบ่าสามดวงก็ทำให้เตชินหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยืนค้างอยู่กับที่

“พี่บัว พี่บัว” ทหารหญิงคนดังกล่าวส่งสัญญาณให้บัวบูชามองตาม

“คุณชินมีอะไรให้บัวทำหรือเปล่าคะ” บัวบูชาร้องถามคนที่ยืนค้างอยู่ตรงประตูห้องทำงาน

“อ้อ มีนิดหน่อยครับ แล้วนั่น เอ่อ...” เตชินส่งสายตาไปที่หญิงสาวอีกคน

“ต้นแก้ว นี่คุณเตชินเจ้านายพี่ ส่วนนี่แก้วกัลยา น้องสาวบัวค่ะ” บัวบูชาแนะนำ

แก้วกัลยาลุกขึ้นแล้วประนมมือไหว้เตชินอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับคุณแก้วกัลยา แหม่ ผมนึกว่ามีทหารมาตรวจจับการทำงานผมเสียอีก” เตชินทักทายทหารหญิงหน้าหวาน

“แก้วเป็นหมอทหารค่ะคุณเตชิน มีหน้าที่รักษา ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจจับ แล้วอีกอย่างหน้าที่ตรวจจับน่าจะเป็นหน้าที่ของตำรวจมากกว่านะคะ” แก้วกัลยาตอบด้วยเสียงหวานพอๆ กับบัวบูชาพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานจับใจไปให้

“คุณชินมีอะไรจะให้บัวทำคะ” บัวบูชาเอ่ยถามอีกครั้ง

“ครับ คือตั้งแต่วันจันทร์หน้า ท่านประธานขอให้ใบบัวย้ายไปอยู่หน้าห้องท่านน่ะครับ พอดีช่วงนี้บริษัทกำลังขยายกิจการหลายอย่าง งานเลยเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว คุณดาทำคนเดียวไม่ทัน แล้วทางฝ่ายบริหารก็เล็งหาคนที่มีความสามารถไปทำงานตรงส่วนนั้น และทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าใบบัวเหมาะสมที่สุด” เตชินชี้แจงเหตุผล

“แล้วคุณเตชินล่ะคะ”

“ใบบัวจะว่าอะไรไหม ถ้าผมอยากจะขอให้คุณช่วยดูตารางนัดให้ผมเหมือนเดิมควบคู่ไปด้วย ผมไม่อยากหาคนใหม่ ความจริงผมก็ไม่อยากยกเลขาฯ เก่งๆ ให้ใครเลย แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องจำยอมทำตามมติผู้บริหาร แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ งานที่เพิ่มขึ้นผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย”

“ค่ะ บัวยินดีดูแลตารางคุณเตชินเหมือนเดิมค่ะ ส่วนเรื่องการย้าย ถ้าหากผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสม บัวก็ยินดีค่ะ” บัวบูชารับคำ ถึงแม้นว่าเธอจะยังตั้งรับการโอนย้ายครั้งนี้ไม่ทัน แต่หากเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่เล็งเห็นว่าดี เธอเองก็ยินดีที่จะเรียนรู้

“งั้นเย็นนี้ใบบัวสะดวกไหมครับ ไปทานมื้อเย็นกันสักมื้อ ถือว่าผมเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ให้คุณนะ ผู้กองคุณหมอไปด้วยกันนะครับ ผมเรียกแบบนี้ถูกหรือเปล่า” เตชินเกาศีรษะเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเรียกคุณหมอทหารคนนี้ว่าอย่างไรดี

“เรียกต้นแก้วเฉยๆ ดีกว่าค่ะ”

“ครับต้นแก้ว งั้นเราไปกันเลยนะครับ”

“ขอบัวเก็บของสักครู่นะคะ”

ถ้าหากจะเปรียบกฤตนัยเป็นสมภารกินไก่วัด เตชินเองก็คงกำลังจะกลายเป็น วัวแก่ที่อยากเคี้ยวหญ้าอ่อนนั่นเอง

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น