11

พิสูจน์ (ว่า) รัก


 

11

พิสูจน์ (ว่า) รัก

 

เป๊ปเปอร์ ตื่นมาทานข้าวต้มก่อนครับอรรคช้อนตัวหญิงสาวที่นอนหลับไปได้สักครึ่งชั่วโมงให้ลุกขึ้นจากเตียง “นี่จิบน้ำหวานก่อน จะได้พอมีแรงนะครับ” เสียงทุ้มบอกกิจกรรมที่เขาอยากให้อีกฝ่ายทำเป็นระยะๆ เริ่มสัมผัสได้ถึงไอร้อนผ่าวที่ระเหยออกมาจากตัวหญิงสาว เจ็บใจตัวเองที่คิดแต่จะทำให้อีกฝ่ายแสดงความรู้สึก จนลืมสังเกตอาการของหล่อน ลืมคิดถึงใจหล่อน จนความไม่พอใจเรื่องเมื่อวานคลายลงไปมาก

“เปอร์ปวดหัวค่ะคุณอรรค” พชรหทัยบอกเป็นประโยคแรกหลังจากรู้สึกตัว ปรือตามองเขา เสียงเริ่มแหบ แต่ก็ยังไม่วายลูบผมเผ้าให้เข้าที่ตามประสาคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ “ปวดเหมือนหัวจะระเบิด พากลับบ้านหน่อยนะคะ” ต่อให้น้อยใจ เสียใจจากเขา แต่หล่อนก็ยังพูดจากับอรรคด้วยความสุภาพอ่อนหวานเสมอ

“ครับ เป๊ปเปอร์คงจะไม่สบาย” อรรคบอกตัวเองมากกว่าบอกคนป่วย ย้ำว่าหล่อนอาการไม่ดีจริงๆ ถึงเกิดเรื่องแบบเมื่อวานขึ้น ระหว่างนั้นชายหนุ่มประคองร่างบางด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่ก็ยังรักษาความนิ่งของน้ำเสียงประหนึ่งยังขุ่นข้องหมองใจอยู่ ทั้งที่ภายในอ่อนยวบไปหมด อยากจะโอ๋คนสวยของเขาจะตาย แล้ววันนี้อารมณ์แบบนี้ เป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาก็ไม่พาพชรหทัยกลับกรุงเทพฯ แน่ๆ

“เดี๋ยวทานข้าวแล้วก็ทานยานะครับ ถ้าเย็นๆ ดีขึ้นค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน”

...

แต่แล้วทั้งคืนพชรหทัยกับอรรคก็ไม่ได้ก้าวออกจากห้องพักไปไหน เพราะหญิงสาวไข้ขึ้น นอนซมอยู่บนเตียง มีชายหนุ่มรูปงามคอยพยาบาลเช็ดเนื้อเช็ดตัวไม่ได้ห่าง เรียกว่าระหว่างที่หล่อนหลับ เขากลับลืมตาทั้งคืนด้วยความเป็นห่วง และส่วนอื่นของร่างกายก็ตื่นเพราะอารมณ์ที่เตลิดหลังจากได้สัมผัสเนื้อเนียนนุ่มที่เขาทั้งตั้งใจสัมผัส ทั้งห้ามใจไม่ให้หากำไรจากหม่อมหลวงคนสวยระหว่างเช็ดตัวให้หล่อนไม่ได้

“เปอร์ร้อน...” สาวร่างบางที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงถีบผ้าห่มออกจนชายกระโปรงร่นขึ้นมาอยู่ที่หน้าขา เล่นเอาอรรคที่เพิ่งหันไปวางแก้วน้ำป้อนยาหญิงสาวเสร็จแล้วหันกลับมาตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า เพราะเนื้อขานวลเนียนโผล่ออกมาล่อสายตาทั้งสองข้าง

ท่านประธานรูปหล่อที่ได้ชื่อว่าใจเย็นกับทุกเรื่องถึงกับทำอะไรไม่ถูก กว่าจะตั้งสติเดินไปห่มผ้าให้อีกฝ่ายได้ก็โดนขาเรียวคู่นั้นตรึงสายตาอยู่เสียนาน

“เดี๋ยวก็ดีขึ้นครับ” ชายหนุ่มพูดได้ครึ่งประโยคก็ต้องกระแอมเคลียร์เสียง หวั่นใจลึกๆ ว่าวันนี้คนที่จะไม่สบายตัวน่าจะไม่ใช่พชรหทัย แต่เป็นเขา ก็เสียงแหบพร่าบอกให้รู้ว่าตอนนี้พชรหทัยโดนพิษไข้เล่นงาน ส่วนเขาน่ะโดนพิษเป๊ปเปอร์เข้าไปเต็มๆ แต่พอคลุมผ้าบนขาคู่สวยได้ไม่เท่าไร อีกฝ่ายก็ตลบผ้าห่มออกในเวลาไล่เลี่ยกัน

“ร้อน เพิ่มแอร์หน่อยสิคะ” คนเสียงหวานบ่นกับตัวเอง

อรรคไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะนี่ก็ลดอุณหภูมิลงจนไม่อาจปรับลดให้ได้กว่านี้แล้ว

“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้เปอร์ดีกว่า หนาวกว่านี้ก็ปอดบวมพอดี”

...

ไม่นานชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมอ่างน้ำใบจิ๋วและผ้าเช็ดตัว มือหนาค่อยๆ ซับไอร้อนจากซอกคอลงมาตามเนินอก ยิ่งหายใจขัดมากขึ้นเมื่อผ้าที่ลากผ่านทำให้มือเขาต้องสัมผัสเนื้อตัวหล่อนตามไปด้วย

เสียงหวานอืออาในลำคอตามสัญชาตญาณเพราะความไม่สบายตัวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เรียกสติอรรคให้กลับมาอยู่ในร่องในรอยเลย แต่กลับกระตุ้นจินตนาการบางอย่างให้ลุกโชนขึ้นเต็มสมอง

“เป๊ปเปอร์อยู่เฉยๆ สิครับ” ท่านประธานที่จัดการทุกอย่างได้กำลังจัดการกับคนป่วยไม่ได้ พานไปจนจัดการตัวเองไม่ได้เพิ่มอีกกระทง “นอนนิ่งๆ พี่จะเช็ดตัวให้ เสื้อจะเปียกหมดแล้ว” บุรุษพยาบาลจำเป็นข่มใจบอก ยิ่งเห็นสาวน้อยหายใจแรงเพราะพิษไข้ทำเอาอกอวบๆ กระเพื่อมขึ้นลง เขายิ่งแทบจะขาดใจตายลงไปเสียเดี๋ยวนั้น

“หิวน้ำค่ะ” คนป่วยที่เสียงแหบมาตั้งแต่กลางวันบอกพร้อมไอ

อรรครีบคว้าแก้วน้ำมาจ่อถึงปากคู่สวย ทว่าพชรหทัยคงจะรีบร้อนดื่มมากไปหน่อยเลยพานสำลักน้ำต่ออีกรอบหนึ่ง

“ค่อยๆ ดื่มสิครับ”

“ก็เปอร์กระหาย” เสียงหวานแหบแห้ง นิ่วหน้า ทั้งปวดหัวทั้งกระหายน้ำ อีกฝ่ายก็ตั้งท่าจะดึงแก้วน้ำออกจากหล่อนอยู่ได้ มือบางเลยคว้าแก้วน้ำมาดื่มจนกระฉอกใส่ชุดสวยไปเสียเกือบครึ่ง

“ค่อยๆ ครับ มาพี่ป้อน” ท่าทางเหมือนลูกหมาป่วยของพชรหทัยยิ่งทำเอาอรรคสงสาร ปกติตัวก็บางเหมือนจะปลิวลม ยิ่งไม่สบายแบบนี้ยิ่งดูเหมือนตุ๊กตาไร้เรี่ยวแรงไปกันใหญ่ หน้าสวยจัดแดงก่ำด้วยพิษไข้ แต่กลับดูเย้ายวนอย่างประหลาด

ชายหนุ่มมองหน้าคนรักที่ป่วยได้ที่แบบนั้นแล้วก็ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะประกบปากตัวเองกับปากพชรหทัย ค่อยปล่อยน้ำนิดๆ ให้หญิงสาวกลืน ป้องกันการสำลักแบบเมื่อครู่ แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำอึกเมื่อครู่หมดไปนานแล้ว แต่ท่านประธานกลับไม่ยอมถอนปากออก และสอดแทรกลิ้นเข้าชิมความหวานร้อนในปากอิ่มแทนแบบไม่กลัวติดไข้

“อื้มม” พชรหทัยส่งเสียงขัดใจในลำคอ มือบางทุบเขาเท่าทีแรงจะมี

อีกฝ่ายกลับดันตัวหล่อนให้เอนลง รวบข้อมือหล่อนทั้งสองข้างไว้เหนือหัวด้วยมือเขาข้างเดียว อีกมือหนึ่งก็เอาผ้าขนหนูชื้นน้ำลากไปทั่วลำแขนเรียว

“นิ่งๆ สิครับ แรงก็ไม่มีจะมาทุบพี่ทำไม” อรรคยอมละริมฝีปากออก แต่ยังไม่ปล่อยให้พชรหทัยลงไปนอนตามเดิม กักกอดคนตัวหอมไว้ในอกจนสัมผัสได้ถึงความชื้นของเสื้อที่หญิงสาวใส่อยู่ คงทั้งเหงื่อทั้งน้ำที่หกเมื่อครู่ละมั้ง

เห็นแบบนั้นชายหนุ่มก็ไม่รอช้า แค่นี้พชรหทัยก็ไข้ขึ้นจนเขาไม่แน่ใจว่าควรจะพาหล่อนไปโรงพยาบาลหรือไม่ หากปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวจะพานเป็นเรื่องใหญ่ อรรคเลยรีบเดินดุ่มๆ ไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าของหญิงสาว เมื่อพบว่ามันล็อกอยู่ก็ไม่มีทางเลือก นอกจากหาเสื้อยืดของเขามาให้หญิงสาวใส่ ชายหนุ่มค่อยๆ ใช้ผ้าห่มปิดบังเรือนร่างเย้ายวนนั้นก่อนจะล้วงมือไปปลดซิป รูดลงโดยที่ไม่ทันได้เห็นอะไรทั้งนั้น ส่วนคนป่วยก็นอนซมพาดอยู่กับบ่าเขาแบบไม่ได้สติ จนอรรคอดหงุดหงิดไม่ได้ว่าถ้าเมื่อวานพชรหทัยป่วยขนาดนี้ และคนที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เขา หญิงสาวจะรอดปลอดภัยไปถึงพรุ่งนี้เช้าได้อย่างไร

 

อรรคเพิ่งจะมาผล็อยหลับไปตอนเกือบรุ่งสางหลังจากดูแลคนป่วยจนอุณหภูมิในร่างกายเกือบเป็นปกติ ส่วนคุณเป๊ปเปอร์เมื่อรู้สึกตัวด้วยอาการที่เกือบเป็นปกติในตอนเช้าก็แทบช็อกที่เห็นสภาพล่อแหลมของเขากับหล่อน

“คุณอรรค” เสียงหวานเรียกเขาทั้งๆ ที่แหบแห้งระหว่างก้มสำรวจตัวเอง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่เสื้อยืดตัวโคร่งของเขา รับรู้ได้ว่าไม่มีชั้นในทั้งบนและล่างห่อหุ้มร่างกาย บุรุษคนเดิมคนที่หล่อนมอบหัวใจให้ไปแล้วนอนเปลือยอกอยู่เคียงข้าง สภาพผมเผ้ายุ่งปรกหน้า เขาหายใจลึกพชรหทัยรู้สึกผิดที่ออกเสียงเรียกเขาจนรู้สึกตัว เพราะเพิ่งกวาดตาไปเห็นยาต่างๆ วางระเกะระกะอยู่แถวหัวเตียงฝั่งเขา ไหนจะผ้ากับอ่างน้ำเล็กๆ ที่เขาเอามาดูแลหล่อน และอดลดระดับความน้อยใจลงมาไม่ได้

“ว่าไงครับ เอาอะไรหรือเปล่า” อรรคถามเสียงพร่าแบบคนเพิ่งตื่นนอน แต่ตัวกลับกระเด้งขึ้นด้วยความรวดเร็ว มือลูบหน้าสวยของพชรหทัยเพื่อวัดไอร้อน “ตัวไม่ร้อนแล้วนิ ดีขึ้นไหมครับ”

หน้าสวยพยักน้อยๆ เขินสภาพตอนนี้จนหน้าแดงก่ำ “เปอร์เป็นหนักเหรอคะ”

“ก็ไม่หนักครับ แค่ไข้สูงจนพี่หวิดจะอุ้มไปโรงพยาบาลหลายรอบ” อรรคตอบพลางละสายตาจากคนตรงหน้า เสหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงแทนเพราะทนความเย้ายวนที่ลอยอยู่ใต้จมูกไม่ไหว เขาไม่เคยคิดเลยว่าการดูแลคนป่วยจะเป็นงานที่สร้างความรื่นรมย์ให้ตนเองมากขนาดนี้ อย่างนี้ต่อให้ไม่ได้นอนเลยทั้งคืนแลกกับสิทธิ์ในการวัดไข้เช็ดตัวพชรหทัยแบบเมื่อคืน เขาก็ยอม

“แล้วนี่ทำไมเปอร์เปลี่ยนมาใส่ชุดแบบนี้ คุณอรรคเปลี่ยนให้เหรอคะ” ยิ่งถามหน้าก็ยิ่งเห่อร้อน หน้าสวยฉายแววเอาเรื่องหน่อยๆ แต่ยังไม่ออกอาการมากเพราะมีความผิดติดตัวอยู่

“เรามีกันแค่สองคนนะครับ พี่ไม่เปลี่ยนแล้วใครจะเปลี่ยน”

“เอ่อ...” พชรหทัยได้ยินแบบนั้นก็เขินมากขึ้นไปอีก แต่ก็ยังยกมือไหว้เขาที่หันหน้ากลับมามองหล่อนพอดี “ขอบคุณนะคะที่คุณอรรคดูแลเปอร์”

ท่าทางหล่อนน่าเอ็นดูจนชายหนุ่มต้องลอบยิ้ม อยากจะฟัดเจ้าตัวแบบที่เขาแอบทำเมื่อคืนอีก แต่ยังคงต้องไว้ท่า กำราบหม่อมหลวงคนนี้ให้อยู่ในร่องในรอย จะได้ไม่เผลอใกล้ชิดสนิทสนมกับใครแบบที่ผ่านมา

“แต่วันหลังไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เปอร์หรอกนะคะ มันมากไป”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เป็นแฟนเปอร์ มันก็เป็นหน้าที่ของพี่เป็นธรรมดา” ชายร่างสูงลุกขึ้นจากเตียง ร่างกายเริ่มเครียดขึงทั้งเพราะลักษณะทางกายภาพในยามเช้า ทั้งเพราะโดนปลุกเร้าจากร่างบางที่นอนให้เขากกกอดมาทั้งคืน รับรองเลยว่าถ้าเขาขาดสติมากกว่านี้อีกนิด จากที่คิดจะชวนพชรหทัยอยู่พักผ่อนแค่คืนสองคืน มีหวังเขาได้ขังสาวสวยคนนี้ไว้เป็นสัปดาห์แน่ๆ

“เป๊ปเปอร์ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเถอะครับ ถ้าดีขึ้นแล้วจะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง” พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกจากห้องนอนไป หมายจะไปกดเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติสำหรับตัวเอง แต่เครื่องยังไม่ทันทำงานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากห้องน้ำในห้องนอนเขา จนชายหนุ่มต้องรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความตกใจ

“เป๊ปเปอร์เป็นอะไรครับ” อรรคแทบจะระเบิดตัวเองเดี๋ยวนั้นเมื่อเข้าไปพบพชรหทัยในห้องน้ำนุ่งผ้าเช็ดตัวหมิ่นเหม่โชว์ทั้งเนินอกอวบอิ่ม ทั้งเรียวขาวยาว นัยน์ตาสวยยามหันมามองหน้าเขาไม่เหลือเค้าลูกแมวขี้อ้อนสำนึกผิดเมื่อวานแม้แต่น้อย

“คุณอรรคบอกเปอร์มาเดี๋ยวนี้นะคะว่ารอยพวกนี้มันมาได้ยังไง” เสียงหวานแหบพร่าตามประสาคนป่วย ตะเบ็งเท่าที่หลอดเสียงจะอำนวย ถึงหล่อนจะไม่เคยมีแฟน แต่ก็รู้ดีไม่น้อยว่ารอยแดงๆ เป็นจ้ำทั่วเนินอกนี่เกิดขึ้นเพราะอะไร โกรธจนลืมว่าตัวเองอยู่ในสภาพล่อแหลมแค่ไหน

ฝ่ายโน้นก็ได้แต่กลั้นยิ้ม ข่มเสียงที่อยากจะหัวเราะเพราะความสุขเต็มแก่ มีแต่แววตาเท่านั้นละที่วับวาวเอาเรื่องพิกล

“รอยพวกนั้นก็มาจากพี่ไงครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยท่าทางปกติ มีก็แต่เพียงใจและร่างกายบางส่วนที่ร้อนรุ่ม อยากจะลากสาวน้อยขึ้นเตียงทำการเช็ดตัวแบบเมื่อคืนอีกรอบ “วิธีเช็ดตัวของพี่ดูได้ผลดีนะครับ เป๊ปเปอร์ถึงหายป่วยเร็วแบบนี้”

ชายร่างสูงตั้งท่าจะหมุนตัวออกจากห้องน้ำ แต่ไม่วายทิ้งประโยคเด็ดไว้ เล่นเอาพชรหทัยถึงกับไปไม่ถูก ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะต้องเอาเรื่องเขาให้เต็มที่ นอกจากล่วงเกินหล่อนแล้ว ยังทำตอนหล่อนไม่มีสติอีกด้วย

“อ้อ...แล้วก็วิธีพยาบาลแบบนี้มีพี่ทำได้คนเดียวนะครับ ถ้าวันหน้าป่วยอีกก็ไม่ต้องให้ใครมานั่งเฝ้าดูแลแบบที่ เพื่อนของเป๊ปเปอร์ทำอีก พี่จะพยาบาลของพี่เอง คนอื่นไม่มีสิทธิ์!”

 

ถึงแม้ว่าอรรคจะยอมพาพชรหทัยออกมารับประทานอาหารร้านโปรดอย่างที่บอกไว้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายเดินเล่นตากลมนานเพราะกลัวไข้จะกลับมาอีก แม้ว่าเขาจะได้กำไรเยอะหากพชรหทัยป่วย แต่ความเป็นห่วงสุขภาพของคนรักย่อมมากกว่า จึงไม่สนใจท่าทางงอนกึ่งง้อของหล่อน

“ขอไปซื้อขนมในตลาดหน่อยได้ไหมคะ นะคะ แป๊บเดียว”

“อย่าเลยครับ เดี๋ยวป่วยอีก”

“เปอร์อยากทาน หายแล้วจริงๆ นะคะ ทานอะไรไม่ได้มาตั้งสองวัน ขอทานอะไรหวานๆ เรียกพลังหน่อยเถอะค่ะ” คนสวยหน้ามุ่ยเมื่อเห็นว่าคนที่เคยตามใจมาตลอดนั่งนิ่งไม่ตอบรับ

“นะคะ ถ้าพาไปเปอร์จะหายโกรธที่คุณอรรคทำกับเปอร์แบบนั้น” อ้อนทั้งๆ ที่เขินจะแย่ แต่ก็อยากกินลอดช่องสิงคโปร์เจ้าประจำที่ต้องกินทุกครั้งที่มาหัวหิน

อรรคกลับเอาเรื่องน่าอายมาถามจนพชรหทัยนึกโทษตัวเองที่รื้อฟื้นเรื่องนี้

“แบบไหนครับ”

“ก็ที่คุณอรรค...เอ่อ...”

“อันที่จริงพี่ต่างหากนะครับที่เป็นฝ่ายจะต้องไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้น เป๊ปเปอร์เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า พี่ว่าเป๊ปเปอร์ไม่มีสิทธิ์ต่อรองนะครับ” อรรคบอกนิ่งๆ ตายังจับจ้องที่ถนน

“โธ่...เปอร์บอกจนเสียงแหบไปหมดแล้วว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ เปอร์รู้ค่ะว่าผิดที่ไว้ใจณะจนเกิดเรื่องอะไรแบบนั้น เปอร์ขอโทษนะคะ คุณอรรคหายงอนเถอะ” หน้าสวยซบลงที่แขนของเขา ถูไถหัวกับแขนเขาแบบที่อ้อนคุณพ่อ อ้อนพี่ชายฝาแฝดทั้งคู่ รายไหนรายนั้น อยากได้อะไรไม่เคยพลาด แต่ดูท่าอรรคจะไม่ใส่ใจหล่อน ถึงได้พูดประโยคต่อมาแบบไม่เว้นระยะเวลาคิด

“ไม่ครับ เปอร์เห็นไหมครับว่าการอยู่ในห้องกับผู้ชายสองคนทำให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง” ตาคมกริบจับจ้องอยู่กับถนน ตั้งแต่ที่เขาหากำไรจากหล่อนเมื่อคืน มองหน้าพชรหทัยทีไรเลือดในกายก็ร้อนฉ่า หวนคิดถึงสัมผัสอ่อนหวาน “นี่ถ้าพี่ไม่หยุด ป่านนี้เป๊ปเปอร์ได้ใช้นามสกุลอัครนันท์แล้ว”

“ง่อ ดีกันเถอะค่ะ เปอร์สัญญาว่าจะไม่สนิทกับณะแบบเดิมแล้ว นะคะ พลีส คนดีของเปอร์ หายงอนนะคะ แล้วเปอร์จะตามใจคุณอรรคทุกอย่าง” คนที่ถูกชี้ให้เห็นความจริงเขินหน้าแดงมากขึ้นไปอีก รีบอ้อนเขาหนักๆ ให้คนรูปหล่อที่ทำหน้าโกรธอยู่อารมณ์ดีขึ้น

คราวนี้ชายหนุ่มยอมละความสนใจจากเส้นทางกลับมามองคนข้างๆ ที่อ้อนเขาจนใจสั่นอีกครั้ง กระตุกยิ้มที่ริมฝีปากอย่างสมใจ

“ผิดครับ วิธีคิดเป๊ปเปอร์ผิด” คนเป็นนายคนทั้งบริษัท บริหารโพรเจกต์ใหญ่ๆ มานักต่อนักมองหน้าสาวน้อย ฉลาดน่ะใช่ แต่เล่ห์เหลี่ยมยังไม่ทันเขาหรอก

“ถ้าอยากให้พี่หายงอน เปอร์ต้องตามใจพี่ก่อนต่างหากครับ”

 

แล้วการตามใจที่อรรคหมายถึงก็ทำเอาคนเพิ่งหายป่วยอยากจะเป็นไข้ เพื่อที่จะได้ระเหยกลายเป็นไอ หรือไม่ก็ไม่ต้องมีสติรับรู้ไปเสียหลายรอบ เพราะชายหนุ่มเรียกร้องหน้าตายให้หล่อนตามใจเขาแต่ละอย่างเสียจนพชรหทัยไม่แน่ใจว่า นี่หล่อนกำลังโดนทำโทษ หรือโดนเอาเปรียบอยู่กันแน่

นั่นไง...แค่คิดก็มาละ

“มานั่งใกล้ๆ พี่สิครับ พี่จะดูให้ว่าไข้ขึ้นอีกหรือเปล่า” ไม่บอกเปล่า แต่อรรครั้งคนตัวบางขึ้นมานั่งซ้อนตักหน้าตาเฉย ก่อนจะลดจมูกซุกไซ้ซอกคอขาวผ่องอย่างถือสิทธิ์

“คุณอรรค...นี่มันไม่ใช่แล้วนะคะ” ความรักดีในตัวทำให้พชรหทัยย่นคอหนีพร้อมๆ กับความรู้สึกดีที่เกิดขึ้น

“ไม่ใช่อะไรครับ พี่จะวัดไข้ให้ เป๊ปเปอร์อย่าคิดมากสิ” เสียงแกมดุของเขาปรามเบาๆ

“แบบนี้มันไม่ดีนะคะ”

“ไม่ดียังไง”

“ก็มันน่าเกลียด เราแค่เป็นแฟนกันเอง”

“แล้วพี่ทำอะไร พี่แค่เป็นห่วงกลัวเราจะไข้ขึ้น ไหนบอกจะตามใจพี่”

พูดแบบนั้นหล่อนก็ได้แต่ฮึดฮัดในใจ ปล่อยให้เขากอดเขาหอมให้พอ นึกปลอบตัวเองว่าอย่างน้อยก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาแบบที่เพื่อนๆ สมัยนี้มีกับคนรัก ภาวนาให้อีกฝ่ายรู้จักยับยั้งช่างใจ ไม่ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้แบบเมื่อคืน

...

แต่แล้วพชรหทัยก็หัวใจแทบวายอีกรอบเมื่อถึงเวลานอน หญิงสาวซึ่งแอบเอาหมอนออกมาจากห้องนอนของอรรครีบจัดที่ทางเตรียมที่นอนของตัวเองที่โซฟาใหญ่ ร่างบางกำลังจะซุกลงในผ้าห่มอยู่แล้ว แต่กลับโดนคนตัวโตที่ยืนดูอยู่นานช้อนตัวขึ้นอุ้มเข้าห้องนอนอีกครั้ง

“คุณอรรค ทำอะไรคะ” พชรหทัยเสียงแหลม รีบโอบแขนเรียวรอบคอเขาเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว

“พาเป๊ปเปอร์ไปนอนไงครับ จะมานอนตรงนี้ทำไม” อรรคปรายตาไปทางโซฟาที่แม่ตัวดีสลัดผ้าเตรียมที่นอน...นี่คิดว่าเขาเป็นคนยังไงถึงจะให้ผู้หญิงนอนข้างนอก...แถมหล่อนเป็นแฟนเขา ยิ่งไม่มีทางที่อรรคจะปล่อยให้ไปนอนที่อื่นหรอก นอกจากข้างตัวเขา

“แต่มันน่าเกลียด” ประโยคเดิมที่พูดมาตลอดวันดูเหมือนจะไม่เข้าหูเขาแม้แต่น้อย เพราะพออรรควางร่างสวยสะพรั่งลงบนเตียงได้ก็แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว แถมตวัดพชรหทัยเข้ามานอนซ้อนอยู่ในอ้อมแขนเขา “คุณอรรค ปล่อยเปอร์นะคะ เรานอนห้องเดียวกันไม่ได้”

“ทำไมจะไม่ได้” มือหนาเอื้อมปิดไฟหัวเตียง ทำไม่รู้ไม่ชี้และรัดหญิงสาวแน่นขึ้น “เมื่อคืนเราก็นอนห้องเดียวกัน พี่ทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เป๊ปเปอร์ยังไม่ว่าอะไร” ชายหนุ่มทู่ซี้ตอบ ใครว่าพชรหทัยดื้อเงียบ อรรคเองก็ดื้อหน้าตายไม่แพ้กันหรอก นอกจากฉายาคุณชายระเบียบแล้ว เพื่อนๆ ยังชอบเรียกเขาว่าพวกเอาแต่ใจหลบในอีกด้วย

“ก็นั่นเปอร์ไม่รู้ตัว” หม่อมหลวงวัยสิบเจ็ดเสียงอ่อน “ถ้าเปอร์รู้ เปอร์ไม่ยอมแน่ๆ” คนสวยยังดิ้นขลุกขลัก จนอรรคต้องกดหอมบนแก้มใสหลายๆ ทีเพื่อเรียกสติหญิงสาว

“ทำไมครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรเลยเถิด แค่ขอให้เปอร์ตามใจให้พี่นอนกอด พี่รัก พี่เลยอยากอยู่ด้วยแบบนี้ แต่ถ้าเปอร์ไม่รักพี่ก็ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มทำท่าจะคลายกอด เสียงเรียบจนคุณเป๊ปเปอร์ต้องรีบตะปบแขนเขาไว้

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” หญิงสาวถอนหายใจนิดหนึ่ง “คุณอรรคอย่ามาเข้าใจเปอร์ผิดอีก”

“แล้วแบบไหนครับ พี่เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเป๊ปเปอร์รักพี่แบบที่พี่รักเป๊ปเปอร์หรือเปล่า”

“โธ่...” หญิงสาวที่หน้าเห่อร้อนไปหมดโอดครวญ “อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ คุณอรรคก็รู้อยู่แล้ว”

“รู้อะไรครับ ไม่เคยพูด พี่จะรู้ได้ยังไง” อรรคบอกหน้านิ่ง ข่มกิริยาสุขสมใจ หล่อนทั้งยอมนอนในอ้อมแขน ทั้งเขินหน้าแดงอยู่ตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าหล่อนรักเขา ยอมเขา แต่ยังไงก็อยากได้ยินให้ชื่นใจกับหูสักครั้ง “แถมเป๊ปเปอร์ยังไปใกล้ชิดกับคนอื่นแบบนั้นอีก พี่อดคิดไม่ได้หรอกนะครับ”

“เลิกคิดอะไรแบบนั้นเถอะค่ะ เปอร์ยอมคุณอรรคจนละอายไปหมดแล้ว นี่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จะเสียใจ ขนาดไหนที่เปอร์ทำตัวแบบนี้ ที่ยอมขนาดนี้ยังไม่เรียกว่ารักเหรอคะ”

คำสารภาพรักกลายๆ ทำเอาหัวใจชายหนุ่มพองฟูไม่น้อย แต่คนมีปมอย่างเขาก็อยากได้ยินชัดๆ ซ้ำๆ อีกหลายครั้ง

“แล้วที่พูดมาทั้งหมดสรุปเป็นคำสั้นๆ ได้ไหมครับ พี่ง่วงแล้ว ฟังอะไรยาวๆ ไม่ไหว” ชายหนุ่มเขยิบตัวออกคลายวงแขนกว้าง แต่ยังไม่วายทิ้งปลายนิ้วไล้ตามผิวสวย ต่อให้พชรหทัยไม่ยอมพูด เขาก็ไม่คิดจะปล่อยหล่อนให้หลุดมือหรอก เดี๋ยวก็วางแผนลากหล่อนกลับมานอนในแขนเขาจนได้ “ไม่รักพี่ก็ไม่เป็นไรครับ เป๊ปเปอร์อยากเลิกก็บอกพี่ละกัน พี่ยอมเป๊ปเปอร์ทุกอย่างแหละ ยอมทั้งๆ ที่เป๊ปเปอร์เป็นคนสัญญาว่าจะตามใจพี่”

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ โธ่ คุณอรรคทำไมพูดไม่เข้าใจแบบนี้” คนที่หน้าแดงก่ำ แต่มีความมืดอำพรางบ่นอุบอิบ “เปอร์รักคุณอรรคจะแย่อยู่แล้ว ไม่งั้นไม่ยอมง้ออยู่แบบนี้หรอก” คนเสียงหวานยอมพูดคำว่ารักออกมาอย่างชัดเจนจนอรรคดีใจแทบบ้า รั้งหล่อนเขามาในแขนอีกที...นี่ไง เขามีเหตุผลในการคว้าตัวพชรหทัยมากอดเสมอ

“พูดให้ดังอีกทีครับ แล้วพี่จะพิจารณาลดโทษให้”

“ถ้าบอกอีกก็หายงอนเปอร์ได้แล้วนะคะ” คนต้องง้อยังต่อรอง เกิดมามีแต่คนมาเอาใจ กลายเป็นว่าตอนนี้คุณหนูแสนสวยต้องกลัวผู้ใหญ่หน้าหล่อคนนี้ไม่รัก

“บอกพี่ก่อนนะคะคนดี ถ้าบอกแล้วพี่สัญญาเลยว่าจะพิจารณาให้อย่างเหมาะสม” คนแก่ที่โดนเด็กหลอมละลายไปแล้วอ้อนบ้าง

“ถ้าไม่บอก...สงสัย...” มือหนาไล้แขนเรียวจนพชรหทัยขนลุกซู่ “ต้องมีได้ต่อเวลาตามใจหรือลงโทษกันบ้าง...”

ได้ยินแค่นั้นพชรหทัยก็ไม่ปล่อยให้คำพูดติดอยู่ที่ริมฝีปากอีกต่อไป..แค่นี้ก็เปลืองตัวมามากแล้ว

“เปอร์รักคุณอรรคนะคะ” พูดจบหล่อนก็พลิกตัวกอดเอวเขาที่นอนหงายอยู่ มืออีกข้างกอดมือเขาให้แนบกับตัว กันไม่ให้เขารุกรานหล่อนได้อีก “นอนได้แล้วค่ะ เปอร์ง่วง ถ้าคุณอรรคยังเกเร เปอร์จะเปลี่ยนมาโกรธคุณอรรคแทน เลิกง้อ เลิกตามใจทุกอย่าง ยกเลิกทุกสิ่งค่ะ”

 

ท่านประธานกับเด็กฝึกงานแสนสวยกลับจากต่างจังหวัดมาได้ร่วมสัปดาห์แล้ว ไอหวานที่ทั้งคู่มีร่วมกันมายังลอยกรุ่นในอากาศ ทำเอาหวนคิดถึงเวลาชื่นมื่นที่มีจนอรรคเก็บอาการแทบไม่อยู่ เผลอส่งสายตาหวานให้พชรหทัยบ่อยครั้ง จนเป็นที่โจษขานของลูกน้องในบริษัทไปทั่ว จะมีก็แต่คุณชุดาคนเดียวที่มัวแต่คร่ำเคร่งกับงานจนไม่ได้สังเกตพฤติกรรมของคนทั้งสอง ทั้งๆ ที่เป็นผู้ที่ใกล้ชิดทั้งคู่มากที่สุด

“เมื่อคืนคุณแม่โทร. มาค่ะ บอกว่าอาทิตย์หน้าก็จะกลับแล้ว” เสียงใสรายงานเขา หน้าสวยเปล่งประกายความสุขจนอรรคอดน้อยใจไม่ได้

“ทำหน้าดีใจขนาดนี้ พี่ชักคิดขึ้นมาอีกแล้วนะครับว่าเป๊ปเปอร์ไม่อยากอยู่กับพี่เลย”

คนยังหาเรื่องงอนแฟนตลอดเวลาพูด อันที่จริงเขาหายโกรธพชรหทัยไปตั้งแต่ก่อนกลับจากต่างจังหวัดแล้ว แต่ยังหาเรื่องหญิงสาวบ่อยๆ เพราะชอบเหลือเกินเวลาที่คนสวยของเขามาออดอ้อนอยู่ใกล้ๆ

“โธ่...ทำไมจะไม่อยากอยู่คะ” คนที่ยังต้องรับหน้าที่ง้อยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้ดีอย่างต่อเนื่องเพราะมีความผิดติดตัว “อยากอยู่กับคุณอรรคแบบนี้ไปตลอด แต่เปอร์ก็คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ เปอร์ไม่ได้มีหน้าที่เป็นแฟนคุณอรรคแค่อย่างเดียวนะคะ เปอร์ยังเป็นลูกสาวคุณพ่อคุณแม่ ยังเป็นนักศึกษาด้วย ดังนั้นเราทำตามใจอยากไม่ได้ทุกอย่างหรอกค่ะ” คนเด็กกว่าที่วัยยังไม่ถึงยี่สิบปีดีสอนท่านประธานตัวโตที่นั่งหน้ามุ่ยอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน

“ทราบครับ พี่ก็อดทนรอเวลาอยู่ ให้เป๊ปเปอร์หมดหน้าที่นักศึกษาที่มันค้ำคอเสียที แค่นี้พี่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นสมภารจ้องจะฟาดลูกเจี๊ยบจะแย่” ชายหนุ่มโยนปากกาทิ้งลวกๆ แล้วกอดอกมองหญิงสาว เกิดมาไม่เคยต้องอดทนอะไรแบบนี้

“รีบๆ จบนะครับคนเก่ง อย่างน้อยพี่จะได้ทำอะไรให้มันชัดเจนกว่านี้ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าใครจะขโมยเป๊ปเปอร์ไปหรือเปล่า” แม้จะลืมความขุ่นมัวที่เกิดเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว แต่อรรคก็อดที่จะพูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ทุกครั้งที่มีโอกาส “แล้วนี่ตกลงเปอร์จะไปทานข้าวกับเพื่อนๆ พี่ด้วยกันไหมครับ”

อรรคอยากจะป่าวประกาศให้ทั้งโลกรู้ด้วยซ้ำว่าพชรหทัยเป็นคนรักของเขา แต่ด้วยสิ่งที่เป็นกันอยู่ตรงนี้คงไม่ดีต่อหญิงสาว เขาก็เลยเลือกที่จะบอกคนที่อยู่ในวงจรชีวิตเขาเสียก่อนเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย ซึ่งพชรหทัยก็เข้าใจเป็นอย่างดีจึงได้ยอมตอบรับไปพบเพื่อนๆ ของเขา ทั้งที่จริงๆ เจ้าตัวไม่ค่อยอยากไปไหนด้วยซ้ำ

“ไปก็ได้ค่ะ รายงานเปอร์จะเสร็จแล้ว เหลือแต่เรเฟอร์เรนซ์นิดเดียว เสาร์อาทิตย์นี้ก็เรียบร้อย เหลือแต่เอาใบฝึกงานไปยื่นที่มหาวิทยาลัย เปอร์ก็เรียนจบแล้ว”

สาวหน้าสวยยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อนึกถึงความสำเร็จภายภาคหน้า จากนี้ก็แค่ไปเรียนต่อตามแผนที่วางไว้ แล้วก็รีบกลับมาหาคนตรงหน้า

“งั้นเอามาให้พี่เซ็นเลยครับ ไม่ต้องรอจนครบสามเดือนหรอก เลิกฝึกงานแล้วคอยมานั่งยิ้มหวานๆ ให้พี่ชื่นใจดีกว่า”

คราวนี้พชรหทัยทำหน้ายุ่ง ส่ายหัวปฏิเสธความคิดเขาอย่างจริงจัง

“ไม่ได้หรอกค่ะ เปอร์อยากฝึกงานจริงๆ อยากได้ความรู้ อยากเรียนรู้ระบบงาน อย่ามาสอนให้เปอร์เป็นคนขี้โกงแบบนั้นสิคะ เปอร์จำเป็นต้องเอาความรู้ที่เรียนมาทำงานจริงๆ นะคะ ไม่ใช่สักแต่ว่าเรียนให้จบๆ ไป” พชรหทัยบอกสีหน้าจริงจัง ดูทรงแล้วพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนคงจะไปสานต่อธุรกิจฝั่งอากงมากกว่าที่จะยอมบริหารบริษัทฝั่งคุณชายพชรฉัตรผู้เป็นพ่อ ซึ่งพชรหทัยก็ไม่ได้อิดออด เนื่องจากชอบสายงานทางนี้เป็นการส่วนตัวด้วยอยู่แล้ว

“ก็ไหนว่าจะตามใจพี่ไง” คนตัวโตยังรวน ทั้งๆ ที่ภูมิใจไม่น้อยที่พชรหทัยเอาจริงเอาจังกับงานขนาดนี้ เรียนจบกลับมาคงเข้ามาทำงานรับช่วงต่อจากเขาได้อย่างเต็มที่ “พี่แค่ไม่อยากให้เราต้องเครียด อยากให้มีเวลาให้พี่เยอะๆ อีกหน่อยเปอร์ก็ไปเรียนต่อแล้ว ตามใจพี่แค่นี้ก็ไม่ได้” พูดจบเจ้าตัวก็ตบตักเรียกสาวน้อยให้มาคลอเคลียแบบที่ชอบทำ แต่วันนี้อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

“นี่มันห้องทำงานนะคะ”

“แล้วยังไง”

“ก็ใครเปิดมาเห็นเข้าไม่ดีหรอกค่ะ เปอร์ขอติดไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยว่ากัน”

 

แล้วอรรคก็ยังไม่มีโอกาสได้เก็บแต้มตามที่ตั้งใจไว้เพราะพชรหทัยดันมีสมาธิกับงานเกินคาด ขอต่อเวลาเขียนรายงานให้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างก่อน ถึงจะยอมออกไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ ของเขาที่ทราบกัน หมดแล้วว่า ท่านประธานรูปหล่อมีความสัมพันธ์พิเศษกับลูกสาวคุณชายใหญ่แห่งวังวิริยา และรอพบทั้งคู่อยู่

กว่าหญิงสาวจะเซฟงาน ส่งเมลเรียบร้อย กว่าจะแต่งตัวเสร็จ ก็ทำเอาอรรคต้องขับรถปานจรวดเพื่อไม่ให้ช้ากว่าเวลาที่นัดไว้ไปมากจนรับตัวเองไม่ได้

“รอทำพรุ่งนี้ก็ไม่ได้” ชายหนุ่มบ่นแบบไม่เอาจริงเอาจัง แต่ก็คันยิบๆ ในใจไม่น้อยเพราะเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอ “ดูสิครับ เลตไปตั้งสิบห้านาทีแล้ว”

พชรหทัยทำหน้านิ่งยอมรับความผิด แต่อดไม่พอใจลึกๆ ไม่ได้ เพราะบอกเขาแล้วว่าให้เขาออกไปพบเพื่อนได้เลย ไม่ต้องมารอหล่อน

“ก็เปอร์อยากทำให้มันเสร็จ ถ้าคุณอรรครอไม่ได้ เปอร์ก็บอกแล้วนิคะว่าให้มาเลย เปอร์รอที่ห้องได้” คนที่ตรงต่อเวลาพอกันบอก วันนี้อันที่จริงหล่อนก็ไม่ได้อยากจะมาเท่าไร แต่ทนการรบเร้าจากเขาไม่ไหว บวกกับสัญญาว่าจะตามใจเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน จึงทำให้คนที่ห่วงเรียนก็ห่วง กลัวแฟนโกรธก็กลัวต้องรีบแต่งตัวมากที่สุดในชีวิตเหมือนกัน

“เนี่ยดูสิ เปอร์เลยไม่ทันได้เลือกชุดให้ดีเลย ตัวนี้มีรอยยับด้วย” เดรสตัวสวยไม่มีที่ติ แต่คนที่เป๊ะเว่อร์อย่างพชรหทัยยังมองเห็นข้อผิดพลาดได้ เสียงหวานบ่นพึมพำตามประสาจนคนรักต้องปรายตามองเล็กน้อยเหมือนไม่สนใจ แต่ยังอุตส่าห์ปลอบเพราะรู้ดีว่าพชรหทัยใส่ใจเรื่องพวกนี้มาก

“ไม่เห็นมีเลย คิดมาก ไปครับ เดินไวๆ หน่อย พี่ไม่ชอบผิดเวลา” อรรครวบมือบาง จับจูงหญิงสาวให้เดินตามมาไวๆ โดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าคนของเขาที่เริ่มเม้มปากด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยังรักษาสีหน้ายิ้มแย้มไว้ได้อย่างดีเมื่อพบแขกที่ต้องร่วมโต๊ะในวันนี้

 

ใครจะไปคิดว่าอรรคมันจะจีบน้องเป๊ปเปอร์จริงๆเขตต์ซึ่งเริ่มได้ที่เพราะแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ว่าขึ้น “เห็นนิ่งๆ เงียบๆ จับเด็กฝึกงานกินเรียบเลยนะมึง”

พชรหทัยที่กำลังยกน้ำขึ้นจิบชะงักเพราะคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จัก ส่วนอรรคก็เอื้อมมือมาบีบมือหญิงสาวเบาๆ เพราะไม่พอใจเช่นเดียวกันที่เพื่อนสนิทพูดจาเหมือนไม่ให้เกียรติหม่อมหลวงแสนสวยของเขา แน่นอนว่าภาษากายระหว่างคนสองคนไม่ได้รอดพ้นสายตาของอิงอรไปเลย

“พูดอะไรให้เกียรติแฟนกูด้วย เขตต์” อรรคหันไปสบตาหญิงสาว “กูรักจริง รอเขาเรียนจบกูก็จะจับแต่งงานให้เรียบร้อย จับกงจับกินอะไรแบบนั้นกูไม่ทำกับเขาหรอก”

คราวนี้พชรหทัยอดตวัดตาค้อนอรรคไม่ได้ ทีกับคนอื่นพูดเสียเป็นสุภาพบุรุษ แต่พออยู่กันสองคนทีไรกลับแปลงร่างเป็นปลาหมึก จนหล่อนต้องยื่นคำขาดหลายรอบไม่ให้ทำแบบนั้น

“แหม เป๊ปเปอร์ไปเรียนต่ออีกตั้งหลายปี ป่านนั้นอรรคสามสิบเท่าไหร่เข้าไปแล้ว แล้วนี่คิดหรือยังจ๊ะว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน” อิงอรหันมาคุยกับลูกศิษย์บ้าง ทำตัวสนิทสนมแสนดีทั้งๆ ที่ในใจร้อนกรุ่น

“ค่ะ คงไปอังกฤษแหละค่ะ พี่ๆ อยู่กันหลายคน แล้วคอร์สที่คุณพ่อดูไว้ที่โน่นก็ดีที่สุดด้วย”

“แล้วนี่กะเรียนอีกกี่ปี ระวังน้า ไปนานๆ คุณอรรครอไม่ไหวหนีแต่งงานไปก่อน”

“ถ้ารอไม่ไหวจริง เปอร์ก็คงทำอะไรไม่ได้มั้งคะ คงต้องหาแฟนใหม่ที่อายุใกล้ๆ กันเหมือนกัน”

พชรหทัยตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันไปสบตาคนตัวโตที่ถลึงตากลับมา รู้กลายๆ ว่าอาจารย์คนสวยเพื่อนของแฟนหนุ่มคงไม่ได้เหน็บแนมหล่อนตามปกติ แต่คงเพราะมีความรู้สึกพิเศษกับอรรคเป็นแน่

“โอ๊ย พี่ว่าดีไม่ดีมันจะบินไปเฝ้าน้องเป๊ปเปอร์ทุกเดือนครับ ติดแฟนจนพี่ชวนไปไหนก็ไม่โผล่มา นี่ขนาดคุณแพมยังออกปากว่าคงหลงเป๊ปเปอร์มาก เพราะเมื่อก่อนคุณแพมตามแค่ไหน ไอ้อรรคไม่เคยปรายตามองด้วยซ้ำ” คนพูดไม่คิดพล่ามไปเรื่อย แต่พชรหทัยขมวดคิ้วมุ่น ในขณะที่อรรคหน้าเปลี่ยนสี มีแต่เขตต์ที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับอิงอรที่สมใจยิ้มร่าแค่สองคนเท่านั้น

“อรรคนี่เสน่ห์แรงไม่เปลี่ยน สาวๆ ที่ไหนก็หลงรัก แต่เขตต์คงแน่กว่าที่สอยคุณแพมไปได้ นับถือสองคนนี้จริงๆ ไม่แคร์กันบ้างเหรอว่าเพื่อนเคยได้มาก่อน” อิงอรถาม ด้วยความเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวทำให้หญิงสาวชินกับการพูดเรื่องแบบนี้ อีกทั้งยังอยากกระตุ้นประเด็นบางอย่างอีกด้วย

“ไอ้อรรคมันเอาแค่ทีเดียว” เขตต์พูดจบก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอึกใหญ่ “เฮ่ย ไม่ดิ เอาคืนเดียว แต่กี่ทีวะ”

คราวนี้พชรหทัยหน้าแดงก่ำเพราะเรื่องที่เพิ่งผ่านหู พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของอรรค แต่ชายหนุ่มกลับบีบแน่นมากขึ้น

“ไอ้เขตต์ เมาแล้วก็กลับบ้านไปนอนไหม” อรรคขมวดคิ้วมุ่น ปกติเขาก็ไม่เคยว่าอะไรหากเขตต์จะพูดจาเรื่องทำนองนี้ ทว่าวันนี้เขาไม่ต้องการให้เรื่องทำนองนี้เข้าหูพชรหทัย ไม่อยากให้หล่อนรับรู้ว่าเขาก็มีมุมเป็นผู้ชายเห็นแก่ได้เหมือนคนอื่นๆ

“เฮ่ย เมาที่ไหน ปกติกินกันมากกว่านี้ ว่าแต่ไม่เอาอีกหน่อยเหรอวะอรรค” คนที่เป็นเพื่อนกันมานานถาม ปกติอรรคนี่ก็คอแข็งใช่ย่อย นัดเจอกับเพื่อนๆ เมื่อไรมีได้หน้าแดงก่ำกลับบ้านกันทุกฝ่ายทุกครั้ง

“ไม่ละ วันนี้ขับรถเอง”

“ปกติก็ขับ ไม่เห็นมึงจะหยุดแดก”

“นี่กูไม่ได้ตัวคนเดียว” พูดจบก็หันไปสบตาคนข้างๆ ที่ทำหน้านิ่ง รู้ดีว่ามีคลื่นความไม่พอใจจากเรื่องที่เขตต์พูดเมื่อครู่ “กูต้องดูแลเป๊ปเปอร์ด้วย”

“โอ๊ย...นี่ถ้าเป๊ปเปอร์ไม่ได้เป็นลูกสาวคุณชาย อรรคจะโอ๋ขนาดนี้ไหมเนี่ย ปกติอรเห็นไม่สนใจอะไร” เพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มทำเป็นแซ็ว แต่กลับแทงใจดำพชรหทัยยิ่งนัก “เดี๋ยวอีกหน่อยอยู่ๆ กันไปเกิดอรรคกลับไปเฉยชาเหมือนเดิม มีหวังเป๊ปเปอร์ช็อกแน่ๆ เผื่อใจไว้ด้วยนะคะ อย่าหาว่าอาจารย์ไม่เตือน” รอยยิ้มเคลือบยาพิษถูกส่งมาให้หญิงสาวแสนสวย ส่วนพชรหทัยได้แต่ยิ้มมุมปาก ไม่ตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น

“แล้วนี่ทำไมแพมไม่มาวะ ปกติกูเห็นมึงตัวติดกันตลอด” อรรคเปลี่ยนเรื่องทันที ทว่าดูเหมือนจะเป็นการขว้างงูไม่พ้นคอเท่าไร

“ยังไม่เสร็จงานเลย แถมบอกกูอีกว่ามาแล้วเศร้า ทำใจไม่ได้ที่เห็นมึงเอาแฟนมาเปิดตัว กูเลยบอกเดี๋ยวจะกลับไปปลอบใจ”

“แหม ปลอบกันยังไงล่ะ คุณแพมถึงติดเขตต์ขนาดนั้น”

“หึๆ” เป็นเขตต์ที่หัวเราะบ้าง “ก็ปลอบตามประสา แต่เห็นงี้ก็เถอะ เวลาเขตต์ไม่ตามใจยังชอบมาขู่ว่าจะกลับไปจีบอรรคอยู่บ่อยๆ” เขาไม่ใส่ใจหรอกว่าผู้หญิงที่อยู่กับเขาจะผ่านใครมาบ้าง แม้กระทั่งจะเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองก็ตาม ดีซะอีกที่รู้ว่าคนที่พริมาเคยมีความสัมพันธ์ด้วยเป็นใคร

“แต่กูไม่เอานะ กูเจอตัวจริงแล้ว เชิญมึงปลอบกันตามสบาย” อรรครีบปฏิเสธ หวั่นใจว่าคนข้างๆ จะโมโหเขาขึ้นมาบ้าง มือกำลังขึ้น เขาเป็นคนที่พชรหทัยต้องง้อ แต่พอตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เขาต้องสลับบทเป็นคนง้อแทนหรือเปล่า

“ว่าแต่ทำไมวันนี้อรรคมาถึงคนสุดท้าย อรยังคุยกะเขตต์อยู่เลยว่าอรรคคงมา รอก่อนด้วยซ้ำ”

ชายหนุ่มปรายตามองต้นเหตุบ้าง ปกติเขาจะมาเป็นคนแรกเสมอหากมีการนัดกัน แต่คราวนี้นอกจากจะมาถึงเป็นคนสุดท้ายแล้วยังเลยเวลาไปถึงสิบห้านาที ถึงจะไม่มากในสายตาคนอื่น แต่คุณชายระเบียบแบบเขาถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

“ก็เป๊ปเปอร์สินั่งทำรายงานจนเสร็จ กว่าจะแต่งตัวเสร็จอีก นี่อรรคก็ดุไปแล้วนะ ขอโทษอรด้วยที่ให้มารอ”

“ไม่เป็นไรหรอก อรรคมารออรทุกครั้ง จะช้าเพราะสาวน้อยคนนี้ผิดเวลาบ้างก็ไม่เป็นไร” อิงอรบอกเสียงหวาน ก่อนจะชะโงกตัวไปหาลูกศิษย์คนสวย “วันหลังห้ามช้านะคะเป๊ปเปอร์ อรรคนี่เกลียดคนไม่รักษาเวลาที่สุด เป๊ปเปอร์ทำอรรคมาไม่ทันแบบนี้ คราวหน้าอาจารย์ว่าหนูโดนอรรคดุหนักกว่านี้แน่”

 

ทั้งคู่กลับมาถึงห้องพักบนยอดตึกเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม โดยอรรคเดินตามเข้ามานั่งเล่นในห้องพชรหทัยเหมือนทุกครั้ง จะต่างกันก็เพียงแค่วันนี้หญิงสาวยิ้มน้อยพิกล จนอรรคต้องออกปากถาม

“อิ่มเหรอ นั่งนิ่งไม่พูดเลย” อรรคยืนมองพชรหทัยที่ตระเตรียมน้ำชาใส่ถาดมาเสิร์ฟเขาแบบทุกที

“เปล่าค่ะ” คนสวยยังก้มหน้างุดสนใจกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ไม่สบตาเขา หวั่นใจทั้งเรื่องนางแบบคนสวยที่เพิ่งรับรู้ และร้อนใจเรื่องอาจารย์อิงอรที่น่าจะเป็นไปตามที่สังหรณ์ทุกอย่าง

“แล้วเป็นอะไรครับ” อรรคเอื้อมมือไปคว้าพชรหทัยมากอดให้หลังบางแนบกับตัวเขา “พี่ยังไม่อยากดื่มชา มานั่งเล่นกันก่อนดีกว่า” รู้ดีหรอกว่าสาวน้อยกำลังคิดอะไร จึงรีบรั้งร่างอ้อนแอ้นมากอดปลอบไว้เสียแต่เนิ่นๆ

หญิงสาวยอมมาตามการจับจูงของเขา แต่อดทำปากยื่นแบบทุกครั้งเวลาไม่พอใจไม่ได้

“งอนอะไร...เป๊ปเปอร์ไม่มีสิทธิ์งอนนะคะ พี่คือคนที่งอน แล้วเปอร์ต้องง้อ” ปากพูดอย่างนั้น แต่กิริยาที่ท่านประธานทำต่อคนรักนุ่มนวลเหลือเกิน สังหรณ์ว่าหญิงสาวจะคิดมากเรื่องบนโต๊ะอาหารวันนี้ เพราะขนาดเขาเองยังไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่ได้ยินเลย

“ค่ะ เปอร์รู้ว่าเปอร์ไม่มีสิทธิ์งอนคุณอรรคหรอกค่ะ เปอร์แค่...” เสียงหวานแผ่วลงพร้อมๆ กับที่หน้าสวยพิงลงมาที่อกแกร่งเมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เกิดมาไม่เคยรู้สึกไม่มั่นใจอะไรแบบนี้

“แค่อะไร...”

“แค่เพิ่งรู้ว่าคุณอรรคกับคุณแพมเคยคบกัน แล้วก็อาจารย์อรอีก...คุณแพมสวยออก ทำไมเลิกกันล่ะคะ”

คนที่กลัวเสมอว่าแค่ใจตรงกันจะไม่พอถามขึ้น ถึงแม้จะรู้ดีว่าชาติกำเนิดและภาพลักษณ์ภายนอกของหล่อนไม่ได้หย่อนคุณสมบัติไปกว่าใคร แต่ด้วยอายุที่ห่างกันไม่น้อยก็ทำให้หล่อนอดหวั่นใจไม่ได้ว่าอรรคจะเบื่อเด็กอย่างหล่อนเสียก่อน แถมเมื่อคนที่เขาเคยยุ่งกับคนที่ชอบเขาอีกสองคนทั้งสวยทั้งเก่งขนาดนั้น พชรหทัยก็อดคิดมากไม่ได้ อดไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาไม่ได้

“พี่กับแพมไม่ได้คบกัน...เราแค่...เอ่อ...” คราวนี้เป็นฝ่ายชายที่พูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเหมาะสมไหมที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน แล้วอรรคก็ต้องเป็นฝ่ายตกใจกว่าเมื่อคุณเป๊ปเปอร์เป็นคนให้คำจำกัดความความสัมพันธ์นั้นเสียเอง

“แค่วันไนต์สแตนด์เหรอคะ” หญิงสายปรายตามอง “คุณอรรคไม่ต้องมาทำอ้ำอึ้งหรอกค่ะ ถึงเปอร์จะเด็ก แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครๆ เขาก็ทำกันเป็นเรื่องปกติทั้งนั้น”

“แต่เป๊ปเปอร์ห้ามนะ” หนุ่มร่างใหญ่กระชับกอดเสียแน่นพร้อมแหวเสียงหลง “ใครจะทำก็ทำไป เป๊ปเปอร์ต้องรอเป็นของพี่คนเดียว”

“ขี้โกง ตัวเองยังมีใครต่อใครสารพัด นี่ขนาดแฟนเขาถึงกับออกปากว่าจ้องจะกลับมาหาคุณอรรคตลอดเวลา แสดงว่าคงติดใจกันมากสินะคะ” คนไม่รู้ตัวว่าหึงบ่น มีแต่อรรคเท่านั้นที่นั่งยิ้มมีความสุขที่หญิงสาวมีอาการแบบนี้ “ไหนจะอาจารย์อรอีก เปอร์จะเอาอะไรไปสู้ไหว ทั้งสวยทั้งเก่ง”

“โอ๋ๆ ไม่เอาน่า จะต้องไปสู้อะไร เป๊ปเปอร์ชนะตั้งแต่แรกเห็นเลยนะครับ” ชายหนุ่มบอกเอาใจตามความจริง “พี่มีเป๊ปเปอร์แล้วนิ ถ้าเราไม่ทิ้งพี่ไปหาคุณณะ พี่ก็จะอยู่กับเป๊ปเปอร์แบบนี้ไปจนตายแหละครับ” คนตัวโตโอบรอบเอวบางรั้งหญิงสาวขึ้นมาบนตัก ก่อนจะประกบจูบหวานฉ่ำ รุกล้ำดูดดึงลิ้นเล็กอยู่นานกว่าจะปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระ

พชรหทัยทิ้งหัวลงซบบ่ากว้างของเขา “คุณอรรคห้ามทำมากกว่านี้นะคะ แค่นี้เปอร์ก็เกรงใจคุณพ่อคุณแม่จะแย่”

“พี่รู้ครับ พี่รับปากคุณชายไว้แล้วด้วย”

คราวนี้พชรหทัยถอนหน้าสวยออกจากบ่าที่หล่อนซบอยู่ มองหน้าเขาให้เต็มตา “นี่ขนาดรับปากเปอร์ยังเปลืองตัวขนาดนี้”

“ก็รับปากแค่ว่าจะไม่ทำอะไรมากกว่านี้ไงครับ พี่รู้น่าว่าแค่ไหนพอ...” ชายหนุ่มรีบตัดบท กดหน้าสวยให้ซบลงมาเหมือนเดิมเพื่อซึมซับความรักที่มีระหว่างกัน แต่คนตัวบางกลับไม่ยอมนั่งนิ่งๆ ตั้งใจซักฟอกเขาแบบที่อรรคกลัวไม่มีผิด

“แล้วเก็บเงียบเชียวนะคะว่าเคยคบคุณแพมมาก่อน ไม่เคยเล่าให้เปอร์ฟังสักแอะ”

ท่านประธานหนุ่มถอนใจ นี่ไง ผิดจากที่คิดไว้ที่ไหน...เก็งอะไรไม่เคยพลาดสักอย่าง

“โธ่...สำคัญที่ไหนครับ แถมนั่นมันก่อนที่พี่จะคบกับเป๊ปเปอร์ด้วย” ชายหนุ่มอ้อนบ้าง “เอาไว้ถ้าหลังจากนี้พี่มีความลับกับเรา เราค่อยมาโกรธดีไหม พี่เคยสัญญาแล้วไงว่ามีอะไรพี่จะบอกตามความจริงทุกเรื่อง”

พชรหทัยได้ยินแบบนั้นก็อดค้อนไม่ได้ ทีพอเรื่องตัวเองละหาข้ออ้างแถได้ตลอด ที่กับหล่อนละดุเอาเรื่อง คาดโทษกันตลอด

“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ ทีเรื่องณะ รู้ว่าคุณอรรคต้องโกรธ เปอร์ยังกล้าพูดเพราะไม่อยากปิดบังอะไร ลองคุณอรรคเป็นเปอร์สิคะ จะได้รู้กันไปเลยว่าเปอร์จะโกรธได้ขนาดไหน”

“งั้นเรามาผนึกสัญญากันเลย...ว่าเป๊ปเปอร์ห้ามมีความลับกับพี่ แล้วพี่ก็จะไม่มีความลับกับเปอร์”

อรรคสบตาหวานด้วยประกายวาบหวาม นี่ถ้าอีกฝ่ายเรียนจบ เขาจะไม่รีรอที่จะตีตราประทับความเป็นอัครนันท์ให้ทั่วตัวหญิงสาว เอาให้สามปีที่ห่างกันไม่มีวันไหนที่ไม่นึกถึงเขา

“ถ้าคุณอรรคผิดสัญญา เปอร์จะเลิกกับคุณอรรค จะหนีไปไกลๆ ไม่ให้เห็นหน้ากันอีกเลย” หม่อมหลวงเป๊ปเปอร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เสียจนปลายจมูกชนกัน

อีกฝ่ายยิ้มกริ่มเมื่อเห็นแฟนสาวแสดงกิริยาแบบนั้น มือหนารั้งท้ายทอยหญิงสาว จัดมุมให้ถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น ก่อนบอกประโยคที่อยู่ในความตั้งใจของเขาอย่างแน่วแน่ว่าไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องได้ผู้หญิงคนนี้...ได้มาเป็นเมีย มาเป็นแม่ของลูก

“แต่พี่ไม่เลิก เพราะพี่ไม่มีวันทำแบบนั้นกับเปอร์แน่”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น