๑๐
แฟนเก่า
“มันชื่อธี เป็นลูกคนรวย พ่อแม่เลอเลิศสูงส่ง พวกเขารังเกียจไพลินและครอบครัวเรา หาว่าเป็นชาวสวนกระจอกๆ ไม่คู่ควรกับลูกชายเขา แม่งเอ๊ย!”
โพธิ์สบถขณะมองลานไพลินกับผู้ชายคนนั้นนั่งสนทนากันอยู่ไกลๆ เขาปล่อยแสนแซ่บให้วิ่งหายไปในความมืดพร้อมกับยิมโนแล้ว
“ผมไม่เคยคิดว่าอาชีพเกษตรกรที่เราสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจะต่ำต้อยตรงไหน มันก็คนเหมือนกันแหละวะ แต่ไอ้พวกที่เอาแต่คิดว่าตัวเองดีเด่แล้วกดคนอื่นลงต่ำมันน่ารังเกียจกว่าเยอะ ไอ้คนพวกนั้นมันแย่กว่าขยะเปียกอีกคุณ เพราะขยะยังเอามาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ให้งอกงามได้ แต่คนพวกนี้ต่อให้ตายไปก็คงเป็นได้แค่ขยะมีพิษ!”
“พ่อ...” ทับทิมลูบแขนปรามสามี
“ลูกเราไม่ควรต้องมาเจอคนระยำอย่างมันเลย!”
“ใจเย็นๆ ก่อน” ทับทิมยิ้มแหยให้ศิคาลเป็นเชิงขอโทษ
“ไม่จริงเหรอแม่ พวกมันดูถูกลูกเรา ด่าไพลินว่าจ้องจับลูกชายมันเพราะอยากไต่เต้าหาผัวรวยชาติตระกูลดี ถุย! ถ้าสูงส่งร่ำรวยแล้วคิดได้แต่เรื่องต่ำสถุลก็ให้มันไปตายซะเถอะ!”
“เกรงใจคุณครามบ้างเถอะพ่อ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นด้วยกับน้าโพธิ์ คนพวกนี้มันควรเอาขยะยัดปากแล้วจับเข้าเตาเผาทิ้งแม่งไปเลย!” เพียงรู้เรื่องคร่าวๆ ศิคาลก็เจ็บแค้นแทนลานไพลินแล้ว
“ใช่มั้ยล่ะ คุณเห็นด้วยก็ดี ผมจะได้พูดกับคุณตรงๆ ในฐานะที่เราคุ้นเคยกันมานาน ผมรู้ว่าคุณเองก็มาจากครอบครัวเศรษฐี ถ้าคุณคิดจะจีบไพลินก็จงคิดให้ดีๆ ผมไม่อยากให้ลูกสาวต้องเสียใจซ้ำซาก”
โพธิ์จ้องตาเขาตรงๆ และศิคาลก็ไม่เลี่ยงหลบ
“ผมชอบน้องลินครับ ชอบแบบจริงจังอย่างที่มันจะพัฒนาไปเป็นความรักได้ ผมคิดไปถึงอนาคตของเราเลยด้วยครับผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องลินต้องมาเผชิญเรื่องแย่ๆ แบบที่ผ่านมาอีกแน่” เขากล่าวอย่างหนักแน่น
“ผมไม่เชื่อลมปากของคนหรอก” โพธิ์ยิ้มหยัน “แต่ผมจะรอดูก็แล้วกัน ตอนคุณเป็นลูกค้าของผม คุณเป็นคนดีไม่เคยดูถูกหรือเอาเปรียบนั่นทำให้ผมชอบอัธยาศัยใจคอของคุณและยินดีต้อนรับคุณเข้ามาในบ้าน แต่ตอนนี้คุณบอกว่าชอบลูกสาวผม ผมไม่แน่ใจว่าคุณดีพอสำหรับแกมั้ย ผมไม่ได้หมายถึงว่าไพลินเหนือกว่าคุณในด้านสถานะทางสังคมหรือการเงินนะ แต่ในเมื่อแกเป็นแก้วตาดวงใจของผม แกย่อมเหนือกว่าทุกคนในโลก”
“ผมทราบครับ ผมเองก็มีน้องสาวซึ่งผมกับพ่อแม่หวงแหนยิ่งกว่าอะไร ตอนที่เธอจะมีแฟนผมเองก็ต้องกลั่นกรองอยู่นานจนมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ดีพอสำหรับเธอจริงๆ”
“อืม” โพธิ์พยักหน้าอย่างรับรู้
ศิคาลอ่านสายตาของชายสูงวัยไม่ออก แต่ที่แน่ๆ เขาเห็นรอยยิ้มพึงพอใจในวงหน้าของทับทิม แม้มันจะเลือนหายอย่างรวดเร็ว
“ไพลินเจ็บมาเยอะค่ะ เจอคนดูถูกนินทาว่าร้ายสารพัด แกเคยเล่าถึงขนาดว่าผู้ชายคนนั้นพาไปเจอพ่อแม่ แต่ทุกครั้งพ่อแม่เขาทำเหมือนแกเป็นหัวหลักหัวตอ บางทีก็หาเรื่องกระแนะกระแหนดูถูก แล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยปกป้องแกเลยสักครั้งไม่ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกี่ครั้งกี่หนก็ตาม...
“แกเคยถูกทิ้งอยู่คนเดียวในงานวันเกิดพ่อแฟนเก่า ส่วนตัวผู้ชายหันไปควงกับผู้หญิงที่พ่อแม่เลือกให้ว่าอยู่ในสังคมระดับเดียวกัน ไพลินต้องยืนมองอยู่ตำตา ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ทิ้งไพลินไปหาผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ได้ยินว่าเขาไปอยู่เมืองนอกด้วยกันตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน แต่กลับมาอีกแล้วเหรอเนี่ย” ทับทิมทำเสียงดังจึ๊กจั๊กในปาก
“เออ! มาทำไมบ่อยๆ วะ รู้หรอกว่ารวย มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบิน แต่มันมาที่นี่อีกทำไม ไม่กลัวพ่อแม่จะรู้รึไงวะไอ้ลูกแหง่โว้ย!”
“พ่อกลัวไพลินจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ” ทับทิมถามสามี
“ไม่กลัว! เพราะต่อให้มันมาขอคืนดี ไพลินก็ไม่เอามันหรอก ลูกเราไม่ใช่คนโง่” โพธิ์แสยะยิ้ม
ลูกสาวของโพธิ์และทับทิมนั่งประจันหน้าผู้ชายที่เธอเคยรักมาก และเขาก็ทำให้เธอเจ็บปวดมากเช่นกัน
วันนี้บาดแผลเหล่านั้นสมานตัวจนเหลือเพียงรอยแผลเป็นจางๆ ไม่มีความเจ็บแสบทุรนทุรายเหมือนตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ เช่นเดียวกันกับความรักที่เธอมีต่อเขา ซึ่งลานไพลินเคยสงสัยว่ามันยังหลงเหลืออยู่ไหม เมื่อได้เผชิญหน้ากันจริงๆ อีกครั้งหญิงสาวจึงตระหนักว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากรำคาญ
เมื่อก่อนเธอหลงผิดไปรักผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร!
“คุณมีอะไรจะพูดกับฉันก็รีบพูดมาเถอะค่ะ” ลานไพลินถามเสียงเรียบ
“คุณ...ฉัน...ลินพูดกับพี่ห่างเหินจัง” ธีรเดชตัดพ้อ
หนึ่งปีเศษที่ไม่เจอกันเขาดูทรุดโทรม ดวงตาอิดโรยและน่าจะน้ำหนักขึ้นหรือไม่ก็บวมเหล้า ไม่ได้หล่อเหลาอย่างคนสุขภาพดีดังเช่นเมื่อก่อน
“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่คะ”
ลานไพลินตอกย้ำ เธอไม่เคยลืมเรื่องในงานวันเกิดบิดาของธีรเดช เธอถูกเขาทอดทิ้งตลอดงานเพื่อไปควงแขนจี๋จ๋ากับอารดา ราวกับใช้งานนี้เป็นการเปิดตัวคู่รักกิ่งทองใบหยกที่บุพการีสรรหามาให้
มารดาของธีรเดชและอารดารวมถึงยายคู่แฝดมหาภัยดาหน้ากันมาข่มขวัญลานไพลินให้ตระหนักถึงความต้อยต่ำไม่คู่ควรต่ออนาคตผู้บริหารแถวหน้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ หากธีรเดชยังคบหากับเธอ เขาจะไม่มีวันก้าวหน้า หญิงสาวซมซานกลับบ้านด้วยความชอกช้ำก่อนงานเลี้ยงจะเลิกเสียอีก
หลังจากคืนนั้นธีรเดชก็หายหน้าไป ลานไพลินพยายามติดต่อหาเขาเพียงเพื่อจะบอกเลิกให้จบสิ้น ทว่าชายหนุ่มชิงตัดรอนเธอก่อนด้วยการดักรอหญิงสาวใต้ตึกมีเกียรติเบฟเวอร์เรจในวันที่เธอต้องไปคุยงานกับทีมของบริษัท เขาทิ้งลานไพลินให้นั่งกลั้นน้ำตาอยู่ที่ร้านกาแฟก่อนการประชุมจะเริ่มไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแม้ว่าเธอจะทำใจไว้แล้วก็ตาม
หญิงสาวอยากลุกขึ้นปรบมือให้ตนเองที่ผ่านเหตุการณ์อัปยศเช่นนั้นมาได้โดยไม่ร้องไห้ฟูมฟายให้ใครเห็น แถมยังต้องเผชิญหน้ากับแม่ของเขาและคู่แฝดมหาภัยที่มาหยามเหยียดอย่างสะใจหลังจากเห็นเธอถูกทิ้ง
คนพวกนั้นทำลายชื่อเสียงเธอต่อด้วยการใส่ความว่าลานไพลินเป็นผู้หญิงไม่ดีที่จ้องจับธีรเดช แต่เขากับครอบครัวไหวตัวทันธีรเดชจึงเลิกกับเธอเมื่อตาสว่าง
โชคดีที่เจ้านายและเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ในเอเจนซีโฆษณาของลานไพลินเชื่อมั่นในตัวเธอ ขณะที่ในบริษัทของธีรเดชก็คงมีคนเข้าใจผิด แต่ลานไพลินถือคติว่า ‘ช่างมันและช่างแม่ง!’ ตอนนี้เธอก้าวออกมาไกลจากอดีตบัดซบนั่นแล้ว
“พี่ขอโทษ พี่แค่ได้ยินมาจากคุณแซมมี่ว่าลินลาออกแล้ว”
หญิงสาวทราบจากเจ้านายเก่าแล้วเช่นกันว่าสโรชินีไปประชุมที่มีเกียรติเบฟเวอร์เรจและเจอธีรเดช เขากลับมาจากเมืองนอกและได้รับตำแหน่งใหม่ในระดับที่สูงขึ้น ทั้งยังมีแผนว่าจะแต่งงานกับอารดาในไม่ช้า สโรชินีเล่าไปก็ด่าอย่างเจ็บแค้นยิ่งกว่าลานไพลินเสียอีก
“พี่เป็นห่วงลินมากนะ ไม่สบายใจเลย ลินลาออกจากที่นั่นเพราะพี่หรือเปล่า”
“ฉันไม่ทิ้งงานและอนาคตของตัวเองเพียงเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่มีค่าอะไรกับฉันหรอกค่ะ” ลานไพลินแค่นยิ้ม
“ลินอย่าประชดสิ” ธีรเดชแย้งอย่างคนหลงตัวเอง
“ฉันไม่ได้ประชด คุณสำคัญตัวผิดไปแล้วนะคะ” หญิงสาวมองเหยียด
“แล้วลินลาออกทำไม”
“พ่อไม่สบาย เพชรไปเรียนต่อเมืองนอก ฉันเลยลาออกมาบริหารสวนแทนทุกคน ก็แค่นั้น” เธอยักไหล่
“คุณพ่อไม่สบายเป็นอะไรครับ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
ธีรเดชผงะ เขาเม้มปากแน่นก่อนพูดเสียงเศร้า “ลินยังโกรธพี่อยู่สินะ รู้มั้ยว่าพี่รู้สึกผิดกับลินมาตลอด ไม่มีวันไหนที่พี่ไม่คิดถึงลิน แต่ลินบล็อกพี่ทุกช่องทางเลย”
“มันก็ถูกแล้วนี่คะ ในเมื่อคนเราไม่ได้คบหากันแล้ว แถมยังเลิกคบกันแบบไม่ดีมากๆ ด้วย แล้วจะต้องมาติดต่อกันอีกทำไม”
“พี่เสียใจนะลิน ตอนนั้นพี่ใจร้ายกับลินเกินไป ถ้าพี่พูดกับลินดีๆ กว่านี้ ลินอาจจะไม่โกรธพี่ถึงขนาดนี้ก็ได้ ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้มีความสุขหรอกนะ พี่เริ่มคิดเหมือนกันว่าอาจตัดสินใจผิดที่เลือกคบเอ”
“นั่นเป็นเรื่องของคุณกับคู่หมั้นค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ถ้าคุณจะมาที่นี่เพียงเพื่อจะพูดเรื่องไร้สาระก็กลับไปเถอะ” ลานไพลินเตรียมจะลุก
“เดี๋ยวครับ!” ธีรเดชเอื้อมมือมารั้งอย่างร้อนรน แต่หญิงสาวหลบทันพร้อมถลึงตาใส่ “พี่ขอโทษ...”
“คุณมีอะไรก็รีบพูดมา ฉันมีแขก” ลานไพลินปรายตาไปทางศิคาล
“เขามาจีบลินเหรอ” ธีรเดชถามเสียงแข็ง
“จีบไม่จีบก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ตกลงว่าคุณพูดจบแล้วนะ เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ” เธอผุดลุก
“เดี๋ยว! พี่...พี่คิดถึงลิน คิดถึงที่สุด อยากมาเห็นหน้า อยากรู้ว่าลินสุขสบายดี แล้วถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้เราเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกัน...”
“ฉันไม่เป็นเพื่อนหรือพี่น้องกับคนที่เคยทำร้ายฉันหรอกค่ะ คุณไปซะเถอะ และอย่ามาที่นี่อีก ถ้าบังเอิญเจอกันก็ไม่ต้องมาทักฉัน ฉันไม่อยากซวยโดนพวกแม่ๆ คุณกับยายคู่แฝดนรกมารุมด่าอีกหรอกนะ”
“พี่ขอโทษแทนทุกคนด้วยนะลิน” ธีรเดชหน้าเสีย
“ต่อให้คุณขอโทษอีกกี่ล้านครั้ง ฉันก็ไม่รับค่ะ ลาก่อนนะคะ หวังว่าเราจะไม่ต้องมาเจอกันอีก”
ลานไพลินก้าวฉับไปหาบิดามารดาและศิคาลที่ยืนรออยู่ เธอหลบตาสถาปนิกหนุ่มเพราะไม่รู้ว่าควรทำสีหน้าอย่างไร เขาไม่ควรต้องมาเห็นเธอในสถานการณ์เช่นนี้
ธีรเดชล่ำลาผู้สูงวัยทั้งสองซึ่งพร้อมใจกันทำหน้าถมึงทึงใส่ ชายหนุ่มเหล่มองศิคาลที่จ้องตอบมาอย่างไม่หวั่นเกรงจนธีรเดชต้องเป็นฝ่ายหลบตา
“โอเคมั้ยไพลิน” ทับทิมโอบกอดบุตรสาว ส่วนโพธิ์ยังคงยืนจังก้ามองคนที่เดินหายไปในความมืด
“โอเคค่ะแม่ ต่อไปนี้เขาคงไม่กล้ามาอีกแล้ว”
เสียงโวยวายของมนุษย์และการเห่ากรรโชกของสุนัขดังมาจากทิศทางที่ธีรเดชเดินจากไป ลานไพลินเพิ่งตระหนักว่าแสนแซ่บกับยิมโนไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย!
ความคิดเห็น |
---|