14
บูรัคหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อทันทีที่ประกบริมฝีปาก ธาราก็บดขยี้ริมฝีปากเขาอย่างดุดัน เร่าร้อน สองมือโอบรัดหลังต้นคอเขาบังคับให้บดเบียดมากยิ่งขึ้น
ธาราตะโบมจูบเขาอย่างบ้าคลั่งราวกับชื่นชอบรสชาติเขาอย่างจริงจัง และเมื่อเขาแหย่ปลายลิ้นเข้าไปในปาก เธอก็ดูดกลืนเลียนแบบท่วงท่าของเขา เธอหัวไว เรียนรู้เร็ว บูรัคนึกชมด้วยความเอ็นดู
เขาอาศัยจังหวะที่เธอตะบี้ตะบันจูบเขา จับน้องชายสอดเข้าไปในกายเธออย่างช้าๆ ไม่ต้องปลุกเร้าอะไรกันมากเพราะเคร่งครัดตั้งแต่คลุกวงในกับเธอแล้ว
ธาราสะดุ้งทันทีที่เขาดันส่วนหัว เธอยกมือยันอกเขา ตาเบิกโพลง
“เจ็บเหรอ” ถามเสียงนุ่ม บูรัคหยุดแช่กายนิ่งๆ
“เหมือนจะปริออกเป็นเสี่ยงๆ”
ใจอ่อนยวบอีกเท่าตัว...
“รัดสะโพกฉันเด็กน้อย” บูรัคบอกด้วยเสียงอ่อนโยน ดึงขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นมาเกี่ยวกระหวัดกับสะโพกตัวเองเป็นการสาธิต
เธอโอบขาอีกข้างเกี่ยวกระหวัดหลังสะโพกเขาอย่างว่าง่าย หน้าแดงซ่านด้วยว่าทำให้ขาแบะกว้าง สัมผัสแก่นกายเขาแนบชิดมากขึ้น แต่บูรัคไม่เปิดโอกาสให้เธอเคอะเขินนานไปกว่านั้น เขาประกบริมฝีปาก แทรกฝ่ามือระหว่างกลางลำตัว บดขยี้ติ่งสวาท อีกมือนวดคลึงอกอวบอิ่ม
“บรูค” เธอครางด้วยชื่อเขา เสียงแหบพร่า สั่นระริก
บูรัคไม่ตอบ เขาบดขยี้ริมฝีปากเธอ ดันส่วนหัวเข้าไปเรื่อยๆ กวาดตามองทั่วใบหน้าสะสวยอย่างสำรวจความรู้สึกไปพร้อมกัน หน้ายุ่ง ตาหรี่ปรือจากความใคร่ที่เขาปรนเปรอ แต่เธอไม่ได้ยกมือผลักอกเขาออกอีก เขาดันท่อนเนื้อเข้าไปเรื่อยๆ กระทั่งสุดลำในที่สุด
“หมดลำแล้วรู้หรือเปล่า” ถามเสียงอ่อนโยน บูรัคยกตัว วางศอกชันข้างศีรษะเธอ อีกมือไล้ผิวแก้มด้วยหลังมือ ผิวเธออ่อนนุ่ม อบอุ่น ชื้นเหงื่อนิดๆ
“คับแน่น เต็มตื้น คุณใหญ่โตมาก”
บูรัคหัวเราะ “เพราะเธอเล็กเกินไปต่างหาก แต่เธอรับฉันได้หมด เราเกิดมาคู่กัน” ทอดจังหวะก่อนถามต่อ “ยังเจ็บมั้ย”
ธาราหน้าแดง “บอกไม่ถูก”
บูรัคเลิกคิ้ว “พยายามสิ”
“คับแน่น เหมือนจะปริออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็เสียว”
ประโยคท้ายแผ่วเบาจนเขาแทบไม่ได้ยิน ธาราขี้อายซึ่งหาได้ยากในสาวยุคนี้ บูรัคหัวเราะแผ่วเบา คิดว่าให้เวลาเธอปรับสภาพร่างกายรับตัวตนเขาพอแล้ว บูรัคก็ยื่นหน้าไปจูบกลีบปากนุ่ม
“ช่วงที่เจ็บสุดผ่านไปแล้ว จากนี้รับความสุขจากฉันเด็กน้อย” บอกพลางขยับโยกอย่างช้าๆ อย่างต้องการให้เธอค่อยๆ ทำความรู้จัก ค่อยๆ คุ้นเคย
เธอเงยหน้ามองเขา ดื่มด่ำไปกับวงหน้าเรียวหล่อเหลา คมคาย ภายนอกเขาดูนิ่งๆ สุขุม แต่ใครเลยจะรู้ว่าเขาซ่อนบุคลิกหลากหลายภายใต้บุคลิกเย็นชาที่ฉาบอยู่ภายนอก
เขาดูไฮเอนด์ ราคาแพง เสื้อผ้า เครื่องประดับทุกชิ้นบนตัวเขา รถ วิลลาล้วนบอกได้ดีถึงรสนิยมของเขา วูบหนึ่งเธอให้กังวล เธอจะเข้ากับเขาได้ไหมในเมื่อเธอง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้หรูหรา แล้วเธอก็รีบปัดความกังวลทิ้งไป
“คิดอะไรอยู่” บูรัคเลิกคิ้วเมื่อจู่ๆ ธาราจ้องเขา
“ไม่มีอะไร” เธอหลับตา โอบหลังต้นคอเขาด้วยแขนทั้งสองข้าง
บูรัคครางในลำคอ รู้สึกดีกับอ้อมแขนเธอที่กอดกระชับรอบตัวเขา กวาดตามองทั่วเรียวหน้าสวยขณะโยกขี่เร็วขึ้น ถี่กระชั้นขึ้น เธอหน้าเหยเก ริมฝีปากเม้มแน่น อาจเจ็บ แต่ยามนั้นเขาไม่อาจสะกดกลั้นความเสียวซ่านได้อีกต่อไป ความใคร่ความปรารถนาที่เก็บกดมานานหลั่งไหลปานทำนบพัง
เขาต้องการเธอมากเกินไปและเก็บกดนานเกินไป บูรัคนึกขอโทษอยู่ในใจ บอกตัวเองว่าเอาไว้น้ำสองเขาค่อยแก้มือ บูรัคยันตัวขึ้นนั่ง จับขาเรียวพาดแขน อัดสะโพกกระแทกกายนุ่ม
เขาโยกขี่เร็วขึ้น กระชั้นขึ้น ความปรารถนาที่เก็บกดมานานถาโถมใส่เธอไม่ยั้ง เสียงกรีดร้องดังจากธาราไม่ขาดระยะ แต่ยามนั้นราวกับเขาหน้ามืดไปแล้ว เขากระหน่ำจ้วงแทงอย่างไม่บันยะบันยัง คลื่นกำหนัดถาโถมใส่ธาราครั้งแล้วครั้งเล่า ระลอกแล้วระลอกเล่าปานทะเลที่เผชิญคลื่นลมในวันที่เจอพายุอันบ้าคลั่ง ทะเลที่ม้วนตัวเป็นเกลียวสูงก่อนถาโถมสาดซัดกระแทกชายฝั่ง สะโพกแกร่งสั่นระริกเกินต้านเมื่อกายนุ่มบีบและตอดรัดเขารุนแรง
ธาราครางกระเส่า สะโพกกระตุกเกร็งอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณถึงจุดไคลแมกซ์
เขาสาวน้องชายเข้าออกรัวเร็ว จ้วงแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัย สะโพกกระตุกเกร็งตามเธอไปติดๆ เขาประคองน้องชายออกมานอกปากถ้ำ สายธารแห่งรักมากมายฉีดพุ่งใส่หน้าท้องแบนราบปะปนกับสีแดงฉานของหยดเลือด
บูรัคลุกไปหยิบทิชชู หยดเลือดผสมน้ำรักของเขาเปรอะทั่วหน้าท้อง พุ่งไปถึงสะดือ เขาเช็ดทำความสะอาดเงียบๆ กิริยาเป็นไปอย่างอ่อนโยน พรุ่งนี้เธออาจระบมหรือไม่ก็ตื่นไปทำงานไม่ไหว เขาทอดกายนอนเคียงข้าง คว้าร่างบางเข้ามากอด เธอเกยขึ้นมาบนตัวเขา วาดแขนโอบหลังต้นคอ ใบหน้าซุกซอกคอ
“เป็นไงบ้าง” ถามพลางยื่นหน้าไปจูบขมับที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ มือข้างหนึ่งลูบแผ่นหลังขึ้นลง อีกข้างไล้อกอวบอิ่มที่ล้นออกข้างจากท่านอน
เขารู้สึกดีกับน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงมาบนตัวเขาทั้งตัว เนื้อตัวแนบชิดกันทุกส่วนสัด ให้ความรู้สึกเธอเชื่อใจและไว้ใจเขา
“ไม่บอก”
บูรัคชะงัก ก่อนหัวเราะกับคำตอบที่เหนือความคาดหมายนั้น
“ไม่บอกแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าต้องดูแลเธอยังไงบ้าง เจ็บไหม ระบมไหม อยากได้ยาไหม”
“คุณมียาเหรอ”
“มี อยู่ในรถ”
เธอเงยหน้า ตวัดตามอง “นี่แสดงว่าคุณวางแผนมาแต่ต้นยังงั้นใช่ไหม”
บูรัคหัวเราะ แววตาไม่อนาทร
“เขาเรียกว่าเตรียมการต่างหาก แล้วเธอก็ทำให้ฉันเสียเชิงชายมาแล้วรอบหนึ่ง ถ้าต้องปล่อยเธอไปอีกรอบ เธอคิดว่าศักดิ์ศรีฉันจะเหลือเหรอ”
“สรุปว่าเป็นแค่เรื่องของศักดิ์ศรี คุณแค่อยากเอาชนะฉันยังงั้นใช่ไหม”
“ไม่” เขารีบปฏิเสธ มือลูบแผ่นหลังหนักขึ้นอย่างปลอบประโลม น้ำเสียงธาราขุ่นอย่างฟังออกชัด “เสียศักดิ์ศรีก็เรื่องหนึ่ง แต่มากกว่านั้นคือฉันชอบเธอจริงๆ อยากขึ้นเตียงกับเธอ เธอรู้สึกอย่างไรกับครั้งแรกของเราฉันไม่รู้ แต่สำหรับฉันมีความสุขมาก และมากกว่านั้นคือรู้สึกดีมากๆ ที่ได้เป็นคนแรกของเธอ ทั้งสุขใจ ปลื้ม อิ่มเอมใจ และประทับใจมาก ไม่คิดว่ายังมีผู้หญิงแบบเธออยู่ในโลกนี้ ผู้หญิงที่รักษาเวอร์จินมาได้จนถึงยี่สิบสี่ปี”
เธอตวัดตาค้อน “ฉันอยากให้ครั้งแรกกับคนที่ฉันรัก”
“แปลว่าเธอรักฉันแล้ว”
“โนย่ะ ไวเกินไป”
“เสียใจนะนั่น แต่ไม่เป็นไร นอนด้วยกันทุกคืนเธอก็รักฉันเอง”
เธอตวัดตาค้อน
“คืนนี้ค้างที่นี่ด้วยกันนะ”
“ฉันไม่มีเสื้อผ้า ที่มีคุณก็ฉีกทิ้งหมดแล้ว”
บูรัคหัวเราะ ทำทีไม่สนใจกับน้ำเสียงเหน็บแนมในตอนท้าย ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันมีชุดใหม่ให้เธอ ฉันเตรียมมาให้แล้ว”
“พลั่ก” เธอทุบอกเขา “คุณวางแผนทุกอย่างมาแล้วจริงๆ”
บูรัคหน้ามุ่ย ลูบอกไปมา “ทำไมถึงชอบใช้กำลังนัก เป็นพวกซาดิสม์หรือไง”
“ก็คุณมันเจ้าเล่ห์ วางแผนทุกอย่าง”
“เธอต้องยอมรับ เธอเจ้าเล่ห์กับฉันก่อน เป็นผู้หญิงที่เหลี่ยมจัด เพราะงั้นถ้าได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันกลับไปก็อย่าได้แปลกใจ”
เธอเงื้อหมัดซัดเขาไปอีกเปรี้ยง
บูรัคลูบปลายคาง “ฉันพูดจริง ถ้าพรุ่งนี้หน้าฉันเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ใครถามฉันจะบอกตรงๆ ว่าฝีมือเธอ เอาให้ทุกคนรู้ไปเลยว่าเรามีค่ำคืนที่ดุเดือดเผ็ดมันกันแค่ไหน”
เธอเหวี่ยงกำปั้นจะซัดอีกรอบ แต่คราวนี้เขารู้แกว จึงคว้าไว้ได้อย่างง่ายดาย บูรัคยกกำปั้นคลี่ออก จูบหลังมือ
“ว่าไง ค้างมั้ย”
“คุณซื้อวิลลาหลังนี้ก็ด้วยเหตุผลนี้ใช่ไหม ไว้พาฉันมาเชือด” ธาราตอบไปอีกทาง
“หาความ บอกไปแล้วตั้งใจซื้อให้อยู่จริงๆ พี่ชายเธอจะย้ายกลับไทยพร้อมดาด้า เธอคิดหรือยังจะอยู่ยังไง จะอาศัยอะพาร์ตเมนต์พี่ชายไปตลอดชีวิตยังงั้นเหรอ ไม่คิดขยับขยายออกมาอยู่ในที่ทางของตัวเองบ้างเหรอ”
ธาราอึ้ง ตอบไม่ได้ก็เลยซุกซอกคอเขาตามเดิม
“ว่าไง” เขาลูบแผ่นหลังขึ้นลง “ค้างที่นี่กับฉันเถอะนะ”
“ก็ได้ แต่ห้ามมีอะไรกันนะ”
บูรัคหัวเราะ “ห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้ขึ้นยังง่ายกว่ามั้ย”
เธอตวัดตาค้อน แววตาขุ่น
ตอนที่เสียงโทรศัพท์กรีดดังระรัว เธอกำลังหลับสบาย ธาราเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงมากดรับ
“ธาร”
“พี่เหรอคะ” น้ำเสียงยังคงงัวเงีย
“อยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน นี่เลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ”
เธอเบนโทรศัพท์มือถือ สไลด์หน้าจอเพื่อดูเวลา เป็นเวลาทุ่มกว่าๆ
“คืนนี้หนูไม่กลับบ้านนะคะ”
“ทำไมล่ะ”
“หนูเอ่อ...มีงานค้างที่บริษัท เลยว่าจะเร่งทำให้เสร็จ” รู้สึกผิดเพราะไม่เคยโกหกพี่ชายมาก่อน
“เร่งทำมาสเตอร์บอลนั่นใช่ไหม”
รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกเมื่อพี่ชายเข้าใจไปในทางนั้น แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับสมอ้าง
“ค่ะ”
“เข้าใจละ ยังไงก็อย่าลืมกินข้าว พักผ่อนนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ธรณ์วางสายไปแล้ว เธอจึงลุกจากเตียง ข้างกายเธอวางเปล่าปราศจากบูรัค แต่รอยผ้าปูยับยู่ยี่และเนื้อตัวที่ระบมก็เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ความฝัน เธอลุกจากเตียง เจอชุดคลุมอาบน้ำ ชุดนอน เดรสชุดใหม่ ยกทรงและกางเกงใน พับเรียบร้อยวางอยู่บนปลายเตียง มีกระดาษแผ่นเล็กๆ วางอยู่บนสุด
‘ตื่นแล้วลงไปที่ครัวนะ...’
เธอวางแผ่นกระดาษลง ยกเสื้อผ้าทุกชิ้นที่เขาเตรียมไว้ให้ขึ้นมาดู ชุดนอนเข้ากับนิยามชุดนอนไม่ได้นอนเพราะโคตรจะเซ็กซี่ แทบไม่ปิดบังเนื้อตัวส่วนไหน ส่วนเดรสพอดีตัว ดีไซน์น่ารัก การตัดเย็บประณีต ดูก็รู้ว่าราคาแพงระยับ
เธอหน้าแดงซ่านเมื่อหยิบยกทรงกับกางเกงในขึ้นดู เขากะไซซ์ได้ถูก ยกทรงเป็นไซซ์ที่เธอใช้อยู่ ลวดลายน่ารัก ส่วนกางเกงในที่เขาเตรียมไว้ให้เป็นแบบจีสตริง เธอคว้าชุดคลุมตรงเข้าห้องน้ำ
ห้องครัวหาไม่ยากนัก เพราะเดินขึ้นมาจากห้องใต้ดินก็ได้กลิ่นหอมของออมเล็ต ธาราเดินตามกลิ่น ผ่านห้องต่างๆ ก็สำรวจตรวจตราไปด้วย ห้องต่างๆ ติดตั้งบิลต์อินเสร็จแล้วเป็นส่วนใหญ่ ขาดก็เพียงเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน แต่ละห้องกว้างขวาง
ห้องครัวอยู่ที่ชั้นหนึ่ง อยู่ลึกเข้าไปจากห้องรับประทานอาหารและห้องแพนทรี ขนาดกว้างขวางพอๆ กับห้องอื่นๆ บูรัคกำลังวุ่นวายอยู่หน้าเตาไฟฟ้า เขาหันหลังให้เธอ สวมผ้ากันเปื้อน คาดเชือกอยู่ด้านหลัง
เธอทรุดตัวนั่งที่เคาน์เตอร์ใหญ่กลางห้อง ปลดองุ่นจากขั้วที่อยู่ในจานขึ้นมากินเงียบๆ พลางจ้องเขา
บูรัคตักออมเล็ตใส่จาน หันหลังจะมาวางที่เคาน์เตอร์ เจอธารา เขาก็เลิกคิ้ว
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” วางจาน ชะโงกหน้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ “หอมจัง”
เธอหน้าแดงซ่าน จะหลบแต่ไม่ทัน เพราะเขาถอยกลับไปยืดตัวตรงแล้ว
“เมื่อกี้นี้แหละ” อุบอิบตอบ
บูรัคกวาดตามองวงหน้าเรียวที่บัดนี้ชื้นจากการอาบน้ำหมาดๆ วงหน้าเรียวผุดผาดเกลี้ยงเกลาล้อมรอบด้วยผมยาวสลวยที่มัดรวบเป็นมวยสูง ผิวเธอเนียนใสจนเห็นเลือดฝาดและมีรอยแดงระเรื่อบริเวณแก้ม ริมฝีปากบวมเจ่อจากการโดนเขาตะโบมจูบมาอย่างหนัก มุมปากห้อเลือดนิดๆ
เธอบอบบาง เซ็กซี่... เขามองอย่างชื่นชมแกมหลงใหล
“ทำไมไม่ถอดเสื้อคลุม ไม่ชื้นเหรอ” ถามพลางมองชุดคลุมที่อยู่บนตัวเธอด้วยสายตาซอกแซก เขาอยากรู้ว่าเธอเปลือยหรือสวมอะไรอยู่ข้างใน
“ไม่ชื้น”
บูรัคเลิกคิ้วเมื่อแม่ตัวแสบดูจะเป็นสาวไม่ช่างพูดไปแล้ว
“หิวหรือยัง ยังเหลือสเต๊กกับสลัด”
“ไม่ค่ะ เอ่อ...จะให้ฉันช่วยอะไรมั้ย”
“ไม่ต้อง ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว”
ธาราเลยปลดองุ่นมากินเงียบๆ ต่อ บูรัคยังคงกวาดตามอง ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เจ็บระบมตรงไหนหรือเปล่า อยากได้ยามั้ย”
“ไม่ค่ะ แค่ เอ่อ...ระบม เดินขัดๆ แต่ไม่ต้องพึ่งยา”
“เธอแข็งแรงมากรู้มั้ย ผู้หญิงบางคนนอนซมไปแล้ว”
เธอหน้าแดง ไม่ต่อความยาว บูรัคเห็นธาราไม่ตอบ ก็เลยหันหลัง เตรียมทำอาหารต่อ
“พี่ธรณ์โทร. มา”
บูรัคชะงักเมื่อจู่ๆ เธอโพล่งด้วยประโยคนั้น เขาหันหลังกลับมา
“พี่เธอว่าไงบ้าง รู้ไหมว่าเธอค้างกับฉัน”
“ไม่ ฉันบอกไปว่าต้องค้างที่บริษัทเพราะงานไม่เสร็จ”
บูรัคทรุดตัวนั่งข้างๆ รวบธารามาเกยตัก เธอดิ้นขัดขืนจะผุดลุก
“จุ๊ๆ” เขากอดเธอแน่น สองมือโอบประสานใต้ราวนม คางเกยบ่าบอบบาง กล่าวว่า “เธอบอกพี่ชายไปตรงๆ ได้ว่าเราคบกัน ฉันไม่คิดปิดบังความสัมพันธ์ของเรากับใครๆ อยู่แล้ว อีกอย่างถ้าพี่ชายเธอรู้ว่าเราคบกัน ต่อไปเธอหายไปไม่กลับบ้าน เขาจะได้ไม่กังวล”
ความคิดเห็น |
---|