5

ตอนที่ 5

5

 

“เป็นอะไรหน้ามุ่ยเชียว” ธรณ์ถามพลางมองน้องสาวที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอ่านแฟ้มงาน ตรงหน้ามีเอกสารกองโต เธอกำลังกัดแท่งช็อกโกแลตไปพลางขณะอ่านเอกสาร

“ไม่รู้เป็นไง ช่วงนี้เหมือนโดนลงโทษยังไงก็ไม่รู้” ธาราตอบกึ่งเปรย

“ทำไมล่ะ” เขาทรุดตัวนั่งฝั่งตรงข้าม ถามอย่างสนใจ บริเวณที่พวกเขานั่งคือระเบียงอะพาร์ตเมนต์ วันหยุดยามเช้าของฤดูนี้อากาศกำลังดี ถึงฤดูร้อนจะร้อนจัด แต่ด้วยเป็นยามเช้าและอะพาร์ตเมนต์เขาก็อยู่ทางทิศเหนือ อากาศจึงอุ่นสบาย

“ก็จู่ๆ ผู้จัดการแจ้งให้เอาสินค้าไปเทสต์ใหม่ บอกว่าผลวิจัยที่หนูส่งไปยังไม่เวิร์ก อยากให้เพิ่มความรู้สึกของ...” เธอชะงัก หยุดอธิบายแค่นั้น 

ถึงพี่ชายเธอจะได้ชื่อว่าที่ลูกเขยของเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แต่บางเรื่องก็ไม่ควรเล่าเพราะเป็นความลับของบริษัท และสินค้าตัวใหม่ล่าสุดที่เธอกำลังร่วมผลิตและออกแบบกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ก็เป็นความลับสุดยอดของบริษัท จะเปิดเผยได้ก็ต่อเมื่อมีการแถลงข่าวออกสื่อแล้วเท่านั้น

ธรณ์อ่านความคิดของน้องสาวออก เขาเลิกคิ้ว ถามไปอีกทาง 

“แล้วทำไมถึงรู้สึกว่าถูกลงโทษล่ะ”

“ก็คำสั่งที่ออกมา โดยนัยมันไม่ต่างจากรื้อผลการวิจัยของหนูทั้งหมดน่ะสิ”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ” 

“หนูก็ไม่รู้ จู่ๆ เมื่อเช้าผู้จัดการก็เรียกหนูไปคุย ขอให้เพิ่มฟังก์ชันการทำงาน ความหมายโดยนัยก็คือต้องการให้ทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่” เธอนึกถึงรายงานสรุปผลการทดลองออฟติมัม พาวเวอร์  มาสเตอร์บอล ที่ส่งไปให้หัวหน้าแผนกปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์เมื่อวานซืน 

ผลสรุปจากการทดสอบกับเทสเตอร์หนุ่มทุกช่วงวัย ทั้งวัยรุ่น วัยหนุ่ม และวัยชรา และกับทุกสถานะทางสังคมทั้งร่ำรวย ปานกลาง และยากจน ตลอดจนหนุ่มทั้งสามประเภท ได้แก่ ประเภทที่คลั่งไคล้เรื่องเพศ ประเภทที่เย็นชาไม่สนใจ เอาแต่บ้างาน และประเภทที่หยิ่งยโสไม่พิสมัยกับการใช้ของเล่นพวกนี้ 

พบว่ามันสามารถกระตุ้นเร้าอารมณ์ทางเพศได้ดีในทุกกลุ่ม ช่วยเพิ่มบรรยากาศความแปลกใหม่ แต่ไม่เหมาะกับคนที่แอนตีหรือมีอคติกับของเล่นประเภทนี้ เพราะเมื่อควบคุมความรู้สึกด้านลบไม่ได้ ยิ่งใช้ก็จะยิ่งรู้สึกต่อต้าน

เธอนึกถึงอารมณ์คลุ้มคลั่งของหนุ่มนิรนามไฮเอนด์ที่เธอเพิ่งทดสอบไปเมื่อสองวันก่อน ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้จักชื่อเขา เลยแอบตั้งชื่อให้ว่าหนุ่มนิรนามไฮเอนด์ ก็เขาดูหยิ่งยโส ถือดี อวดดี และอีโก้จัด มีอย่างที่ไหนไม่รู้จักกัน แต่กล้าหยิบยื่นข้อเสนอให้หลับนอนด้วยโดยแลกกับทรัพย์สินเงินทอง แถมตลอดหนึ่งเดือนนั้นเป็นความสัมพันธ์ลับๆ ไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ด้วย เธอแค่ชก ไม่หาอะไรทุ่มใส่หน้าก็บุญเท่าไหร่แล้ว

“แล้วเขาขยายเวลาให้ไหม”

“แค่อาทิตย์เดียว แทบไม่มีความหมาย” เธอหมายถึงขั้นตอนการทดสอบที่ได้รับการขยายเวลาออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์ แต่นั่นหลังจากที่แผนกปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์หรือห้องแล็บได้เพิ่มฟังก์ชันการทำงานตามที่ผู้จัดการแจ้งแล้ว นักวิทยาศาสตร์ในห้องแล็บต้องคิดค้นก่อนแล้วจึงส่งต่อมายังแผนกวิจัยซึ่งเธออยู่ร่วมทั้งสองทีมนั้น

“เราเลยรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกลงโทษยังงั้นสิ”

“ประมาณนั้นแหละค่ะ” ธาราผ่อนลมหายใจ เปลี่ยนเรื่องพูด “ว่าแต่วันหยุดอากาศดีๆ แบบนี้พี่ไม่ออกไปไหนกับพี่ดาด้าหรือคะ”

“จะออกไปเที่ยงๆ นี่แหละ แต่กำลังดูว่าเราจะมีอะไรกินมั้ย เลยว่าจะเข้าครัวทำอะไรให้กินก่อนพี่จะออกไป”

“ไม่ต้องเลยค่ะ พี่ไปเลยไม่ต้องห่วงหนู เดี๋ยวหนูฝากท้องกับร้าน...ก็ได้” ธาราหมายถึงภัตตาคารใกล้ๆ ละแวกนี้ซึ่งเป็นทั้งภัตตาคารและคาเฟ่ สามารถนั่งรับประทานหรือเทกเอาต์ก็ได้ 

“เอางั้นเหรอ” ธรณ์ทำหน้าลังเล 

“เอางั้นแหละ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกด้วย เผื่อสมองจะได้แล่น”

ธรณ์พยักหน้า วกกลับไปเรื่องเดิมอย่างคาใจ “พี่ว่าช่วงนี้ที่งานธารวุ่นๆ เพราะต้องเปลี่ยนตัวซีอีโอด้วยแหละ”

“เปลี่ยนตัว? พี่หมายถึงเปลี่ยนตัวพี่ดาด้าหรือคะ”

“ใช่สิยายบ๊อง พี่ดาด้าต้องตามพี่ไปตั้งรกรากอยู่เมืองไทย เราคิดว่าเธอจะแยกร่างมาคุมซินฟูลได้งั้นเหรอ” เขาถามน้องสาวอย่างขำๆ 

เขามาเรียนที่ตะวันตกก็เพื่อเอาความรู้วิทยาการจากฟากนี้ไปต่อยอดขยายกิจการของครอบครัวที่เมืองไทย เขาผัดผ่อนคนเป็นพ่อมานานหลายปี เพราะอยากอยู่กับแฟนที่พบรักกันที่อเมริกา ก็เลยหาเหตุมาเรียนต่อปริญญาโทใบที่สอง ตามด้วยปริญญาเอก แต่ตอนนี้หมดทุกข้ออ้างแล้ว เลยต้องบินกลับไทย 

“งั้นใครจะมารับไม้ต่อจากพี่ดาด้าคะ” เธอถามอย่างไม่สบายใจ 

ถึงจะไม่รู้จักพวกพี่ๆ ของลินดาว่าเป็นใครกันบ้าง เพราะต่างคนต่างอยู่ ที่ผ่านมาต่างมีธุรกิจให้ต้องแยกย้ายกันไปคุม แทบจะเรียกว่าคนละทวีป จึงไม่ค่อยไปมาหาสู่กันนัก แต่ก็พอรู้ว่าพี่ๆ ลินดาล้วนเป็นผู้ชายทั้งหมด ฉะนั้นเธอไม่มั่นใจว่าจะเข้ากับพี่ของลินดาคนที่จะมาคุมซินฟูลได้ไหม ไม่มั่นใจเลยว่าจะเข้าหาได้อย่างสนิทใจเหมือนกับลินดาซึ่งใจดีทำตัวไม่ต่างจากพี่สาวแท้ๆ 

“ดูเหมือนจะได้แล้วนะ ตอนแรกดาด้าบอกว่าเขายังแบ่งรับแบ่งสู้ ยังสองจิตสองใจ แต่เมื่อคืนเห็นว่าตอนกินมื้อค่ำกับครอบครัว เขาตอบตกลงกับพ่อแม่ไปแล้วว่าจะรับช่วงดูแลซินฟูลต่อ”

“เขาคนนั้นใครคะ” 

“บูรัค”

“บูรัค?” เธอทวนคำ เพราะไม่คุ้นหู

ธรณ์พยักหน้า “ใช่บูรัค พี่ชายคนที่สองของดาด้า” 

เขานึกถึงเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ หล่อเหลา ผู้เป็นพี่ชายคนที่สองของลินดา เขาเคยพบปะอยู่บ้างสี่ห้าครั้งที่วิลลาของพ่อแม่เธอและตามงานกาล่าอีกครั้งสองครั้ง เพราะอยู่คนละสายงานจึงไม่ค่อยมาบรรจบกันนัก แล้วธรณ์ก็เล่าต่อ 

“เขาใช้ชีวิตที่สหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ เรียนไฮสกูลกับมหา’ลัยที่นั่น จบโทสองใบก็ที่นั่น ดาด้าเล่าให้ฟังว่าเขาไม่ค่อยกลับบ้าน ยิ่งตอนนี้กิจการอสังหาริมทรัพย์รุ่งเรือง กำลังจะขยายสาขาไปอีกหลายรัฐในสหรัฐฯ ก็เลยยิ่งไม่ค่อยมีเวลาบินกลับมา”

“แล้วแบบนี้เขาจะมีเวลามาคุมซินฟูลหรือคะ”

“เขาก็ให้เหตุผลนั้นกับลูคัส ไดอาน่าในตอนแรก แต่ทำไปทำมาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนใจมาตอบตกลง ดาด้าบอกว่าก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับดาด้ากับพี่ ดาด้าจะได้เลิกกังวล แถมบอกว่าวันจันทร์นี้บูรัคจะเรียกประชุมผู้บริหารเซ็กซ์ทอยทั้งหมดด้วย ฟิตจัดมาก เอาละ...พี่ต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวแล้วละไม่อยากออกจากบ้านสายเดี๋ยวแดดจัด พี่ไปก่อนนะ อยู่บ้านใช้วันหยุดให้สนุกล่ะ” ธรณ์ชะโงกหน้าไปจูบหน้าผากน้องสาว 

ธาราพยักหน้ารับอย่างหงอยๆ เธอนิ่งคิดอย่างตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกสังหรณ์ใจและกังวลใจแปลกๆ อย่างหาคำตอบไม่ได้

 

ธาราแหงนหน้าสูดอากาศบริสุทธิ์ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงขาสามส่วนขณะเดินทอดน่องไปตามฟุตพาทในท่วงท่าสบายๆ หูก็ฟังเพลงสากลจากบลูทูท เธอชอบประเทศนี้ ถึงอากาศจะแตกต่างกันสุดขั้วระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาว แต่ผู้คนก็เป็นมิตร 

ไม่...อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นมิตรสักทีเดียวเมื่อเทียบกับประเทศเกิดของแม่ แต่อย่างน้อยผู้คนก็ไม่สอดรู้สอดเห็นซึ่งเธอพอใจอย่างมาก แถมอาหารอร่อยและย่านที่เธออยู่ก็ปลอดอาชญากรรม อาจเพราะเธออยู่ในย่านผู้มีอันจะกิน พี่ชายเธอซื้ออะพาร์ตเมนต์ในย่านนี้ด้วยเงินหลายสิบล้านเรียล

เสียงกริ่งโมไบล์ดังขึ้นเมื่อเธอผลักประตูเข้าไป เธอเลือกรับประทานสลัดกับสเต๊กเนื้อเป็นอาหารมื้อเช้า พนักงานเสิร์ฟรับไปชั่งน้ำหนักอาหาร ภัตตาคารแห่งนี้ไม่ได้อร่อยมากนัก อาหารก็พื้นๆ แต่อาศัยบรรยากาศดี การตกแต่งร้านน่ารักสไตล์วินเทจ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ฉะนั้นถึงจะแพงหูฉี่ เธอก็ยังใช้บริการ

“ทานที่นี่หรือเทกเอาต์คะ”

“ที่นี่ค่ะ” เธอยื่นบัตรเครดิตให้แคชเชียร์รูดเงินชำระ แล้วถือถาดอาหารพร้อมเครื่องดื่มไปเลือกนั่งที่ระเบียงมุมหนึ่งซึ่งไกลจากผู้คน  ระหว่างรับประทานก็สไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถืออ่านข่าวสารวิทยาการไปด้วย เธอชอบข่าวไอทีมากกว่าข่าวการเมืองหรือบันเทิง... 

“เซอร์ไพรส์นะเนี่ยคุณจะเริ่มงานตั้งแต่วันจันทร์เลย ว่าแต่ทำไมไม่บอกฉันล่ะคะว่าจะมาคุมซินฟูล”

“ผมบอกอยู่นี่ไง ดาด้าต้องย้ายตามว่าที่สามีไปอยู่ไทย ผมก็เลยต้องไปคุมแทน”

“แบบนี้คุณหาวิลลาที่นี่สักหลังดีไหมคะ ฉันจะได้ไปมาหาสู่ได้สะดวกด้วย ไม่ต้องเก้อกระดากไปหาคุณที่วิลลาพ่อแม่อยู่บ่อยๆ”

“ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”

“คิดตอนนี้เลยเถอะ ซื้อทิ้งไว้ที่นี่สักหลัง ยังไงซะต่อไปคุณก็ต้องบินไปมาระหว่างที่นี่กับอเมริกาอยู่แล้ว”

“เอาไว้ผมจะลองคิดดู”

“เอางี้ไหมคะ ฉันจะหาให้”

“ไม่ต้อง ถ้าผมต้องการเดี๋ยวผมให้เลขาฯ จัดการเอง”

“แหม...คุณทำฉันน้อยใจนะนั่น เห็นฉันเป็นคนอื่นคนไกล”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก อย่าคิดมาก”

เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นเรื่อยๆ แทรกบรรยากาศที่ลูกค้าต่างนั่งพูดคุยกันเบาๆ เรียกความสนใจจากธาราได้ในที่สุด แรกๆ ไม่ได้สนใจเพราะจมอยู่กับข่าวสาร กระทั่งเสียงคุ้นหูดังขึ้น บวกกับชื่อลินดาและชื่อบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ เลยอดเอี้ยวตัวไปมองด้วยความสนใจไม่ได้ 

ชะงักเมื่อเห็นเอมม่าหัวหน้าแผนกผลิตถุงยางมากับผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นแค่แผ่นหลัง ไม่ได้แปลกใจที่เห็นเอมม่า ที่แปลกใจคือเจ้าของแผ่นหลังกว้างใหญ่นั่นต่างหากเพราะดูคุ้นตา แถมบทสนทนาก็ดูใกล้ตัวเหลือเกิน แล้วเธอก็ชะงักเมื่อจังหวะที่เขารับถาดอาหารมาจากเคาน์เตอร์ แล้วเหลียวหลังมองรอบตัวเพื่อหาโต๊ะนั่ง เธอรีบหันหลังกลับ ตัวชาวาบ

นรก...ใช่จริงๆ ด้วยคนที่มากับเอมม่าคือหนุ่มนิรนามไฮเอนด์คนนั้น ว่าแต่เขาคือคนที่จะมาคุมซินฟูลคนต่อไปน่ะเหรอ ธรณ์บอกว่าคนที่จะมาคุมซินฟูลคือพี่ชายคนที่สองของลินดาชื่อว่าบูรัค 

งั้นแปลว่าชายคนที่เธอขืนใจให้ทดสอบเซ็กซ์ทอยตัวล่าสุด นั่นก็คือบูรัคว่าที่ซีอีโอคนต่อไปของซินฟูล หรืออีกนัยหนึ่งลูกชายของเจ้าของบริษัทซินฟูล?

บรรลัยละ...

ถึงว่าตลอดเวลาที่เจอกันทั้งสองครั้งผู้ชายคนนั้นรู้ที่รู้ทางของบริษัท สามารถลากเธอไปไหนๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว แถมพนักงานก็ยังโน้มตัวคำนับ แรกๆ เธอยังเอะใจว่าเคารพเธอทำไม รู้จักมาร้อยวันพันปีเพิ่งจะมาโค้งคำนับกัน ที่ไหนได้...

ก็ใครเลยจะคิดว่าโลกมันจะกลมและคนมันจะดวงซวยได้ขนาดนี้?

“นั่งไหนดี” 

เสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“ตรงนั้นดีไหมคะ”

“อย่าเลย ไกลคนหน่อยเถอะ ผมอยากได้บรรยากาศโล่งๆ จะได้หายใจได้คล่องหน่อย”

อย่านะๆ...อย่ามาทางนี้นะ ธารานึกภาวนาอยู่ในใจ 

“นั่งนั่นเถอะ มีคนนั่งแค่โต๊ะเดียว”

ธาราหลุบตาต่ำเมื่อคำภาวนาของเธอไม่เป็นผล มือกดปีกหมวกแก๊ปที่สวมอยู่ให้ลงต่ำไปอีก เสียงครูดเก้าอี้ซึ่งเป็นสัญญาณของคนเลื่อนเก้าอี้ดังขึ้น 

มันดังอยู่ใกล้ๆ นี่เอง...ข้างหลังเธอ

 

“วันเกิดแม่คุณฉันไปร่วมงานด้วยได้ไหมคะ” เอมม่าถามเสียงอ่อนๆ เมื่อต่างทรุดตัวนั่งเรียบร้อยแล้ว ทว่าบูรัคไม่ได้สนใจ กลับให้ความสนใจอย่างอื่น เธอเหลียวมองตามสายตาเขา

บูรัคกำลังจ้องแผ่นหลังบอบบางของสาวที่นั่งห่างออกไปไม่ถึงสองก้าว เธอรวบผมหางม้า มีหมวกแก๊ปปิดอยู่ ปลายหางม้านุ่มสลวยโผล่พ้นช่องว่างของหมวก แลเห็นหลังต้นคอบอบบาง 

เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แสงแดดทะลุผ่านแลเห็นเงารางๆ ของเส้นเว้าของช่วงเอว ให้ความรู้สึกละมุนและคุ้นตาด้วยเตือนใจให้นึกถึงสาวแสบตัวแม่ที่เขายอมเป็นหนูทดลองให้เพื่อหวังแลกกับการได้พาขึ้นเตียง แต่กลายเป็นเขาเองที่เสียรู้ เขาถูกล่ามกุญแจมือผูกติดกับโซ่ แถมด้วยอุปกรณ์ล็อกขา มิหนำซ้ำหลังเธอถ่ายคลิปเก็บข้อมูลสมใจแล้ว ก็แต่งตัวเฉิดฉายออกไปเฉย เธอไม่ยอมปล่อยเขาแต่กลับตามคนอื่นให้มาปลดพันธนาการแทน เขายังแค้นไม่หาย 

“บรูค? มีอะไรหรือเปล่าคะ” เอมม่ามองชายที่ตัวเองพึงใจสลับกับสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้า ถึงจะนั่งเอียงข้างมาทางเธอ แต่เธอก็เห็นหน้าไม่ชัด เพราะเจ้าตัวก้มหน้า แถมเอามือบังปีกหมวกที่หลุบต่ำ แต่ก็ดูคุ้นๆ 

บูรัคยังคงเพ่งพินิจ ไม่ตอบ

“คุณรู้จักเธอหรือคะ” เธอถามย้ำ

“เหมือนจะนะ”

คำตอบกำกวม ยิ่งทำให้เธอฉงน จังหวะนั้นคนที่ตกเป็นเป้าสายตาก็ขยับลุก เดินถือถาดที่อาหารแทบไม่พร่องออกจากบริเวณนั้น

“เดี๋ยว ธาราหรือเปล่า” เอมม่าทัก

ขาที่กำลังจะก้าวออกเดินเลยต้องชะงักกึกอยู่ตรงนั้น 

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณเอมม่า” เธอทักโดยไม่เหลียวหลังไปมอง ต่างคุ้นหน้าคุ้นตาด้วยทำงานสายงานเดียวกัน จึงต่างเรียกชื่อกันอย่างสนิทสนม

“คุณรู้จักธาราด้วยหรือ” บูรัคถามอย่างประหลาดใจ

เอมม่าเลิกคิ้วเมื่อเขาเรียกธาราด้วยน้ำเสียงสนิทสนม 

“สำหรับฉันไม่น่าประหลาดใจหรอกเพราะเราทำงานที่เดียวกัน แต่คุณสิ...คุณหายไปจากเมืองนี้นานนม เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน แต่กลับรู้จักเธอ แถมเรียกขานเธออย่างสนิทสนม คุณรู้จักกับธาราได้ไงคะ” น้ำเสียงแฝงความริษยาปิดไม่มิด

บูรัคไม่ตอบในทันที แต่เลือกที่จะเดินไปยืนขวางทางธารา เขาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ยกมือกอดอก เมื่อเธอไม่มาหา เขาก็ต้องเป็นฝ่ายมาแทน

“สวัสดียามเช้าธารา” น้ำเสียงนุ่มนวล สีหน้านิ่งๆ พลางกวาดตามองตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า หยุดอ้อยอิ่งนานเป็นพิเศษที่อกอวบอิ่มหลังแถบเกาะอก

“หวัดดีค่ะ” ธาราทักตอบเสียงร่าเริง สะกดใจที่จะไม่เอาถาดในมือฟาดศีรษะเขา เธอเกลียดที่เขาใช้สายตาหยาบโลนมองหน้าอกอย่างจงใจ 

แล้วเหตุการณ์ที่เขาดูดหน้าอกก็หวนกลับมาในความทรงจำพานให้เดือดดาล เธอไม่เคยเปลือยกายต่อหน้าเพศตรงข้าม อย่าว่าแต่ถูกดูดหน้าอก งานที่ใจรักตัวเดียวทำให้เธอพลาดจนตกเป็นเบี้ยล่างให้เขาโขกสับได้ตามอำเภอใจ

บูรัคหันไปตอบเอมม่า แต่สายตาไม่คลาดจากใบหน้าสวยเฉี่ยวของธารา 

“ผมเป็นมนุษย์ทดลองล่าสุดของเธอ”

“มนุษย์ทดลอง? คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ?”

“ธารากำลังหาเทสเตอร์ชายมาทดลองเซ็กซ์ทอยของเธอ และผมก็เป็นเหยื่อคนนั้น”

“ไม่ใช่เหยื่อ คุณสมัครใจเอง” เธอทะลุกลางปล้อง

“อ๋อ...แน่นอน ภายใต้เงื่อนไขต้องขึ้นเตียงกับฉัน แต่ใครบางคนแถวนี้นอกจากจะเบี้ยวแล้ว ยังทำฉันซะเจ็บแสบ” บูรัคตอกกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ

เธอกัดฟัน รับรู้ได้ถึงสายตาพิฆาตที่จ้องมายังแผ่นหลัง เธอรู้ว่าเขาหัวเสีย แต่เธอก็หัวเสียเหมือนกัน เห็นเขาหลีกไม่ขวางทาง คิดว่าหมดธุระ จึงก้าวเดิน

“เดี๋ยว...ธารา”

ธาราชะงักเท้า ไม่ได้เหลียวหลังและไม่ทันถามต่อ เสียงแข็งกร้าวก็ดังตามมาอีก

“วันจันทร์นี้ฉันเรียกประชุมผู้บริหารเซ็กซ์ทอย เธอต้องเข้าด้วย”

“แต่ดิฉันไม่ใช่ผู้บริหาร” เธอสวนทันควัน

แววตาบูรัคแข็งกร้าวเมื่อได้ยินสรรพนามแทนตัวห่างเหิน ธาราคงรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร บูรัคเดินกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง เขาจ้องเข้าไปในนัยน์ตาคู่สวยที่ตอนนี้จ้องกลับมาอย่างแข็งกร้าว ดุดัน เธอไม่ได้ซ่อนความรู้สึกเกลียดชังเหมือนเมื่อครู่ที่แสร้งทำทีร่าเริงอีกต่อไป เขารับรู้ได้ถึงอารมณ์ฉุนเฉียวและโกรธจัด ถ้าเอาถาดในมือฟาดหัวเขาได้ เธอก็คงไม่ลังเล

บูรัคจ้องนิ่งๆ แล้วโต้ว่า “แล้วอยากได้ตำแหน่งผู้บริหารมั้ยล่ะ ฉันจะตั้งให้”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น