บทนำ
ว่ากันว่าความรัก จะมาเมื่อถึงเวลาที่ใช่ของมัน แต่สำหรับผมแล้ว การมีความรัก มันคือมหันตภัยครั้งร้ายแรงในชีวิตเลยก็ว่าได้
ผมไม่พร้อมจะมีความรู้สึกอึดอัดนั้นในใจ ไม่พร้อมที่จะต้องเข้านอนและตื่นพร้อมกันกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ผมชอบใช้ชีวิตสนุกๆ ไปวันๆ ไม่ชอบเดินตามใครหรือให้ใครติดตามตลอดเวลา
ผมชื่อ โทนี่ วิลล์ อายุสามสิบห้าปี เป็นชายอเมริกันที่หล่อติดอันดับในโพลล์นักธุรกิจที่รวยและทรงเสน่ห์ที่สุดของอเมริกา ผมยังโสด และคิดจะโสดต่อไป หากโชคชะตาไม่กลั่นแกล้งผมเข้าเสียก่อน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณสามีที่รัก”
นั่นคือประโยคเดียวที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล เป็นประโยคแรกที่หญิงสาวนิรนามคนหนึ่งเอ่ยกับผม ในช่วงเช้าที่แสนมืดมน ราวกับราหูที่บดบังความสว่างไสวของผู้ชายรักอิสระอย่างผม จนแทบเป็นลมล้มตึงเลยก็ว่าได้
ครั้งนี้คงไม่ใช่แค่มหันตภัย แต่เป็นภาระครั้งใหญ่ ที่ โทนี่ วิลล์ จะต้องแบกเอาไว้ด้วยบ่าทั้งสองข้าง!
หล่อนเป็นใคร นางไม้หรือแม่มดมาจากไหน หล่อนมานอนแก้ผ้าโชว์ความงามอันน่าสยดสยองบนเตียงนอนของผมได้อย่างไร?
แล้วผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสวยๆ อย่างผม จะยอมปล่อยหล่อนไปง่ายๆ ไหม หรือจะสั่งสอนหล่อนให้รู้สำนึก ว่าไม่ควรกระตุกหนวดเสือหื่นๆ อย่างผมดี
งานนี้ผมทุ่มสุดตัว ถ้าชนะผมก็จะดีดหล่อนออกไปให้พ้นจากชีวิต แล้วมีอิสระอย่างชายชาตรีทั่วๆ ไป แต่ถ้าแพ้...ชีวิตของผมคงตกอยู่ในกำมือของหล่อนตลอดไปเช่นกัน
เอาล่ะ...มาเริ่มต้นเกมรักของผมกับหล่อนกันเถอะ
ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
“ค่อยๆ เดิน อย่าตุกติก อย่ามีพิรุธ”
เสียงดุๆ ที่ดังมาจากริมฝีปากสีซีดของคนที่อยู่เบื้องหลังทำให้ โทนี่ วิลล์ ผุดรอยยิ้มขึ้นที่ริมฝีปากหยักหนา ก่อนจะกระชับกระเป๋าสัมภาระที่อยู่ในมือของตัวเองเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าตามคำสั่งของภรรยาคนสวยที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ใช่แล้ว หล่อนคือภรรยาของเขา หล่อนแอบเข้ามานอนกับเขาทั้งคืนโดยที่เขาไม่รู้ตัว แถมพอตื่นขึ้นมา เจ้าหล่อนก็โวยวายหาว่าเขาทำมิดีมิร้ายหล่อนอย่างนั้นอย่างนี้ แถมยังให้เขารับผิดชอบในตัวหล่อน ด้วยการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากพวกที่ตามล่าตัวหล่อนอีกต่างหาก
“ก็เอาไอ้ปืนห่วยๆ ของคุณออกจากแผ่นหลังอันบึกบึนของผมสิทูนหัว จี้อยู่แบบนี้ผัวจะเดินดีๆ ได้ยังไง”
เจ้าของปืนห่วยๆ ขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะมองแผ่นหลังอันบึกบึนที่ว่าด้วยสายตาเย็นชาตามแบบฉบับ ทว่าในใจกลับนึกอยากจะเอาด้ามปืนในมือทุบศีรษะหนุ่มชาวต่างชาติที่ช่างปากเสียคนนี้นัก
“ถ้ายังกวนประสาทกันอยู่แบบนี้ ฉันจะถีบคุณให้ตกสะพานภายในห้านาทีนี้จริงๆ คอยดู” หญิงสาวผมยาวถึงกลางหลังบอกออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พร้อมกับเหลียวซ้ายมองขวา สำรวจทุกจุดของท่าเรือที่มีผู้คนที่เดินพลุกพล่านไปมามากมาย
“ก็ถ้าผมตกลงไป แล้วใครจะช่วยพาคุณหนีไอ้พวกนั้นมิทราบคนสวย”
“ก็หุบปากเสียที น่ารำคาญจริง”
“เอาปากคุณมาปิดปากผมสิคุณภรรยารับรองว่าผมจะเงียบให้ดูแน่ ไม่หือไม่อือด้วย” โทนี่แกล้งประชด ก่อนจะเดินช้าๆ ไปตามสะพานจนถึงฝั่งของแผ่นดินไทย แผ่นดินที่มีมนต์เสน่ห์ทำให้โทนี่วนกลับมาเที่ยวหลายต่อหลายครั้ง หากเดินทางมาติดต่อธุรกิจแถบนี้
“เอากำปั้นไปอุดก่อนไหม จะให้สักสองหมัด” หญิงสาวในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามสีขาวตวาดใส่เขา ในขณะที่สายตาคอยสำรวจไปบริเวณรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง
“โหดจริง อย่าให้มีโอกาสนะทูนหัว ไม่อย่างนั้นผมเอาคุณคืนสองเท่าแน่” โทนี่หันมาขู่ ก่อนจะเดินนำหล่อนไปตามทางเดินที่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปผ่านมามากมาย
“ถ้าคุณทำได้ คุณทำไปนานแล้ว หุบปากเสียทีเถอะ แล้วรีบๆ เดินไป” หญิงสาวนิรนามบอกอย่างหัวเสีย เกิดมายังไม่เคยเจอใครที่จะกวนประสาทหล่อนได้เท่าผู้ชายคนนี้มาก่อน
หน้าฝรั่ง แต่พูดภาษาไทยชัดมาก หล่อนไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนและเชื้อชาติใด เพราะสิ่งที่หล่อนต้องทำในตอนนี้ คือต้องหายตัวไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“คุณชื่ออะไร” โทนี่ยังมีแก่ใจเอ่ยถาม
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” สาวจอมดุตอบด้วยน้ำเสียงเข้มจริงจัง ก่อนจะดันตัวเขาด้วยปลายกระบอกปืนที่ติดตัวมาตั้งแต่อยู่บนเรือด้วยกัน
“ผมชื่อโทนี่”
“ฉันไม่ได้ถาม และไม่ได้อยากรู้”
“เอ้า! นี่คุณไม่อยากจะรู้ชื่อผัวตัวเองสักนิดเลยหรือ” โทนี่ทำเสียงเหมือนผิดหวัง พร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเจ้าหล่อนทำหน้าดุราวกับนางพญามารอย่างนั้น
ผู้หญิงอะไร! ยิ่งดุก็ยิ่งสวย ขนาดไม่ได้แต่งหน้าทาปาก ก็ยังสวยกระชากใจเขาได้ นี่ยังไม่นับนิสัยห้าวๆ ลุยๆ ของหล่อนอีก พยศแบบนี้ล่ะ คนอย่างโทนี่ชอบนัก จะปราบพยศให้หมอบราบคาบอกล่ำๆ ของเขาเลย
“โทนี่ วิลล์ จำชื่อผมเอาไว้ดีๆ นะทูนหัว” โทนี่ย้ำกับหล่อนอีกครั้ง ราวกับจงใจจะให้หล่อนจำชื่อเขาเอาไว้ให้แม่น
“รู้แล้วน่า คุณเคยพูดชื่อตัวเองกับฉันตั้งแต่อยู่บนเรือนั่นแล้ว”
“เหรอ อือ...คุณนี่จำแม่นจริงๆ นะทูนหัว” โทนี่หัวเราะชอบใจ นอกจากหล่อนจะปืนไวแล้ว ความจำของหล่อนก็เป็นเลิศอีกด้วย ค่อยยังชั่วหน่อย อย่างน้อยคนอย่างโทนี่ วิลล์ ก็เป็นที่น่าจดจำของสาวสวยอย่างหล่อนได้
“เลิกเรียกฉันว่าทูนหัวเสียที ฟังแล้วอยากจะอ้วก” หญิงสาวปริศนาตะคอก ก่อนจะทำหน้าเครียด เมื่อหันไปเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง กำลังเดินมุ่งมาทางที่หล่อนกับเขากำลังเดินอยู่
“ก็เราเป็นผัวเมียกันไงคุณ เรียกทูนหัวมันผิดตรงไหน” ชายหนุ่มยังยียวนไม่เลิก รู้สึกสนุกกับการแกล้งหญิงสาวคนนี้ให้โกรธอย่างไรก็ไม่รู้
“นี่คุณ ครั้งนี้ถือว่าผมช่วยนะ ครั้งต่อไปถ้าเจอกันอีก ผมจะจับคุณทำเมียจริงๆ แน่”
“ถ้าคุณเก่งขนาดนั้น คงไม่ยอมให้ฉันเอาปืนมาจี้เล่นอยู่แบบนี้หรอก”
โทนี่ยิ้มมุมปาก มันก็จริงอย่างที่หล่อนว่านั่นแหละ หากเขาไม่ยอม มีหรือที่คนอย่างโทนี่ วิลล์ จะยอมให้ใครมาสัมผัสเนื้อตัว โดยที่คนผู้นั้นจะไม่เจ็บตัวเอาได้
“แล้วถ้าผมทำได้ล่ะ จะยอมเป็นผัวเมียกันดีๆ หรือจะให้ต้องใช้กำลัง” โทนี่เอ่ยถามออกไปอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มขบขันที่ปราศจากความเคร่งเครียดใดๆ
“ว่าไงคุณ เงียบแบบนี้ผมจะถือว่าคุณสมยอมนะ”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย
โทนี่หันหลังไปมองหล่อนอีกครั้ง ทว่าทุกอย่างกลับมีแค่ความว่างเปล่า ไร้วี่แววของหญิงสาวที่เดินต่อล้อต่อเถียงกับเขาตั้งแต่อยู่บนเรือสำราญด้วยกันแล้ว
หายไปไหน... ชายหนุ่มตั้งคำถามในใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ เพื่อมองหาร่างปราดเปรียวที่สะกดสายตาเขาตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน และเมื่อไม่มีแม้แต่เงาของหล่อน ชายหนุ่มก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“โรเจอร์เหรอ อืม...ฉันเอง ส่งคนมารับฉันที” โทนี่ติดต่อหาคนของตนหลังจากนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง แล้วสั่งกาแฟมานั่งจิบอย่างใจเย็น ขณะที่หัวสมองของเขาในตอนนี้ มันกำลังนึกแค้นหญิงสาวที่เพิ่งหายตัวไปโดยไม่บอกลาเขาสักคำ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนช่วยหล่อนจากพวกที่ติดตามไล่ล่าหล่อนแท้ๆ
อย่าให้เจอตัวอีกล่ะคนสวย รับรองไอ้โทนี่จะเอาคืนให้สาสมแน่!
ความคิดเห็น |
---|