ราเมศขับรถไปส่งญาติสาวคนสวยที่วังธาดา หลังจากนั่งดื่มและฟังเพลงกันอยู่หลายชั่วโมง เขาเป็นคนชวนพราวรัมภาออกมาฟังเพลงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์บ้างจากปัญหาที่กำลังถาโถมใส่หญิงสาวในตอนนี้ ส่วนอีกคู่แยกไปรถอีกคัน
“คุณบราวน์มากรุงเทพฯ อีกแล้วหรือครับ” ชายหนุ่มหันมาถามญาติผู้น้องขณะขับรถ
“กลับไปหลายวันแล้วค่ะ”
“เขามาเร่งรัดอะไรน้องพราวรึเปล่า” ราเมศยังอดถามไม่ได้ ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครองเธอแน่นอน เพราะพราวรัมภาเคยบอกเขาหลายหนแล้วว่าเธอนับถือเขาแบบพี่ชายเท่านั้น
ราเมศรู้ว่าถึงแม้ไม่มี วิลเลียม บราวน์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันโผล่เข้ามา พราวรัมภาก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ถ้าหญิงสาวมีใจให้สักนิดเขาคงมาสู่ขอเธอไปแล้ว แม้ว่าเธอจะติดปัญหาเรื่องหนี้สินมากมายขนาดไหน เขาก็ยังยินดีร่วมชีวิตด้วย
“เปล่าหรอกค่ะ พี่เมศก็เคยเจอคุณบราวน์ เขาเป็นคนสุภาพและใจดีอยู่เหมือนกันค่ะ” พราวรัมภาตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะที่จริงแล้วตนเองไม่ได้สนิทกับเขามากถึงขนาดรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ แต่บอกไปเท่าที่เห็นจากการได้พบเจอกันในระยะนี้
“ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่รู้นะว่าน้องพราวไม่ได้รักเขาเลย”
“ค่ะ พราวคงเป็นคนโชคร้าย เกิดมาไม่เคยรู้รสว่าคนที่รักกันเขารู้สึกยังไง”
“โธ่...น้องพราว”
ราเมศชะลอความเร็วรถเบนซ์คันหรูเพราะใกล้ถึงที่หมาย ก่อนจะจอดสนิทที่หน้าประตูเพื่อรอให้คนรับใช้ออกมาเปิดประตูรั้ว
“ขอบคุณพี่เมศนะคะที่เป็นห่วงพราวเสมอ”
“พี่ไม่ได้แค่ห่วงนะ ตอนนี้...ใจจะขาด” ราเมศเผลอบอกความรู้สึกภายในใจ
“พี่เมศคะ พราวไม่รู้จะพูดยังไงดี”
“น้องพราว...แต่งงานกับพี่เถอะนะ” ราเมศเอ่ยไปอย่างที่ใจคิด คืนนี้เขาตั้งใจพาเธอออกไปพักผ่อนเพื่อคุยเรื่องนี้อีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป แต่ช่วงที่อยู่ในไนต์คลับไม่สบโอกาส
“พี่เมศ!”
“อย่าไปเป็นเมียฝรั่งแก่ๆ คนนั้นเลย น้องพราวไม่มีวันมีความสุขหรอก”
“พราวจำเป็นค่ะ พี่เมศก็รู้ว่าพราวยอมทำตามที่แม่ต้องการเพราะอะไร”
“เรื่องวังธาดาพี่จะจัดการให้เองนะครับ ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ค่ะพี่เมศ มันมากเกินไป พี่เมศควรจะเก็บเงินไว้เพื่อชีวิตในวันข้างหน้า สร้างครอบครัวกับใครบางคนที่เหมาะสมกว่าพราว”
“แต่พี่ไม่อยากแต่งกับใครนอกจากน้องพราว พี่ยอมหมดตัว”
“ไม่! พราวรักพี่เมศ เราเป็นพี่น้องกัน เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก พราวจะให้พี่เมศมาลำบากเพราะพราวได้ยังไง”
“แล้วจะยอมเป็นเมียฝรั่งนั่นจริงๆ เหรอ พี่ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นน้องพราวต้องอยู่กับมัน” ราเมศบอกโดยไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป เพราะทนอัดอั้นมานานแล้วนับตั้งแต่รู้ว่ามีฝรั่งอายุคราวพ่อมาพัวพันกับหญิงสาวที่ตนหมายปอง
“อย่าพูดถึงเขาอย่างนั้นเลยค่ะ” พราวรัมภารีบห้ามก่อนที่เขาจะพูดอะไรรุนแรงไปกว่านี้ “เขาไม่ได้เลวร้ายอะไร นอกจากอายุเยอะแค่เรื่องเดียวเท่านั้น”
“น้องพราวทำใจได้จริงๆ หรือครับ” คุณชายถามแล้วรวบมือของหญิงสาวไว้ทั้งสองข้าง
“ค่ะ พราวอยากได้วังของท่านพ่อคืนมา” เธอตอบเพื่อให้เขาตัดใจ เพราะเวลานี้ไม่มีใครช่วยเธอได้นอกจาก วิลเลียม บราวน์ เท่านั้น
ถ้าหากว่าเธอรักราเมศเพียงสักนิดก็อาจตัดสินใจล่มหัวจมท้ายกับเขาก็ได้ เพราะเขาเองก็ยินยอมจะสละทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือเธออยู่แล้ว ทว่าเธอไม่ได้รักเขา แล้วยังจะให้เขามาหมดตัวเพื่ออะไร พราวรัมภาไม่ใช่คนที่เห็นแก่ตัวได้ถึงขนาดนั้น
“สักวันพี่เมศจะได้พบกับคนที่ดีกว่าพราวค่ะ”
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้”
ราเมศจ้องมองหญิงสาวได้ไม่กี่อึดใจก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจุมพิต
“พี่เมศ...” พราวรัมภาพยายามดึงมือกลับเพราะไม่อยากให้มีสิ่งใดเกินเลยไปมากกว่านี้ แต่เขากลับดึงหัวไหล่เธอเข้าไปหา
ราเมศจูบหน้าผากหญิงสาวอย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกใจแทบขาด เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะหลุดลอยไปเป็นของคนอื่นที่ไม่เหมาะสมกันแม้แต่น้อย
สองหนุ่มสาวไม่รู้ว่ามีคนขับรถตามมาตลอดทางและจอดซุ่มอยู่ไม่ห่างจากประตูวังมากนัก เขาดับเครื่องรถอยู่ในมุมมืดเยื้องกับประตูวัง และเห็นว่าชายหนุ่มกับหญิงสาวที่อยู่ในรถเบนซ์คันหรูกำลังทำอะไรกันบ้าง
หนุ่มอเมริกันเชื้อสายยิวกำมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้หน้าวังจะมีไฟส่องสว่าง แต่เขามองจากระยะไกลหลายเมตร จึงได้เพียงแต่เดาว่าทั้งคู่น่าจะจูบอำลากันในรถระหว่างรอให้คนมาเปิดประตู
นี่หรือนางหงส์ของ วิลเลียม บราวน์!
พ่อของเขาคงหลงแม่นี่จนหัวปักหัวปำ ถึงกับจะยอมทุ่มให้ไม่อั้นเรื่องหนี้สินของหล่อนตามที่เขาได้ข่าวมาจากคนใกล้ชิดของพ่อ กระทั่งต้องจ้างนักสืบเพื่อให้ได้ความจริง
แม้จัสตินเคยอยู่ในประเทศไทยแค่ช่วงวัยเด็กจนย่างเข้าสู่วัยรุ่น แต่เขาก็รู้ดีว่าการกอดจูบกันนั้นไม่ใช่ธรรมเนียมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้อง คนไทยโดยทั่วไปไม่จูบกับใครนอกจากคู่รักเท่านั้นและต้องอยู่ในที่ที่เป็นส่วนตัว แต่ดูเหมือนว่าหงส์เหินอย่างพราวรัมภาจะไม่ยึดถือตามธรรมเนียมไทยเอาเสียเลย
อ้อ...หล่อนเคยไปเรียนเมืองนอกก็อาจจะถือตามอย่างฝรั่งก็ได้!
นั่นหมายความว่าพราวรัมภาไม่ใช่สาวไทยในกรอบประเพณีอย่างที่ควรเป็นและคู่ควรกับฐานันดรอันสูงส่งแม้แต่น้อย คิดได้แค่นี้จัสตินก็ยิ่งสงสารพ่อตัวเองขึ้นมาจับใจ ที่คิดว่าจะได้ ‘ของดี’ มาประดับบารมี แต่สุดท้ายก็แค่ของราคาถูกที่หยิบมาแปะยี่ห้อดังไว้หลอกตาคน
เขารอจนกระทั่งมีคนเดินออกมาเปิดประตูแล้วรถเบนซ์ของคุณชายราเมศเคลื่อนผ่านเข้าไป จึงขับรถกลับไปยังคอนโดมิเนียมหรูของตนริมฝั่งเจ้าพระยา
ห้องพักของจัสตินอยู่ชั้นเก้า ทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน เขาเปิดประตูเข้ามาและพบว่ามีคนรออยู่
ดาหวัน สาวสวยที่เป็นคู่ขากันมานานหลายเดือนสวมชุดนอนกระโปรงสั้นวาบหวิวนั่งเอนตัวดูโทรทัศน์รออยู่ที่โซฟากลางห้องโถง
“กลับมาแล้วหรือคะ ที่รัก” หญิงสาวแทบจะโผเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี
แต่เจ้าของห้องกลับแอบถอนใจ ทั้งที่มีสาวสวยเซ็กซี่นุ่งห่มเย้ายวนใจรออยู่ เขาโทร. บอกเลิกนัดไปแล้วแต่เธอก็ยังมาที่นี่อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่จัสตินไม่ค่อยปลื้มนัก แม้จะมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งแค่ไหน แต่เขายังต้องการพื้นที่และเวลาส่วนตัวซึ่งใครจะล้ำเส้นเข้ามาไม่ได้ แต่ดูเหมือนดาหวันจะไม่เข้าใจ
“กลับดึกเหมือนกันนะคะ” เธอต่อว่าเล็กน้อยด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“ผมไม่คิดว่าคุณจะมา” จัสตินตอบแบบไม่ยินดียินร้ายนัก คืนนี้เขาไม่ต้องการใครอยู่เป็นเพื่อน แต่อยากอยู่เงียบๆ เพื่อใช้ความคิดกับบางเรื่อง
“แหม...ทำเสียงดุเชียว ดาเหงาน่ะค่ะก็เลยมารอคุณ” ดาหวันว่าแล้วโอบเอวเขาด้วยท่าทางอ้อนๆ ซึ่งได้ผลมานักต่อนักไม่ว่ากับใคร
จัสตินไม่เคยเจอผู้หญิงขี้อ้อนและเอาใจอย่างดาหวันมาก่อน โดยเฉพาะสาวฝรั่งนั้นแทบแข็งทื่อเป็นสันขวานก็ว่าได้ พอมาเจอสาวสวยช่างฉอเลาะเข้าเลยแทบไปไม่เป็นตามประสาผู้ชายทั่วไป แต่ทำไมตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาเสียแล้วก็ไม่รู้ คืนนี้จริตจะก้านของหญิงสาวที่เคยติดอกติดใจกลับดูแล้วล้นๆ เกินๆ อย่างบอกไม่ถูก
“ผมขอตัวไปอาบน้ำนะครับ” เขาบอกเป็นภาษาไทยเพื่อจะหามุมหลบไปอยู่ตามลำพังสักพัก ซึ่งห้องน้ำน่าจะเป็นมุมส่วนตัวมากที่สุดในตอนนี้
“ให้ดาช่วยอาบน้ำไหมคะ”
จัสตินชะงักไปชั่วขณะก่อนจะแกะมือที่อยู่รอบเอวออก นี่เองกระมังที่ทำให้รู้สึกเบื่อขึ้นมา อะไรที่มากเกินไปอาจกลายเป็นสิ่งไม่น่าสนใจ และสุดท้ายอาจถึงขั้นเบื่อ
ดาหวันคงเห็นว่าเคยใช้วิธีนี้ได้ผลจึงพยายามลดแลกแจกแถมให้เขาจนกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
‘แล้วนายต้องการผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ช่างเอาอกเอาใจจนแทบชี้นกเป็นไม้อย่างดาหวันก็ไม่ชอบ แล้วจะเอาแบบไหน!’
จัสตินถามตัวเองอยู่ในใจโดยที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เขาเริ่มคิดเรื่องนี้ก็เพราะรอนนั่นเองที่เป็นคนจุดประกายเรื่อง ‘นางในฝัน’ ขึ้นมาในหัวเขา
“ผมขอเวลาสักครู่” เขาบอกเสียงเบาก่อนจะเดินจากไปทันที
ชายหนุ่มอาบน้ำโดยใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อกลับออกมาก็พบว่าหญิงสาวมารออยู่ในห้องนอนเรียบร้อยแล้วโดยรินวิสกี้ไว้สองแก้ว เขามองดาหวันด้วยความเห็นใจที่เธอใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อให้ได้พบกันในคืนนี้
จัสตินจิบวิสกี้รสนุ่มโดยมีสาวเซ็กซี่รูปร่างเพรียวบางคล้ายนางแบบมานั่งบนตัก พอเหล้าหมดแก้วเขาก็แทบไม่ต้องทำอะไร เพราะถูกผลักให้นอนหงายลงบนเตียงโดยมีเรือนร่างของหญิงสาวตามมาคร่อมทับ
ไม่นานนักเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาก็ถูกแหวกออก จากวินาทีนั้นดาหวันสามารถทำให้เขาลืมหมดแทบทุกสิ่ง เธอชำนาญเรื่องนี้พอๆ กับการฉอเลาะเอาใจที่ทำให้เขาเต็มอิ่มได้ทุกครั้งที่นัดพบกัน
วันรุ่งขึ้นช่วงสายๆ ดาหวันตื่นขึ้นมาบนเตียงกว้างเพียงลำพัง เพราะตื่นสายเสียตะวันโด่งจึงไม่พบเจ้าของห้องซึ่งน่าจะออกจากบ้านไปแล้ว แต่พอเหลือบไปทางหัวเตียงจึงเห็นว่าเขาทิ้งกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งไว้
อย่ามาหาผมที่นี่อีก ถ้าไม่ได้นัดกันไว้ก่อน
หญิงสาวอ่านข้อความภาษาอังกฤษสั้นๆ อยู่สองเที่ยวเพื่อไม่ให้ตนเองเข้าใจผิดพลาด พอรู้ว่าเข้าใจไม่ผิดแน่ๆ ว่าเขาต้องการจะบอกอะไรก็แทบอยากกรี๊ดออกมาดังๆ
“นี่คุณเห็นฉันเป็นอะไร ไอ้ฝรั่งบ้า!”
ดาหวันขว้างหมอนลงจากเตียงเพื่อระบายอารมณ์ เมื่อคืนเธออุตส่าห์ปรนเปรอให้อย่างถึงอกถึงใจ แต่พอตื่นขึ้นมาเขาก็ลืมไปเสียสนิทเลยหรือ ยิ่งคิดสาวเซ็กซี่เสน่ห์แรงก็ยิ่งแค้นใจที่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมัดใจเขาไว้ไม่ได้ ช่วงแรกๆ นักธุรกิจหนุ่มอเมริกันก็แทบจะทูนหัวทูนเกล้าให้ทุกอย่างเพราะยังอยู่ในช่วงติดอกติดใจ ฝ่ายดาหวันเองก็ติดใจเขายิ่งกว่าใครทั้งหมดที่เคยผ่านมา
ที่สำคัญเขาไม่ถือสาว่าเธอจะเคยผ่านใครหรืออะไรมาบ้างตามสไตล์ฝรั่ง ถ้าถูกใจกันทุกอย่างก็จบโดยเรื่องอดีตนั้นไม่ต้องพูดถึง แม้ระยะหลังเขาเริ่มทำตัวห่างเหินและนัดกันน้อยลง แต่ทุกครั้งที่นัดพบกันเขายังคงเต็มไปด้วยความปรารถนาในตัวเธอ ทำให้ดาหวันมั่นใจมาตลอดว่าเขาติดใจเธอจนแทบไปไหนไม่รอด
เมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรกที่เขาทำท่าเหมือนเธอทำผิดร้ายแรงที่มาหาเขาทั้งที่บอกยกเลิกนัดไปแล้ว แถมตอนอยู่บนเตียงเขาก็ยังทำเนือยๆ จนเธอต้องเป็นฝ่ายรุกเสียเองซึ่งเขาก็ยังสนองตอบทุกอย่าง เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนทนทานดาหวันได้แน่ โดยเฉพาะหนุ่มร้อนแรงอย่างจัสติน แต่เช้านี้เขากลับเขียนข้อความทิ้งไว้คล้ายกับจะตัดสัมพันธ์กันกลายๆ แม้จะไม่ชัดเจนนักก็ตาม
“หรือว่าจะกลับไปหานังนาตาลี คู่ขาเก่า” ดาหวันพึมพำอย่างแค้นใจเพราะทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเธอกับเขาไม่มีสัญญาใจผูกมัดกันมาแต่ต้น
เศรษฐีหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ใช้วิธีจ่ายแบบไม่อั้น ไม่ว่าจะต้องการอะไรเขายินดีจ่ายให้ทุกอย่าง แม้แต่รถยุโรปป้ายแดงก็ซื้อให้มาแล้วแบบไม่คิดเกี่ยงราคาเลยสักนิด นั่นเป็นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้เธอติดอกติดใจเขา เพราะกระเป๋าหนักกว่าทุกคนที่เคยเจอมา
ถ้าจับเขาอยู่ก็สบายไปทั้งชาติ!
งานนี้ดาหวันจึงไม่คิดจะปล่อยมือจากหนุ่มฝรั่งรูปหล่อแถมรวยไม่รู้เรื่อง ใครยอมปล่อยให้หลุดมือไปก็บ้าแล้ว
ความคิดเห็น |
---|