4

บทที่ 3


 

บทที่ 3

 

                กลายเป็นข่าวครึกโครมในชั่วข้ามคืน!

เมื่อคลิปวีดีโอโปรโมทการนำเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ถูกโพสบนเว็บไซต์ยูทูป มีผู้นำไปแชร์ต่อมากมาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนบัดนี้ยอดวิวคลิปนี้มีเกินกว่าหลักล้านแล้ว คำวิพากษ์วิจารณ์มีทั้งตำหนิติเตียนว่าเป็นการสื่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของประเทศให้โลกได้รับรู้ ไปจนถึงแสดงความสนใจและไม่คิดว่าจะมีการนำเที่ยวลักษณะนี้เกิดขึ้น

                “นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม โลกโซเชียลแชร์คลิปที่ชื่อว่า ‘ทัวร์ราตรี’ กันอย่างถล่มทลาย ทีมงานของเราตรวจสอบไปที่ผู้โพส ทราบว่าเป็นคลิปวีดีโอโฆษณาการนำเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่จะพานักท่องเที่ยวไปทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานบันเทิงรูปแบบอื่น ๆ ตามแต่นักท่องเที่ยวจะเลือกสรร โดยมีไกด์และการ์ดทำหน้าที่นำเที่ยวและรักษาความปลอดภัย ผมเองรู้ว่าประเทศไทยมีแหล่งท่องราตรีเช่นนี้อยู่เยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นบริษัทนำเที่ยวไหนคิดโปรแกรมทัวร์แบบนี้มาก่อน”

                พิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดังนำคลิปวีดีโอนี้มาเผยแพร่ พลางวิเคราะห์วิจารณ์สร้างความสนใจให้ผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก

                ยิ่งกระแสแรง ยอดจองทัวร์ก็แปรผันเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ

                พนักงานของเที่ยวไทยทัวร์รับโทรศัพท์และส่งข้อมูลรายละเอียดให้ผู้สนใจไม่หวาดไม่ไหว แต่กระนั้นกลับไม่มีเสียงบ่นว่าเหน็ดเหนื่อยหรือมีใครมีสีหน้าเบื่อหน่ายกับงานที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตระหนกเช่นนี้ กลับกัน ทุกคนแย้มยิ้มยินดีที่ยอดจองทัวร์สูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่บริษัทเปิดกิจการมาเลยทีเดียว

                อาการของพ่อโชดีขึ้นมากแล้ว เมื่อเห็นรายชื่อลูกค้าเรียงยาวเป็นหางว่าว ชายกลางคนก็ดึงลูกสาวเข้ามากอดอย่างปีติ

                “ขอบใจมากลูก ถ้าไม่ได้โช ป่านนี้บริษัทที่พ่อสร้างมากับมือก็คงต้องปิดไปแล้ว”

                น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม พลอยทำให้คู่ชีวิตอย่างนางคนธวรรณ์ร้องไห้ตามไปด้วย

                “หนูต้องเป็นฝ่ายขอโทษคุณพ่อมากกว่า ที่ไม่เคยเข้ามาเรียนรู้หรือช่วยเหลืองานที่บริษัทเลย แถมตอนเรียนยังใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ลำบากแค่ไหน”

                ผู้เป็นพ่อส่ายหน้า มือลูบผมลูกสาวอย่างรักใคร่ บรรเจิดที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องของนันทวัฒน์ ทำหน้าที่กุมบังเหียนการบริหารงานแทนเจ้าของบริษัทในยามเจ็บป่วย เมื่อเห็นเพื่อนหายดีแล้ว จึงเดินมาตบบ่าให้กำลังใจ

                “นายต้องเหนื่อยหนักกว่าเดิมแล้วละ ก็ยัยลูกสาวคนเก่งดันเพิ่มงานให้เยอะแยะขนาดนี้”

                มิใช่ประโยคตำหนิติเตียน หากแต่เป็นการชื่นชมกึ่งเย้าแหย่ โชฟังก็ยิ้มจนตาหยี

                หญิงสาวตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสารต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดอื่นจนครบทุกด้านเพื่อให้มั่นใจว่า การนำเที่ยวครั้งแรกที่เธอเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์นี้ จะไม่มีปัญหาข้อผิดพลาดใด

               

                “ขอบคุณมากค่ะ เพราะแผนธุรกิจของคุณ ทำให้ครอบครัวฉันพ้นวิกฤตมาได้”

                ประโยค แรกในช่องสนทนาลับของเว็บบอร์ดอันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โชรู้จักกับปิยภัทร ถูกส่งหาชายหนุ่ม

                รอเพียงครู่ เขาก็ตอบกลับมา

                “ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอก ถึงจะมีคนสนใจทัวร์ราตรีเยอะจนทำให้ยอดจองทัวร์ของบริษัทคุณเพิ่มขึ้นมาก แต่คุณควรระวังให้ดี เพราะสถานที่อโคจรแบบนั้น ย่อมมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ”

                แน่นอนว่าในแผนธุรกิจที่ปิยภัทรส่งให้ มีการระบุถึง ‘ปัจจัยเสี่ยง’ ที่อาจจะเกิดขึ้น โชนำอันตรายเหล่านั้นมาวิเคราะห์และหาทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

                “ฉันติดต่อบริษัทประกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จองทัวร์ทำประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยจากอันตรายเฉพาะหน้า ฉันก็จ้างการ์ดเอาไว้หนึ่งคนสำหรับทัวร์คณะเล็ก และสองคนสำหรับทัวร์คณะใหญ่ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”

                “คุณรอบคอบกว่าที่ผมคิด”

                เป็นคำชมที่ไม่เหมือนคำชมสักเท่าไหร่ แต่โชก็มิได้ติดใจอะไร กลับกัน เธอปรารถนาจะตอบแทนเขาให้มากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ

                “ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อเป็นการขอบคุณ ไม่ทราบคุณสะดวกไหมคะ”

                “ผมเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าหากช่วยเหลือเพื่อหวังสิ่งตอบแทน นั่นไม่เรียกว่าการช่วยเหลือหรอก”

                โชเดาะลิ้น เธอพยายามรบเร้า

“ฉันก็ไม่คิดว่าคุณต้องการสิ่งตอบแทนใดหรอกค่ะ เพียงแค่ ฉันรู้สึกขอบคุณคุณจริง ๆ หากไม่ได้ความช่วยเหลือของคุณ ฉันกับครอบครัวคงหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีที่ซุกหัวนอน อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ คุณคือผู้มีพระคุณที่ฉันอยากพูดคำว่า “ขอบคุณ” ต่อหน้า”

                หญิงสาวนั่งรอคำตอบอย่างกระวนกระวาย อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะพิมพ์ตอบกลับมาเลยจนเวลาผ่านไปนานกว่า 10 นาที

                และประโยคสนทนาก็ยุติลงที่ตรงนี้ ไม่มีข้อความใดจากปิยภัทรตอบกลับมาอีก

                โชระบายลมหายใจหนักหน่วงจนอาเธอร์ที่ขันอาสาเป็นสารถีหันมามองพลางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง        

                “มีปัญหาอะไรรึเปล่า”

                “เปล่าหรอก แค่กังวลกับงานแรกนิดหน่อยน่ะ”

                ดาวที่นั่งอยู่เบาะหลังชะโงกหน้าพรวดมาจนอาเธอร์ตกใจแทบปล่อยพวงมาลัย

“เฮ้ย! อยู่ ๆ ก็โผล่มาเหมือนผี เดี๋ยวฉันก็ขับตกถนนหรอก”

                “โอย! แกนี่ขวัญอ่อนไม่สมกับหน้าตาเลย” พูดจบก็หันไปหาโชพลางส่งสายตาห่วงใย “ไม่ต้องเครียดนะแก ฉันเชื่อว่ามันต้องผ่านไปด้วยดี”

                มือเรียวกอบกุมมือเพื่อนสาว โชเห็นสายตาปรารถนาดีที่ส่งมาของเพื่อนทั้งสาม ก็พักเรื่องปิยภัทรเอาไว้ก่อน พลางภาวนาให้งานแรกของค่ำคืนนี้สำเร็จลุล่วงตามแผนที่วางเอาไว้

 

                ที่ร้านเดอะเลิฟเวอร์ รถตู้ติดสติกเกอร์บริษัทเที่ยวไทยทัวร์ขับมาจอดในที่จอดรถที่เตรียมไว้แล้ว นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันห้าคนที่นำทีมโดยนายแดเนียล อินนิวา ลูกค้ารายแรกของทัวร์ราตรี แต่งกายด้วยชุดลำลอง กางเกงขาสามส่วน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นปลดกระดุมสองเม็ดบนเผยอกล่ำ เพื่อนอีกสี่คนแม้รูปร่างไม่ดึงดูดสายตาเท่า  แต่หน้าตาก็จัดว่าพอควงไปวัดไปวาได้โดยไม่อายพระอายชี

                โชมิได้มีหน้าที่นำเที่ยว เพราะบริษัทจ้างไกด์เอาไว้หลายคนอยู่แล้ว แต่หญิงสาวที่ตื่นเต้นจนไม่อาจนั่งติดเก้าอี้อยู่ที่ออฟฟิศได้ อยากเห็นด้วยตาตัวเองว่าทัวร์ที่เธอรับผิดชอบเป็นครั้งแรกจะประสบผลเช่นไร ร้อนถึงอาเธอร์ที่เป็นห่วงไม่ยอมให้เธอมาคนเดียว จึงอาสาเป็นบอดี้การ์ด รวมถึงดาวกับชามที่ไม่ปล่อยให้ทั้งคู่มาอยู่ในที่อโคจรเพียงลำพังสองคน ก็ติดสอยห้อยตามมาด้วย

                เรืองฤทธิ์ ไกด์หนุ่มที่จริตจะก้านสะดีดสะดิ้งเกินกว่าความเป็นชาย แต่งกายด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมแขนยาวพับแขนถึงข้อศอก กางเกงสแล็คสีดำรัดรูปเสียจนน่ากลัวว่าจะก้าวขาไม่ออก เขาเดินบิดสะโพกนำห้าหนุ่มตาน้ำข้าวเข้าไปในผับด้วยท่าทีกระดี๊กระด๊าสุดฤทธิ์ นอกจากจะฟินกับการเที่ยวผับที่ไม่ต้องพร่ำพูดถึงประวัติความเป็นมา โครงสร้างสถาปัตยกรรม ดังเช่นการนำเที่ยวโบราณสถานตามปกติแล้ว การได้ควงหนุ่มฝรั่งถึงห้าคนเช่นนี้ เป็นยิ่งกว่าความฝันเสียอีก

                พนักงานต้อนรับยืนรออยู่แล้ว เมื่อเห็นเป็นนักท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ที่เป็นกระแสที่สุดอยู่ตอนนี้มาถึง ก็รีบเชิญไปยังพื้นที่ที่จัดไว้ให้เป็นพิเศษ

                นี่คือความแตกต่างระหว่างนักท่องเที่ยวปกติ กับนักท่องเที่ยวของทัวร์ราตรี

                หากเป็นหนุ่มสาวที่มาเที่ยวตามปกติ ต้องเบียดเสียดกันในหมู่คนมากมายราวกับปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศอัดกระป๋อง พื้นที่ให้เต้นก็มีเท่าแมวดิ้นตาย จะขยับตัวหน่อยก็ต้องกังวลว่าจะไปกระแทกไปชนคนข้าง ๆ เสี่ยงต่อการมีเรื่องมีราวทะเลาะวิวาทกัน การสั่งอาหารเครื่องดื่มก็ทำได้ช้าเพราะกว่าพนักงานจะฝ่าฝูงชนมาถึงตัวได้ก็ลำบากใช่น้อย

                แต่หลังจากวิฑูรย์ตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับเที่ยวไทยทัวร์ เขาก็จัดพื้นที่เฉพาะเอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์เสพความสนุกสนานกับบรรยากาศผับอันดับต้น ๆ ของประเทศอย่างสะดวกสบาย พื้นยกสูงกว่าปกติราวหนึ่งเมตรแม้จะอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่ก็แบ่งแยกความเป็นส่วนตัวเอาไว้จากนักท่องเที่ยวคนอื่น จะนั่งฟังเพลงก็มีเก้าอี้บุนวมอย่างดี หรือจะลุกขึ้นโยกย้ายร่างกายไปตามเสียงดนตรีก็มีพื้นที่มากพอให้กระโดดโลดเต้น จะสั่งอาหารก็กดเลือกรายการบนหน้าจอระบบสัมผัสที่ติดตั้งเอาไว้กับโต๊ะแบบเดียวกับที่หลายร้านอาหารดังในยุคปัจจุบันนิยมทำกัน

                ความสะดวกสบายนี้แลกมากับค่าใช้จ่าย ทั้งรายการอาหารและค่าบริการต่าง ๆ ที่สูงกว่าปกติถึง 10 เท่า แต่ด้วยความต่างของค่าเงิน ทำให้ราคาที่สูงลิ่วสำหรับคนไทยนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับชาวต่างชาติ ส่วนแบ่งที่คำนวณมาแล้วเป็นอย่างดี ได้กำไรทั้งบริษัททัวร์ของโชและผับของวิฑูรย์อย่างเป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย

                โชและเพื่อนนั่งดูลูกทัวร์กลุ่มแรกของเธอกำลังดิ้นอย่างเมามันด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความสนุกสนานของเสียงเพลง รู้สึกใจชื้นที่มาจนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด

                “สวัสดีครับคุณโช เป็นยังไงบ้างครับ พอใจกับบริการพิเศษที่ผมจัดไว้ให้ลูกทัวร์ของคุณรึเปล่า?”

                วิฑูรย์ที่จัดเตรียมโต๊ะในมุมที่เห็นห้าหนุ่มอเมริกันชัดแจ๋วเอาไว้ให้โชและเพื่อนทั้งสาม เดินมาทักทายด้วยเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีจากลำโพงที่ติดไว้รายรอบผับใหญ่ แสงสลัวรางกับเลเซอร์หลากสีวิบวับทำให้โชต้องหยีตาเพื่อมองหน้าเขาให้ชัดขึ้น

                “ยอดไปเลยค่ะ ดูจากสีหน้าท่าทางของพวกเขา คิดว่าคงถูกใจมาก”

                “จากจำนวนยอดจองทัวร์ที่คุณส่งให้ ผมคิดว่าคงต้องขยายร้านแล้วละ” พูดพลางหัวเราะอย่างยินดี ผลกำไรที่ได้มากขึ้นเช่นนี้ วิฑูรย์อดนึกใจหายไม่ได้หากวันนั้นเขาปฏิเสธข้อเสนอของหญิงสาวไป

                “ขอบคุณคุณวิฑูรย์มากเลยนะคะ ที่ยอมรับข้อเสนอของโช”

                หญิงสาวจะยกมือไหว้ แต่นักธุรกิจหนุ่มยื่นมือมารั้งมือบางเอาไว้ก่อน “ไม่ต้องไหว้หรอกครับ ผมอายุมากกว่าคุณแค่ไม่กี่ปี เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า”

                แม้พูดจบ แต่ดูเหมือนหนุ่มเพลย์บอยจะไม่มีทีท่าปล่อยมือหญิงสาว จนอาเธอร์ที่โกรธจนควันแทบออกหูตั้งใจจะกระชากมือโชกลับมา

                แต่เป็นดาวที่เร็วกว่า

                “อ๊ะ! ขอโทษค่ะ สงสัยฉันจะเมา” หญิงสาวแสร้งเซชนแขนของวิฑูรย์ ซ้ำยังทำให้ชายหนุ่มเสียหลักไปกระแทกนักเที่ยวโต๊ะข้าง ๆ จนชายร่างใหญ่คนนั้นหันมามองอย่างเอาเรื่อง วิฑูรย์ต้องละล่ำละลักขอโทษแทบไม่ทัน

                โชและชามลอบยิ้มในใจ ดาวเป็นฮีโร่ของพวกเธอเสมอ ส่วนอาเธอร์ทำได้เพียงยืนจ๋อยที่โดนแย่งบทพระเอกไป

 

                วันแรกผ่านไปโดยไม่มีปัญหาอุปสรรค แต่กระนั้นเจ้าของโปรเจกต์อย่างโชก็ไม่นิ่งนอนใจ เธอติดตามผลการนำเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีทุกแห่งเพื่อเฝ้าดูและประเมินความพึงพอใจของลูกทัวร์ เรืองฤทธิ์เป็นไกด์ที่เหมาะกับงานนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะชายหนุ่มเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์มืออาชีพ ยิ่งเมื่อได้เฉิดฉายอยู่ท่ามกลางแสงสี ก็วาดลีลาลวดลายประหนึ่งผีเสื้อราตรีที่พร้อมกระพือปีกงามอวดโฉมแก่สายตาทุกผู้

                เมื่อรู้จักสนิทสนมและคุ้นเคยกับห้าหนุ่มนักท่องเที่ยว เรืองฤทธิ์จึงไม่เก็บงำอันใดอีกต่อไป ถึงวันที่สามแห่งการทัวร์ราตรี นางจึงจัดเต็มด้วยชุดเดรสสีแดงสดสั้นเหนือน่อง วิกผมสีทองกับเครื่องสำอางที่ประทินลงไปบนใบหน้าประหนึ่งจะไปแสดงโชว์คาบาเรต์

                และสถานที่ท่องเที่ยววันนี้ ก็เรียกความคึกคักให้ทั้งไกด์และนักเที่ยวได้มากเป็นพิเศษ เพราะบาร์แห่งนี้มีการแสดงโชว์การเต้น ‘โพลแดนซ์’ หรือเรียกภาษาชาวบ้านคือ การเต้นรูดเสา ที่มีหญิงสาวในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยออกมาเต้นบิดกายไปมากับเสาโลหะที่ตั้งเรียงรายไว้เหนือโต๊ะนับสิบต้น

                และที่นั่งพิเศษที่เจ้าของร้านจัดไว้ให้ลูกทัวร์ของเที่ยวไทยทัวร์ คือที่นั่งแบบชิดติดเสาชนิดที่ใกล้สาวนักเต้นเพียงแค่เอื้อมมือ เท่านี้ก็สามารถสร้างความอิจฉาให้เหล่านักเที่ยวคนอื่นจนแทบอยากจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษนี้บ้าง

                ด้วยผิวสีขาวจัด เมื่อแอลกอฮอล์ไหลลงกระเพาะ ก็ส่งให้ใบหน้าห้าหนุ่มแดงก่ำราวปัดด้วยบลัชออน ดวงตาจับจ้องเรือนร่างสีน้ำผึ้งที่บิดกายอย่างแช่มช้าทว่าอยู่ในท่วงท่าที่สามารถปลุกกำหนัดหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในผับนี้ได้ชะงัด เสียงฮือฮาดังเป็นระยะเมื่อเครื่องนุ่งห่มถูกปลดออกทีละชิ้น จนในที่สุดก็เหลือเพียงบรากับกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว

                เรืองฤทธิ์ทำหน้าสะอิดสะเอียน หากมิใช่เพราะบาร์แห่งนี้คือสถานที่ที่ลูกค้าแจ้งความจำนงว่าอยากมา ชายใจหญิงอย่างเขาคงไม่คิดแม้แต่จะเหยียบย่างเข้าใกล้ ยังดีหน่อย ที่เขาได้มีโอกาสหากำไรจากการแต๊ะอั๋งกล้ามปูและสะโพกหนาหนั่นของเหล่าหนุ่ม ๆ พลางเอาตัวเข้าไปเสียดสีด้วยท่วงท่าการเต้น ยิ่งเห็นหนุ่มต่างชาติไม่มีทีท่ารังเกียจ ไกด์หนุ่มก็ยิ่งนำเที่ยวด้วยลีลาของเจ้าบ้านอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน

                โชและเพื่อนทั้งสามที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมห้องซึ่งเจ้าของบาร์จัดไว้เป็นพิเศษ หญิงสาวทั้งสามหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นเหล่านักเต้นโชว์เรือนร่างอันพึงสงวนแบบไม่อายสายตาที่จ้องมาราวกับจะกลืนกิน โชและชามก้มหน้างุดไม่กล้าเงยขึ้นมอง ขณะที่อาเธอร์อ้าปากค้าง มองนักเต้นเหล่านั้นอย่างตาไม่กะพริบ

                ‘ผัวะ!’

                และเป็นฝ่ามือของดาวที่ประเคนลงบนศีรษะเรียกสติชายหนุ่มใกล้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว

                “แกตามมาเป็นคนขับรถเท่านั้นนะไอ้ตี๋ ถ้าขืนทำหน้าหื่นแบบนี้อีก แม่จะไล่ให้กลับแท็กซี่แล้วฉันจะขับแทนเอง”

                เสียงห้าวของดาวทำให้อาเธอร์หน้าซีดลง ยิ่งเมื่อเห็นโชมองมา ก็ยิ่งคิดได้ว่าตนไม่ควรสนใจเรื่องพรรค์นี้ ชายหนุ่มจึงก้มหน้านั่งจิ้มโทรศัพท์มือถือแทน

                โชที่เห็นชามถือโทรศัพท์ตั้งในมุมแปลก ๆ จึงเอ่ยถามเพื่อนอย่างสงสัย

                “ถ่ายรูปทำไมเหรอชาม”

                “ถ่ายวีดีโอน่ะ เก็บเอาไว้เผื่อทำโปรโมท”

                หญิงสาวถึงบางอ้อ เธอไม่คิดว่าเพื่อนที่พูดน้อยอย่างชาม จะคิดการณ์ล่วงหน้าถึงขนาดเก็บภาพบรรยากาศความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศยามราตรีของประเทศไทย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว โชจึงหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาบันทึกวีดีโอ โดยเลือกซูมที่ใบหน้าของห้าหนุ่มอเมริกัน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ถูกบันทึกเอาไว้ในอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเล็กทั้งหมดแล้ว

                หญิงสาวพานคิดไปถึงประโยคสนทนาระหว่างเธอกับปิยภัทร นี่คือ ‘สีเทา’ ที่เขากล่าวเอาไว้

                แม้สถานที่อโคจรอย่างผับ บาร์ คาราโอเกะ หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนถูกตราหน้าว่าเป็นแหล่งอบายมุข มอมเมา สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับประเทศ หากแต่อีกมุมหนึ่ง สถานที่เหล่านี้ก็เปรียบเสมือนแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งบันเทิงที่สร้างความสนุกสนานให้ผู้นิยมท่องราตรี มีความสุขกับเสียงเพลงและบรรยากาศของความเป็น ‘ผู้ใหญ่’

                มันคือข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธถึงการดำรงอยู่ การมีบทบาทในเศรษฐกิจสังคม และการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

                การไม่ยอมรับถึงการมีอยู่นี้ต่างหาก ที่เป็นเรื่องน่าขัน

 

                หนึ่งสัปดาห์ผ่านพ้น การทัวร์ราตรีของเที่ยวไทยทัวร์ประสบผลสำเร็จลุล่วงโดยไม่มีอุปสรรค หนุ่มอเมริกันทั้งห้าคนประทับใจจนโพสในทวิตเตอร์ของตนว่าการทัวร์ราตรีครั้งนี้ มอบประสบการณ์แปลกใหม่ยิ่งกว่าการมาเที่ยวเมืองไทยหลายครั้งที่ผ่านมา และยังชวนให้เพื่อนฝูงและชาวอเมริกันหาโอกาสมาเที่ยว

                ตอกย้ำด้วยคลิปวีดีโอที่ชามและโชถ่าย ซึ่งถูกนำมาตัดต่อโดยพนักงานฝ่ายไอที เมื่อเผยแพร่ออกไปทางยูทูป ก็เรียกยอดวิวได้มหาศาลไม่แพ้คลิปแรก ภาพชายหนุ่มห้าคนที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน แสง สี เสียง ความคึกคักของสถานที่ ความอลหม่านของนักท่องราตรี ก็ทำให้คนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ยิ่งสนใจและจองทัวร์ราตรีของเที่ยวไทยทัวร์จนคิวยาวเหยียด

                ใช่เพียงกรุงเทพเท่านั้น โชขยายพื้นที่การทัวร์ไปยังจังหวัดที่มีชื่อเสียง ดังเช่น พัทยาจังหวัดชลบุรี เกาะพะงันจังหวัดภูเก็ต เจเจมาร์เก็ตจังหวัดเชียงใหม่ หรืออีกมากมายหลายสถานที่ที่คนต่างชาติไม่ค่อยรู้จักและยังไม่มีโอกาสได้ไป ต่างถูกรวบรวมนำมาใส่ไว้ในรายการทัวร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกสรร

                ระดับของทัวร์ก็แบ่งเป็นหลายเกรด ทั้งเป็นกลุ่มที่เดินทางไปยังต่างจังหวัดด้วยรถโคช เหมาร้านหรือปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งของร้านต่าง ๆ สำหรับลูกทัวร์กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ราคาค่าใช้จ่ายแม้ไม่สูงมาก แต่อาศัยมีปริมาณนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเที่ยวในวันปกติที่มิใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งจำนวนลูกค้าคนไทยไม่มากนัก ทำให้เจ้าของร้านยินดีที่จะบริการให้เป็นพิเศษ

                หากจ่ายแพงขึ้นมาหน่อยก็จะได้รับบริการระดับสูง มีรถตู้ปรับอากาศที่ตกแต่งเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ที่พักก็เป็นโรงแรมหรู การบริการพิเศษของร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น

                หรือที่พิเศษสุด ก็เป็นการทัวร์แบบ VIP คือนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจต่างชาติ อาศัยวันหยุดพักผ่อนเดินทางมาเสพความสุขรูปแบบนี้โดยเฉพาะ พวกเขาเหล่านี้ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและหรูหรา ทั้งที่พักระดับห้าดาว สถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในโปรแกรมทัวร์ก็ต้องเป็นที่นิยมหรือดีที่สุดในจังหวัดนั้น ๆ มีการรับรองอย่างดีจนแทบทำให้ลืมวันลืมคืนที่จะเดินทางกลับประเทศไปเลยทีเดียว

                หนี้สินของครอบครัวถูกทยอยใช้คืนได้กว่าครึ่ง เวลาเพียงไม่กี่เดือนนับจากทัวร์ราตรีเปิดให้บริการ รายได้ที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้รอยยิ้มของทุกคนในบ้านและพนักงานในบริษัทกลับมามีความสุขเหมือนเดิม นันทวัฒน์และคนธวรรณ์ จึงถือโอกาสวันหยุดพาลูกสาวมากินข้าวฉลองความสำเร็จ

                ร้านอาหารริมแม่น้ำบรรยากาศร่มรื่น มีลมพัดโกรกเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ โชที่เห็นพ่อกับแม่เครียดมานานมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเช่นนี้ เธอเองก็พลอยตื้นตันใจไปด้วย

                “เก่งมากเลยลูก พ่อทำทัวร์มาหลายปี ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีการนำเที่ยวแบบนี้ ซ้ำยังทำรายได้ดีกว่าการนำเที่ยวแบบปกติที่ผ่านมาเสียอีก ไม่เสียแรงเลยที่ลูกเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งสาขาการท่องเที่ยว”

                เพราะหมายมั่นปั้นมือแต่แรก ว่าอยากให้ลูกสาวเรียนจบเพื่อมาสืบทอดกิจการต่อจากตน เขาจึงแนะนำคณะและสาขาวิชาให้ลูกสาวคล้ายเป็นการบังคับกลาย ๆ เคราะห์ดีที่โชเองก็เห็นการทำงานของพ่อกับแม่มาตั้งแต่เล็ก จึงซึมซาบและชื่นชอบศาสตร์วิชาในแขนงนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

                 “จริง ๆ แล้วแผนธุรกิจทัวร์ราตรีนี้ ไม่ใช่ความคิดของโชหรอกค่ะ”

                ประโยคนี้ทำให้คิ้วของผู้เป็นพ่อและแม่เลิกขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ช้อนที่ตั้งใจตักข้าวเข้าปาก ต้องยกค้างอยู่อย่างนั้นพลางเงยหน้ามองลูกสาวที่เพิ่งเปิดเผยความจริงให้รู้

                “แล้วใครเป็นต้นคิดกันละ พวกเพื่อน ๆ ของลูกรึเปล่า”

                “ไม่ใช่หรอกค่ะ โชไม่รู้จะหาทางออกยังไง เลยไปตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ดพันธุ์แท้ มีคนชื่อปิยภัทรมาให้คำแนะนำและร่างแผนธุรกิจนี้ส่งมาให้”

                ช้อนที่ยกค้างนั้นพลันต้องวางลงบนจานข้าว ผู้เป็นพ่อเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึมทันที

                “แล้วเขาคิดค่าจ้างหรือค่าเขียนแผนนี่เท่าไหร่ ลูกจ่ายเขาไปแพงไหม”

                โชที่ตั้งใจบอกความจริงทั้งหมดให้พ่อแม่รับรู้ จึงเล่าเรื่องราวนับแต่เธอโพสกระทู้ขอความช่วยเหลือเมื่อวันที่พ่อถูกทำร้าย ยิ่งฟัง สองสามีภรรยาก็ยิ่งขมวดคิ้วมุ่นจนหัวคิ้วแทบชนกันเป็นเส้นเดียว

                “เป็นไปได้ยังไง ลงทุนเขียนแผนธุรกิจให้ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แถมยังไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายสักบาท จะเลี้ยงข้าวตอบแทนก็ยังปฏิเสธ คนดี ๆ แบบนี้ยังเหลืออยู่ในสังคมด้วยเหรอ”

                คนธวรรณ์ที่ประสบกับเรื่องเลวร้าย เจอผู้คนที่ต่อหน้าแย้มยิ้มยินดียื่นมือช่วยเหลือ แต่ลับหลังกลับเสือกแทงมีดที่ชื่อว่าผลประโยชน์เข้าใส่แผ่นหลังเธอจนพรุน กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปเสียแล้ว เมื่อได้รู้เรื่องราวเช่นนี้ก็อดสงสัยแกมวิตกถึงเจตนาของปิยภัทรไม่ได้

                “ถ้าเป็นไปได้ พ่ออยากพบเขาสักครั้ง อยากจะตอบแทนเขาที่ช่วยเหลือพวกเรา โชมีทางติดต่อเขาได้บ้างไหมลูก”

                หญิงสาวครุ่นคิดครู่หนึ่ง

                “โชจะพยายามค่ะ”

                ทั้งสามเมื่อรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ก็ไร้ซึ่งสิ่งใดอันเป็นกังวล สามพ่อแม่ลูกดื่มด่ำกับรสชาติอาหารและบรรยากาศอบอุ่นที่จางหายไปจากครอบครัวเป็นเวลานาน ความสุขเช่นนี้เกือบมลายหายไปเสียสิ้นแล้ว หากไม่ได้ปิยภัทรยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ต่อให้พ่อไม่ร้องขอ โชก็ตั้งใจว่าจะสืบรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร ทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ เพื่ออย่างน้อยเธอจะได้ไปพบ และกล่าวคำว่า ‘ขอบคุณ’ จากใจต่อหน้าชายผู้นี้

 

                หลังจากธุรกิจทัวร์ดำเนินไปอย่างราบรื่น โชก็วางใจปล่อยให้การนำเที่ยวเป็นหน้าที่ของไกด์ หญิงสาวซึ่งบัดนี้กลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารของเที่ยวไทยทัวร์ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่พ่อจัดไว้ให้ เธอพลิกเอกสารต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดการดำเนินงาน ผลประกอบการ และยอดจองทัวร์ที่เรียงรายยาวต่อเนื่องจนแทบไล่สายตาอ่านไม่ครบ

                ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว พนักงานทยอยกันกลับบ้านเกือบหมด ในออฟฟิศจึงเหลือเพียงโชและพนักงานบางคนที่ยังคงมีงานคั่งค้างต้องสะสางให้เสร็จ ความอึกทึกคึกคักช่วงกลางวันหายไป กลายเป็นความเงียบงันเข้ามาแทนที่ หญิงสาวที่นั่งคนเดียวในห้องเปิดเพลงเบา ๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบเหงาเกินไปนัก

                วันนี้พ่อและแม่เดินทางออกต่างจังหวัดตั้งแต่เช้า เพื่อติดต่อร้านค้าในจังหวัดอื่นที่มีแผนจะขยายขอบเขตการนำเที่ยวทัวร์ราตรีไปถึง โชมิวายแซวว่าทั้งคู่แอบหนีไปฮันนีมูนรอบสอง ทำให้หน้าของแม่แดงซ่านราวกับสาวแรกรุ่น หญิงสาวยกกาแฟซึ่งบัดนี้เย็นชืดขึ้นจิบ ก่อนวางเอกสารทั้งหมดลงบนโต๊ะเมื่ออ่านจนครบถ้วน

                เพราะยุ่งกับการทำทัวร์นับแต่เริ่มดำเนินการตามแผน โชจึงแทบไม่มีเวลาเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กดังเช่นที่เคยทำเป็นกิจวัตร จนตอนนี้ที่พอจะมีเวลาว่างบ้าง เธอจึงเปิดเฟซบุ๊กดูความเคลื่อนไหว

                ตัวเลขแสดงการแจ้งเตือนนับร้อยแดงวาบที่มุมด้านบน หญิงสาวคลิกไล่ดูเฉพาะความเคลื่อนไหวที่สำคัญเพื่อมิให้ตกหล่นในข่าวสารหรือกิจกรรมชีวิตใดของเพื่อน หากเป็นยามปกติเธอคงไล่กดไลค์ หรือพิมพ์คอมเมนต์แสดงความเห็นในทุกกิจกรรมของสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กนี้จนครบถ้วน แต่หลังจากมีภาระหนักอึ้งที่ต้องแบก ทำให้โชรู้ว่าการเสียเวลาในโลกออนไลน์มากจนเกินไป อาจทำให้เธอพลาดโอกาสหรือวิ่งตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกออฟไลน์ไม่ทันก็ได้

                และทันทีที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ โชจึงคลิกเมาส์ที่ช่อง ‘ค้นหา’ และพิมพ์ชื่อ ‘ปิยภัทร’ และ ‘piyapat’ ลงไป

                ผู้ใช้ชื่อนี้ในเฟซบุ๊กมีมากมายหลายสิบคน เธอเลื่อนดูภาพโปรไฟล์ทีละคนอย่างคาดหวัง บางคนใช้เป็นรูปของตนเอง ขณะที่บางคนใช้ภาพการ์ตูน ภาพดารานักร้องหรือภาพอื่น ๆ แทนเพราะไม่ประสงค์แสดงใบหน้า เป็นเรื่องปกติของโลกอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัว ถึงขนาดมีบางคนใช้รูปและข้อมูลของคนอื่นอุปโลกน์ว่าตนเป็นคนนั้นด้วยจุดประสงค์ไม่ดีก็มีถม

                เธอจะรู้ได้อย่างไร ว่าปิยภัทรคนไหน คือคนเดียวกับที่ให้คำแนะนำเธอในเว็บบอร์ดพันธุ์แท้ หรือบางที ชื่อที่เขาใช้ในเฟซบุ๊กอาจไม่ใช่ชื่อปิยภัทรก็ได้

                และหากเลวร้ายกว่านั้น เขาอาจไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กเสียด้วยซ้ำ

                นี่มันยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก ไล่ดูผู้ใช้ชื่อปิยภัทรเกินกว่าร้อยคนก็เริ่มท้อ โชที่ล้าสายตาเพราะนั่งเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์และเอกสารมาทั้งวัน กำลังจะปิดเครื่องและกลับไปพักผ่อน

                หากสายตาไม่สะดุดกับสีดำสนิทในช่องสี่เหลี่ยมของรูปโปรไฟล์เสียก่อน...

                เธอรู้สึกแปลกใจตั้งแต่เห็นรูปแทนตัวบนโลกออนไลน์ของปิยภัทรในเว็บบอร์ดพันธุ์แท้แล้ว หากเป็นคนปกติทั่วไป มักจะเลือกใช้รูปของตัวเองเพื่อแสดงให้ผู้อื่นได้เห็นหน้าค่าตาและรู้จัก แต่อีกส่วนหนึ่งที่เลือกใช้รูปอื่นที่มิใช่รูปของตน ก็อาจมีหลากหลายสาเหตุที่ไม่ต้องการเปิดเผยใบหน้า

                แต่คนที่ใช้สีดำสนิทแทนรูปตนเอง จะมีสักกี่เหตุผล และจะมีสักกี่คนกัน

                ชื่อของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้คือ ‘Pleum Piyapat’ ซึ่งหากปิยภัทรคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับในเว็บบอร์ด ก็คงเป็นเรื่องบังเอิญมากทีเดียวที่จะมีคนใช้ชื่อเหมือนกันและใช้รูปโปรไฟล์เป็นสีดำล้วนแบบเดียวกันเช่นนี้

                ไม่รอช้า โชรีบคลิกเข้าไปในหน้าเฟซบุ๊กนี้ทันที

                และหญิงสาวก็ต้องแปลกใจจนต้องเบิกตากว้างขึ้น เมื่อหน้าเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายนี้ ไม่มีโพสใดเลยสักโพส ผิดวิสัยผู้ใช้งานสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กชนิดนี้ตามปกติ และนอกจากรูปโปร์ไฟล์แล้ว ก็ไม่มีรูปอื่นใดในอัลบัมรูปภาพที่พอจะบ่งบอกถึงตัวตนของคนผู้นี้ได้เลย ข้อมูลระบบแจ้งว่าเฟซบุ๊กนี้เริ่มต้นใช้งานตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งระยะเวลาที่ยาวนานเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีความเคลื่อนไหวใดดังเช่นที่ปรากฏ

                หากไม่ใช่ว่าเขามีเฟซบุ๊กหลายบัญชีโดยสมัครบัญชีนี้ทิ้งเอาไว้และไม่เคยเข้าใช้งาน อีกเหตุผลหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นไปได้ที่สุดก็คือ เขาลบข้อมูลทุกอย่างที่เคยโพสเอาไว้และเลิกใช้งานมันอีก

                แต่โชยังไม่ยอมแพ้ หญิงสาวจดจำได้เมื่อครั้งสนทนากับปิยภัทรครั้งแรก คำถามที่เขาถามเธอว่า “คุณกำลังเรียนอยู่ หรือไม่ก็เพิ่งจะเรียนจบใช่ไหม?” นั้น เขาคาดเดาจากอุปนิสัยในการใช้งานสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กของเธอ นับแต่นั้นเธอก็ได้เรียนรู้ว่าตัวตนบนโลกออนไลน์นั้นสามารถอุปโลกน์ปั้นแต่งขึ้นมาอย่างไรก็ได้ แต่หากเราอยากรู้จักเขาจริง ๆ ควรใช้การสังเกตพฤติกรรมและข้อมูลต่าง ๆ อันเป็นรายละเอียดประกอบด้วย

                เมนูเพื่อน : ไม่มีเพื่อนสักคน
                เมนูบันทึก : ไม่มีบันทึกใด

                เมนูความชื่นชอบ : ไม่มีการกดถูกใจแม้เพียงสักเพจของเฟซบุ๊ก

                เปรียบเสมือนเฟซบุ๊กนี้คือบ้านหลังหนึ่งซึ่งว่างเปล่าไร้ผู้อยู่อาศัย ไม่มีแม้เครื่องเรือนสักชิ้น เป็นบ้านโล่ง ๆ ที่เปิดประตูอ้าเอาไว้ให้ใครเข้าออกก็ได้ แต่ไร้ซึ่งผู้ครอบครองเป็นเจ้าของ โชเกิดความรู้สึกหนักอึ้งในใจราวกับมีก้อนหินมาถ่วงเอาไว้ ตัวตนอันเป็นปริศนาของคนผู้นี้ชี้ชวนให้เธอดำดิ่งลงไปในห้วงแห่งความสับสนและกระหายใคร่รู้ หากแต่เขากลับปกปิดทุกอย่างไว้ราวกับไม่ต้องการให้ใครเข้าถึงตัวตนในโลกออฟไลน์ของเขา

                และเมนูสุดท้ายที่โชคลิกเมาส์เปิดโดยไม่คาดหวัง กลับนำมาซึ่งเบาะแสอันล้ำค่าที่สุด ราวกับได้รับกุญแจไขกล่องปริศนาที่ผนึกเอาไว้แน่นหนาใบนี้

                เมนูเกี่ยวกับ : ไม่ระบุที่ทำงาน ไม่มีความสัมพันธ์คบหากับใคร

                แต่... ที่อยู่และสถานศึกษายังมิได้ถูกลบทิ้งไป!

                โชจ้องข้อความสองบรรทัดนี้ค้างราวกับสายตาถูกดูดเอาไว้มิให้ขยับเคลื่อนไปมองที่ใดได้อีก ตัวอักษรทุกตัวซึมซาบผ่านดวงตา สู่สมอง บันทึกในความทรงจำไม่ลบเลือน

                “เคยศึกษาที่ : โรงเรียนจุฑาทิพย์

                อาศัยอยู่ที่ : เทศบาลนครสมุทรปราการ”

                หัวใจโชเต้นระรัวราวถูกจับเขย่า น่าประหลาด สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ปิยภัทรกลับเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเธอ และทำให้หญิงสาวปรารถนาจะพบเจอเขาสักครั้งให้ได้

                และเพราะไม่รู้ว่าปิยภัทรในเฟซบุ๊กนี้จะเป็นคนเดียวกับปิยภัทรในเว็บบอร์ดหรือไม่ โชจึงตัดสินใจเริ่มต้นพูดคุยกับเขาอีกครั้งหลังจากบทสนทนาของทั้งคู่เว้นระยะไปนับแต่ที่เธอรุกคืบเข้าหาความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป

                “สวัสดีค่ะคุณปิยภัทร ขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณนะคะ ตอนนี้ทัวร์ราตรีมียอดจองมากเกินกว่าที่ฉันคาดไปหลายเท่าตัว หนี้สินของครอบครัวก็ทยอยใช้ไปได้เกินกว่าครึ่งแล้ว และเชื่อว่าอีกไม่นานก็คงชดใช้ได้หมด ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณได้อย่างไร นอกจากกล่าวคำว่า ขอบคุณ จากใจจริง ๆ ค่ะ”

                ประโยคสนทนาถูกพิมพ์ลงในช่องสนทนาส่วนตัวของเว็บบอร์ด  

                รอไม่นานนัก ข้อความตอบกลับก็ถูกพิมพ์ส่งมา

                “ยินดีด้วยครับ”

                ดูเหมือนเขาจะคลายความโกรธลงไปแล้ว ถึงกลับมาคุยกับเธออีกเช่นนี้ และนั่นก็ทำให้โชตัดสินใจเสี่ยงพิมพ์สนทนาต่อด้วยประโยคที่ตั้งใจเอาไว้

                “ที่ฉันดึงดันจะขอบคุณคุณด้วยการชวนทานข้าวครั้งก่อน หากทำให้ไม่พอใจฉันต้องขอโทษคุณด้วยจริง ๆ นะคะ”

                “ไม่เป็นไรครับ ผมงานยุ่ง คงไม่สะดวกไปพบคุณหรอก”

                “ว่าแต่ คุณเล่นเฟซบุ๊กหรือไลน์ไหมคะ ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ฉันขอแอดเป็นเพื่อนได้ไหมคะ จะได้สะดวกในการพูดคุยกันมากกว่านี้”

                ปิยภัทรพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่ต้องเสียเวลาคิด

                “ไม่เล่นครับ”

                “ว้า! น่าเสียดายจัง ปกติแล้วคนเชี่ยวชาญด้านไอทีรวมถึงมีคนนิยมชมชอบมากอย่างคุณ น่าจะมีเฟซบุ๊กหรือแฟนเพจ จะได้มีคนติดตามเหมือนพวกดาราศิลปิน”

                “ผมไม่ใช่คนมีชื่อเสียง คงไม่มีใครติดตามหรอกครับ”

                “เออใช่ คุณชื่อเล่นชื่ออะไรคะ ฉันพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง เวลาพิมพ์ชื่อคุณยาว ๆ กลัวจะผิด”

                “ผมไม่มีชื่อเล่นครับ พิมพ์ผิดก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเองเวลาพิมพ์เร็ว ๆ ก็ผิดอยู่บ่อย ๆ”

                “ไม่มี? คุณไม่มีชื่อเล่นเหรอคะ ฉันคิดว่า คุณ ชื่อ ปลื้ม เสียอีก”

                เงียบงัน... ทุกสิ่งพลันหยุดนิ่งราวกับห้วงเวลาถูกตรึงเอาไว้ รออยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่มีประโยคใดพิมพ์ตอบกลับมาจากปิยภัทรอีก

                และใช่เพียงเท่านั้น ชื่อของปิยภัทรในเว็บบอร์ดพลันหายไปจากรายชื่อสมาชิกที่เห็น นั่นหมายถึง เธอถูกเขา ‘บล็อก’ แล้ว

                ด้วยระบบการจัดการความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ สมาชิกสามารถบล็อกสมาชิกคนอื่นที่ตนไม่ชอบหรือมีพฤติกรรมก่อกวน เพื่อมิให้ถูกรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญในการใช้งานเว็บบอร์ด การที่เธอถูกบล็อกหลังจากจงใจเรียกชื่อเล่นของปิยภัทรที่สืบรู้จากเฟซบุ๊ก แสดงว่านี่คือชื่อเล่นจริง ๆ ของเขา

                และเท่านั้นไม่พอ เมื่อย้อนกลับมาเปิดหน้าเฟซบุ๊ก Pleum Piyapat บัดนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวถูกลบทิ้งไปแล้ว ไม่ว่าจะพิมพ์ชื่อนี้กี่ครั้ง ก็ไม่มีหน้าเฟซบุ๊กที่เธอเพิ่งเปิดไปเมื่อครู่ปรากฏขึ้นมาอีก

                ไม่เปิดเผยตัวตน ไม่ต้องการให้ผู้อื่นสืบรู้อดีต ปริศนาอันลึกลับดำมืดเช่นนี้ สร้างความกระหายใคร่รู้อันเป็นสัญชาตญาณปกติที่มนุษย์ทุกผู้ล้วนมีอยู่ในตัว หากมิใช่เพราะได้รับความช่วยเหลือจนเหมือนกับชุบชีวิตใหม่ให้เธอและครอบครัวเช่นนี้ โชคงไม่สนใจและปล่อยให้ตัวตนของปิยภัทรเป็นปริศนาต่อไป แต่เพราะเธอติดหนี้บุญคุณเขาอยู่มากมายมหาศาลที่ไม่ว่าจะชดใช้อย่างไรก็คงไม่หมด ลางสังหรณ์บางอย่างกระตุ้นเตือนให้เธอเชื่อมั่นว่า ผู้ซุกซ่อนตัวตนอยู่ในเงามืด เผยเพียงร่างสมมติในโลกออนไลน์อย่างปิยภัทร น่าจะมีเหตุผลความจำเป็นอันเป็นปัญหาร้ายแรงสักอย่างในชีวิตของเขา

                ความจริงที่ถูกเก็บงำเอาไว้ โชจะต้องค้นหามันให้พบให้ได้ และหาหนทางตอบแทนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา เพื่อมิให้มีสิ่งใดติดค้างในใจ

 

                เสียงฟันบดเบียดดังกรอดโดยไม่กลัวว่าฟันของตนจะสึกกร่อนจากการขบกัดรุนแรง ดวงตาหลังเลนส์แว่นหรี่เล็กแต่ทว่ากระตุกเกร็งจนเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ มือขวาที่กำเมาส์ บีบอุปกรณ์ขนาดเล็กเสียแน่น จนในที่สุดมันก็หักแตกคามือ

                ลมหายใจระบายเข้าออกหนักหน่วงแสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด ผู้หญิงคนนี้จุ้นจ้านวุ่นวายมากเกินไปแล้ว หากอยู่ต่อหน้า เขาไม่อาจรู้ได้ว่าจะเผลอไผลทำอะไรกับเธอไปบ้างในภาวะขาดสติควบคุมตนเองไม่ได้เช่นนี้

                หน้าจอคอมพิวเตอร์เปิดค้างไว้ที่เว็บไซต์เฟซบุ๊กที่ตนเพิ่งปิดการใช้งานไปเมื่อครู่ เพราะไม่เคยเข้าระบบมาดูนานหลายปี ประกอบกับเมื่อครั้งที่ตัดสินใจลบข้อมูลทุกอย่างในเฟซบุ๊ก ตนก็ยังเด็กและอยู่ในอารมณ์โศกเศร้าเสียใจไร้สติ จึงไม่คาดว่าจะหลงเหลือร่องรอยใดให้คนอื่นสืบสาวมาถึงเช่นนี้

                อาจเป็นการตัดสินใจผิดพลาด ที่ยื่นมือเข้าช่วยผู้หญิงคนนั้น ทำให้เรื่องบานปลายมาถึงตอนนี้ที่เธอพยายามสืบค้นหาตัวตนของเขา ทั้งที่มั่นใจแล้วว่าไม่มีเบาะแสใดให้ผู้อื่นล่วงรู้ได้ แต่เขากลับทำพลาดจังเบ้อเร่อ คล้ายกับการพรางตัวเองในพุ่มไม้ใบบัง แต่ดันสวมเสื้อผ้าสีสดโดดเด่น จนผู้ที่ตามหามองเห็นได้ชัดเจน

                ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจจนมือที่กำแน่นถูกเล็บจิกเข้าไปในเนื้อส่งเลือดซึมไหลออกมา

                ปิยภัทรทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น ก่อนกระชากปลั๊กคอมพิวเตอร์จนหน้าจอดับวูบ สองเท้าพาร่างเดินผลุนผลันเข้าไปในห้องน้ำ เสื้อผ้าถูกถอดโยนออกมาหน้าห้องกระจัดกระจายอยู่ตรงนั้น ร่างเปลือยก้าวพรวดเข้าไปยืนใต้ฝักบัว ก่อนเปิดน้ำให้สายน้ำราดรดชโลมร่างจนเปียกโชก

ชายหนุ่มหวังให้โทสะของตนถูกความเย็นของน้ำชำระล้างลงไปได้บ้าง

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น