11

ตอนที่ 11


๑๑

สัญญาด้วยหัวใจ

 

เสียงข่าวกีฬาในจอโทรทัศน์แว่วมากระทบโสตประสาททันทีที่ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกกว้าง แต่แทนที่จะเห็นเขตพนากำลังนั่งดูทีวีอยู่ตรงโซฟาปลายเตียง ร่างสูงกลับยืนทำบางอย่างอยู่ตรงกระเป๋าสัมภาระของหล่อน

คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นึกไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ เขาจะหยิบชุดชั้นในที่พับเรียงกันอยู่หลายชิ้นออกมา

“ลุง!” นวินดาอุทานลั่น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนจะรีบตรงไปฉวยเอาชุดชั้นในทั้งหมดในมือเขามาซ่อนไว้ด้านหลังทันที

เขตพนาถึงกับตะลึงไปชั่วครู่ แต่ไม่นานต่อมาก็ยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นหล่อนมองเขาตาขุ่นเขียว ทั้งที่แก้มใสเห่อแดงยิ่งกว่าผลมะเขือเทศ

“โรคจิต! ลามก!”

“อะไร” คนตัวโตกว่าย้อนถามกลั้วหัวเราะ ก่อนจะพยักพเยิดไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านหลังตัวหล่อน “ฉันแค่จะเอาไปใส่ลิ้นชักให้ กลายเป็นโรคจิตซะงั้น”

เมื่อนวินดามองตามไปบ้างก็เห็นว่าลิ้นชักถูกเปิดค้างไว้จริงๆ โดยมีชุดชั้นในบางส่วนของหล่อนถูกย้ายไปเก็บไว้เรียบร้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าชุดอื่นๆ ยังถูกแขวนเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว บ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้เจาะจงหยิบแต่ชุดชั้นในอย่างเดียว  

“เห็นเธออาบน้ำนานก็ไม่อยากให้ต้องมานั่งจัดของอีก ทีวีไม่ค่อยมีอะไรน่าดู ฉันอยู่ว่างๆ ก็เลยอยากช่วย ที่ไหนได้...ทำคุณบูชาโทษชัดๆ”

ให้ตาย! ใครร้องขอความช่วยเหลือประเภทนี้กัน

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ” นวินดาค่อนว่า หัวคิ้วขมวดมุ่นก่อนจะเอาชุดชั้นในใส่ลิ้นชักเสียเอง “ของบางอย่างมันก็ส่วนตัวเกินกว่าจะถือวิสาสะจัดให้”

“เป็นสามีภรรยากันแล้วไม่เห็นมีอะไรต้องอาย” เขตพนายังมิวายตามมาแย้งใกล้ๆ ความตกใจกลัวเขาจะเห็นชุดชั้นในทำให้เด็กสาวต้องรีบดันลิ้นชักปิด ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับสามีอีกครั้ง “อีกอย่าง...คืนนั้นฉันก็น่าจะเห็นมากกว่านี้แล้ว จริงไหม”

นวินดาหน้าร้อน ผิดกับชายหนุ่มที่ยิ้มมุมปากเล็กๆ พลางยกมือทาบตู้ ดวงตาพราวระยับเยี่ยงหนุ่มเสเพลดูแตกต่างจากดอกเตอร์มาดขรึมที่เคยรู้จักราวฟ้ากับเหว แบบนี้กระมังเขาถึงพูดกันว่าเหรียญมีสองด้าน และสัญชาตญาณของหล่อนก็ฟ้องว่าด้านมืดของเขาอันตรายมากด้วย!

“เอ่อ...” เด็กสาวไม่รอช้าที่จะค่อยๆ มุดออกจากวงแขนกว้าง ก่อนที่เขตพนาจะหันตามมาหา แล้วเห็นว่าร่างแน่งน้อยถอยหลบไปทางเตียงนอน “ไหนๆ เราก็คุยกันเรื่องนี้แล้ว น้ำผึ้งว่าเรามาเปิดอกกันแบบแมนๆ ไปเลยดีกว่า”

“เปิดอก?” เขตพนาเลิกคิ้ว หรี่ตามองหล่อนเหมือนไม่แน่ใจว่าจะมาไม้ไหน แต่นวินดาตัดสินใจแล้ว หล่อนจะไม่หนีเขาอีกต่อไป

“ลุงก็น่าจะรู้นี่คะ คืนนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะถ้าลุงหน้ามืดมาปล้ำน้ำผึ้งจริงๆ ลุงก็ต้องจำอะไรได้บ้างสิ”

“ก็ฉันเมา” เขตพนาแย้ง หน้าซื่อตาใสจนสาวน้อยร้อยเล่มเกวียนอดคิดไม่ได้ว่าเขาปักใจเชื่ออย่างนั้นไปจริงๆ ได้อย่างไร แต่สังเกตจากรอยยิ้มมุมปาก เห็นทีว่าคงแกล้งโง่มากกว่า

แล้วกันสิ! เขาต้องการอะไรกันแน่

“อีกอย่าง...มีเลือดเปิดบริสุทธิ์ของเธอเป็นหลักฐานคาเตียงแบบนั้น เราจะไม่มีอะไรกันได้ยังไง” ดอกเตอร์หนุ่มสืบเท้ามาใกล้ ความตกใจทำให้หล่อนถอยหลังกรูดไปตามสัญชาตญาณ “หรือว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นเด็กเลี้ยงแกะ แอบเอาเลือดหมูมาหยดเอาไว้”

นั่นปะไรล่ะ! เขารู้ลึกรู้จริงเสียจนไม่เหลือพื้นที่ให้สารภาพบาปแบบนี้ หากยอมรับผิดจริงๆ จะได้ลดหย่อนโทษหรือถูกตัดสินประหารแบบโหดเหี้ยมกว่าเดิมก็ไม่อาจเดาได้

เอาเป็นว่าคีปลุคใสๆ ไปก่อนแล้วกัน

“เอ่อ...ก็...น้ำผึ้งเมาเหมือนกันนี่คะ” เด็กสาวเออออห่อหมกไปตามเรื่องตามราว “น้ำผึ้งมาคิดๆ ดูแล้วมันอาจจะเป็นรอยลิปสติกก็ได้”

“อะไรนะ?”

“แบบในนิยายไง” หล่อนไม่รอช้าที่จะแจกแจงเหตุผล “น้ำผึ้งเคยอ่านนิยายเรื่องหนึ่ง พระเอกนางเอกเมาหลับทั้งคู่ แต่เผลอทำลิปกลอสหกบนผ้าปูที่นอน ตื่นเช้ามาเลยเข้าใจผิดว่าโจ๊ะพรึมๆ กันไปแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรเลย คู่ของเราก็อาจจะเป็นแบบนั้นไงคะ”

“แต่ฉันดูยังไงมันก็ไม่ใช่รอยลิปสติกนะ”

ไม่น่าเลย...หล่อนไม่น่าใช้เลือดหมูเลย!

“งั้นเราก็อาจจะนอนละเมอเตะกันจนได้เลือด เพราะถ้าเรามีอะไรกันแล้วจริงๆ น้ำผึ้งก็ต้องรู้สึกตัวบ้างสิ ลุงตัวใหญ่ขนาดนี้ คงไม่เล็กเท่าไม้จิ้มฟันหรอก” เด็กสาวพยายามแถไปเรื่อย ก่อนจะรีบสรุปโดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาได้จับผิดต่อไป “เอาเป็นว่าน้ำผึ้งขอโทษลุงจริงๆ นะที่ตีโพยตีพาย”

หล่อนยกมือไหว้ ดวงตาวอนขอความเห็นใจ

“น้ำผึ้งก็แค่ตกใจ คงเพราะยังไม่สร่างเมาดีด้วย”

เขตพนาได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าหล่อนจะกล้าพลิกลิ้นง่ายดายแบบนี้ ยิ่งเห็นเขาไม่ตอบโต้ก็ดูเหมือนจะยิ่งลำพองใจเสียอีก

“เพราะงั้น...ในเมื่อเรายังไม่มีอะไรกัน ต่อไปนี้เราก็แยกกันนอนเนอะ ส่วนเรื่องที่เพิ่งจดทะเบียน รอสักพักแล้วค่อยหย่ากันก็ได้”

“ย่าเธอสอนมาแบบนี้เหรอ” ชายหนุ่มถามพลางก้าวมาประชิด เล่นเอาคนตัวเล็กกว่าตกใจ ถอยหนีไปจนเสียหลักล้มลงไปนั่งบนเตียง “แต่งงานนะไม่ใช่เล่นขายของ ถึงได้นึกอยากจะแต่งก็แต่ง แล้วเลิกง่ายๆ อีกอย่าง...เธอเป็นผู้หญิง ถ้าแต่งแล้วหย่าจริงๆ คนอื่นก็มองว่ามีตำหนิ”

ให้ตาย! หัวโบราณเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

“ลุงน่ะ” นวินดาถอนหายใจเล็กๆ “สมัยนี้แล้วเขาไม่ถือกันหรอก”

“แต่ฉันถือ” ชายหนุ่มแย้งด้วยแววตาแน่แน่ว “ฉันไม่เคยคิดอยากแต่งงานหลายครั้ง เพราะงั้นเธอเลิกคิดเรื่องหย่าไปได้เลย”

หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรง อดคิดไม่ได้ว่าเขาหมายความอย่างไร เพราะถ้าเขาไม่ได้พูดส่งๆ เพื่อเอาชนะหล่อนก็เท่ากับว่าเขาตัดสินใจอย่างดีแล้วที่จะมีหล่อนเป็นภรรยา

“ละ...ลุงเอาจริงเหรอคะ”

“ฉันไม่ใช่เด็กแบบเธอ ไม่ชอบทำอะไรเล่นๆ” ราวกับจะตอกย้ำว่าเข้าใจไม่ผิด และคำพูดของเขาก็ทำให้คำพูดประโยคหนึ่งของบื้อลอยเข้ามาในสมอง

‘หรือจริงๆ แล้วลุงหมีจะแอบชอบพี่อยู่ เลยถือโอกาสนี้ตะครุบพี่เอาไว้’

ไม่จริงอะ! แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ภรรยาวัยใสก็อดหน้าแดงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นเขายืนมองหล่อนอยู่จากข้างเตียงแบบนี้

เขตพนาพยักพเยิดไปที่หมอน ความหวาดระแวงว่าจะต้องทำหน้าที่ภรรยาจึงแล่นมาปกคลุมหัวใจมากขึ้น แต่เมื่อการต่อรองไม่ง่ายอย่างที่คิดเห็นทีคงต้องเลยตามเลยไปก่อน

“งั้น...” นวินดาอึกอัก พยายามคิดหาทางเอาตัวรอด “เดี๋ยวน้ำผึ้งไปนอนโซฟานะ ลุงจะได้ไม่ปวดหลัง”

เด็กสาวชี้ไปทางโซฟาเบดพลางยิ้มแห้งๆ แต่ไม่ทันได้ลุกจากเตียงด้วยซ้ำตอนที่ชะงักเพราะเสียงดุๆ ของเขา
                “ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้น ยังเตะปี๊บดัง และที่สำคัญ...ไม่มีสามีภรรยาที่ไหนแยกกันนอน”

“แต่ว่า...” เด็กสาวใจเต้นตึกตัก ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะจริงจังกับการแต่งงานขนาดนี้ ทั้งที่เคยแนะนำเองแท้ๆ ว่าหล่อนควรจะตั้งใจเรียนมากกว่า

“คืนนั้นไม่เห็นกลัวเลยนี่” เขตพนายิ้มพราย ตาพราวระยับจนเด็กสาวอดกลัวไม่ได้ ยิ่งนึกถึงตอนแกล้งละเมอไปกอดเขา เรียกเขาว่าพ่อ หล่อนยิ่งไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขตพนาจะคิดอย่างไร

เขาจะคิดว่าหล่อนให้ท่าไหม...เพราะตอนนี้เขารู้ความจริงหมดแล้ว

ครั้นเห็นชายหนุ่มเริ่มโน้มตัวมาหา นวินดาจึงถอยกรูดด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะทิ้งตัวตามมาปิดกั้นอิสรภาพของหล่อน

“อื้อ...” นวินดายกมือยันไว้ “ปล่อยนะลุง”

“กลัวเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก่อนจะเห็นหล่อนมองตอบโต้ตาขุ่น แต่พอเขาก้มหน้าลงชิดจริงๆ นวินดากลับหลับตาแน่นปี๋ บ่ายหน้าหลบพลางยกแขนกั้นตามสัญชาตญาณ

คนตัวโตกว่านิ่ง ยิ้มมุมปากน้อยๆ ด้วยแววตาขบขัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าผึ้งน้อยจะกำลังสั่น เพราะปรกติหล่อนเคยกลัวอะไรเสียเมื่อไรกัน

ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูนั้นทำให้เขตพนาอดไม่ได้ที่จะอยากจูบจริงๆ เนื่องจากตอนนี้เขาเองก็มีสิทธิ์ในฐานะสามี แต่เวลาเดียวกันก็อยากให้มันเกิดขึ้นในตอนที่หล่อนพร้อมใจมากกว่า

“เอาเถอะ ฉันยังไม่อยากรังแกเด็กตอนนี้”

เด็กสาวค่อยๆ ลืมตามองคนตัวโตตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อหู

“แต่เธอต้องรับปากฉันสามเรื่อง”

“เรื่องอะไรคะ”

ดวงตากลมโตที่รอฟังอย่างกระตือรือร้นนั้นมีแรงดึงดูดต่อสายตาและความรู้สึกเขาเหลือเกิน เขตพนาคิดว่าคงคุยไม่รู้เรื่องแน่ๆ ถ้ายังอยู่ในท่วงท่าที่ร่างกายแนบชิดติดกันแบบนี้  

“เรื่องแรก...” เขาตัดสินใจขยับกายไปนั่งพิงหัวเตียง เด็กสาวจึงไม่รอช้าที่จะรีบลุกไปนั่งห่างๆ เพราะกลัวหมีภูเขาไฟจะเปลี่ยนใจตะครุบอีกครั้ง แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่ได้หนีไปไกล เพราะเชื่อว่าหากเขาอยากจะทำอะไรจริงๆ ก็คงหนีไม่รอดอยู่ดี “ห้ามเรียกฉันว่าลุงอีก”

โธ่เอ๋ย...นึกว่าเรื่องอะไร

นวินดาเริ่มยิ้มออกได้บ้าง ดูเหมือนว่าข้อแม้ของเขาจะไม่ยุ่งยากเหมือนอย่างที่คิด

“เรื่องที่สองล่ะคะ”

“จะไม่หักหลังกันอีก”

ข้อห้ามสั้นๆ ของเขาทำให้คนตัวบางนิ่ง พอจะเดาได้ว่าเขาคงหมายถึงเรื่องถูกหลอกไปแบล็กเมล แต่เอาเข้าจริงแล้วหล่อนก็ไม่ได้อยากทำอย่างนั้นเสียหน่อย เพียงแค่ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนให้พ้นจากอำนาจปกครองของมารดาได้ ซึ่งหากพูดเรื่องนี้ออกไปตรงๆ เขาก็คงไม่เห็นด้วยอยู่ดี ก็เขาหัวโบราณจะตาย คงมีแต่จะพร่ำสอนหล่อนตามหลักความเชื่อในอุดมคติว่าไม่มีแม่คนไหนบนโลกไม่รักลูก แล้วไล่หล่อนไปปรับความเข้าใจกับแม่ละสิไม่ว่า!

ดังนั้น หล่อนไม่ต่อความยาวสาวความยืดดีกว่า

“เรื่องที่สามล่ะคะ”   

“จะไม่มีความลับต่อกัน”

นวินดาอึ้ง หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรงอย่างแปลกประหลาดเพราะแววตาที่มีเงาสะท้อนของหล่อนในนั้น เขาทำราวกับว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริงๆ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อที่ผ่านมาเขามีแต่จะไล่หล่อนไม่ให้ไปกวนใจที่สำนักงาน

“ทำได้ไหม”

“เอ่อ...ก็ไม่ยากนี่คะ” นวินดาผลักเรื่องฟุ้งซ่านออกจากสมอง เพราะอย่างไรเสียหล่อนก็เป็นคนดึงเขามาอยู่ในพันธะนี้เอง หากจะทำในสิ่งที่เขาต้องการบ้างก็ยุติธรรมดี อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าจะตกลงเรื่องหย่ากันได้

เด็กสาวตัดสินใจยื่นนิ้วก้อยไปหาแทนคำสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่เขาไม่ชอบอีก แต่นอกจากเขาจะไม่ยอมเกี่ยวก้อยด้วยแล้ว ดวงตาคมๆ คู่นั้นยังมีประกายขบขัน

“ผู้ใหญ่เขาไม่สัญญาแบบนี้”

นวินดาหน้าชา ลืมไปเสียสนิทว่าเขาเลยวัยที่จะเกี่ยวก้อยแบบเด็กๆ มานานเต็มที ส่วนหล่อนเองก็ควรจะพยายามปรับตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพราะได้ชื่อว่าบรรลุนิติภาวะแล้วด้วยการสมรส

“งั้นต้องสัญญาแบบไหนคะ” ถามไม่ทันไร สามีทางนิตินัยก็ค่อยๆ ยื่นหน้ามาใกล้

ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใจเต้นโครมครามเพราะความนัยบางอย่างที่พราวระยับอยู่ในแววตาคู่คม แต่ก่อนที่เขาจะตอบคำถามของหล่อนจริงๆ หล่อนก็ฉุกคิดบางอย่างได้

“รู้แล้วค่ะ ผู้ใหญ่สัญญาด้วยหัวใจเนอะ” ว่าแล้วคนตัวบางก็รีบซุกตัวลงนอนใต้ผ้าห่ม ทั้งยังนอนตะแคงหันหน้าไปอีกทางจนชายหนุ่มอดขำไม่ได้ พอเห็นหล่อนแกล้งทำเป็นหลับง่ายดายตามประสาคนชอบตีเนียน แก้มใสๆ นั้นจึงดึงดูดให้เขาก้มลงไปหอมฟอดใหญ่

“ลุง!” นวินดาหันขวับมาหา ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับยกมือทาบแก้มหน้าตาตื่น แต่นอกจากที่สามีจะไม่รู้สึกผิดแล้วยังยิ้มชอบใจอีกด้วย

“ทำโทษที่หนีไปปีนต้นไม้เมื่อเย็น”

ข้ออ้างของเขาทำเอาเด็กสาวได้แต่เผยอปากอย่างนึกอยากประท้วง แต่เวลาเดียวกันก็รู้ว่าตัวเองผิดจริง และอย่างน้อยการที่เขาทำโทษแค่นี้ก็ยังดีกว่าแบบที่จินตนาการเอาไว้อักโข ยิ่งอยู่ใกล้กันแค่คืบ ภาพเรต ๑๘+ ในหัวยิ่งคุกคามจนอดกลัวไม่ได้ว่าถ้าเกิดเถียงไปคำหนึ่งแล้วเขาเกิดปิดปากด้วยจูบแบบพวกพระเอกนิยายจะทำอย่างไร

เพื่อความปลอดภัย...นวินดาจึงได้แต่เม้มริมฝีปากเบาๆ แล้วล้มตัวลงนอนตะแคงหันไปทางเก่าอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะก้มลงมาหอมแก้มอีกฟอด เล่นเอาหล่อนถึงกับดีดตัวขึ้นนั่งอย่างไม่คิดไม่ฝัน

“ทำโทษที่เรียกลุงเมื่อกี้”

หน็อยแน่ะ! นวินดาชักเริ่มแค้น หมั่นไส้คนฉวยโอกาสจนหมดความอดทนที่จะปล่อยให้เขารังแกฝ่ายเดียว

“ขอโทษค่ะ ปู่!” หล่อนกระแทกเสียงตรงคำสุดท้าย

คนถูกเรียกว่า ‘ปู่’ ถึงกับตะลึง แต่เวลาเดียวกันก็ไม่แปลกใจที่เจอพิษผึ้งเข้าอีกคำรบ

“จะไฟต์ใช่มั้ย” เขตพนาขยับตัวเข้าหา อยากรู้เหมือนกันว่าผึ้งน้อยจะกล้าฝังเหล็กในใส่เขาทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องท้องแตกตายจริงๆ หรือเปล่า แต่แล้วก็เห็นหล่อนได้แต่เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง

ก็อยากจะไฟต์อยู่หรอก แต่ในเมื่อรู้ว่าไม่ได้อยู่ในสถานะเป็นต่อ เด็กสาวก็ฉลาดพอที่จะสงบเสงี่ยมเจียมตัว เรื่องอะไรจะแกว่งปากหาเรื่องให้ถูกเอาเปรียบเล่า

“น้ำผึ้งจะนอนแล้วค่ะ พี่หมี”

สรรพนามใหม่ที่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีทำให้ชายหนุ่มยิ้ม เห็นหล่อนล้มตัวลงนอนท่าเดิมอีกครั้งพลางดึงผ้าห่มคลุมโปงมิดชิดราวกับจะป้องกันภัยไม่ให้เขาหอมแก้มอีก คนเป็นสามีเลยอดขำนิดๆ ไม่ได้

ยอมรับว่าที่จริงก็ไม่ได้คิดอยากเอาเปรียบหล่อนนัก เขตพนาพอจะมองออกว่าเด็กสาวน่าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง ถึงได้วางแผนจดทะเบียนสมรสกับเขา ซึ่งถ้าเดาไม่ผิด...ปัญหาของนวินดาน่าจะเกี่ยวข้องกับแม่ สังเกตจากตอนอยู่ที่ว่าการอำเภอ หล่อนดูระแวงกลัวแม่พอควร ส่วนสุดารัตน์เองก็ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไร ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่อยากทำอะไรให้หล่อนผิดหวัง

เขาจะเป็นคนดีของหล่อน จะเป็น ‘บ้าน’ ของหล่อนตลอดไป

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น