1

ตอนที่ 1


1

 

                แสงไฟหลากสีส่องกระทบเรือนร่างหนุ่มสาวซึ่งเบียดเสียดโยกย้ายตามจังหวะเพลง หนุ่มหล่อสาวสวยจำนวนมากต่างยกแก้วจิบสลับชนทักทาย แม้เวลานี้จะเข้าสู่วันใหม่ แต่ที่นี่ ‘มหานครนิวยอร์ก’ ไม่เคยหลับใหล ดวงตากลมโตมองกวาดรอบตัว หาช่องทางหลบหนีจากปาร์ตีสุดเหวี่ยงที่ไม่รู้จะหยุดสังสรรค์กันเมื่อไร

ก่อนหน้านี้นางแบบนายแบบร่วมหกสิบคนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย โชว์ชุดของแบรนด์ดังระดับโลก ‘เบอเบอร์รี’ ซึ่งร่วมกับพาร์ตเนอร์ชิปจัดแสดงโชว์คอลเล็กชันล่าสุดของฤดูหนาว

นาถลัดดา เพชรจำรัส สาวลูกครึ่งไทย-รัสเซีย หันซ้ายมองขวา เธอไม่ได้ดื่มจัดเหมือนเพื่อนร่วมอาชีพ หรือจะพูดให้ถูก เธอไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยต่างหาก เพราะหวั่นกลัวว่าน้ำสีชาจะทำให้เกิดวิกฤติชีวิตเช่นที่มารดาเคยเผชิญ แต่ด้วยสังคมที่อยู่นั้นมีทั้งเหล้าและยาเสพติดหลากหลายชนิดให้ลิ้มลอง บวกกับรายได้จำนวนมาก แค่เดินอวดโฉม เพื่อนนางแบบบางคนจึงเผลอไผลลิ้มลองจนติดและเสียอนาคต เธอบอกตัวเองตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการรันเวย์ ย้ำตลอดว่าห้ามข้องเกี่ยวกับอบายมุข เธอทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวและสร้างอนาคตที่มั่นคง

“จะไปไหน...แนนนี่”

เสียงอ้อแอ้ดังชิดใบหน้านาถลัดดา เมื่อนางแบบเชื้อสายดัชต์โน้มหน้าแนบชิดลำคอและซบราวหมดแรง ก่อนจะโยกตัวเมื่อจังหวะเพลงเปลี่ยนเป็นฮิปฮอป

“ฉันจะไปพัก” ลูกครึ่งไทย-รัสเซียเอ่ยบอก พร้อมรั้งตัวนางแบบชาวดัตช์นั่งบนโซฟา ส่ายหน้าเมื่อเพื่อนร่วมอาชีพซบนิ่งไร้สติไปเสียแล้ว

“ดื่มจนหมดสติ จะรอดไหมคืนนี้ มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น”

เธอบ่นงึมงำ ที่รู้ว่ามีเสือร้ายอยู่ในนี้ เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเธอเพิ่งถูกชายหนุ่มแปลกหน้าแต่ไม่แปลกตาเข้ามาทักทายพร้อมยกแก้วชน เธอกับเขาไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน แต่นาถลัดดาเคยเห็นภาพข่าวฉาวของชายคนนั้นกับสาวสวยมากหน้าหลายตาบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารซุบซิบดารา

เขาคือ ‘คีริลล์ ซาโกเยฟ’ นักธุรกิจยานยนต์จากรัสเซีย หนุ่มหล่อที่สาวๆ คนไหนก็อยากครอบครอง เพราะหลงใหลในความดิบเถื่อน ภาพลักษณ์แบดบอยที่ดูน่ากลัวแต่ชวนค้นหาเพราะความท้าทาย สาวสวยสุดแสนมั่นใจบางคนอยากจะเล่นกับไฟ แต่จากที่รู้ ไม่เคยมีสาวคนไหนรอดพ้นเปลวไฟ ถูกเผาผลาญจนต้องหลบไปรักษาแผลใจเป็นจำนวนมาก ชื่อเสียงของคีริลล์ดูน่ากลัวจนเธอไม่อยากข้องเกี่ยว และหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ามาตลอด

“สงสัยต้องพาไปส่งห้อง” เธอหันไปเรียกพนักงานของผับมาช่วยประคองนางแบบชาวดัตช์ไปส่งห้อง กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จก็แทบหมดแรง เพราะคนเมาโวยวายไปตลอดทาง นี่หากไม่เห็นแก่มนุษยธรรมคงจะปล่อยเมรีขี้เมาไว้ในผับแห่งนั้น

“ใจดีจังนะครับ” เสียงนั้นฟังดูเหมือนกำลังเยาะเย้ย ไม่ใช่เอ่ยชม

นางแบบลูกครึ่งหันดวงตาวาวโรจน์ไปจับจ้อง ก่อนจะต้องเม้มปากแน่น เป็นเขาอีกแล้ว ผู้ชายที่เธอพยายามเลี่ยง ดวงตากลมโตมองข้ามไหล่สูง หวาดระแวงและหวั่นกลัวเพราะตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีใครนอกจากเขากับเธอ หากไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ผู้ชายคนนี้แอบตามเธอมา

“ค่ะ ขอตัวนะคะ อยากพัก” เธอเบี่ยงตัวเดินหลบ แต่มันไม่ง่าย เพราะตอนนี้ร่างสูงมายืนบังทางเดิน แล้วยังเท้าแขนกับกำแพงตึก พร้อมเงยหน้าสบตาหวั่นกลัว ยิ้มมุมปากเหมือนเขากำลังขำท่าทางของเธอ

“ผมอยากรู้จักคุณ” คนเสียงนุ่มเอ่ยบอก แววตาเหมือนจะจริงจัง แต่มันไม่ใช่ เขากำลังรวนต่างหาก

“เท่าที่จำได้ ฉันบอกไปหลายครั้งแล้วว่า...ขอไม่รู้จักคุณ ไม่อยากถูกเพื่อนร่วมอาชีพเขม่น”

ใช่...การรู้จักกับ คีริลล์ ซาโกเยฟ นั้นต้องระวัง เกิดสาวที่ถูกเขาหักอกไม่เข้าใจ คิดว่าเธอเป็นมือที่สามเข้าไปสอดการสานสัมพันธ์จะถูกหมายหัวแบบไม่รู้ตัว ซึ่งเธอไม่อยากเจอเรื่องไร้สาระแบบนั้น เธอมาที่นี่เพื่อทำงาน และอยู่อย่างสงบในเส้นทางนางแบบมาร่วมสิบปี ไม่เคยสุงสิงกับผู้ชายคนไหนให้เดือดร้อนเพราะเรื่องชู้สาว

“หึๆ” ชายหนุ่มยิ้มแล้วทำเสียงในคอ จ้องใบหน้าสวยหวานแต่เก๋ที่มองไม่รู้เบื่ออย่างจริงจัง บอกอีกฝ่ายทางสายตาว่า ‘เขาต้องการเธอ’ และต้องได้

จากแววตาจริงจังเปลี่ยนเป็นแพรวพราวสื่อนัยไปทางชู้สาว กวาดมองตั้งแต่หน้าผากถึงกลางอกเธอ จนคนถูกมองเบี่ยงตัวหลบ

“ขอตัวค่ะ” หญิงสาวหันหนีนัยน์ตาพราวระยับ หลายครั้งแล้วที่ได้รู้ว่า อย่ากล้าสบตาหนุ่มวายร้ายอย่างคีริลล์ ต่อให้หัวใจแกร่งพร้อมสู้แค่ไหน แต่ความรู้สึกอ่อนล้าอย่างยิ่งยวดจะเกิดขึ้นในบัดดลเมื่อเผลอมองสบ และครั้งนี้ก็เช่นกัน หัวใจภายในอกสั่นรัวและถี่เร็วมากขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มยั่วเย้าส่งมา เขาอันตรายสำหรับหัวใจเธอ แต่ยังโชคดีอยู่ว่ากำแพงที่สร้างล้อมแบ่งแยกผู้ชายเจ้าชู้ไว้นอกอาณาจักรยังแกร่งพอจะต้านทาน

หญิงสาวเดิน แต่พยายามทำอย่างมีชั้นเชิง ไม่ให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทางอยากวิ่งหนี

“อะไรที่ผมอยากได้ ผมต้องได้”

เสียงเขายังตามรังควาน แต่นาถลัดดาไม่อยู่ฟังหรือกล้าหันกลับไปท้าทาย เร่งรีบเดินขึ้นห้องพัก และล็อกประตูอย่างแน่นหนา พร้อมกับปิดหัวใจใส่กลอน ผู้ชายอย่างคีริลล์ไม่ควรพามาไว้ข้างกาย หากเธอไม่อยากเจ็บแบบที่มารดาเจ็บ

ฝ่ายชายหนุ่มยิ้มหัวเราะ สนุกเมื่อได้แกล้งลูกกวางน้อย นาถลัดดาตื่นตูมจนน่าขำ เธอเหมือนแม่ชีที่หลงเข้ามาในผับ ข่าวที่แว่วลือนั้นคงจะจริง ผู้หญิงคนนี้เก็บตัว ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนไหน เอาแต่ทำงาน กลับห้อง เห็นแล้วมันน่าจับมาขบเนื้ออ่อนเสียจริง เขาต้องหาทางเข้าถึงตัวแม่กวางน้อยช่างตื่นตูมนั่นให้ได้

 

เมื่อชายหนุ่มเดินห่างออกจากจุดนั้น หญิงสาวที่ซ่อนตัวในเงามืดก็ก้าวออกมาพร้อมกับแสยะยิ้ม เธออยู่ตรงนี้ตั้งแต่นาถลัดดาเดินมาเจอกับคีริลล์ ได้ยินทุกคำพูดของสองหนุ่มสาว นาถลัดดาทำเหมือนไม่อยากข้องเกี่ยวกับชายหนุ่มที่สาวๆ มากมายต่างอยากได้และครอบครอง คิดมาถึงตรงนี้มุมปากของเธอก็เบ้บิด นาถลัดดาคงคิดว่าคนอื่นโง่ ถึงได้สร้างภาพลักษณ์เด็กดีสุดแสนบริสุทธิ์ กระตุ้นให้ชายหนุ่มมากมายอยากครอบครองสาวคนดีเช่นเธอ ทั้งที่ความจริงแล้วนาถลัดดานั้นร้ายลึก และเธอเองก็คงคิดว่านางแบบคนนั้นนิสัยดี หากไม่รู้เช่นเห็นชาติกันเสียก่อน

“อย่าว่ากันเลย เธอมายุ่งกับของของฉันเอง”

เธอเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดแล้วเดินกลับเข้าไปในโรงแรมหรู ทุ่มตัวนอนซบหน้ากับหมอนสีขาว ชั่วชีวิตเธอเป็นที่หนึ่งมาตลอด ไม่เคยถูกผู้ชายทิ้ง มีแต่ทิ้งผู้ชาย แต่แล้วคนที่เธอรักสุดหัวใจกลับไม่เคยเห็นค่าความรัก รักแรกที่เธอทุ่มถวายทั้งหัวใจกลับได้มาแค่ความว่างเปล่า

“ที่รัก...คุณจะตัดรอนฉันเพราะยายนั่นจริงๆ เหรอ” เธอนอนร้องไห้ขณะกดโทร. หาชายหนุ่มที่คงอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งในนิวยอร์กกับนางแบบลูกครึ่งนั่น

“...” มีเพียงความเงียบตอบกลับ และตามมาด้วยเสียงตู๊ดๆ บ่งบอกว่าปลายสายตัดสัญญาณไปแล้ว

การกระทำของเขายิ่งโหมกระพือความเกลียดชังในตัวนางแบบรัสเซีย ซึ่งเธอไม่ยอมรับความเจ็บปวดไว้คนเดียวแบบนี้

ภาพเคลื่อนไหวของสองหนุ่มสาวที่พบกันโดยบังเอิญถูกส่งไปถึงเป้าหมายที่ใครๆ ก็รู้ว่าหวงคีริลล์มากแค่ไหน แม้แต่ตัวเธอเองยังเคยถูกประกาศิตให้เลิกติดต่อกับคีริลล์ ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าของแบรนด์บอนนี่ยังไม่ได้คบหากับเจ้าของบริษัทยานยนต์จากรัสเซียอย่างจริงจัง

 

                สิ่งที่นาถลัดดาคาดการณ์หวั่นว่าจะพบเจอเมื่อเข้าไปพัวพันกับนักธุรกิจยานยนต์ของรัสเซียนั้น ไม่ใช่เรื่องคิดมากเกินเหตุ เพียงแค่ข่าวการแอบนัดพบระหว่าง ‘นาถลัดดา’ กับ ‘คีริลล์’ รู้มาถึงหูผู้บริหารแบรนด์บอนนี่ หญิงสาวก็ได้รับเกียรติพบเจอตัวจริงของหญิงสาวที่สวยหยาดฟ้า หุ่นของเอเดียน่าเซ็กซี่ด้วยอกอิ่มรับกับเอวคอด ขายาวเรียวดั่งแท่งเทียนส่งให้เธอสูงสง่าราวนางพญา ใช่...เอเดียน่าคือนางพญา แต่เป็นนางพญามารสำหรับเหล่านางแบบ

                “ได้ข่าวว่าเมื่อคืนเธอคุยกับคีริลล์”

นางแบบสาวเม้มปากขณะก้มสวมรองเท้า นอกจากนางแบบ ดารา นักร้อง เขายังพัวพันกับ เอเดียน่า เจนเน่อ ทายาทแบรนด์บอนนี่ งานเข้าแน่ หากตอบไม่ถูกใจหญิงสาวผู้มีอิทธิพลในวงการแฟชั่นลอนดอน ถึงตอนนี้จะนั่งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ซึ่งอิทธิพลของเอเดียน่าทำร้ายเธอไม่ได้ แต่นาถลัดดาไม่อยากเสียโอกาสร่วมงานกับดีไซเนอร์ดังๆ คนอื่นซึ่งค่อนข้างสนิทสนมกับเอเดียน่า

“ค่ะ แต่เราเจอกันโดยบังเอิญ ตรงทางเดิน”

“เขาชวนเธอคุยอะไรรึ” เอเดียน่าฉลาดที่จะยิ้มให้คู่สนทนา ทำเหมือนกำลังกล่อม แน่ละ ใครๆ ต่างก็รู้ว่า นางแบบลูกครึ่งไทย-รัสเซียคนนี้ค่อนข้างหัวอ่อน ทำแต่งาน ไม่สุงสิงกับอบายมุข เดินแบบเสร็จก็กลับห้อง เป็นเด็กดีจนคล้ายว่าเธอคือหงส์ในฝูงกา แต่นิสัยแบบนี้มันมีผลต่อผู้ชายที่อยากเอาชนะผู้หญิง

“แค่เอ่ยขอโทษกันค่ะ บังเอิญเราใจตรงกัน เดินไปทางเดียวกันจนเกือบชน ฝ่ายสเตจเรียกแล้ว ดิฉันขอตัวนะคะ”

นาถลัดดาในชุดว่ายน้ำวันพีซเว้าสูง สวมรองเท้าส้นเตารีด เดินเลี่ยงไปยืนรอขึ้นเวที เสียงถอนใจดังอยู่หลายครั้งแข่งกับท่วงทำนองเพลงด้านนอก จะไม่ให้หนักใจได้อย่างไร เมื่อเพื่อนร่วมอาชีพหันมองและซุบซิบกันบ่อยครั้ง ชีวิตที่ราบเรียบมาตลอดจะต้องเดือดร้อนเพราะผู้ชายคนนั้นหรือไร ยิ่งคิดยิ่งเกลียดเพลย์บอยใจร้ายคนนั้น

หรือจริงๆ แล้วเธอเกลียดผู้ชายที่มีนิสัยคล้ายบิดา ซึ่งทำร้ายมารดาด้วยความเจ้าชู้

 

หลังจากเดินแบบเสร็จที่แรก นาถลัดดาเปลี่ยนชุดแต่งกายแล้วรีบวิ่งไปเรียกแท็กซี่ เธอต้องเดินทางไปอีกฟากหนึ่งของมหานครนิวยอร์กเพื่อพรีเซนต์ตัวเองต่อมอเดลลิงเจ้าอื่น สองมือหอบหิ้วของพะรุงพะรัง เหนื่อยแต่สู้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน แม้บางครั้งจะท้อจนน้ำตาคลอ แต่เพราะอยู่คนเดียวบนโลกนี้จึงต้องขยันทำในวันที่มีแรง

“ผมไปส่ง” เสียงกังวานดังอยู่ด้านหลัง

แม้ไม่หันมอง นาถลัดดาก็รู้ว่าใครคือคนที่เอ่ยคำพูดนั้น หน้าอกอวบอิ่มยกสูงก่อนจะทิ้งตัว รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการตามตื๊อของผู้ชายคนนี้ สีหน้าและแววตาของเอเดียน่ายังตามหลอกหลอน ถ้าหล่อนมาเห็นภาพตอนนี้ ชีวิตบนรันเวย์ของเธอคงสะดุด

“แท็กซี่” คนเสียงหวานใสตะโกนขึ้นพร้อมกวักมือเรียก นาถลัดดาไม่สนใจคนด้านหลัง กระโจนเข้าไปในรถพร้อมเอ่ยบอกสถานที่เป้าหมาย เมื่อรถเคลื่อนตัวห่างออกไป สายตาอยากรู้ก็มองด้านหลัง เห็นชายหนุ่มในชุดสูทแบรนด์ดังยืนล้วงกระเป๋ามองจ้องมาทางเธอ

                “สงสัยเธอจะไม่สนใจเจ้านายจริงๆ” อังเดรเอ่ยลอยๆ จนได้รับสายตาดุกร้าว เลยต้องก้มหน้าซ่อนแววตาเริงร่า ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเห็นเจ้านายวิ่งตามผู้หญิง มีแต่สาวๆ เหล่านั้นกระโจนเข้าหาจนผลักออกแทบไม่ทัน แต่นาถลัดดากำลังทำในสิ่งที่ท้าทายความต้องการของคีริลล์

                “เธอไม่สน แต่ฉันสน คนอย่างคีริลล์ไม่เคยผิดหวัง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ยิ่งหนียิ่งท้าทาย วันที่ฉันปราบจนอยู่หมัดคงสะใจพิลึก แกไปสืบมา นาถลัดดาไปทำงานที่ไหน เอาตารางงานทั้งเดือนนี้มา มันจะยากนักหรือไงกับการจับผู้หญิงสักคนมานอนเคียงข้าง ศัตรูร้ายๆ ชายทั้งแท่งฉันกำราบมานักต่อนัก แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ถ้าฉันจัดการไม่ได้ แกไม่ต้องเรียกฉันว่าคีริลล์”

                “ครับ” เมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของเจ้านาย อังเดรก็ได้แต่ก้มหน้ารับคำ สงสารก็แต่นางแบบสาวที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ยิ่งหนียิ่งกระตุ้นให้เจ้านายอยากครอบครองตัวเธอ

                ฝ่ายคนหมายปองยืนเม้มปาก รู้สึกเสียหน้าจนต้องกำราบนาถลัดดาให้อยู่หมัด รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น

 

                นาถลัดดากระโดดตัวลอย เมื่อได้ยินเสียงทีมงานคัดเลือกตัวนางแบบชุดชั้นในแบรนด์ดัง ‘แองเจิ้ล’ ประกาศเรียกชื่อตัวเอง นางแบบสาวเดินไปยังฝั่งที่ทีมงานกำหนดไว้ ยิ้มทักทายนางแบบคนอื่น สิ่งที่เธอวาดฝันมาตลอดการทำงานบนรันเวย์คือได้เป็นหนึ่งในนางฟ้าของแบรนด์แองเจิ้ล และวันนี้สิ่งที่รอคอยมาตลอดก็ประสบความสำเร็จ หลังเสร็จสิ้นการคัดตัว คนแรกที่เธอโทร. หาคือ อิวานอฟ คาริน ลูกพี่ลูกน้องที่คอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบมาร่วมสิบกว่าปี

                “พี่เอียน แนนนี่ได้เป็นนางแบบของแองเจิ้ลแล้วนะคะ” บอกกับคนปลายสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ

                “เหรอ แล้วไง” เขาตอบรับเสียงเนือยๆ

                “ทำไมทำเสียงเหมือนไม่ดีใจกับน้องเลยล่ะพี่เอียน” น้ำเสียงคนถามดูเริงร่า และกำลังขำพี่ชาย

เธอคาดว่าตอนนี้เขาคงกำลังหน้าบูดบึ้ง อิวานอฟไม่อยากให้เธอทำงานในวงการนี้ ต้องการให้กลับบ้านไปเรียนรู้งานบริหารมากกว่า

                “พี่ไม่ดีใจกับเธอหรอกนะ บอกเลย” ชายหนุ่มกัดฟันตอบ

                “แนนนี่แค่โทร. มาบอกให้พี่รู้ว่าดีใจมากแค่ไหน ไม่ได้จะฟังพี่ห้าม”

หญิงสาวสวนกลับ แต่น้ำเสียงยังคงร่าเริงเช่นเดิม เธอวาดฝันมาตลอดการเป็นนางแบบ อยากมีคำว่า ‘นางฟ้า’ ติดท้ายชื่อ เมื่อโอกาสนั้นมาถึง เธอจะไม่ดีใจได้อย่างไร

                “จะไม่เปลี่ยนใจแน่ใช่ไหม” ชายหนุ่มถามย้ำ

                “แนนนี่ไม่มีวันเปลี่ยนใจ กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ แนนนี่ต้องเหนื่อยมากแค่ไหน พี่ก็รู้” เธอตอบน้ำเสียงจริงจัง

ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เธอต้องตะเกียกตะกายก้าวเข้าสู่วงการนางแบบ เพราะวงการนี้คือแหล่งหาเงิน ผ่านการร้องไห้ ผ่านการดีใจมาตลอดนับสิบปี และคนเดียวที่รู้ว่าเธอร้องไห้หรือดีใจคืออิวานอฟ ชายหนุ่มคอยเป็นที่ปรึกษา คอยเป็นกำลังใจ ทำให้เธอสู้มาได้จนถึงทุกวันนี้

                “โอเค พี่ยอมรับการตัดสินใจของเธอ แล้วก็เตรียมใจรับผลที่เกิดขึ้นไว้ด้วย” อิวานอฟถอนใจ ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจสาวทิฐิสูงได้หรอก เขารู้ดี

                “น้ำเสียงพี่ไม่ค่อยพอใจเลยนะคะ โอเค เพื่อเป็นการปลอบขวัญ แนนนี่จะไปเมืองไทยกับพี่เอียนก็ได้ หลังจากเดินแบบของแองเจิ้ลเสร็จ แนนนี่จะตามไปที่สนามบิน ปีนี้งานจัดที่ลอนดอน พี่กำลังไปลอนดอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้แนนนี่ด้วยแล้วกัน จะตามไปเป็นผู้ช่วยระหว่างพักงานเดินแบบชั่วคราว”

เมื่อสองวันก่อนอิวานอฟมาทำธุระที่นิวยอร์ก จึงนัดเธอไปรับประทานอาหารว่างระหว่างรอเวลาประชุมกับกลุ่มลูกค้า ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน พี่ชายจะชวนกลับมอสโก บอกให้เลิกทำงานเดินแบบ แต่เธอตัดสินใจตั้งแต่ก้าวออกจากบ้านแล้วว่าจะไม่มีวันกลับไปที่นั่น เธอเปรยกับอิวานอฟหลายครั้งว่าอยากไปคัดตัวของแองเจิ้ล เมื่อได้ยินพี่ชายรีบห้ามขึงขังจริงจังเธอจึงต้องหยุดเล่าเรื่องคัดตัว เจอกันเมื่อวันก่อนก็ไม่กล้าบอก รอให้ได้ผลแล้วค่อยโทร. หา

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด อิวานอฟไม่ค่อยพอใจเท่าไร เลยต้องเอาใจด้วยการตามไปประเทศไทย อิวานอฟอยากให้เธอศึกษางานบริหารมากกว่าเดินแบบ เวลามาทำงานที่ยุโรปหรืออเมริกา ถ้าเธอว่างเขามักชวนไปด้วยเพื่อเรียนรู้การทำงาน และคนทั่วไปก็มองแค่ว่าเธอเป็นคู่รักของ อิวานอฟ คาริน ไม่มีใครรู้ว่านางแบบอย่างเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมือขวาของ โบริส ยูราซอค ประธานบริษัทโกลพรอมกรุ๊ป

                “ครับผม คุณน้องสุดประเสริฐ พี่รู้สึกดีมากที่น้องปลอบพี่ด้วยการไปดูงานที่เมืองไทยกับพี่ แต่ถ้าอยากให้พี่หายเครียด เดินไปบอกทีมงานซะว่าขอถอนตัว แล้วรีบซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมอสโก”

                “ไม่มีทางค่ะ แค่นี้นะคะ แนนนี่จะพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นมาออกกำลังกายแต่เช้า แล้วเจอกันที่ลอนดอนค่ะ” นางแบบสาวเอ่ยเสียงใสแล้วตัดสาย

                คนที่นั่งรอเวลาเดินทางไปลอนดอนในท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดีฟังแล้วถอนใจ ลุงไม่พอใจมากที่นาถลัดดาเลือกทำงานแนวนี้ ท่านอยากจะปั้นลูกสาวคนโตให้เก่งกล้าพร้อมต่อกรกับเสือร้ายทางธุรกิจ เพราะลูกสาวอีกคนค่อนข้างจะไม่ได้เรื่อง สั่งเขาให้กล่อมนาถลัดดา บอกให้เธอหยุดทำงานในวงการแฟชั่น เขาพูดมาตลอดทุกครั้งที่เจอหน้า แต่ไม่เคยได้ผลสักครั้ง

                “ไปเมืองไทยคราวนี้คงต้องหาทางกล่อม โกลพรอมกรุ๊ปต้องการคนสืบทอด และแนนนี่เท่านั้นที่จะช่วยกู้วิกฤติ” ชายหนุ่มพึมพำ เริ่มวางแผนดึงน้องสาวกลับไปทำงานของครอบครัว ทิ้งทิฐิและเลิกต่อต้านบิดาสักที

 

เมื่อรู้ผลการคัดเลือก นางแบบของแองเจิ้ลก็ต้องเข้าเก็บตัวเตรียมพร้อมสำหรับแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเดอะลอนดอนอิดิชั่น กลางกรุงลอนดอน เพื่อถ่ายวิดีโอพรีเซนเตชันและเข้าคอร์สออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์ม และวันนี้เหล่านางแบบก็เริ่มทยอยเข้ามาเช็กอินที่โรงแรมดังกล่าว

นาถลัดดาวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงแล้วยิ้มให้เพื่อนร่วมห้อง ซึ่งเธอต้องใช้ชีวิตร่วมกับนางเอกเชื้อสายรัสเซียคนนี้นานมากกว่าสิบวัน

“สวัสดีค่ะ ฉันนาถลัดดา” หญิงสาวเริ่มทักทายก่อน พร้อมยื่นมือให้หญิงสาวบนเตียงแตะสัมผัสทักทาย

“สวัสดี ฉัน วาเรีย แซมซอฟ” วาเรียแนะนำตัวและยิ้มอ่อน ก่อนจะพยักหน้าไปทางเตียงที่ว่างอยู่

“ดีใจที่ได้เป็นเมตกับคุณ ฉันติดตามงานของคุณมาตลอด คุณดังมาก เพิ่งถ่ายแบบของชาเนลคอนเล็กชันล่าสุดใช่ไหม”

นาถลัดดาหาเรื่องคุย เธอจำภาพถ่ายผลงานล่าสุดของ วาเรีย แซมซอฟ ได้ ซึ่งสวย เซ็กซี่ แต่ดูหรูมีระดับ ราวเจ้าหญิงสวยเซ็กซี่ท่ามกลางดงดอกไม้ โดยมีหนุ่มหล่อชวนฝันคุกเข่ารายล้อม

“ใช่ ชมแต่ฉัน เธอเองก็กำลังฮอตนะนาถลัดดา บก. แฟชั่นของแอลชมเธอตลอด ฉันได้ยินระหว่างทำงานร่วมกับหล่อน”

วาเรียเอ่ยยิ้มๆ มองสำรวจใบหน้าส่วนผสมระหว่างเอเชียกับรัสเซีย คงต้องยอมรับว่านาถลัดดานั้นสวยหวานมองไม่เบื่อ ใบหน้าเก๋ชวนมองนั้นจะเปลี่ยนไปตามการแต่งหน้า ทำให้เจ้าของแบรนด์สินค้าสนใจในตัวนาถลัดดา

แต่ประเด็นสุดฮอตในตอนนี้ที่นางแบบหลายคนแอบซุบซิบกันคือ เธอกำลังเป็นเป้าหมายของ คีริลล์ ซาโกเยฟ และถูกเอเดียน่าบุกไปถามไถ่เรียบร้อย คิดมาถึงตรงนี้มุมปากของวาเรียก็ยกขึ้นเหมือนแสยะยิ้ม ก่อนจะคลายออก

“จริงเหรอ” นาถลัดดาถามยิ้มๆ แล้วรื้อเสื้อผ้าออกมาจัดเรียงใส่ตู้

ฝ่ายวาเรียหันไปหยิบโทรศัพท์และกดโทร. หาชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้น่าจะประชุมอยู่ที่ลอนดอน และเป็นเช่นเดิม เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ เธอโทร. ซ้ำ แต่ครั้งนี้เสียงรอสายไม่ได้ยาวนานเพราะเขากดตัดสาย น้ำตาแห่งความอ่อนแอเอ่อคลอดวงตาสีฟ้า

“เอ่อ...เป็นอะไรหรือเปล่าวาเรีย” นาถลัดดาอยากถามมากกว่านี้ แต่เธอเพิ่งได้รู้จักกับวาเรีย ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวมากนัก หากนางแบบรัสเซียคิดว่าเธอยุ่งเกินไป ความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มจะสะดุด คู่เมตอาจไม่อยากคบต่อ

“เธอกำลังคบกับใครอยู่ไหมนาถลัดดา”

“ไม่มีนะ” นาถลัดดายอมรับว่างง เหตุใดวาเรียถึงถามเช่นนี้ หรือว่า...วาเรียกำลังมีปัญหากับคนรัก

วาเรียสวมกอดนาถลัดดานิ่งๆ แล้วถอนตัวออก ยิ้มให้นางแบบร่วมห้อง แต่หากมองไม่ผิดนาถลัดดาเห็นแววไม่พอใจในดวงตาสีฟ้านั่น ก่อนจะเลือนหาย มีรอยยิ้มแทนที่

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันมีปัญหากับคนรักมาสักพักแล้ว แต่ช่างมัน...ถ้าเขาไม่รักฉันก็ช่างเขา” วาเรียตอบแล้วยักไหล่เหมือนไม่แคร์

“เธอสวย เก่ง สามารถทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องแคร์ผู้ชายเจ้าชู้หรอกวาเรีย ฉัน...ไม่เคยมีคนรัก และคิดว่าคงไม่มีตลอดไป”

วาเรียยิ้มอย่างใสซื่อแล้วบอกนาถลัดดาว่าเธอจะออกไปข้างนอก คงกลับมาตอนที่สตาฟฟ์นัด นาถลัดดาพยักหน้ารับรู้แล้วนอนพักผ่อนระหว่างรอเวลา

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น