19
“เรียบร้อย พี่จัดการทุกอย่างตามที่เราบอกเสร็จแล้ว”
หลังจัดการแกรแฮมเสร็จเรียบร้อย นาถลัดดาก็เดินมารออิวานอฟที่มุมตัดผ่านไปยังห้องแต่งตัวนางแบบ
“ป่านนี้คงร้อนอกแทบระเบิด” หญิงสาวบอกเสียงต่ำ นึกถึงสีหน้าและแววตาสมเพชของสองแม่ลูกนั่นเมื่อครั้งเป็นเด็กคราใดก็ไม่คิดสงสาร ไม่คิดจะล้มเลิกแผนเอาคืน
คริสเตียน่าทำร้ายจิตใจแม่เธอ ทั้งที่ท่านก็เป็นผู้ถูกกระทำ ถูกเจ้านายที่เทิดทูนหลอกลวงและข่มเหง จนตั้งครรภ์ก่อนเมียแต่งที่อยู่กินกันมาปีกว่า เธอเข้าใจว่าคริสเตียน่าต้องโกรธ แต่หล่อนน่าจะรู้บ้างว่าแม่เธอไม่ได้คิดจะแย่ง เหตุร้ายมันเกิดขึ้นเพราะความมักมากของผู้ชาย
นาถลัดดาอยากรู้เหมือนกันว่า แท้จริงแล้วคริสเตียน่าแต่งงานกับโบริสเพราะรักหรือเพราะทรัพย์สมบัติของตระกูลยูราซอค เพราะหากหล่อนรักโบริสจริง คงไม่ทรยศหักหลังอย่างเลวร้ายเช่นนี้ ไม่เพียงคบชู้ แต่ยังยักยอกทรัพย์สมบัติของยูราซอค ถ่ายเทไปให้ชายชู้
อิวานอฟเดินเข้าไปใกล้น้องสาวแล้วดึงร่างบางเข้ามาสวมกอด ถ่ายทอดความห่วงใยและมอบกำลังใจให้เธอ รู้ว่าภายใต้ท่าทางแข็งกร้าวนั่น มีเด็กน้อยว้าเหว่นั่งกอดเข่าร้องไห้ซ่อนอยู่
“เกือบได้เวลาแล้วนาตาชา อีกไม่นานคนทั่วมอสโกจะได้รู้ว่าเธอคือใคร เตรียมรับมือได้เลย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ พี่จะอยู่เคียงข้างเธอ น้องรักของพี่”
นาถลัดดาหวาดหวั่นไม่น้อยกับการเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ เธอจะก้าวออกจากเงามืดมาอยู่ในที่สว่าง ซึ่งไม่รู้เลยว่าโกลพรอมกรุ๊ปมีศัตรูที่ไหนบ้าง และมีใครอีกนอกจากแกรแฮมที่คิดคดโกง อยากแย่งชิงทุกอย่างของโกลพรอมกรุ๊ป
“นี่หรือคะ เหตุผลที่คุณปฏิเสธฉันมาตลอด”
เสียงเจ็บปวดดังขึ้นด้านหลัง ฟังดูสะเทือนใจมาก จนสองพี่น้องหันมองพร้อมกัน
“วาเรีย...” นาถลัดดาแปลกใจเมื่อเห็นนัยน์ตาเกลียดชังมองหน้าเธอ แต่พอวาเรียหันมองหน้าอิวานอฟแววตาก็เปลี่ยนเป็นเจ็บปวด เหมือนวาเรียกำลังตัดพ้อพี่ชายเธอ สองคนนี้รู้จักกันหรือ
ฝ่ายอิวานอฟยืนทำหน้านิ่ง แต่อ้อมแขนไม่หลุดจากเรือนร่างน้องสาว
“เปล่า เหตุผลที่ผมไม่อยากติดต่อคุณ คุณเองรู้ดีที่สุดวาเรีย” น้ำเสียงเขาแข็งกร้าว พร้อมมองหน้านางแบบสาวอย่างเจ็บแค้น เจ็บจนไม่สามารถบรรยายว่ามากมายแค่ไหน
“หึ! เพราะคุณหลงมัน รักมัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ไม่เห็น คุณไปหามันที่อังกฤษ ที่นิวยอร์ก ไปได้ทุกที่ที่นังนี่อยู่ แต่กับฉัน คุณไม่คิดจะแวะไปเยี่ยมเยือน ทั้งที่ฉันก็อยู่ที่เดียวกับนังนี่”
‘นังนี่’ เริ่มงงกับเรื่องราว หันมองหน้าวาเรียสลับกับพี่ชายที่ยืนทำหน้านิ่ง
“คุณทิ้งฉันทั้งที่ฉันท้อง คุณปล่อยให้ฉันเครียดจนแท้งลูกของเรา คุณเลวมากเอียน”
ใบหน้าที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามบิดเบี้ยว สีหน้าวาเรียดูเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่คนที่ได้ฟังเรื่องราวกำลังตกใจและสงสัย
“แต่ผมก็ยังเลวน้อยกว่าคุณนะวาเรีย อย่างน้อยผมก็ไม่เคยคบซ้อน ไม่เคยหลอกให้ใครรัก ไม่เคยนอกใจไปนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน เรื่องท้อ...”
“อ้าว อยู่กันตรงนี้เอง วาเรีย นาถลัดดา ถึงคิวแล้ว เร็วเลย”
สตาฟฟ์โผล่เข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะกว่าจะหานางแบบทั้งสองเจอก็ต้องวิ่งเข้าห้องโน้นออกห้องนี้อยู่พักใหญ่ ตอนนี้บนเวทีเริ่มการแสดงแล้ว แต่นางแบบที่ต้องเดินคนแรกหายตัวไป เขาอยากต่อว่านางแบบที่สร้างปัญหา ทว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้คือลากนางแบบทั้งสองมาที่จุดปล่อยตัว
วาเรียถูกผลักออกไปทันทีที่เปลี่ยนทำนองเพลง ด้วยความเป็นมืออาชีพเธอจึงยิ้มและก้าวเดินอย่างมีสไตล์ ไม่ตื่นตระหนกแม้ทุกอย่างดูลนลาน ความคิดจดจ่ออยู่ที่อิวานอฟกับนางแบบอีกคน คนที่เข้ามาคั่นกลางความสัมพันธ์ของเธอ แม้จะวางแผนร้ายส่งตัวให้ประธานบริษัทชีคอฟ แต่หล่อนก็ยังได้อยู่ชิดใกล้อิวานอฟ เขายังตามติดและกอดประคองอย่างห่วงใย
นาถลัดดาไร้ค่าไม่ต่างจากเธอ หล่อนนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่อิวานอฟหลงลืมหรือมองข้ามกันแน่ ถึงยังรักและถนอมนาถลัดดา กับเธอเขามองอย่างเหยียดหยามราวสมเพชพฤติกรรมที่เธอเคยทำ แล้วมันต่างกันตรงไหน นาถลัดดาก็นอนกับผู้ชายอื่น ทำไมเขาไม่เกลียดชังอย่างที่รู้สึกกับเธอ หรือรักมากถึงละเว้นได้ ช่างไร้ซึ่งความยุติธรรม ตาแข็งกร้าวตวัดมองนางแบบสาวที่ยืนอยู่ในแถวรอขึ้นรันเวย์
เสียงเพลงบรรเลงเปลี่ยนเป็นจังหวะสนุกสนาน พร้อมกับแสงสปอตไลต์จากด้านบนเพดานห้องส่องลงมาบนเวทีเป็นรูปเรขาคณิต จุดที่ผู้ชมนั่งอยู่แสงไฟค่อยๆ หรี่ลงจนมืดสนิทรอบห้อง มีแสงสว่างอยู่กลางเวทีเท่านั้น ทุกคนกำลังจดจ่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลังจากจบเพลงบรรเลง ทำนองเพลงก็เปลี่ยนเป็นแนวคลาสสิก
นางแบบคนแรกในเซตที่สองเดินออกมาในชุดเดรสเกาะอกสีแดงเลือดนกรัดรึงเน้นสัดส่วนตั้งแต่อกอวบถึงเอวคอด ลำคอระหงโดดเด่นด้วยสายสร้อยคริสตัลสีขาวส่งประกายแวววาว สะกดสายตาผู้ชมให้จับจ้องทุกจังหวะการย่างก้าว
คีริลล์นั่งทำหน้านิ่งเคียงข้างเอเดียน่า ตาคมเข้มกวาดมองไปรอบตัว เห็นแกรแฮมลุกเดินออกไปจากเก้าอี้ด้วยท่าทางหงุดหงิด เพียงแค่นั้นก็เผลอพ่นลมหายใจ แล้วตั้งสมาธิไปที่เวทีอีกครั้ง
แล้วก็ต้องกำมือแน่น เมื่อนางแบบสาวที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาหลายวันเดินนวยนาดออกมา เธออยู่ในชุดเดรสยาวเปลือยหลัง มีสายสร้อยทำจากคริสตัลร้อยห้อยประคองสองเต้า กระโปรงผ้าชีฟองยาวระพื้นพลิ้วไหวไปตามเรือนร่างอวบอิ่มยามที่เธอก้าวเดินอย่างสง่า ตาหวานไม่เหลือบมองมาทางเขา แต่คงรู้ละว่าเขากำลังจ้องด้วยสายตาแบบไหน นาถลัดดาคงคิดดีแล้วจึงท้าทายเขาแบบนี้
ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าให้ใจเย็น ยามเห็นเนินเนื้ออวบอิ่มเด้งดึ๋งตามจังหวะการทอดน่อง แรงลมพัดจนชายผ้าชีฟองปลิวไปด้านหลังทำให้ทุกคนเห็นปลีน่องขาวเนียนที่เคยตวัดรัดรอบเอวหนา
นี่เขาต้องนั่งทนมองผู้ชายจับจ้องเรือนร่างนาถลัดดาหรือ ยิ่งคิดยิ่งขบกรามแน่น จนมีเสียงกรอดเมื่อริมฝีปากบางแยกยิ้มหยดย้อย โปรยเสน่ห์ให้ชายอื่นยลร่างเกือบเปลือย
แม้เขาจะเป็นผู้ชายในประเทศที่เปิดกว้างเรื่องทางเพศ แต่ก็หวงหญิงสาวที่ตัวเองครอบครอง ไม่อยากให้ใครเห็นความงามที่ควรซุกซ่อนใต้ร่มผ้า ไม่อยากให้ใครตาวาวเมื่อเห็นอกอวบอิ่มและน่าวางมือทาบทับ ไม่อยากให้ใครปรารถนาความงามที่เขาเท่านั้นมีสิทธิ์ครอบครอง
“สวยนะคะ” เอเดียน่าพยายามบอกตัวเองให้ตั้งสติ แต่เพียงแค่เห็นตาคมเข้มจับจ้องตามเรือนร่างนางแบบนั่น สองมือก็กำแน่น และเผลอประชดเสียงแข็ง
“ใช่ สวยมาก” คีริลล์ตอบพร้อมยิ้มหวาน เขาไม่จำเป็นต้องพูดโกหกเพื่อรักษาน้ำใจเอเดียน่า ว่าที่ภรรยาเขาสวยจริงๆ สวยจนอยากจับฟาดก้น โทษฐานที่ดื้อรั้น และเพราะเธอสวยเซ็กซี่น่ามองไม่ใช่หรือ ผู้ชายในนี้ถึงได้มองตาวาว เดี๋ยวคืนนี้ได้รู้กันแน่
“คีริลล์!” เธอแหวเสียงดัง ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยชมนาถลัดดาออกมาเต็มปากเต็มคำแบบนี้ ปกติคีริลล์แค่ยิ้มอ่อน ทว่ายามนี้ปากแทบฉีกถึงหูยามที่มองนาถลัดดา
“คุณสนใจหล่อน และมามอสโกเพราะผู้หญิงคนนั้น” พอกันทีกับความอดทน เอเดียน่าจ้องหน้าเขาและรอคอยคำตอบ อยากรู้เหมือนกันว่าคีริลล์จะโกหกหรือว่ายอมรับ แต่ถ้าเขายอมรับ วันนี้เธอจะบี้ขยี้นางแบบนั่นให้เละ
“ใช่ ผมสนใจเธอมานานแล้ว คงตั้งแต่เห็นครั้งแรก” เขายอมรับ
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ จะเลิกกับฉันแล้วไปควงนังนั่นเหรอ คีริลล์คะ”
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเธอนั่งอยู่หน้ากองไฟ มันร้อนวูบวาบทั้งหน้าและกาย ตาที่มองจ้องเขาเต็มไปด้วยความกดดัน ซึ่งเป็นบุคลิกประจำตัวเอเดียน่าที่ไม่เคยแสดงให้คีริลล์เห็น แต่เวลานี้เธอโกรธเกินกว่าจะเสแสร้ง หลงลืมไปว่าคีริลล์คือใคร ไม่ใช่คนที่ต่ำกว่าจนเธอมองอย่างกดดันได้
“...” คีริลล์ยิ้มอ่อน เข้าใจดีว่าเอเดียน่ารู้สึกเช่นไร เธอมักจะหลงตัวเองว่าสูงส่งกว่าผู้หญิงคนอื่น เย่อหยิ่ง และชอบเอาชนะ กับผู้ชายคนอื่นเธอสลัดทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย ส่วนเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้ เพิ่มระยะห่างระหว่างความสัมพันธ์ เธอจึงวิ่งไล่ตามไม่หยุดหย่อน แต่เวลานี้เขามีคนที่หมายปองแล้ว หล่อนกำลังเดินเฉิดฉายโชว์ความงามอยู่บนรันเวย์
เอเดียน่ายิ้มเหี้ยมเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาคีริลล์ มือที่วางบนต้นขาเขาย้ายมาไว้บนต้นขาตัวเอง และบีบแน่นจนกระโปรงเดรสตัวสวยยับยู่ยี่ อีกไม่กี่นาทีคนที่มันกล้ามาแย่งผู้ชายของเธอจะได้บทเรียนแรก
บนเวที นางแบบลูกครึ่งไทย-รัสเซียเดินไปจนสุดเวทีแล้วยืนโพส ไล้ปลายนิ้วไปตามเรือนร่างกลมกลึง เรียกสายตาหิวกระหายให้จับจ้องตามปลายนิ้ว แล้วทิ้งรอยยิ้มยั่วเย้าให้ชายหลายคนตกหลุมพราง จิกตาจับจ้อง ก่อนจะหมุนตัวอย่างมีจังหวะเพื่อเดินกลับ
แต่นาทีที่เธอหมุนตัว สายสร้อยที่ควรจะดึงรั้งชายผ้าห่อหุ้มสองเต้ากลับหลุดจนคริสตัลร่วงลงบนพื้น เนินเนื้อขาวอวบโชว์หราเมื่อไม่มีอาภรณ์ห่มคลุม เสียงฮือฮาของผู้คนก็ยิ่งทำให้เธออยากหนีจากตรงนี้ แม้เคยเปลือยต่อหน้าช่างเสื้อ แต่มันไม่ใช่ต่อหน้าธารกำนัลมากมายขนาดนี้ เมื่อแสงแฟลชสว่างวาบก็ยิ่งใจเสีย พยายามจะรั้งชายผ้าที่เรียกว่าเศษผ้าจะเหมาะกว่าขึ้นมาปิดอกอวบ
แต่...สุดท้ายก็ทำได้เพียงใช้สองมือปิดเนินเนื้อซึ่งล้นปริ่ม ปิดได้เพียงเม็ดสีม่วงแดง
เสียงครางฮือยิ่งย้ำให้เธออับอาย ใบหน้าเริ่มเผือดสี แม้ประเทศที่เธออยู่เรื่องเปลือยกายนั้นธรรมดามาก หญิงสาวมากมายเปลือยอกอาบแดดริมชายหาด มีให้เห็นจนเอียนตา แต่เธอได้รับการสั่งสอนให้รักนวลสงวนตัว อย่าโชว์เนื้อหนัง และนาถลัดดาก็ยึดหลักนั้นมาตลอด ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน เธอไม่เคยเปลือยกาย
เสียงฮือฮาที่นาถลัดดาได้ยินไม่ใช่เพราะทุกคนเห็นเธอเปลือย แต่ผู้ชมกำลังแปลกใจเมื่อเห็น คีริลล์ ซาโกเยฟ ก้าวขึ้นไปบนเวทีแล้วถอดเสื้อสูทสีดำห่อร่างอ้อนแอ้นไว้ ไม่เท่านั้นยังโอบกอดพาเดินเข้าไปด้านหลังเวทีราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิง
หลายตามองไปที่สองคนนั้น และอีกหลายตาเช่นกันหันมองมาที่เอเดียน่า
หลังจากนั้นดีไซเนอร์เจ้าของห้องเสื้อก็เดินโปรยยิ้มออกมา ทำเหมือนว่าไม่มีเหตุการณ์เมื่อครู่ ทุกคนพยายามสร้างสถานการณ์อื่นปกปิดฉากก่อนหน้า แต่นักข่าวทุกคนไม่ได้สนใจดีไซเนอร์เจ้าของงาน ต่างวิ่งไปรอในจุดที่คาดว่านาถลัดดากับคีริลล์จะก้าวออกมา
เอเดียน่านั่งกำมือจนเส้นเลือดปูดนูน ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ใช่แค่คู่ควงของคีริลล์ ลางสังหรณ์บอกเธอเช่นนั้น ชายหนุ่มไม่เคยปกป้องผู้หญิงคนไหนออกหน้าออกตา และไม่เคยแสดงชัดว่าคบหากับใคร เพราะเขาไม่คิดจะจริงจังขนาดเปิดตัว
ความวิตกตีตื้นจนน้ำตารื้นขอบตา ความพ่ายแพ้ที่ไม่เคยได้รับส่งเสียงแจ้งเตือนในเงามืด คับแค้นอัดแน่นจนต้องทนนั่งให้หลายตาจับจ้อง กลัวว่าลุกยืนแล้วจะเซล้ม และแน่นอน ต้องมีใครหลายคนกำลังแสยะยิ้ม โดยเฉพาะบรรดานางแบบอดีตคู่ควงของคีริลล์
ใช่...นางแบบหลายคนกำลังยิ้ม โดยเฉพาะวาเรีย เธอเห็นภาพนั้นแล้วแบะปากสมเพชเอเดียน่า ผู้หญิงที่เชิดหน้าคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าเหล่านางแบบ จิกกัดทั้งวาจาและสายตาตลอดเวลา แล้วเดินตรงไปหานักข่าวที่สนิทกัน พูดจาไม่กี่คำก็ปลีกตัวหายไป
สีหน้าคีริลล์ยามนี้ดูน่ากลัวและดุดันจนนาถลัดดาไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง พอลงจากเวทีเขาก็ถามเพียงสั้นๆ ว่า ‘กระเป๋าคุณอยู่ไหน’ พอเธอชี้ให้เห็น ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า เดินไปหยิบมาแล้วดันเธอเข้าไปในฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงมือแต่งตัวให้โดยไม่สนใจการปัดป้อง และไม่กังวลกับสายตาผู้คนรอบกายที่มองมาด้วยความอยากรู้ ซึ่งแน่นอน สิ่งที่เขาทำตอนนี้มันชัดเจนจนหลายเสียงกระซิบนั้นสื่อไปในทางเดียวกัน
‘นาถลัดดาเป็นคนรักของคีริลล์หรือ’
“คุณคีริลล์ เกิดอะไรขึ้นคะ คุณกำลังจะกลับพร้อมนาถลัดดา แสดงว่าข่าวที่คุณสองคนแอบคบกันลับหลังเอเดียน่าเป็นเรื่องจริง นาถลัดดาเป็นมือที่สาม”
นักข่าวสาวปากจัดเอ่ยถาม พร้อมมองมือคีริลล์ที่กุมมือนาถลัดดาไว้แน่น ฉากนี้ต่อให้ทั้งสองร่วมกันปฏิเสธก็ไม่มีใครเชื่อ นักข่าวสาวยิ้มร้าย เธอเองหมั่นไส้นาถลัดดาไม่น้อย เพราะหล่อนไม่เคยให้ข่าวใดๆ หลบซ่อนทำตัวเป็นนินจามาตลอด
“ถามให้มันดีหน่อย” เขาเอ็ดเสียงแข็ง จ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง สีหน้าน่ากลัวจนนักข่าวผงะ แต่ก็ยังกล้าถามต่อ
“เมื่อครู่คุณยังนั่งอยู่กับเอเดียน่า แต่ตอนนี้เดินกอดนาถลัดดาออกมา ข่าวที่ว่าคุณกำลังจะสลัดเอเดียน่ามาควงกับนางแบบคนนี้ก็จริงน่ะสิ หล่อนเป็นมือที่สาม”
“เปล่า!” คีริลล์ว่าจะไม่พูด แต่สีหน้าเหยียดหยามที่แต่ละคนมองนาถลัดดาทำให้เขาต้องปกป้องเธอ
ไม่รู้ทำไมเวลานี้ถึงอยากจะดูแลผู้หญิงที่ยืนสั่นในอ้อมแขน เธอดื้อด้านและทำตัวน่าโมโหจนเขาต้องปวดหัว อย่างเช่นงานวันนี้ เขาห้ามเธอมาเพราะรู้ว่าวาเรียมางานนี้ด้วย เรื่องราวเริ่มต้นระหว่างเขากับเธอ คนใส่สารเร่งก็คือวาเรีย แล้วคิดหรือว่าคืนนี้หล่อนจะไม่ทำอะไรแผลงๆ แกล้งนาถลัดดาอีก เขามาที่นี่เพื่อจะเตือนเธอ แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่หนี โทรศัพท์หาก็ไม่ยอมรับสาย
“นาถลัดดาไม่ได้แย่งผมมาจากใคร แต่เธอคือคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่เห็นชอบ เราหมั้นกันมานานแล้ว ถ้าอยากรู้เรื่องต่อจากนี้ก็สืบเอาเองแล้วกัน ผมไม่ว่างตอบ”
แล้วเขาก็ประคองนาถลัดดาไปที่รถ ซึ่งอังเดรขับมาจอดรอ เพียงไม่นานทุกคนที่รวมกลุ่มก็แยกย้าย พร้อมกับคำถามที่สับสน
‘คู่หมั้น’
เอเดียน่าแทบจะกรีดร้องเมื่อเห็นภาพนั้น เธอแค้นจนจุก โกรธจนแทบอยากเอาน้ำกรดราดหน้านางแบบคนนั้น
“แผนคุณใช่ไหม” วาเรียเอ่ยถามเสียงเบา แล้วเลิกคิ้วยียวน
“หล่อนไม่ต้องมายุ่ง”
“ถ้าคุณอยากจัดการนังแนนนี่ ฉันอยากเสนอแนะบางอย่าง” วาเรียเอ่ยขึ้น พร้อมกับวางภาพถ่ายลงในมือเจ้าของแบรนด์บอนนี่
“นาถลัดดาควงกับผู้ชายคนนี้ลับๆ มานานแล้ว ถ้าคุณอยากได้คีริลล์คืน ลองเอาภาพพวกนี้ไปให้เขาดูสิ เผื่อจะเปลี่ยนใจกลับมาหาคุณอีก นาถลัดดาก็แค่เล่นตัวให้ดูยาก แต่ลึกๆ คงอยากจับคีริลล์จนตัวสั่น คืนปาร์ตีของแองเจิ้ล หล่อนไปค้างกับคีริลล์ แต่นอกจากคีริลล์นาถลัดดาก็นอนกับผู้ชายหลายคน แถมยังชอบให้คู่นอนถ่ายคลิป ฉันได้มาหนึ่งคลิป คุณลองเอาไปให้คีริลล์ดูสิ บางที เขาอาจจะรีบเฉดหัวยายนั่นทิ้งแล้วกลับมาหาคุณ”
เอเดียน่ารับภาพเหล่านั้นมา มองเพียงนิดแล้วจ้องหน้าคนให้ หล่อนคือ วาเรีย แซมซอฟ นางแบบที่กำลังดังในเวทีนางแบบระดับโลก เป็นสาวรัสเซียที่มีผลงานโฆษณาจำนวนมาก แต่เหตุใดหล่อนถึงเข้ามาพร้อมกับหลักฐานหลายอย่าง ราวกับเตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้านี้
เอเดียน่าสงสัย แต่เลือกจะวางเฉย ยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปหาเจ้าของงาน เพราะคลังข้อมูลน่าจะอยู่ตรงนั้น ในเมื่อวาเรียคือนางแบบรัสเซีย ทีมงานเหล่านั้นก็ต้องรู้เรื่องของหล่อนเช่นกัน
“นี่มัน!” เอเดียน่าร้องเสียงหลง เมื่อก้มดูภาพถ่าย ตกใจเมื่อเห็นใบหน้าคู่ควงของนาถลัดดา ผู้ชายคนนี้เดินชนเธอหลายครั้ง และมักจะมีปัญหากันตลอด ที่แท้ก็เป็นคนรักของนาถลัดดาและตามอารักขารึ แต่ช่างมัน เธอแค่เอาภาพพวกนี้ไปให้คีริลล์ก็พอ เขาเป็นพวกบ้าอำนาจ เย่อหยิ่งและยโส ไม่มีทางกินเดนผู้ชายคนนี้แน่ ส่วนที่เหลือค่อยคิดอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อ
วันรุ่งขึ้นมาพร้อมกับข่าวฉาวของ นาถลัดดา เพชรจำรัส นางแบบลูกครึ่งไทย-รัสเซียกับ คีริลล์ ซาโกเยฟ นักธุรกิจยานยนต์ของประเทศ แอนตันเห็นภาพข่าวแล้วได้แต่นั่งยิ้ม บางทีเสือร้ายอย่างลูกชายอาจกำลังติดบ่วง
“ยิ้มอะไรคะ มีข่าวขนาดนี้คุณยังยิ้มออกอีกเหรอ” แอมมาเรียต่อว่าสามี ขณะที่มือก็กดโทรศัพท์หาลูกชายตัวดีที่หนีหายเข้ากลีบเมฆ และคงจะพาคู่กรณีติดไปด้วย
“ก็ขำเจ้าลูกชายเราน่ะสิ หนีแทบตาย สุดท้ายบุพเพก็อาละวาดซะจนหนีไม่รอด แววตามันนี่หวงจัดเลยนะคุณ” สามีชี้ให้ภรรยาดูภาพถ่ายซึ่งเห็นสีหน้าและแววตาของคีริลล์ชัดเจน
“เสืออาจถอดเขี้ยวแล้วก็ได้ เหมือนคุณไง”
“ครับ...ผมถอดหมดแล้ว ว่าแต่คุณโทร. ตั้งแต่เช้าแล้วนะ ลูกคงไม่ว่างรับสาย” ตอนนี้คีริลล์คงกำลังสะสางกับนาถลัดดา ข้อหากระตุ้นให้เขาหวงจนออกอาการ
“เชอะ ยังไม่แต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็หิ้วลูกสาวเขาไปโน่นทีนี่ที”
“คนที่ไม่ยอมแต่งไม่ใช่ลูกเรานะ หนูแนนนี่โน่น คุณควรจะกล่อมหนูแนนนี่ให้ยอมแต่งงานกับลูกเรานะ ปล่อยช้าไป เดี๋ยวได้เข้าพิธีพร้อมกันพ่อแม่ลูก”
“คุณก็เห็นว่าหนูแนนนี่ดื้อแค่ไหน นิสัยนี่ไม่ผิดจากพ่อแม่เลย โบริสก็ยโส ลัดดาก็ใจแข็ง”
“ใช่ ลูกชายเรามันคงต้องเหนื่อยอีกนานกว่าผู้หญิงจะยอมแต่งด้วย แต่ว่าเรื่องข่าวนั่นเราจะเอายังไงดี ปล่อยไปแบบนี้ หรือว่าใส่เชื้อให้ลุกโชนยิ่งกว่าเดิม”
“ใส่เชื้อสิคะคุณ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าทุกคนรู้ว่า นาถลัดดา เพชรจำรัส คือ นาตาชา ยูราซอค จะช็อกกันแค่ไหน โดยเฉพาะเอเดียน่า ฉันว่าที่ชุดของหนูแนนนี่เกิดปัญหาอาจเป็นฝีมือเธอก็ได้”
“ก็จริง”
“หรือเราจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว”
“ไม่ต้องค่ะ แค่ฝากบอกปากต่อปาก แล้วให้คนสืบกันเองสนุกกว่า แถมจะได้โพรโมตตำแหน่งว่าที่ประธานบริษัทโกลพรอมคนใหม่ไปในตัว”
“เยี่ยม”
สองสามีภรรยายิ้มกว้างแล้วส่งข่าวไปถึงสายข่าวบางคนที่โทร. มาถามตั้งแต่เห็นภาพคีริลล์เดินประคองนาถลัดดาขึ้นรถคันหรู
ฝ่ายนาถลัดดากับคีริลล์ตอนนี้นั่งจ้องตากันอย่างเอาเรื่อง เธอโกรธเพราะเขาหาเรื่องเอาเปรียบตลอดเวลา หลังเกิดเรื่องแทนที่จะพาเธอกลับบ้านพี่ชาย กลับพามาที่คอนโดของเขา
“อย่าหาเรื่องให้ผมโกรธแต่เช้าแนนนี่ คุณละเมิดคำสั่งผมเอง ถ้าเมื่อคืนผมไม่ขึ้นไปช่วย คงได้โชว์อกหราทั่วแผงหนังสือ บอกเลยว่าผมหวงของของผม”
“ก็เพราะคนของคุณนั่นแหละทำให้ฉันต้องเจอแบบนี้ เรื่องชุดเอเดียน่าเป็นคนรับผิดชอบ นึกว่าฉันรู้ไม่ทันหรือไง หล่อนคงเริ่มใช้แผนเดิมๆ แบบที่เคยทำกับนางแบบคนอื่น กลั่นแกล้งทุกทาง เขย่าขวัญให้ฉันกลัวจนหายไปจากวงการ แต่คิดหรือว่าเรื่องแค่นี้ฉันจะสะดุ้งสะเทือน”
คนอายเถียงเสียงดังลั่น ปฏิเสธทั้งที่ความจริงนั้นอับอายมาก ทำงานมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเปลือยกายต่อหน้าผู้คนนับร้อย ตอนเดินแบบของแองเจิ้ลยังมีผ้าชิ้นบางปกปิด ไม่ใช่โชว์เนื้อเต้าแท้ทั้งสองอล่างฉ่างแบบนี้
“แต่ถ้าคุณไม่รับงานนี้ คุณจะไม่เจอเรื่องบ้าๆ นี่ ยอมรับซะแนนนี่” คีริลล์ปล่อยให้นาถลัดดาคิดว่าถูกเอเดียน่ากระทำ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็ยังสับสนว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือใคร
“คุณเข้าข้างหล่อน” ไม่รู้ทำไมถึงหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดคีริลล์ เธอกำลังหึงหรือว่าหวงกันแน่
“เปล่า ผมพูดกลางๆ” เขาว่าแล้วหัวเราะ วาดมือไล้เนินอกอวบที่ชายผ้าตกโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว
“กลางมาก เข้าข้างหล่อนเห็นๆ ปล่อย! ไม่ต้องมาแตะฉัน ไปแตะหล่อนโน่น” คนงอนออกอาการจนคีริลล์ยิ้มร่า
“ก็...ไม่อยากแตะคนอื่น อยากแตะคนนี้คนเดียว หวงจนไม่รู้จะหวงยังไงแล้ว ดูสิ มีภาพเนินเนื้ออวบอิ่มไปเด่นหราบนหน้าหนังสือพิมพ์แบบนั้น ผมจะทำไงดีนี่ จ่ายเงินซื้อภาพไปหลายล้านก็ยังมีหลุดไปจนได้”
เขาว่าด้วยท่าทางสบายๆ แต่คนที่ไม่สบายใจคือนาถลัดดา เมื่อรู้ว่าเขาต้องเสียเงินกับเรื่องนี้
“คุณจ่ายเงินทำไม เรื่องแค่นี้ฉันรับได้ แต่ที่โมโหเพราะมันไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นเพราะฉันถูกแกล้ง”
ใช่...ที่เธอโมโหฟาดงวงฟาดงาตอนนี้เพราะรู้ว่ามีใครบางคนกลั่นแกล้งให้อับอาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ
“คุณรับได้ แต่ผมในฐานะสามีรับไม่ได้ เข้าใจนะคุณภรรยา ผมหวงของผม อกคุณนี่เก็บไว้ให้ผมดูคนเดียวพอ อ้อ...อนุญาตให้เจ้าตัวน้อยของเราอีกคนละกัน”
แก้มเนียนแดงเรื่อเมื่อเขาพูดถึงเด็ก เขินอายจนเธอต้องสะบัดหน้าหนี พยายามจะลงจากเตียงที่ดูดกลืนพลังไปมากมาย เหนื่อยล้าจนไม่อยากจะยกแขน แต่ถ้านอนนิ่งแบบนี้ก็ไม่พ้นถูกเขาสูบพลังอีก
“ไม่มีอาการบ้างเหรอ ขยันทำขนาดนี้แล้ว เมื่อคืนก็ตั้งหลายยก” เขาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ตาที่มองนาถลัดดาเป็นประกายจนน่าหมั่นไส้
“ไม่!” เธอตอบเสียงดังฟังชัด ทั้งที่ไม่มั่นใจสักนิด ประจำเดือนเธอมาช้าเกือบเดือนแล้ว และหากเด็กจะมาจริง คงมาตั้งแต่คืนเกิดเรื่องที่นิวยอร์กแล้ว
ความคิดเห็น |
---|