7

บทที่ 7


 

7

 

แพท ทางนี้”

แวววรรณโบกมือเรียกภัสสรที่วันนี้แต่งตัวเป็นกันเองกว่าทุกวัน จากที่เคยสวมเดรสพอดีตัวสีอ่อนๆ ให้เห็นบ่อยๆ ตามงาสังคม ไม่ก็ในนิยสารต่างๆ แต่คราวนี้หญิงสาวเลือกที่จะใส่เสื้อกล้ามสีดำคู่กับกางเกงยีนเอวสูง โชว์เรียวขายาวแบบไม่เห็นเนื้อหนัง มีรองเท้าส้นสูงแบบโปร่งสีดำช่วยเพิ่มความสูงให้ ขับร่างเพรียวอีกอย่างน้อยห้าเซนติเมตร ผมยาวสลวยตกแต่งไว้อย่างปรณีต ทำให้หน้าสวยยิ่งโดดเด่น เรียกความสนใจจากเพื่อนฝูงได้พอตัว

โหหห...นี่แกสามสิบแล้วจริงเหรอวะ ทำไมมันเปล่งปลั่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนเพิ่งแตกเนื้อสาวแบบนี้อ้ะ” แวววรรณหรือวีวี่ทักขึ้น ไม่ได้เจอภัสสรบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่เห็นก็ยิ่งแปลกตา

เกี่ยวอะไรล่ะวีวี่ แพทก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”

ภัสสรเปลี่ยนเรื่อง แล้วยิ้มทักทายเพื่อนฝูงอีกสองสามคนที่นั่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน นอกจากศุภโชคก็มีแวววรรณนี่ละที่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียน ส่วนคนอื่นๆ เป็นคนไทยที่พบเจอกันบ้างตามแหล่งชุมนุมของเด็กไทย แต่ก็คุ้นเคยกันมากตามประสานักเรียนนอกที่ต้องคลุกคลีอยู่ด้วยกัน

ก็ไม่เหี่ยว ไม่โทรม นี่คุณพลเขาเอาแกไปแปะทองบูชาเหรอวะ” 

บ้าแล้ว พูดอะไรเรื่อยเปื่อย...คนมาเยอะอ้ะปีนี้”

หญิงสาวชี้ชวนให้เพื่อนสาวดูปริมาณศิษย์เก่าที่ทยอยเข้ามาในงานไม่ได้ขาดสาย ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาตามกำหนดการที่แจ้งกันผ่านไลน์กลุ่มต่างๆ ด้วยซ้ำ

เออ ปีนี้มาเยอะจริงๆ แหละ รางวัลจับฉลากโคตรเจ๋ง ฉันยังว่าจะไปล็อกรางวัลกับไอ้มาร์คไว้เลย” แวววรรณกระเซ้า พลางพูดถึงสาเหตุที่ทำให้มีคนมาร่วมงานมากกว่าปกติ

ภัสสรซึ่งอยากจะอ้าปากถามว่ารางวัลที่จะได้จากการจับลากหางตั๋วคืออะไรก็เป็นอันต้องหุบปากเมื่อกลุ่มคนที่เรียนอยู่ในช่วงปีไล่เลี่ยกันเข้ามาทักทาย จนลืมสิ่งที่อยากรู้ไปในที่สุด ยิ่งได้พบเพื่อนที่ไม่เจอกันนานยิ่งทำให้ความวูบโหงในใจที่เกิดขึ้นในช่วงหลังหายไป เกิดเป็นความอบอุ่นในใจอย่างประหลาด จนบอกตัวเองได้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่หล่อนหัวเราะได้เต็มเสียงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งแต่กลับจากอังกฤษมา ยิ่งได้ฟังวีรกรรมเก่าๆ ที่ถูกนำมาเล่าใหม่ยิ่งสร้างเสียงหัวเราะและเรียกความทรงจำได้เป็นอย่างดี

“...นี่ๆ แล้วจำเวลาพวกเราไปกินเหล้าบ้านพี่น้อยได้เปล่าวะ แล้วป๋าแกชอบมอมเหล้าพวกเรา ไม่ยอมปล่อยให้กลับบ้าน” มาวินย้อนความสมัยอดีตถึงรุ่นพี่ที่โตที่สุดในสมัยเรียน

จำได้ดิวะ นี่ๆๆ ฉันถึงขั้นจะปีนออกจากบ้านแกทางหน้าต่าง รองท้งรองเท้านี่โยนไปคอยท่าที่ฟุตพาทหมดแล้วนะ เหลือขาข้างสุดท้ายเท่านั้น ป๋าแกจับได้ ฉันเลยยาว” แวววรรณเสริมความมั่นใจให้เพื่อนๆ บ้าง เมื่อก่อนกว่าจะได้แยกย้ายกลับบ้านกันทีก็ต้องซ้อนแผนกันมากมาย

แล้วนี่พี่น้อยแกไม่มาเหรอวะ”

เออนั่นดิ แกควรจะมานะ เพราะแกรู้จักทุกรุ่น”

ป๋าน้อยที่เคารพนับถือของนักเรียนไทยในอังกฤษถูกพูดถึงเป็นประเด็นสำคัญ เพราะนอกจากแกจะเป็นนักเรียนที่เรียนลอนดอนนานมาจนไม่ว่าจะกี่รุ่นต่อกี่รุ่นผ่านมา แกก็ยังไม่ไป อยู่เฝ้าลอนดอนเหมือนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ความมีอัธยาศัยและจิตวิญญาณของความเป็นพี่ใหญ่ทำให้เด็กๆ ในลอนดอนทุกคนรัและเคารพแกเป็นอย่างมาก

ใครจะไปเจ็บเหมือนกู” มาวินเริ่มคร่ำครวญเพราะระดับแอลกอฮอล์เริ่มพุ่งทะยาน

พี่น้อยเขียนหน้ากูเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ตอนกูเมาหลับบ้านแก ถ่ายรูปเก็บไว้ แถมรุ่งเช้าไม่บอกกูด้วย ให้กูเดินออกไปเรียกแท็กซี่กลับบ้านทั้งยังงั้น งงอยู่นานเลยนะพวกแกว่าคนขับรถมันขำอะไร มารู้ตอนถึงบ้าน กูเกือบกลับไปด่าแกแน่ะ เสือกนึกขึ้นมาได้ว่าป๋าแกแก่กว่าพวกเรา”

เรื่องของมาวินเป็นที่เลื่องลือพอสมควร ภัสสรถึงกับขำทั้งน้ำตา ก่อนจะหันไปยิ้มหัวเราะกับเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหลัง และระหว่างเอี้ยวตัวกลับไป รอยยิ้มก็เจื่อนไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นศุภโชคเดินเข้ามาในงาน ร่างสูงใหญ่ที่ดูบึกบึนกว่าหลายปีก่อนยังทำให้หล่อนใจเต้นแรงได้เสมอ แต่ก็พยายามทำสีหน้าท่าทางให้เป็นปกติ บอกตัวเองว่าเขาไม่รัก และจบกันไปแล้ว

ส่วนคนมาใหม่ก็โดนเสียงหัวเราะของคนกลุ่มใหญ่ดึงดูดความสนใจ มองผ่านๆ เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาหลายคนในกลุ่มที่ส่งเสียงดังที่สุด แต่ยังไม่ได้เดินเข้าไปเพราะยังต้องลงทะเบียนที่หน้างานอยู่

มากันเยอะเลยเหรอวะ"

ชายหนุ่มถามเพื่อนที่เจอหน้างานขณะรับขวดเบียร์มากระดกดื่ม ศุภโชคเพิ่งเสร็จจากการประชุม ไม่ทันได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จึงต้องมาร่วมงานทั้งที่ยังใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวพับแขนขึ้น ถอดเนกไทออก และปลดกระดุมอีกเม็ดให้ดูสบายขึ้น เห็นหุ่นกำยำได้ชัดเจน ท่อนล่างเป็นกางเกงสีฟ้าง่ายๆ ผมปรกหน้าผากเล็กน้อย ทำให้ดูไม่เป็นทางการมากนัก ทว่าชายหนุ่มก็ยังดูดี

เออ เยอะเลยว่ะ เข้าไปข้างในดิวะ นั่งกันอยู่เยอะ ไอ้กลุ่มที่หัวเราะดังๆ นั่นแหละ”

ศุภโชคเลยได้แต่เดินตามเสียงหัวเราะเข้าไปในงาน ชายหนุ่มกำลังจะส่งเสียงทักทายเพื่อนฝูง แต่ต้องชะงักไปเหมือนหัวใจหยุดเต้นตอนเห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยของภัสสร ตาเป็นประกายกับเสียงหัวเราะที่เขาชอบฟังนักหนาเรียกความทรงจำต่างๆ กลับมาเหมือนทุกอย่างเพิ่งผ่านไปเมื่อวาน ทั้งๆ ที่ผ่านมาเกือบเจ็ดปีแล้วที่หล่อนไม่ได้สบตาเขาตรงๆ แบบนี้ และวินาทีนี้ชายหนุ่มมั่นใจว่าสิ่งที่ปรากฏในแววตาหล่อนมีเยื่อใยบางอย่างที่ทำให้เขาหัวใจกระตุก ที่สำคัญเธอยิ้ม ยิ้มแบบที่เขาชอบ รอยยิ้มแบบที่เคยเป็นของเขาคนเดียว

อ้าวโชค มึงมานี่เลย นั่งนี่เลย กูจะไปฉี่” มาวินผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ลุกขึ้นและดันให้ศุภโชคนั่งแทนที่ของตนข้างๆ ภัสสร หลังจากหันไปเจอชายหนุ่มยืนนิ่งไม่ทักทาเพื่อนฝูง

ระหว่างสองคนนี้คนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าคงจะเป็นฝ่ายหญิง เพราะทันทีที่ศุภโชคนั่งลง เขาก็รู้สึกว่ามือเป็นอวัยวะที่เกะกะที่สุด ทั้งๆ ที่มือหนึ่งก็ถือขวดเบียร์ไว้แล้วแท้ๆ 

โชคสบายดีนะคะ” ภัสสรถามเสียงหวานขณะเอียงหน้ามาหาเขา ทำให้ใจกระตุกไปด้วย

ศุภโชคเกรงว่าสีหน้าของเขาจะแสดงให้เห็นอาการกระโตกกระตาก เพราะเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยดูสดใสเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ย

เขาเสียอีกที่แทบหยุดหายใจตอนภัสสรเรียกชื่อตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มบางๆ แต่ยังไม่กล้าสบตาภัสสรตรงๆ

ผมสบายดี...” ศุภโชคตอบทั้งๆ ที่รู้ตัวว่าไม่สบายเลย ใจหวิว มือสั่น เหงื่อเริ่มออกตามไรผม ทำให้ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเอาจริงๆ แล้วเขายังหวั่นไหวกับผู้หญิงคนนี้อยู่มาก

เพื่อนๆ ที่แอบกังวลว่าหากอดีตคนเคยรักคู่นี้มาพบกันแล้วสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่างสบายใจ เพราะเหมือนว่าทั้งคู่จะยังสนทนากันได้แบบอารยชน และคนที่ดีใจที่สุดก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นแวววรรณ จึงเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมาทันทีที่เห็นทั้งคู่ยิ้มให้กัน

ดีจัง เหมือนเมื่อก่อนเลยเนอะ”

สิ้นเสียงของบรรณาธิการนิตยสารชื่อดัง คนสองคนที่รู้ดีว่าทำให้เพื่อนลำบากใจมาหลายปีก็ยิ้มอ่อนๆ ให้กันอีกครั้ง

ใช่ ได้นั่งกันอยู่แบบนี้เหมือนเมื่อก่อนเลย” ศุภโชคเอ่ยเสียงทุ้มปิดท้าย อย่างที่ไม่แน่ใจว่าประโยคนั้นคือการเออออกับแวววรรณหรือบอกตัวเองกันแน่

 

ฉันว่าไม่เกินสามเดือน ลูกพลับมันโดนคุณหวงสอยแน่”

ดนัยเล่าอย่างออกรสเมื่อเพื่อนคนหนึ่งถามถึงพรรณพัตรา สาวสังคมชื่อดังที่ร่ำเรียนหนังสือด้วยกันที่ต่างประเทศมานับสิบปี และมีข่าวรักๆ ใคร่ๆ กับเจ้าของโรงแรมหรูเลือดผสม หล่อ รวย ร้าย ครบสูตร ซึ่งท่าทางจะยอมลงให้สาวสังคมที่เป็นเพื่อนของพวกเขาแต่เพียงผู้เดียว

ผู้ชายร้ายจะตาย เพลย์บอยเป็นบ้าไม่ใช่เหรอวะ” แวววรรณเอ่ยขึ้น ได้ยินชื่อเสียงมานาน เรียกว่าเป็นเสือร้ายตัวพ่อครองตำแหน่งหนุ่มโสดสุดฮอมาหลายปี

แกจะไปรู้อะไรนังวีวี่ แกลองเห็นเขาอยู่ด้วยกันสักครั้งเหอะ แล้วแกจะรู้ว่ามันมีกระแสบางอย่างแผ่ออกมาจากตาคุณหวง ชนิดที่ว่าใครเห็นก็ต้องรู้ว่านางยอมถอดเขี้ยวเล็บ” ดนัยเล่าใส่อารมณ์เต็มที่ เพราะได้เห็นเคมีตอนเพื่อนรักอยู่กับผู้ชายคนนั้นแล้ว

กระแสอะไระ มึงนี่เล่ายังกะเขาเป็นผีดิบ” มาวินถาม ไอ้ดนัยนี่ตั้งแต่ไหนแต่ไร เล่าอะไรเรื่องหนึ่ง ชักแม่น้ำทั้งโลกมาใส่คำขยายเกินความจริงไปหมด

กระแสกลัวเมียไงแก ยอมเมีย บูชาเมีย นังลูกพลับมันแค่เริ่มค้อน คุณหวงหดเหลือสองนิ้ว” 

วะ ถ้าเหลือสองนิ้วก็อย่าไปเอามันเลย ไร้ประโยชน์” มาวินโบกไม้โบกมือราวกับคนรักของเพื่อนที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ความ หยอดมุให้เพื่อนฝูงได้ครื้นเครง ทั้งภัสสรทั้งศุภโชคที่นั่งฟังอยู่ก็อดหัวเราะการรับส่งมุกันอย่างดีของเพื่อนคู่นี้ไม่ได้

หน้าสิมึง ไม่ใช่อย่างอื่น” ดนัยค้อนปะหลับปะเหลือกใส่ลูกคู่ประจำตัว

อ้าว ก็ถ้าเขากลัวขนาดนั้นทำไมต้องกลัวลูกพลับโดนสอย” แวววรรณถามด้วยความข้องใจ พลางหันไปสบตาภัสสรเหมือนขอกำลังเสริม เพราะเท่าที่รู้จักมา คนที่ถูกพูดถึงไม่น่าจะใช่คนที่โดนใครปราบง่ายๆ

ก็ลูกพลับมันเล่นตัวจะตาย แกก็รู้ว่ามันน่ะไม่เลือกสักคน นี่ขนาดพี่กฤษเที่ยวไล้เที่ยวขื่อ มันก็ไม่แลมองอีกเลย แต่คนนี้ฉันมีเซนส์อ้ะว่ามันหนีไม่รอดหรอก ภายใต้อาการกลัวเมียของคุณหวง ฉันว่าเขามีของที่ทำให้ลูกพลับเองก็ยอมสยบ คู่นี้ต้องเรียกว่ามวยถูกคู่ เขาปราบกันอยู่จริงๆ”

สายตาดนัยเปลี่ยนเป็นจริงจังขณะอธิบายให้เพื่อนๆ ทราบความเป็นไปของคนที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันี้ จนคนตั้งคำถามอย่างแวววรรณยอมตบมุกลับบ้าง ทั้งๆ ที่จริงจังในประเด็นที่พูดมาตลอด

หล่อขนาดนั้น เป็นฉันฉันก็ยอมสยบ ไม่ต้องปราบให้เหนื่อย เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นเลยคา”

แล้วคุณแพทล่ะคะ เมื่อไหร่จะสยบ” ดนัยเบี่ยงประเด็นมาที่ภัสสร เพื่อนคนสวยอีกคนบ้าง

หญิงสาวได้แต่ยิ้มอ่อนๆ แบบที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก ตาหวานเปล่งประกาย ใบหน้าสวย รอยยิ้มพิมพ์ใจ จนทำให้ศุภโชคหวั่นไหวเพียงเพราะหันไปมองภัสสรตามสัญชาตญาณเมื่อดนัยเอ่ยชื่อหญิงสาวขึ้นมา

ไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ดีนี่” ภัสสรตอบเสียงอ่อน ยิ้มสวยยังคงประดับใบหน้า แต่แววตาไหววูบเหมือนคนสะเทือนใจ 

ฉันแนะนำ เลิกเลย!!! ทั้งเจ้าชู้ ทั้งแก่ แกสวยยังกะนางฟ้า” แวววรรณออกความเห็นแบบตรงไปตรงมา ก็ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้เพื่อนสนิทกันทั้งนั้น ที่พูดก็มีแต่ความหวังดี อยากให้เพื่อนของตัวเองมีความสุขสมหวังในความรัก

แหม แพทก็แก่แล้ว เลิกกันแล้วแพทก็ขึ้นคานสิ” คราวนี้เจ้าของประเด็นขำเจื่อนๆ ตอนตอบ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากแก้วเครื่องดื่มด้วยเกรงสายตาศุภโชค เขาจะรู้ไหมว่ารณพลไม่เคยทำให้ความรู้สึกที่เรียกว่ารักอย่างที่หล่อนรู้สึกกับเขาเกิดขึ้นภายในใจดวงเล็กๆ ดวงนี้ได้เลย

พนันกันไหม ถ้าแกเลิกกับแฟนแก ไม่เกินสามเดือนแกได้แฟนใหม่ แซ่บกว่าเดิมแน่” แวววรรณที่ก๋ากั่นตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเปลี่ยนท้าทายเพื่อนสนิท ไม่รู้ภัสสรเห็นอะไรดีในตัวรณพล ทั้งๆ ที่เจ้าชู้ไก่แจ้ออกปานนั้น หล่อนรู้ดีเพราะการเป็นบรรณาธิการให้นิตยสารหัวนอกชื่อดังทำให้รู้ข่าวคาวๆ ของคนทั้งในวงการบัเทิงและในวงสังคมตลอด และแวววรรณนี่ละที่คอยบอกให้ภัสสรรู้ถึงความไม่ซื่อสัตย์ของคนรักตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา

พนันด้วย” ศุภโชคที่นั่งเงียบมาน ไม่ส่งเสียงอะไร นอกจากเสียงหัวเราเพราะใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เรียกความสนใจจากเพื่อนได้ทันที

อะไรของมึงไอ้โชค พนันอะไร” มาวินหันกลับมาหาคนที่เอ่ยประโยคสุดท้าย

ก็พนันว่าถ้าเลิก หาแฟนใหม่ได้แน่ๆ ไง” คนพูดตอบเสียงเบา ยกมือใหญ่ขึ้นถูท้ายทอยแก้เก้อที่เผลอแสดงความในใจออกไป

สงสัยจะลงจีบเองละสิ ตาเป็นประกายขนาดนั้น”

แวววรรณแซว รู้ดีถึงความสัมพันธ์ในอดีตของคนทั้งคู่ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าสองหนุ่มสาวตรงหน้าเลิกกันเพราะอะไร รู้สึกผิดไม่น้อยที่หล่อนเองก็เคยเชียร์รณพล หากรู้มาก่อนว่าหนุ่มใหญ่จะเจ้าชู้แบบนี้ หล่อนนี่ละจะห้ามไม่ให้ภัสสรยึดติดกับคำบอกรัก หลงไปกับผู้ชายปากหวานเป็นอันขาด

ภัสสรได้ยินประโยคเชียร์จนออกนอกหน้าของแววรรณก็ถึงกับหน้าแดงก่ำ เพราะเพื่อนฝูงในกลุ่มส่งเสียงแซวกันเกรียวกราว 

หรือไงโชค จะลงเองเหรอะ” ดนัยแซวอีกแรง 

ก็ต้องถามเจ้าตัวว่าเขาจะให้หรือเปล่า” ศุภโชคบอกเสียงเรียบพลางเสมองไปทางอื่น ยกเบียร์ขึ้นดื่มดับอาการ แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะบัดนี้หน้าหล่อเปลี่ยนสีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นึกอยากตบปากตัวเองที่ปล่อยให้ความรู้สึกเข้าครอบงำ พยายามย้ำหัวใจให้จำว่าที่เขาไม่มีความสุขมาหลายปีเพราะคนข้างๆ คนนี้ อย่าได้ใจอ่อนให้หน้าสวยๆ เสียงใๆ มาทำให้เสียใจอีกเลย 

ไม่มีเรื่องอื่นคุยกันแล้วหรือไง แซวแพทอยู่ได้” ฝ่ายหญิงก็ได้แต่พูดเสียงเบา ก้มหน้ามองมือ

ภัสสรก็ยังเป็นภัสสร อ่อนหวาน ขี้อาย ขี้อ้อน เพราะอย่างนี้เขาถึงรัก ศุภโชคเผลอนึกแบบลืมตัวเมื่อเห็นอาการของคนข้างๆ 

แวววรรณเห็นท่าทางของภัสสรแบบนั้นก็เลยช่วเปลี่ยนประเด็น อย่างไรเสียหากสองคนนี้จะกลับมาคบกัน ภัสสรก็ควรจะเลิกรากับทางโน้นให้ชัดเจนเสียก่อน แล้วหันมาคาดคั้นอีกเรื่องเอากับดนัย ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกับพรรณพัตราที่สุด เพราะน้อยครั้งที่หญิงสาวจะไม่มาร่วมงานสังคม โดยเฉพาะงานที่มีเพื่อนฝูงที่รักใคร่สนิทสนมมาวมตัวกันแบบนี้

เออๆ ไม่แซวละ กลับมาเรื่องลูกพลับ ถ้านางจะแลนดิงจากคานจริง ฉันจะไปตัดชุดรอละนะ ข่าวแกแน่หรือเปล่าดีนี่”

กระซิบบอกเลยนะะว่าไอ้ที่ไม่โผล่มานี่น่าจะเพราะผู้ชาย ดังนั้นดีนี่ฟันธงค่ะ!”  

...

บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างสนุกสนานอีกพักใหญ่ จนเกือบถึงเวลาห้าทุ่มครึ่ง ทุกคนต่างลงความเห็นว่าควรแยกย้ายกันกลับบ้านได้แล้ว ดังนั้นภัสสรจึงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องบางที่วางไว้บนโต๊ะมาใส่หลังกระเป๋าถือ แต่เจ้าตัวมัวหันไปนัดแนะเรื่องไปเที่ยวภูเก็ตกับแวววรรณ จึงทำให้มือถือเกือบจะหล่นลงบนพรมที่พื้น แต่ศุภโชคเห็นจึงเอื้อมมือไปคว้าไว้ให้ทัน เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวรู้ตัวว่าโทรศัพท์กำลังตก ทำให้สองมือสัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ และตาสองคู่สบกันพร้อมกับที่กระแสความรู้สึกแล่นปราดจากปลายนิ้วสู่อกข้างซ้ายทันที

พลาดศุภโชคใจหาวาบ ในขณะที่ภัสสรยิ้มหวานค้างเพราะรับรู้ถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ใจเสียไปเพราะชายหนุ่มหลับตาลง ถึงแม้จะเป็นช่วงเสี้ยววินาทีเพื่อซึมซับความหวานล้ำที่ถูกฝังไว้ในส่วนลึกของหัวใจผุดขึ้นมา ราวกับสัมผัสของภัสสรเท่านั้นที่จะปลดปล่อยความอ่อนหวานเหล่านั้นออกมาได้ พลางสั่งหัวใจตัวเองที่เริ่มจะทรยศรัวๆ ว่าเจ็บแล้วต้องจำ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น