0

บทนำ

บทนำ

 

ห้านาทีแล้วที่นับดาวยังคงยืนอยู่หน้าประตูบานเดิม หลังจากที่ลองเคาะเรียกเจ้าของห้องไปแล้วหลายรอบ แต่ไร้การตอบรับใดๆ จากคนข้างใน ใจหนึ่งนึกลังเลอยู่ว่าจะเคาะประตูเรียกคนในห้องอีกครั้งหรือจะยืนรออย่างไร้สุ้มเสียงต่อไปดี ระหว่างนั้นก็คิดด้วยความมั่นใจว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องต้องอยู่ด้านในแน่ๆ ก็เมื่อตอนเย็นเธอยังเห็นเขาเดินเข้าห้องไปอยู่เลย

ถ้าไม่ใช่เพราะของใช้ส่วนตัวอย่างชุดชั้นในสีหวานที่สั่งซื้อมาเพื่อโอกาสพิเศษของตนหล่นจากระเบียงแล้วละก็ เธอคงไม่ต้องมายืนทำตัวลับๆ ล่อๆ น่าสงสัยแบบนี้

นับดาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อีกครั้ง ก่อนจะลองแนบหูให้ชิดบานประตู หลับตาตั้งสติฟังเสียงภายในห้อง นอกจากความเงียบสงบ เธอได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดผ่านประตูออกมา เป็นเสียงทุ้มต่ำที่เธอต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจอีกครั้ง

“อือ...เดียร์...”

เสียงครางต่ำผสมกับเสียงหอบทำเอาคนแอบฟังผงะ หญิงสาวชะงักเล็กน้อยแล้วรีบดันใบหน้าออกห่างจากประตูเกือบจะในทันที เสียงครางแบบนี้มีหรือที่เธอจะไม่เข้าใจ เพราะชีวิตของเธอเรียกได้ว่าคุ้นเคยกับเสียงเหล่านี้ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก แต่ที่ทำให้เธอตกใจที่สุดคงเป็นคำสุดท้ายที่ได้ยินแผ่วๆ แว่วมา

เดียร์

มันคือชื่อเล่นของเธอ...นับดาวฟังไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเขาถึงเรียกชื่อเธอขึ้นมา...หรือว่า!

ชั่วแวบหนึ่ง นับดาวนึกไปถึงชุดชั้นในตัวจิ๋วที่ตกลงมาจากระเบียง ยิ่งได้ยินเสียงครางและเสียงร้องเรียกชื่อตัวเองแบบนี้แล้ว คำตอบเดียวที่ผุดขึ้นมาก็ไม่คล้ายจะหลุดจากความเป็นไปได้มากนัก แม้จะพยายามยกเหตุผลอื่นๆ ขึ้นมาหักล้าง แต่ในเวลานี้นับดาวคิดดีไม่ได้เลยสักข้อ

หัวใจของเธอเต้นระรัวชนิดที่ว่าไม่ต้องวางมือไว้เหนืออกก็ยังรู้สึกได้ สมองของเธออื้ออึงไปชั่วขณะ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสั่งให้เธอรีบถอยออกไปจากหน้าประตูห้องนี้ แต่ความอยากรู้อยากแห่งรวมถึงแรงปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในใจกลับผลักดันให้นับดาวทำเรื่องบ้าบิ่นที่สุดในชีวิต

มือเรียวยกขึ้นช้าๆ ก่อนจะวางลงที่ลูกบิดประตูห้อง และไม่รอช้าหรือลังเลแม้แต่น้อยที่จะลองบิดหมุนเพื่อเปิดมันออก

ทันทีที่ได้ยินเสียง ‘แกร๊ก!’ ยามลูกบิดประตูคลายออก มุมปากของนับดาวก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม จากนั้นเพียงพริบตาหญิงสาวก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉย พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด

จริงๆ แล้วเธอไม่ได้อยากรู้ว่าต้นตอของเสียงหอบครางนั้นมาจากอะไร หรืออยากไปดูหนังสดที่แสดงห้วงอารมณ์และการปลดปล่อยของหนุ่มเจ้าของห้อง ของแบบนั้นเธอเปิดอินเทอร์เน็ตศึกษาเอาก็ได้ แต่ที่เธอต้องการคือโอกาสต่างหาก

รู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ชีวิตของเธอมีแค่ครั้งเดียว เธออยากลองเสี่ยงดูสักครั้งว่าผลของการทำเรื่องบ้าบิ่นเช่นนี้จะเป็นอย่างไร โอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะเจอได้ทุกวัน ถ้าใครจะตำหนิว่าเธอไร้ยางอายและทำตัวแย่ยิ่งกว่าใครๆ เรื่องนี้นับดาวก็จะน้อมรับไว้โดยไม่มีข้อแก้ตัว

เธอกลั้นลมหายใจแล้วออกแรงดันประตูให้เปิดออก พอที่จะสอดร่างเล็กๆ ผ่านช่องประตูเข้าไปด้านใน

ทันทีที่เข้ามาในห้อง บรรยากาศรอบตัวคล้ายจะเปลี่ยนไปทันที ภายในห้องที่มืดสลัว อย่างน้อยเธอก็พอจะเห็นเงารางๆ ภายในห้องได้ เสียงครางทุ้มที่คิดว่าแผ่วเบากลับดังขึ้นชัดเจน รวมถึงเสียงเรียกชื่อเธอที่ดังซ้ำไปซ้ำมาจนพวงแก้มร้อนฉ่า ราวกับว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องกำลังกระซิบพร่ำเรียกชื่อเธออยู่ข้างใบหู

ภาพตรงหน้าคือแผ่นหลังกว้าง ท่อนแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เส้นผมดำขลับประบ่าของชายหนุ่มเปียกชื้นด้วยเหงื่อ ใบหูของเขามีหูฟังสวมอยู่ทั้งสองข้าง นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เขาไม่ได้ยินเสียงใดๆ หรือแม้แต่จะทันรู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา

สายตาของเธอไล่สำรวจจากแผ่นหลังลงไปยังเอวสอบเข้ารูป ในขณะที่เขาเริ่มขยับตัวเปลี่ยนเป็นนั่งลงที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น เธอถึงได้เห็นภาพแสนรัญจวนกว่าเดิม แสงสลัวจากนอกห้องทำให้นับดาวเหมือนล่องลอยอยู่ในแดนโลกีย์ ฝ่ามือที่กำลังรูดแก่นกายของตัวเองขึ้นลงเป็นจังหวะสอดประสานเข้ากับเสียงลมหายใจหนักๆ และเสียงครางทุ้มต่ำ ความเป็นชายที่ชูเชิดต้องการบอกถึงเอกราชของตนแล้ว ไม่มีอะไรชัดเจนมากกว่านี้อีก

นับดาวลอบกลืนน้ำลาย ขณะที่ร่างกายของเธอเกร็งไปสุดสัดส่วน สายตาไม่อาจเบนออกจากจุดนั้นได้ จุดโฟกัสสายตาพุ่งตรงไปที่อวัยวะเดียวที่ทำให้ชายหนุ่มทรมานที่สุด

“อะ...อะ...เดียร์...อื้อ!”

จังหวะนั้นที่เธอเห็นว่าร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง ขณะเดียวกันของเหลวขาวขุ่นก็ทะลักออกมาเปรอะเปื้อนฝ่ามือของเขา บางส่วนของมันทะลักหกลงบนโต๊ะและพื้น

เธอรู้สึกลำคอแห้งผาก หัวใจเต้นระรัว ยังไม่ทันที่เธอจะได้ขยับตัวหรือเอ่ยปากพูด ชายหนุ่มก็หันมาทางเธอ ใบหน้าชุ่มเหงื่อชะงักค้าง ริมฝีปากเผยออ้าด้วยความตกใจ

“คุณ!”

ร่างสูงเปล่าเปลือยของชายหนุ่มรีบผุดลุกอย่างเร่งรีบ คว้าผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ไม่ไกลมาพันรอบตัว จากนั้นก็ถอดหูฟังออก เขาขยับอีกเล็กน้อยเสียงเปิดสวิตช์ไฟก็ดังขึ้นพร้อมกับที่ไฟในห้องสว่างวาบขึ้นมา

ทันทีที่ทั่วทั้งห้องสว่างเพราะหลอดไฟเหนือศีรษะแล้ว นับดาวจึงสังเกตเห็นเรือนร่างกึ่งเปลือยของเขาได้ชัดเจนกว่าก่อนหน้านี้ หากไม่เห็นด้วยตาเปล่า เธอคงไม่รู้ว่าร่างกายที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดที่ชายหนุ่มใส่ประจำจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามเช่นนี้ หน้าท้องของเขาเป็นลอน ท่อนแขนเปี่ยมด้วยกล้ามเนื้อ เม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่บนซิกซ์แพ็กและหน้าอกแน่นๆ ค่อยๆ ไหลลงสู่จุดต่ำของร่างกาย และซึมหายไปหลังจากสัมผัสกับผ้าขนหนูสีดำที่ผูกอย่างเร่งรีบ

นับดาวเผลอตัวเหลือบมองวีเชปที่นำสายตาไปสู่ห้วงความลับของชายหนุ่ม และทันทีที่ดวงตาของเธอเลื่อนต่ำตามลงไป จุดอ่อนไหวของเขาก็ยังอยู่ในสภาพพร้อมรบทั้งๆ ที่มันเพิ่งปลดปล่อยความอัดอั้นออกไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วแท้ๆ

“คุณเข้ามาได้ไง!” หลังจากตั้งสติได้ สีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นท่าทางน่ากลัวของชายหนุ่มแล้วเธอก็ตกใจ เผลอก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยพลางพยายามอธิบายสถานการณ์ตรงหน้า

แน่ละ ดูก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เธอเป็นผู้บุกรุกอย่างชัดเจน

“คือฉัน...”

คนตรงหน้ายืนกอดอกจังก้าอยู่ไม่ไกล นัยน์ตาคมกริบจ้องเขม็งตรงมาเบื้องหน้า ไม่มีแววลังเลเลยแม้แต่น้อย

“เสื้อของฉันตก แล้วฉันก็เคาะเรียกคุณนานแล้ว แต่ไม่มีใครตอบ ฉันได้ยินเสียงแปลกๆ ก็นึกว่าคุณเป็นอะไร...” ครึ่งแรกเป็นความจริง ส่วนครึ่งหลังคือเรื่องโกหก แต่เพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง เธอจึงรีบพูดต่ออีกว่า “ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองเช็กที่ระเบียงก็ได้ค่ะ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางเหลือบไปมองระเบียงห้องของตัวเอง เสียงนุ่มทุ้มจริงจังของเขารีบดักเธอไว้

“คุณรอก่อน”

เธอพยักหน้ารัวๆ ก่อนมองเขาเดินไปที่ระเบียง ไม่นานชุดชั้นในทรงประหลาดตาสีชมพูก็อยู่ในมือของเขา

“นั่นแหละค่ะของที่ว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจเข้ามาขัดจังหวะคุณนะคะ”

ยิ่งพูดภาพก่อนหน้านี้ก็ยิ่งไหลทะลักเข้ามาในหัว เธอเม้มปากก่อนจะกลั้นใจถามไป

“ที่คุณพูดชื่อเดียร์เมื่อกี้...”

“คุณคงไม่บอกคุณเดียร์ใช่ไหม”

ก่อนที่นับดาวจะได้พูดจบประโยค เขากลับถามขึ้นพร้อมกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างชะงัก

นับดาวมองคนตรงหน้าด้วยความสับสนเล็กน้อย แต่แล้วเธอก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาได้ ถึงอย่างนั้นก็อดถามไม่ได้เพื่อความมั่นใจ

“คุณจำฉันได้ใช่ไหมคะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า นัยน์ตาสีดำกวาดมองเธอทั่วร่างหนึ่งครั้ง ก่อนจะพูดต่อ “คุณอยู่ห้องข้างบน แล้วก็เป็นลูกค้าที่ร้านบ่อยๆ”

คำอธิบายทำให้นับดาวยิ้มจางๆ เธอกลืนน้ำลายเล็กน้อย หวังให้ลำคอที่แข็งเกร็งรู้สึกชุ่มชื้นขึ้นบ้าง

“ส่วนเดียร์ที่คุณหมายถึงคือคุณเดียร์ที่มาพบฉันบ่อยๆ ใช่ไหมคะ” วินาทีนั้นเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะค้นหาบางอย่างในสายตาของเขา นอกจากแววตาที่ไหววูบของชายหนุ่ม เธอก็เห็นท่าทีกระสับกระส่ายจากเขาเช่นเดียวกัน

เดียร์ที่เขาหมายถึงไม่ใช่เธอ...แต่เป็นอีกคน

เขารู้ว่าเธออาศัยอยู่ห้องพักชั้นบนเขา รู้ว่าเธอคือลูกค้าที่มักไปซื้อเครื่องดื่มร้านเขาบ่อยๆ รู้ว่าเธอมักจะไปอยู่ที่นั่นกับใครอีกคนที่ชื่อเดียร์ แต่ทั้งหมดนี้มีอย่างเดียวที่เขาไม่รู้...

นับดาวพยายามยิ้มอย่างไม่ถือสา ไม่ใช่เพราะไม่ถือสาคนตรงหน้า แต่เป็นการบอกตัวเองเท่านั้น

“ครับ” 

เมื่อเขายอมรับ เธอจึงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่จะขอโทษเขาแล้วจบเรื่องทั้งหมดนี้ วินาทีเดียวกันนั้นเอง นับดาวเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมากะทันหัน

“ฉันจะไม่บอกคุณเดียร์แน่นอนค่ะว่าคุณทำอะไรหรือจินตนาการถึงเธอตอนที่กำลังทำอะไร แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยนอยากจะเสนอคุณค่ะ รับรองว่าคุณเดียร์จะไม่รู้เรื่องนี้จากปากฉันเลยค่ะ”

พอได้ยินเธอพูดขึ้นมาแบบนี้ใบหน้าของชายหนุ่มก็เคร่งเครียดขึ้น สีหน้าทะมึนของเขาทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมา ราวกับเธอกำลังได้เปรียบ กำความลับสำคัญของเขาไว้ในมือ

“คุณต้องการอะไร”

น้ำเสียงของเขาไม่ได้ยินดีอย่างที่เธอรู้สึก แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดใจแค่ไหน

“เรามาเป็นเซ็กซ์เฟรนด์กันไหมคะ”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น