7

ใครชอบก่อน...แพ้!


EPISODE 6

ใครชอบก่อน...แพ้!

“มะ...ก็ต้องหึงสิพี่ อย่ามาล้อเล่นกับใจผมดิ”

เกือบละกู เกือบจะปฏิเสธว่าไม่ได้หึงมันละ พอผมบอกว่าหึงปุ๊บ ไอ้พี่ท่านก็ลุกจากเก้าอี้ ผมเงยหน้ามองมันด้วยความเหวอ

“พี่จะไปไหน” มึงจะมาไวเคลมไวอย่างงี้ไม่ได้นะ

“ก็เห็นมึงไม่อยากกินที่นี่ จะพาไปกินร้านอื่น”

หูวววววววววววว มันจะด่าผมเรื่องมากอย่างงั้นอย่างงี้ทำไม ถ้าจะเสนอตัวตามใจผมขนาดนี้

หมับ!

ผมดึงแขนไอ้คนหน้าโหดที่กำลังจะเดินลิ่วตัวปลิวออกจากร้าน คุณท่านหันมามองผมที่ทำตาปริบๆ อยู่

“อะไร” เสียงหวัดๆ ที่ไม่ถึงกับเป็นเสียงตะคอกเอ่ย

“ผมก็อยากจะหนีตามพี่ไปอยู่หรอก ติดตรงเขาน่าจะทำแล้วนะ” พอผมพูดจบ เด็กเสิร์ฟก็เอาก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟพอดี พี่ท่านหันกลับมามองเด็กเสิร์ฟที่ทำหน้างงๆ กับสภาพที่เขายืนเก้กังอยู่กลางร้านแบบนี้

“กลับไปนั่งไหมพี่” ผมถาม

พี่ท่านถอนหายใจแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ผมแทน ห่าราก! ตัวก็ใหญ่ ยังจะมานั่งเบียดๆ ผมอีก! ทำไมไม่กลับไปนั่งที่มันฟระ!

“พี่ ทำไมไม่กลับไปนั่งฝั่งโน้นอะ” ผมแกล้งถาม

“ทำไม กูจะนั่งตรงนี้แล้วมันทำไม” คุณท่านหันมามองผมเหมือนหาเรื่องเลยอะ คงเป็นนิสัยมันไปแล้วมั้ง ที่จะเถื่อนไม่หยุดแบบนี้อะ

“เปล่า มันใกล้กัน” ผมเอานิ้วมาจิ้มๆ กัน “เขิน”

อมยิ้มตอแหลถูกส่งไปให้พี่ท่าน มันมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเบือนหน้าไปอีกทาง ผมชะโงกหน้ามองตาม เห็นคุณท่านกลั้นยิ้มอยู่ ไม่สิ มันทำเหมือนจะขำเลยแหละ

“จะขำก็ขำดิพี่ เก๊กทำไมอะ” ที่จริงผมหมั่นไส้คุณท่านตลอด ยกเว้นวันนี้ที่การมากินอะไรกับมันให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด ถ้าไม่นับเรื่องความถ่อย มันก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรนะ แค่หื่นกามมากๆ จนน่าสยองเท่านั้นแหละ

“มึงนี่” มันหันมาทำตาดุใส่ ผมเลยยิ้มให้จนตาหยี พี่ท่านผลักศีรษะผมเบาๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวในชามตัวเองต่อ ผมเห็นพี่ท่านกินลูกชิ้นก่อน เลยเดาว่ามันน่าจะชอบ จริงๆ ผมก็ชอบลูกชิ้นนะ ทว่าเพื่อทำคะแนน ผมก็เลยคีบลูกชิ้นจากชามผมไปใส่ชามของมัน

“อะไร ไม่กินเหรอ” พี่ท่านหันมามองผม

“กินดิ ผมชอบกินลูกชิ้นจะตาย” ผมบอกแล้วหยิบลูกชิ้นมาเข้าปากให้เขาดูเป็นตัวอย่าง

“แล้วให้ทำไม” พี่ท่านเท้าคางมองผม

“เพราะว่าผมอะ...ชอบพี่มากกว่าลูกชิ้นลูกนั้นไง ฮิ้ววว” ผมพูดจบก็ทำท่ากระดี๊กระด๊าจนไอ้พี่ท่านหัวเราะ เจ้าตัวไม่ได้คืนลูกชิ้นผมมานะ ยอมกินเข้าไปตามปกติ

ผมกับไอ้พี่ท่านคุยกันไปกินกันไปจนพออิ่ม พี่ท่านก็จ่ายเงิน เขาบอกว่าเขาเลี้ยง จริงๆ ไอ้พี่ท่านเลี้ยงผมเกือบทุกครั้งเลย ช่างเป็นพี่รหัสที่ทำหน้าที่ได้คุ้มค่าจริงๆ

“มึงจะกลับหอเลยไหม” เขาถามเมื่อเราเดินออกมาหน้าร้าน

“ก็ผมบอกว่าผมจะไปส่งพี่ที่หอไง” ผมยังทำหน้าทำตากรุ้มกริ่มไม่เลิก

คุณท่านรำคาญความดื้อของผมก็เลยพยักหน้า ด้วยเหตุนั้นผมเลยติดตามมันไปที่หอพัก แล้วก็เหมือนสวรรค์จะหมั่นไส้ผมหรืออะไรไม่ทราบ ถึงปล่อยให้ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนผมไม่สามารถกลับหอหลังจากส่งคุณท่านเสร็จได้ คนตัวสูงสะบัดชายเสื้อที่เปียกเพราะเรารีบวิ่งฝ่าฝนเข้ามาในตัวหอพัก จากนั้นก็หันมามองผม

“ไม่หยุดตกง่ายๆ หรอก ขึ้นห้องกูก่อน”

“บ้า ’ไรอะ มาชวนขึ้นห้อง รู้นะคิดอะไร” ผมแหย่คุณท่านเล่น

คนโฉดกระตุกริมฝีปากคล้ายมันเขี้ยวผมเต็มที

“อ้อ คิดเหมือนกูละสิ ดีเลย มีถุงยางด้วยวันนี้ ไป ขึ้นห้อง!”

คุณท่านไม่พูดเฉยๆ ยังจะลากผมขึ้นไปห้องมันพร้อมกันด้วย! คราวนี้ผมไม่ถามมันแล้วนะ ว่าอยู่ชั้นอะไร เดี๋ยวแม่งตอบว่าเจ็ดยับ จับ...อีก =_=;;;

พี่ท่านไขกุญแจเข้าไปในห้อง ห้องอีกฝ่ายยังคงรกๆ และเต็มไปด้วยเศษกระดาษ เศษชิ้นส่วนจากการทำโมเดล

“โห่พี่ ยังกะอยู่ในกองขยะ” ผมอดจะสรรเสริญมันไม่ได้

“ห้องชายโสดก็แบบนี้แหละ ไม่อยากให้รกก็มาเป็นเมียกูสิ แล้วก็มาเก็บห้องให้ด้วย” 

แม่ง! เกี่ยวกันตรงไหนวะ ผมก็เป็นชายโสดนะเฟ้ย! ห้องไม่เห็นจะรกอย่างแม่งซักกะนิด

“ยังไม่ต้องเป็นเมียก็มีโปรเก็บห้องให้นะพี่ ยังไงผมก็ยังกลับไม่ได้อยู่แล้ว ช่วยเก็บไหมล่ะ” ผมยิ้มกรุ้มกริ่มให้ไอ้คุณท่าน ร่างสูงผลักศีรษะผมออกห่าง แล้วเดินไปยกโมเดลที่ทำใกล้เสร็จไปไว้บนโต๊ะ ผมหยิบไม้กวาดกับที่ตักผงมาจัดการพื้นห้อง จากนั้นจัดการเอาถุงขยะสีดำมาเตรียมรับเศษขยะที่ไม่ได้ใช้ไว้ให้เรียบร้อย ไอ้พี่ท่านไปนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง มองผมเก็บห้องเหมือนผมเป็นทาสมันเลย ผมหรี่ตามองมันอย่างหมั่นไส้

“แหม นั่งเป็นเจ้านายเลยนะพี่ เห็นผมเป็นคนถูกใช้เลยละสิ”

ที่ผมเป็นคนถูกใช้ก็เพราะคนใช้คือมันยังไงล่ะ

“กูชอบมองมึงตั้งนานแล้วนี่”

!!!

“มึงไม่สังเกตเอง”

อยู่ๆ มันก็ตอบมาแบบจริงจัง ไม่ล้อเล่น ทำให้ผมอึ้งและตอบมันไม่ถูก ทำได้เพียงกลอกตาไปมาเพื่อหลบเลี่ยงสายตานิ่งๆ ที่มองมาตรงๆ ขนาดนั้น ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน จะว่าเขินก็คงไม่ใช่ ผมไม่ได้ชอบมันนะ จะเขินได้ไงวะ

“เอ่อ อันนี้เอาไปทิ้งที่ไหนเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่อง ไอ้พี่ท่านเลยลุกขึ้นมาเพื่อดึงถุงขยะไปจากมือผม ผมยื้อไว้ “อะไรล่ะ ก็บอกแล้วไงว่าจะทำให้ เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งเอง”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ไม่ใช่ธุระของมึงสักหน่อย” มันฉวยถุงขยะใบใหญ่ที่ไม่หนักอะไรนักไปไว้กับตัวเอง ผมไม่อยากยื้อถุง กลัวว่าอีกเดี๋ยวมันจะขาด เลยจับข้อมือพี่ท่านไว้แทน

“เอามาเหอะน่า โห่! พี่นี่” จังหวะที่ดึงข้อมือมันไว้ ผมก็โยกตัวไปข้างหน้าเพื่อจะเอาถุงกลับมาถือ คุณท่านหันมาพอดี จมูกเราเลยชนกัน คนสูงกว่านิ่งมาก ไม่ยอมผละออกด้วย ผมก็ไม่อยากจะคิดหรอก บรรยากาศแม่งอย่างเป็นใจ ฝนก็ตก อากาศก็เย็นๆ...

ฉิบหายละ! ถ้าไฟดับนะมึงเอ๊ยยย...

พึ่บ!!!

เชี่ย! ไฟแม่งดับห่าอะไรตอนนี้ นี่คงไม่ใช่ฤกษ์งามยามดีในการเสียตัวของผมใช่ไหม!

ผมเงอะๆ งะๆ ทิ้งถุงขยะลงกับพื้นแล้วถอยหลังไป ไม่รู้เหยียบเศษกระดาษหรืออะไรเข้า เลยลื่น จึงรีบคว้าหัวไหล่พี่ท่านไว้ มันก็เลยเอาแขนเข้ามาคล้องตัวผม ท่ามกลางความมืด ผมอยู่ใกล้มันจนได้กลิ่นโคโลญอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นบุหรี่จากตัวมันเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากห้องไม่ได้มืดขนาดมองอะไรไม่เห็น ผมเลยรู้ว่าพี่ท่านมองผมอยู่

“หอถูกๆ ก็งี้แหละ ประจำ” เขาพูดเหมือนบ่น

“เอ่อ ผมรู้ งั้นพี่จะปล่อยได้ยัง” ผมรู้สึกแปลกๆ ที่เหมือนโดนมันกอดอยู่อะ อย่าลืมนะ ผมไม่ได้ปลื้มมันจริงจังซะหน่อย

“นึกว่ามึงจะชอบซะอีก โดนกูกอด” เขาเลิกคิ้ว

หลงตัวเองฉิบหาย ไอ้เกย์กาก!

“โห่พี่ ผมเป็นคนรักนวลสงวนตัวนะ ถึงจะชอบแค่ไหน ก็ไม่ให้พี่ง่ายๆ หรอก”

ผมจะเบี่ยงตัวออก คราวนี้ไอ้พี่ท่านรู้ทัน แม่งกอดสองแขนเลย

“ไอ้เอก มาถึงขนาดนี้แล้ว คิดว่าจะหนีกูรอดเหรอ อยู่ในห้องกับกูสองต่อสอง คิดว่ากูจะปล่อยให้มึงรอดจริงๆ น่ะเหรอ” สีหน้าไอ้ท่านตอนนี้ดูน่ากลัวจนผมต้องกลืนน้ำลาย นี่ถ้ามันเอาจริงมีหวังผมไม่รอด เพราะเหตุนั้นหน้าเลยซีด เหงื่อเลยแตกไม่หยุด พี่ท่านโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ ทำให้ผมหลับตาปี๋ ริมฝีปากร้อนอยู่ใกล้ริมฝีปากผมมากจนผมตัวแข็ง ภาพในใจที่เด่นชัดนั้น ผมได้สะบัดตัวหนีและต่อยมันไปเต็มแรง ผิดกับภาพแห่งความจริงที่ผมยืนแข็งเกร็งเหมือนกลายร่างเป็นหินไปแล้ว!

เสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะได้จูบผม ผมก็พูดออกไป จริงๆ อยากตะโกน ไม่รู้ทำไมเสียงที่ออกไปถึงเบาขนาดนั้น

“ถ้าพี่ไม่คิดจะหลอกผม ผมบอกว่ายังไม่ให้ พี่ก็ต้องรอสิ”

คำพูดของผมทำให้คุณท่านแค่ชะงักเองนะ เมื่อลืมตา มันก็ไม่ได้ผละหน้าออกไป ไอ้เชี่ยเอก ลืมตาขึ้นมาทำไมเนี่ย อ๊ากกกกกกกกก

สัมผัสอุ่นๆ กดลงที่ผิวแก้ม ทำให้รู้ว่ามันเคลื่อนริมฝีปากไปกดลงบนแก้ม ไม่ใช่ที่ปาก ผมโล่งอกบวกกับรู้สึกแปลกใจด้วย ไฟในห้องกลับมาติดอย่างได้จังหวะ พี่ท่านหยิบถุงขยะมาถือ คราวนี้ผมไม่ได้เข้าไปแย่งแล้วนะ ผมยืนมองมัน

“รอจริงอะ” ผมแกล้งๆ ถาม พี่ท่านทำหน้าเซ็งๆ นิดหน่อย

“เออ”

“แน่ะ ชอบผมแล้วอะดิ” พอมันปล่อยผม ผมก็ซ่าไปปากดีแหย่มันเหมือนเดิม คิดว่าคุณท่านจะด่าอะไรสักหน่อย คราวนี้เปล่า

“ถ้ากูบอกว่าใช่ มึงจะเป็นแฟนกับกูเลยไหมล่ะ”

เชี่ย!...

ไม่ได้เตรียมพร้อมมาเพื่อการนี้ ไม่ได้คิดด้วยว่ามันจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“แหะๆ พี่อำเล่นใช่ไหมอะ” ผมหัวเราะแห้งๆ จริงๆ ถึงผมจะเต๊าะมันไม่หยุดยั้ง เราก็ไม่ได้เจอกันนานขนาดที่จะทำให้มันรีบร้อนขอคบกันเบอร์นี้นี่หว่า พอผมถาม สีหน้าไอ้พี่ท่านก็ดูดุดันและจริงจังขึ้น

“ใครเขาเอาเรื่องอย่างงี้มาล้อเล่น หรือมึงไม่ได้ต้องการแบบนี้”

ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก

ก็ต้องการแบบนี้แหละ เพื่อจะได้บอกมัน ว่าที่ผ่านมาผมหลอกมันเล่น มันควรจะง่ายกว่านี้ดิ ทำไมตอนนี้ผมแม่งเหมือนคนพูดปฏิเสธไม่เป็นไปแล้ว

“...” ผมเงียบ

“แล้วมึงจีบกูทำไมเอก”

จังหวะนี้แหละ ผมควรบอกมันว่าผมแค่จะแกล้งเพราะหมั่นไส้ที่มันบอกว่าจะหลอกรุ่นน้องไปฟัน แต่ผมกลับกลัว ไม่ได้กลัวพี่ท่านจะทำอะไรอย่างทำร้ายผม ผมแค่กลัวอย่างอื่น

กลัวผู้ชายตรงหน้าผมจะเสียใจ

“มึงจะเงียบอีกนานไหม”

เสียงของไอ้พี่ท่านทำให้ผมสะดุ้ง ผมอดไม่ได้ที่จะจิ๊จ๊ะเล็กน้อย คนอย่างมันเนี่ย จะให้โอกาสผมได้ทำซึ้งหน่อยไม่ได้หรือไง ไอ้รุ่นพี่เวร! หรืออยากจะให้กูบอกไปตรงๆ ล่ะว่ากูหลอกมึงอะ ไอ้เปรต!

“...”

คุณท่านสาวเท้าเข้ามาหาผม มันเอามือสองข้างล้วงไปในกระเป๋ากางเกง ผมหลุบตาต่ำ กำลังคิดอยู่ว่าควรทำยังไง แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากคนตรงหน้า

“หึๆ”

“หัวเราะอะไร” ผมเงยหน้ามองมันทันที

“ก็หัวเราะมึงน่ะสิ เชื่อที่กูพูดเมื่อกี๊จริงๆ น่ะเหรอ”

“...”

ผมอ้าปากค้าง รอยยิ้มไอ้พี่ท่านตอนนี้ ตอบผมได้อย่างดีว่าเรื่องเมื่อกี๊เป็นเพียงการตอแหลลมๆ แล้งๆ เป็นการเล่นละครของมันเท่านั้น มันไม่ได้จะขอคบผมหรือดราม่าว่าผมไม่รักมันจริงๆ ไอ้ห่าเอ๊ย! ผมควรจะโล่งใจนะ แต่ทำไมรู้สึกโกรธอย่างงี้วะ

“พี่เป็นไรมากปะ” ผมเหวี่ยง

“ทำไม โกรธกู? เสียใจ?” แม่งเอียงคอทำหน้ากวนตีนใส่ ผมละอยากปล่อยหมัดใส่มันเลย อารมณ์กระดี๊กระด๊าตอนปั้นหน้าต่อหน้ามันหายวับไปกับตา

“ผมอะนะเสียใจ เหมือนพี่เหวออะ ผมไม่ได้เสียใจหรอก ผมกลัวพี่จะเสียใจต่างหาก แม่งเอ๊ย! เสียเวลาโคตรๆ” ผมบ่นพรวดๆ ออกมาโดยไม่เก็บความรู้สึกสักนิด จงใจหันหลังเพราะยอมตากฝนกลับดีกว่าอยู่ตรงนี้ให้ของขึ้นจนหันไปชกมัน

หมับ!

ไอ้พี่คุณท่านกอดไหล่ผมจากข้างหลัง ด้วยความที่มันเป็นคนแขนยาว แขนของอีกฝ่ายเลยกักรอบบริเวณลำคอของผมได้พอดี ผมยื้อตัวเองนิดหน่อย พลางหันไปมองคนตัวสูงอย่างไม่ชอบใจ

“ถ้ากลัวกูเสียใจ ก็อย่าทำให้กูเสียใจ เข้าใจ๋!”

กูเปลี่ยนใจละ อย่างมึงน่ะเหรอจะมาเสียใจเพราะกู! ผมกับมันนี่เหมือนเล่นเกม ‘รักก่อนเจ็บก่อน’ อยู่หรือเปล่า เหอะ! ผมไม่มีทางจะรักมันหรอก คอยดูนะไอ้พี่ท่าน มันจะต้องเงิบซ้ำ เงิบซ้อน เงิบซ่อนเงื่อน เมื่อผมเฉลยว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับมันทั้งนั้น จุดจบของผมกับมันต้องเจ๊ากันแน่ๆ อย่างไอ้คุณท่านเนี่ยนะ จะมาจริงจัง ผมจะลืมหรือที่มันประกาศเองว่าฟันเก่งขนาดไหน แถมพวกปีหนึ่งยังพูดลือกันอีก ผมไม่ยอมหลงกลมันร้อกกก

“อืม” ผมพยักหน้า

“อย่าทำหน้าบึ้ง”

“แหม ก็เห็นพี่อุตส่าห์ขอคบ นึกว่าขอคบจริง อุตส่าห์คิดคำตอบไปโน่น ที่แท้ก็แค่หลอกให้ดีใจ เฮ้อ! เสียดายฉิบหายที่ไม่ได้พี่เป็นผัวเนี่ย” 

พอผมพูดแบบนั้น ก็โดนลากไปที่เตียงอย่างแรงจนต้องร้องโวยวาย รู้สึกตัวอีกทีไอ้พี่ท่านก็มาคร่อมตัวผมแล้ว ไม่รู้มันจับขาผมแยกออกตอนไหน รู้แต่ท่าทางตอนนี้น่ะหวาดเสียวสุดๆ! ตาผมเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า! ไอ้พี่ท่านถอดเสื้อออกจนเปลือยท่อนบนโดยไม่ยอมผละจากการกดทับร่างผมไว้ด้วยซ้ำ

“ของอย่างงั้นอะ ไม่ต้องคบกัน กูก็เป็นให้ได้”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น