6

ไม่สนิท


 

EPISODE 5

ไม่สนิท

พอวันหยุดผ่านไป ชีวิตของผมกับไอ้เครย์เพื่อนรักก็วนเวียนเข้าสู่การไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง หลังเลิกคลาส ไอ้เครย์ชวนผมไปดูพี่อองฟองของมันซ้อมตีกลองคณะ บังเอิญผมรู้มาว่าไอ้พี่ท่านตีกลองคู่กับพี่อองฟอง ผมเลยไม่พลาดที่จะไปอ่อยมัน

“พี่ท่าน!” พอไปถึงที่ ผมก็ตะโกนเรียกชื่อมันก่อนที่พวกนั้นจะได้เห็นตัวผมซะอีก

พอไอ้คุณท่านเห็นผมเดินเข้าไป ก็เอาไม้กลองชี้หน้าผม

“อะไรมึง วันนี้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับกูเลยนะ”

“โหยพี่ท่าน อยากเจอ” ผมพูดยิ้มๆ ด้วยความสตรอว์ “ดูพี่ซ้อมกลองนะ”

พูดจบก็ถือโอกาสนั่งลงบนเก้าอี้ที่ห่างจากพี่อองฟองไปประมาณสองสามตัว เธอเหลียวมองผมแล้วยิ้มขำๆ ออกมา ผมไม่รู้หรอกว่าเธอขำอะไร เธออาจจะขำที่ผมกวนตีนไอ้พี่ท่านก็ได้

 “เอก ไปกินเหล้ากับพวกพี่ปะ” พี่ทรานซ์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงซี้ๆ ทั้งๆ ที่...นี่คือการเจอกันครั้งที่สอง ก็ไม่มีอะไรมาก สงสัยได้ช่วยผมจากการปลุกปล้ำของไอ้พี่ท่านแล้วรู้สึกสนิทกันมั้ง

“พี่ทรานซ์เลี้ยงผมเหรอ” ผมแกล้งย้อนถามไปงั้นเอง ตามประสาคนอ้อร้อ

“อยากให้เลี้ยงกูก็เลี้ยง ใครจะมาให้น้องจ่ายวะ” พี่รูธพูดขึ้นแล้วหัวเราะไปด้วย

นี่ก็เป็นอีกคนที่ผ่านประสบการณ์การช่วยปกป้องเวอร์จิ้นประตูหลังของผมจากไอ้เฒ่าท่านลามก

“งั้นดีลเลยพี่” ผมยิ้มกว้าง แดกเหล้าฟรีเชียวนะ ใครจะไม่ยิ้มล่ะวะ ไอ้ท่านเลยพ่นลมหายใจแบบเซ็งๆ หน่อย สงสัยช่วงนี้ผมรุกมันถี่ไปมั้ง คนที่กำลังเช็กกลองอยู่เลยตวัดสายตามองผม

“ให้ท่านะมึงอะ” เสียงเข้มแซะผมเหมือนหมั่นไส้

“แล้วเอาปะล่ะ” ผมแกล้งยวนถามกลับโดยไม่สนใจเสียงโห่แซวของรุ่นพี่คนอื่น มันด้านมา ผมก็ด้านตอบ จะกลัวอะไรล่ะคร้าบบบ

“กูท่ายากนะ บอกก่อน” ไอ้คุณท่านยังคงด้านคูณด้านอย่างต่อเนื่อง เรื่องใต้สะดือนี่ขอให้บอก ถ้ามีประกวด มันก็คงได้รางวัลที่หนึ่งของที่หนึ่ง

“จะรอดูนะพี่ ว่าจะยากกว่าผมป่าว” ผมยักคิ้วใส่

พี่อองฟองนี่ทั้งขำทั้งส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เธอหันไปเรียกไอ้เครย์เพื่อนผมให้เข้าไปนั่งด้วย ไอ้เครย์ก็เหมือนรอจังหวะนี้อยู่แล้ว ผมเลยปล่อยให้เพื่อนสนิททำคะแนนไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง พี่ๆ ก็ถามว่าผมจะกลับไปหรือเปล่า ผมเลยบอกว่าผมจะดูพี่ท่านซ้อมกลอง วันนี้ผมไม่มีอะไรทำซะหน่อย อยู่หม้อไอ้พี่ท่านนิดนึงคงไม่เสียหายอะไรหรอก

 

KUNTAN PART

เมื่อไอ้น้องเอกอยากมาดูผมซ้อม ผมก็ไม่บ่นอะไร แค่ซ้อมไปเรื่อยๆ ตามปกติ เพราะผมกับอองฟองมีหน้าที่ตีกลองคณะด้วยกันในวันเฟิสต์มีตติ้งที่เป็นเหมือนวันต้อนรับน้องปีหนึ่งอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวพอรุ่นไอ้เครย์ขึ้นปีสอง มันก็ต้องหาผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคน มาทำหน้าที่นี้เหมือนกันแหละ การมีไอ้น้องเอกมานั่งชื่นชมไม่ใช่ปัญหากับผม ทว่าการมีเพื่อนไอ้น้องเอกที่จีบอองฟองมานั่งดูด้วย ทำให้เพื่อนสนิทผมประหม่าจนตีผิดหลายครั้ง

“ผิดจังหวะหลายครั้งนะฟอง” ผมบ่นอองฟองขึ้นเมื่อเราซ้อมเสร็จ ไอ้น้องเอกกับเพื่อนมันยืนคุยกันอยู่อีกมุมไกลๆ

“โทษทีว่ะ พรุ่งนี้จะมีสมาธิกว่านี้นะ” เธอส่งยิ้มแหยๆ

“เพราะไอ้เครย์มาดูเลยตีไม่คล่อง เขินมันเหรอ” ผมถามตามความรู้สึก เลยโดนฟาดที่ไหล่เข้าให้

ผัวะ!!!

“โอ๊ย! เจ็บนะเว้ย!” ผมโวย

“เจ็บอะดี จะได้ไม่ถาม’ไรบ้าๆ”

 “ระวังเหอะ อยู่ใกล้มันมากๆ เดี๋ยวก็ชอบมันเข้าสักวัน” ผมยังไม่เลิกแซะเพื่อนสนิท

“เตือนตัวแกเหอะ จะชอบน้องเอกก่อนฉันอะดิ” อองฟองก็ดูออกเหมือนกันว่าไอ้เอกมันกำลังอ่อยผมอยู่ คิดเหรอว่าผมยอมให้มันอ่อยแล้วผมจะเป็นฝ่ายแพ้ความอ่อยมันราบคาบ ยังไม่มีวันนั้นง่ายๆ หรอก ที่ผมทำก็แค่รีแอ๊กชั่นจากการที่มันอ่อยเท่านั้นแหละ เคยได้ยินไหม อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกง

“ไปถุยที่อื่นเหอะ ฉันได้ฟันมันก่อนที่ฉันจะชอบมันแน่อยู่แล้ว ของอย่างงี้ไม่ต้องใช้ความรู้สึก โยกสะโพกแรงๆ ก็พอ” ผมยักคิ้วให้เพื่อนสนิท

“ไอ้ท่าน ไอ้อุบาทว์!” อองฟองด่าผมเพราะอดรนทนไม่ไหว

“พูดจริง ช่วยไม่ได้ปะวะ เนื้อมันเดินมาเข้าปากเสือเอง ไอ้น้องเอกมันอ่อยฉัน เธอก็เห็น”

อ่อยไปเรื่อยโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังจะต้องเจอกับอะไร!

“นี่ ฉันว่าแกอย่ามั่นมากเลยไอ้ท่าน ระวังโดนน้องมันหลอก” อองฟองเตือนผม คงกลัวผมจะพลาดท่าให้ความมั่นหน้าของตัวเอง

“มันจะหลอกอะไรฉันได้ มันเสร็จฉันก่อน น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ ไปละ” ผมตบไหล่อองฟองเบาๆ แล้วสะพายเป้ของตัวเองขึ้นบ่า จากนั้นเดินไปหาไอ้น้องเอกที่นั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่

“ไปมึง” ผมจับเข้าที่แขนมันและบอกให้เดินตาม อีกฝ่ายก็ทำอย่างว่าง่ายไม่อิดออด มันหันไปตะโกนบอกลาเพื่อนสนิทซะเสร็จสรรพด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า ผมหัวเราะหึๆ ในลำคอ ลั้ลลาไปเหอะมึงเดี๋ยวเอาเข้าจริง ใครจะซวยกว่าก็ได้รู้กัน

 

AKE PART

“นึกไงมารอกู” ไอ้พี่ท่านถาม ทั้งๆ ที่มือมันเนี่ย ก็จับมือผมซะแน่นขนาดนี้แระ

“ทำไมล่ะ พี่ไม่อยากให้มาเหรอ” ผมถามกลับด้วยสีหน้าทะเล้นสดใส

“มาได้ แต่น่ารำคาญหน่อยๆ พอเห็นกูไม่ว่าอะไรละอ่อยไม่ยั้งเลยนะ” ไอ้พี่ท่านแขวะผม ยอมรับนะว่าเรื่องที่มันแขวะก็มีความจริงอยู่บ้าง ทำมาเป็นว่าผม!

“พี่ได้กลิ่นอะไรไหม้ๆ ไหมอะ” ผมแสร้งทำจมูกฟุดฟิด ไอ้คุณท่านเลยหันซ้ายหันขวาแบบงงๆ

“ไม่นี่ มึงได้กลิ่นเหรอ”

“ได้ดิพี่ ไหม้มากเลยเนี่ย” ผมยื่นหน้าไปตรงหน้าคนตัวสูงกว่า “กลิ่นพี่ทอดสะพานให้ผมอะ! อย่ามาบอกว่าผมอ่อยหน่อยเล้ยยย ตบมือข้างเดียวมันจะดังได้ไง เนี่ย...แค่ผมไปรอหน่อย เดินจับมือผมออกมาแระ”

ไอ้คุณท่านเหยียดริมฝีปากหน่อยๆ เมื่อเจอมุกบัฟฟาโล่ของผม มันแกล้งยื่นหน้าเข้ามาบ้าง ทำเอาใจผมหายวาบ นี่ถ้าผมไม่ถอยมานิดหน่อย ปากอาจจะชนกันได้เลยนะเนี่ย ไอ้พี่ท่านนี่ด้านไม่เลิกจริง ผมลืมไปว่ามันเกือบปล้ำผมมาแล้วตอนมันเมา 

“กูอยากจับอย่างอื่นมากกว่ามือมึงเยอะไอ้เอก อย่างอะไรที่มันอยู่ใต้กางเกงมึงน่ะ แต่ตอนนี้ได้แค่มือกูก็เอามาก่อน” พูดเฉยๆ คงไม่สาแก่ใจ ยังมาทำหน้าตาหื่นกระหายใส่ผมอีก

ไอ้ห่า! ทำเป็นมั่นหน้ามั่นโหนกไปเหอะ ไอ้เกย์ถ่อย! ถ้ารู้ว่าผมไม่ได้คิดจะให้ จะเสียใจจนเลิกเป็นเกย์เลยไหมเนี่ย อยากรู้ พูดแล้วก็อ่อยอีกหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะเอาให้เก็บไปฝันเลย

“ใจเย็นๆ ดิพี่ ไม่ได้บอกว่าไม่เป็น แต่บอกว่าเดี๋ยวก่อน” ผมแกล้งเอาท่อนหนึ่งในเพลงมาตอบโต้มัน ไอ้คุณท่านหลุดขำนิดๆ แล้วเอามือมาขยี้เส้นผมของผมจนยุ่งไปหมด พอมันทำแบบนั้น ใจผมก็กระตุกหน่อยๆ เขายิ้มอีกละ ยิ้มที ผมนี่เคลิ้มตามตลอด ใจเย็นสิไอ้เอก นี่มึงแค่จะมาอ่อยมันเพื่อหักอกนะ ไม่ได้มาเพื่อเป็นเมียมันจริงๆ

ผมสูดหายใจลึกๆ แล้วยิ้มตามไอ้ท่านไปแบบเนียนๆ เจ้าตัวละมือออกจากศีรษะผม

“พี่จะกลับหอเลยปะ” ผมถาม

“ยัง จะว่าไป...นี่ก็เย็นแล้วนะ มึงกลับยังไง ซอยหอมึงเปลี่ยวหรือเปล่า” คุณท่านถาม สายตาที่มันมองผมดูจะห่วงอยู่หน่อยๆ ไม่แน่ๆ มันอาจจะตอแหล หรือไม่ก็ห่วงจริงๆ ตามประสารุ่นพี่

“นิดหน่อยอะ” เสแสร้งให้มันกังวลหน่อยๆ อยากรู้ว่าตอนนี้มันคล้อยตามผมหรือยัง

“แล้วมึงไม่กลัวเหรอ” คุณท่านทำสีหน้าสนใจมานิดหนึ่ง ดูเหมือนมันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ฮั่นแน่! เป็นห่วงละซี้! ทำมาเป็นเถื่อนกลบเกลื่อนไปเถอะ ผมไม่เชื่อหรอก

“เรื่องซอยเปลี่ยวอะ ผมไม่กลัวหรอกพี่ ผมกลัวอย่างเดียว” ผมทำหน้าซีเรียส ไอ้คุณท่านเลยขมวดคิ้วตาม

“อะไรวะ”

“กลัวพี่ไม่มีใจอะ” ผมยิ้มกว้างแล้วทำหน้าอ้อร้อ ไอ้คุณท่านเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วถอนหายใจ

“ไปเลยไหม” มันถาม

“ไปไหน พี่จะไปส่งผมเหรอ” ผมยังไม่เลิกกระเซ้าเย้าแหย่

“เปล่า โรงแรมข้างหน้าเนี่ย ห้องพัดลมแค่สามร้อยเอง เดี๋ยวกูจะทำให้มึงรู้เอง ว่ากูมีใจกับมึงแค่ไหน”

พูดจบไอ้คุณท่านก็จับข้อมือผม ทำอย่างกับจะลากไปเข้าโรงแรมจริงๆ เล่นเอาผมคว้ามือมันแทบไม่ทัน

“โห่พี่ รีบเหรอ”

“แล้วท่าทางกูรีบปะล่ะ” คุณท่านหันมาสบตาผม ถ้าให้ตอบตามจริงจากท่าทางมันละก็ ใจมันไปถามถึงห้องว่างแล้วแหละ! ไอ้หื่นนี่มันหน้าด้านชะมัด!

“ผมหิวอะ” ผมเปลี่ยนเรื่องอย่างเนียนๆ “พี่ไม่หิวเหรอ”

“หิวดิ หิวจนจะแดกมึงได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองไปทั่วทั้งตัวผม เล่นเอาขนลุกซู่ ผมต้องรีบเบี่ยงประเด็นแระ ไม่งั้นคงจะเป็นผมแล้วแหละ ที่ตกถึงท้องมัน!

“ผมหมายถึงหิวข้าวเนี่ย ยังไม่ได้กิน’ไรเลย ไปหาไรกินกันเหอะ นะๆ”

“ถามงี้จะให้กูเลี้ยงมึงหรือไง” คุณท่านกอดอก มันไม่ได้คิดจะลากผมเข้าโรงแรมจริงๆ หรอก คงหมั่นไส้ที่ผมไปหยอดมากกว่า ผมรู้! มันอะทำมาเป็นเก๊ก ถ้าผมบอกให้มันเลี้ยง มันก็เลี้ยงนั่นแหละ! มันเป็นพี่รหัสผมเลยนะ ไอ้พี่ท่านเนี่ย

“จะเลี้ยงก็ได้ หรือจะทำให้กินก็ได้นะ” ผมเอาแขนไปชนแขนอีกฝ่าย แล้วทำท่าทีขวยเขิน ไอ้คุณท่านจะไหวตัวหลบก็ไม่บอก แขนผมจึงกระแทกแผ่นอกมันดังปั้กเลย! มันไม่ได้ว่าอะไรนะ แถมไม่สะเทือนเลยด้วยซ้ำที่ผมไปชนตั้งแรง

“แหะๆ” ผมยิ้มแห้งๆ พลางถอยออกมายืนที่เดิม ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่มเลยตอนที่ชนมันเนี่ย เมื่อกี๊ลมหายใจเจือกลิ่นบุหรี่กับหมากฝรั่งนั่นเป่ารดหูผมเลย

“กูทำไม่ค่อยเป็นนะ มึงทำเป็นเหรอ” คุณท่านถามกลับ มันน่าจะหมายถึงอาหาร

“ก็เป็นบ้าง พี่ชอบอะไรอะ” ผมถาม

“ชอบรุก”

สัส!

ดูมันสิ!

“ผมหมายถึงของกินน่ะพี่”

“กูว่าตัวมึงก็กินได้นะ” มันแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “น่าจะอร่อยด้วย”

ไอ้เกย์เถื่อนเอ๊ยยย!

“จะเล่นจนกว่าผมจะหิวตายไปเลยไหมล่ะ เค้าเขินนะ” ผมผลักมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ ไอ้คุณท่านเซไปนิดหน่อย ตอนขายาวๆ ก้าวถอยหลังไปเพราะแรงผลัก มือหนาก็ดึงรั้งแขนผมให้ขยับตามด้วย จนเราใกล้กันอีก “ตกลงชอบอะไรแน่เนี่ย”

“ก็หลายอย่าง” มันตอบสั้นๆ แล้วยอมปล่อยแขนผมออก ต้องยอมรับว่าถึงไอ้คุณท่านจะเถื่อน มันก็เป็นคนจริงใจนะ คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างงั้นเลย ดูไม่เฟคเลยสักนิด ถึงบางทีคำพูดมันจะหยาบโลนส่อเจตนาสุดๆ ก็ตาม

“แล้วในหลายๆ อย่างนั้นมีผมปะ” ผมนี่ก็เป็นห่าอะไรไม่รู้ ชอบจังไอ้การจะแหย่มันเล่นเนี่ย ไอ้คุณท่านก็ดูไม่ค่อยจะอยากทนเท่าไหร่ด้วยดิ มันหรี่ตามองผม

“มึงนี่ยังไงนะไอ้เอก”

“ก็ไม่ยังไง ตอบก่อนดิ” ผมเอานิ้วไปจิ้มๆ แขนแกร่งที่เห็นเส้นเลือดบางเบานั่น ดูจากท่อนแขนไอ้คุณท่านเนี่ย ต่อยควายตายได้เลยนะ แอบกลัวมันเบาๆ

“ไม่มี” มันตอบหน้านิ่ง

“โหยยย เจ็บอะ เหมือนโดนตีนพี่ขยี้ที่หัวใจ” ผมแกล้งทำเป็นตัดพ้อมันไปงั้นแหละ ทำมาเป็นพูดว่าไม่มีกู ถ้าไม่มีจริงๆ มันไม่เดินจับมือผมหรอก ไหนจะชวนไปโรงแรมนั่นอีก หรือไม่มันก็อาจจะหวังฟันตามปณิธาน ‘ฟันแล้วทิ้ง’ ของมันก็ได้ เอาเถอะ ยังไงผมก็แค่อยากล้อมันเล่น ผมไม่คิดจะให้มันจริงๆ หรอก บอกเลยว่าไม่มีทาง! ผมชอบผู้หญิงเหอะ

“ก็มึงถามถึงสิ่งที่กูชอบ แต่ไม่ได้ถามว่าอะไรที่กูชอบ ‘เป็นพิเศษ’ นี่” ความตรงที่มาพร้อมกับหน้าตายๆ ของไอ้คุณท่าน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งอยู่กับที่ไปโดยปริยาย

“ไปกินข้าวกันดีกว่า” ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะคิดว่าถ้าให้มันหม้อมากกว่านี้ ผมคงอ้วกออกมาก่อนจริงๆ อย่างเลี่ยน!

“มึงจะกิน’ไรอะ” พี่ท่านถามพร้อมกับมองไปรอบๆ

“ก๋วยเตี๋ยวร้านโน้นก็ได้ เดินแป๊บเดียวก็ถึง เสร็จแล้วจะได้ขึ้นรถกลับหอพี่กันไง” ผมยิ้มกว้างจนหน้าใหญ่ขึ้นสิบเท่า

“ไปหอกู?” ไอ้พี่ท่านทวน

“ช่ายยย” ผมไม่คิดจะปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น

“มึงพูดอย่างกับจะไปด้วยงั้นแหละ”

“ไม่ๆ ผมไม่ได้จะไปด้วยซะหน่อย ผมแค่จะไปส่งพี่เฉยๆ” นี่อุตส่าห์ลงทุนเอาสิ่งที่เคยใช้แค่กับหญิงมาใช้กับมันเลยนะ ไอ้คุณท่านหัวเราะในลำคอเชียว แถมยังส่งสายตาดูแคลนมากลายๆ

“หน้าอย่างมึงดูแลตัวเองให้รอดก่อนเหอะ จะไปส่งกูทำไม กูกลับเองได้”

“โหยพี่ ผมต้องไปส่งพี่ดิ นอกจากพี่จะเป็นพี่รหัสผมแล้วเนี่ย พี่ยังเป็นคนที่ผมจีบด้วยนะ” ผมทำมือจีบให้คุณท่านมองมือผมที่กำลังจีบอยู่ ผมอุตส่าห์ทำมืออย่างน่ารัก แต่เจ้าตัวกลับทำให้ผมฝันสลายด้วยการเสียบนิ้วกลางเข้ามาที่ช่องว่างระหว่างนิ้ว เล่นเอาผมรีบเอามือลงแทบไม่ทัน

“โห่พี่อะ โรแมนติกมั่งก็ได้มั้ง อีโรติกอย่างเดียวเลยแม่ง!” ผมอดด่าไม่ได้ ไม่คิดจะทำตัวกุ๊งกิ๊งน่ารักบ้างหรือไง

“มึงหวังอะไรกับกูอยู่ กูเป็นคนแบบนี้ รับไม่ได้ก็ไปจีบคนอื่นสิ” คุณท่านยืนล้วงกระเป๋า ทำหน้านิ่งๆ

“พี่ยอมเหรอ” ผมชะโงกหน้าไปมองหน้ามัน “ยอมให้ผมไปจีบคนอื่นง่ายๆ งี้เลย”

“จะเป็นอะไรไปวะ ไอ้เหี้ยนั่นตายแค่นี้เอง” สายตาโหดๆ นั่นทำให้ผมสะดุ้งกันเลยทีเดียว โห่...ขืนมันจับได้ว่าผมหลอก มันจะฆ่าผมให้ตายคามือเลยไหม

“ขี้หึงจริงๆ เลย” ผมเอามือไปจิ้มๆ มัน คุณท่านรำคาญเลยไหวไหล่หลบ

“จะแดกไหม จะแดกก็เดินมาซักที หรือจะรอให้ร้านมันปิดก่อน”

คนฮาร์ดคอพูดจบก็เดินหน้านิ่งไปก่อน นานแสนนานกว่าไอ้คุณท่านจะยิ้มสักที สำหรับมัน การยิ้มคงออกมาจากความรู้สึกที่แฮปปี้จริงๆ ไม่เหมือนผมที่ก็ยิ้มได้หมด ตอนด่าถ้าอยากยิ้มก็ยังยิ้มได้

เราเดินไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยว คุณท่านสั่งของตัวเอง ผมขี้เกียจคิดเลยบอกว่าเอาเหมือนมัน เจ้าของร้านพยักหน้ารับรู้แล้วหายไปทำก๋วยเตี๋ยว ผมเลยมองไปรอบๆ ร้าน

“ไม่เคยมากินร้านนี้เลยอะ พี่เคยไหม”

“เคย”

“มากับใครอะ พี่อองฟองเหรอ” สิ่งที่ผมถามเป็นแค่บทสนทนาเท่านั้นแหละครับ เขาเรียกการชวนคุย ใครจะไปคิดว่าคำตอบที่ได้น่ะ เล่นเอาคาดไม่ถึง

“มากับเมียเก่า”

สัสเอ๊ย! เสียบรรยากาศ!

“เหรอ พี่โอเคปะเนี่ย ไปกินร้านอื่นก็ได้นะ” ผมถามมัน

“ไม่เป็นไร แดกได้” มันบอกง่ายๆ

“ไปร้านอื่นเถอะ อดีตจะทำให้พี่เฟลนะ” ถึงจะพูดกับไอ้ท่านอย่างงั้นก็ตาม ความอยากอาหารของผมก็ลดลงอย่างน่าประหลาด

“นี่ กูบอกว่ากูแดกได้ไง กูแดกก๋วยเตี๋ยวนะเอก ไม่ได้แดกรสชาติแห่งอดีต ร้านนี้มันอร่อย มึงแดกๆ เข้าไปเหอะ ทำไม หึงหรือไง”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น