2

บทที่ 2


 

บทที่ 2

พี่กชกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือบนเตียงของตัวเองขณะที่ผมเริ่มเซตกล้อง เปิดโปรแกรมอัดวิดีโอและขั้นตอนพื้นฐานอื่นๆ ที่ทำประจำก่อนจะอัดคลิป

“พี่กช” ผมเรียกคนที่ยังกลิ้งไปมากับมือถือของตัวเอง เจ้าตัวผงกหัวขึ้นมาเลิกคิ้วให้

“ว่าไง”

“พร้อมยังพี่”

“พร้อมอะไร”

“เอ้า!” โดนถามกลับงี้ผมนี่หันไปโวยวายแทบไม่ทัน “ก็ที่พี่สัญญาว่าจะออกกล้องกับผมรอบนี้ไง! อย่าเบี้ยวนะพี่ ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำไม่ใช่เหรอ”

พี่กชยิ้มขำกับคำพูดผม แต่ก็ไม่ได้พูดต่อล้อต่อเถียงใดๆ เจ้าตัวกดเล่นมือถือต่ออีกพักหนึ่งก่อนจะยอมวางมันลงกับเตียงแล้วเลื่อนเก้าอี้มาข้างผม

“แน่นอนสิครับ น้องมิว พี่น่ะลูกผู้ชายอยู่แล้ว แต่อาทิตย์นี้บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างนะครับ หวังว่าน้องมิวลูกผู้ชายคนดีที่หนึ่งจะไม่ลืมสัญญา”

ผมกัดฟันอย่างเข่นเขี้ยวทันทีที่พี่กชพูดประโยคนั้นจบ

หน็อย! ไอ้พี่บ้า ไม่คิดจะเกรงใจน้องรูมเมทตาดำๆ ที่ยังเป็นแค่นักศึกษาตัวน้อยอยู่เลยนะ พอได้ข้อเสนอจากผมเข้าหน่อยก็ซัดซะเต็มที่

อื๊อ? ข้อเสนออะไรน่ะเหรอครับ จะเป็นอะไรไปได้นอกจาก...

 

สามวันก่อน หลังจากผมพูดจาบ้าบิ่นอย่างการขอพี่กชเป็นแฟน

“หา!?” นั่นคือคำแรกที่พี่กชพูดออกมาหลังจากผมบอกว่าเขาคงต้องเป็นแฟนผมแล้วละ...

เออ มาลองคิดดูตอนนี้ก็โคตรอาย หน้าเพิ่งมาร้อนตอนนี้นี่แหละ

“แฟนมิวเนี่ยนะ”

“ไม่ใช่ๆ ผมหมายถึง---” นี่ผมพูดผิดไปหน่อยสินะ “หมายถึงเล่นเป็นแฟนน่ะ พี่คงต้องมาเป็นแฟนผมแบบหลอกๆ แล้ว ผมตั้งใจจะพูดแบบนั้น”

“เป็นแฟนมิวแบบหลอกๆ?”

“ใช่ครับ” พยักหน้าแข็งขันมาก

“เพื่อ?”

“เอ้า!” นี่ตกลงเรายังอยู่ในมิติเดียวกันอยู่รึเปล่าเนี่ย “ก็เพื่อให้ยอดวิวยอดซับของผมมันเพิ่มขึ้นน่ะสิพี่ ก็พี่พูดเองไม่ใช่เหรอ”

“เฮ้ย!” พี่กชอุทานแต่ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มขัน ยัง! ยังคิดว่าผมล้อเล่นอยู่อีก “บ้าเหรอ มิว ก็รู้ว่าพี่พูดเล่น”

“แต่ผมเอาจริง” หมายถึงเรื่องที่เล่นเป็นแฟนนะที่เอาจริง

พี่กชที่เริ่มรู้ว่าผมไม่เล่นด้วยเริ่มหุบยิ้มแล้ว “ไม่เอาน่า มิว”

“น้า~ พี่กช” เห็นสีหน้าขึงขังของเขาแล้ว อดไม่อยู่ ต้องปรี่ไปเกาะแขน ส่งสายตาขอร้องอ้อนวอนแบบสุดๆ ไปให้ “แค่เล่นเป็นแฟนกันหลอกๆ หน้ากล้องเท่านั้นเอง ไม่ยากหรอก”

“ไม่เอาอ้ะ” ตอบปฏิเสธหน้าตาเฉย “พี่ว่าไม่เห็นจะเข้าท่าเลย”

“โธ่! เข้าท่าสิพี่!” บทจะดื้อ ผมเองก็ไม่เบาหรอก บอกเลย “พี่ก็เห็นแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผมผายมือไปทางคอมพิวเตอร์รุ่นโปรที่ราคาแพงหูดับของตัวเอง “เนี่ย แค่ผมพูดเล่นๆ ว่าพี่เป็นแฟนผม คนก็แห่มาจากไหนไม่รู้ตั้งมากมาย นี่ยอดซับผมเกินพันก็เพราะคำพูดประโยคนั้นเลยนะ พี่จะมาบอกว่ามันไม่เข้าท่าอีกได้ไง”

เหมือนพี่กชจะเพิ่งรู้ตัว เขาแกะมือผมออก คิ้วเรียวขมวดติดกัน

“แล้วพี่จะได้อะไร” พูดพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

“หา!?”

“ก็เท่าที่ฟังดูเนี่ย มีแต่มิวไม่ใช่เหรอที่มีแต่ได้กับได้ หนึ่งเลย ได้เป็นแฟนกับคนหน้าตาดีแบบพี่---” อุแหวะ! พูดออกมาได้ ถึงจะหน้าตาดีจริงๆ แต่ไอ้การพูดเองนี่ก็เกินไปหน่อยนะ “แม้จะแค่หลอกๆ ก็ตาม สอง มิวได้คนตามช่องของตัวเองเยอะขึ้น แต่พี่ไม่เห็นได้อะไรสักอย่าง”

ถึงคราวที่ผมต้องขมวดคิ้วขึ้นบ้างแล้ว ผมเองก็ไม่หน้าด้านพอจะตอบกลับไปแบบ ‘พี่ก็จะได้คบกับคนหน้าตาดีแบบผมไง’ ด้วยสิ

“งั้น...ผมมีข้อเสนอ เป็นการแลกเปลี่ยนที่จะขอให้พี่ช่วย”

แต่นายกรกชยกมือขึ้นโบกกลางอากาศ

“พี่ว่าเราอย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลย แค่บอกแฟนๆ มิวไป---”

“ผมจะเลี้ยงข้าวเย็นพี่ทุกอาทิตย์!”

พี่กชชะงักกึกไปทันที ตาเบิกกว้างขึ้นทั้งสองข้าง

ผมว่าผมมาถูกทางแล้วละ

“...ก็แค่ข้าวเย็นมื้อเดียว” ยัง! ยังจะต่อรอง

“สองมื้อ!” ผมรีบพูดแทรก “สองมื้อต่ออาทิตย์เลย เย็นเสาร์กับอาทิตย์เป็นไงครับ”

“ก็แค่ข้าวเย็นเองเปล่าวะ”

“ผมยอมให้พี่เลือกร้าน เลือกของที่อยากกิน ราคาเท่าไหร่ก็ได้---”

“ตกลง งั้นพี่ยอมเล่นเป็นแฟนมิว” พูดขัดขึ้นมาพร้อมกับโอบบ่าผมอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าชื่นมื่น “ไว้ใจได้เลย พี่ว่าพี่มีสกิลแอ๊กติ้งสูงอยู่”

หน็อย! ไอ้คนเห็นแก่กินเอ๊ย!

 

ก็...เป็นอะไรประมาณนั้นแหละครับ

ตัดกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน

ตอนนี้ผมกำลังเปิดเกมผีที่เพิ่งซื้อทางออนไลน์มาสดๆ ร้อนๆ โดยมี ‘แฟน’ ปลอมๆ อย่างพี่กชนั่งอยู่ข้างๆ มองสิ่งที่ผมกำลังทำตาแป๋วเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องใดๆ

และเด็กโค่งคนนี้ก็ไม่รอช้าที่จะเอ่ยปากถาม

“มิว ทำไมต้องให้พี่มานั่งข้างๆ ตอนมิวจะเล่นเกมแบบนี้ด้วยล่ะ”

“อ้าว!” ยัง! ยังไม่จบอีก “ก็พี่สัญญาแล้ว แลกกับข้าวเย็น---”

“ไม่ๆ อันนั้นพี่รู้ แต่พี่หมายถึง...มันจะมีความหมายอะไรเหรอ”

“อ้อ มีดิพี่” มั้งนะ “ก็...เอ่อ พี่อาจจะต้องแสดงละครนิดๆ หน่อยๆ ตอนผมเล่นอะ”

“ยังไง”

“อย่าง...ไม่รู้ดิ สมมติผมตกใจผีงี้ พี่ก็...เอ่อ ปลอบผมมั้ง” ผมเองก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายซะด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไง

“อ้อ โอเค แค่นั้นใช่ไหม”

“เอาให้เป็นธรรมชาตินะพี่”

“เออน่า แล้วจะเล่นหรือยัง ฟังเสียงเริ่มเกมนี่มานานจนเริ่มหลอนแล้วนะ”

ผมจึงเริ่มกดอัดวิดีโอ พูดทักทายคนดูอย่างที่ทำมาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือผายมือไปทักทายรุ่นพี่ข้างตัว แต่ผมไม่ได้บอกหรอกนะว่าเขาเป็นแฟนผม แบบนั้นดูโจ่งแจ้งแล้วก็จั๊กจี้ไปนิด แค่บอกไปว่าเป็นคนที่หลายๆ คนถามถึงก็พอ

“เฮ้ย! ไอ้มิว ตรงนั้น” พี่กชยื่นหน้าเข้ามาหายใจรดต้นคอขณะที่ผมบังคับตัวละครในเกม “เมื่อกี้พี่เห็นเทียนอยู่นะ”

“ไหนพี่ ตรงไหน”

เกมนี้ผมเล่นเป็นเด็กชายคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในป่าพร้อมกับเทียนไขหนึ่งเล่ม สิ่งที่เราต้องทำก็คือหาเทียนเล่มต่อไปที่อยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งต้องหาให้เจอก่อนที่เขียนในมือจะละลายหมดไปซะก่อน แล้วถ้าเราต้องอยู่ในความมืดนานเกินไป อาจจะโดนผีหลอกจนเกมโอเว่อร์ได้ แล้วเสียงซาวด์เอฟเฟ็กต์ในเกมจะทำดีไปไหน คือให้บรรยากาศชวนขนหัวลุกจริงๆ

ผมบังคับเด็กชายผ่านหน้าจอ แล้วเดินไปตามทางที่พี่กชบอกเพื่อหาเทียน

“พี่ ไม่เห็นมีเลย”

“อ้าว! สงสัยดูผิด”

“โห่! พี่แม่งมั่วว่ะ เชื่อถืออะไรได้บ้างไหมเนี่ย”

“เฮ้ย! เมื่อกี้พี่ก็ช่วยหาจนเจอไปแล้วรอบหนึ่งนะเว้ย ซ้ายๆๆ เดินซ้ายดิ ไอ้มิว ทางนี้เรามาแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ซ้ายเมื่อกี้ไปทางตันไม่ใช่เหรอพี่! แล้วเสียง...เฮ้ยๆๆ! ไอ้ผีตาบอดจะมาแล้ว”

“วิ่งสิมิว รอพ่อตัดริบบิ้นเหรอ”

“พี่ ไอ้เด็กนี่มันเหนื่อยง่าย จะวิ่งมั่วๆ ไม่ได้”

เอาละสิ บรรยากาศในเกมมันกดดันจนใจผมเต้นรัวไปหมด พี่กชเองก็ดูจะลุ้นไปพร้อมกัน มือนี่บีบไหล่ผมแน่นเชียว ไอ้บ้าเอ๊ย! เสียวโว้ย! อย่าเพิ่งโผล่มาตอนนี้นะ จะอยู่ถึงตอนเช้าอยู่แล้ว

“มิว...พี่ว่าเสียงแบบนี้...”

ผมก็คิดแบบพี่กชเหมือนกัน เสียงผีกำลังจะมายังไงล่ะ

“พี่! เทียนจะหมด! เทียนจะโม้ด! ช่วยผมหาเทียนก่อน”

“วิ่ง! มิว วิ่ง! มันตามมาข้างหลัง---”

“ผมหอบแล้วเนี่ยพี่” หมายถึงตัวละครที่ผมบังคับอยู่นะ แม่งเหนื่อยง่ายฉิบหาย แค่บังคับให้วิ่งแป๊บเดียว...

“อ๊าก!/เหี้ย!”

ผมอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกับพี่กชหลังจากเราโดนผีตาโบ๋แฮ่ใส่หน้าจอไปหนึ่งรอบ จากนั้นหน้าจอก็ค่อยๆ มืดลง คำว่า Game Over เด่นหราขึ้นมา แล้วก็มีตัวเลือกให้เล่นต่อหรือกลับไปที่หน้าเมนู แต่ตอนนี้ผมกับพี่กชหันไปลูบบ่าลูบไหล่กันอย่างเสียขวัญ

“เชี่ยเอ๊ย!” พี่กชว่าขณะยกมือปิดหน้า “ไอ้มิว เมื่อกี้กูตกใจจริงๆ นะนั่น”

“พี่คิดว่าผมไม่ตกใจเหรอ” ใจนี่เต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมาจากอก

แม่ง! มันสะดุ้งตอนตุ้งแช่นี่แหละครับ

“นึกว่าจะช็อกตายคาคอมพ์อยู่แล้ว”

“ผมนี่มือชื้นเหงื่อไปหมดเลย โห! มันน่ากลัวจริงๆ ครับ คุณผู้ชม คือบรรยากาศเกมเขาทำมาดีมาก” ผมว่าอย่างไม่ลืมว่ากำลังอัดคลิป และการมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูเป็นเรื่องสำคัญ “แบบ…ภาพกับซาวด์เขาทำเรากลัวจริงๆ ดูสิ มือผมเปียกไปหมดเลย แต่เกมโหดมากจริงๆ ครับ นี่ต้องหนีผี ต้องคอยฟังเสียง ต้องคอยหาเทียน”

“แล้วเทียนก็หายากจริงอะไรจริง” พี่กชพยักหน้าเสริม ผมสูดหายใจแรงๆ ทีหนึ่งเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ

“มาครับ เอาใหม่ พี่กชรอบนี้ช่วยผมหาหน่อยนะ ตั้งใจมองทางด้วย แล้วพี่อ้ะ ชอบทำให้ผมล่ก ผมจะตายก็เพราะพี่นี่แหละ”

“อ้าว! ไอ้มิว นายเล่นกากเองงี้ จะมาโทษพี่ได้ไง”

“พี่ลองมาเล่นเองไหมล่ะ” ผมถามกลับพร้อมกับยิ้มขำ จากนั้นก็เริ่มตั้งสมาธิทุ่มให้แก่การเล่นตรงหน้า

ผมเป็นคนที่เล่นเกมจริงจังนะ คือเล่นไม่เก่งหรอก แต่ตั้งใจเล่นมาก ส่วนการที่มีพี่กชมาช่วยบอกทาง ช่วยออกความเห็น ชวนผมคุยนู่นนี่ก็ทำให้ผมผ่อนคลายลงได้มาก รู้สึกสนุกไปกับเกมมากขึ้นเหมือนมีคนมาเจอชะตาแบบเดียวกันอยู่ข้างๆ

คือตอนแรกก็ว่าจะให้พี่กชมาเล่นเป็นแฟนหลอกๆ โดยการให้กำลังใจตอนผมสะดุ้งผีอยู่หรอก แต่ไปๆ มาๆ เขาดันสะดุ้งพร้อมผมด้วยนี่สิ

คือเกมที่ผมกำลังเล่นอยู่นี่ทำมาดีจริงๆ บรรยากาศดีมาก แต่วันนี้คงต้องพักไว้เท่านี้ก่อน เริ่มจะค่ำมากแล้ว ผมจึงเริ่มพูดปิดคลิปพร้อมกับบอกลาคนดูและขอให้เขาติดตามคลิปเกมนี้ในพาร์ทต่อๆ ไป หลังจากผมกับพี่กชบอกสวัสดีคุณผู้ชมแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้น ได้เวลาตัดต่อคลิปเพื่อเตรียมเรนเดอร์ลงช่องเสียที

“ฟู่ว! เรียบร้อย” พี่กชว่าพร้อมกับแกล้งยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ ทั้งๆ ที่ไม่มีเหงื่ออะไรบนหน้าพี่แกทั้งนั้นแหละ “ให้ตายเถอะ! มิว สนุกดีว่ะ ตื่นเต้นฉิบหาย”

“ใช่ พี่ นี่ถือว่าเกมดีเลยนะเนี่ย คุ้มค่ากับทุกบาทที่เสียไป” ผมว่าขณะเปิดโปรแกรมเตรียมตัดต่อ

ผมเป็นคนเล่นเกมแท้และไม่คิดจะสนับสนุนของเถื่อนอยู่แล้ว ยิ่งตั้งแต่มาเปิดช่องของตัวเองยิ่งเข้าใจว่าการทุ่มเทพยายามทำอะไรมากๆ ย่อมอยากได้ผลตอบแทนกลับมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ คนสร้างเกมก็คงคิดเหมือนผมเหมือนกัน

“เออ แล้วนี่คนดูมิวเขาจะคิดยังไงเนี่ย สรุปพี่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดูเหมือนเป็นแฟนกับมิวเท่าไรเลยนะ”

เรื่องนี้ทำให้ผมกังวลนิดหนึ่ง แต่จะให้ผมประกาศออกไปด้วยคำพูดชัดๆ ว่าพี่กชเป็นแฟนผมในช่องของตัวเองก็ยังไม่พร้อม ครั้นจะหวังให้พี่กชทำเป็นเล่นละครผ่านกล้อง พี่กชก็คงไม่รู้เหมือนผมนั่นแหละว่าควรจะทำยังไง คลิปที่ออกมาเลยกลายเป็นว่าผู้ชายสองคนนั่งเล่นเกมด้วยกันเท่านั้นเอง

“เอาเถอะครับ เราเริ่มจากอย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน” ผมถอนหายใจเบาๆ “เดี๋ยวรอดูผลตอบรับจากรอบนี้ก่อน ถ้ายังไงไว้ค่อยลองพูดว่าพี่เป็นแฟนผมคลิปหน้าก็ได้”

“มิวว่าไงก็ตามนั้นแล้วกัน”

ผมมองเพื่อนรุ่นพี่ที่เดินกลับไปทิ้งตัวนอนบนเตียงของตัวเอง หยิบมือถือขึ้นมากดเล่นอีกแล้ว สมแล้วที่เป็นเด็กยุคเดียวกับผม

“เออ พี่กช”

“หือ?”

“ขอบคุณนะพี่”

พี่กชเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ “เรื่อง?”

“ก็ที่พี่ตกลงช่วยผมนี่ไง แถมยังมานั่งเล่นเป็นเพื่อนกันอีก”

“อ้อ เรื่องเล็กน่ะ” เขาว่า “อีกอย่าง...ได้นั่งเล่นเป็นเพื่อนมิวก็สนุกดี”

ผมคลี่ยิ้มออกมา ดีใจเหมือนกันที่อีกฝ่ายสนุกไปกับผมด้วย

“เออ แต่ยังไงก็อย่าลืม...”

ผมชะงักมือที่กำลังจะเสียบหูฟังเข้าหูนิดหนึ่ง

“เนื้อย่างเย็นวันเสาร์นี้นะ”

จ้ะ

เรื่องกินฟรีนี่สำคัญที่สุดจ้ะ

 

ผมดูปฏิกิริยาที่ได้จากแฟนคลับในสองสามวันต่อมา ปรากฏว่าถล่มทลายยิ่งกว่าคลิปอันที่ผมบอกว่าพี่กชเป็นผัวผมเสียอีก

ผมยกดูดน้ำลำไยจากหลอดขณะมองคอมเม้นท์มากมายไปด้วย เก่งที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้ามมองผมด้วยสายตาหน่ายๆ เจ้าตัวยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาจากนั้นก็เริ่มเร่งผม

“เฮ้ย! ไอ้มิว รีบแดกข้าวหน่อยได้วะ ไก่มึงชืดแห้งติดจานหมดแล้ว อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์ได้ไหม”

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อนทั้งที่ริมฝีปากยังเปื้อนยิ้ม

“โทษๆ กูอ่านเม้นท์เพลินไปหน่อย” แล้วผมก็จัดการข้าวมันไก่ของตัวเองโดยที่มือยังเลื่อนอยู่หน้ายูทูบสลับกับหน้าเพจเฟซบุ๊ก มีหลายคนถามเข้ามาเยอะมากว่าตกลงผมกับพี่กชคบกันจริงๆ ใช่ไหม แปดสิบเปอร์เซ็นต์ฟันธงไปแล้วว่าคบกัน ส่วนตัวผมเองยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธข่าวนี้อย่างเป็นทางการ และความนิ่งเฉยนี้คงทำให้ทุกคนคิดว่ามันคือการตอบรับ

“มึงนี่นะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับคนบ้า แต่กูก็ว่ามึงบ้าจริงๆ ว่ะที่คิดจะเรียกคนดูด้วยวิธีนี้”

“ก็ทำไมอะ” ผมแกล้งลอยหน้าลอยตาใส่อีกฝ่าย

ตอนนี้ไอ้เก่งรู้แล้วว่าผมกับพี่กชไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ อย่างที่มันเข้าใจตอนแรก เพราะผมอธิบายให้มันฟังเองนั่นแหละ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเจ้าตัวต้องตกกระไดพลอยโจนมารับรู้ความลับของผมด้วย และเอาจริงๆ เหมือนมันจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องแกล้งเป็นแฟนของผมกับพี่กช แม้ว่ามันจะยังไม่ชัดเจนขนาดนั้นก็ตาม

“ก็กูว่ามันปัญญาอ่อนไง มีอย่างที่ไหนให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์เพื่อแลกกับคนดู อย่างนี้มึงก็จีบผู้หญิงไม่ได้เลยนะเว้ย พี่กชเองก็เหมือนกัน”

คำอธิบายนั้นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อน

ผมไม่ได้คิดถึงแง่นี้มาก่อนเลยแฮะ เพราะไม่ได้คิดจะมีแฟนช่วงนี้ด้วยจริงๆ ละมั้ง แต่พอไอ้เก่งพูดผมก็ชักเห็นด้วย หรือว่ามันจะไม่ดีนะถ้าผมแกล้งเล่นเป็นแฟนกับพี่กชจริงๆ

“มิวๆ” เสียงเรียกของเพื่อนร่วมคณะทำให้ผมหันหน้ากลับไปหา

ปัทที่อยู่เอกจีนน่ะเอง หล่อนยืนอยู่ข้างโต๊ะกินข้าวในมือมีสมุดและชีทประกอบการเรียน

“ว่าไง ปัท”

“ตกลงว่าแกกับพี่กชเป็นแฟนกันจริงๆ ใช่ปะ”

“โห!”  ผมยิ้มให้เจ้าหล่อน “ดูช่องเราด้วยเหรอ ดีใจจัง”

“แล้วตกลงว่ายังไง” ปัทไม่ยอมพาออกนอกเรื่อง “นี่ในบอร์ดคนเขาเถียงกันจะเป็นจะตาย นายก็ไม่ยอมให้มันชัดเจนสักที”

“อ้อ มิวกับพี่กชน่ะ---” ไอ้เก่งพยายามจะแก้ความเข้าใจ แต่ผมพูดขัดมันก่อน

“ใช่ เรากับพี่กชเป็นแฟนกันจริงๆ”

ปัทเบิกตาขึ้นนิดหนึ่งด้วยความตื่นเต้น ไม่แปลกใจอะ ผู้หญิงคณะผมสาววายกันเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้มั้ง

“งั้นก็เป็นเรื่องจริงสินะ ดี” ปัทว่า ยกมือขึ้นมาโบก “งั้นฉันไปเข้าห้องเรียนก่อนละ ดีใจกับนายแล้วก็พี่กชด้วยนะ ไว้เดี๋ยวมาเม้าท์ใหม่”

และเมื่อเจ้าหล่อนเดินจากไป เพื่อนซี้ก็ฟาดมือลงบนหัวผมแรงๆ ทีหนึ่งทันที

“โอ๊ย! ไอ้บ้าเก่ง” ผมคราง “ตีกูทำไมเนี่ย เจ็บนะเฮ้ย!”

“หมั่นไส้มึง ได้ฟังที่กูพูดไปเมื่อกี้บ้างรึเปล่าเนี่ย หา!?”

“ก็มัน---”

“อ้าว! เก่ง ทำไมไปตีเพื่อนแบบนั้นล่ะ”

เสียงของพี่กชดังขึ้นทำเอาผมกับเก่งสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกัน

วันนี้รูมเมทของผมก็ยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้ายับเยิน ผมเผ้ารุงรังเหมือนทุกที แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยกลบรัศมีความหล่อของเขาไปได้เลย

หมั่นไส้ว่ะ

“พี่กช มาไงครับเนี่ย” ผมว่าขณะที่เขยิบกระเป๋าให้รุ่นพี่นั่งลงข้างๆ “มีเรียนเหรอครับ”

“อือ ชดเชยน่ะ” ว่าพร้อมกับปิดปากหาว “โคตรขี้เกียจตื่น”

“แล้วพี่กินอะไรหรือยัง ไปซื้ออะไรมากินไหม ยังพอมีเวลาก่อนคาบจะเริ่ม”

“เออ ดีเหมือนกัน มิวจะเอาอะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้”

“ไม่เป็นไรพี่ ผมอิ่มแล้ว เก่งอะ เอาอะไรรึเปล่า ฝากพี่กชไหม”

ผมหันไปถามเพื่อนที่มองมาทางพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ เจ้าตัวส่ายหน้าพึ่บพั่บ

“ไม่เป็นไรครับพี่ ตามสบายเลย”

และเมื่อพี่กชลุกออกไป ไอ้เพื่อนซี้ตัวกลมของผมก็โน้มหน้าลงมากระซิบ

“กูว่าพวกเอ็งสองคนเหมือนคนคบกันจริงๆ มากกว่าจะแค่แกล้งเล่นละครแล้วนา~ แน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกกูเรื่องแกล้งคบน่ะ”

“ไอ้ห่า! บ้าปะเนี่ยมึง”

ใครจะไปหลอกซ้ำซ้อนแบบอินเซ็ปชั่นขนาดนั้น แล้วผมกับพี่กชเนี่ยนะ แฟน? ฮ่าๆๆ ก็แค่รูมเมทรุ่นพี่รุ่นน้องปกติเปล่าวะ

ไอ้เก่งอะ คิดมาก!

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น