4

บทที่ 4


4



ตั้งใจจะไปทานที่ไหนครับ”

เสียงของเขาดึงเธอให้หลุดออกจากภวังค์ เซบาสเตียนขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งคนขับเรียบร้อยแล้วและกำลังถอยรถออกจากลานจอด เธอนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาห้วนๆ

เอ็ด”

เขาพยักหน้ารับก่อนจะพารถออกสู่ถนนใหญ่ วิ่งตรงไปไม่ถึงสองร้อยเมตรก็ถึง ชายหนุ่มตบไฟเลี้ยวก่อนจะหักรถเข้าลานจอดรถข้างปั้มน้ำมันปั๊มเดิม อเล็กซิสก้าวลงจากรถเมื่อมันจอดสนิทแล้ว จากนั้นก็เดินตรงผ่านตู้เติมน้ำมันเข้าร้านขายของโดยไม่คิดจะรอคนที่มาด้วย

พนักงานหญิงหลังเคาน์เตอร์คิดเงินยกมือทักทายทันทีที่เห็นเธอ

ฮาโล อเล็กซ์”

ไง เจนนี่” อเล็กซิสฉีกยิ้มให้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วกับสายตาอีกฝ่าย “อะไร”

เจนนี่ไม่ได้ตอบ แต่มองเลยไปทางด้านหลังของหญิงสาว เมื่ออเล็กซิสหันตามสายตาอีกฝ่าย ก็พบเซบาสเตียนที่เดินผ่านประตูเข้าร้านมาพอดี

ผมจะไปรอในร้าน” เขาเอ่ยขึ้นขณะเดินผ่านเธอไปยังบริเวณคาเฟ่ด้านใน

จากกาแฟแก้วเดียวกลายเป็นมื้อเที่ยงแล้วเหรอคะ” เจนนี่โน้มตัวข้ามเคาน์เตอร์มากระซิบถามอย่างสนใจกึ่งแซวเล็กน้อย ที่กล้าถามแบบนี้เพราะเธอค่อนข้างคุ้นกับอเล็กซิสดี เพราะอีกฝ่ายมากินอาหารกลางวัน เติมน้ำมัน และซื้อของที่ปั๊มนี้แทบทุกวัน

ไร้สาระ” อเล็กซิสถลึงตาใส่ทันที “เขาเพิ่งมาทำงานให้ฮาร์เวิร์ด”

อเล็กซ์! มากินมื้อเที่ยงเหรอ” เสียงทักทายอีกเสียงดังขึ้น เป็นชายหนุ่มตัวใหญ่ที่ไว้เคราเต็มแนวกราม ในมือมีถาดอาหารอยู่สองถาดซ้อนกัน เขากำลังจะนำมันไปไว้ในตู้กระจกของคาเฟ่

ที่นี่มีอาหารขายก็จริง หากไม่ได้เป็นคาเฟ่ร้านอาหารเต็มตัวแบบที่มีเมนูให้เลือกสั่ง แต่เป็นแบบที่มีอาหารจำนวนจำกัดให้เลือก เมนูในแต่ละวันก็จะต่างกันไป คนที่มาทานมื้อเที่ยงก็ดูอาหารแต่ละชนิดที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์แล้วเลือกเอาว่าอยากทานอะไร พนักงานก็จะตักใส่จานให้คล้ายๆ บุฟเฟต์ ต่างตรงที่จะคิดเงินตามปริมาณอาหารแทนการเหมาจ่ายต่อหัว ทานน้อยก็จ่ายน้อย ทานเยอะก็จ่ายเยอะ

อเล็กซิสพยักหน้าตอบคำถามนั้น ก่อนจะชะโงกดูอาหารในถาด แล้วฉีกยิ้มเร็วๆ หนึ่งทีเมื่อเห็นเนื้อชุบเกล็ดขนมปังทอดในถาด “วันนี้มีชนิตเซิลด้วย ดีเลย”

เอาไหมล่ะ ทานกับอะไรดี ในตู้มีลาแซนญาผักโขมกับเนื้ออบด้วยนะ” เขาชี้ไปยังถาดอาหารที่นำไปวางโชว์ในตู้กระจกเรียบร้อยแล้ว

น่าสนใจ แต่ฉันว่าเอาชนิตเซิลกับผักอบและมันบดก็พอแล้ว”

แล้วสนใจรับคนทานมื้อเที่ยงเป็นเพื่อนสักคนอีกอย่างไหม”

อเล็กซ์เขามีคนกินด้วยแล้ว เฮนรี่ อย่าพยายามเลย” เจนนี่ตอบคำถามแทนอเล็กซิสที่ยืนหัวเราะเบาๆ อยู่

ฉันก็แกล้งถามไปงั้นละ” เฮนริกตอบแก้เก้อ ก่อนจะหันไปมองหาคนมากินด้วยที่ว่า ซึ่งหาไม่ยาก เพราะในคาเฟ่ตอนนี้มีชายหนุ่มแค่คนเดียวนั่งอยู่ “เอ หน้าคุ้นๆ เหมือนกันนะ”

งั้นเหรอ”

ใช่” เฮนริกออกเดินต่อ นำถาดอาหารไปจัดใส่ตู้กระจก

อเล็กซิสเดินตามเขาไป เธอส่งจานให้เขาตักอาหารให้ ก่อนจะวางเงินลงบนบริเวณวางของเคาน์เตอร์ข้างๆ

อ้อ รู้ละ ฉันรู้สึกคุ้นเพราะหน้าเขาเหมือนกับลูกชายของ วิลเลียม ไคลน์”

นักแข่งสาวชะงักมือที่จะรับจานอาหารคืนมาทันที “นายรู้จักลูกชายของ วี.ที.?”

ไม่ได้รู้จักโดยตรง แต่เมื่อก่อนเวลามีงานแข่ง ฉันมักจะไปที่พิตของทีมไวท์ฮอล์ค เลยเคยเห็นลูกชายของวิลเลียมอยู่หลายครั้ง” เฮนริกเป็นแฟนตัวยงของงานแข่งรถ เขาไม่เคยพลาดสักงาน “ลูกชายวิลเลียมน่ะเก่งมากเลยนะ เขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถแข่งอย่างหาตัวจับยาก ไหนจะการวางแผน...”

อเล็กซิสหมดอารมณ์ที่จะพูดกับอีกฝ่ายต่อ เธอดึงจานอาหารที่ตอนนีมีชนิตเซิลสองชิ้นกับผักอบและมันบดอยู่ข้างๆ มาถือไว้ ใช้มืออีกข้างหยิบช้อนส้อมออกจากถาดอุปกรณ์ใกล้ๆ จากนั้นก็เดินไปหาเซบาสเตียนที่นั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะ

เขาเลือกนั่งติดกับหน้าต่างที่แง้มเอาไว้ให้อากาศภายนอกพอพัดเข้ามาข้างในได้ เมื่อมองออกไปก็จะเห็นเป็นวิวป่าสนสลับกับทุ่งหญ้าบนเนินเขา นอกจากนั้นยังเห็นย่านอุตสาหกรรมเล็กๆ ที่มีบริษัทของฮาเวิร์ดตั้งอยู่ด้วย อเล็กซิสเลิกคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นว่าบนโต๊ะนั้นว่างเปล่า

จานอาหารของนายล่ะ”

เขาส่ายหน้า “ผมยังไม่ได้สั่ง”

ที่นี่นายต้องเดินไปเลือกอาหารเอง รู้ใช่ไหม ไม่ใช่รอพนักงานมารับออร์เดอร์” เธอว่าพลางวางจานลงบนโต๊ะแล้วทิ้งตัวลงนั่ง ตวัดขาขึ้นไขว่ห้าง

ผมทราบครับ ผมแค่รอคุณ”

รอฉันทำไม”

เพราะผมมีมารยาท”

ส้อมที่อเล็กซิสจะจิ้มผักอบมาใส่ปากชะงักกลางอากาศ หญิงสาวตวัดตาขึ้นมองคนตรงหน้าทันที

เผอิญผมไม่รู้ว่าคนที่นี่เขาไม่นิยมรอคนที่มาด้วยกัน” เซบาสเตียนลุกขึ้นยืนหลังเอ่ยจบประโยค เขาจัดเสื้อที่ยับจากการนั่งเมื่อครู่เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังตู้กระจกเพื่อเลือกอาหารเที่ยง ปล่อยให้หญิงสาวอ้าปากค้างกับคำตำหนิกลายๆ นั่น

หน็อย ไอ้ผู้ดีหัวทอง...

ไม่ถึงห้านาที เซบาสเตียนก็กลับมาพร้อมจานอาหารของตัวเอง เขาเลือกกินเนื้ออบกับมันบด และมีสลัดในถ้วยเล็กๆ เป็นเครื่องเคียงอีกอย่าง

อเล็กซิสจัดการอาหารของเธอไปเกือบครึ่งแล้วตอนที่เขามาถึง เธอกระดิกเท้าน้อยๆ ขณะมองชายหนุ่มค่อยๆ หั่นชิ้นเนื้อให้เล็กพอดีคำแล้วใช้ส้อมตักเข้าปาก

ฉันมีคำถาม” เธอตัดสินใจเปิดหัวข้อสนทนาก่อน “ฉันอยากรู้ว่าเพราะอะไรถึงมาทำงานกับฮาร์เวิร์ด ในเมื่อนายออกจากวงการแข่งรถไปตั้งหลายปีแล้ว”

เพราะคุณลุงขอให้ผมมาช่วยงาน”

เหตุผลแค่นั้น?”

ครับ”

ง่ายๆ แบบนั้นเลยงั้นสิ นายไม่ได้มีงานทำอยู่แล้วเหรอไง” อเล็กซิสยกมือขึ้นเท้าคาง “แค่ฮาร์วี่ขอให้มาก็ยอมย้ายข้ามประเทศมาแบบว่าง่ายอย่างนี้เลยเรอะ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ฉันว่าฮาร์วี่คงจ่ายเงินเดือนให้เยอะละสิ”

ผมคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่คุณจะต้องทราบ”

หางคิ้วเธอกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาลงมือกินอาหารของตัวเองต่อ ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณโต๊ะ แล้วคนที่ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยออกมาก่อนก็เป็นหญิงสาวอีกเช่นเคย

เอาละ นายมีอะไรจะคุยกับฉันก็ว่ามา”

กินให้เสร็จก่อนค่อยคุยครับ” เขาตอบโดยไม่เงยหน้ามอง “พูดคุยระหว่างทานอาหารมันไม่ดี”

นายเป็นคนบอกเองว่ามีเรื่องจะคุย ถึงขั้นเชิญตัวเองออกมาทานข้าวกับฉันที่นี่” เธอทิ้งช้อนลงบนจาน จากนั้นก็กอดอกมองคนนิสัยผู้ดีตรงหน้าอย่างหาเรื่องนิดๆ “ในเมื่ออยากคุยนักก็รีบๆ พูด เพราะฉันต้องไปทำธุระอย่างอื่นของฉันต่อ”

ธุระว่าด้วยการขับรถเล่นในสนามน่ะเหรอครับ” เขาเอ่ยอย่างรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไปขับรถในสนามทุกวันที่สนามเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าไป หรือที่เรียกกันว่าเป็นทัวริสต์เดย์ “ถ้านั่นคือธุระที่ต้องทำของคุณ ก็เกรงว่าเราไม่จำเป็นต้องรีบอะไรนัก เพราะว่ากว่าสนามจะเปิดก็ห้าโมงเย็น คุณมีเวลาว่างอีกสี่ห้าชั่วโมง”

ใครว่า ฉันต้องกลับไปดูรถของฉันว่าเปลี่ยนท่อไอเสียเรียบร้อยดีไหม และเอาไปทดลองขับดูว่าทุกอย่างโอเคหรือเปล่าต่างหาก”

กินให้เสร็จเรียบร้อยก่อนครับ แล้วเราค่อยเริ่มคุยกัน” เขาย้ำ

อเล็กซิสเหยียดปากเป็นเส้นตรง สีหน้าแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน “นายรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้อยากจะอยู่กับนายตรงนี้เลยสักนิด ฉะนั้นถ้านายจะช่วยทำให้ระยะเวลาที่ต้องเห็นหน้ากันน้อยลงที่สุดได้ก็จะดีมาก”

ผมขอโทษด้วย แต่เกรงว่าผมคงจะช่วยอะไรเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเราต้องทำงานด้วยกันตลอดฤดูกาลแข่งของปีนี้ คงจะเลี่ยงไม่เห็นหน้ากันได้ยาก” เซบาสเตียนยังคงรักษาความเร็วในการกินอาหารของตัวเองไว้ ไม่ได้มีท่าทีเร่งรีบขึ้นแต่อย่างใด เสียงก็เรียบสนิทอย่างเสมอต้นเสมอปลายด้วย “แต่ผมรับปากคุณได้เลยว่า ถ้าคุณตั้งใจทำหน้าที่ของคุณ ส่วนผมก็ตั้งใจทำหน้าที่ของผม เราจะมีไม่ปัญหาอะไรระหว่างกันแน่นอน”

เหอะ!” เธอแค่นเสียงพลางสะบัดหน้าพรืด “น่าโมโหชะมัด!”

ทุกอย่างโอเคไหมครับ” เจ้าของคาเฟ่เดินเข้ามาหาทั้งคู่ หลังจากที่ยืนมองอยู่พักหนึ่ง อเล็กซิสเพียงแค่หันหน้ามายิ้ม ส่วนเซบาสเตียนพยักหน้าน้อยๆ ให้ เฮนริกมองอีกฝ่ายแล้วก็ตัดสินใจถามในสิ่งที่คาใจอยู่ออกไป “ขอโทษนะครับ ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณมากเลย คุณใช่ลูกชายของ วิลเลียม ที. ไคลน์ หรือเปล่า”

ใช่ครับ” เซบาสเตียนวางช้อนส้อมลง แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อแนะนำตัวและจับมือทักทายกับอีกฝ่ายอย่างมารยาทดี “เซบาสเตียน ไคลน์ ครับ”

ใช่คุณจริงๆ ด้วย!” เฮนริกดูตื่นเต้นขึ้นมา เขาเขย่ามือที่จับกับอีกฝ่ายรัวๆ “ผมชื่อเฮนริก เป็นหนึ่งแฟนตัวยงของวิลเลียมเลยละครับ เขาสบายดีไหมครับ”

คุณพ่อสบายดีครับ”

ผมได้ยินข่าวมาอยู่ว่าวิลเลียมมีปัญหากับหัวเข่า หวังว่าจะไม่เป็นอะไรหนักหนานะครับ”

เซบาสเตียนยิ้มบาง “ไม่ครับ แค่เดินมากไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะครับ”

ว่าแต่คุณจะกลับมาทำงานในวงการแข่งรถแล้วเหรอครับ”

ครับ”

แล้วตอนนี้ทำให้ทีม...”

เกิดอะไรขึ้นกับคำที่ว่า ‘พูดคุยระหว่างทานอาหารมันไม่ดี’กัน” อเล็กซ์โพล่งขึ้นแทรกบทสนทนาระหว่างชายหนุ่มสองคน นัยน์ตาเริ่มขุ่นอย่างไม่พอใจ

ดูท่าใครบางคนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะวันนี้” เฮนริกยกมือลูบท้ายทอยตัวเองพร้อมหัวเราะเบาๆ “ขอโทษด้วยครับที่เข้ามารบกวน เชิญทานกันต่อตามสบายเลยครับ ต้องการอะไรเรียกผมได้นะ”

ขอบคุณมากครับ”

เซบาสเตียนกลับมานั่งกินอาหารต่อตามเดิม ส่วนคนร่วมโต๊ะอีกคนหมดความอยากอาหารไปตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นอาการปลื้มปริ่มของเฮนริกเมื่อครู่แล้ว เธอนั่งกอดอกกัดฟันรอหนุ่มอังกฤษจัดการมื้อเที่ยงอย่างใจเย็น แม้ร่ำร่ำจะหมดความอดทนอยู่หลายรอบ สุดท้ายชายหนุ่มก็รวบช้อนก่อนฟางเส้นสุดท้ายของเธอจะขาดผึงพอดี

คงเริ่มคุยกันได้สักทีใช่มั้ย” อเล็กซิสถามเสียงห้วน “หรือต้องรอให้จิบชาสักถ้วยก่อน”

ความจริงแล้วเราไม่ควรดื่มชาหลังจบมื้ออาหารทันทีครับ” เขาไม่ได้สนใจว่านั่นเป็นการประชดประชัน เพียงแค่ตอบตามข้อเท็จจริง “ชาเป็นเครื่องดื่มยามว่าง อีกทั้งการจิบชาหลังมื้ออาหารเลย อาจจะทำให้...”

ฉันไม่ได้สนใจเรื่องชา!” นักแข่งสาวแทบจะตวาดอย่างเหลืออด เมื่อเห็นว่าเขายังคงสงบนิ่ง แม้จะโดนเธอแดกดันไปแบบนั้น “นายมีธุระอะไรจะคุยอะไรกับฉันก็ว่ามา!”

เท่าที่ดูรายงานการแข่งขันปีที่แล้ว ดูคุณจะมีปัญหา oversteer บ่อยมาก” เขานึกถึงสิ่งที่จำมาจากเอกสารที่โจนส์สรุปให้ อเล็กซิสมีปัญหาล้อหลังปัดออกจนรถไถลอยู่บ่อยครั้ง “แข่งไม่จบเพราะมีอุบัติเหตุถึงหกสนาม เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เยอะอยู่นะครับ”

อุบัติเหตุกับการแข่งรถมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ”

เขาส่ายหน้า คิดว่าปัญหาหลักคือ เธอใจร้อนเกินไป ถึงได้ทำอะไรเกินลิมิตรถจนเป็นปัญหา “สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ มันเรียกว่าความผิดพลาดของคนขับมากกว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ”

ว่าไงนะ!”

คุณต้องหาจุดพอดีให้ได้ ไม่ใช่มุทะลุจนเกินไปแบบนี้ ผมเคยบอกแล้วว่าลำพังแค่ขับเร็วอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องรู้จักคิดด้วย”

หน้าที่นายคือเซตรถ ไม่ต้องบังอาจมาสอนว่าฉันควรจะขับยังไง” อเล็กซิสไม่พอใจอย่างมากที่โดนตำหนิ เธอกัดฟันกรอด เอ่ยเสียงลอดไรฟัน “อย่าลืมว่านายเป็นแค่ช่าง ไม่ใช่นักแข่ง”

ชายหนุ่มมองตอบดวงตาขุ่นมัวของเธอ แล้วเอ่ยเบาๆ “คุณไม่มีทางอยู่รอดในคลาสแอมได้แน่”

กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้!”

ผมแค่มองตามความเป็นจริง นักแข่งที่ทั้งเอาแต่ใจ อารมณ์ร้อน ไม่รอบคอบอย่างคุณ ต่อให้มีรถแข่งที่ดีแค่ไหน ก็ทำพลาดได้อยู่ดี เพราะปัญหามันอยู่ที่ตัวคุณ ไม่ใช่รถ” เขาเอ่ยต่ออย่างไม่สนใจว่ามันจะยิ่งทำให้โทสะเธอเพิ่มขึ้นหรือเปล่า “นักแข่งที่ดีไม่ใช่ว่าคนที่กระทืบคันเร่งและทำความเร็วให้มากที่สุดอย่างเดียว แต่ต้องรู้จักคิด รู้จักใช้สมอง รู้ว่าควรจะทำงานกับรถยังไงให้ผลมันออกมาดีที่สุด ไม่ใช่เอาแต่มั่นใจในตัวเอง คิดว่าทุกอย่างที่ทำไปนั้นถูกหมด คิดว่าตัวเองไม่มีข้อผิดพลาดอะไรที่ต้องปรับปรุง ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว น่าจะมีลิสต์ยาวเต็มหน้ากระดาษ”

นายจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ!” เธอตวาดลั่นอย่างโมโห “ฉันไม่ใช่นักแข่งกระจอกๆ ที่แข่งรถไม่เป็น ไม่เคยได้รางวัลอะไรกับเขา อย่าลืมว่าปีที่แล้วฉันได้โพเดียมตั้งห้าสนาม”

ถ้วยรางวัลของคลาสรุกกี ใครก็ชนะได้ทั้งนั้น มันไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ฝีมืออะไรเลย ชื่อคลาสก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคลาสของเด็กใหม่ รางวัลที่เขาแจก ก็เป็นแค่รางวัลปลอบใจให้กลุ่มคนที่ยังไม่มีฝีมือได้รู้สึกดีกับเขาบ้างก็เท่านั้น”

ในงานแข่ง Carrera Cup นั้นจะแบ่งออกเป็นสองคลาส คือคลาสรุกกี (Rookie) คลาสที่อเล็กซิสลงแข่งในปีแรก อันเป็นคลาสสำหรับเด็กใหม่ กับคลาสแอม (Amature) ที่เป็นคลาสของนักแข่งที่มีฝีมือและผลงานเป็นที่ยอมรับจากคณะกรรมการการแข่งขันแล้ว ซึ่งหญิงสาวได้รับอนุญาตให้เลื่อนขั้นมาแข่งในคลาสแอมได้ในปีนี้ รวมกับคลาสแชมป์เปียนชิปอีกอย่าง ที่จะนับอันดับนักแข่งทุกคนในสนาม

คำพูดยาวเหยียดของเขาทำเอาหญิงสาวหมดความอดทน อเล็กซิสถอยเก้าอี้ที่นั่งอยู่ออกไปอย่างแรงจนขาเก้าอี้ครูดกับพื้นเสียงดัง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน วางสองมือยันโต๊ะแล้วโน้มตัวลงมาหาคู่สนทนา ดวงตาสีฟ้าของอเล็กซิสจ้องเขม็ง ขณะที่เอื้อนเอ่ยประโยคต่อไปช้าๆ

นายรู้อะไรมั้ย”

ครับ”

ฉัน-เกลียด-นาย”


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น