5

แม่สื่อแม่ชัก...ระวังจะติดกับดัก(กามเทพ?)เสียเอง


 

เดินคนเดียวเธอเหงาหรือเปล่า...

มีใครคอยปลุกตอนเช้า ด้วยการบอกรักบ้างไหม...

ฝากคำกู้ดไนต์ก่อนนอน พิมพ์เป็นข้อความไว้...

แบบนี้มีใครทำให้หรือยัง[1]

 

เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังคลอเคล้ามากับเสียงดนตรีอะคูสติกในร้าน ท่ามกลางหมู่ดาวนับร้อยพันที่ส่องสว่างบนฟ้ากว้าง เจ้าขาแทบไม่คิดฝันเลยว่าจะได้มานั่งดินเนอร์กับเหนือสมุทรตามลำพังแบบนี้ ความสุขที่เอ่อล้นทำให้หล่อนกินอะไรได้น้อยกว่าเคย ในที่สุดเขาจึงอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้

“ไหนว่าถูกปาก ทำไมกินน้อย”

“เอ่อ...” เจ้าขาอึกอัก เม้มปากเล็กน้อยพลางหลุบตาลงมองกับข้าวหน้าตาน่ารับประทานบนโต๊ะที่ยุบลงไปไม่เท่าไร เพราะมีเขากินอยู่คนเดียว แต่ครั้นจะบอกตรงๆ ว่าอิ่มอกอิ่มใจที่ได้มากินข้าวกับชายในฝันก็เกรงเขาจะเห็นว่าหล่อนมีนออยู่กลางหน้าผาก ทั้งที่ความจริงแล้วก็ไม่มีเสียหน่อย

อย่างน้อยๆ หล่อนก็มีความรู้สึกแบบนี้กับเขาแค่คนเดียว

“เจ้าขากินขนมมาบ้างแล้ว เลยไม่ค่อยหิวน่ะค่ะ”

เหนือสมุทรไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาเกือบสองทุ่ม

“ทำไมปลาดาวยังไม่กลับมาอีก” เขาขมวดคิ้วน้อยๆ แปลกใจที่น้องสาวหายไปเข้าห้องน้ำนาน ทั้งที่ความจริงแล้วก็ไม่น่าจะใช้เวลามากขนาดนี้

“นั่นสิคะ” เจ้าขาเองก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะทิ้งหล่อนเอาไว้กับพี่ชายนานขนาดนี้เหมือนกัน “เดี๋ยวเจ้าขาไปตามให้ค่ะ”

สาวน้อยไม่อยากให้ว่าที่สามีลำบาก ทั้งยังคิดว่าเขาเองก็คงไม่เหมาะจะเข้าไปในห้องน้ำหญิงด้วย แต่ความรีบทำให้ไม่ทันระวัง ลุกพรวดขึ้นชนกับเสาซุ้มที่นั่งอย่างแรง

โป้ก!

“โอ๊ย!” เจ้าขายกมือขึ้นกุมศีรษะ ขณะที่ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คิดไม่ฝันว่าจู่ๆ หล่อนจะเอาหัวตัวเองไปโหม่งเสาแบบนั้น  

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า” เหนือสมุทรลุกตามไปยืนข้างๆ ทว่าคนเจ็บกลับยังก้มหน้างุดเพราะอยากเอาปี๊บคลุมศีรษะจริงๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ” หล่อนคลำแผลป้อยๆ สัมผัสได้ว่าไม่มีเลือดออกก็คิดว่าอีกเดี๋ยวคงหายเจ็บ

“มาให้ฉันดูหน่อย”

เสียงเรียบๆ นั้นทำเอาเจ้าขาตะลึง อยากคิดว่าตัวเองหูฝาด แต่ครั้นเงยหน้าขึ้นเห็นเขามองสำรวจอยู่จริงๆ หล่อนก็รู้สึกเหมือนต้องมนตร์สะกด ยิ่งเขายกมือขึ้นปัดปอยผมหน้าม้าของหล่อนไปด้านข้างเพื่อจะได้มองแผลชัดๆ หญิงสาวยิ่งรู้สึกได้ถึงกระแสไฟบางอย่างจากปลายนิ้วมือเขาที่เผอิญแตะโดนหน้าผาก หัวใจเต้นโครมครามจนอดกลัวไม่ได้ว่าเขาจะได้ยินเสียงมันเข้า

นี่เขาอายุสามสิบเจ็ดแล้วจริงๆ หรือ...

เจ้าขาลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ เพราะเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่หล่อนมีโอกาสได้มองเหนือสมุทรในระยะใกล้ๆ แบบนี้ เขาหล่อสามร้อยหกสิบองศาจริงๆ ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนของใบหน้าก็แทบหาข้อบกพร่องไม่พบ

หรือจะจริงอย่างที่พี่ตูน บอดี้แสลมกล่าวไว้ ‘ความรักทำให้คนตาบอด’ หล่อนถึงมองไม่เห็นริ้วรอยของเขาเลยสักนิด ทั้งๆ ที่อายุขนาดนี้แล้วน่าจะต้องมีบ้างตามวัย

“ดีที่ไม่หัวแตก” เหนือสมุทรถอนหายใจเล็กๆ คนกำลังแอบชื่นชมเขาอยู่ในใจจึงค่อยๆ ถอนตัวเองออกจากห้วงคำนึง “เจ็บมากไหม”

เจ้าขาส่ายหน้า ไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นคนพูดน้อยได้ขนาดนี้เลยเหมือนกัน และมันเป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังขึ้น

เหนือสมุทรก้าวไปหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาจากโต๊ะกินข้าว เมื่อเห็นเป็นชื่อน้องสาวก็ไม่ลังเลที่จะรับสาย

“อยู่ไหน ปลาดาว”

ได้ยินชื่อนั้น เจ้าขาก็อดไม่ได้ที่จะรอฟังอย่างจดจ่อเช่นกัน แต่แม้ว่าหล่อนจะยืนอยู่ไม่ไกลจากคนตัวโตนัก เสียงเพลงในร้านก็กลบเสียงคนในสายที่น่าจะพอเล็ดรอดออกมาจนสิ้น

“งั้นหรือ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ชายหนุ่มผูกคิ้วนิ่วหน้า เจ้าขาเลยพลอยจินตนาการไปว่ามีเหตุไม่คาดฝันเกิดกับทะเลดาว “ได้ ปลาดาวพักผ่อนละกัน”

“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เจ้าขาเปิดฉากถามทันทีที่เห็นเขาวางสาย

“ปลาดาวกลับบ้านแล้ว บอกว่ามามาก แถมยังปวดท้องตงิดๆ ก็เลยอยากกินยานอนพักมากกว่า” เป็นประโยคที่ทำเอาเจ้าขาเหวอ คิดว่าทะเลดาวตั้งใจเปิดโอกาสให้หล่อนอยู่กับชายในฝันตามลำพังแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เสียอีก ที่ไหนได้...เล่นใหญ่เกินเบอร์!

“แล้วอาหารพวกนี้ล่ะคะ น่าเสียดายแย่” เจ้าขามองไปยังกับข้าวบนโต๊ะ แน่ใจว่าเพื่อนคงไม่กลับมากินแล้ว

“เดี๋ยวฉันให้คนห่อกลับไปส่งที่บ้าน เผื่อปลาดาวหิวดึกๆ จะได้ลุกมากิน”

ไม่น่าเชื่อ... เจ้าของรีสอร์ตระดับห้าวดาวอย่างเขาจะห่อกับข้าวที่เหลือกลับไปกินต่อที่บ้านด้วย ประหยัดอดออมขนาดนี้ เขาต้องสอนลูกให้เป็นคนรู้จักค่าของเงินได้ดีแน่ๆ แล้วเขาก็คงไม่มีทางกินทิ้งกินขว้างกับข้าวที่ศรีภรรยาทำด้วย ไม่เสียแรงเลยที่หล่อนหมายตาไว้เป็นสามีในอนาคต

“ว่าแต่เธอจะกินต่ออีกหรือเปล่า ปลาดาวฝากให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอ แล้วก็ไปส่งเธอด้วย”

“พี่เม่นอิ่มหรือยังล่ะคะ”

ที่จริงหล่อนอยากอยู่กับเขานานๆ แต่ก็เป็นห่วงว่าทะเลดาวจะหิวมากกว่า ไม่รู้ว่าที่บ้านมีอะไรให้กินหรือเปล่าด้วย ประเดี๋ยวสวรรค์ลงโทษให้ปวดท้องขึ้นมาจริงๆ ว่าที่สามีของหล่อนก็คงมิวายต้องเดือดเนื้อร้อนใจเป็นห่วงน้องสาวอีก

ใช่ว่าเจ้าขาจะเป็นห่วงผู้ชายมากกว่าหรอกนะ สาเหตุหลักๆ มันก็เริ่มมาจากเป็นห่วงเพื่อนต่างหาก

“ถ้าพี่เม่นอิ่มแล้ว เรากลับกันเลยก็ได้ค่ะ เจ้าขาจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนปลาดาวด้วย” สาบานว่านั่นก็ไม่ได้มีเจตนาสร้างภาพเป็นคนดีต่อหน้าสามีในอนาคตเลยสักนิด แต่ถ้าเหนือสมุทรจะเห็นหล่อนเป็นคนดีก็ถือเป็นผลพลอยได้ของการทำความดีล้วนๆ

เหนือสมุทรพยักหน้าน้อยๆ เจ้าขาจึงไม่รอช้าที่จะตามเขาลงบันไดเล็กๆ ไปยังลานกว้างด้านล่าง

“เดี๋ยวให้คนห่อกับข้าวที่เหลือไปส่งที่บ้านฉันด้วยนะ” เขาแวะสั่งบริกรหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ในบริเวณใกล้ๆ อีกฝ่ายจึงพยักหน้ารับคำ

“ได้ครับ คุณเม่น”  

เหนือสมุทรหันมามองสาวน้อยอีกครั้ง พยักหน้าชวนให้ตามออกไปที่รถด้วยกัน โดยไม่รู้สักนิดว่าคนตัวบางที่กำลังเดินตามหลังกำลังยิ้มเขิน อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นใช้นิ้วพันปลายผมเล่นขณะก้าวเท้าตาม เพราะไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้นั่งรถของชายในฝันแบบนี้

 - - - - - - - - - -

                ถัดมาจากแหลมชมทะเลทางทิศตะวันออกไม่ไกลกันนัก มีบ้านสองชั้นที่ปลูกสร้างและตกแต่งสวนเป็นสไตล์บาหลีซ่อนตัวอยู่หลังร่วมเงาไม้ใหญ่ใกล้ๆ ริมหาด ทะเลดาวนอนเอนกายพิงหมอนหนุนอยู่บนเดย์เบดริมระเบียงชั้นสองของห้องนอนส่วนตัว ซึ่งลมทะเลที่พัดมาจากชายฝั่งทำให้ปราศจากยุงหรือแมลงต่างๆ รบกวน

ความที่ไม่รู้จะทำอะไร เพราะเพิ่งจัดฉากให้เพื่อนรักได้มีโอกาสสานสัมพันธ์กับหนุ่มในฝันสำเร็จ หล่อนจึงได้แต่หยิบสมาร์ตโฟนมาอ่านข่าวคราวบนหน้าเฟซบุ๊กไปพลางๆ ตามประสาวัยรุ่นที่มักหมดเวลาไปกับสังคมออนไลน์ มืออีกข้างหนึ่งหยิบคุกกี้ชิ้นเล็กๆ กินแทนอาหารค่ำ และฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งไปด้วยเพลินๆ

ครั้นเลื่อนนิวฟี้ดมาเจอโพสต์ล่าสุดของกุมาริกาที่ถ่ายคู่กับบิดามารดาและหม่อมหลวงนพรุจ ทะเลดาวก็อดยิ้มน้อยๆ ให้กับความน่ารักของทารกไม่ได้

แม้จะเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่วังคุณาบดินทร์ได้ไม่นานเท่าไร แต่หล่อนก็มีโอกาสได้ช่วยเลี้ยงลูกของกุมาริกากับคุณชายบ่อยๆ จนเกิดเป็นความเอ็นดู และจำได้ว่ากุมาริกาเคยบอกจะพาลูกไปให้ตากับยายรับขวัญวันนี้

Pladao : คิดถึงคุณรุจจังเลยค่ะพี่มด คุณตาคุณยายก็น่ารักมาก

หญิงสาวพิมพ์คอมเมนต์ลงใต้ภาพ ก่อนจะนึกครึ้มกดเลื่อนดูภาพอื่นๆ ในอัลบั้มเดียวกันไปเรื่อยๆ เพราะเห็นคนมีความสุขแล้วก็พลอยยินดีไปด้วย แต่แล้วอารมณ์ดีๆ ของหล่อนก็ต้องชะงัก เมื่อเลื่อนไปเจอภาพของเขตชลอุ้มหม่อมหลวงนพรุจไว้ในอ้อมแขน

ให้ตายสิ! อุตส่าห์กลับบ้านมาต่างจังหวัดแล้วแท้ๆ ทำไมหมอนี่ถึงยังตามหลอกหลอนอยู่อีก

ทะเลดาวรีบกดเลื่อนผ่านไป ทว่ากลับยังเป็นภาพอีกฝ่ายกับหลานชายตัวน้อยหยอกล้อเล่นกันอย่างต่อเนื่อง แล้วที่พีคกว่านั้นอีกคือหล่อนเลื่อนไปเจอคลิปวีดิโอ

‘มองกล้องๆ ถ่ายรูปกับลุงหมึกก่อนเร็ว’ เสียงชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆ ที่กำลังอุ้มเด็กเล็ดรอดออกมาจากลำโพงมือถือ เพราะวีดิโอบนเฟสบุ๊กของหล่อนไม่ได้ตั้งค่าระงับการเล่นแบบอัตโนมัติ ‘เดี๋ยวลุงหมึกก็ต้องเดินทางไกลแล้ว สงสัยจะไม่ได้เจอคุณรุจอีกนาน มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้ลุงหมึกชื่นใจหน่อยนะครับ มามะ’

‘นี่มดถ่ายวีดิโอนะคะ...’

‘อ้าว!’ เขตชลตกใจนิดๆ พลางมองมาทางกล้อง ‘แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก แหม...อยากแอบถ่ายอิริยาบถคนหล่อละซี้’

“อี๋...” ทะเลดาวถึงกับร้องอุทานพลางปิดแอปฯ ลงทันที

ผู้ชายอะไรมั่นหน้ามั่นโหนกตลอดเวลา ต่อให้เขาจะหล่อจริงๆ เพราะบิดามารดาหน้าตาดีมากเป็นทุน แต่เรื่องแบบนี้ก็ควรจะให้คนอื่นเป็นฝ่ายชมไม่ใช่หรือไง

เมื่อครู่ได้ยินเขาพูดกับหลานชายแว่วๆ ว่าจะต้องเดินทางไกล ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เดินทางไปอยู่ดาวอังคารเลยแล้วกัน กลับไปอยู่วังคุณาบดินทร์เมื่อไร หล่อนจะได้ไม่ต้องบังเอิญเจอเขามาเยี่ยมหลานให้เสียสุขภาพจิตอีก

ทะเลดาววางสมาร์ตโฟนลงบนโต๊ะ หมายจะหยิบคุกกี้มากินต่อแก้เซ็ง ทว่ากลับได้ยินเสียงรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาทางหน้าบ้าน  

คนตัวบางลุกไปชะโงกดูที่ริมระเบียง ก่อนจะเห็นภาพรถจี้ปสีขาวที่คุ้นเคยอย่างดีกำลังชะลอจอดหน้ารั้ว

“รถพี่เม่นนี่...” หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ พลางขมวดคิ้วมุ่น ไม่คิดว่าเหนือสมุทรจะกลับมาเร็วแบบนี้ ทั้งที่เพิ่งวางสายจากหล่อนไม่นาน แต่เมื่อเห็นเจ้าขานั่งอยู่เบาะข้างๆ กามเทพสาวจึงไม่รอช้าที่จะพาตัวเองกลับลงไปในห้องโถงของบ้าน และมันเป็นจังหวะเดียวกับที่คนทั้งสองก้าวลงจากรถพอดี

เจ้าขายกมือไหว้ชายหนุ่ม ก่อนจะหลุบตาลงเล็กน้อย

“ขอบคุณพี่เม่นมากนะคะสำหรับอาหารอร่อยๆ”

“ยินดีครับ”

น้ำเสียงของเหนือสมุทรราบเรียบ แต่ระยะทางที่ห่างกันเกินไปก็ทำให้ทะเลดาวไม่ได้ยินอะไรเลยสักนิด ทำได้เพียงแอบมองท่าทีคนทั้งสองต่อไปเงียบๆ แล้วเห็นเหนือสมุทรชี้ไปที่หน้าผากอีกฝ่าย

“อย่าลืมทายาหรือหาน้ำแข็งประคบล่ะ แผลจะได้หายไวๆ”

เจ้าขาถึงกับใจพองโต ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันเล็กน้อยเพราะไม่กล้ายิ้มรับความห่วงใยตรงๆ กลัวเขามองเห็นไปถึงข้างในว่าแอบคิดฝันอะไรไกลเกินเอื้อม หรือถ้าเขาไม่เก็ทกับความรู้สึกของหล่อน บางทีอาจเข้าใจผิดไปเลยว่า ‘เป็นบ้า’ ที่ชนเสาแล้วยิ้มได้

“ค่ะ”

“ฉันไปก่อนนะ”

เจ้าขาพยักหน้าน้อยๆ ไม่ได้พูดอะไรในตอนที่เขาหมุนตัวกลับไปติดเครื่องยนต์อีกครั้งเพื่อถอยรถวนกลับออกไป

ทะเลดาวอดแปลกใจไม่ได้ ที่จริงแล้วพี่ชายของหล่อนน่าจะกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกัน แต่เมื่อเห็นเจ้าขายืนส่งเขาอยู่นานสองนาน แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางใช้นิ้วพันปลายผมเล่นขณะกลับเข้ามาในรั้วบ้าน ความคาใจสงสัยก็ละลายหายไปหมดเพราะมันถูกแทนที่ด้วยความยินดีปรีดามากกว่า

ทะเลดาวตัดสินใจก้าวออกไปยังหน้ามุข ยืนกอดอกกระแอมเบาๆ ต้อนรับอีกฝ่าย

“อุ๊ย!” คนเดินไม่มองทางสะดุ้ง เพิ่งสังเกตว่ากามเทพแสนซนคนสวยมายืนอยู่ในระยะประชิดชนิดที่หากไม่กระแอมเป็นสัญญาณเสียก่อน หล่อนอาจจะก้าวขึ้นบันไดเอาหัวไปโหม่งอีกก็เป็นได้ “ปลาดาวน่ะ จู่ๆ ก็โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง เจ้าขาตกใจหมดเลย”

“แต่ปลาดาวว่าเจ้าขาต่างหากที่ใจลอยไปถึงไหนต่อไหน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนี้...มีโมเม้นต์ดีๆ อะไรกับพี่เม่นมา” เป็นคำถามที่ทำเอาเจ้าขาหน้าแดงขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะดีดนิ้วมือดังเปาะเลียนแบบคุณแม่ลูกเกดในรายการ เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ “เล่าค่ะ”

“ก็ไม่มีอะไรเสียหน่อย พี่เม่นก็แค่มาส่งตามที่ปลาดาวฝากฝัง ไม่ได้คุยอะไรกันเลยตลอดทาง แล้วเลขาฯ พี่เม่นก็โทร.มาด้วย แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเหมือนกัน”

ทะเลดาวเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเรื่องงาน

“ว่าแต่ปลาดาวเถอะ กล้าดียังไงมาทิ้งเพื่อนไว้แบบนี้” เจ้าขาถือโอกาสซักฟอก เพราะต่อให้หล่อนจะมีช่วงเวลาดีๆ กับชายในฝัน แต่ก็เผลอทำตัวเปิ่นๆ ไปไม่น้อยเช่นกัน

“แล้วไม่ดีหรือไง สีหน้าเจ้าขาไม่เห็นจะบอกอย่างนั้นเลย”

“ก็ไม่เชิงว่าไม่ดี... แต่ปลาดาวเล่นไม่บอกล่วงหน้า เจ้าขาก็ตั้งหลักไม่ทันน่ะสิ” เจ้าขาเงยหน้าขึ้นพ้อ เพราะต่อให้ความสูงของหล่อนจะน้อยกว่าอีกฝ่ายแค่ไม่ถึงห้าเซ็นติเมตร แต่การยืนอยู่บนบันไดระดับต่ำกว่าก็ทำให้ตอนนี้สูงแค่อกเพื่อนเท่านั้น “พี่เม่นเดาใจยาก เจ้าขาไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี ถ้ารู้ล่วงหน้าสักนิดอย่างน้อยก็จะได้ลิสต์หัวข้อสนทนาสนุกๆ ไปก่อน แล้วถ้าเรื่องไหนเกิดไม่โอเค เจ้าขาจะได้มีเรื่องสำรองมาชวนคุยไง”

“นั่นจีบผู้ชายจริงๆ หรือทำธีสิส” เป็นประโยคที่ทำเอาเจ้าขาเหวอ ก่อนจะเม้มปากน้อยๆ อย่างไร้ข้อโต้แย้งในความทุ่มเท “เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีแล้ว เพราะถ้าพี่เม่นจะชอบเจ้าขาขึ้นมาจริงๆ เขาก็ควรจะชอบที่ธรรมชาติของเจ้าขาไม่ใช่หรือไง”

ชอบหรือ... แค่คิดไปล่วงหน้าว่าจะมีวันนั้น คนมีความรักก็อดใจพองโตไม่ได้

“ก็จริงเนอะ” เจ้าขายิ้มพลางเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้ “ขอบใจน้องสามีในอนาคตมากนะ”

ทะเลดาวขำ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างหล่อนกับเจ้าขา...ใครกันแน่ที่เล่นใหญ่กว่ากัน หรือบางทีอาจจะพอๆ กัน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกสนิทใจเวลาอยู่ด้วยกันขนาดนี้ได้

“ชัดเจนในอุดมการณ์ขนาดนี้แล้ว... เอากุญแจห้องพี่เม่นไปเลยดีไหมล่ะคะคุณเจ้าขา”

“บ้า!” เจ้าขาผละออกมาตีแขนคนยั่วยุเข้าให้ “ถึงเจ้าขาจะชอบพี่ชายปลาดาวขนาดไหน เจ้าขาก็ไม่คิดจะบุกเข้าไปปล้ำเขาก่อนง่ายๆ หรอกนะ รอให้เจ้าขาเรียนจบมีงานมีการทำก่อนสิ ถ้าพี่เม่นใจอ่อนยอมเสียตัวขึ้นมาจริงๆ เจ้าขาจะได้มีปัญญารับผิดชอบพี่เขาได้”

ทะเลดาวหัวเราะคิก หลงคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรที่ดูเป็นกุลสตรีมากกว่านี้เสียอีก แต่เอาเข้าจริงหล่อนก็รู้นิสัยเพื่อนดีว่าแกล้งโม้ไปอย่างนั้นเอง คนอย่างเจ้าขา...ต่อให้ถูกจับไปขังไว้ในห้องกับเหนือสมุทรตามลำพังทั้งคืนก็คงมีแต่จะมุดหนีไปอยู่ใต้เตียงละสิไม่ว่า

“จ้าๆ เอาเป็นว่าน้องสามีจะรอรำหน้าขบวนขันหมากละกัน”

เป็นคราวที่เจ้าขาได้หัวเราะบ้าง ก่อนจะชักชวนเพื่อนซี้เข้าไปในบ้านด้วยกัน และแม้ว่าค่ำคืนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับชายในฝันจะไม่ได้คืบหน้าไปไกลมากนัก แต่อย่างน้อยการได้มีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันก็ทำให้เจ้าขามีกำลังใจที่จะแอบรักเขาต่อไปในมุมของหล่อน

ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม... เจ้าขาคงกล้าพอจะเปิดเผยความในใจให้เขารู้แน่

- - - - - - - - - -

 

[1] เพลง : จีบ... (May I?) , ศิลปิน : แหนม รณเดช วงศาโรจน์

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น