บทที่ ๙

ลับคมสวาท

ครั้นโดนคลุกวงในกะทันหันมีหรือที่ตรัยคุณจะยอมแพ้ ครั้นพอถูกเนื้อนิ่มๆ กอดก่ายใต้โปงผ้าห่ม ชายหนุ่มก็ตอบโต้กลับด้วยสัญชาตญาณความเป็นชาย ทว่าครั้งนี้มันเป็นสัญชาตญาณที่ถูกขับนำด้วยความตั้งใจที่จะมาลับฝีมือโดยเฉพาะ เขาจึงไม่เร่งร้อน แต่รุกเร้าเอาใจคู่นอน 

ฝ่ามือใหญ่ขยี้ขย้ำฟอนเฟ้นไปตามผิวกายสาว ปรนเปรอทั้งความสุขและความร้อนผ่าวทุกตารางนิ้วที่เขาสัมผัส อีกฝ่ายก็ดูจะตอบสนองเขาดี แต่เป็นการตอบสนองที่ยั้งๆ อารมณ์ไว้อย่างไรก็ไม่ทราบ เขาสังเกตมาสักพักหนึ่งแล้วว่า คู่นอนของเขาไม่ยอมส่งเสียงครางเลย นั่นทำให้เขาสงสัยว่าเธอจงใจไม่อยากให้ได้ยินเสียง หรือเพราะฝีมือของเขายังไม่ถึงขั้นที่จะทำให้เธอครางด้วยความพอใจได้กันแน่ 

ตรัยคุณไม่รอช้า พยายามหาคำตอบนั้นด้วยการใช้ทั้งปลายนิ้วและริมฝีปากเร่งเร้าปลุกปั่นจังหวะแบบหนักหน่วงทวีคูณจนสาวเจ้าทนไม่ไหว เผลอแอ่นกายบิดเร่าไปมาพลางร้องครางด้วยความสุขซ่าน ทว่าเสียงครางแผ่วหวานที่ดังออกมาให้ได้ยินนั้น เป็นเนื้อเสียงที่คุ้นหูเขา ยังไม่ทันได้คิดว่าเขาเคยได้ยินจากที่ใดมาก่อน ก็พอดีที่หญิงสาวย้ำความสงสัยให้เขาเพิ่มอีก ด้วยการรั้งคอเขามาจูบ   

ตรัยคุณตั้งท่าจะถอยหนี ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่หากเลือกได้ เขาก็อยากจะเก็บจูบของเขาไว้ให้คนพิเศษมากกว่าคู่นอนชั่วคราวเช่นนี้ ทว่าก็เป็นเพียงความคิด เพราะอีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ถอย หรืออันที่จริงแล้วเขาไม่อยากถอยเองก็ไม่ทราบ เพราะจูบนั้นทำให้เขานึกถึงใครบางคน

จูบเบาๆ ที่เหมือนเป็นการแตะปากกันเฉยๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่แนบแน่นขึ้น ทว่ากลับให้สัมผัสไม่ประสีประสาราวกับเด็กน้อยใฝ่ประสบการณ์เช่นนี้...มันทำให้เขาเห็นภาพใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวคนหนึ่งลอยเข้ามาในความคิด ทั้งรสจูบและเนื้อเสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่ เขารู้แล้วว่าเหตุใดจึงคุ้นเคยนัก

เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทั้งหมดนี้เขาจินตนาการไปเองหรือเปล่า!

ชายหนุ่มพลิกร่างน้อยให้เข้าไปอยู่ใต้กรงแขนของเขาเพื่อไม่ให้ขัดขืน ก่อนที่เขาจะใช้มือหนึ่งกระชากโปงผ้าห่มออก และกดเปิดไฟที่โต๊ะข้างเตียง

“วิว!”

และสิ่งที่เขาคิดก็เป็นจริง วันเวลานอนหอบหายใจถี่ หน้าแดงก่ำอยู่ใต้ร่างของเขา เส้นผมของเธอยุ่งเหยิงกระจัดกระจาย ตามผิวกายอันขาวนวลของเธอมีรอยแดงจ้ำๆ ประปรายจากการเล่นบทสวาทกับเขาอย่างดุเดือด

“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วนี่ทำอะไรของเธอ!”

“วิวก็มานอนกับพี่แทนที่เด็กไซด์ไลน์ที่วิวไล่ตะเพิดไปแล้วน่ะสิ ขอโทษนะคะที่ต้องทำแบบนี้ แต่วิวจำเป็น”

“จำเป็นงั้นหรือ” ตรัยคุณแค่นหัวเราะ เขาไม่รู้ว่าวันเวลาทราบเรื่องที่เขาจ้างสาวค้าบริการมานอนด้วยจากที่ไหน แต่ต่อให้รู้จากไหน นาทีนี้ก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะเรื่องสำคัญมันอยู่ที่ว่า วันเวลาไม่ควรมานอนอยู่บนเตียงกับเขา คอยรับหน้าที่เป็นคู่ซ้อมทางกามอารมณ์เช่นนี้ 

“พี่ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าหมู่นี้เธอทำตัวแปลกๆ หมกมุ่นแต่กับเรื่องความสัมพันธ์ทางกายอะไรนั่น แต่แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรือไง ลงทุนทำถึงขนาดนี้ทำไม รู้ไหมว่าพี่เกือบจะ...!” เขาหยุดคำพูดของตนไป เพราะรู้สึกกระดากเกินกว่าจะเอ่ยออกมา แต่ดูเหมือนว่าสาวเจ้าจะรู้สึกตรงกันข้าม นอกจากจะไม่เก้อกระดากแล้ว เธอยังใช้วงแขนมาโอบรัดเขาไว้แน่นอย่างไม่ต้องการให้ไปไหนอีก นัยน์ตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวเหมือนคนที่ตัดสินใจมาแล้ว 

“ก็ไม่ต้องแค่เกือบ แต่ทำเลยสิคะ พี่ไม่จำเป็นต้องทำกับคนอื่น ทำกับวิวนี่แหละ”

“ล้อเล่นหรือยังไง”

“พูดจริงๆ ค่ะ จะเป็นอะไรไป ไหนๆ พี่ก็อยากจะปลดปล่อยอารมณ์อยู่แล้ว แค่เปลี่ยนจากสาวไซด์ไลน์คนที่พี่จ้างมาเป็นวิวเท่านั้นเอง วิวก็ไม่ได้สวยหรือเซ็กซี่น้อยกว่าหล่อนเสียเมื่อไร”

“มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนกันยังไงคะ วิวก็เป็นผู้หญิงเหมือนหล่อน มีทุกอย่างที่พี่ต้องการ ให้พี่ได้ทุกอย่างที่พี่ต้องการเหมือนกัน ในทางสรีระเราไม่ได้แตกต่างกันเลย” วันเวลาเถียง ทว่าก็ต้องสะดุดไปเมื่อมือของตนถูกชายหนุ่มกดตรึงไว้กับที่นอน พร้อมด้วยดวงตาสีเหล็กที่แทบจะปะทุด้วยไฟแห่งโทสะ

“ฟังพี่ให้ดีนะ ที่พี่บอกว่าไม่เหมือน เพราะพี่ไม่ได้แค่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ แต่ต้องการมากกว่านั้น พี่ไม่ได้จ้างคนที่เขารับงานบริการเพราะความสนุก พี่ไม่ได้มาเพราะความสนุก ความกำหนัด หรืออยากรู้อยากลองเหมือนผู้ชายคนอื่น แต่พี่มาเพราะมีเหตุผลอื่น”

“เหตุผลอะไรคะ”

ตรัยคุณหลับตาลง ที่จริงเขาจะไม่อธิบายให้เธอฟังก็ได้ แต่คิดว่าหากไม่เล่า คนอย่างวันเวลาก็จะเร้าหรือเขาไม่เลิก เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกความจริง 

“หาคู่ซ้อม เธออยากจะขำใส่พี่ก็ได้ แต่พี่อยากหาคู่ซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือเรื่องบนเตียงให้ดีกว่าเดิม มันเป็นหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่พี่กำลังหาทางปรับปรุงและพัฒนา เพื่อที่พี่จะสามารถรักษาความสัมพันธ์ครั้งหน้าให้คงอยู่ได้นานๆ และไม่ทำพังอีกเป็นครั้งที่สอง เหมือนที่เคยพังไปแล้วเมื่อตอนแอลลี่”

เมื่อได้ฟังอย่างนั้นหญิงสาวก็นิ่งงันไป เขาไม่รู้หรอกว่าวันเวลาคิดอย่างไร กระทั่งอยากหัวเราะใส่เขาหรือไม่ แต่เธอก็ไม่ได้หัวเราะใส่   นาทีหนึ่งกว่าที่เธอจะคลายยิ้มออกมาอย่างเข้าอกเข้าใจ

“เข้าใจแล้วค่ะ พี่มีเหตุผลอย่างนี้เอง คนที่อยากแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองเพื่อพัฒนาในความสัมพันธ์ครั้งต่อไปแบบนี้ น่านับถือออก ไม่มีอะไรน่าขำเลย”

“จริงหรือ”

“จริงสิคะ ไหนๆ พี่ก็กำลังหาคู่ซ้อม งั้นคืนนี้ให้โอกาสวิวเป็นคู่ซ้อมให้พี่ได้ไหม วิวจะทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ครั้งต่อไปของพี่ราบรื่น”

“พี่ก็เพิ่งบอกไปหยกๆ เองนะว่าเหตุผลของพี่คืออะไร แล้วทำไมถึงดึงดันจะอยู่ให้ได้นัก”

“เพราะวิวอยากอยู่ตรงนี้...อยู่กับพี่คุณ”

“วิว” 

“พี่จะนอนกับวิวเพราะต้องการซ้อมมือ หรือตัดความรำคาญอะไรก็ได้ วิวไม่แคร์ แต่ขอให้วิวได้อยู่ช่วยพี่เถอะ คิดในแง่ดี ซ้อมมือกับคนที่รู้จักกันแล้วแบบวิวน่าจะดีกว่าไปซ้อมกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่ใช่หรือคะ อย่างน้อยก็รู้จักหัวนอนปลายเท้า ที่มาที่ไปของกันและกัน ไม่ต้องเริ่มต้นเรียนรู้อะไรใหม่ด้วย”

“ไม่รู้สิ บางทีการนอนกับคนรู้จักมันอาจยากกว่า เพราะมันจะทำให้เรามองหน้ากันไม่ติดอีก”

“มันก็ไม่ได้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่หรอกค่ะ ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้ดีเท่าไรอยู่แล้ว” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว พยายามกดความเศร้าเล็กๆ ไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ “อีกอย่างวิวก็ตรึกตรองมาดีแล้วด้วย วิวไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้หรอกค่ะ” 

ตรัยคุณคลายมือบางที่ตรึงไว้กับที่นอน นัยน์ตาเข้มมีแววอ่อนลง สวนทางกับพายุพิศวาสที่โหมกระพือแรงขึ้น...เรื่อยๆ ยิ่งในยามที่โดนมือน้อยสัมผัสจุดหวงแหนของเขาอย่างปลุกเร้าแล้ว เขาก็เริ่มจะอดทนต่อไปไม่ไหว สติสัมปชัญญะน้อยลงทุกขณะ จนยากจะควบคุม

“ไม่เสียใจแน่หรือ” 

“ค่ะ” วันเวลาใช้สองมือประคองใบหน้าคมคายของชายหนุ่มให้สบตาของเธอใกล้ๆ “ไม่ต้องห่วงนะคะ หลังผ่านคืนนี้ไป วิวจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราให้หมด และจะไม่เรียกร้องอะไรจากพี่คุณทั้งนั้น” 

“ที่ทำอยู่ก็เรียกว่า ‘เรียกร้อง’ จากพี่อยู่ไม่ใช่หรือ” เขาย้อนถาม ทำเอาสาวเจ้าต้องยิ้มหวาน

“เอ...จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

“ดื้อ” เขาว่า สอดแทรกนิ้วเข้าไปในโพรงปากอุ่นชื้นอย่างกับจะสำรวจความชุ่มฉ่ำภายในว่าเธอพร้อมสำหรับบทบาทในคืนนี้แล้วหรือไม่ “คนอะไรพูดไม่เคยรู้ฟัง พี่ให้โอกาสหนีแล้ว ยังไม่หนีไปอีก”

“พี่ก็รู้นี่นาว่าวิวดื้อด้านแค่ไหน เรามาต่อในสิ่งที่เริ่มให้เสร็จดีกว่า ถ้าพี่คุณให้สิ่งที่วิวต้องการ วิวจะไม่มาตอแยพี่อีกเลย...นะคะ”

ก็ไม่รู้ว่าวันเวลาหมายความตามนั้นจริงๆ หรือไม่ แต่การนึกภาพว่าไม่มีเธอคอยป้วนเปี้ยนหรือร้องขอให้เขาทำเรื่องแปลกๆ ก็นับว่าเข้าท่าดี สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจทำตามที่วันเวลาได้พร่ำบอกเขา ที่ผ่านมาเขาเคยปฏิเสธเธอมาตลอด แต่คืนนี้เขาจะไม่ปฏิเสธอีกแล้ว

แทนที่จะถอยหนี ในจังหวะที่วันเวลาขยับตัวมาจุมพิตเขานั้น ตรัยคุณก็โน้มใบหน้าลงมาจุมพิตเธออย่างตอบรับ เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นชิมความหวานจนผู้ถูกจู่โจมใจเต้นหวิว

ถ้าเธออยากจะช่วย เช่นนั้นเขาจะให้เธอเป็นคู่ซ้อมให้สมใจ มาคิดดูอีกที ในเมื่อเธอคิดจะใช้เขาเป็นเครื่องมือในการพา ‘เขา’ คนนั้นของเธอกลับมาอยู่แล้ว เช่นนั้นจะเป็นอะไรไป หากเขาจะใช้เธอเป็นเครื่องมือในแผนพัฒนาชีวิตรักบ้าง

ต่างคนต่างใช้กันเป็นเครื่องมือ ก็สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถือว่าวินวินทั้งคู่

“พี่จะค่อยๆ ทำ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บเมื่อไร บอกพี่ได้ทันที” 

“ขอแค่เป็นพี่คุณ วิวไม่เจ็บหรอกค่ะ”

“อย่าเพิ่งพูดดีกว่า ถ้ายังไม่เจอของจริง” ตรัยคุณยิ้ม ก่อนจะฉีกซองถุงยางอนามัยมาใช้ด้วยท่าทีที่คงอยากจะข่มขวัญคู่นอนเล็กน้อย แต่ในความรู้สึกของวันเวลากลับกลายเป็นความตื่นเต้นปนเร้าใจ ใครจะคิดว่าถุงยางอนามัยที่เขาเตรียมมาใช้กับสาวค้าบริการ จะถูกนำมาใช้กับอดีตเด็กข้างบ้านอย่างเธอกันเล่า 

คืนนั้นสงครามสวาทของเขาและวันเวลาดำเนินไปอย่างดุเดือด เขาและเธอหลอมรวมอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันครั้งแล้วครั้งเล่า คงเพราะเป็นการทำเพื่อลับคม ตรัยคุณจึงตั้งอกตั้งใจปรนเปรอความสุขให้แก่คู่ซ้อมของเขาให้มากที่สุด ตลอดการทำกิจกรรม นอกจากสังเกตเองจากเสียงครวญครางและอากัปกิริยาอื่นๆ แล้ว เขาจะคอยสอบถามความเห็นวันเวลาเป็นระยะตลอดว่า ‘ทำแบบนี้ดีไหม’ ‘รู้สึกยังไง’ และ ‘ชอบให้ทำแบบไหน’ ทั้งหมดนี้เพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้และพัฒนา ซึ่งก็โชคดีที่วันเวลาให้ความร่วมมือ แม้ว่าเธอดูมุ่งมั่นที่จะเป็นคนเริ่มเกมก่อนอยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่เขาก็ไม่ติดขัดอะไร เขายินดีสลับบทบาทให้เธอเป็นผู้นำในเกมได้ หากว่ามันจะทำให้เธอมีความสุข

กว่าพวกเขาจะถอนตัวจาก ‘พิษสวาท’ อันมอมเมาได้ก็ตอนที่เครื่องป้องกันหมดกล่อง ยามที่ขอบฟ้าเริ่มมีสีทองระเรื่อแต่งแต้ม คู่หนุ่มสาวก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของกันและกันด้วยความเหนื่อยล้าทว่าสุขสม

ทว่ามันคงเป็นความสุขเพียงชั่วคราว ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็น...ฝันร้าย

ท่ามกลางกองหมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายจากสงครามรัก วันเวลาตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าโดยมีตรัยคุณนอนอยู่เคียงข้าง ใครจะคิดว่าเธอจะมีวันนี้ วันที่ความฝันของเด็กสาวผู้แอบรักพี่ชายข้างบ้านกลายเป็นจริง เธออยู่ตรงนี้แล้ว อยู่ข้างพี่ชายคนนั้น...คนที่บัดนี้กลายมาเป็น ‘คนแรก’ ของเธอ

แม้จะผิดแผนไปนิดก็ตรงที่ว่าเมื่อคืนนี้เธอไม่ได้กลับไปนอนบ้าน เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับกิจกรรม กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบสว่างแล้ว ทว่าเธอเชื่อว่ากังสดาลที่รออยู่จะเข้าใจเหตุผล เธอจะรีบกลับบ้านไปขอโทษเพื่อนที่ปล่อยให้รอนาน กลับไปพร้อมกับแจ้งข่าวดีว่าเธอทำสำเร็จแล้ว 

เธอแน่ใจว่าตนทำสำเร็จตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ในตอนที่ตรัยคุณและเธอกลายเป็นหนึ่งเดียวของกันและกัน อดีตนับสิบนับร้อยเหตุการณ์ของเขาก็พลันทะลักทลายราวกับธารน้ำแข็งที่เพิ่งละลาย มันค่อยๆ หลั่งไหลมาให้เธอได้รับรู้ เธอจะหยุดตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้ แต่ใจอันเกเรของเธอก็ไม่ยอมหยุด เธออยากอยู่กับเขาต่อ จึงปล่อยให้กิจกรรมรักดำเนินไปอีกครั้งและอีกครั้ง ซึ่งก็คุ้มไม่ว่าจะมองในทางใดก็ตาม เพราะเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นอกจากเธอจะมีความสุขกับคืนหฤหรรษ์ เธอยังมั่นใจมากกว่าเดิมว่าสัมผัสพิเศษนั้นได้กลับคืนมา 

เช้านี้เธอตื่นมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน เหมือนทุกอย่างที่เคยขาดหายไปก่อนหน้านี้ถูกเติมเต็มอีกครั้ง เธอรู้สึกสมบูรณ์ รู้สึกมั่นใจ กลับมาเป็นวันเวลาคนเดิมที่สมบูรณ์พร้อมเหมือนก่อนประสบอุบัติเหตุอย่างไรอย่างนั้น

ทฤษฎีของเธอถูกต้อง ตรัยคุณทำให้ ‘เขา’ คนนั้นของเธอกลับคืนมาแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

วันเวลาหันมองชายหนุ่มข้างกายที่ยังคงหลับสนิทอย่างพอใจ ยิ่งมองก็ยิ่งยากจะถอนสายตา บางทีเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่ต้องมองเธอตอบก็ได้ ขอแค่ให้เธอได้มองเขาเงียบๆ แบบนี้ก็พอ 

หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนจะเลื่อนมือไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างหนาไว้อย่างกลัวว่าจะหนาว

“ขอบคุณนะคะ พี่คุณ” เธอกระซิบบอกผู้อยู่ในนิทรา ตรัยคุณจะรู้ไหมว่าเขาช่วยเหลือเธอไว้มากเพียงใด เขาเพิ่งจะดึงเธอขึ้นมาจากหุบเหวของความว่างเปล่าและไร้ตัวตนจากการมีสัมผัสพิเศษ เธอรู้สึกขอบคุณเขาจากใจจริงๆ 

มือเรียวไล้แตะที่กรอบหน้าคมคายเบาๆ คราวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะสัมผัสเพราะหวังผลใดๆ แต่เธอแค่ทำตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจ เธออยากสัมผัสเขา อยากจดจำความรู้สึกนี้ให้นานที่สุด เพราะนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้มีโอกาสสัมผัสเขาเช่นนี้

วันเวลาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธอเห็นภาพในอดีตของตรัยคุณเรื่องใด เธอเฝ้ามองเขาอยู่เช่นนั้นครู่ใหญ่ กว่าที่จะตัดสินใจบอกลาด้วยการจูบเขาที่ข้างแก้ม

ทว่าทันทีที่ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับแก้มที่มีไรหนวดจางๆ ของเขา ดวงตาคู่สวยก็พลันเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ต่อให้ไม่ต้องการ แต่เธอก็ถูกดึงให้จมลงไปใต้ก้นบึ้งแห่งวันวานของตรัยคุณอีกแล้วโดยอัตโนมัติ และคราวนี้เธอพยายามทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ เพราะภาพที่ประดังประเดเข้ามาในหัวนั้นน่ากลัวจนเธอหนาวสะท้าน

ท่ามกลางความมืดที่แสนวังเวง เธอเห็นตรัยคุณใช้เข่ากดคอหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนพื้น ร่างเล็กๆ ของหล่อนเปลือยล่อนจ้อน ส่วนใบหน้าล้อมกรอบผมเผ้ารุงรังยุ่งเหยิงนั้นโชกเลือดอย่างน่าสยดสยอง หล่อนพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายสุดกำลังเพื่อเอาชีวิตรอด ทั้งพยายามเปล่งเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือที่ไม่มีใครได้ยิน มือและเท้าจิกเกร็งอยู่บนพื้นอย่างทรมาน

‘ชะ...ช่วยด้วย’

หญิงสาวคนนั้นเปล่งเสียงสุดท้าย ทว่ากลับมีแต่เสียงอึกอักไม่เป็นภาษาอยู่ในลำคอ ในยามที่ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะถูกพราก ตรัยคุณที่มือเปื้อนเลือดก็หยิบมีดด้ามใหญ่ออกมา เขาเงื้อมันขึ้น ก่อนจะฟันมีดลงมาที่ใบหน้าหล่อนอย่างไร้ความปรานี

ทุกอย่างกลายเป็นสีดำ วันเวลาผวาเฮือกอย่างตกใจสุดขีดและหลุดจากภวังค์ภาพอันสยดสยอง เธอผงะถอย ยกมือขึ้นกุมลำคอตนเองไว้ เหตุการณ์ที่เห็นเมื่อครู่ทำให้เธอกลัวจนแทบจะหายใจไม่ออกตามไปด้วย

นี่มันเรื่องอะไร สิ่งที่เธอเห็นคืออะไรกัน!

หญิงสาวหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทิ้มตั้งแต่หัวจดเท้า เธอก้าวถอยห่างจากตรัยคุณแบบหวาดกลัว และเมื่อตั้งสติได้ เธอก็รีบแต่งตัวและขับรถออกมาจากโรงแรม อย่างกับกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมากลางคัน และเธออาจจะกลายเป็นเหยื่อรายถัดไปก็ได้

เธอเคยคิดว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดี แต่แท้จริงแล้วเธออาจไม่รู้จักเนื้อแท้ของเขาเลย เห็นได้จากสิ่งที่เขาเคยทำลงไป ต่อให้ไม่อยากจะเชื่อแค่ไหน แต่ภาพที่เธอเห็นไม่เคยโกหก เขาฆ่าคนจริงๆ และไม่เพียงแต่ฆ่า แต่วิธีการฆ่าเหยื่อยังตรงกับที่เธอเห็นในข่าว มันเป็นวิธีฆ่าของฆาตกรต่อเนื่องที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอยู่ตอนนี้

โนเฟซ...ตรัยคุณคือโนเฟซ!

วันเวลาขับรถด้วยอาการกระสับกระส่าย มือน้อยที่จับพวงมาลัยชื้นเหงื่อไปหมด หัวใจเต้นถี่เร็วจนเกือบจะกระดอนออกมานอกอกเสียให้ได้ บุญเหลือเกินแล้วที่เธอสามารถขับรถกลับถึงบ้านได้โดยไม่สติหลุด ขับรถลงข้างทางเสียก่อน พอมาถึงบ้านก็เห็นว่ากังสดาลเดินกลับไปกลับมาอย่างคอยท่าที่หน้าบ้านอยู่แล้ว แม้จะรู้ว่าวันเวลาวางแผนอะไรไว้ แต่หล่อนก็คงกังวลที่เห็นว่าเพื่อนหายไปทั้งคืนอยู่ดี

“ยายวิว!” ครั้นเห็นเพื่อนสนิทขับรถเข้ามาจอดในบ้าน กังสดาลก็กระโดดเข้ามาสัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ที่ทั้งอยากรู้และเป็นห่วง “แกเป็นยังไงบ้าง หายไปทั้งคืนเลย โอเคดีหรือเปล่า”

วันเวลาเม้มริมฝีปาก เธอเดินโซซัดโซเซลงจากรถเหมือนคนที่วิญญาณหลุดลอยไปแล้ว

“แม่ล่ะ”

“แม่แกยังหลับอยู่บนบ้าน”

“งั้นหรือ ขอบใจนะที่ช่วยดูแลแม่ฉัน และก็ขอโทษที่ฉันหายไปนานกว่าที่คิด”

“ไม่เป็นไร แกกลับมาก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไมทำท่าแบบนั้น แผนการเผด็จศึกพี่คุณล่มหรือ”

“เปล่า ไม่ล่ม ฉันทำสำเร็จ”

“ว้าย จริงสิ ข่าวดีเลยนะ ฉันดีใจกับแกด้วย แปลว่าสัมผัสพิเศษของแกกลับมาทั้งหมดแล้วใช่ไหม”

“อือ กลับมาเต็มร้อยแล้ว” 

“ถ้ากลับมาเต็มร้อย แกก็ต้องดีใจจนเนื้อเต้นสิ แล้วนี่แกเป็นอะไร” กังสดาลถามอย่างสงสัย เพราะจับสังเกตได้ว่าเพื่อนสาวมีท่าทีไม่ปกติ แลดูทั้งสับสนและหวาดกลัวอะไรสักอย่างมากๆ

แต่แทนที่จะตอบ วันเวลากลับโผเข้ากอดกังสดาลไว้ ทำนบน้ำตาที่พยายามกลั้นมาตลอดพังทลาย

“แก...ฉันแย่แล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น”

“ผู้ชายที่ฉันเพิ่งมีอะไรด้วยเป็น...ฆาตกร”

 “แกหมายความว่ายังไง นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ!”

“เรื่องจริง ยายกั้ง ฉันมองเห็นอดีตนั่น พี่คุณเขา...” วันเวลาปาดน้ำตาป้อยๆ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น “พี่คุณฆ่าผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น เขาคือโนเฟซ ทีนี้แกช่วยฉันคิดหน่อยสิว่า ฉันควรจะทำยังไงดี!”


 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น