8

ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

 

เพียงรักนั่งรอเพื่อนสนิทอยู่ในร้านคาเฟ่ร้านดัง หลังจากที่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงมาหยกๆ ตอนนี้เธอต้องการอาหารหนักๆ เช่นพวกขนมเค้กเป็นพิเศษ 

วันนี้หญิงสาวว่างจึงนัดเพื่อนสนิทอย่างปัทมาและรุ่นน้องอย่างนริน รายหลังนั้นเพียงรักได้เจอหน้าล่าสุดก็เมื่อหนึ่งเดือนก่อนโน้น ไม่รู้ว่าวันนี้รุ่นน้องสาวจะมีเรื่องราวเด็ดๆ มาเล่าให้เธอฟังมากน้อยเพียงไร อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงจำเป็นอยู่ที่บ้านเพื่อช่วยงานจิ๊บถึงสองคน เธอคงอยู่ได้นานกว่าทุกครั้ง อีกอย่างหลังจากออกมาพักใหญ่แล้ว จิ๊บก็ยังไม่โทร. ตามเธอกลับบ้าน ก็นับว่าเป็นเรื่องดีๆ ของวันนี้ได้หนึ่งเรื่อง 

เพียงรักคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่กับตัวเองระหว่างนั่งรอเพื่อนสนิทสองคน ทั้งปัทมาและนรินต่างส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่ากำลังหาที่จอดรถอยู่ ดังนั้นก็น่าจะรออีกไม่นาน

ปิ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวสุดฮิตนั้นทำให้เพียงรักเลิกคิ้วสูง พลิกมือถือขึ้นมาดูว่าใครกันที่ส่งข้อความมาหาเธอในวันหยุด แล้วคิ้วงามก็ต้องขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม เมื่อพบว่าคนที่ส่งมานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแดนเหนือนั่นเอง

และสิ่งที่เพียงรักสงสัยต่อมาก็คือ ชายหนุ่มเอาคอนแทกต์ของเธอมาจากใคร แต่ก็คงไม่พ้นเกื้อกูลนั่นแหละ หญิงสาวถามเองและตอบเองในใจ ผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด แล้วตัดสินใจไม่เอาเรื่องแดนเหนือในเรื่องนี้ 

กวาดสายตาอ่านข้อความที่แดนเหนือส่งมาถามว่า จะอัปโหลดรูปและคลิปวิดีโอไหนลงสื่อโซเชียลของตัวเองได้บ้าง เพียงรักไล่ดูบรรดารูปของลูกเธอที่อยู่ในชุดว่ายน้ำที่อีกฝ่ายถ่ายและส่งมาให้ โดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังยิ้มกว้างอยู่...

ทว่ารอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเพียงรักเลื่อนลงมาเจอคลิปวิดีโอที่อยู่ล่างสุดในห้องแชต เป็นคลิปที่ดวินเหยียบอยู่บนไหล่กว้างของแดนเหนือ แล้วกระโดดตู้มลงสระจนน้ำแตกกระจาย โดยมีรฉัตรลอยคอเกาะเอวแดนเหนือเพื่อต่อคิว รอเหยียบบ่าแดนเหนือต่อจากพี่ชาย 

เท่านั้นเพียงรักก็แทบลมจับ...รู้ซึ้งกับไอ้คำพูดที่ว่า ‘อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อ’ ก็วันนี้

แดนเหนือนะแดนเหนือ...แล้วแบบนี้เธอจะไว้ใจให้เขาเลี้ยงลูกได้อีกไหม

เพียงรักเม้มปาก...คิดหาถ้อยคำที่จะพิมพ์ตอบแดนเหนืออยู่อึดใจหนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจปล่อยผ่านอีกครั้ง หญิงสาวถามตัวเองว่าจะโกรธชายหนุ่มที่ให้ดวินเหยียบไหล่และกระโดดลงสระน้ำได้ไหม...และคำตอบก็คือไม่ 

เพราะเพียงรักคิดว่าลูกของเธอไม่ได้เลี่ยงอันตรายจนถึงชีวิต ในสระน้ำมีเกื้อกูลและแดนเหนือคอยดูสองแฝด บนขอบสระก็มีจิ๊บที่ถ่ายคลิปวิดีโอ แม้จะทำให้คนเป็นแม่ใจหายใจคว่ำอย่างมาก แต่เพียงรักกลับมั่นใจว่าแดนเหนือจะไม่มีมีทางปล่อยให้เด็กๆ เป็นอันตรายแน่

ทั้งๆ ที่เธอไม่ควรจะไว้ใจอดีตคนรักมากขนาดนี้ แต่สุดท้ายเพียงรักก็เลือกที่จะไว้ใจแดนเหนือในเรื่องนี้ เขาเป็นพ่อของเด็กๆ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สัญชาตญาณความเป็นพ่อของแดนเหนือก็คงไม่น้อยไปกว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอหรอก

ดวินและรฉัตรเองก็ไว้ใจแดนเหนือมากกว่าทุกคนเช่นเดียวกัน นั่นยิ่งทำให้เพียงรักละอายยามที่ต้องกีดกันแดนเหนือออกห่างลูก ขนาดลูกยังไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นพ่อ แต่สายใยบางอย่างที่มองไม่เห็นกลับยึดพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา เธอดีใจที่เด็กๆ ชอบแดนเหนือ แต่ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เพียงรักหวาดกลัวอยู่ลึกๆ

กลัวว่าหากเป็นเธอที่คิดผิดเรื่องไว้ใจแดนเหนือ ครั้งนี้คนที่เจ็บปวดจะไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวเหมือนครั้งก่อน...

“พี่เพียงคะ!” 

เสียงตะโกนของนรินดึงเพียงรักออกจากภวังค์ หญิงสาวมองหาเจ้าของน้ำเสียงตกใจ ก่อนจะเจอใบหน้าเหลอหลาของรุ่นน้องที่ตรงดิ่งมาหาด้วยความกังวล 

“พี่เพียงเห็นหรือยัง”

“เห็นอะไรเหรอริน เกิดอะไรขึ้น” เพียงรักกะพริบตา ไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่สำคัญจนเธอต้องเห็นเลยหรือ 

“ก็ที่พี่เหนือลงรูปน้องแฝดไงคะ รินต่างหากที่ต้องถามพี่เพียงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เหนือถึงได้ไปอยู่กับน้องแฝดได้” รุ่นน้องสาวทำตาโต รูปล่าสุดที่แดนเหนือโพสต์กำลังเป็นประเด็นเด็ดสำหรับคนรอบตัวของชายหนุ่ม คนรักของเธอเองก็ยังแปลกใจที่จู่ๆ แดนเหนือลงรูปดวินกับรฉัตร 

“รอให้ปัทมาแล้วค่อยเล่าพร้อมกันเถอะ” เพียงรักยิ้มกว้าง เข้าใจสายตาระแวงของนรินดีว่าหมายความว่าอย่างไร นรินไม่ใช่คนแรกหรอกที่ระแวงว่าเธอจะกลับไปคืนดีกับแดนเหนือง่ายๆ

“พี่เพียงคงไม่ได้คืนดีกับพี่เหนือใช่ไหมคะ ถ้าเป็นแบบนั้นรินไม่อยากฟังนะ”

“ไม่ใช่หรอก” เพียงรักยิ้ม สิ่งที่เธอชอบที่สุดในตัวนรินคือความตรงไปตรงมา แม้บางครั้งจะผิดที่ผิดทางไปบ้าง แต่เธอไม่เห็นว่าเป็นข้อเสียแต่อย่างไร “ถ้าพี่คืนดีกับเหนือ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วกรุงเทพฯ แล้ว”

“ก็จริง...” ได้ยินดังนั้นท่าทางของนรินก็อ่อนลง คนรักของเธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับแดนเหนือ และเธอก็สนิทกับเพียงรักมาตั้งแต่สมัยเรียน รู้ดีว่าแดนเหนืออวดแฟนเก่งและไม่อายที่จะแสดงความรักกับเพียงรัก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันหรือว่าทางโซเชียลมีเดีย ถ้าเพียงรักยอมคืนดีกับเขาเมื่อไหร่ ไม่มีทางที่ฝ่ายนั้นจะไม่ประกาศให้โลกรู้ 

“แล้วทำไมพี่เหนือถึงอยู่กับน้องแฝดได้ล่ะคะ”

“รอให้ปัทมาก่อนได้ไหม พี่ขี้เกียจเล่าหลายรอบ” 

“ตอนนี้แชตหนูกำลังจะแตกแล้ว” นรินเปลี่ยนเรื่องแล้วยื่นมือถือมาให้เพียงรักดู เป็นการยืนยันว่าเธอพูดความจริง “ถามกันใหญ่เลยว่าสองแฝดเป็นลูกพี่เหนือจริงหรือเปล่า ถามว่าใครเป็นแม่...อุ๊ย! มีคนถามด้วยว่าใช่ลูกพี่เพียงหรือเปล่า”

“เก่งนะ เดาถูกด้วย” 

เพียงรักยิ้มขัน ก่อนหยิบเครื่องดื่มของเธอขึ้นมาดื่ม นรินเห็นดังนั้นจึงหันไปสั่งของตัวเองบ้าง เมื่อสั่งเครื่องดื่มเสร็จ โต๊ะเล็กๆ ของพวกเธอก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีกคน

ปัทมาเดินกระแทกเท้าเข้ามาหาเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แทบไม่ต้องเดาว่าตอนนี้เจ้าตัวหงุดหงิดขนาดไหน และต้นเหตุก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเรื่องรูปล่าสุดที่แดนเหนืออัปโหลดไป

“นี่แกเสียสติไปแล้วใช่ไหมเพียง ไหนแกรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับไอ้เหนืออีกแล้วไง” ปัทมาไม่เสียเวลาถามเหตุผล ว่าอะไรทำให้เพียงรักปล่อยให้แดนเหนือเข้าใกล้ดวินและรฉัตร สำหรับเธอนั้นต่อให้เหตุผลของเพียงรักจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น สุดท้ายแล้วแดนเหนือก็ยังเป็นตัวอันตรายต่อเพื่อนเธอและเด็กๆ อยู่วันยังค่ำ

“นั่งก่อนเถอะ” เพียงรักเงยหน้า ยังยิ้มได้แม้จะโดนเพื่อนรักแยกเขี้ยวใส่ อีกทั้งสายตาที่ปัทมาใช้มองหน้าเธอก็เอาเรื่องไม่แพ้กัน “สั่งอะไรเย็นๆ ดื่มก่อนไหม เผื่อจะใจเย็นลง”

“ต่อให้เป็นน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือก็ทำให้ฉันใจเย็นลงไม่ได้หรอก” ปัทมาเอ่ยเสียงขึ้นจมูกอย่างดูแคลน สำหรับเธอตอนนี้ ต่อให้ทำตามคำแนะนำของเพียงรักก็ไม่มีทางทำให้อารมณ์ของเธอเย็นลงได้ “เล่ามาได้แล้ว เรื่องไอ้เหนือน่ะมันยังไงกันแน่”

“ก็ไม่ยังไง เกื้อพามาที่บ้านเมื่อคืน...เห็นว่าโดนแม่ไล่ออกจากบ้านทั้งพี่ทั้งน้อง”

“แม่ไอ้เหนือน่ะนะ” ปัทมาเบ้หน้า ไม่เชื่อเหตุผลที่เพียงรักบอกมาแม้แต่นิดเดียว “ไม่มีทางหรอก แกโดนมันหลอกแล้วเพียง”

“จริงค่ะ พี่เพียงโดนพี่เหนือหลอกแล้วละ คราวนี้คงให้เกื้อช่วยโกหก ยังไงก็เป็นพี่น้องกันนี่” นรินว่าพร้อมกับพยักหน้าแรงๆ เธอเลือกอยู่ข้างปัทมาโดยไม่ต้องเสียเวลาไตร่ตรอง ในความรู้สึกของเธอตอนนี้ ใครที่ไม่สนับสนุนให้เพียงรักกลับไปหาแดนเหนือ เธอพร้อมที่จะอยู่ข้างเขาทันที 

“ครั้งนี้ไม่ได้หลอกหรอก เห็นว่าถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย...อย่างน้อยก็คงจริงครึ่งหนึ่งแหละ” เพียงรักพึมพำ แน่นอนว่าคนที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลนั้นเป็นคุณสุกดารา เมื่อคืนพ่อของแดนเหนือต่อสายหาเธอตอนดึก บอกเรื่องที่คุณสุกดาราถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเนื่องจากความเครียด และถามว่าลูกชายของท่านอยู่กับเธอหรือเปล่า 

“แกคงไม่ได้จะคืนดีกับไอ้เหนือใช่ไหม บอกมาตามตรงเลย ฉันจะได้รีบทำใจ” ปัทมากดเสียงต่ำ เธอไม่ไว้ใจเพียงรักจริงๆ รู้หรอกว่าเพื่อนเธอเป็นคนคำไหนคำนั้น ทว่าหญิงสาวเองก็มีบทเรียนมาไม่น้อยเลยเวลาเพื่อนทะเลาะกับแฟนแล้วมาหาเธอ ก่อนที่สุดท้ายก็ทิ้งเพื่อนอย่างเธอไปคืนดีกับแฟนเนี่ย หวังว่าเพียงรักจะไม่เป็นหนึ่งในนั้นนะ 

“เปล่า ยังไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาเหนือหรอก” เพียงรักยังไม่มีความคิดที่จะเริ่มต้นใหม่ หรือกลับไปซ่อมรอยร้าวในความสัมพันธ์ของเธอกับแดนเหนือให้กลับมาเป็นเหมือนห้าปีก่อน 

“ยังไม่มี” ปัทมาหรี่ตา รับรู้ถึงนัยบางอย่างกับคำพูดของเพื่อน เล่นเอาคิ้วของเธอกระตุกปัดๆอย่างไม่อาจห้ามได้ “หมายความว่ายังไม่มี...แต่อาจจะมี ถูกไหม”

“ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องเหนือหรือผู้ชายคนไหนในหัวฉันทั้งนั้นแหละ” เพียงรักว่าแล้วถอนหายใจ หลังตระหนักได้ว่าเธอก็โสดมานาน แต่ก็ยังไม่มีความคิดที่จะพาใครเข้ามาในชีวิตของเธอเลย เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าชีวิตแม่ลูกสองของตัวเองยุ่งขนาดที่ลืมคิดเรื่องมีแฟนไปเลยหรือนี่... “ทำไม...จะแนะนำใครให้ฉันอีกหรือไง”

“ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้เหนือน่ะ” ปัทมาที่ไม่ชอบหน้าแดนเหนือขนาดหนักและจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้กระแทกเสียงตอบเพื่อน ก่อนจะหันไปถามความเห็นจากรุ่นน้อง 

นรินพยักหน้าแรงๆ สนับสนุนอย่างรู้ความ ก่อนสำทับด้วยคำพูดแบบเดียวกันกับที่ปัทมาเพิ่งพูดมา

“จริงค่ะ คนที่มาจีบพี่เพียงดีกว่าพี่เหนือทุกคน” น้ำเสียงที่รุ่นน้องของเพียงรักใช้จริงจังจนเธอยิ้มขัน “รินพูดจริงๆ นะคะ พี่เพียงของรินทั้งสวยทั้งรวย ใครๆ ก็อยากได้พี่เพียงเป็นแฟนทั้งนั้น”

“แต่พี่มีลูกติดสองคนแล้วนะ อย่าลืม” เพียงรักชี้ให้ปัทมาและนรินเห็นว่า อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกที่จะอยู่เป็นโสด ทั้งที่มีคนแวะมาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน

“โอ๊ย! นี่มันยุคไหนแล้ว” ปัทมาร้องออกมาด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “แกไปอยู่เมืองนอกเมืองนามาตั้งหลายปี สมัยนี้คนเขาไม่ถือสากันแล้ว...จะหย่ากี่รอบ จะเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็แต่งงานใหม่ได้ทั้งนั้นแหละ”

“นี่แกคิดจะจับคู่ให้ฉันจริงหรือ” เพียงรักเริ่มหวั่นขึ้นมานิดๆ “กลัวฉันจะกลับไปหาเหนือมากจนอยากให้ฉันคบกับใครก็ได้เลยงั้นเหรอ ถ้าเจอที่แย่กว่าเหนือล่ะ”

“แกยังคิดว่ามีคนแย่กว่าไอ้เหนืออีกเหรอ” เป็นปัทมาที่แปลกใจขึ้นมาบ้าง สำหรับเธอแล้วแดนเหนือเหมือนศูนย์รวมความเลวร้ายที่พ่วงมากับความรวยเท่านั้น ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ที่สำคัญไม่เหมาะกับเพื่อนคนสวยของเธอแม้แต่นิด

“นั่นน่ะสิ จะมีคนที่แย่กว่าเหนืออีกไหมนะ...” เพียงรักชักสงสัยขึ้นมานิดๆ เหมือนกัน

 

แดนเหนือไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต หลังจากเพียงรักออกไปทำธุระ เขาก็ตามเกื้อกูลและเด็กๆ ลงไปยังสระว่ายน้ำ ทีแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปร่วมวงเล่นน้ำกับลูกหรอก แต่เห็นว่าดวินและรฉัตรสนุกมาก อีกทั้งเกื้อกูลคนเดียวก็ดูแลเด็กสองคนในสระน้ำพร้อมกันไม่ได้ และทำให้ดวินและรฉัตรต้องสลับกันกระโดดน้ำ

เขาทนดูภาพของดวินที่หน้าหงอย รอให้ถึงตาตัวเองกระโดดน้ำไม่ไหว จึงต้องกระโดดลงสระดังตู้มเป็นแกนนำในการเล่นน้ำครั้งนี้ แดนเหนือคิดว่าเขาตัดสินใจไม่ผิด เพราะว่าตอนนี้เขาเบียดเกื้อกูลและก้าวขึ้นมาเป็นคนโปรดของสองแฝดได้เรียบร้อยแล้ว

“ลุงแดนเก่งที่สุด” รฉัตรดีอกดีใจ พร่ำบอกว่าลุงแดนของเธอแสนเก่งกาจ หลังจากที่เขาอนุญาตให้เธอยืนบนไหล่กว้าง แล้วกระโดดลงมาจนน้ำแตกกระจายเป็นวงใหญ่

แดนเหนือยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง ระหว่างถอดชุดว่ายน้ำของเด็กๆ ออกเพื่ออาบน้ำ สำหรับแดนเหนือนั้นการได้รับหน้าที่อาบน้ำให้ลูกนับว่าแปลกไม่น้อย แต่แปลกในทางที่ดี...มันเป็นความรู้สึกที่ดียิ่งกว่าอะไรที่เขาเคยรู้สึกมาทั้งชีวิต แม้จะเหนื่อยมาก ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะทำให้ลูกของเขายิ้มได้

“ลุงแดนเก่ง แบกพวกเราได้ เหมือนซูเปอร์แมนเลย” ดวินเองก็ชมเชยแดนเหนือ เด็กชายชื่นชมความแข็งแกร่งของแดนเหนือที่สุด 

“ลุงแบกพวกเราได้ทั้งชีวิตเลยลูก” แดนเหนือกระซิบบอก ก้มมองดวินและรฉัตรที่นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำใหญ่ด้วยความรู้สึกเอ็นดู ไม่บอกความลับว่าขาของเขาสั่นระริก ยามที่ต้องแบกเด็กสองคนพร้อมกัน...

แน่นอนว่าครั้งแรกที่เกื้อกูลได้ยินคำพูดนี้ คนที่ถูกแย่งตำแหน่งคนโปรดของหลานๆ นั้นก็ทำได้แค่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เหลือบมองหน้าพี่ชายด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด   พลางคิดกับตัวเองว่า แดนเหนือดีกว่าเขาก็แค่ตัวใหญ่เท่านั้นแหละ เขาก็อุ้มดวินกับรฉัตรพร้อมกันสองคนได้เหมือนกัน!

“น้ำอุ่นพอหรือยังครับ” แดนเหนือถามเด็กๆ หลังปรับอุณหภูมิน้ำอยู่นาน อ่างน้ำในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนของเพียงรักกว้างพอที่ดวินและรฉัตรลงไปพร้อมกันได้ และยังเหลือพื้นที่ในอ่างสำหรับแดนเหนืออีกด้วย

“อุ่นแล้วค่ะ” รฉัตรบอกแล้วตีน้ำในอ่างจนแตกกระจาย เงยหน้ามองแดนเหนือด้วยสายตาพราวระยับ 

ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็ใจละลาย มั่นใจแล้วว่าหลังจากนี้เขาไม่มีทางไปไหนรอด...ลูกเขาน่ารักขนาดนี้ เขาหรือจะกล้าคิดไปไหน

“ไหนใครจะสระผมก่อน” เจ้าของเสียงห้าวเอ่ยถามพอเป็นพิธี ระหว่างอ่านฉลากบนขวดแชมพูที่วางเรียงอยู่บนขอบอ่าง ซึ่งมีทั้งของเพียงรักและของเด็กๆ ทำให้แดนเหนือต้องหยิบๆ วางๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนจะเจอขวดแชมพูสำหรับเด็ก

สองแฝดไม่กระตือรือร้นในการสระผม แดนเหนือถึงกับต้องถามตัวเองว่าเขาทำอะไรผิดไป ทำไมจู่ๆ ดวินและรฉัตรเฉยเมยใส่เขา นิ่งคล้ายไม่ได้ยินคำถาม

“ใครจะเป็นคนสระผมก่อนครับ” ชายหนุ่มถามซ้ำ ครั้งนี้น้ำเสียงที่แดนเหนือใช้อ่อนโยนขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาคนที่เขาคิดว่าว่าง่าย “วินสระผมก่อนไหมครับ”

“ไม่เอา” เด็กชายส่ายหน้าดิก ไม่สู้สายตาแดนเหนือเพราะกลัวจะถูกจับสระผม

“ฉัตรล่ะ...”

“โน...” รฉัตรลากเสียงยาวเป็นการปฏิเสธ “ไม่เอา ไม่สระผมได้ไหมคะลุงแดน” 

การกระทำนั้นของเด็กหญิงทำให้แดนเหนืออดไม่ได้ที่จะยิ้มขำ ก็สีหน้าของรฉัตรตอนนี้ทั้งสลดทั้งน่าเอ็นดูในคราวเดียวกัน แน่นอนว่าในฐานะพ่อของเด็กๆ แดนเหนือย่อมต้องคิดว่าการทำตัวขบถเล็กๆ น้อยๆ ของดวินและรฉัตรนั้นน่ารัก 

“ไม่ได้หรอกค่ะ เราเพิ่งเล่นน้ำกันมานะ...ถ้าไม่สระผม แม่เพียงเขาคงโกรธลุงแดนแย่เลย” แดนเหนือพยายามหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมสองแฝดให้ยอมรับการสระผมจากเขาเสียที “สระผมเถอะนะครับ ลุงแดนสัญญาว่าลุงแดนจะทำเบาๆ”

สองพี่น้องเหลือบมองหน้ากันอย่างปรึกษาหารือโดยปราศจากคำพูด ทว่าด้วยสัญชาตญาณของฝาแฝด ดวินและรฉัตรก็ได้คำตอบก่อนทั้งคู่จะพูดมันออกมาพร้อมกัน 

“ไม่เอา!"

นั่นทำให้แดนเหนือที่เพิ่งเคยเจออะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้

“คุณแม่จะกลับมาแล้วนะ ถ้าวินกับฉัตรยังไม่รีบอาบน้ำ ระวังความลับจะแตกนะคะ” จิ๊บที่เคยชินกับนิสัยช่างต่อรองของสองแฝดนั้นเอ่ยขึ้น ขณะที่เก็บชุดว่ายน้ำของเด็กๆ กับผ้าขนหนูที่พวกเขาใช้ห่อตัวระหว่างเดินจากสระขึ้นมาข้างบนห้องลงตะกร้า 

จิ๊บตั้งใจว่าจะปล่อยให้แดนเหนือรับหน้าที่อาบน้ำให้ดวินและรฉัตรด้วยตัวเอง และหากชายหนุ่มไม่โดนเด็กๆ แผลงฤทธิ์ใส่เสียก่อน เธอก็จะปล่อยให้เขาพาเด็กๆ นอนกลางวันตามคำสั่งของเพียงรัก แต่ต่อให้ปล่อยให้แดนเหนือรับมือดวินและรฉัตรเอง จิ๊บก็จะไม่ให้พวกเขาคลาดสายตาแน่นอน เพราะเธอเองก็ไม่ได้ไว้ใจแดนเหนือเสียทีเดียว

“อาเกื้อเขาอาบน้ำเสร็จแล้วนะ เหลือแค่วินกับฉัตรแล้วก็ลุงแดน” 

จิ๊บกระซิบเสียงเบา ท่าทางมีลับลมคมในทำให้ดวินและรฉัตรเริ่มหวั่นๆ กลัวจะโดนผู้เป็นแม่จับได้ว่า พวกตนแอบลงไปเล่นน้ำระหว่างที่คุณแม่ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าหากเพียงรู้แล้วจะลงโทษพวกเขาอย่างไรบ้าง

แดนเหนือปล่อยให้พี่เลี้ยงคนเก่งของสองแฝดจัดการกับความดื้อแพ่งเล็กๆ ของทั้งคู่ พร้อมกับเรียนรู้วิธีจัดการเด็กๆ และก็เป็นอย่างที่คิด สิ้นคำขู่เล็กๆ ของพี่เลี้ยง ดวินก็ขยับเข้ามาเกาะขอบอ่าง เสนอตัวที่จะสระผมเป็นคนแรก

“ผมสระก่อนก็ได้”

“เก่งมากครับ” แดนเหนือยิ้มแฉ่ง ภูมิใจกับความสำเร็จเล็กๆ ของตัวเอง ก่อนร่างสูงจะนิ่งขึงไปเพราะแขนเล็กๆ ของดวินโอบรอบต้นขาเขา เมื่อก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าดวินกำลังกอดขาของเขาแน่น แล้วแหงนหน้าไปด้านหลังเพื่อเตรียมตัวรับการสระผมจากเขา

ภาพนั้นน่ารักจนหัวใจของแดนเหนือเจ็บแปลบ แล้วความคิดว่าที่ว่าลูกของเขาน่ารักที่สุดในโลกก็ผุดขึ้นมาในหัว เท่านั้นรอยยิ้มของแดนเหนือก็ขยายกว้างกว่าเดิม ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ย “กอดลุงแดนแน่นๆ นะครับวิน”

“โอเคครับ” ดวินรับคำ จ้องเป๋งไปที่ใบหน้าคมคายที่ลอยเด่นอยู่ด้านบน ก่อนจะหัวเราะคิก เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำจากฝักบัวที่ค่อยๆ ไหลลงบนศีรษะเล็กๆ ของเขา “ลุงแดนมือเบา”

“ลุงสัญญาแล้วไงว่าลุงจะทำเบาๆ” 

แดนเหนือกระซิบบอกพลางฉีดน้ำจากฝักบัวลงศีรษะเล็กของลูกชาย เมื่อผมสั้นของดวินเปียกพอแล้ว ชายหนุ่มจึงปิดฝักบัวแล้วเปิดฝาขวดแชมพู เทแชมพูใส่ฝ่ามือพอประมาณก่อนลูบลงบนหัวทุยนั้น แล้วเริ่มสระผมให้เด็กชายอย่างเบามือ โดยมีรฉัตรจับตามองอย่างใกล้ชิด

“ระวังฟองเข้าตานะ” รฉัตรบอก ชะเง้อคอมองหน้าพี่ชายด้วยความระแวงและเป็นห่วง ฟองเคยเข้าตาเธอครั้งหนึ่ง จากนั้นรฉัตรก็เกลียดการสระผมไปเลย 

“เงยหน้าไว้แบบนี้ฟองไม่เข้าตาหรอกฉัตร” แดนเหนือบอกลูกสาว ขณะสอดนิ้วใหญ่เทอะทะของเขาเข้าไปในผมของดวิน 

“ไม่จริงๆ” รฉัตรส่ายหน้าแรงๆ เถียงแดนเหนือขาดใจในเรื่องนี้ “ตอนนั้นฉัตรก็เงยหน้าแบบนี้แหละ ฟองก็เข้าตาเหมือนเดิม”

แดนเหนือไม่คิดว่าเด็กน้อยจะโกหกเขาเรื่องนี้ แน่นอนว่าต่อให้จะเงยหน้าสูงไว้ ก็ใช่ว่าจะฟองจากแชมพูจะเข้าตาเด็กๆ ไม่ได้เสียหน่อย ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบมองหน้าแฉล้มของเด็กหญิง ก่อนจะยิ้มกว้างหลังปล่อยดวินที่ล้างฟองแชมพูออกเรียบร้อยกลับลงอ่างน้ำ ให้เด็กชายเล่นน้ำต่อไประหว่างที่เขาสระผมให้รฉัตร

“มาค่ะฉัตร ถึงตาฉัตรแล้ว”

“ไม่เอา...” แม้จะรู้ว่าไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ แต่รฉัตรก็ยังไม่ยอมแพ้ ขอต่อรองอีกสักหน่อย “ฟองเข้าตา มันแสบนะ”

“เมื่อกี้ฟองไม่เข้าตาวินนะ เห็นไหม”

แดนเหนือกล่อม ดึงแขนเล็กของเด็กหญิงเข้าหาตัว รฉัตรก็ทำได้เพียงตีหน้าดุเป็นการต่อต้านครั้งสุดท้าย ในที่สุดก็ยอมโอบแขนรอบต้นขาของแดนเหนืออย่างไม่มีทางเลือก 

“กอดลุงไว้แน่นๆ นะคะ เงยหน้าสูงๆ นะ”

“อย่าให้ฟองเข้าตาฉัตรนะ” เด็กหญิงขู่

“ครับ ลุงจะระวังสุดๆ เลย” แดนเหนือรับคำแข็งขัน สางผมยาวของรฉัตรไปด้านหลัง มืออีกข้างจับฝักบัวฉีดน้ำใส่ผมของรฉัตรไปพร้อมกัน “ฟองไม่เข้าตาฉัตรแน่นอน รับรองเลย”

 

เพียงรักแปลกใจเล็กน้อยที่กลับมาบ้านแล้วพบกับความเงียบ ร่างระหงวางกระเป๋าใส่ชุดออกกำลังกายที่ใช้แล้วไว้หน้าประตูอย่างรู้ดีว่า พี่จิ๊บจะจัดการซักทำความสะอาดและเอาไปใส่ไว้หลังรถเอง จากนั้นก็ชะเง้อคอมองหาสองแสบที่ยังไม่วิ่งมาออดอ้อน...

“อ้าว กลับมาแล้วหรือคะ” จิ๊บที่ยังสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ร้องทักเพียงรัก แม้จะค่อนข้างแน่ใจว่าผู้ที่มาใหม่คงเป็นคนอื่นไม่ได้ 

“หายไปไหนกันหมดแล้วคะ ทำไมบ้านเงียบ” เพียงรักถามหาลูกและแขกที่เธอฝากให้จิ๊บคอยจับตามองระหว่างที่เธอออกไปข้างนอกทันที นี่แดนเหนือคงไม่ได้พาลูกเธอออกไปข้างนอกหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอเอาเรื่องเขาแน่

“หลับกันอยู่ค่ะ” จิ๊บตอบ

“ทุกคนเลยหรือคะ” เพียงรักถามอย่างไม่แน่ใจนัก นี่เพิ่งจะเที่ยงไปได้ไม่นานเอง เมื่อจิ๊บผงกศีรษะเป็นคำตอบ เพียงรักก็มีคำถามใหม่ “ใครเอาเด็กๆ เข้านอนคะพี่”

“ช่วยกันค่ะ พี่กับคุณเหนือสลับกันกล่อม แต่วันนี้ดี ไม่งอแงมากเท่าไหร่...” พี่เลี้ยงคนเก่งบอกเพียงรัก หลุดยิ้มขันเมื่อหวนคิดถึงสีหน้างุนงงของแดนเหนือ ยามต้องเผชิญกับสองแสบในภาคงอแง ร้องหาแต่เพียงรัก ไม่ยอมให้แดนเหนือหรือใครแตะตัว 

“อ้อ...” คนเป็นแม่ได้แต่พยักหน้ารับรู้ หากเด็กๆ ไม่งอแงมากก็นับว่าแดนเหนือยังพอมีโชคเหลืออยู่ หญิงสาวหันซ้ายหันขวาคล้ายกำลังมองหาใครบางคน ก่อนจะยอมแพ้แล้วหันมาถามจิ๊บ “เกื้อก็หลับกับเขาด้วยหรือคะพี่”

“โอ๊ย! รายนั้นน่ะชิงขังตัวเองไว้ในห้องตั้งแต่น้องฉัตรเริ่มงอแงแล้วค่ะ” เสียงของจิ๊บนั้นค่อนแคะเกื้อกูลอยู่ในที เขาเป็นคนโปรดของเธอมาตลอดจนกระทั่งตอนนี้ “ไม่รู้ว่าไปแอบร้องไห้อีกหรือเปล่า”

“ผมเปล่าแอบร้องไห้สักหน่อย” 

คนที่กำลังโดนนินทารีบแก้ตัว ทำให้เพียงรักหันขวับไปตามทิศทางของต้นเสียง และเธอก็พบใบหน้าตี๋ๆ ของเกื้อกูลที่ยื่นออกมาจากช่องประตูห้องนอนซึ่งเจ้าตัวแง้มเอาไว้แค่พอประมาณ ก่อนจะกระซิบบอกเธอ 

“แค่หลบมาเอาชีวิตรอดเฉยๆ”

“อะไรจะกลัวปานนั้น” เพียงรักถามเสียงกลั้วหัวเราะ เดาว่าสิ่งที่เกื้อกูลพยายามหลบเลี่ยงคงไม่พ้นเป็นลูกๆ ของเธอนั่นแหละ “เห็นรักกันมากไม่ใช่หรือไง”

“ผมแพ้เฮียแล้ว” ว่าแล้วอดีตคนโปรดเบอร์หนึ่งก็หน้าง้ำ กระแทกเท้าตึงๆ ออกมาจากห้องนอนทันที ปากก็เล่าเหตุการณ์ที่ทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งเบอร์หนึ่งให้เพียงรักฟังไปพร้อมกัน “แค่เฮียให้ฉัตรกับวินเหยียบบ่ากระโดดน้ำหน่อยเดียว เจ้าสองตัวนั่นก็รักลุงแดนมากกว่าอาเกื้อสุดหล่อคนนี้แล้ว! พูดแล้วเจ็บใจ!”

“รู้เรื่องแม่ของเราหรือยัง” เพียงรักเอ่ยถาม รอกระทั่งเกื้อกูลกระดกน้ำอัดลมลงคอแล้วจึงพูดต่อ “เห็นว่าท่านเข้าโรงพยาบาล”

“ทะเลาะกับเฮียทีไร ม้าก็เข้าโรงพยาบาลตลอดนั่นแหละ” เกื้อกูลเอ่ยแล้วยักไหล่ เชิงบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าตกใจแต่อย่างใด “พี่เพียงอย่าไปเชื่อมาก ก็แค่...เรียกร้องความสนใจ”

“อย่าพูดแบบนั้นนะคะคุณเกื้อ” จิ๊บไม่รู้หรอกว่าครอบครัวของเกื้อกูลและแดนเหนือเป็นอย่างไร แต่คำพูดคล้ายไม่สนใจมารดาของเกื้อกูลทำให้เธอไม่สบายใจแปลกๆ 

ส่วนเพียงรักนั้นทำแค่เงียบฟัง ก็เธอไม่ได้อยู่ในจุดที่ออกความเห็นเรื่องครอบครัวของเกื้อกูลและแดนเหนือได้สักหน่อยนี่นา 

“ก็มันจริงนี่ครับ” เกื้อกูลเถียง สำหรับเขานั้นการที่แม่เข้าโรงพยาบาลไม่มีเหตุผลอื่นเลย เว้นเสียแต่ว่าท่านต้องการเรียกร้องความสนใจ และใช้ความเจ็บป่วยบีบให้เขากับพี่ชายทำตามคำสั่ง “ขัดใจม้าทีไรเขาก็ทำแบบนี้ทุกที พี่เพียงก็เคยเห็นมาก่อน...ถ้าพี่จิ๊บไม่เชื่อก็ถามพี่เพียงดูสิ”

“สรุปว่ารู้เรื่องที่คุณป้าท่านเข้าโรงพยาบาลกันแล้วสินะ” เพียงรักเดา ท่าทางนิ่งๆ ของเกื้อกูลทำให้เธอคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เว้นแต่เขารู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว “พี่ชายเราล่ะรู้หรือยัง”

“รู้มั้งครับ” เกื้อกูลยักไหล่พลางตอบ เขาไม่ได้คุยเรื่องที่บ้านกับแดนเหนือเลยตั้งแต่มาถึงที่นี่ ก็ใครมันจะอยากคุยเรื่องปวดหัวกันล่ะ “ผมหิวแล้วอะพี่จิ๊บ มีอะไรให้กินบ้างครับ”

จิ๊บถึงกับกระแทกลมหายใจ การบอกปัดคล้ายเรื่องของมารดาไม่ใช่เรื่องสำคัญที่เกื้อกูลเพิ่งทำมันคืออะไร...แถมยังถามหาของกินได้หน้าตาเฉยอีก คนบ้านนี้มันจะพิลึกเกินไปแล้ว!

“ก็หนีเข้าห้องไปทำไมล่ะคะ นี่ก็เลยเที่ยงมาตั้งนานแล้ว...ไม่หิวน่ะสิแปลก”

“ผมจะอยู่ให้ฉัตรเล่นงานทำไมให้โง่ล่ะครับ” เกื้อกูลที่ยอมแพ้หลานๆ ตอนงอแงทำหน้าขยาด ก่อนหันมาสบตาเพียงรักแล้วเอ่ย “ให้เฮียทำไปคนเดียวเหอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก”

เพียงรักไม่โกรธเกื้อกูล รู้ว่าลูกของเธอเวลางอแงไม่ได้น่ารักอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ 

หญิงสาวหันไปมองประตูห้องนอนของตนเองแล้วถอนหายใจออกมายาวเหยียด สรุปกับตัวเองได้ว่า เธอจะปล่อยให้แดนเหนือนอนต่ออีกสักหน่อย เมื่อเช้านี้เขาบอกว่านอนไม่หลับมาทั้งคืน รอให้ตื่นเองคงจะดีกว่าเข้าไปปลุก ถือเสียว่าให้รางวัลชายหนุ่มที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงจำเป็น ดูแลสองแฝดมาตลอดหลายชั่วโมงที่เธออยู่ข้างนอกก็แล้วกัน เดี๋ยวเขาจะหาว่าเธอใจร้ายกับเขาอีก...

แดนเหนือน่ะตัวใหญ่ยักษ์เสียเปล่า ใจนี่เล็กกะจิ๊ดเดียว

 

“เหนือ...เหนือ” 

เสียงเรียกและแรงเขย่าตัวเบาๆ ปลุกแดนเหนือที่เพิ่งหลับไปได้เพียงไม่นานให้ตื่นขึ้นมา ปกติเขาคงเหวี่ยงใส่คนที่กล้าดีปลุกเขาแล้ว แต่นี่คนที่ปลุกเป็นเพียงรัก ชายหนุ่มจึงยอมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แม้ยังงัวเงียตื่นไม่เต็มตาก็ตามที 

“ตื่นแล้วครับ” เสียงของแดนเหนือแหบห้าว เขานอนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงจึงรู้สึกเบลอ สมองทำงานช้ากว่าปกติ “มีอะไรเหรอ”

“คุณลุงบอกให้เหนือกลับบ้าน” เพียงรักบอกเสียงเครียด ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาในบ้านของแดนเหนือ ทว่าสุดท้ายแล้วเพียงรักก็ไม่มีทางเลี่ยง เมื่อผดุงธรรมต่อสายหาเธอโดยตรงและให้เหตุผลว่า ท่านติดต่อบุตรชายทั้งสองไม่ได้ 

พอถามเกื้อกูล อีกฝ่ายก็ทำเพียงไหวไหล่ บอกเธอว่าที่เขาไม่รับสายที่บ้านก็เพราะรู้ว่าตนต้องถูกเรียกตัวกลับไปฟังคำบ่นไม่มีที่สิ้นสุดจากมารดา อีกทั้งตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะถูกทำร้ายจิตใจเพิ่ม ขอหลบพักใจเงียบๆ อยู่ที่นี่ต่อไปดีกว่า เพียงรักจึงไม่มีทางเลือก ต้องมาปลุกลูกชายคนโตแห่งบ้านเกียรติวิริยะอย่างแดนเหนือ หวังให้เขาไปจัดการปัญหาที่รออยู่

“อื้อ เดี๋ยวเหนือกลับไป” แดนเหนือจำได้ว่าบอกเพียงรักไว้แล้ว ว่าวันนี้เขาจะกลับบ้านไปเก็บของใช้ที่จำเป็นและพวกเอกสารสำคัญออกมา

“ลุงบอกให้เข้าไปเดี๋ยวนี้เลย” เพียงรักบอกแดนเหนือแบบเดียวกับที่บิดาของชายหนุ่มขอร้องเธอทางมือถือ ก่อนหญิงสาวจะเม้มปากแน่นด้วยความไม่สบายใจ เมื่อคิดถึงเหตุผลที่ผดุงธรรมขอร้องให้แดนเหนือรีบกลับไปที่บ้านของเขา 

“ท่านบอกว่าญาติๆ ของเหนือรู้เรื่องดวินกับฉัตรแล้ว คงเห็นจากรูปที่เหนือลงเลยโทร. หาคุณลุงกันไม่หยุด ท่านอยากคุยกับเหนือก่อนว่าจะเอายังไง”

“เรื่องนี้แล้วแต่เพียง เพียงว่ายังไง เหนือก็ว่าอย่างนั้น” 

แดนเหนือไม่กลัวว่าญาติของเขาจะพูดอะไร หรือว่าครอบครัวเขาต้องการให้จัดการเรื่องลูกแบบไหน สำหรับเรื่องลูกนั้นแดนเหนือให้เกียรติเพียงรักเป็นคนตัดสินใจ หากเธอไม่ต้องการให้ลูกข้องเกี่ยวกับครอบครัวของเขาอีก แดนเหนือก็ไม่มีปัญหา ยังไงเขาก็จะโดนตัดออกจากกองมรดกอยู่แล้ว 

“เพียงจะให้เหนือจัดการยังไงก็บอกมาเลย ไม่ต้องกลัวนะ”

“เราไม่ได้กลัวหรอก” เพียงรักดึงแดนเหนือให้ลุกออกมาจากเตียง เธอลากร่างสูงที่ยังอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ตรงไปที่ห้องน้ำขนาดใหญ่แล้วสั่งให้เขาล้างหน้าล้างตา โดยระหว่างนั้นก็บอกสิ่งที่เธอกังวลให้แดนเหนือฟัง “แม่ของเหนืออยู่โรงพยาบาล คุณลุงบอกว่าท่านเครียดเรื่องที่ทะเลาะกับเหนือเมื่อวาน”
            

“อื้อฮึ” 

แดนเหนือไม่มีท่าทีตกใจกับข่าวนั้น ราวกับเขารู้อยู่แล้วว่าสุกดาราจะเข้าโรงพยาบาล...ท่าทีของแดนเหนือเหมือนเกื้อกูลยามที่เพียงรักบอกเรื่องนี้ให้เขาฟังไม่ผิดเพี้ยน และนั่นทำให้คิ้วของหญิงสาวเลิกสูงด้วยความแปลกใจจนเธอต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณสุกดาราใช้ไม้นี้เรียกร้องความสนใจจากลูกชายบ่อยขนาดไหน ทั้งแดนเหนือและเกื้อกูลจึงไม่ยี่หระได้ขนาดนี้

“เมื่อเช้าเรารีบออกไปข้างนอก เลยยังไม่ทันได้บอกเหนือ...”

“ไม่ใช่หน้าที่ของเพียงอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอก” แดนเหนือไม่โทษเพียงรัก เรื่องอะไรที่เธอต้องคอยรับหน้าที่ผู้ส่งสารจากพ่อของเขาทุกครั้งที่ท่านติดต่อเขาและเกื้อกูลไม่ได้ด้วย “เดี๋ยวเหนือจะพูดกับป๊าให้ไม่ให้กวนเพียงอีก”

“แน่ใจใช่ไหมว่าจะไม่เป็นไร” เพียงรักสบตาแดนเหนือผ่านกระจก เธอไม่ค่อยไว้ใจเขาให้จัดการปัญหาเองเท่าไหร่นัก เพราะความอารมณ์ร้ายของเจ้าตัวนั่นแหละ 

“ไม่ได้จะกลับไปต่อยใครที่บ้านหรอกนะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงจับผิดอยู่ในที

“เพียงไม่คิดหรือว่าบางทีคนที่เหนือต่อยน่ะ พวกมันอาจจะสมควรโดนแล้วจริงๆ” ชายหนุ่มพึมพำพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก รู้ว่าสำหรับเพียงรักนั้นเขาเป็นพวกหัวร้อน ต่อยก่อนถามทีหลังอยู่เรื่อย จึงทำให้เขาเป็นคนผิดในสายตาเธอเสมอมา 

แต่ในความคิดของแดนเหนือ เขากลับมองว่าคนพวกนั้นสมควรโดนแล้ว เพราะคนบางประเภท การพูดดีๆ กับพวกมันก็เสียเวลาเปล่า

“ไม่คิด” 

เพียงรักตอบทันทีที่แดนเหนือถามจบ สำหรับเธอแล้วการใช้กำลังไม่ใช่ทางเลือกแรก แม้ว่ามันจะสะใจในตอนแรก แต่สุดท้ายก็มีสิ่งที่ต้องแลกเสมอ ไม่เป็นฝ่ายของเธอที่เจ็บตัวก็ต้องเสียชื่อเสียง และเพียงรักไม่พร้อมที่จะเสียทั้งสองอย่าง 

“แล้วเรื่องคุณลุงน่ะ...แค่เหนือยอมรับสายท่านบ้าง ท่านก็ไม่จำเป็นต้องโทร. หาเราแล้ว”

“เพียงก็พูดได้สิ เพียงไม่โดนป๊าด่าเหมือนที่เหนือโดนนี่” แดนเหนือหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับแม่ของลูก บางครั้งเขาก็อิจฉาเพียงรักที่สามารถมองปัญหาทุกอย่างว่า เป็นเรื่องที่หาทางออกได้ด้วยวิธีง่ายๆ

“ก็เหนือทำตัวยากเอง” เพียงรักเอ่ยเสียงขึ้นจมูก ครอบครัวของแดนเหนือมีวิธีสื่อสารกันแปลกๆ อยู่เสมอ ทุกครั้งต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โตก่อน จึงจะพูดกันดีๆ ได้ ดูอย่างตอนนี้เป็นตัวอย่าง ต้องทะเลาะกัน ถึงขั้นขู่จะตัดออกจากกองมรดก แล้วสุดท้ายก็เรียกเข้าไปคุย 

“ส่วนเรื่องลูก...”

“เพียงไม่ต้องกลัว เหนือไม่ให้ใครมายุ่งกับเพียงและลูกหรอก” เรื่องนี้แดนเหนือรับปากเพียงรักได้ เพราะเขามั่นใจว่าหากมีเขาขวางอยู่ บรรดาญาติๆ ของเขาไม่มีทางกล้ามารบกวนเพียงรักแน่ “อีกอย่างเหนือก็กำลังจะออกมาอยู่เองอยู่แล้ว คงไม่ได้ติดต่อกับทางนั้นเหมือนก่อน”

“เหนือไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะ” พอเห็นท่าว่าเรื่องที่แดนเหนือพร้อมจะตัดขาดกับครอบครัวของเขาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หรือเป็นเพียงข้ออ้างที่จะทำเธอใจอ่อน เพียงรักก็ไม่สบายใจขึ้นมาแปลกๆ หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งนั้นมันเป็นเพราะเธอ แดนเหนือจึงเลือกที่จะทำเช่นนี้ “เราไม่ได้อยากให้เหนือเลือกระหว่างลูกกับบ้านของเหนือนะ”

“เพียงไม่ได้ทำ แต่คนอื่นเขาทำนี่” แดนเหนือยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับเลยไปไม่ถึงดวงตา นัยน์ตาคมฉายแววความเศร้าออกมาให้เห็นเสี้ยววินาทีก่อนจะหายไป เมื่อคิดว่าคนที่ยื่นคำขาดให้เขาเลือกคือสุกดารา แม่แท้ๆ ของตัวเอง

สุกดาราขู่เขา ราวกับว่าเขาจะไม่กล้าเดินออกมาจากกรงทองล้อมเพชรที่ท่านขังเขาไว้ตลอดยี่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมา แม่ทำให้แดนเหนือคิดว่า แท้จริงแล้วท่านไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ท่านไม่รู้กระทั่งว่าเขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อลูกๆ ของเขา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นท่านหรือทรัพย์สมบัติของท่าน แดนเหนือก็ไม่ลังเลที่จะตัดขาด

สำหรับแดนเหนือ เขาไม่ยอมแลกลูกของเขากับอะไรทั้งสิ้น ลูกต้องมาก่อนเสมอ ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นแม่บังเกิดเกล้า แดนเหนือก็กล้าตัดขาด หากนั่นจะทำให้เขาสามารถทำหน้าที่พ่อของดวินและรฉัตรได้

“เพียงไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้คนที่สั่งให้เหนือเลือกจะเป็นเพียง เหนือก็เลือกลูกอยู่ดี”

“เมาเหรอ...ทำไมอยู่ๆ ลุกขึ้นมาทำตัวเป็นพระเอก” เพียงรักกะพริบตา สับสนกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งกว่าเธอจะหาคำพูดมาโต้แดนเหนือได้ 

ทว่านอกจากแดนเหนือจะไม่โกรธกับคำถามค่อนแคะของเธอแล้ว ชายหนุ่มยังยิ้มแฉ่ง ตอบเธอด้วยคำพูดง่ายๆ ที่ทำให้เพียงรักถึงกับนิ่งขึงไป

“ไม่ได้ทำตัวเป็นพระเอกเสียหน่อย ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อคนต่างหาก”

“...”

“เหนือเป็นพ่อก็ต้องปกป้องลูกสิ ถูกไหม” 

สำหรับแดนเหนือนั้น เขาเหมือนคนที่อยู่ในหมอกหนามานาน ทุกการตัดสินใจของเขาไม่เคยชัดเจน เช่นเดียวกับทุกการกระทำของเขาที่มักจะเลือกทำสิ่งที่ผิดอยู่ตลอดเวลา ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาเป็นพ่อแล้ว...แถมยังเป็นคุณพ่อลูกสองอีกต่างหาก

“อื้ม...ถูกแล้ว”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น