5

สามีผู้ร่ำรวยกับภรรยาผู้ล้างผลาญ

            เขาเพิ่งให้เงินนพเก้าไปเมื่อวานสามแสนบาท แต่วันนี้ภรรยาทางนิตินัย ผู้ที่มารดาของเขายกย่องเชิดชูกลับเอ่ยปากขอเงินเขาอีกหนึ่งแสนบาท คำถามที่เขาควรจะถามเธอในตอนนี้คือ...

            “เกดมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงต้องรีบใช้เงิน” 

            “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากไปซื้อเสื้อผ้า แต่ถ้าพี่พีคิดว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เกดแค่ลองถามดู” หญิงสาวตอบ อันที่จริงเธอยังไม่ได้ใช้เงินของเขาสักแดงเดียว แต่แกล้งขอไปอย่างนั้นเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธนิดๆ เธอจึงรีบถอยออกมาก่อน

            “พี่ให้เกดอยู่แล้ว แต่แค่อยากรู้เหตุผล ไม่เป็นไร ถือว่าพี่ให้เป็นของขวัญ เกดอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือทำอะไรก็ได้ พี่ไม่อยากให้การแต่งงานครั้งนี้เอาเปรียบเกดจนไม่มีอิสระ” ชายหนุ่มว่าก่อนจะโทร. ไปหาเลขาฯ ของเขาให้จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของนพเก้าหนึ่งแสนบาททันที

            หญิงสาวเบิกตากว้าง ทำไมเขาจ่ายง่ายแบบนี้ล่ะ ไม่คิดว่าจะต้องสืบสาวราวเรื่องอะไรกับเธอก่อนหรือไง ตอนนี้นพเก้าหัวตื้อไปหมด เธอกำลังวางแผนว่าจะทำอย่างไรกับเงินสี่แสนบาทในบัญชี

“แล้วเรื่องคอนโดพี่หาให้แล้วนะ พรุ่งนี้เกดว่างไปดูไหม ถ้าถูกใจก็โอนได้เลย” ชายหนุ่มว่าต่อ

นพเก้าเบิกตากว้าง...ทำไมเขาถึงทำอะไรได้รวดเร็วขนาดนี้ เธอกับเขาเพิ่งพูดเรื่องนี้กันไปเมื่อวานเอง ดูเหมือนว่าเขาพยายามจะไล่ให้เธอไปไกลๆ ละสิ 

“ขอบคุณค่ะ แล้วพรุ่งนี้พี่พีว่างไปดูกับเกดไหมคะ” 

ระพีหลุบตาต่ำเหมือนกับกำลังใช้ความคิด ช่วงนี้งานของเขาไม่ยุ่ง แต่ก็ชอบอยู่ที่ทำงานมากกว่าการออกไปไหนโดยที่ไม่มีจุดหมาย

“พรุ่งนี้ว่าง พี่จะไปเป็นเพื่อน” ชายหนุ่มพูดราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ในเมื่อเธอขอเขาก็จัดการให้ แต่คงจะไม่ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น เรื่องเพื่อนที่ชื่อกัญญาก็เหมือนกัน ถึงเขาจะสงสัย แต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ ถ้าวันไหนที่เขาจำเป็นต้องรู้เรื่องส่วนตัวของเธอให้ได้ นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่มีเงื่อนไขข้อตกลงแบบนี้อีกแล้ว แต่คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นแน่

“โอเคค่ะ กินข้าวเถอะ” หญิงสาวว่าก่อนจะตักข้าวให้เขา แม้ว่าการกินข้าวเช้าของพวกเธอจะเป็นไปอย่างเงียบเชียบ แต่สำหรับนพเก้าแล้วเป็นบรรยากาศที่ดีไม่ใช่น้อย ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่เธอแทบจะไม่ได้เจอหน้าเขาเลย แอบรักก็แย่พออยู่แล้ว แม้แต่หน้าก็ยังนานๆ ทีจะเจอกันสักครั้ง อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ได้เจอหน้าระพีบ่อยขึ้นละนะ

“วันนี้เกดจะกลับไปที่บ้านหน่อยนะคะ ตอนเย็นจะกลับมาทำอาหารให้พี่พีทาน” นพเก้าว่า

“ไม่ต้องหรอก พี่กลับดึก จะกินข้างนอกมาเลย ความจริงเรื่องข้าวเช้าเกดไม่ต้องทำหรอกนะ บางทีพี่ก็รีบออกไปไม่ได้กิน พี่ว่าเราแยกกันกินจะสะดวกกว่า” 

คำพูดของเขาช่างเป็นการทำลายความหวังของเธอนัก แม้ว่าจะเจ็บปวด แต่นพเก้าก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ในเมื่อเขาอยากจะทำอย่างนี้ก็ตามใจ เธอเองก็จะทำตามใจบ้าง

“ตามใจพี่พีแล้วกันค่ะ เกดยังไงก็ได้” หญิงสาวฉีกยิ้ม 

หลังจากระพีขับรถออกไปทำงานแล้วนพเก้าก็รอลุงมีมารับกลับไปที่บ้านเพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอบอกกับมารดาว่าโทรศัพท์ของเธอปิดเสียงเอาไว้ ทำให้ไม่ได้ยินว่ามีคนโทร. มา พอรู้ตัวเธอก็รีบโทร. กลับหาระพีให้มารับที่บ้านเพื่อน

“เกดขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้แล้วค่ะ นี่เกดก็ให้เบอร์ของเพื่อนกับพี่พีไปหมดแล้ว ถ้ามีอะไรคุณแม่ตามกับพี่พีได้เลยค่ะ” นพเก้าพูดเสียงเรียบ หลังจากโยนเรื่องให้ระพีแล้วเธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เรื่องนี้เยียวยาจิตใจของเธอหลังจากถูกระพีขยี้มาเมื่อเช้า

“ทีหลังก็ระวังหน่อยนะลูก อย่าไปอยู่ข้างนอกนานๆ แม่เป็นห่วง ดีนะพี่พีเขารีบไปรับน่ะ” คุณชิดชนกว่า พอพูดคุยกันสักพักนพเก้าก็ขอตัวกลับ เธอบอกว่าจะไปซื้ออาหารสดกับข้าวของเครื่องใช้เข้าบ้าน เพราะเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่จึงมีหลายอย่างที่ยังขาดตกบกพร่องอยู่ เมื่อเห็นลูกสาวเป็นแม่บ้านแม่เรือนเต็มตัวแบบนี้ ชิดชนกก็ปลื้มอกปลื้มใจที่เลี้ยงลูกโตมาเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อม

นพเก้ามาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ตอนแรกก็ลังเลใจว่าจะใช้เงินของระพีดีไหม แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ควักเงินตัวเองจ่าย อย่างน้อยของพวกนี้เธอก็ถือเข้าบ้านได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากมารดาเหมือนทุกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เธอมีอิสระกับการเลือกเครื่องแต่งกายให้ตัวเอง หญิงสาวจึงหยิบทุกชุดที่เธอไม่เคยได้ใส่ ไม่ได้สนใจว่าชุดพวกนั้นจะโป๊หรือเปิดเผยขนาดไหน หลังจากหิ้วถุงพะรุงพะรังมาที่รถลุงมีก็ทักขึ้นว่า

“โห คุณเกดซื้อของเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ”

“ค่ะ เกดอยากได้มานานแล้ว แต่คุณแม่ไม่ค่อยชอบให้ซื้อของพวกนี้มาใส่” เธอว่า

“เสื้อผ้าเหรอครับ”

“ค่ะ”

“คุณเกดแต่งงานมีความสุขแล้ว จะแต่งตัวยังไงคุณนกก็คงไม่ว่าแล้วละครับ” ลุงมีว่าก่อนจะมองหญิงสาวที่เขาเองก็เอ็นดูเหมือนลูกหลานด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่านพเก้าจะมีสีหน้าที่สดใสขึ้นกว่าแต่ก่อน สงสัยการแต่งงานครั้งนี้จะมีความสุขไม่ใช่น้อย

นพเก้ายิ้มเจื่อนๆ ตอนนี้ความสุขกำลังล้นปรี่จนไม่มีช่องระบายแล้ว...

วันรุ่งขึ้นระพีก็รอภรรยาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้านล่าง ผู้หญิงแต่งตัวนานเป็นเรื่องปกติ แต่นั่นหมายถึงผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัว แต่กับนพเก้านั้นเขาคิดไม่ออกเลยว่าเธอจะใช้เวลาตั้งมากมายไปเพื่ออะไรกัน 

นานเป็นชั่วโมงกว่าที่นพเก้าจะลงมาจากชั้นบน ร่างบางก้าวลงบันไดมาด้วยท่าทางแตกต่างไปจากทุกครั้ง หญิงสาวสวมเสื้อเอวลอยสีขาว ด้านในเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีดำที่แทบจะไม่ปิดเนินเนื้อด้านในเลย ไหนจะกางเกงยีนขาดๆ สีฟ้าที่สั้นแค่คืบ ตอนนี้ระพีไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรได้ ระหว่างบอกให้เธอไปเปลี่ยนชุดด้วยความเป็นห่วงกับทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วปล่อยไปตามยถากรรม

“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเลยไหม” นพเก้าว่า เธอเห็นระพีมองมาที่ตัวเธอเหมือนกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง หญิงสาวยืนลุ้นอยู่ครู่หนึ่งว่าเขาจะทักเรื่องการแต่งตัวของเธอหรือเปล่า แต่พอชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินนำออกไปด้านนอกเธอก็ถอนหายใจ สงสัยต่อให้เธอแก้ผ้าเขาก็คงไม่สนใจ แผนเรียกร้องความสนใจของเพื่อนๆ คงจะไม่ได้ผลแน่

ระพีไม่ได้พูดอะไรระหว่างที่ขับรถ เขาเงียบมากจนนพเก้านึกว่าตัวเองอยู่ในป่าช้า แถมชุดที่เธอใส่มาอ่อยเขาก็น้อยชิ้นจนรู้สึกหนาวตัวสั่น ไม่นานก็ต้องยื่นนิ้วไปกดเบาเครื่องปรับอากาศในรถ ชายหนุ่มหันมามองเธอครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้นพเก้าอึดอัดจนแทบจะเป็นบ้า เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ 

หลังจากมาถึงที่แล้วหญิงสาวก็เจอกับเลขาฯ ของเขาชื่อวิสา ถ้าไม่บอกว่าทำงานเป็นเลขาฯ เธอต้องคิดว่าคุณวิสาคนนี้เป็นนางแบบแน่ๆ ดูจากการพูดจาของอีกฝ่ายแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าได้รับการศึกษาที่ดีมา ไม่ว่าจะเป็นรุ้งลดาหรือวิสา ผู้หญิงรอบกายของเขาทำเอาเธอกลายเป็นเด็กอนุบาลที่ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้

“คุณลูกเกดชอบไหมคะ จริงๆ วิสามีอีกที่หนึ่ง แต่มันค่อนข้างไกลจากที่ทำงานและบ้านของคุณลูกเกดเลยตัดออกไป จะลองดูก่อนไหมคะ” เลขาฯ สาวยื่นรูปภาพของสถานที่ที่ว่านั้นให้เธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ ดีนี่ก็ดีแล้ว เกดเอาที่นี่แหละค่ะ” หญิงสาวหันไปบอกกับสามีของเธอที่กำลังดูบางอย่างอยู่ในโทรศัพท์มือถือ เขาไม่ได้สนใจว่าเธอทำอะไรอยู่ด้วยซ้ำ ก็แค่ขับรถมาแล้วก็โยนเรื่องของเธอให้เลขาฯ จัดการ

“พี่พีคะ เกดเอาที่นี่นะคะ”

“อื้ม เกดบอกกับคุณวิสาเลย เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ ดูเหมือนว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ คุณวิสาช่วยพาลูกเกดกลับบ้านด้วยนะครับ” 

หลังจากสั่งงานเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เดินออกไปหน้าตาเฉย เขาฝากเธอไว้กับวิสาเหมือนลูกหมาลูกแมว วิสาที่มองเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะรู้สึกสงสารคนตรงหน้าไม่ได้ ระพีเป็นเจ้านายที่ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องงาน แม้แต่รายละเอียดเล็กน้อยเขาก็ใส่ใจ แต่กับเรื่องความรู้สึกของคนอื่นกลับเป็นสิ่งที่เขามักจะละเลย 

“คุณลูกเกดตกลงเอาที่นี่ใช่ไหมคะ” วิสาถาม

“ค่ะ เท่าไหร่นะคะ”

“ตอนคุณพีซื้อมาก็สิบเก้าล้านค่ะ ตอนนี้ราคาน่าจะขึ้นเป็นยี่สิบกว่าล้านแล้ว”

นพเก้าเบิกตากว้าง เงินขนาดนี้ตัวเธอเองไม่มีทางหาได้แน่ ถึงจะรู้สึกว่าเหมือนถูกหวย แต่ด้วยนิสัยดั้งเดิมที่ไม่ค่อยได้ใช้เงินสิ้นเปลืองทำให้นพเก้าคิดหนัก เธอได้คืบจะเอาศอกขนาดนี้เขายังไม่สนใจเลย จะคิดมากไปทำไมกัน

“ห้องนี้แหละค่ะ” หญิงสาวว่า

วิสาพยักหน้าก่อนจะจัดการเรื่องให้ทันที ตอนนี้นพเก้ากลายเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ราคายี่สิบกว่าล้านแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่อยู่ๆ ก็ได้สามีฟ้าประทาน ร่ำรวยจนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไรเลยเอามาให้เธอถลุงเล่น

“เรียบร้อยแล้วนะคะ คุณลูกเกดเซ็นตรงนี้ก็เสร็จแล้ว” วิสาว่าก่อนจะชี้ไปที่เอกสาร

นพเก้าเซ็นชื่อลงบนเอกสารแล้วยื่นให้เลขาฯ สาว หลังจากเสร็จเรื่องวิสาก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้าน ระหว่างทางนพเก้าก็ชวนคุยจนรู้ว่าอีกฝ่ายเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ สาขาการโรงแรมจากสวิตเซอร์แลนด์ แต่ถึงอย่างนั้นวิสาก็ไม่ได้มีท่าทางขี้อวด เธอตอบคำถามของนพเก้าด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน จนนพเก้าเองก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเธอเป็นระพีคงจะต้องตกหลุมรักผู้หญิงแบบนี้แน่

“เกดกับคุณวิสาอายุเท่ากันเลย ไม่ต้องเรียกเป็นทางการนักก็ได้ค่ะ” นพเก้าว่า นอกจากพวกที่เล่นเกมด้วยกันแล้วเธอก็ไม่ได้มีเพื่อนสนิทที่ไหนเลย จะมีก็แต่เพื่อนเรียนสองคนอย่างฉัตรกับนุชเท่านั้น ซึ่งไม่ได้คุยอะไรกันเลยนอกจากเรื่องวิธีการเย็บผ้าแบบซ่อนตะเข็บ

“อาจจะไม่เหมาะนะคะ คุณพีจะว่าวิเอาได้”

“เขาไม่สนใจหรอกค่ะ” ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะผูกมิตรกับเลขาฯ สาวของระพี แต่พอคุยด้วยแล้วก็รู้สึกอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีและเก่งมาก เป็นผู้หญิงในแบบที่ผู้หญิงด้วยกันเองยังชื่นชม 

“คงไม่มั้งคะ” วิสายิ้มเจื่อนๆ

“ขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณวิสาหน่อยนะ เผื่อมีอะไรเกดจะได้โทร. หา” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วบันทึกเบอร์โทร. ของอีกฝ่าย 

วิสาเองก็ไม่คิดว่าภรรยาของเจ้านายจะเข้าหาเธอขนาดนี้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ บางทีนพเก้าอาจจะอยากรู้ว่าสามีทำอะไรอยู่ที่ไหนในกรณีที่ติดต่อระพีไม่ได้ 

วิสาขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้านก็ขอตัวกลับไปทำงาน ส่วนภรรยามือใหม่อย่างนพเก้าก็ได้แต่กลับมานั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยได้ดูละครนัก เพราะมารดาไม่ชอบให้ใช้เวลากับอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง พอได้ดูก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่น่าทำตามอยู่ อย่างเช่นตอนที่แฟนเก่าของพระเอกออดอ้อนให้พระเอกซื้อรถยนต์ราคาแพงให้ 

แต่เธอขับรถไม่เป็นนี่นา อีกอย่างมารดาของเธอไม่มีวันยอมให้เธอขับรถเองแน่ 

ในขณะที่กำลังถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย หญิงสาวก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้ว มารดาของเธอไม่สามารถชี้นำหรือตัดสินอะไรกับชีวิตเธอได้อีกแล้ว

แต่งงานแล้วก็ต้องขออนุญาตสามีสินะ!!                 

คืนวันนั้นระพีไม่ได้กลับบ้าน แต่เขากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนเช้าแล้วรีบออกไป ร่องรอยเดียวของสามีที่นพเก้าเห็นก็คือ กระดาษที่แปะไว้บนตู้เย็น เขียนเอาไว้ว่า ‘พี่ไปทำงานแล้วนะครับ มีอะไรโทร. หาคุณวิสาได้เลย’

นพเก้าเม้มปากแน่น ก่อนจะเก็บกระดาษที่เป็นลายมือของชายหนุ่มเอาไว้ในหนังสือเล่มโปรดของเธอด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยเขาก็ยังนึกถึงเธอบ้างถึงเขียนบอกเอาไว้ นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ระพีเขียนด้วยลายมือในกระดาษเล็กๆ ใบนี้

วันรุ่งขึ้นเธอยังคงไม่เห็นระพีอีกเหมือนเดิม เจอแค่โน้ตข้อความที่แปะไว้ที่ตู้เย็นใบใหม่เขียนเอาไว้ว่า ‘พี่ไปทำงานก่อน เมื่อเช้าคุณแม่โทร. มาบอกจะมาหาที่บ้าน อย่าลืมจัดห้องด้วยนะครับ’ นพเก้าก็แค่นยิ้มก่อนจะเก็บกระดาษแผ่นนี้เอาไว้รวมกับแผ่นแรก 

คุณหญิงรำพึงมาหานพเก้าที่บ้าน พอเห็นลูกสะใภ้ทำอาหารไว้รอก็เกิดอาการยิ้มไม่หุบ ไม่ว่าหญิงสาวจะทำอะไรก็ถูกใจไปหมด

“ถ้าตาพีทำอะไรไม่ดีบอกแม่ได้เลยนะลูก แม่จะจัดการให้” คุณหญิงรำพึงพูดขึ้น

“ไม่มีหรอกค่ะ พี่พีดีกับเกดมาก”

“พี่พีน่ะนิสัยดี แต่ติดที่ว่าบ้างานไปหน่อย เกดต้องเข้าใจพี่เขานะลูก”

“ค่ะ คุณแม่” อันที่จริงนพเก้าก็เขินอยู่นิดหน่อยที่ต้องเปลี่ยนสรรพนามจาก ‘คุณป้า’ เป็น ‘คุณแม่’ แต่พอเรียกบ่อยๆ เข้าเธอก็ชักจะชินเสียแล้ว 

“พรุ่งนี้เกดไปทำงานแล้วใช่ไหมลูก เสียดายจริงๆ ไม่ได้ไปฮันนีมูนที่ไหนเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะ อีกเดือนสองเดือนตาพีน่าจะพอมีเวลาว่างแล้วล่ะ ค่อยไปหาที่เที่ยวกันตอนนั้นก็ได้” พูดจบแล้วคุณหญิงรำพึงก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หวังว่าปีนี้จะได้หลานน่ารักๆ เพิ่มอีกคน

หลังจากมารดาของชายหนุ่มกลับไปแล้ว นพเก้าก็ตัดสินใจที่จะถ่างตารอชายหนุ่มกลับมาบ้าน แล้ววิธีเดียวที่จะทำให้เธอไม่หลับก็คือ

เล่นเกม…

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร. หาพศธนทันที ไม่ถึงชั่วโมงเพื่อนของเธอก็ปรากฏกายอยู่หน้าบ้านพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ ใบหน้าหงิกงอของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้นพเก้ารู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย 

เธอเป็นหัวหน้า เขาเป็นลูกน้อง สั่งอะไรก็ต้องทำตามสิ

“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยไอ้หนู” มือบางตบเข้าที่แก้มของชายหนุ่มเบาๆ ก่อนจะรับกระเป๋าที่อีกฝ่ายถือมา 

“นี่สามีแกไม่อยู่หรือไง”

“ไม่อยู่ แกกลับไปได้แล้ว ทีหลังมาให้มันเร็วๆ หน่อย ไม่งั้นไล่ออกจากแคลนเลย”

“ครับ ท่านเทพ G เก่งแต่กับฉันเนี่ยนะ กับสามีแกยืนยิ้มเหมือนคนปัญญาอ่อนเลย”

ผัวะ!

“โอ้ย! ฉันจะเขียนจดหมายบอกแม่ว่าถ้าฉันสมองฝ่อก็เป็นเพราะแก” พศธนโวยวายก่อนจะเอามือคลึงศีรษะตัวเอง 

“สมัยนี้ใครเขาเขียนจดหมายกัน ไป กลับไปได้แล้ว” หญิงสาวว่าก่อนจะปิดประตูบ้าน 

ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เธอจะต้องอยู่เจอระพีให้ได้

หลังจากไล่พศธนกลับไปแล้วหญิงสาวก็เอาเกมมานั่งเล่นในห้องนอนตรงโซฟาที่นอนของระพี นี่เป็นการเล่นเกมที่ติดต่อกันยาวนานที่สุดในชีวิตของเธอ แต่ดึกขนาดนี้ไม่มีเพื่อนสักคนเล่นอยู่เลย

งั้นสุ่มหาคนเล่นด้วยแล้วกัน...

Sakura-Chan

ชื่อหนึ่งปรากฏขึ้นจากการสุ่มหาคนเล่น นพเก้าขมวดคิ้วด้วยคิดว่า ‘ซากุระจัง’ คนนี้น่าจะเป็นผู้หญิงน่ารักๆ หรือเปล่า แต่คนน่ารักที่ไหนจะมาเล่นเกมป่าเถื่อนแบบนี้กัน ยกเว้นคนสวยน่ารักอย่างเธอ

“ลองดูกันสักหน่อยนะซากุระจัง”

สามชั่วโมงผ่านไป...

นพเก้าเล่นเกมกับซากุระจังจนรู้สึกง่วงนอน เมื่อหันไปดูนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาสามนาฬิกาเข้าไปแล้ว ดูเหมือนว่าเพื่อนเล่นเกมของเธอก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ อีกฝ่ายยังพร้อมลุยอยู่ตลอด ดูจากการวิ่งฝ่าดงกระสุนเข้าไปแบบไม่มีแผน ไม่ได้คุยอะไรกันทั้งนั้น เป็นการเล่นแบบดิบเถื่อน แต่น่านับถือที่รอดออกมาได้ทุกครั้ง

“น่าคบหา” พูดจบแล้วหญิงสาวก็ตัดสินใจที่จะเพิ่มซากุระจังเป็นเพื่อน บางทีมีเพื่อนผู้หญิงเพิ่มบ้างก็ดี บางเรื่องพวกผู้ชายก็พึ่งไม่ได้

 

ฌานมองการแจ้งเตือนที่ขึ้นอยู่บนจอโทรทัศน์ของตัวเอง เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะกดรับคำขอของอีกฝ่าย 

ผู้ชายคนนี้เล่นเก่งมาก อาจจะเล่นเป็นอาชีพก็ได้ เขานึกไม่ออกเลยว่าต้องใช้เวลาเล่นขนาดไหนถึงจะเก่งแบบนี้ได้

“ไอ้ฌาน เพื่อนมาเที่ยวบ้านแกมานั่งเล่นเกมทำไมวะเนี่ย” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากทางด้านหลัง

“วันนี้มีอีเวนต์พิเศษ ต้องรีบเก็บ”

“นานๆ เพื่อนจะมารวมตัวทั้งที แกเห็นเรื่องนั้นสำคัญกว่าเหรอวะ ดูนี่ คุณระพีผู้ร่ำรวยยังมานั่งดื่มค็อกเทลอยู่ตรงนี้เลย แทนที่จะไปกกภรรยา งานแต่งมันแกก็ไม่ได้ไปทีนึงแล้ว ยังมาเห็นเกมสำคัญกว่าอีกเหรอ” 

หลังจากบ่นเสร็จวรากรก็หันไปที่ระพี เพื่อนของเขาคนนี้ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่เพิ่งแต่งงานเลยสักนิด ถึงจะรู้อยู่ว่าโดนบังคับให้แต่งงาน แต่เจ้าสาวของอีกฝ่ายก็สวยน่ารักใช้ได้ ทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนเบื่อโลกแบบนั้นกัน

“ก็ไอ้พีมันแต่งกะทันหัน ฉันจะกลับมาทันได้ยังไง นี่ก็รีบสุดๆ แล้วนะ มาถึงช้าไปวันเดียวเอง” ฌานว่า โดยปกติแล้วเขาทำงานที่ไทย แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีคนเชิญเขาไปบรรยายที่ต่างประเทศ แถมงานสอนที่มหาวิทยาลัยก็รัดตัว กว่าจะมีเวลาผ่อนคลายทีเขาก็อยากนอนเล่นเกมคนเดียว ไม่ใช่ให้พวกเพื่อนๆ แห่กันมาดื่มที่บ้านแบบนี้

“ฉันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร มีคนมาหรือไม่มาก็เท่านั้น ฉันไม่ได้อยากแต่งอยู่แล้ว” ระพีว่าก่อนจะกระดกแก้วเครื่องดื่มเข้าปาก เพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับงานแต่งงานของตัวเองมากนัก จึงไม่คิดมากที่เพื่อนมางานแต่งงานของเขาไม่ทัน 

ฌานกับวรากรเป็นเพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่สมัยมัธยม ฌานเป็นคนหน้าตาดี นิสัยดี เรียนดี กีฬาก็เก่ง แม้ฐานะทางบ้านจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่ในส่วนอื่นเพื่อนของเขาคนนี้เรียกได้ว่าเป็นคนสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง ตอนนี้ทำงานเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ส่วนวรากรเป็นวิศวกร ตอนที่มีการต่อเติมซ่อมแซมหรือเปิดโรงแรมใหม่ก็ได้เพื่อนคนนี้คอยคุมงานให้ 

“ก็น่าแปลกนะ สมัยนี้แล้วฉันไม่คิดว่าจะมีคนจำใจแต่งงานเพื่อแม่อยู่ด้วย” วรากรว่าก่อนจะตบที่บ่าของระพี 

“ไอ้ฌานแกจะเล่นเกมทั้งคืนเลยไหม” ระพีหันไปว่าเพื่อนที่กำลังจ้องมองที่จอโทรทัศน์ด้วยความเคร่งเครียดเพราะไม่อยากคุยเรื่องของตัวเอง ถึงจะอธิบายไปก็คงไม่มีใครเข้าใจ มารดาของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว คนที่เห็นความลำบากของคุณหญิงรำพึงมาตลอดอย่างเขานั้นถึงอยากจะขัดใจ แต่ก็ใจแข็งไม่พอ ที่ผ่านมาผู้เป็นมารดาไม่เคยขออะไรจากเขาทั้งสิ้น มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ต่อให้มันฝืนใจและไร้ประโยชน์แค่ไหน เขาก็จะทำ

“จะเลิกแล้ว เพื่อนเล่นฉันไปแล้วเนี่ย” ฌานว่าก่อนจะกดออกจากเกมแล้วปิดเครื่อง ร่างสูงลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะ นั่งลงแล้วหยิบแก้วของตนเองขึ้นมาดื่ม เขาไม่รู้ว่าการเมาอยู่บ้านมันสนุกตรงไหน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพื่อนทั้งสองคนก็ไปเที่ยวกลางคืนกันออกจะบ่อย มาวันนี้กลับมานั่งดื่มกันเงียบๆ ที่บ้านของเขาเสียอย่างนั้น

ระพีนั่งดื่มอยู่บ้านเพื่อนจนเมา เขาไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปค้างที่ห้องพักซึ่งให้วิสาจัดหาไว้ในโรงแรม พร้อมเตรียมเสื้อผ้าชุดทำงานให้เขาในตอนเช้า 

วันรุ่งขึ้นตอนที่เขากำลังเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ก็สังเกตเห็นเลขาฯ สาวทำหน้าเหมือนมีบางอย่างจะพูด แต่ก็ไม่ยอมเอ่ยปากสักที

“มีอะไรหรือเปล่าคุณวิสา” ชายหนุ่มตัดสินใจถามขึ้นก่อน

“คือเรื่องคุณลูกเกดน่ะค่ะ” วิสากลอกตาไปมาด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องนี้หรือเปล่า ปกติเมื่อเจ้านายสั่งให้จัดการเรื่องอะไรสักเรื่อง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด เธอก็มักจะทำไปตามที่ตนเองเห็นสมควร ซึ่งมันเคยง่ายกว่านี้ตอนที่เจ้านายยังไม่มีภรรยา

“น้องเกดทำไมเหรอ”

“เมื่อเช้าคุณลูกเกดบอกว่าคอนโดที่เลือกเมื่อวานเล็กไปน่ะค่ะ” 

“งั้นก็ให้เขาเลือกใหม่”

“แต่ที่ใหม่ไม่ใช่ที่ที่คุณพีซื้อไว้ แล้วราคาก็ประมาณสามสิบห้าล้านค่ะ” 

หลังจากฟังเลขาฯ พูดจบ ชายหนุ่มก็ชะงักไปนิดหน่อย เมื่อวานเขายังคิดว่านพเก้านี่เลี้ยงง่ายดีเหมือนกัน ก็แค่ซื้อของให้ มีอะไรก็คุยตกลงกันดีๆ ได้ แต่เอาเถอะ เมื่อเทียบกับชื่อเสียงของหญิงสาวที่เสียไป ผู้หญิงที่หย่าแล้วกว่าจะหาคนรู้ใจที่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ไม่เป็นไรครับ เอาตามที่ลูกเกดบอก” ชายหนุ่มว่า

“แต่คุณลูกเกดบอกว่าอยากได้รถด้วยน่ะค่ะ”

“งั้นคุณวิสาช่วยจัดการให้เขาหน่อยนะครับ อยากได้รุ่นไหนก็ให้เขาเลือก”

“เลือกมาแล้วค่ะ” เลขาฯ สาวว่าก่อนจะป้องปากกระซิบชื่อรุ่นรถที่ภรรยาของเจ้านายอยากได้ 

ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองหูอื้อกะทันหัน หมายความว่าไม่กี่วันมานี้เขาจะต้องให้ทั้งของและเงินแก่นพเก้ารวมกันประมาณเกือบห้าสิบล้านบาทเข้าไปแล้ว ถึงจะบอกว่าขออะไรก็ได้ก็เถอะ แต่เงินจำนวนนี้มันดูจะมากเกินไปหน่อย บางทีเขาควรคุยกับเธอก่อนที่เขาจะล้มละลายไปเสียก่อน

ชายหนุ่มกลับมาที่บ้านตอนเย็นก็ไม่เห็นภรรยาของเขา มีแค่กระดาษโน้ตแปะไว้ที่ตู้เย็นว่า ‘เกดออกไปข้างนอกนะคะ กลับเช้า’ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี อิสระที่มอบให้คนที่ไม่เคยได้ลิ้มรสมันมาก่อนอาจจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้นพเก้าไม่รู้ขอบเขตของการใช้มันก็ได้

หลังจากกระหน่ำโทร. หาอีกฝ่ายไปหลายสิบสาย แต่ไม่มีไม่มีการตอบรับใดๆ เขาก็นึกถึงเพื่อนสาวหล่อคนนั้นของนพเก้าขึ้นมาได้ มือเรียวยาวรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วโทร. หากัญญาทันที รออยู่สักพักปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะงัวเงียเล็กน้อย

“ขอโทษที่โทร. มารบกวนนะครับ แต่พอจะรู้ไหมว่าลูกเกดอยู่ที่ไหน” ระพีรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังสวมบทเป็นสามีที่ออกตามหาภรรยาไปทั่วเพราะความหึงหวง แม้ว่าเรื่องจริงจะไม่ใช่อย่างนั้นเลยก็ตาม

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น