2

หวั่นไหว

บทที่ ๒ 

หวั่นไหว

 

ทันทีที่เครื่องบินแตะรันเวย์ ดราก้อนก็รีบร้อนเช็กเอาต์ จุดมุ่งหมายของเขาตอนนี้ไม่ใช่บ้าน แต่กลับเป็นสปอร์ตคลับแห่งหนึ่ง เขาเองก็เป็นสมาชิกที่คลับแห่งนี้ แขกส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีในฮ่องกงที่มีฐานะร่ำรวยอีกทั้งยังเป็นผู้มีชื่อเสียง บางส่วนเป็นนักการเมือง ดราก้อนโชคดีที่ได้สิทธิ์ในการเป็นสมาชิกเพราะมารดารู้จักเป็นการส่วนตัว ปกติแล้วคิวสมัครสมาชิกยาวเป็นปีๆ เลยทีเดียว แม้ค่าสมาชิกจะแพงมากแต่เมื่อเทียบกับความเป็นส่วนตัวแล้วนับว่าดีมาก

คลับมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับทำกิจกรรมนานาชนิด ทั้งขี่ม้า ตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ ฟิตเนส มีสนามเทนนิส สควอช แบดมินตัน นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อ เชฟชื่อดังจากโรงแรมชั้นนำถูกซื้อตัวมาที่นี่ ปกติยามว่างดราก้อนจะมาเข้ายิมแทบทุกวัน เขาสนิทกับพนักงานและรู้มาว่าหยางอิงเองก็เป็นสมาชิกคลับที่นี่ด้วย แต่ส่วนที่หญิงสาวชอบมาใช้บริการคือสนามขี่ม้าซึ่งอยู่ด้านหลังของคลับ 

ดราก้อนหงุดหงิดจนนั่งแทบไม่ติดเมื่อเห็นข่าว เขาต้องการใครสักคนมารับผิดชอบเรื่องนี้ ชายหนุ่มตั้งความหวังกับโพรเจกต์เดอะเลิฟเวอร์เอาไว้มาก เขาจะไม่ยอมพลาดงานเพราะรูปถ่ายไร้สาระอย่างเด็ดขาด ลี่หงเสนอให้ฟ้องนักข่าวของนิตยสารเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง อีกทั้งยังเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ลี่หงติดต่อโรงแรมที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเทปจากกล้องวงจรปิดฉบับเต็มมาแก้ข่าวว่าสุดท้ายแล้วดราก้อนไม่ได้ออกไปกับหญิงสาวทั้งคู่ อีกทั้งภาพที่ปรากฏก็ไม่ใช่เขาแต่เป็นการตัดต่อ 

แต่ไหนแต่ไรมาดราก้อนไม่เคยสนใจข่าวฉาว ภาพลักษณ์ซึ่งเป็นจุดขายของเขาคือแบดบอย แต่ทั้งหมดก็แค่การโพรโมตเพื่อสร้างกระแส หากต้องเสียโอกาสก็ช่างไม่ยุติธรรมเลย ความหวังของชายหนุ่มคือโด่งดังถึงระดับโลก นักแต่งเพลงที่มาร่วมโพรเจกต์คือนักแต่งเพลงชื่องดังซึ่งเขาอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว แม้จะหงุดหงิดที่ต้องทำงานกับ ‘เด็ก’ แต่ดราก้อนมองถึงประโยชน์ที่จะตามมามากกว่าเขาจะมีผลงานก้าวไปอีกขั้น

หนุ่มร่างสูงกวาดตามองไปยังลานเบื้องหน้าที่ปูด้วยหญ้าเขียวขจี พื้นที่นี้อยู่ด้านหลังของคลับจึงกินพื้นที่กว้างขวาง ฝั่งทางขวาเป็นตัวตึกซึ่งทำเป็นคอกม้าสะอาดสะอ้าน ส่วนตรงกลางนั้นมีลานกว้างสำหรับลูกค้ามาฝึกขี่ม้า ครูฝึกเพิ่งเดินออกไปจากสนามเมื่อเห็นว่าจ็อกกีสาวขึ้นนั่งบนหลังม้าเรียบร้อยแล้ว 

ดราก้อนยืนหลบอยู่ตรงหลังต้นไม้เพื่อมองเป้าหมายให้ชัด เขาจำไม่ได้ว่าเจอหยางอิงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เขากับหล่อนเรียนโรงเรียนเดียวกัน ภาพสุดท้ายในความทรงจำคือเด็กหญิงตัวผอมกะหร่องใส่เหล็กดัดฟันคอยตามวอแวเขาอยู่เรื่อย แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าตอนนี้ต่างกันราวกลับหน้ามือเป็นหลังมือ

เด็กหญิงผอมแกร็นในอดีตกลายร่างเป็นสาวสวยสคราญ หยางอิงไว้ผมยาวตรงถึงกลางแผ่นหลัง รวบไว้เป็นหางม้าง่ายๆ สวมหมวกทับ เรือนร่างเพรียวอ้อนแอ้น แผ่นหลังตั้งตรง ศีรษะเชิดขึ้น เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวแนบกระชับไปกับเรือนร่าง ท่องล่างเป็นกางเกงหนังสีดำรัดรูปสำหรับขี่ม้าทำให้หยางอิงดูเซ็กซี่อย่างเหลือร้าย 

ใบหน้าที่เคยตอบเล็กกลายเป็นวงหน้ารูปไข่สมบูรณ์แบบ นัยน์ตากลมโตต่างไปจากเดิมเพราะบัดนี้มีเครื่องสำอางแต่งแต้มอยู่ ริมฝีปากอิ่มมีเพียงลิปกลอส ดราก้อนตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวควบม้าผ่านไป เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้ วูบหนึ่งอยากจะกระโจนไปขึ้นบนหลังม้าควบขับหล่อน 

เฮ้ย!

ดราก้อนรีบกระตุกความคิดตัวเองกลับมา 

บ้าฉิบ!

แต่สายตาเจ้ากรรมกลับยังเพ่งไปที่อกอิ่มที่ชูชันอวดท้าสายตา คงเพราะแผ่นหลังตั้งตรงทำให้หยางอิงดูอวบอิ่มกว่าหญิงสาววัยเดียวกัน หล่อนมีหุ่นขยี้ใจชาย ทั้งเอวเล็กคอด สะโพกผาย ยิ่งยามเจ้าตัวนั่งอยู่บนหลังม้าแยกขาออก จะดีสักแค่ไหน หากเขาได้ตระกองกอดหล่อนบนหลังม้าแบบเนื้อแนบเนื้อ 

เฮ้ย เฮ้ย!

ชายหนุ่มรีบสั่นศีรษะ สมองก่นด่าตัวเองที่เผลอไผลไปกับภาพเย้ายวนตาตรงหน้า เขาคงเพี้ยนไปแล้วแน่ที่คิดว่ายายแม่มดเด็กสวย เซ็กซี่ ขยี้ใจ หล่อนคือนางปีศาจ ชื่อในวงการของหล่อนคือแองเจิ้ลแต่ดราก้อนมักเรียกติดปากว่าเดวิลแทน และตอนนี้หล่อนก็กำลังร่ายมนตร์ทำให้เขาเสียศูนย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

รองเท้าบูตทรงสูงทำให้ท่อนขาเรียวยาวดูไร้ไขมันส่วนเกิน มือบอบบางจับบังเหียน ขาสองข้างหนีบกระตุ้นให้ม้าวิ่งไปข้างหน้า ม้าคู่ใจเป็นม้าพันธุ์ดี ขนเป็นเงาสีน้ำตาลเข้ม เขาเพิ่งรู้จากพนักงานว่ามันมีชื่อว่าเจ้าลมกรดตามความเร็วของมัน ม้าตัวนี้เคยผ่านสนามแข่งมานับครั้งไม่ถ้วนและมีดีกรีเป็นถึงแชมป์หลายสนามด้วยกัน ร่างสูงเผลอจ้องมอง หยางอิงงดงามราวกับภาพวาด ยิ่งยามลมพัดเส้นผมปลิระข้างแก้ม เผยให้เห็นแก้มแดงระเรื่อน่ามอง 

ดราก้อนไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเผลอเดินลงไปในลู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะมัวแต่ตกตะลึง ในจังหวะที่ม้าควบเข้ามาใกล้นั่นเอง คนบนหลังม้าก็สะดุ้งสุดตัว รีบกระตุกบังเหียนอย่างแรง แต่ช้าเกินไปเสียแล้วเพราะม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงไม่อาจหยุดได้ทันเวลา มันพุ่งเข้าหาดราก้อนด้วยความเร็ว ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกจึงกระโดดหลบส่งผลให้ล้มคว่ำและกลิ้งไปกับพื้น ดูเหมือนคนที่อยู่บนม้าก็ตกใจมากเช่นเดียวกัน หล่อนชักม้าให้หยุด ก่อนกระโดดลงจากหลังม้าไปช่วยชายหนุ่มที่ล้มอยู่ มือเอื้อมไปแตะพร้อมกับพยายามพยุงเขาขึ้น

“คุณคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่ทันเห็น”

หนุ่มร่างสูงหยัดตัวขึ้นยืน พอหยางอิงเห็นว่าดเป็นใคร หล่อนก็มีสีหน้าบูดบึ้ง ชักมือกลับทันที 

“นายมาที่นี่ทำไม”

ดราก้อนยิ้มแบบยียวน ปัดฝุ่นที่ขากางเกงออก ตรงเข่ามีรอยขาดและเลือดซึมออกมา 

“ฉันก็มาหาเธอยังไงล่ะคุณหนูขี้วีน”

“เอ๊ะ นายว่าใคร” หญิงสาวหน้าตึง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น จ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว

“จะใครเสียอีก ก็เด็กเอาแต่ใจอย่างเธอไงล่ะ”

หยางอิงเบือนหน้าหนี เจอกันแค่แวบเดียวเขาก็ค่อนแคะหล่อนอีกแล้ว หญิงสาวกำมือแน่นอย่างสะกดอารมณ์ แทนที่จะต่อปากต่อคำต่อด้วยกลับเดินหนี แต่ดราก้อนไม่ยอมแพ้ เขาอุตส่าห์เสี่ยงมาที่นี่ก็เพื่อคุยกับหล่อนให้รู้เรื่อง เขายื้อไหล่หญิงสาวไว้ 

“จะรีบไปไหน เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน”

 “เอ๊ะ ปล่อยฉัน นายไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”

หยางอิงสะบัด จ้องตาวาว ดราก้อนอมยิ้มเมื่อเห็นพวงแก้มแดงระเรื่อของคนตรงหน้า หญิงสาวคนนี้ไร้เดียงสากว่าที่คิด หรือว่าหล่อนไม่เคยต้องมือชาย น่าแปลก หยางอิงเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ที่เน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก แถมยังเป็นโรงเรียนที่มีแต่ชาวต่างชาติเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เพราะอะไรหล่อนถึงทำท่าเหมือนกับไม่เคยถูกใครแตะเนื้อต้องตัว หรือว่านี่คือมารยา 

 “ฉันก็ไม่ได้อยากแตะตัวเธอนักหรอก ถ้าเธอไม่ใช่อิทธิพลพ่อรังแกคนอื่น”

 “ฉันเปล่า”

 “ถ้าอย่างนั้นทำไมชื่อฉันถึงได้หลุดออกจากโพรเจกต์เดอะเลิฟเวอร์ล่ะ”

 หยางอิงอ้าปากค้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจเหมือนกับว่าเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่พอรู้ตัวก็รีบกลบเกลื่อนด้วยการยักไหล่แทน

 “นายต้องถามตัวเองมากกว่ามั้ง คนที่มีพฤติกรรมเลวๆ จนคนในสังคมรับไม่ได้ ไม่แปลกที่ต้นสังกัดสั่งปลดนาย”

 “ฉันเลวตรงไหนฮึ”

 “ยังจะต้องให้สาธยายอีก การที่นายควงผู้หญิงขึ้นห้องสองคนพร้อมกันนั่นยังไม่เรียกว่าเลวอีกหรือ” หยางอิงโต้ ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอแสดงความรู้สึกบางอย่างออกไป แก้มที่แดงระเรื่อบอกให้รู้ว่าหล่อนไร้เดียงสา 

“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันพาผู้หญิงสองคนนั้นขึ้นห้อง ยายเด็กบ๊อง ไม่เห็นแต่ชอบคิดเองเป็นตุเป็นตะ คงอ่านนิยายประโลมโลกมากเกินไปใช่ไหม” ร่างสูงที่เป็นต่อในทุกๆ ด้านกระเถิบเข้ามาชิด ดราก้อนลืมไปด้วยซ้ำว่าเข่าเลือดออก ในวินาทีนี้เขาแค่ต้องการข่มขู่หญิงสาวเท่านั้น 

“แค่เห็นรูป ฉันก็เดาได้แล้ว คนทั้งฮ่องกงเขารู้กันทั่วว่านายเป็นคนยังไง”

 “เธอมันมั่ว ชอบตัดสินคนอื่นด้วยอคติ”

 “อคติที่ไหน ทุกคนเขาก็รู้ว่านิสัยนาย ขอแค่เป็นผู้หญิงจะรวบหัวรวบหางยังไงก็ได้อยู่แล้ว”

 ดราก้อนส่ายหน้า ใบหน้าบึ้งตึง “ฉันเนี่ยนะรวบหัวรวบหางพวกหล่อน เฮอะ เธอนี่มันมโนขั้นเทพจริงๆ ไปเขียนนิยายขายเถอะไป๊”

 เพ่ยฉือและอี้เฟยไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้ว พวกหล่อนผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน ดราก้อนต่างหากที่ปฏิเสธไม่ยอมสุงสิงด้วย แต่เพราะภาพที่ถูกตัดต่อรวมกับการเขียนข่าวแบบยุยงทำให้เขากลายเป็นเพลย์บอยตัวเอ้แถมนักข่าวคนเดิมยังลงรูปตอนเขามีสีหน้าอิดโรยก็ยิ่งทำให้คนพากันคิดไปไกล 

 “ชิ ทำเป็นพูดดี ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอก”

 “เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงให้พ่อบีบฉันให้หลุดออกจากโพรเจกต์ ไร้สาระสิ้นดี”

 “ฉันเปล่า”

 “ไม่จริง ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร เด็กอย่างเธอกลัวฝีมือสู้ฉันไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีสกปรก”

 ดราก้อนคว้าข้อมือหล่อนเอาไว้ ออกแรกบีบ หยางอิงพยายามดึงกลับแต่สู้แรงไม่ได้ หล่อนจ้องกลับตาวาว 

“ฉันไม่เคยกลัวนาย รู้เอาไว้ด้วย ฉันรอเวลาที่จะได้ทำงานกับนาย จะได้รู้เสียทีว่าเด็กอย่างฉันก็มีฝีมือ” หยางอิงเชิดหน้าขึ้น ไม่รู้ตัวเลยว่าเรือนร่างแนบชิดกับชายหนุ่ม แถมยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก ริมฝีปากหยักลึกอยู่ใกล้แค่เอื้อม 

 “อย่างเธอเนี่ยนะมีฝีมือ ไหนขอฉันดูหน่อยสิ ฝีมือด้านไหนมิทราบ” ชายหนุ่มรั้งร่างบางเข้าหาตัว ใช้มือกดเอวหล่อนให้แนบชิด

 หยางอิงหน้าแดงก่ำ ผลักเขาออกแต่สู้แรงชายหนุ่มไม่ได้เลย ยิ่งผลักเขาก็ยิ่งกอดรัดแน่นจนเนื้อแนบเนื้อ ทรวงอกคู่งามบดเบียด ความแนบสนิททำให้หล่อนหวั่นไหว 

 “อีตาบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนชีกอ”

 “ไม่! จะบอกให้รู้นะว่าฉันไม่ได้พิศวาสเธอเลยสักนิด คนอื่นอาจคิดว่าเธอสวย แต่สำหรับฉันเธอมันก็แค่เด็กอมมือที่ใช้เส้นพ่อรังแกคนอื่น”

มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับหยางอิง ทั้งเรื่องตำแหน่งแชมป์ร้องเพลงที่นักข่าวหลายสำนักอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเป็นสปอนเซอร์ของเหวินลู่ชิง

 “นายไม่มีสิทธิ์มาพูดจาปรักปรำฉัน”

 “งั้นก็พิสูจน์สิหยางอิงว่าเธอมันแน่พอ เธอสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งบารมีพ่อ เขี่ยคู่แข่งทุกคนให้พ้นตัว” ดราก้อนโต้

 “ได้ ฉันจะบอกพ่อ เราสองคนจะได้พิสูจน์ฝีมือกันว่าใครแน่กว่าใคร นายจะต้องยอมศิโรราบให้แก่ฉัน”

 “เด็กอย่างเธอไม่มีวันทำให้ฉันศิโรราบได้หรอก ยกเว้นบางเรื่อง อาจจะพอรับไว้พิจารณาได้”

ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้จนปลายจมูกโด่งเกือบจะชนกับหยางอิงอยู่แล้ว มือแข็งแรงรั้งร่างบางเข้าหากตัว เนื้อกับเนื้อแนบชิด นัยน์ตาคมลดลงมองเนินอก ดราก้อนแสร้งยิ้มเยาะ หยางอิงโกรธจนตัวสั่น เขาก็เหมือนกับทุกคนที่ปรามาสว่าหล่อนใช้เรือนร่างในการพิชิตตำแหน่ง ทั้งที่ความจริงหยางอิงทุ่มเทซ้อมอย่างหนัก หล่อนเรียนร้องเพลงและซ้อมเต้นรำวันละไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง 

 “ทุเรศที่สุด นายมันเลว ไอ้คนชีกอ ไม่ให้เกียรติผู้หญิง”

 หยางอิงรวบแรงผลักเขาออก ดราก้อนหัวเราะลำคออย่างกวนประสาท เขาเป็นฝ่ายเดินจากไปแต่ไม่วายตะโกนมา

 “จำคำพูดตัวเองเอาไว้นะ เธอกับฉันต้องได้เจอกัน”

 หยางอิงกำหมัดแน่น ตะโกนไล่หลังชายหนุ่มด้วยความโกรธจัด

 “แน่นอน นายกับฉันต้องได้เห็นดีกัน ฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าคนอย่างฉันเก่งไม่แพ้คนอื่นๆ คอยดูก็แล้วกัน”

 

“โธ่โว้ย อะไรวะ แพ้อีกแล้ว”

ร่างสูงเขวี้ยงรีโมตเกมเพลย์สเตชันรุ่นล่าสุดลงกับพื้น สบถเสียงดังลั่น ตรงหน้าคือจอแอลซีดีขนาดยักษ์กินพื้นที่ของห้องนอนฝั่งหนึ่งมีตัวอักษรปรากฏว่าชายหนุ่มเพิ่งจะแพ้ ลี่หงมองด้วยหางตา ไม่บ่อยนักที่ดราก้อนจะหัวเสียเพราะเขาเล่นเก่งมาก ฝีมือระดับต้นๆ เลยทีเดียว 

“เป็นอะไรดราก้อน นายเคยเซียนในเกมนี้นี่นา”

ผู้จัดการหนุ่มเปรยขึ้น ข้อความธรรมดาแต่สำหรับคนที่กำลังหงุดหงิดก็เหมือนกับหาเรื่อง

“เออ เซียนก็แพ้ได้ มีอะไรปะ”

ดราก้อนเอื้อมมือหยิบรีโมตและกดเริ่มเกมใหม่อีกครั้ง แต่เล่นไปได้ไม่ถึงห้านาทีเขาก็แพ้อีกรอบ คราวนี้ชายหนุ่มกดปิดโทรทัศน์ นอนหงายหลังผลึ่งลงไปบนโซฟา หน้าตาบูดบึ้ง

“วันนี้นายมือตกว่ะ”

ร่างสูงหน้าตึง หันมาค้อนผู้จัดการ ค่อนกลับเสียงแข็ง “ไม่พูดก็ไม่มีใครเขาว่าเป็นใบ้หรอกนะลี่หง คนยิ่งหงุดหงิดอยู่”

“มีอะไรหรือเปล่า หรือว่ายังโมโหเรื่องข่าว?”

ทันทีที่เครื่องลงแตะรันเวย์ ดราก้อนก็เดินดุ่มๆ ออกจากสนามบิน ปล่อยให้ลี่หงจัดการกับกระเป๋าเดินทางทั้งหมดแต่เพียงลำพัง เขาต้องนำสัมภาระกลับมาเก็บที่คอนโด หลังจากนั้นก็รีบติดต่อไปยังบรรณาธิการหนังสือกอสซิปฉบับนั้นเพื่อให้ลบข่าวออกจากเว็บไซต์ในทันที ข้อต่อรองคือเอกสารจากทนายความขู่จะฟ้องร้องหากหนังสือฉบับนี้ไม่ทำตาม ทุกอย่างดูไปได้สวย แต่พอกลับมาถึงกลับเห็นนักร้องหนุ่มนั่งเล่นเกมอย่างเอาเป็นเอาตาย ลี่หงเดาว่าอีกฝ่ายคงเครียด จึงปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งเล่นเกมอยู่เกือบชั่วโมง 

“เรื่องนั้นฉันยกให้นายจัดการ จะทำยังไงก็ตามใจ จะฟ้องสักกี่ฉบับก็เชิญเลย ฉันไม่ห้าม”

“ถ้าไม่ใช่โมโหเรื่องข่าว งั้นก็โกรธเรื่องหยางอิงใช่ไหม” ลี่หงเดา 

ดราก้อนหน้าบึ้ง “หยุดพูดชื่อหล่อน ฉันไม่อยากได้ยิน รำคาญ”

“นั่นไง เดาไม่ผิด แล้วทำไมต้องหงุดหงิดด้วย ในเมื่อหยางอิงรับปากแล้ว”

ดราก้อนขมวดคิ้ว เขายังไม่ได้เล่าเรื่องที่คลับให้ฟังแต่ทำไมผู้จัดการหนุ่มถึงรู้ หรือว่าอีกฝ่ายแอบตามเขาไปที่นั่น ถ้าคำนวณจากเวลาที่ใช้จัดการทุกอย่างก็ไม่น่าเป็นไปได้

“นี่นายรู้ได้ยังไง มีสายอยู่ที่คลับงั้นหรือ”

ลี่หงยักคิ้ว อมยิ้มแบบเป็นต่อ “แค่นายเหยียบไปที่นั่นก็มีคนโทร. มารายงานฉันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงนะ รูปที่นายจู๋จี๋กับคุณหนูหยางอิงรับรองไม่มีทางหลุดออกมาแน่”

ลี่หงยกมือปิดปาก ดราก้อนตาโต

“นายว่าอะไรนะ ใครจู๋จี๋ใคร”

“ไม่ต้องมาไก๋หน่อยเลยน่า เราก็รู้ๆ กันอยู่” ผู้จัดการหนุ่มยักคิ้ว

“ฉันไม่ได้จู๋จี๋กับหล่อน”

“ถ้างั้นก็แค่ทำข้อตกลงกัน เลยต้องใกล้ชิดเพื่อบีบบังคับ โอเค ฉันเข้าใจ แต่นายไม่ต้องห่วงนะ เรื่องนายกับคุณหนูไข่ในหินนั่นมีคนที่ใหญ่กว่าฉันคอยจัดการให้แล้ว” ลี่หงพูดอย่างยียวน

“นายหมายถึงใคร”

“คิดว่าใครล่ะที่หวงลูกสาวเหมือนงูจงอางหวงไข่ ไม่น่าถาม”

เหวินลู่ชิงคือมาเฟียตัวจริงเสียงจริง เขามีลูกน้องเป็นโขยง แค่กระดิกนิ้วเรียกก็มีคนคอยทำตามคำสั่ง สมัยก่อนเหวินลู่ชิงเคยตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย แต่ตำรวจก็สรุปว่าคดีไม่มีมูลเขาจึงถูกปล่อยตัว คนทั้งเกาะฮ่องกงต่างรู้ว่าไม่มีใครเอาผิดเขาได้ 

“เหวินลู่ชิงส่งคนสะกดรอยตามหยางอิงงั้นหรือ”

“แหงอยู่แล้ว ลูกสาวทั้งคน แถมยังสวยสะบึมขนาดนั้น ถ้าให้เดา ฉันว่าเรื่องต้นสังกัดสั่งปลดนายน่าจะเป็นฝีมือคนพ่อแน่ๆ”

“ฉันไม่เข้าใจว่าทำแบบนั้นทำไมในเมื่อฉันเองก็เป็นลูกจ้างของเขา”

ดราก้อนคิดเสมอว่าโดนหยางอิงกลั่นแกล้ง วันนี้เขาจึงไปเพื่อตอกหน้าหล่อน เขายอมรับว่าพอได้ยินจากหญิงสาวก็อดประหลาดใจไม่ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายยอมรับปาก ดราก้อนก็ยอมรามือกลับมาตั้งหลักที่คอนโด เขาคิดมาตลอดว่าหยางอิงกลัวที่ต้องเผชิญหน้ากันจึงยืมมือพ่อจัดการ แต่ข้อความจากลี่หงทำให้ฉุกคิด ดราก้อนเป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชันไฮซึ่งเหวินลู่ชิงเองก็มีหุ้นส่วนอยู่ด้วย แถมตอนเซ็นสัญญา เหวินลู่ชิงยังเป็นคนพาไปพบนฤบาลที่เมืองไทย แล้วทำไมฝ่ายนั้นถึงใช้อำนาจบีบให้เขากระเด็นออกไป 

“ฉันว่าคงหวงลูกสาว ไม่อยากให้หนุ่มหน้าไหนมาใกล้ชิด”

“จะบ้าหรือ ฉันไม่เคยสนใจยายเด็กกะโปโลนั่นเลยสักนิด หางตาฉันยังไม่เคยแลด้วยซ้ำ”

สมัยเด็กหยางอิงเคยแอบชอบเขา ดราก้อนจำได้ว่าเขาเคยโยนของที่หล่อนมอบให้ลงถังขยะอย่างไม่ไยดี 

“แน่ใจหรือ ถ้างั้นนายไปใกล้ชิดหล่อนทำไม”

สายตามองแบบจับผิดทำให้ดราก้อนร้อนๆ หนาวๆ เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าสายสืบของลี่หงเห็นอะไรบ้าง 

“ฉันแค่ไปตกลงบางอย่างกับหล่อน”

สิ่งที่ดราก้อนตั้งใจคือขู่หยางอิงให้กลัว แต่สุดท้ายความใกล้ชิดกลับทำให้เขาเสียการควบคุมตัวเอง แต่สมองกลับผุดภาพตอนขี่ม้าขึ้นมาคู่กันจนดราก้อนต้องระบายอารมณ์ด้วยการเล่นเกม

“ให้มันแน่นะ เหวินลู่ชิงไม่ใช่คนธรรมดา ขืนนายไปวอแวลูกสาวเขาละก็มีหวัง” ลี่หงทำท่าปาดคอแล้วปั้นหน้าเคร่งเพื่อขู่

“ฉันแค่คุยเรื่องงาน นายก็คิดมากไปได้”

“นายคิดว่าแค่ขู่แล้วหยางอิงจะยอมคุยกับพ่อเรื่องให้นายกลับมาทำงานหรือ”

“ใช่ ฉันมั่นใจ ยายเด็กนั่นต้องการพิสูจน์ฝีมือว่าตัวเองเจ๋งพอ ดังนั้นต่อให้เหวินลู่ชิงคัดค้านหัวชนฝา หล่อนก็ต้องไฟต์กับพ่อเพื่อให้ได้ร่วมงานกับฉัน”

“ดูนายมั่นใจเหลือเกินนะ ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงระบายอารมณ์ด้วยการเล่นเกมล่ะ”

ลี่หงดักคอ ดราก้อนหน้าตึง

“ฉันเล่นเพราะอยากเล่น ไม่ได้เกี่ยวกับยายนั่นสักหน่อย” เขาเบือนหน้าหนี หยิบรีโมตขึ้นมาถือไว้ต่อ

“เรื่องโพรเจกต์นายไม่ต้องเครียดไปหรอก ยังไงเสียพวกเราก็มีแบ็กอัปดี ฉันเพิ่งคุยกับมิสเตอร์ลี เขาพร้อมดันนายเต็มที่ แต่ที่ควรระวังคือหัวใจตัวเองต่างหาก”

มิสเตอร์ลีคือหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญของบริษัทที่ชื่นชอบดราก้อนเป็นทุนเดิม เมื่อได้ยินว่าต้นสังกัดจะเปลี่ยนตัวศิลปิน เขาก็ออกโรงคัดค้านทันที เนื่องจากเขามีหุ้นจำนวนมาก กรรมการหลายคนจึงเกรงใจ อีกทั้งเมื่อแฟนคลับของดราก้อนเริ่มเคลื่อนไหว ต้นสังกัดเองก็ไม่แน่ใจว่าพร้อมจะรับมือกับความปั่นป่วนหรือไม่

“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบเด็ก”

“หยางอิงไม่เด็กแล้วนะ จะยี่สิบในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า แถมหุ่นยังเอกซ์อึ๋มซะขนาดนั้น ใครไม่เขวก็แปลกแล้ว”

ดราก้อนเผลอคิดตาม หยางอิงมีหุ่นอวบอัดเกินวัยจริงๆ หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวแถมยังเอวคอดเล็กและสะโพกผายนั่นอีก ภาพตอนใกล้ชิดรวมถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ติดตรึงอยู่ปลายจมูกทำให้เขาโมโหตัวเองที่เผลอไผลไปกับความเย้ายวนตรงหน้า

“เด็กนั่นงอแงน่ารำคาญ”

“บางทีอาจจะเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจจากนายก็เป็นได้นะ”

“ฝันไปเถอะ ต่อให้โลกนี้เหลือผู้หญิงแค่คนเดียว ฉันก็จะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับยายนั่นเด็ดขาด นายคอยดูก็แล้วกัน”

“ฉันจะคอยดูคนกลืนน้ำลายตัวเอง”

“โธ่โว้ย นายจะยั่วโมโหฉันให้ได้อะไรขึ้นมา”

“ฉันไม่ได้ยั่ว แค่จะอยากเตือนในฐานะเพื่อน หยางอิงไม่ใช่เด็กใส่เหล็กดัดฟันตัวผอมกะหร่องที่นายเคยเจอสมัยเรียน ตัวจริงทั้งสวยและเซ็กซี่ นายต้องเก็บมือเก็บไม้ของนายเอาไว้ให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น นายอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ เหวินลู่ชิงเล่นงานนายหนักแน่ๆ และคราวนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยนายไม่ได้ทั้งนั้น”

เด็กใส่เหล็กดัดฟันงั้นหรือ ใช่ เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นนานมากแล้ว

หลายปีก่อนหน้านั้น 

“พี่คะ ช่วยรับของขวัญหนูหน่อย”

ดราก้อนเงยหน้าขึ้น เขากำลังเร่งทำรายงานเพื่อส่งให้ทัน สองสัปดาห์ก่อนดราก้อนขาดเรียน ครูประจำวิชาจึงสั่งให้เขาส่งทั้งหมดภายในวันนี้ ไม่เช่นนั้นจะสอบไม่ผ่าน

“กองไว้ตรงนั้น แล้วก็รีบไปซะ” ดราก้อนมองด้วยหางตา สิ่งที่เห็นคือเด็กสาวตรงหน้ายืนจ้อง

“แต่หนูอุตส่าห์เลือกมาให้ พี่ช่วยรับจากมือหนูหน่อย ได้โปรด”

“เอ๊ะ ยายซื่อบื้อ ฉันบอกแล้วไงว่าให้วางเอาไว้ ไม่เห็นหรือว่าฉันกำลังยุ่ง”

ไม่แปลกที่เด็กหนุ่มจะหงุดหงิด เพราะตั้งแต่เช้าดราก้อนต้องรับของจากเด็กสาวทั้งโรงเรียน โต๊ะข้างๆ บัดนี้เต็มไปด้วยของขวัญ ดอกไม้ ช็อกโกแลต ดราก้อนเกลียดความรู้สึกนี้ เกลียดการต้องตกเป็นเป้าสายตา ไม่ว่าจะขยับตัว ยิ้มหรือหัวเราะ ทุกคนก็เอาแต่แอบมอง แม้จะรู้ว่าสายตาเหล่านั้นคือการชื่นชม แต่ชายหนุ่มกลับไม่รู้จะรับมือกับความรู้สึกนี้อย่างไร ขณะที่อาจารย์วิชานี้ก็ไม่ชอบหน้าดราก้อนเอาเสียเลย หากเขาส่งงานไม่ทันนั่นหมายถึงการสอบตก 

เด็กสาวร่างผอมกะหร่องมองดราก้อนตาแดงก่ำ หล่อนกำมือแน่น ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวหัวหด รีบวางทิ้งไว้แล้วเดินหนี แต่ไม่ใช่สำหรับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างหยางอิง

“ไม่เคยมีคนสอนหรือไงว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้คนอื่นเสียน้ำใจ”

ดราก้อนกระแทกปากกาลงบนโต๊ะ อารมณ์ทำงานหดหาย แปรเป็นความหงุดหงิดแทน

“แล้วไง ทำไมฉันต้องสนใจเธอด้วยยายกุ้งแห้งฟันเหยิน ไปให้พ้นหน้าได้ไหม น่ารำคาญ” ร่างสูงบริภาษ 

หยางอิงกัดฟันกรอดๆ ทั้งโกรธและน้อยใจ “ทำไม่ต้องบูลลีคนอื่นด้วย”

“ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้นั่นละ ถ้าไม่ชอบฟังก็ไม่ต้องมาใกล้ฉัน ยายฟันเหล็ก จำไว้เลยนะว่าฉันไม่เคยอยากได้ของขวัญจากเธอ ไม่ต้องเอามาให้ฉันอีก”

“แต่พี่ต้องรับ เพราะหนูอยากให้”

เอากะหล่อนสิ 

หยางอิงกระแทกการ์ดใบนั้นลงบนโต๊ะอย่างถือดี ดราก้อนจ้องกลับก่อนริมฝีปากจะแปรเป็นเหยียดยิ้มอย่างหมายมาด เขาลุกขึ้นหยิบการ์ดเดินไปที่ถังขยะข้างห้องและโยนมันทิ้งอย่างไม่ไยดี 

“พอใจแล้วใช่ไหม ฉันรับแล้ว และก็โยนทิ้งถังขยะแล้วด้วย ยายกุ้งแห้งฟันเหล็ก เลิกยุ่งกับฉันแล้วก็ไปเสีย!”

ดราก้อนตะคอก แต่กลับได้เห็นสิ่งที่คาดไม่ถึงคือใบหน้าเรียวเล็กเต็มไปด้วยน้ำตา 

เขาไม่เคยรู้เลยว่าภาพนั้นจะตามหลอกลอนตนจนถึงตอนนี้ ลึกๆ แล้วชายหนุ่มรู้สึกเสียใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่คิดเลยว่านั่นคือความทรงจำสุดท้ายระหว่างเขากับหยางอิง แต่ใครจะคิดว่าเขากับหล่อนจะต้องมาเจอกันอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องแต่เป็นเพื่อนร่วมงาน แค่คิดก็หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก 

ลี่หงพูดถูก หยางอิงไม่ใช่ยายกุ้งแห้งฟันเหล็กอีกต่อไปแล้ว แต่หล่อนคือสาวน้อยวัยกำดัดที่สวยสะพรั่งและมีสัดส่วนละลานตา สิ่งที่ชายหนุ่มควรทำคืออยู่ห่างๆ หล่อนและเก็บไม้เก็บมือ ที่สำคัญคือดราก้อนต้องระวังหัวใจตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปอย่างเมื่อช่วงบ่ายอีก ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องตกที่นั่งลำบากก็คือเขานั่นเอง

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น