10

ตอนที่ 10


10

 

เจนบอกลาแม่และน้องๆ หลังมื้อเช้า รู้สึกใจหายที่ต้องจากพวกเขาไป เธอยังอยากใช้เวลากับครอบครัวให้มากกว่านี้แต่ก็ทำไม่ได้ หญิงสาวเดินออกจากบ้านในย่านชุมชนมาเรื่อยๆ เพื่อนั่งรถประจำทางกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ที่แสนอ้างว้าง บางครั้งเธอก็อยากหนีไปให้ไกลแต่เพราะทำไม่ได้ เจนถึงยอมรับชะตากรรมที่เป็นอยู่

หากเธอหาหลักฐานมาได้สักนิดว่าไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายแบบที่เขากล่าวหามันก็คงจะดีไม่น้อย แต่เธอจะทำอะไรได้มากกว่านั้น เพราะเฝ้าถามใครๆ ก็ไม่มีใครให้คำตอบเกี่ยวกับค่ำคืนนั้นได้เลย จะถามเพื่อนสนิทอย่างเวด เธอก็ติดต่อเขาไม่ได้เสียแล้ว แม้แต่รีเบคก้าแฟนของเวดก็หายเงียบไปเช่นกัน

หญิงสาวยังงงจนถึงตอนนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอกันแน่ เธอถอนหายใจหนักๆ อย่างปลงๆ เมื่อรถประจำทางมาจอดเทียบ หญิงสาวขึ้นไปนั่งที่เบาะติดหน้าต่าง มองกลับไปยังทิศทางของบ้านหลังเล็กแคบที่ค่อยๆ ห่างจากสายตา นึกอยากกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งกลับไปซ่อนตัวที่ห้องนอนแคบๆ ของตัวเองบนชั้นสองของบ้านแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงแต่ละสายตาจากภาพนั้น ก้มหน้าซ่อนน้ำตาเอาไว้เพื่อเผชิญกับวันข้างหน้า

 

“กลับมาแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านร้องทัก ขณะที่ตัวเขานอนเอกเขนกอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่

“กลับมาแล้วค่ะ วันนี้คุณไม่ไปไหนเหรอคะ” เจนถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวเมื่อเห็นชายหนุ่มยังอยู่บ้าน

“ตอนนี้ไม่ แต่ตอนเย็นมีปาร์ตี้” เขาว่าพลางขยับลุกขึ้นนั่ง “ผมจะเอาคุณไปด้วย” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยื่นมือไปคว้าตัวหญิงสาวมาแนบชิดบนตักกว้าง คลอเคลียใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครากับซอกคอขาว อ้าปากขบกัดลงไปบนเนื้อเธอเบาๆ ราวกับมันเขี้ยว จนคนที่ถูกกัดร้องออกมาเพราะตกใจ เขาจึงผละใบหน้าจากซอกคอขาวเพื่อสบตาเธอ

“คืนนี้จะพาไปสนุกด้วยกัน” เขาบอกพร้อมกับบดจูบลงมาอย่างหิวกระหาย
                ให้ตายเถอะ! แค่เธอไม่อยู่วันเดียว เขากลับรู้สึกเหมือนเธอหายไปเป็นชาติ เจนช่างเป็นของเล่นที่แสนถูกใจเขาในเวลานี้ เธอแปลกใหม่ไม่น่าเบื่อ แต่ถ้าวันไหนที่เธอเริ่มทำตัวน่าเบื่อ ถึงตอนนั้นเขาคงทิ้งเธอได้ไม่ยาก

“คิดถึงผมไหมสาวน้อย” เขาถามเธอชิดริมฝีปาก ขณะที่มือยังคลึงเคล้นไปตามผิวสีน้ำผึ้งจนเจนปั่นป่วน กระนั้นเธอก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธเขาได้

“แน่ใจ” เดนนิสถามย้ำพร้อมแนบใบหน้าลงมาจุมพิตเธออีกครั้ง แทรกลิ้นลึกเข้ามาในโพรงปาก หยอกเย้ากับลิ้นเล็กที่พยายามหนี ชายหนุ่มผละจูบออกและซุกไซ้ใบหน้าลงมาตามลำคอระหง ผ่อนร่างหญิงสาวให้นอนลงกับโซฟากว้าง

มือเรียวบางของคนที่พยายามขัดขืนกลับซอนลึกเข้ามาในกลุ่มเส้นผมหนาสีทองแดงอย่างเผลอไผล จนลืมสนใจร่างกายตัวเองที่กำลังถูกชายหนุ่มรุกราน แต่เพียงไม่นานเธอก็เริ่มรู้สึกตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนชื้นที่หยอกเย้ากับยอดอกของตัวเอง

“เดนนิสคะ พอก่อนค่ะ” เจนประท้วงเมื่อทุกอย่างดูจะเลยเถิดไปไกล พวกเธอกำลังอยู่ที่โซฟาริมหน้าต่างห้องนั่งเล่นที่เปิดม่านกว้าง ไร้การปิดบัง เขาอาจจะไม่อายแต่เธออาย “เดี๋ยวมีคนเห็น” เธอแย้งเมื่อเขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา

“ไม่มีใครมายุ่มย่ามแถวนี้หรอกเจน แต่ถึงมีผมก็ไม่สน” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงเพลิดเพลินกับร่างกายเธอต่อ

“อย่าค่ะ” เจนดิ้นไปมาอย่างอึดอัด เมื่อเดนนิสลากใบหน้าลงไปตามหน้าท้อง เธอร้องห้ามเมื่อเขาทำท่าจะถอดกางเกงยีนออกจากสะโพก

“ไปในห้องนอนเถอะนะคะ” เจนขอร้อง ในเมื่อไม่สามารถเลี่ยงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ก็ขอให้มันเกิดขึ้นในที่ที่มีเฉพาะเธอกับเขาเท่านั้น “ฉันกลัวคนเห็น” เธอสารภาพด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความอาย

เดนนิสหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยอมตามใจ ยกร่างหญิงสาวขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเธอเข้าไปในห้องนอนแทน

“ผมตามใจคุณแล้ว คุณต้องตามใจผมบ้างนะ” เขาว่าขณะวางร่างเธอลงบนเตียงกว้าง

เจนไม่ได้ตอบ เธอเพียงสบตาเขาและก้มหน้าลงเท่านั้น

ร่างสูงตามลงมาทาบทับร่างบางที่รออยู่ ประทับจุมพิตเร่าร้อนโหมไฟปรารถนาให้ลุกโชน มือหนาปัดป่ายไปตามเนื้อตัวของหญิงสาว สร้างความหวามไหวในอารมณ์จนเจนทนไม่ไหว ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังกว้างตอบเขา เดนนิสครางในลำคอเมื่อฝ่ามือนุ่มนิ่มของเจนสัมผัสแผ่นหลังเปล่าเปลือยของเขา นึกอยากให้มือเล็กนั้นสัมผัสตัวตนที่กำลังจะปริแตกของเขายิ่งนัก

ชายหนุ่มไม่รอช้า คว้ามือคนตัวเล็กใต้ร่างให้มาสัมผัสความเร่าร้อนกลางกาย เจนสะดุ้งเฮือกกำลังจะชักมือกลับ หากไม่ติดว่ามีมือใหญ่ยึดเอาไว้

“สัมผัสผมสิเจน” เดนนิสกระซิบเสียงพร่า มือน้อยนุ่มนิ่มที่วางบนตัวตนของเขาสั่นระริกสร้างความตื่นเต้นให้เขาอย่างที่สุด “อย่างนั้นๆ” เขาพูดอย่างถูกใจเมื่อจับมือเธอให้ขยับเป็นจังหวะเนิบช้า

เจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธออายเหลือเกินที่ต้องทำอะไรแบบนี้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมปล่อยมือเธอเสียที จนเมื่อเขาดันตัวขึ้นคร่อมบนร่างกายเธอ จับขาทั้งสองข้างของเธอกางออก หญิงสาวหุบขาแทบไม่ทันเมื่อมือใหญ่จัดการถอดกางเกงเจ้าปัญหาออกพร้อมจัดท่าทางของเธอตามใจเขา

“อย่าค่ะ” เจนห้ามด้วยความเขินอาย ใบหน้าเห่อร้อนจนแทบจะกลายเป็นไอ

“อย่าห้ามผมเลยเจน ผมรู้ว่าคุณชอบมันพอๆ กับที่ผมชอบ” เดนนิสก้มหน้าแนบหน้าท้องนวลเนียน เขาจูบกลางสะดือเธอเบาๆ ลากลิ้นสากร้อนไปตามผิวเนื้อเนียนละมุน เครารกครึ้มของชายหนุ่มครูดไปตามผิวบอบบางสร้างความเสียวซ่านให้เธอยิ่งนัก

เจนกลั้นใจเล็กน้อยเมื่อใบหน้าเขาลดต่ำลงมาที่ส่วนบอบบางฉ่ำเยิ้ม เดนนิสขบเม้มเนื้ออ่อนที่ไวต่อสัมผัสผ่านชั้นในเนื้อบาง ลิ้นร้ายกาจของเขาตวัดรัวเร็วตรงตุ่มไตแห่งความเสียวกระสัน นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มค่อยๆ แทรกเข้ามาตามเส้นทางรักอันคับแน่นแต่ฉ่ำเยิ้มอย่างเชื่องช้าและหยอกเย้า ปลายลิ้นที่ตวัดรัวเร็วสร้างเสียงกระเส่ารัญจวนให้คนฟัง

“เห็นไหม คุณชอบออก” เขาสรุปเมื่อลุกขึ้นมามองใบหน้าแดงก่ำและดวงตาหวานฉ่ำปรือด้วยไฟปรารถนาของหญิงสาว จากนั้นชายหนุ่มก็จัดการกับชั้นในตัวน้อยให้พ้นทางอย่างง่ายดายเพื่อสัมผัสตัวตนเนื้อแท้ของหญิงสาวอย่างที่ใจปรารถนา

เจนแข้งขาอ่อน ไม่มีแม้แรงจะห้ามเมื่อเห็นเขาก้มต่ำลงไปอย่างน่าหวาดเสียว เดนนิสช่างสรรหาวิธีนับร้อยมาทรมานให้เธอติดกับสัมผัสของเขา เขาจะรู้หรือเปล่าว่าสัมผัสของเขามันเร่าร้อนดั่งไฟที่คอยสุมให้เธอทนไม่ไหว คล้ายโหยหาอะไรบางอย่างที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะให้คำตอบและเติมเต็มเธอได้

นาทีที่ความสากระคายเปียกชื้นสัมผัสส่วนอ่อนไหวเจนก็ห่อปากเอาไว้ด้วยความซ่านเสียว ยากจะหาคำอธิบาย รู้สึกเหมือนคนจะขาดใจ เธอจึงได้แต่ส่งเสียงร้องแผ่วๆ ด้วยความสุขสมเท่านั้น

เดนนิสผละออกเมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่นอนหอบหายใจนั้นพร้อมแล้ว เขาทาบทับร่างหนามาบนตัวเธอ แล้วบดจูบล้ำลึกกับริมฝีปากอิ่มที่เผยอค้าง

“ผมอยากให้คุณทำแบบที่ผมทำบ้างจัง มันคงจะวิเศษมากถ้าปากสวยๆ ของคุณครอบครองผมเอาไว้” เขาว่าพลางไล้ปลายนิ้วกับปากอิ่มสวย

หญิงสาวไม่รู้จะตอบรับหรือปฏิเสธเขาอย่างไร ตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่เธอมีคืออยากจะปลดปล่อยร่างกายให้พ้นจากความรู้สึกอึดอัดร้อนแรงนี้เหลือเกิน

“ผมไม่บังคับคุณหรอกเจน คงมีสักวันที่คุณเต็มใจ” เดนนิสเห็นความสับสนในดวงตาของเธอจึงสอดแทรกแก่นกายแข็งขึงเข้าหาเธอช้าๆ อย่างต้องการจะทรมานเธอ

“อา” เสียงครางแผ่วเบานั้นดังลอดมาจากริมฝีปากอิ่มที่ขบเม้มเอาไว้ เมื่อความอดทนสิ้นสุดลงตอนที่เขาเร่งจังหวะรัวเร็วและกระแทกรุนแรงกับทางรักคับแคบทำให้หญิงสาวทนไม่ไหว ส่งเสียงระบายความเสียวซ่านออกมา

เดนนิสขยับตัวอีกครั้งช้าๆ เป็นจังหวะเข้าออกที่แสนจะทรมาน เจนกัดฟันกับความรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจจนเผลอขยับสะโพกเข้าหาเขาเสียเอง

“ใจเย็นๆ คนสวย” เขาบอกเมื่อเห็นเธอแสดงท่าทีว่าจะทนไม่ไหว ชายหนุ่มจึงถอดถอนตัวตนออกมา พาเธอมานั่งทีริมเตียงกว้าง จับหญิงสาวให้ขึ้นคร่อมที่ตัก แทรกแก่นกายเร่าร้อนกับทางรักของเธอช้าๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเพื่อผ่อนปรนความครัดเคร่งในกาย

“คุณชอบไหมเจน” เขาถามเมื่อเธอครอบครองเขาอย่างสมบูรณ์จนสุดความยาว ร่างกายของทั้งคู่เชื่อมต่อกันได้อย่างเหมาะเจาะ หญิงสาวบนตักได้แต่ส่ายหน้าไปมาจนผมปลิว แต่กระนั้นก็ยังกอดเขาเอาไว้แน่นตอนที่เขาจับเอวบางให้โยกคลึงเป็นจังหวะช้าเนิบ ทรมานเธอและตัวเขาเอง

เดนนิสยิ้มมุมปากกับคนปากแข็ง ลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่ยังอยู่ในตัวเธอ แรงสั่นสะเทือนจากการเดินของเขาทำเอาเจนแทบบ้า ความรู้สึกสะท้านไหวจากการเดินและจังหวะขึ้นลงที่เขาจับเธอขยับทำให้สมองขาวโพลน จนเมื่อเขามาหยุดที่โต๊ะข้างเตียงแล้วจับเธอวางลงในตำแหน่งที่พอเหมาะพอดีแล้วสอดกายเข้าออกจากกายเธอลึกๆ ช้าๆ เจนจึงเผลอมองความแข็งขึงที่ผลุบหายเข้าไปในความบอบบางอย่างห้ามใจไม่อยู่

หญิงสาวใช้มือดันหน้าท้องเขาไว้ อยากให้เขาผ่อนแรงลงให้เธอได้หยุดหายใจ แต่เขากลับไม่สนใจ ยังคงขยับเข้าออกเป็นจังหวะชวนหัวใจวาย

“เดนนิส” เจนทำได้เพียงเรียกชื่อเขาเมื่อไม่สามารถควบคุมสิ่งใดได้ ได้แต่ปล่อยให้เขากระทำตามแต่ใจต้องการ

“ทีนี้จะบอกอีกไหมว่าไม่ชอบ” เสียงห้าวทุ้มถาม เดนนิสขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน ใบหน้าคมแดงก่ำตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูง แต่ก็ยังอยากรู้ว่าเธอชื่นชอบการปรนเปรอของเขาแค่ไหน

“ไม่ค่ะ ฉันชอบที่คุณทำแบบนี้ อ๊า...” เธอตอบเขาเสียงสั่นตามจังหวะรักอันร้อนแรง

หนุ่มเจ้าสำราญดูเหมือนจะยังไม่พอใจ เขาถอดถอนกายออกมา จัดการยกเธอลงมายืนที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ จับหญิงสาวให้เผชิญกับภาพสวยงามตรงหน้า

“ผมชอบสีหน้าคุณตอนนี้ที่สุดรู้ไหม” เดนนิสบอกพร้อมสอดกายเข้ามาฝากฝังตัวตนกับเธอ ขยับเข้าออกรัวเร็วและรุนแรงตามใจปรารถนา

แต่ดูเหมือนมันยังไม่เป็นที่พอใจ เขาจับตัวหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งพร้อมจับขาเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นพาดไว้กับแขน แล้วสอดแทรกความเป็นชายกับดอกไม้ฉ่ำเยิ้ม คราวนี้ทั้งสองประสานเสียงกันอย่างสุขสม และในจังหวะที่เขารู้สึกถึงแรงบีบรัดและการเกร็งตัวของคนตรงหน้า ชายหนุ่มก็ขยับเข้าออกในจังหวะที่ชอบใจจนปลดปล่อยความสุขสมคับแน่นนั้นออกมา

“คุณทำอะไรกับผมกันแน่เจน ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้” เขาถามพร้อมยกมือขึ้นเสยผมชื้นเหงื่อของหญิงสาวที่อ่อนระทวยอยู่ข้างๆ

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย มีแต่คุณนั่นแหละทำฉัน” ประโยคท้ายแผ่วลงเพราะกลัวถูกดุ แต่เธอกลับได้รับเสียงหัวเราะชอบใจตอบกลับมาแทน


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น