1

ค่ำคืนแห่งบาป


1

ค่ำคืนแห่งบาป

 

ห้องที่สามารถปิดกั้นเสียงจากภายนอก สามารถปิดกั้นแสงได้เช่นกัน นั่นเป็นทั้งหมดที่ชายหนุ่มต้องการในเวลานี้ เพิ่มเติมจากสติที่พร่าเลือนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“นั่นใคร!!!” มหาภาพถามเสียงห้วน เพราะเขาอยากให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาออกไปให้พ้นๆ มากกว่าจะอยากรู้ว่าคนที่ยืนย้อนแสงไฟทางเดินคือใคร

ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับมหาภาพจะต้องยอมถอยออกไป เนื่องจากไม่ใช่นิสัยของเขาที่จะตวาดใส่ใคร แต่นอกจากจะไม่ทำตาม เงาร่างนั้นยังเคลื่อนอย่างเงียบเชียบเข้ามา

ชายหนุ่มหรี่ตามอง ก่อนประตูจะปิดเพื่อกั้นแสงจากทางเดิน เขาก็สังเกตเห็นเพียงทรงผมและเครื่องแต่งกายของผู้หญิงที่กำลังเข้ามา ผมดำขลับเป็นเงาและเสื้อกระโปรงเข้าชุดกันสีอ่อนคลุมเข่า ในบรรดาผู้หญิงที่เขารู้จักมีเพียงคนเดียวที่แต่งกายลักษณะนี้ บัวบูชา คู่หมั้นซึ่งกลายเป็นอดีตเมื่อสัปดาห์ก่อน

“บัวมาทำไม ผมไม่อยากคุยกับคุณ” ที่เขาเมาอยู่ตอนนี้ก็เพราะเธอ

มหาภาพไม่นึกเลยว่าบัวบูชาจะกลายเป็นคนที่เขาไม่อยากพบหน้าที่สุดในเวลานี้ ทั้งสองหมั้นหมายกันตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย แต่เพราะเธอยืนยันจะเรียนให้จบปริญญาเอกก่อนถึงจะแต่งงาน เขาถึงรอวันจะเข้าสู่พิธีวิวาห์ ไม่นึกเลยว่าคู่หมั้นที่ภายนอกแสนจะเรียบร้อยของเขา จะมีนิสัยชื่นชอบการมีเพศสัมพันธ์ต้องห้ามกับชายที่มีคนรักหรือภรรยาแล้ว หนำซ้ำยังนอกใจเขาหลายครั้ง

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเจ้าของอีเมลลึกลับเป็นใคร แต่ภายในอีเมลฉบับนั้นมีทั้งภาพและคลิปวิดีโอ ผู้ส่งอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ชายที่เธอแอบคบ เป็นคนที่โดนเธอทำร้ายจิตใจ หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่างก็ได้ แต่ที่เขารู้ก็คือ คนที่ส่งมันมาช่วยให้เขาตาสว่าง

หรือจะพูดให้ถูกก็คือ มหาภาพเลิกงมงายปล่อยให้ความรักบังตา ทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้ดี ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของบัวบูชาเป็นการหลอกลวงผู้คน จะให้พูดอย่างสุภาพคือเธอซ่อนความร้ายเอาไว้ลึกๆ หากจะใช้คำหยาบก็คือ เธอเป็นพวกแรดเงียบ ครั้งแรกของเขา ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอด้วยซ้ำ

อาจเพราะวันแรกที่เจอกัน เธอเป็นเด็กสาวอายุแค่สิบเอ็ดสิบสองในชุดกระโปรงสีขาวอ่อนหวานและน่ารัก เหมือนเด็กสาวที่ไม่ประสีประสาโลก ต่อให้หลังห่างกันไปหลายปี และเจอกันใหม่อีกครั้งตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่เมื่อเธออ้างว่าถูกคนรักสมัยมัธยมหลอกลวง เขาก็ยินดีเชื่อเธอ เชื่อในภาพลวงตาว่าเธอดีที่สุด

จุดอ่อนของมหาภาพคือผู้หญิงอ่อนแอ และบัวบูชาก็ใช้มันปั่นหัวเขาอย่างเชี่ยวชาญ ปิดบังผู้ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยว่ารักเขา พร้อมๆ กับแอบคบคนอื่น หากเขายังจับไม่ได้ ก็คงโง่งมอยู่เช่นนี้

“พอเถอะบัว ให้เราจบๆ กันไปเถอะ”

หากเป็นผู้ชายคนอื่นถูกคนรักสวมเขา ก็คงไม่เหลืออารมณ์พูดจาดีๆ เช่นนี้ แต่ไม่ใช่มหาภาพ ผู้ชอบแบกรับความผิดของคนรอบตัว เขาเพียงแค่โทษตัวเองที่ไม่ฉลาดพอจะมองเธอออก

อายุของเขาก็เข้าปีที่ยี่สิบสามย่างเข้ายี่สิบสี่ จบเกียรตินิยมวิศวกรรม อุตสาหการ ช่วยบิดาบริหารงานในบริษัทตั้งแต่ยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่กลับรู้ไม่ทันเล่ห์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ก็สมควรแล้วที่ต้องมาเมาหัวราน้ำ เผื่อเหล้าจะช่วยชำระความโง่ออกไป

“ผมบอกว่าให้ไปไงล่ะ”

ตลอดเวลาเธอไม่พูดสักคำ แต่เคลื่อนไหวช้าๆ เข้ามาหาเขา อาศัยเพียงเสียงของเขาในการนำทางในห้องที่มืดมิด กว่ามหาภาพจะรู้ตัว ก็มีร่างหนึ่งเข้ามาแนบชิด จากสัมผัสบอกว่าเธอถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ชายหนุ่มพยายามผลักไส แต่เธอกอดรัดเขาเต็มแรง ส่งผลให้เนื้อตัวนุ่มๆ แนบเข้าหา ปลุกสัญชาตญาณชายให้ลุกขึ้น

มหาภาพไม่รู้ว่าเหตุการณ์พลิกผันได้อย่างไร นาทีหนึ่งเขายังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง พยายามผลักร่างของบัวบูชาออก แต่อีกนาที เขากลับคร่อมตัวอยู่บนกายของเธอ เปลี่ยนการผลักไส เป็นบดเบียด ระบายอารมณ์โกรธไปสู่รูปแบบของตัณหาราคะ

สมองมึนงงด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จนยากจะแยกแยะ เขาไม่ทันครุ่นคิดถึงกลิ่นอายแปลกๆ บนตัวเธอด้วยซ้ำ ไม่ฉุกใจสักนิดว่าทำไมเธอถึงนิ่งเงียบตลอดเวลา เมื่อย้อนกลับมาคิดเรื่องนี้อีกครั้งในภายหลัง เขาก็จำได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนโยน ซึ่งเป็นกลิ่นกายของเธอ

กลิ่นที่ไม่ใช่น้ำหอมคลาสสิกประจำตัวของบัวบูชา แต่เป็นกลิ่นละมุนหอมติดปลายจมูก กลิ่นที่ทั้งอบอุ่นและปลุกเร้าในคราวเดียวกัน

เขาไม่คิดจะถอดเสื้อผ้าของตน ในเมื่อเธอเสนอตัวมารองรับอารมณ์ของเขา มหาภาพก็พร้อมจะมีอะไรกับเธอ อย่างน้อยก็เพื่อสั่งลา แล้วจะได้เพิ่มจุดจบลงต่อท้ายสิ่งที่จบไปแล้ว มือของเขาแค่ปลดกระดุมกางเกงรูดซิป แล้วปล่อยตัวตนของตัวออกมา

ตามปกติชายหนุ่มจะนุ่มนวลกว่านี้ แต่เขาเมามากเกินไป ประกอบกับยังมีอารมณ์แค้นเคืองเธออย่างเต็มเปี่ยม จึงไม่คิดจะถนอมเธอเช่นเคย

“บัว บัว” เขาเอ่ยชื่อเธอซ้ำๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่ส่งผลให้เธอมีปฏิกิริยาขัดขืนเป็นครั้งแรกนับจากก้าวเข้ามาในห้อง

เมื่อรับรู้ว่าร่างบอบบางด้านล่างมีท่าทีแข็งขืน เขาก็กดร่างเธอลงไปแล้วจัดแจงแยกเรียวขาของเธอให้อ้าออก ก่อนจะแทรกเข้าไปสุดทางในคราวเดียวอย่างไม่ถนอมแรง

“โอ๊ย!!!” เสียงร้องแสดงความเจ็บปวด ไม่เพียงเผยว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ ยังเปิดเผยว่าเธอเป็นใคร

“ลูกหยี...” ยากมากกว่ามหาภาพจะสามารถเปล่งเสียงออกมาเป็นคำได้

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่บัวบูชา คนรักของเขา แต่เธอคือมาหยารัศมี คนที่เขามองว่าเป็นน้องสาวแท้ๆ ตลอดมา

 

ขณะยืนอยู่หน้าห้องพักชั้นบนของร้านอาหารกึ่งผับชื่อดัง มาหยารัศมีก็ยังถามตัวเองว่ากำลังจะทำสิ่งที่วางแผนเอาไว้จริงๆ หรือ แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ มหาภาพก็ยังเป็นเพียงพี่ชายของเธอ ไม่มีวันเปลี่ยนมาเป็นคนรัก

“อยากได้ภาพนักไม่ใช่เหรอ ไหนๆ ฉันกับเขาก็เลิกกันแล้ว ฉันจะสงเคราะห์ให้ก็ได้”

คำพูดเหล่านี้บัวบูชากำลังกล่าวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักล่าแต้มผู้ชาย แต่มาหยารัศมีบังเอิญได้ยินเข้า

ไม่ว่าในสายตาใครๆ บัวบูชาจะเป็นผู้หญิงสูงส่งแค่ไหน แต่มาหยารัศมีรู้ดีว่าศัตรูหัวใจของเธอเป็นนางมารร้ายที่สวมบทไร้เดียงสา ทว่าเนื้อแท้หยาบกระด้างอย่างที่กำลังแสดงออกในเวลานี้

น่าเสียดายที่ทุกคนมองกันเพียงเปลือกนอก คนเรียบร้อยพูดจาอ่อนหวานมักได้ตำแหน่งนางเอก ส่วนผู้หญิงพูดตรงไม่ยอมคนก็คือนางร้าย และมาหยารัศมีก็เป็นประเภทหลัง ซึ่งบัวบูชาไม่พลาดโอกาสจะนำความต่างของทั้งคู่มาแสดงให้ทุกคนใช้เปรียบเทียบ เพื่อให้ตนสูงขึ้น และกดคู่แข่งทางความรักลง

ใช่ว่ามาหยารัศมีจะไม่รู้สึกอะไรกับการถูกป้ายสีให้กลายเป็นนางมาร แต่ตราบใดที่พี่ภาพของเธอยังคงเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนร้ายกาจ หญิงสาวก็พร้อมจะไม่ไปหาเรื่องบัวบูชาตรงๆ เฝ้ารอวันที่หน้ากากนางเอกจะถูกฉีกกระชาก น่าเสียดายที่วันนั้นมาช้าเหลือเกิน และเมื่อมันมาถึงมหาภาพก็จมอยู่กับความเศร้า ดื่มเหล้าติดต่อกันหลายวันอย่างที่เขาไม่เคยทำ

ขณะมาหยารัศมีกำลังหาทางช่วยเขาออกจากความทุกข์ คู่ปรับของเธอก็กำลังเสนอแผนการชั่วๆ ให้ผู้หญิงอีกคนสวมรอยเข้าไปเสนอตัวให้แก่เขา โดยมีจุดประสงค์บางอย่างที่เธอขบคิดไม่เข้าใจ รู้แค่ว่าควรแทรกแซงแผนนี้ ไม่ใช่ให้มันล่ม แต่เอาตัวเข้าไปแทนที่

เพราะถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ เธอกับเขาก็อาจจะไม่มีโอกาสตลอดไป

อีกไม่ถึงสัปดาห์ พ่อของมาหยารัศมีก็จะบังคับให้เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ห่างจากมหาภาพไปครึ่งโลก กว่าจะจบระดับปริญญาโทก็น่าจะไม่ต่ำกว่าสองปี เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะยังเหลือตำแหน่งน้องสาวคนสนิทเอาไว้ให้เธอไหม ส่วนตำแหน่งคนรักนั้น ต่อให้หลอกตัวเอง เธอยังคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้

“จะทำหรือไม่ทำ นี่เป็นโอกาสเดียวแล้วนะที่เธอจะได้ภาพไป”

คำถามนี้เหมือนหลุมพรางที่รอให้บางคนกระโดดลงไปสู่กับดักมรณะ แต่มาหยารัศมีกลับเต็มใจกระโจน เธอแอบฟังจนจบแผน รอให้บัวบูชาจากไป แล้วค่อยตรงไปดักหน้าผู้หญิงอีกคน

“ห้ามยุ่งกับพี่ภาพ”

คนที่รู้จักมหาภาพย่อมรู้จักน้องสาวต่างสายเลือดที่คอยตามเขาไปทุกที่อย่างมาหยารัศมี และคนที่รู้จักมาหยารัศมีต่างก็รู้ว่าเธอร้ายกาจแค่ไหน โดยเฉพาะกับคนตรงหน้าที่เธอรังแกมานับครั้งไม่ถ้วน เพราะบังอาจร่วมมือกับบัวบูชาหาเรื่องเธอหลายต่อหลายครั้ง ขณะเดียวกันก็ชอบทำตัวเป็นแมวขโมย จ้องจะงาบผู้ชายของเพื่อนตลอดเวลา

“ห้ามไปบอกบัวว่าเธอเปลี่ยนใจเข้าใจไหม”

มาหยารัศมีข่มขู่จนแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ขัดขืน ก่อนจะเร่งมือจัดการให้แผนดำเนินการจนลุล่วง โดยมีเธอเป็นคนจัดการสร้างมลทินให้ผู้ชายที่ซื่อสัตย์ต่อคำว่ารักอย่างมหาภาพ ตลอดเวลาที่ดำเนินแผนการ ไม่ว่าจะหาซื้อเสื้อผ้าเลียนแบบบัวบูชา หรือจัดการให้ได้กุญแจห้อง

จนเปิดประตูห้องเข้าไปได้ยินเสียงของมหาภาพ มาหยารัศมียังไม่ตระหนักว่านอกจากจะก่อบาปกับเขา เธอกำลังสร้างตราบาปให้แก่ทั้งคู่

 

มหาภาพไม่รู้ว่ามาหยารัศมีมาที่นี่ได้อย่างไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมทั้งคู่อยู่ในสภาพจะเดินหน้าก็ไม่ได้ จะถอยก็ไม่ได้เช่นนี้ เขาอยู่ในกายเธอ พร้อมสมองที่กำลังจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

“ลูกหยีเจ็บ...ออกไป...” คำพูดของเธอเจือความเจ็บปวดจนขาดเป็นห้วงๆ สองมือผลักอกเขาเต็มแรงอย่างไร้ความหมาย

“พี่...ขอโทษ...อย่า...ลูกหยี...อย่าขยับ...”

เขาเอ่ยเตือนกระท่อนกระแท่น พยายามบังคับสติที่กำลังขาดอย่างสุดความสามารถ แต่เธอไม่เคยเก่งเรื่องรับฟังคำพูดของใคร ร่างบางพยายามเคลื่อนไหวเพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด นั่นมากเกินกว่าความอดทนของเขาจะมีได้ ร่างสูงเคลื่อนไหวด้วยตัวมันเอง

“โอ๊ย!!!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเธอดังลั่นอยู่ข้างหู แต่เลือดร้อนๆ ที่ไหลพล่านทั่วกายของเขากลบมันไปจนสิ้น

ชายหนุ่มเคลื่อนไหวด้วยจังหวะที่ห่างไกลจากคำว่านุ่มนวล และไม่เหมาะอย่างยิ่งกับร่างกายที่ใหม่สดกับเกมรักของหญิงสาว

“พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษ...” ปากของเขาพร่ำพูดประโยคสั้นๆ นี้ แต่ไม่อาจหยุดการกระทำ

สัญชาตญาณสัตว์ป่ายังคงหลงเหลืออยู่ในตัวคนที่เจริญแล้ว และมหาภาพพิสูจน์มันในเวลานี้ รวมกับความเมามายก่อนหน้าทำให้สมองของเขาตัดขาดจากร่างกายโดยสมบูรณ์

เวลาแห่งสายลมกระโชกพัดผ่านไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ หรืออาจจะเพียงไม่กี่วินาที เสียงคำรามของเขาก็ดังก้อง ก่อนจะซบลงบนร่างที่สั่นระริกราวลูกนก ซึ่งหยุดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดไปแล้ว

และเหล้ากับความเหนื่อยล้าที่เคี่ยวกรำจิตใจมาหลายวัน ก็ทำให้มหาภาพทำเรื่องผิดพลาดอย่างไม่อาจให้อภัยอีกเรื่อง เขาหลับไปโดยทิ้งมาหยารัศมีให้เผชิญกับสถานการณ์ที่เหลือตามลำพัง

 

ทุกอย่างบนโลกไม่อาจหยุดหมุนเพียงเพราะเราไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับมัน

แต่เมื่อลมหายใจผ่าวร้อนของมหาภาพเป่ารดเธอเป็นจังหวะ มาหยารัศมีก็รู้สึกเหมือนตนรอดพ้นโทษประหารชั่วคราว หรือไม่เธอก็ตายไปแล้ว และอยากจะพาร่างของตนไปให้พ้นจากที่นี่ให้ไวที่สุดโดยไม่ต้องฝืนบังคับจิตใจไม่ให้พังทลายไปมากกว่านี้

ร่างของมหาภาพหนักอึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ มาหยารัศมีต้องรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะเลื่อนเขาไปนอนข้างๆ ได้สำเร็จ แต่ขณะที่ผลักเขาออกจากตัว เธอก็แทบจะกลั้นเสียงร้องเพราะความเจ็บปวดเอาไว้ไม่ได้

เธอเจ็บ ไม่ใช่แค่เฉพาะร่างกาย แต่เจ็บไปถึงหัวใจ ชั่วขณะที่มหาภาพทาบร่างขึ้นเหนือตัวเธอ สิ่งที่กระจ่างชัดในสมองของมาหยารัศมีในเวลานั้นก็คือ เขานึกว่าเธอคือบัวบูชา

แม้นี่จะเป็นแผนการที่เธอเจตนาเอาตัวเองมาแทรก แต่มาหยารัศมีเพิ่งจะแจ่มแจ้งเมื่อสายเกินไปว่ามันเป็นความผิดพลาดเพียงไหน มันมากเสียยิ่งกว่าความผิดพลาดทั้งหมดที่เธอเคยทำมาชั่วชีวิต และต่อให้เธอสามารถหายใจอยู่บนโลกไปอีกร้อยปี เธอก็จะไม่มีวันให้อภัยตนเองเลย

หญิงสาวข่มน้ำร้อนๆ ที่คลออยู่บนดวงตาให้ไหลกลับลงไป เธอยังมีเวลามากมายสำหรับก่นด่าตัวเอง ทว่าไม่ใช่เวลานี้ สัญชาตญาณของสัตว์บาดเจ็บบอกให้เธอกลับบ้าน ถึงที่นั่นจะไม่มีใครคอยปลอบประโลมเธอ แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่ แล้วรอเผชิญหน้ากับคนที่ทำให้เธอตัดสินใจก่อเรื่องโง่ๆ

การพยายามเคลื่อนไหวขณะร่างกายแทบแหลกเป็นชิ้นๆ ในที่มืดเป็นเรื่องยากลำบาก ในที่สุดมาหยารัศมีก็ยอมเสี่ยงเปิดโคมไฟบนโต๊ะข้างเตียง แสงที่ไม่สว่างนักไม่ได้รบกวนการหลับลึกของมหาภาพอย่างที่เธอกลัว ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ฝืนข่มความเจ็บปวดกึ่งกลางร่างสวมใส่เสื้อผ้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่พยายามเหลือบมองไปยังร่างของเขา แต่ท้ายสุดก่อนจะก้าวออกไป เธอก็ห้ามใจไม่ไหว

ชายที่นอนอยู่บนผ้าปูสีขาวเป็นคนที่พรากความสาวของเธอไปด้วยความเต็มใจของเธอเอง สีแดงบนผ้าปูยืนยันเช่นนั้น คนที่เธอควรโกรธเกลียดจึงเป็นตัวเธอ ไม่ใช่เขา เธอบอกตัวเองซ้ำๆ แล้วย้ำให้รีบจากไปเสียที

สองเท้าของมาหยารัศมีพาตัวเดินออกจากห้อง ไปให้ไกลจากมหาภาพมากที่สุดตามสมองสั่งการ แต่ความบริสุทธิ์ของเธอถูกทิ้งอยู่ที่นั่น แล้วทิ้งรอยบาปเอาไว้ในใจของเธอแทน

 

รสชาติน้ำแห่งบาปติดอยู่ลำคอของเขา มันชวนให้รู้สึกแย่ตอนตื่นนอนพร้อมสมองที่ปวดร้าว แต่ไม่แย่เท่ากับตอนที่สมองทำงานได้ดีขึ้น แล้วรู้ว่าตนทำผิดมหันต์แค่ไหนตอนขาดสติ

มาหยารัศมีเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของเขา มหาภาพคอยดูแลเธอตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากครอบครัวของเขาและเธอสนิทสนมกันตั้งแต่รุ่นบิดา พ่อของเขาไม่มีเวลาให้ครอบครัวเพราะเรื่องผู้หญิง ในขณะที่พ่อของเธอไม่มีเวลาให้ลูกเพราะเรื่องงาน เขาจึงรับหน้าที่พี่ชายคอยปกป้องเธอจากเหตุการณ์ร้ายๆ ผู้ชายไม่ดี แต่เขากลับกลายร่างเป็นคนประเภทนั้น แล้วทำเรื่องร้ายต่อเธอเสียเอง

มหาภาพแยกแยะเรื่องราวในหัว เขาไม่รู้ว่ามาหยารัศมีมาได้อย่างไรเมื่อคืนนี้ แต่เขารู้ว่าตนทำอะไรลงไปบ้าง ชายหนุ่มอยากจะพุ่งตรงไปหาเธอเพื่อพูดคุย แต่สภาพของเขาไม่เหมาะจะทำเช่นนั้น ต่อให้อาบน้ำล้างหน้า เสื้อผ้าก็ยังคงเป็นชุดเมื่อวาน เขาจึงตรงกลับบ้าน แล้วพบปัญหาที่รออยู่

“เมื่อคืนทำไมภาพถึงทำอย่างนั้น ทำไมถึงนอกใจบัว”

คนที่กำลังกล่าวหาเขาไม่ใช่บัวบูชาที่ร้องไห้กระซิกราวถูกทำร้ายสาหัส แต่เป็นกมลชนก น้าสาวแท้ๆ ของมหาภาพ ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเด็ก

“บัวบอกน้ามลว่าผมมีคนอื่นเหรอครับ” เขาทวนคำช้าๆ แต่ผู้เป็นน้าตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์

“ภาพจะบอกว่าบัวโกหกเหรอ ในเมื่อคนที่มีอะไรกับภาพเป็นเพื่อนสนิทของเขา น้าเคยขอภาพแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าเจ้าชู้เหมือนพ่อ”

กมลชนกเคยขอเช่นนั้นจริง ถึงเธอจะเป็นภรรยาคนที่สองของมานพ ผู้เป็นบิดาของมหาภาพ แต่นั่นก็ไม่ช่วยเธอจากการทำใจยอมรับความเจ็บช้ำที่สามีไม่หยุดมีผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อยๆ แต่น้ำเสียงกล่าวหาของเธอ ก็ไม่หยุดข้อสงสัยของคนฟังเช่นกัน

ไม่เคยมีใครบอกว่ามหาภาพเป็นคนสมองช้า ถึงร่างกายจะยังไม่ฟื้นจากแอลกอฮอล์เต็มร้อย แต่สมองของเขาก็ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลาไม่นาน

คนที่รู้เหตุการณ์เมื่อคืนควรมีเพียงมหาภาพกับมาหยารัศมี หนำซ้ำบัวบูชายังกล่าวว่าเขามีอะไรกับเพื่อนสนิทของเธอด้วย แสดงให้เห็นว่ามีคนวางแผนการบางอย่างเอาไว้ แล้วเขาก็กลายเป็นแพะรับบาป เป็นผู้ชายที่นอกใจคนรัก ทั้งที่คนผิดตัวจริงตีหน้าเศร้าเป็นผู้เสียหาย ปล่อยให้เขาถูกพิพากษา

“เพื่อนสนิทของบัว คนไหนครับ เมื่อคืนผมยอมรับว่าผมเมาหนัก แต่ผมไม่ได้เมาขนาดจำไม่ได้ว่าเจอใครบ้าง แล้วก็ไม่เห็นเพื่อนของบัวเลยสักคน”

น้ำเสียงจริงจังของมหาภาพหยุดทั้งคำกล่าวหาของกมลชนกและการร้องไห้ของบัวบูชา เพราะทุกคนที่สนิทสนมกับเขาล้วนรู้ดีว่าเขาไม่เคยโกหก

“กะ... ก็น้ำชาบอกบัวอย่างนั้นนี่คะ”

“น้ำชาที่มีคนลือว่าเป็นเมียน้อยเสี่ยน่ะหรือ”

ยากที่สุภาพบุรุษอย่างมหาภาพจะว่าร้ายผู้หญิงคนหนึ่งลับหลัง แต่ตอนนี้เขาโกรธมากพอจะหักคอผู้หญิงตรงหน้าได้ด้วยซ้ำ

การกระทำของมาหยารัศมี มหาภาพอาจยังไม่เข้าใจนัก แต่การมาเรียกร้องความเห็นใจของบัวบูชา ทำให้เขารู้ถึงเจตนาของเธอ

แผนการร้ายของเธอเป็นรูปร่างในสมองของเขา บัวบูชาต้องให้เพื่อนเข้าหาเขาตอนเมา เธอจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมหาภาพเมื่อคืน จุดประสงค์ของเธอก็คือสาดโคลนใส่เขา เปลี่ยนให้เขาเป็นฝ่ายนอกใจเธอ และเขาคือคนผิด ต่อจากนั้นเขาจะละอายใจกลับไปคบกับเธอหรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือเหตุผลในการกล่าวอ้างกับคนอื่น ว่าตนไม่ใช่คนทรยศต่อความรักของทั้งคู่

“บัวพูดเหรอครับ ว่าผมนอกใจบัว” สายตาของมหาภาพจับนิ่งอยู่บนหน้าบัวบูชา แต่เธอไม่กล้าพูดสักคำ

“แต่เมื่อคืนภาพไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน” น้ำเสียงของกมลชนกยังเจือแววกล่าวหา แต่อ่อนลงไปมาก ถึงเธอจะเอ็นดูบัวบูชาในฐานะว่าที่หลานสะใภ้ ทว่าเทียบความรักใคร่ที่มอบให้แก่มหาภาพไม่ได้เลยสักนิด

“ผมยอมรับว่าเมื่อคืนผมไม่อยากขับรถกลับบ้านตอนเมา เลยนอนในห้องพักชั้นบนร้านเหล้าของป้อง”

เพื่อนทรยศจะเป็นอีกคนที่มหาภาพตามไปเล่นงาน ชิ้นส่วนความจริงถูกรวมเข้าไปอีกชิ้นเพื่อบอกเขาว่าเหตุใดเมื่อคืนมาหยารัศมีถึงสามารถเข้าไปในห้องนั้นขณะเขากำลังมึนเมาอยู่บนเตียงได้

“แล้วทำไมภาพถึงได้ทำตัวเหลวไหลขนาดนั้น”

“ผมขอไม่เล่าดีกว่าครับน้ามล”

ถึงที่สุดมหาภาพก็ไม่อาจทำลายชื่อเสียงของบัวบูชาในสายตากมลชนกได้ แต่สายตาของเขากวาดไปมองหน้าเธอ เตือนว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะไม่ฉีกหน้ากากสาวใสซื่อของเธอทิ้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ ผมจะรีบไปข้างนอก” เมื่อถูกผู้เป็นน้าซักไซ้ เขาจึงต้องยอมบอก

“ผมมีธุระต้องไปคุยกับลูกหยี”

“ภาพ!!!” สองเสียงแทบจะประสานเป็นเสียงเดียว และไม่ปิดบังความรู้สึกไม่ชอบหน้าเอาไว้

มหาภาพไม่อยากเสียเวลาโต้แย้งหรือตอบคำถามที่เขาไม่อยากจะตอบอีก ขายาวๆ ก้าวขึ้นไปชั้นบน อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่ เขากำลังผลุนผลันเพื่อออกจากบ้านของตนไปหามาหยารัศมีที่ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร แต่รีบมากแค่ไหน ก็ยังไม่รวดเร็วเท่าที่ใจของเขาต้องการ

เพราะมหาภาพอยากรู้ใจแทบขาด ว่าอะไร หรือสิ่งไหนที่ทำให้มาหยารัศมีพาตัวเข้ามารับตราบาปจากเขา

ทว่าคำตอบที่อยากรู้ ยังไม่ถึงเวลาได้รู้ เพราะจังหวะที่ขาของมหาภาพกำลังจะก้าวออกจากบ้าน ก็มีเสียงโครมครามเหมือนอะไรหนักๆ กระแทกพื้น ตามด้วยเสียงร้องตะโกนดังขึ้นด้านหลัง

“ภาพ!!! แย่แล้ว น้ามลเป็นลม”


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น