บทนำ
ภายในลิฟต์เงียบกริบ
อันองค์ยืนหมดอาลัยตายอยากอยู่ในห้องโดยสารสี่เหลี่ยมที่พุ่งขึ้นๆ ไม่หยุด บานประตูโลหะสีเงินสะท้อนภาพหญิงสาวร่างผอมบางซึ่งมีชายร่างใหญ่สี่คนยืนประกบอยู่รอบด้านด้วยท่าทางคุกคามสุดๆ เธอยังไม่ได้กินอะไรหลังจากนอนหลับๆ ตื่นๆ บนเครื่องบินมาสิบสี่ชั่วโมงและลงสู่พื้นโลกอย่างมึนงงด้วยอาการเจ็ตแล็ก
หากย้อนกลับไปเมื่อราวเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้อันองค์เพิ่งลงจากเครื่องบิน (อย่างปลอดภัย มีกระทบกระแทกนิดหน่อยตอนแลนดิง) หลังจากผ่านพิธีการอันยืดยาดน่ารำคาญของด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินหญิงสาวก็เดินตัวปลิวเข้ามา สัมภาระของเธอมีเพียงเป้ใบย่อมที่มีเสื้อผ้าหนึ่งชุดและของใช้จำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่หนึ่งวันที่ไหนก็ได้ในโลก (ที่โคตรจะไม่น่าอยู่) ใบนี้
ย้อนกลับไปอีกทีสิบกว่าชั่วโมงก่อนหน้านั้น เธอไม่มีความคิดจะกลับมาที่นี่อีกเลย
...ถ้าไม่เพราะ
‘คุณอัคราต้องการพบ’
คำสั่งสั้นๆ นั้นมาพร้อมพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่เร็วที่สุด ทำให้เธอจำต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง
ย้อนไปก่อนหน้านี้อีก...
พอแล้ว!
หลังจากสิบกว่าชั่วโมงอันแสนทรมานบนเครื่องบวกอาการเมาบก หญิงสาวที่สภาพไม่พร้อมสำหรับอะไรสักสิ่งเดินโซเซอย่างใจลอยออกจากสนามบิน เธอถูกผู้ชายตัวใหญ่ฝูงหนึ่งประกบตัวแล้วลากขึ้นรถพามาที่นี่ โทรศัพท์มือถือที่เธอเพิ่งนึกได้ว่าลืมกดออดจากโหมดเครื่องบินก็เด้งเตือนข้อความที่ช้าไปเกือบหนึ่งชั่วโมงอย่างน่าโมโห
เวย์ : อย่าขึ้นรถ!
‘ไม่ทันแล้วโว้ย!’
หญิงสาวกัดฟัน พิมพ์ตอบรัวๆ ขณะคนที่ประกบซ้ายขวาบีบแขนเธอไว้แน่น เท่านั้นไม่พอที่เอวเธอยังมีโลหะเย็นๆ จ่ออยู่อีก...แม่งเอ๊ย!...โดนยิงที่พุงนอกจากไม่ตายในทันที ยังเจ็บมากๆ อีกด้วย!
คนคิดกลัวเจ็บจนต้องยืนนิ่ง ยอมถูกคุมตัวไว้ดีกว่าต้องเจ็บตัว ชายฉกรรจ์ทั้งหมดเป็นลูกน้องของอรรถ พี่ชายเธอเอง ลูกชายคุณอัคราหรือเจ้าสัวอัครา
ซึ่งก็ใช่...พ่อเธอเองอีกนั่นแหละ
เพียงแต่ช่วงหลังๆ ความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นเกินกว่าคำว่าร้าวฉานไปมากนัก เรียกว่าดิ่งลงนรกเลยดีกว่า
อันองค์ไม่แน่ใจว่าคุณอัคราต้องการพบเธอทำไม และเหตุใดลูกน้องของอรรถถึงพาตัวเธอมาที่นี่...
โรงแรมอรรณพเป็นโรงแรมหรูระดับตำนานแห่งแรกๆ ที่ชูจุดขายเรื่องวิวแม่น้ำสายสำคัญว่ามองเห็นวิวแม่น้ำแบบร้อยแปดสิบองศาได้จากห้องพักโซนพิเศษ แม้จะค่อนข้างเก่า แต่ด้วยการตกแต่งที่หรูหราและทำเลใจกลางเมืองในเขตราคาที่ดินต่อตารางวาสูงเกินเจ็ดหลัก ทำให้โรงแรมกลางเมืองแห่งนี้มีค่าเช่าแพงระยับ แขกวีไอพีมีตั้งแต่มหาเศรษฐี นักการเมืองไปจนถึงเชื้อพระวงศ์ หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นใครก็ได้ที่มีปัญญาจ่ายค่าที่พักคืนละหลายแสน
โรงแรมแห่งนี้อยู่ในความครอบครองของอรรถ...พี่ชายคนที่สี่ที่รับสืบทอดมาอีกทีจากอรรณพ...เจ้าของชื่อโรงแรมอีกที และเป็นพี่ชายคนที่สามของเธอ แต่ตอนนี้มีหลักฐานน่าเชื่อถือได้หลายอย่างว่า ร่างของเขาน่าจะจมอยู่ก้นอ่าวไทยที่ไหนสักแห่ง...ด้วยฝีมืออรรถนั่นละ ที่จัดการลูกเมียของพี่ชายให้ตามไปอยู่ด้วยกันยกครัว ก่อนจะเข้าครอบครองทรัพย์สินของพี่ชายคนที่สามหน้าตาเฉย
ไม่ต้องกังวลไป...กับพี่หรือน้องคนอื่นๆ อรรถก็ทำอย่างเดียวกัน ยกเว้นเธอเท่านั้นที่มันยังฆ่าไม่ตาย!
ติ๊ง! เสียงกริ่งเตือนดังขึ้นเมื่อมาถึงชั้นที่ต้องการ หลังจากบานประตูโลหะเปิดออก หญิงสาวก็ถูกผลักออกมายังโถงทางเดินหรูหราของห้องพักวีไอพีซึ่งกินพื้นที่ทั้งชั้น เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงอันองค์จึงรู้ว่าพวกที่มาด้วยทั้งหมดไม่ได้ออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน...เธอถูกพามาทิ้งไว้ที่นี่เพียงคนเดียว
เบื้องหน้าคือกลุ่มชายชาวต่างชาติอย่างน้อยแปดคน แต่ละคนสูงไม่ต่ำกว่าหกฟุตสองนิ้ว ทุกคนสวมสูทราคาแพงที่เนี้ยบสุดๆ ดูจากท่าทางถ้าไม่เป็นบอดีการ์ดมืออาชีพก็อาจเป็นทหารรับจ้าง ดูอย่างไรก็ไม่ใช่คนของคุณอัคราหรืออรรถ น่าจะเป็นคนคุ้มกันของบรรดาแขกวีไอพีที่เข้ามาพักเสียมากกว่า
ชายฉกรรจ์หน้าดุเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่เท่าๆ กับที่พวกเขาไม่รู้ว่าเธอมาทำไมเช่นกัน พวกเขาตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยส่วนตัวของแขกวีไอพีและถามไถ่กันเองอยู่ชั่วพัก ก่อนจะเข้ามาขอค้นตัวเธอ อันองค์ส่งกระเป๋าให้เอาไปตรวจดีๆ ไม่ดื้อ ไม่ขัดขืน ระหว่างที่ถูกค้นตัวเธอก็ส่งพิกัดใส่มือถือให้ปลายสายของเธอรับรู้ พร้อมสำทับไปว่าถ้าไม่มาในสิบนาทีนี้...ถ้าเธอไม่ตาย 'มัน' แหละตาย!
เวย์ : กำลังไป
อัน : เกิดไรขึ้นวะ?
คู่สนทนาทางโทรศัพท์มือถือยังไม่ทันตอบ หญิงสาวก็เหลือบเห็นใครคนหนึ่งที่ทำให้ประกายหวั่นไหววูบขึ้นในดวงตาเธอเมื่อจำได้ว่าเขาเป็นใคร
อเล็กซ์ วิลสัน
ชายชาวอเมริกันผมทอง นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาว ร่างสูงใหญ่คนนั้นเป็นบอดีการ์ดฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งและเป็นมือขวาของมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน หากเขาอยู่ที่นี่ย่อมหมายความว่าเจ้านายของเขาอยู่ที่นี่ด้วยแหงๆ และหมอนั่นเป็นคนเกือบๆ สุดท้ายในโลกที่เธอจะอยากเจอหรือตอแยด้วย
อันองค์ร้อนรนอยู่ในใจขณะที่ข้อความตอบกลับจากเวย์เด้งดึ๋งขึ้นมา ซึ่งไม่ทันอีกแล้ว
เวย์ : กริซลี!
หญิงสาวสบถในใจ ขณะอเล็กซ์เดินตรงมาเพื่อตรวจสอบความผิดปกติของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเธอ
‘ไอ้อรรถ! ไหนว่าพ่ออยากเจอฉันไง ไอ้สารเลวเอ๊ย!’
"คุณเป็นใคร?" อเล็กซ์ถามพร้อมกับสำรวจพาสปอร์ตของเธอซึ่งถูกค้นออกมาจากเป้ที่โดนยึดไว้ ชายหนุ่มชาวอเมริกันขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยเมื่อมองเธอหัวจดเท้า หญิงสาวชาวไทยผิวขาวซีดที่สวมเพียงเสื้อยืดแขนยาวสีขาวไร้ยี่ห้อกับกางเกงยีนซีดๆ เก่าๆ และรองเท้าผ้าใบซึ่งดูจากสภาพไม่น่าจะผ่านขึ้นมาถึงชั้นวีไอพีได้
ถึงแววตาเขาเหมือนสื่อว่า มันต้องมีความผิดปกติอะไรสักอย่าง แต่อันองค์พบว่าไม่มีร่องรอยจดจำได้ในสีหน้านั้น อืม...อย่างน้อยเขาน่าจะจำเธอไม่ได้...นั่นเป็นข่าวดี แต่...ปัญหาคือ...เธอลืมไปแล้วว่าเวย์มันใส่ชื่อ-นามสกุลอะไรมาให้ในพาสปอร์ต!
ตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาก็เบลอๆ ไม่ทันจำเสียด้วย หญิงสาวจึงตัดสินใจ...มั่ว เนียน แถให้ถึงที่สุด!
"ฉันมาหาคุณอัครา คุณอัคราอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะ"
เขาว่าการโกหกที่ดีคือให้มีความจริงอยู่บ้าง แถม...อันองค์โคตรมั่นใจเลยว่าคนพวกนี้ไม่มีทางรู้จักอีตาคุณอัคราแน่ๆ หญิงสาวเลยเอ่ยได้ไม่ละอายปาก ไม่กลัวด้วยว่าคนพวกนี้จะเอาชื่อคุณอัคราไปเสาะหาอะไรได้
เพราะหากเธอรอดจากที่นี่ไปได้ เธอก็จะล่องหนไป และอย่าหวังว่าชาตินี้จะได้เจอกันอีกเลย
"ที่นี่ไม่มีคุณอัครา" อเล็กซ์ตัดบทอย่างไม่เหลือเยื่อใย...ซึ่งดีมาก
"โอเค...งั้นฉันคงมาผิดที่ ขอตัวก่อนละ" อันองค์รีบจบบทสนทนา โล่งใจขึ้นมานิดหนึ่งที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเจ้านายของเขาได้แล้ว
หญิงสาวหมุนตัวฟึ่บ คิดจะจ้ำอ้าวออกไปให้เร็วที่สุด ถ้าประตูบานใกล้ๆ ไม่เปิดผาง
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนหน้าตาถมึงทึงอยู่ตรงกรอบประตูห่างออกไปไม่ถึงเมตรนั่นมัน...
จังหวะนรกแท้ๆ เลย!
ความคิดเห็น |
---|