9
“ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข รักกัน ให้อภัยกัน ดูแลกันดีๆ นะลูก” นาคราชลูบหัวนคราที่กราบแทบเท้าเขา ถึงแม้จะเติบโตในต่างแดน แต่ภรรยาเก่าก็ยังสอนให้บุตรสาวรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีไทยครบถ้วนทุกกระบวนความ ซึ่งหญิงสาวก็ทำได้แบบไม่เคอะเขินแม้แต่น้อย เรียกความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ทุกคนไม่เว้นแม่แต่ฉัตรบดินทร์ที่ยิ้มในหน้าทันที
ฝ่ายฉัตรบดินทร์เองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ท่วงท่าเป็นธรรมชาติไม่ขัดกับร่างกายใหญ่โต
“ฝากน้องด้วยนะฉัตร ลุงไว้ใจฉัตร หวังว่าฉัตรจะไม่ทำให้ลุงผิดหวัง” พ่อตาตบบ่าลูกเขยคนเดียว โดยที่อีกฝ่ายก็ก้มกราบที่ตักเจ้าพ่อใหญ่อีกครั้งแทนการให้คำมั่น
“มีอะไรบอกแม่ได้เลยนะนิคกี้ ไม่ต้องไปกลัวฉัตร ส่วนเราน่ะ...” คุณหญิงผู้โด่งดังในวงสังคมหันไปหาลูกชายคนเดียว ทายาทหลักที่จะสืบทอดธุรกิจครอบครัวและมรดกมหาศาล
“อย่าดุน้อง ดูแลน้องดีๆ ตามใจให้มากๆ แล้วก็รีบมีหลานให้แม่ไวๆ ถ้าแม่รู้ว่าเราทำน้องเสียใจ แม่เอาตายแน่” บุพการีฝ่ายชายรีบกำราบทายาทคนโตทันทีที่มาถึงพิธีสุดท้าย
เสียงหัวเราะครืนดังขึ้น พร้อมๆ กับฉัตรภพที่เออออไปกับภรรยา “ใช่ ถ้าฉัตรมันดื้อ แล้วหนูเอาไม่อยู่ โทร. สายตรงหาพ่อได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง พ่อจะจัดการให้”
ให้ท้ายลูกสะใภ้เสร็จ เจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ก็บอกลูกชายบ้าง “งานน่ะเพลาๆ ลงบ้าง แต่งงานแล้วก็แบ่งเวลามาดูแลเมีย ถ้าแกจัดการเองไม่ได้ ปล่อยให้นิคกี้เหงา เดี๋ยวพ่อจะสั่งเขาลดเวลาทำงานแกลงเอง” คนสวมหมวกเจ้านายด้วยออกคำสั่งกับลูกน้องที่มีสายเลือดเดียวกัน
ด้านนครากราบลงแทบเท้าบิดามารดาสามีอีกครั้ง ยิ้มหวานรับคำอย่างดี ก่อนจะหันไปหาบิดาทั้งแท้ทั้งเทียมและมารดาของตัวเอง
“ขอบคุณมากนะคะ นิคกี้จะทำให้ดีที่สุด” พูดและตั้งใจไว้เช่นนั้น หากหล่อนทำเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่เรื่องระหว่างหล่อนกับคนข้างๆ ไปไม่รอดก็ถือว่าไม่มีอะไรติดใจ คนหน้าสวยมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเล็กน้อย คิดว่าคงเจอสายตาดูถูก แต่กลับประหลาดใจเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเหมือนจะรับคำหล่อน
“ขอบคุณด้วยครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมเองก็จะทำเต็มที่เหมือนกัน” เท่านั้นมือหนาก็เอื้อมมากุมมือบาง บีบกระชับราวกับจะให้ความมั่นใจแก่อีกฝ่าย
ผู้ใหญ่ในที่นั้นยิ้มให้กัน เหลือแค่นคราที่ทำหน้าเหลอหลา ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนคนเป็นแม่ต้องออกปาก
“ไหว้พี่เขา ฝากเนื้อฝากตัวซะ ตามธรรมเนียมส่งตัว วันนี้พอพ่อแม่ออกไปแล้ว พรุ่งนี้พวกลูกค่อยออกจากห้องนะจ๊ะ พวกแม่ไปละ” พูดจบก็พยักพเยิดให้ผู้ใหญ่อีกสี่คนที่เหลือลุกขึ้น ปล่อยให้คู่สมรสหมาดๆ จัดการกันเอง
ร่างบอบบางเดินโขยกเขยกไปยังส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวเพื่อปลดเครื่องประดับ ตั้งใจว่าจะอาบน้ำสบายๆ แล้วนอนเสียให้เต็มปอดหลังจากที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามมานั่งหลังขดหลังแข็งให้ช่างชื่อดังแต่งหน้า แต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อเป็นเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไม่ต้องการในวันนี้ แต่นครายังเดินไปได้ไม่เท่าไรก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นที่ต้นแขน
“เหน็บกินหรือไง เดินเป็นคนพิการ” ปากเหน็บแนม แต่ประคองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาจนถึงห้องแต่งตัว และถือวิสาสะปลดตะขอสร้อยคอออกให้ ก่อนจะออกปากถามต่อ
“ผมนี่แกะเองได้ไหม หรือว่าจะให้ช่วย” ฉัตรบดินทร์ต้องกลั้นยิ้มไม่น้อย เมื่อเห็นหน้าของภรรยาสาวคนสวย
“แล้วเป็นไร ทำหน้ายังกับเห็นผี” คุณหมอใหญ่ถามขณะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง ตาดำขลับมองภาพสะท้อนของนคราในกระจกด้วยแววที่อ่านความหมายไม่ออก แต่ก็ทำให้สะใภ้แห่งฉัตราวุธหนาวๆ ร้อนๆ ได้ไม่น้อย
“กะ...กะ...ก็” นคราปากคอสั่นเมื่อเห็นท่าทางเอื้อเอ็นดูของเขา
“นิคกี้ตกใจที่พี่ฉัตรทำดีด้วยนี่คะ” หญิงสาวรับสร้อยคอมาจากมือเขาแล้วเก็บเข้ากล่องเครื่องประดับอย่างดี จากนั้นก็เอี้ยวคอให้พ้นรัศมีมือเขา “ส่วนผมเดี๋ยวนิคกี้จัดการเอง พี่ฉัตรไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ คงเสร็จพร้อมกันพอดี”
ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับ ยอมตัดใจปล่อยไปก่อน นึกขำหญิงสาวในใจ นึกว่าจะเก่งกล้า พอเขาทำท่าเอาจริงขึ้นมาก็ฉายความหวาดหวั่นเสียจนปิดไม่มิด
“ไม่ต้องรีบละ ว่าจะแช่น้ำสักครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่รังเกียจก็ตามลงอ่างได้นะ”
หย่อนระเบิดไว้แค่นั้น เจ้าตัวก็เดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้ภรรยาหมาดๆ นั่งอกสั่นขวัญแขวนเมื่อเห็นฉัตรบดินทร์มาดใหม่ที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องมาเจอ
เกินครึ่งชั่วโมงไปไม่มากประตูห้องน้ำก็เปิดออกพอให้ไอร้อนจากด้านในพวยพุ่งออกมากระทบอากาศเย็นด้านนอก เรียกความสนใจจากนคราที่เพิ่งจัดการตัวเองเสร็จและยืนมวยผมขณะที่สวมเสื้อคลุมอาบน้ำ คนหน้าสวยหันมองสามีที่เพิ่งได้มาอย่างงงๆ เขามีผ้าขนหนูเกาะสะโพกสอบ อีกมือใช้ผ้าผืนเล็กซับน้ำจากผม หยดน้ำพร่างพราวเกาะกล้ามท้องสวยงามแบบคนดูแลตัวเอง เล่นเอานคราตาพร่า สะบัดหน้าสองสามทีเรียกสติเพราะไม่เคยอยู่ร่วมกับผู้ชายที่ไหน โดยที่กิริยาดังกล่าวไม่ได้หลุดรอดการสังเกตของฉัตรบดินทร์ไปได้
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากโดยที่อีกฝ่ายไม่เห็น ก่อนจะปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบติดดุตามปกติ
“อาบน้ำซะ จะได้มานอน ตื่นแต่เช้านี่เรา”
นคราได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รับคำ ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปจัดการธุระส่วนตัว ปล่อยให้ฉัตรบดินทร์มองตามหลังไปเงียบๆ ทบทวนเรื่องที่ตัดสินใจได้ระหว่างอยู่ในห้องน้ำเมื่อครู่นี้
ถึงฉัตรบดินทร์จะไม่แปลกใจเมื่อตัวเองยอมตกลงแต่งงานกับนคราง่ายๆ แบบนั้น เพราะรู้ดีว่าเบื้องลึกในจิตใจรู้สึกอย่างไร ถึงแม้จะปากแข็ง หลอกตัวเองมาหลายปี แต่เจ้าของหัวใจอย่างเขาก็ต้องยอมรับความจริง แต่ที่ตลกคือทุกคนรอบตัวเขาดูเหมือนจะจับอาการ รับรู้ความรู้สึกทุกอย่างที่เขาแอบมีให้นคราได้ ถึงได้พูดเสี้ยมแกมสอนให้เขายอมรับหัวใจตัวเอง และไม่ปล่อยให้ชีวิตคู่ที่เริ่มต้นแบบแปลกๆ ต้องพังทลายลง
ชายหนุ่มส่ายหัวน้อยๆ ไอ้รัก ไอ้ชอบ ไอ้หลงใหลพิศวาสเขาไม่เคยปฏิเสธ ผู้ชายที่ไหนก็ชอบผู้หญิงหน้าตาสวย หุ่นดี ยิ่งเขาเองคลุกคลีกับหญิงสาวมาตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งมีความผูกพันทวีคูณขึ้นไปอีก จะเหลือก็แต่ความไม่พอใจที่สาวน้อยแสนน่ารักของเขาในอดีตกลายเป็นสาวก๋ากั่นเจ้าเล่ห์ วางยาจนเป็นเหตุให้ต้องแต่งงานกันโดยไม่ได้บ่มเพาะความรัก แต่เอาเถอะ รักก็คือรัก คำพูดที่พี่เมียบอกเขายังก้องอยู่ในหู เล่นเอาคุณหมอหนุ่มหน้าชา
‘พี่ฉัตรนี่โตแต่ตัว ทำอะไรเป็นเด็กๆ’
หน้าหล่อตึงทันที ถึงจะสนิทแค่ไหนก็ตาม ‘พูดอะไร’
‘นิคกี้ เห็นอายุแค่นั้น แต่กลายเป็นว่าแมนกว่าพี่เยอะ คิดอะไรรู้สึกยังไงก็กล้ายอมรับ ถามจริงเหอะ ฝืนใจตัวเองมันเหนื่อยไหมพี่’
ได้ยินแบบนั้นฉัตรบดินทร์ก็สะอึก จ้องคนที่รักเป็นน้องชายทันที ‘หมายความว่ายังไง’
นคเรศส่ายหัวให้ความท่ามากของคุณหมอใหญ่ ก่อนพูดตรงๆ ตามประสาลูกเจ้าพ่อ
‘เลิกเต๊ะท่าเถอะ ชอบเขา อยากได้เขาก็แสดงออกไป รู้อยู่เต็มอกว่านิคกี้รักพี่ ได้แบบไม่ต้องลุ้นด้วยซ้ำ’
ได้ยินแบบนั้นฉัตรบดินทร์ก็หน้าแดง
‘ทิฐิ ศักดิ์ศรี อคติอะไรวางบ้าง ทิ้งบ้างพี่ ชีวิตคนเราสั้นจะตาย ทำไมไม่หาความสุขใส่ตัว เมื่อก่อนพี่อาจจะคิดว่านิคกี้เด็ก ใครรู้ว่าพี่รักพี่ชอบจะหาว่าพี่บ้า แต่นี่มันโตจนยี่สิบเอ็ด ตอนเรียนเมืองนอกผู้ชายรุมจีบมันตั้งแต่อายุสิบห้า แถมพี่กำลังจะแต่งงานกัน ดังนั้นพี่คิดพี่รู้สึกอะไรกับนิคกี้ พี่ทำได้ แสดงออกได้ แต่ถ้าพี่ไม่ทำ วันหนึ่งพี่เสียนิคกี้ไป ผมนี่แหละจะสมน้ำหน้าพี่ให้ดู’
ฉัตรบดินทร์หลุดออกจากภวังค์เมื่อนคราเปิดประตูห้องน้ำออกมา สาวสวยเผยผิวใสแบบที่เขาไม่เคยเห็น ผมยาวเปียกลู่หน้า ร่างบางมีชุดนอนแบบเชิ้ตเดรสเป็นผ้าซาตินดูหรูหราสมราคาลูกเจ้าพ่อใหญ่ ในใจนึกว่าอีกคนใช้เวลาในห้องน้ำน้อยกว่าที่เขาคาดคิด
“ทำไมไม่เป่าผม นิคกี้” คำพูดเดิมๆ ที่เขาเคยพูดสมัยสาวสวยคนนี้เป็นเด็กแล้วมาเล่นน้ำที่บ้านเขากับฉัตรระวี สองสาวน้อยก็ไม่ยอมเป่าผมให้แห้งแบบนี้จนเป็นไข้กันทั้งคู่ เดือดร้อนเขาต้องกลับจากเวรที่โรงพยาบาลทุกวันเพื่อมารักษาคนป่วยกิตติมศักดิ์ทั้งสอง
ด้านนคราก็พยักหน้ารับคำน้อยๆ แต่ไม่วายทำปากยื่นให้ความขี้บ่นของเขา ยอมเดินมาทำตามโดยง่าย จำคราวที่ป่วยซมได้ขึ้นใจ ทั้งโดนยากิน ยาฉีด เจ็บคอกินอะไรไม่ลงอยู่เป็นสัปดาห์ แถมยังจำได้ถึงสายตาไม่พอใจของฉัตรบดินทร์ ไม่พูดกับหล่อนไปเป็นสัปดาห์ เพราะเขาบ่นทั้งน้องสาวตัวเองและนคราหลายรอบว่าให้ดูแลตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะมานั่งเล่นเกมกันต่อ แต่ไม่มีใครฟังพี่ชายที่เป็นคุณหมอตรวจคนไข้มาหลายปี ท้ายที่สุดก็ป่วยหนักจนได้
“ไดร์เป่าผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ” คนสวยบอกเรียบๆ อธิบายให้ผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งฟัง
ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นให้หล่อนนั่งลงแทน ทั้งๆ ที่มีเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งสองตัว แบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยของหล่อนกับเขาอย่างเป็นสัดส่วน แต่คุณหมอรูปหล่อก็ยังไม่วายมาใช้บริการด้านของหล่อน จนนคราอดแปลกใจไม่ได้ว่าเขายังไม่ชินกับการมีข้าวของเครื่องใช้ของคนอื่นอยู่ในพื้นที่ของตนแน่ๆ ถึงรุกล้ำอาณาเขตกันแบบนี้ แต่ก็เดินเงียบๆ ไปจนถึงฝั่งของตน ก่อนจะบรรจงหวีผมยาวเปียกลู่ศีรษะทุย ซับน้ำอย่างทุลักทุเลเพราะน้อยครั้งที่นคราจะสระผมด้วยตัวเอง ท่าทางเก้กังจนฉัตรบดินทร์ที่สวมกางเกงนอนเรียบร้อยและตั้งท่าจะสวมเสื้อยืดหยุดค้างมองภาพนั้น พาดเสื้อขึ้นบ่าแล้วเดินมายืนซ้อนหลังภรรยาป้ายแดง
“นี่อย่าบอกนะว่าไม่เคยหวีผมเอง” น้ำเสียงทึ่งๆ ของชายหนุ่มทำเอานคราหน้าแดงก่ำ และคนตัวโตก็ได้แต่ส่ายหัว ถึงแม้จะประหลาดใจ แต่ก็ไม่เกินคาด รู้ดีว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เป็นไปได้มากสำหรับนคราที่มีคนรองมือรองเท้าตลอด
“แล้วปกติทำไง ต้องไปร้านทำผมทุกวันหรือไง” ฉัตรบดินทร์ถามเรียบๆ มือหนาคว้าหวีซี่ห่างจากนครามาถือไว้เอง ก่อนจะลงมือสางให้ด้วยความแผ่วเบา ในขณะที่มืออีกข้างก็ซับหยดน้ำที่ค้างบนผมไปด้วย
คนสวยหน้าสดเห็นแบบนั้นก็อดเขินกิริยาน่ารักที่เขามีให้ไม่ได้ ใจที่รักเขาเป็นทุนมันยิ่งหลงมากขึ้น แล้วก็อดวูบวาบไม่ได้เมื่อเห็นภาพสะท้อนในกระจก หนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่มีแค่กางเกงนอนผ้าฝ้ายเกาะสะโพกสอบซึ่งต่ำเสียจนเห็นไรขนผลุบหายเข้าไปในขอบกางเกง ตาหวานค่อยๆ เลื่อนสูงขึ้น ก่อนจะพบกับลูกระนาดเป็นระเบียบนับเร็วๆ ได้ถึงแปดลูกโชว์ความแข็งแรงท้าสายตาหล่อน อกสวยได้รูปแบบคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เรื่อยขึ้นไปจนถึงไหล่กว้าง
และนคราก็หน้าแดงซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะสามีที่หล่อนหลงรักยังสบตากับเงาสะท้อนของหล่อนที่ลอบสังเกตเขาอยู่เหมือนกัน มุมปากแดงยกขึ้น จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะเยาะก็ไม่เชิง ส่วนมือหนาก็ยังไม่หยุดบริการ
“ส่งไดร์มา เดี๋ยวจัดการให้” เสียงห้วนๆ แต่ปนหวานพิกลสะกดใจนครา
สาวสวยยื่นไดร์เป่าผมให้ผู้ชายที่ยืนซับผมหล่อนจนหมาดอยู่ด้านหลัง รอจนเขาบริการเสร็จสิ้นก็ยกมือไหว้
“จริงๆ ไม่รบกวนพี่ฉัตรก็ได้” คนเสียงหวานบอกอ้อมแอ้ม คนที่คิดว่าเก่งว่าแน่มาตลอดรู้สึกเหมือนตัวเล็กลงเหลือสองนิ้ว เพราะไม่สามารถดูแลตัวเองในเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้
“ปกตินิคกี้ให้ช่างมาสระให้ที่บ้าน นี่ลืมคิดไปเลย” ที่บ้านในส่วนของนครา เจ้าตัวออกแบบให้มีห้องสปาหรูหรา พร้อมทั้งเตียงสระผมและอุปกรณ์พร้อมสรรพเหมือนร้านชื่อดัง แต่ตอนมาจัดการเรื่องเรือนหอก็มัวแต่เก็บรายละเอียดหลัก จนลืมเรื่องนี้เสียสนิท คิ้วเรียวโก่งได้รูปตามธรรมชาติขมวดเล็กน้อย เนื่องจากกำลังหาทางแก้ปัญหาให้ตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าสามีตัวโตหาทางออกให้เสร็จสรรพ
“งั้นก็ให้คนมาจัดการตรงระเบียงหลังบ้านที่เคยบอกว่ากว้างไป เดี๋ยวจะให้ช่างมาจัดการให้”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกไปยังห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดจากห้องนอน ทิ้งให้นครางงกับอาการที่เปลี่ยนแปลงไปของเขาราวกลับหน้ามือเป็นหลังเท้า แต่สงสัยต่อได้ไม่นานก็กลับมาโฟกัสกับตัวเอง จนเสร็จสิ้นถึงได้เดินตามเขาไปเมื่อไม่เห็นฉัตรบดินทร์อยู่ในห้องนอน พบว่าคุณหมอใหญ่ยังยืนถือแก้วไวน์เลือกแผ่นเสียงอยู่
“พี่ฉัตรไม่นอนเหรอคะ” คนร่างบอบบางถามสามีพลางใช้มือถูแขนตัวเอง มองเขาแบบงงๆ อุณหภูมิในห้องนี้น่าจะต่ำกว่าสิบแปดองศา ขนาดชุดนอนของนคราเป็นเสื้อแขนยาวหล่อนยังสัมผัสได้ถึงไอเย็น แต่นี่อีกฝ่ายเดินอวดกล้ามท้องแปดชั้น พาดเสื้อนอนไว้บนบ่าเป็นพรอปเก๋ๆ ท่าทางไม่ร้อนไม่หนาวใดๆ ทั้งสิ้น
“นี่เพิ่งกี่โมงเอง พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ขอดื่มผ่อนคลายหน่อย ไม่ได้พักแบบนี้นานแล้ว” คนมีความรับผิดชอบมากมายบอกทั้งๆ ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
“รินไว้ให้ด้วย ที่โต๊ะ ดื่มสิ” จะชวนเมียดื่มฉลองชีวิตสมรสทั้งทีก็ท่ามาก ไม่กล้าพูดตรงๆ กอปรกับใจจริงก็กระดากไม่น้อยเพราะออกอาการกับอีกฝ่ายไว้มาก จะให้เขาปรับเปลี่ยนท่าทีตามความรู้สึกจริงๆ หล่อนคงได้หาว่าเขาบ้า ไม่ก็เป็นพวกเสแสร้งแกล้งทำ ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ตีเนียนซึมลึกไป นคราคงจะยอมรับได้ง่ายกว่า
ด้านนคราก็พยักหน้ารับรู้ เดินไปหยิบแก้วเครื่องดื่มสีทับทิมตามที่เขาบอก ก่อนจะเอ่ยปากชมจากใจจริง
“ไวน์ดีจังค่ะ” นคราจิบติดๆ กันสองอึกหลังจากดื่มด่ำกับจิบแรกเรียบร้อยแล้ว
“รสแบบนี้ กลิ่นแบบนี้ หนึ่งในห้าอรหันต์ไหมคะ” หล่อนเอ่ยถึงไวน์จากฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่ยอมรับของนักดื่มทั่วโลกสนนราคาชนิดที่ถ้าไม่มีเงินถุงเงินถังคงไม่เอามาลงกับอะไรแบบนี้
“ดื่มเก่งขนาดรู้เลยเหรอ” คราวนี้เป็นฉัตรบดินทร์ที่ประหลาดใจบ้าง เมื่อลิ้นนคราแยกแยะทุกอย่างได้ขนาดนี้
“ไหนทายมาซิ ยี่ห้อไหน” ได้ชื่อว่าห้าอรหันต์ ก็หมายความว่ามีถึงห้ายี่ห้อที่ได้รับการยอมรับ ชายหนุ่มนึกสนุกหาเรื่องมาละลายพฤติกรรมเขากับภรรยาบ้าง ด้านหญิงสาวก็รับคำท้า จิบอีกอึก ก่อนดอมดมไอไวน์ หลับตาพริ้มก่อนจะเริ่มบรรยาย
“กลิ่นดอกไม้แบบนี้ กลิ่นแบล็กเคอร์แรนต์แบบนี้ แถมมีกลิ่นไม้กับยาสูบ นิคกี้ว่า ชาโต ลาฟิต รอทส์ชิลด์ ค่ะ”
ได้ยินแบบนั้นฉัตรบดินทร์ก็ยิ้มกว้าง เมียเขานี่นอกจากสวยและเด็กแล้วยังรสนิยมดีอีกต่างหาก แต่คนแก่กว่าก็อดที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติไม่ได้ ก่อนหันมองนคราแล้วปรามเสียงเข้ม
“อายุเท่าไหร่กัน มาทำเป็นรู้เรื่องเหล้ายา” หน้าหล่อนิ่งเรียบ “อ่อ แต่ก็คงรู้ดี ถึงมอมยากันได้ตั้งแต่วันแรก”
แค่นั้นนคราก็กระแทกแก้วไวน์ลง บรรยากาศดีๆ ที่เพิ่งเริ่มก่อขึ้นหายวับไปในพริบตา จนฉัตรบดินทร์เองก็อดตกใจไม่ได้ ความรู้สึกแย่พัดผ่านเข้ามาทันที
เขารีบเดินไปคว้าแขนนคราที่หมุนตัวตั้งท่าจะกลับเข้าห้องนอน หน้าชาวาบเพราะพบว่าสาวสวยของเขามีน้ำตาคลอเบ้าทันทีที่หันมา แต่อย่าคิดว่าเด็กดื้อคนนี้จะยอมลงให้เขาง่ายๆ หน้าสวยเชิดรั้น เบี่ยงออกไม่ยอมมองหน้าเขา คุณหมอใหญ่จึงต้องบังคับจับคางหล่อนให้สบตาเขาตรงๆ คนหน้าหล่อยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นกิริยาของคนตรงหน้า ท่าทางเหมือนตอนทะเลาะกับฉัตรระวีไม่มีผิด
“ขอโทษ”
ไม่...หล่อนต้องหูฝาดแน่ๆ นคราขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน จ้องตาคนตรงหน้าแบบไม่เชื่อหูตัวเอง
อีกฝ่ายก็ใช้มือที่จับคางเลื่อนขึ้นประคองแก้มใส ทำให้นคราเบิกตากว้างอีกรอบ ก่อนหลุบตามองมือชายหนุ่ม พร้อมทั้งพยายามที่จะเบี่ยงหน้าออกจากการเกาะกุมเต็มที่
“หา...พะ...พี่ฉัตรว่าอะไรนะคะ” หล่อนสะบัดหน้าออก แต่ไม่เป็นผลจึงได้แต่ถอนหายใจ
คนตัวโตอดหัวเราะให้กิริยาน่ารักนั้นไม่ได้ และลูบศีรษะคนสวยด้วยความเอ็นดู
“บอกว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น”
มีหรือที่นคราจะใจไม่ละลาย คนอย่างคุณหมอฉัตรบดินทร์แข็งกระด้างแค่ไหนใครๆ ก็รู้ โดยเฉพาะคนที่รักเขามาหลายปีอย่างนครานั้นรู้ดีแก่ใจ เพราะเจอความร้าย ไม่ไยดีขั้นสุดจากเขา พอเจอบทหวานเอาใจเสียงอ่อนขึ้นมาหน่อยหล่อนก็พร้อมจะระเหยเป็นไอขึ้นมาทันที ทว่าความไม่สนิทใจในการกระทำของเขาทำให้หญิงสาวยังหวาดระแวง ไม่วางใจกับสิ่งที่เขาเป็น แต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำขอโทษขอโพยจากเขา ก่อนจะยอมเดินตามการจับจูงมานั่งบนโซหาเคียงคู่สามี รับแก้วไวน์ที่เพิ่งกระแทกลงไปหยกๆ มาดื่มอีกครั้ง
“มีวันหยุดหลายวัน อยากทำอะไรไหม” คนเป็นหมอที่มีตารางในชีวิตชัดเจนถามคู่ชีวิต
ปกติเขาต้องทำงานสองวันเว้นหนึ่งวันในกรณีที่ไม่มีคนไข้ฉุกเฉินหรืออาการหนัก แต่คราวนี้นายใหญ่แห่งโรงพยาบาลอายุวัฒน์กลับให้หนุ่มหล่อหยุดงานติดกันถึงสี่สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันนี้เรื่อยไปจนกลับจากฮันนีมูนที่ผู้หลักผู้ใหญ่จัดการไว้ให้ แถมช่วงนี้เขายังมีวันว่างระหว่างพิธีสมรสตามกฎหมายและประเพณี รวมทั้งงานฉลองร่วมหนึ่งสัปดาห์ คนไม่เคยว่างเลยไม่รู้จะทำอะไร ได้ต่อขอความเห็นจากคนที่น่าจะว่างมาทั้งชีวิต
“ไม่รู้สิคะ ปกติพี่ฉัตรทำอะไร” คนที่ไม่ว่างเหมือนกันตอบ ตั้งแต่กลับมาประเทศไทยนคราก็ช่วยผู้เป็นพ่ออย่างจริงจัง ไม่ได้ไปพักผ่อนลอยชายที่ไหนอย่างที่เขาเข้าใจ
“ไม่เคยว่าง เลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ปกติได้นอนสักแปดชั่วโมงก็ถือว่าโชคดีแล้ว”
คนตัวโตบอกแล้วกระดกไวน์ทีเดียวจนหมดแก้วแบบไม่สนราคา ก่อนจะเติมให้ตัวเองอีกครั้งแล้วหันไปหาภรรยา เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เจ้าหล่อนถึงยื่นแก้วมาให้เขารินเพิ่มให้
“งั้นได้หยุด พี่ฉัตรก็นอนยาวๆ สิคะ” คนตัวเล็กก็บอกพาซื่อ ไม่รู้เลยว่าอีกคนพยายามหากิจกรรมที่จะได้ทำด้วยกัน “นิคกี้รู้ซึ้งเลยว่าการนอนน้อยมันทรมานแค่ไหน”
น้ำเสียงเข้าอกเข้าใจทำเอาฉัตรบดินทร์ก้มหน้าลงมองภรรยาแสนสวยอีกครั้ง ท่าทางที่หล่อนดื่มด่ำกับรสไวน์ปีดีที่เขาสะสมไว้ ทำให้รู้ว่านคราหลงใหลเสน่ห์ของเครื่องดื่มสีทับทิมถึงขนาดใช้เงินเก็บซื้อวินยาร์ดเล็กๆ แถวนาปาในรัฐแคลิฟอร์เนีย คนละซีกกับนิวยอร์ก ที่หล่อนอาศัยอยู่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว
“ไหนบอกหน่อยซิว่าเด็กอย่างเราทำอะไรถึงต้องนอนน้อย”
คราวนี้หญิงสาวทำตาขวาง กัดริมฝีปากแดงก่ำ บ่งบอกว่ามันเขี้ยวเขาเต็มที่ นี่ถ้าข่วนหน้าหล่อๆ ของเขาได้ นคราก็คงทำไปแล้ว
“เอ้า ถามจริงๆ ชอบเที่ยว ติดซีรีส์ หรือยังปรับเวลาไม่ได้” ชายหนุ่มรีบวางแก้วลงบนโต๊ะ ก่อนจะยกมือขึ้นเสมออกส่งสัญญาณว่าไม่ได้เป็นการชวนทะเลาะแต่อย่างใด “ถามไว้ จะได้รู้ จะได้ไม่ทะเลาะกันน่ะ นิคกี้ ตอบมา สัญญาว่าจะไม่ดุ”
นคราเห็นดังนั้นก็พยักหน้าส่งๆ ยอมเปิดปากเล่ากิจวัตรประจำวันให้ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีฟัง บอกเล่าชีวิตประจำวันที่น้อยคนนักจะได้รู้
“จริงๆ ตอนกลางวันนิคกี้ต้องเข้าออฟฟิศบ้างเหมือนกันนะคะ ถึงจะไม่เป็นเวลาก็เถอะ พ่อให้นิคกี้ดูส่วนเครื่องประดับที่คนเอามาตึ๊ง” ตาสีน้ำตาลเฉดอ่อนสุดปรายมองเขา ก่อนจะอธิบายต่อ
“เอามาจำนำนั่นแหละค่ะ แต่เราไม่ได้เปิดรับยิบย่อย รับเฉพาะรายใหญ่ๆ” รายใหญ่ที่นคราทดไว้ในใจคือยอดไม่ต่ำกว่าสิบล้าน ชุดเครื่องเพชรแบบที่หาที่ไหนไม่ได้หล่อนถึงจะรับไว้ “ถ้าไม่มีเรื่องตรวจของ นิคกี้ก็คอยดูแลจัดทีมคน สลับชุด ดูเรื่องเงินเดือนโบนัสไปตามปกติ”
“แล้วทำไมต้องนอนดึกล่ะ พวกนั้นงานออฟฟิศนี่” เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่คุยกันแบบวางทิฐิ ไม่มีอคติ เปิดใจรับรู้เรื่องของอีกฝ่ายเต็มที่
“เราทำงานรักษาความปลอดภัยด้วยนะคะ พวกการ์ดตามผับทั้งหลายก็คนของเราหมด เป็นร้อยๆ ที่ แต่ละคืนมันก็มีปัญหาเวียนกันไป แล้วถ้าวันไหนมีเรื่องต้องขึ้นโรงพัก เด็กเขาก็ต้องโทร. มารายงานความเรียบร้อย ตีสามบ้าง ตีสี่บ้าง กว่าจะได้นอน”
ฉัตรบดินทร์หรี่ตามองคนข้างๆ ดูเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เขาเคยคิดว่าไร้ความรับผิดชอบกลับมีอะไรต้องจัดการดูแลเต็มไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ “ตัวนิดเดียว คุมลูกน้องเป็นร้อยไหวเหรอ”
ตาหวานตวัดมองเขาทันที ไม่รู้เสียแล้วว่าคนอย่างนครา ลูกน้องยำเกรงมากกว่านาคราชด้วยซ้ำ
“ไหวไม่ไหวก็ไม่รู้ รู้แต่ตั้งแต่นิคกี้กลับมาช่วยพ่อ ทุกอย่างก็เป็นระบบขึ้นเยอะ เด็กมีเวลาพักมากขึ้น เราหาตังค์ได้เยอะขึ้น” คนเล่าเล่าตามธรรมชาติ ไม่มีทีท่าโอ้อวดแต่อย่างใด
“ไหนเล่าให้ฟังซิ ทำยังไง” เขาถามขณะยกมือขึ้นพาดพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย โดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ทันสังเกตเห็นจึงนั่งพิงโซฟาเต็มแรง เลยเหมือนทั้งคู่นั่งโอบกันกลายๆ
“นิคกี้ก็ใช้คอมพ์ทำง่ายๆ นี่แหละค่ะ ใส่ตารางงาน แบ่งทีม เราก็จะรู้เวิร์กโหลดของเด็กแต่ละคน รู้ว่าเขาถนัดงานแบบไหน พอส่งคนไปถูกงาน งานก็เสร็จเร็วขึ้น ปิดจ๊อบง่ายขึ้น ลูกค้าแฮปปีเราก็แฮปปี” หน้าสวยดูมีความสุขเมื่อพูดถึงงานที่ได้รับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะใช่สิ่งที่หญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปีสนใจ “นี่นิคกี้ยังคิดอยู่ว่าถ้าพี่หนามไม่กลับมาทำทางนี้ นิคกี้คงต้องวางอะไรให้เป็นระบบอีกเยอะ”
“อ้าว ต้องกลับมาสิ งานแบบนี้มันงานของผู้ชาย นิคกี้จะมาทำได้ยังไง” เสียงทุ้มห้วนขึ้นแบบไม่รู้ตัว ถึงแม้จะรู้ว่านคราทำงานได้ดี แต่ใครจะอยากให้เมียไปคุมนักเลงเป็นร้อย อยู่กับผู้ชายทั้งฝูงทั้งวัน
“อ้าว” สาวสวยอุทานกลับคำเดียวกัน ออกแนวยอกย้อนนิดๆ จนฉัตรบดินทร์ส่ายหัวด้วยความเอ็นดู
“แล้วถ้าพี่หนามกลับมา ใครจะดูที่โน่น เออ แต่จะว่าไปนิคกี้ก็กลับไปดูงานของแด๊ดได้ ถ้าไม่มีใครทำ” นคราพูดไม่เหมือนคนเพิ่งแต่งงานเมื่อเช้า ท่าทางเหมือนไม่มีคำว่าสามีอยู่ในสมอง จนความหงุดหงิดของฉัตรบดินทร์พุ่งทะยานถึงขีดสุดในเวลาอันรวดเร็ว
หนุ่มหล่อคว้าแก้วไวน์ขึ้นกระดกจนหมด ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วบอกนคราเสียงเรียบ จนสาวสวยขนลุก
“เหมือนคุณจะลืมอะไรไปสักอย่าง คุณแต่งงานแล้ว คงไม่สามารถกลับไปดูบริษัทใครที่เมืองนอกได้อีกแล้วมั้ง”
ชายหนุ่มเทเครื่องดื่มลงแก้วอีกครั้ง ก่อนจะกระดกหมดแบบไม่เสียเวลาดื่มด่ำรสชาติ สรรพนามแทนตัวหล่อนเปลี่ยนไปตามคลื่นอารมณ์
“ดื่มๆ ให้หมดแล้วมานอนได้ละ เผื่อพรุ่งนี้จะออกไปไหน จะได้ไม่มาอ้างว่านอนดึกแล้วเลยต้องตื่นสาย”
ฉัตรบดินทร์มองนคราด้วยแววตาดุ กดดันให้หญิงสาวต้องดื่มตามให้หมดโดยไม่มีข้อแม้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปยืนรอแล้วทำท่าจะกดสวิตช์ปิดไฟ ให้นคราเดินเข้าโซนห้องนอนตามเขา โดยที่สาวสวยได้แต่เดินขึ้นเตียงอย่างงงๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามเอง เพราะไม่เข้าใจพฤติกรรมของเขา
“พี่ฉัตรเป็นอะไรคะ นิคกี้พูดอะไรผิดหรือเปล่า” ก็ยังพูดกันดีๆ อยู่ แล้วเขาก็ทำท่าฮึดฮัดใส่หล่อนโดยไม่มีสาเหตุ แบบนี้จะไม่ให้หล่อนจับต้นชนปลายไม่ถูกได้อย่างไร
ด้านคนตัวโตก็สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มอย่างกระแทกกระทั้น อยากเขย่าตัวคนที่นอนข้างๆ นัก อยากถามว่าไม่รู้ได้อย่างไรว่าอะไรทำให้เขาหัวเสียแบบนี้
“เมื่อกี้ยังพูดกันดีๆ อยู่เลย โอ๊ย!” นคราอุทานเมื่อโดนฉัตรบดินทร์รั้งตัวบางลงนอนบนเตียง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้จนเกือบปิดหน้า
“อะไรคะเนี่ย นิคกี้ยังไม่อยากนอน” คนตัวบางตั้งท่าจะขยับตัวลุกขึ้น ยอมเดิมตามมาถึงเตียง แต่เขาไม่มีสิทธิ์มาบังคับให้หล่อนหลับตานอนตามเขา แต่ยิ่งขยับยิ่งกลายเป็นว่าหมอหนุ่มใช้แขนแกร่งกกกอดนครามากยิ่งขึ้น เกิดความใกล้ชิดกันในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนหญิงสาวหน้าเห่อร้อนด้วยความขัดเขิน แต่ก็ไม่ขยับตัวออกเพราะปรารถนาสัมผัสนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยอมนอนนิ่งให้เขากอดไว้ในอ้อมอก
“ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด ยิ่งรีบๆ นอนเลย เซลล์สมองมันจะได้พัฒนา”
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่นครารู้สึกเหมือนมีสัมผัสแผ่วเบาเหนือกระหม่อม
“หลับได้ละนะ ถ้าดิ้นต่ออีกที ไม่รับประกันความปลอดภัยด้วย”
ความคิดเห็น |
---|