1

1

1

 

สองเดือนก่อน

“พี่จะพาน้องคิลกลับไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวอย่างคนตัดสินใจมาแล้วของพันเอกคีรี อิชยกุล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกประจำกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียที่เอื้อนเอ่ยออกมาพาให้หัวใจของหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไหววูบ

ใจหายวาบเมื่อคีรีบอกว่าจะพา น้องคิล’ หรือ เด็กชายคีรกร อิชยกุล ลูกชายวัยหกขวบเศษของคีรีที่คนทั้งคู่เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออกในฐานะลูกบุญธรรมไปอยู่ที่รัสเซียด้วยกัน นั่นหมายความว่าจากนี้ไปเขาและเธอจะไม่ได้เจอเด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว

คริษฐาอ้าปากหมายจะคัดค้าน แต่แล้วก็ต้องหุบปากฉับ...แม่บุญธรรมอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากพอจะไปคัดค้านพ่อแท้ๆ ได้เลย...ไม่มีสิทธิ์จริงๆ

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คริษฐาที่เป็นเช่นนั้น สามีของหญิงสาว ร้อยตำรวจเอกคีรินทร์ อิชยกุล หรือผู้กองคีรินทร์ ผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ของคีรีเองก็ไม่ต่างกัน เขาและเธอเป็นแค่พ่อแม่บุญธรรมเท่านั้นจะคัดค้านอะไรคีรีได้

“พี่รู้ว่าเคทกับคีย์รักน้องคิลเหมือนลูก แล้วก็เลี้ยงแกมาตลอด แต่ตอนนี้พี่กับมาช่าเข้าใจกันแล้วและทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางแล้ว น้องคิลควรได้อยู่กับพ่อแม่ พี่กับมาช่าอยากจะใช้เวลาทั้งหมดชดเชยให้ลูกที่หายไปถึงหกปี เข้าใจพี่ด้วย” คีรีอธิบายเมื่อรับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของทั้งคู่ ชายหนุ่มเองก็ละอายใจไม่น้อยเลยที่พูดออกไป 

หกปีก่อนเพราะเมริย่า หรือมาช่า ภรรยาสาวชาวรัสเซียของเขา ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคริษฐาถูกผู้ไม่ประสงค์ดีหลอกให้เข้าใจเขาผิดจนฝากลูกชายที่เพิ่งคลอดได้เพียงสามเดือนไว้กับคริษฐาที่เป็นญาติผู้น้องเพื่อไปเคลียร์ปัญหา และได้หายตัวไป เขาจึงต้องตามไปทวงคืนภรรยาและยกหน้าที่ดูแลเด็กชายคีรกรให้คริษฐาก่อนจะไร้การติดต่อไปอีกคนจนทำให้ครอบครัวทางนี้ที่รอโอกาสอยู่แล้วสบโอกาสคลุมถุงชนคริษฐากับคีรินทร์เพื่อรับเด็กชายคีรกรเป็นลูกบุญธรรม

หกปีทีเดียวที่ทั้งคู่ต้องทิ้งอะไรหลายอย่างเพื่อเด็กชายคีรกร แต่ตอนนี้คีรีกลับมาพูดทำร้ายจิตใจจะพรากเด็กชายคีรกรไปจากพวกเขา ช่างน่าละอายจริงๆ

“เคทรักน้องคิลค่ะ ไม่รู้ว่าขาดน้องคิลไปเคทจะเป็นยังไง แต่เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้องคิล น้องคิลควรได้อยู่กับพ่อและแม่แท้ๆ ของแก ถ้าพี่คีรีตัดสินใจแล้วเคทก็ไม่ขัดข้องค่ะ”

“ผมด้วย น้องคิลอยู่กับพ่อแม่ต้องมีความสุขกว่าอยู่กับพวกเราแน่ๆ แต่ยังไงขอผมกับเคทยังเป็นพ่อคีย์กับแม่เคทได้มั้ย ไม่ชินเป็นอาคีย์เลย” คีรินทร์ยื่นมือมากุมมือคนเป็นภรรยาไว้ แม้ว่าเขาและเธอจะแต่งงานกันเพราะความเห็นชอบของผู้ใหญ่และเพราะเด็กชายคีรกร แต่ถึงอย่างไรหน้าที่ปลอบใจภรรยาก็คือหน้าที่ของสามี

คีรีที่ไม่อยากให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบถอนใจก่อนจะเอ่ยขึ้นราวกับเพิ่งคิดขึ้นมาได้ “จริงสิ คีย์ เคท ตั้งแต่กลับมาพี่ยังไม่ได้ขอบใจทั้งสองคนเลย ขอบใจนะที่ช่วยดูแลน้องคิล ขอบใจจริงๆ”

“ขอบจงขอบใจอะไรกัน เจ้าคิลก็หลานผม อาดูแลหลานทำไมต้องขอบใจ”

“นั่นสิคะไม่เห็นต้องขอบใจเลย มาช่ากับเคทก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มาช่าฝากน้องคิลไว้กับเคท เคทก็ต้องดูแลอยู่แล้ว ถ้าพี่คีรีอยากขอบคุณจริงๆ หลังจากนี้ก็ดูแลน้องคิลดีๆ แล้วก็หาเพื่อนเล่นให้น้องคิลด้วย น้องคิลร่ำร่ำอยากมีน้องมาพักใหญ่แล้ว เคทกับคีย์ไม่มีน้องให้แกเล่นด้วย น้องคิลต้องเหงามาหลายปี พี่คีรีต้องรีบๆ มีน้องให้น้องคิลนะคะ” คริษฐาแสร้งเย้าแหย่กลบเกลื่อนความเสียใจ “แว่วๆ ว่าน้องคิลอยากมีน้องสาวนะคะ ฝาแฝดก็ดีนะ”

“พี่กับมาช่าก็คิดๆ ไว้อยู่ ว่าแต่เราสองคนเถอะ ต่อไปไม่มีน้องคิลอยู่ด้วยคงจะเหงากันแน่...ไม่คิดจะมีสักคนสองคนไว้คลายเหงาเหรอ”

“ก็ถามกันแต่แบบนี้ละ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะบ่นราวกับอัดอั้น “ลูกนะไม่ใช่หมาใช่แมว นึกอยากมีก็หามาเลี้ยงได้เลยน่ะ ถ้าเขาไม่อยากมา บังคับให้มาเขาก็ไม่มาหรอก เลิกถามกันสักทีเถอะค่ะ”

“เอ่อ...พี่ขอโทษนะ พี่ไม่รู้ว่ามีคนถามบ่อย” คีรีที่รู้ว่าตัวเองอาจจะไปพูดแทงใจดำอีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างคนอยู่เป็น “เออจริงสิ คืนนี้พี่ว่าจะพาน้องคิลกับมาช่าไปกินข้าวนอกบ้าน เราสองคนไปด้วยกันสิ”

“ผมมีธุระแล้ว ไปด้วยไม่ได้หรอกครับ”

“เคทเองก็มีนัดกับพี่หมอแล้ว พี่คีรีกับมาช่าพาน้องคิลไปเถอะค่ะ พ่อแม่ลูกจะได้คุ้นชินกันมากขึ้น”

“เสียดายจัง ไว้คราวหน้าแล้วกัน ก่อนพี่กลับต้องได้ไปกินข้าวกับเราสองคนนะ” คีรีไม่รบเร้า ชายหนุ่มลุกออกไปเมื่อได้ยินเสียงเรียกของภรรยาสาวที่ดังแว่วมาจากสนามหญ้าหน้าบ้าน ทิ้งให้สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่ไว้เพียงลำพัง

ดวงตาคู่หวานทรงเสน่ห์ที่ถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากมารดาชาวรัสเซียมองผ่านผนังกระจกไปยังสนามหญ้าที่ตอนนี้มีเมริย่า คีรี และเด็กชายคีรกรกำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน รอยยิ้มของเด็กชายคีรกรทำให้คริษฐาคลี่ยิ้มตาม การได้อยู่กับพ่อแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหนูน้อยคนนี้ ขอเพียงแค่เด็กน้อยมีรอยยิ้มเธอก็มีความสุขแล้ว แม้ว่าหลังจากนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่เป็นมาตลอด

มือหนายื่นมาตบไหล่คนที่ยืนยิ้มอยู่ ทว่านัยน์ตาเศร้า ก่อนจะเอ่ย “ไม่อยู่สามวันนะ ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”

“งานใหญ่?” หญิงสาวหันมามองใบหน้าคม คีรินทร์เป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด หลายครั้งที่เขาออกจากบ้านไปทำงานเป็นเวลาหลายวัน สองสามวันบ้าง สองสามสัปดาห์บ้าง และทุกๆ ครั้งเขาก็จะบอกเธอไว้อย่างนี้เสมอ และทุกๆ ครั้งเธอก็จะถามอย่างนี้เช่นกัน

“ก็หนักเอาการ แต่สบายใจได้ ยังไงก็กลับมาทันส่งเจ้าคิลได้แน่นอน”

“ให้มันจริงเถอะ”

“เคยพูดแบบนี้แล้วมาไม่ได้มั้ยล่ะยัยจุ้น” เขาพูดก่อนจะยักไหล่และเอ่ยกระเซ้าเย้าแหย่ “ไปละ อย่านอนร้องไห้นะ ไม่ได้อยู่ปลอบ”

“ใครเขาจะให้ปลอบ เหอะ” หญิงสาวหันหลังให้อย่างกระเง้ากระงอด เธอไม่อยากเป็นฝ่ายมองเขาเดินจากไป ด้วยกลัวว่าเขาจะไปแล้วไปลับไม่กลับมาหาเธออีก เธอจึงเป็นฝ่ายหันหลังให้เขาเสมอ 

แม้ไม่พูดอะไรออกไป แต่คีรินทร์ก็รับรู้และเข้าใจได้เสมอ ก็เป็นอย่างนี้ประจำนั่นละ

หลายคนเห็นท่าทีของทั้งคู่คงจะแปลกใจอยู่บ้าง ไม่ก็คิดว่าเป็นคู่รักที่น่ารักและเข้าอกเข้าใจกันดี แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย แม้หลายอย่างจะเหมือนเข้าใจได้โดยไม่ต้องพูด แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่ทั้งคู่ไม่เคยพูดกัน นั่นก็คือเรื่องของความรักที่ดูจะตัดสินยากเหลือเกินว่าเป็นรักแบบใด

เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เจ้าสัวคนัสผู้เป็นพ่อตัดสินใจพามาดามมารีน่า ภรรยาชาวรัสเซียและลูกชายลูกสาวกลับมาสร้างบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านของเพื่อนสนิทอย่างผู้กำกับคมกริช จากที่เคยคิดจะใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกที่รัสเซีย

 คริษฐาในวัยเพียงสามขวบที่เพิ่งมาไทยเป็นครั้งแรกก็มีคีรินทร์เป็นเพื่อนคนแรกและแทบจะเป็นคนเดียวที่คริษฐายอมเล่นด้วย ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงต้องการให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่น ดูแลกันมาตลอด ดังนั้นแล้วเธอกับคีรินทร์จึงแทบจะเติบโตมาอย่างเพื่อน อย่างพี่น้อง ไม่ได้มีเรื่องราวความรักโรแมนติกเหมือนเจ้าสัวคนัสผู้เป็นพ่อที่บังเอิญเจอมาดามมารีน่าและตกหลุมรักจนเริ่มต้นตามจีบและฝ่าฟันจนได้แต่งงานกัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอยู่ห่างกันคนละซีกโลก 

เธอกับเขาอยู่ใกล้กันในทุกช่วงเวลา เมื่อต้องแต่งงานกันจึงเป็นเรื่องยากที่ทั้งสองจะรับรู้ถึงความรู้สึกระหว่างกัน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นปลูกต้นรักกันอย่างไร เพราะความสัมพันธ์มันเกินจุดนั้นไปแล้ว

ข่าวคราวที่เงียบหายของคีรีและเมริย่า และเพื่อไม่ให้เด็กชายตัวน้อยต้องรู้สึกขาดพ่อกับแม่ คริษฐาจึงต้องรับบทแม่และภรรยา คีรินทร์เองก็ต้องรับบทพ่อและสามี เวลาส่วนใหญ่ก็คือการทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้แก่เด็กน้อย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงแทบไม่คืบหน้า...ถ้าไม่มีคีรกรก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นเช่นไร...

ดวงตาคู่หวานมองไปยังเด็กชายคีรกรอีกครั้งก่อนคริษฐาจะถอนใจ...หรืออิสระที่เธอเคยฝันหากำลังจะมาเยือนเธอแล้วจริงๆ

แล้วตอนนี้เธอต้องการมันหรือไม่ หญิงสาวรู้สึกว่าสมองขาวโพลนไปหมด เธอไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ มันสับสนไปหมด

เธอรักคีรินทร์งั้นหรือ คำถามนี้เธอก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ มันสับสนยิ่งกว่าคำถามก่อนหน้าเสียอีก เธอไม่รู้ว่าเธอรักคีรินทร์ หรือแค่ผูกพัน...ไม่รู้จริงๆ

 

วันเวลาผ่านพ้นไป แต่คนที่บอกว่าจะไปแค่สามวันก็ยังไม่กลับมา เผลอแวบเดียวก็ถึงเวลาที่เด็กชายคีรกรต้องเดินทางแล้ว

คริษฐากอดอกมองคนร่างสูงที่นั่งยองๆ ให้ตัวอยู่ในระดับสายตาของหนูน้อยคีรกรด้วยความหมั่นไส้ ปากบอกว่าไม่อยู่สามวัน แต่เอาเข้าจริงแล้วหายไปเป็นสัปดาห์ กว่าจะกลับมาก็วันที่เด็กชายคีรกรต้องเดินทางซะอย่างนั้น...น่าโมโหนักเชียว

“คิล พ่อคีย์ขอโทษนะที่หายไปหลายวัน กว่าจะกลับมาก็วันที่คิลจะไปแล้ว”

“พ่อคีย์ชอบเบี้ยวตลอดนั่นละ คิลชินแล้ว ให้อภัยได้ครับ” เด็กชายคีรกรเอ่ยกับพ่อบุญธรรมที่เพิ่งจะโผล่มาหลังจากหายไปหลายวัน ก่อนจะยักไหล่ “คิลรู้น่า ความจริงแล้วที่หายไปน่ะ หายไปทำใจใช่มั้ยล่ะ ต่อไปไม่มีคิลอยู่ด้วยแล้ว พ่อคีย์ต้องแอบร้องไห้แน่ๆ เลย”

“ทำเป็นรู้ไป ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้หรอกนะ”

“หึ อย่าให้คิลรู้ก็แล้วกันว่าคิลไม่อยู่แล้วพ่อคีย์ร้องไห้ขี้มูกโป่ง”

“ไม่มีทางหรอกเจ้าหนู” คีรินทร์เอ่ยพลางยกมือยีผมเจ้าหนูน้อยอย่างที่เคยทำมาโดยตลอด รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม ก่อนที่ชายหนุ่มจะรวบร่างเล็กเข้ามากอด “ต่อไปไม่มีพ่อคีย์คอยให้แกล้ง ไม่มีแม่เคทคอยปรามแล้ว อย่าดื้อกับแด๊ดดี้กับมามี้นะเจ้าหนู พ่อคีย์รักคิลนะ โทร. หาพ่อคีย์กับแม่เคทบ่อยๆ ด้วยล่ะ”

“ครับ คิลก็รักพ่อคีย์ รักแม่เคท คิลไม่อยู่พ่อคีย์ต้องดูแลแม่เคทดีๆ นะ”

“ถ้าคิลสัญญาจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อ พ่อคีย์ก็สัญญาว่าจะดูแลแม่เคทอย่างดี”

“อือ คิลจะเป็นเด็กดีครับ” หนูน้อยตอบรับก่อนที่สองพ่อลูกจะผละออกจากอ้อมกอดกันและกัน และยกมือขึ้นชนกำปั้นทำสัญญาระหว่างลูกผู้ชาย จากนั้นเด็กชายคีรกรก็ผละไปหาแม่เคทของตน 

หญิงสาวนั่งลงและกอดลาลูกชายตัวน้อยที่กำลังจะจากอ้อมกอดของเธอไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง สีหน้ากลั้นความรู้สึกเต็มที่ “แล้วแม่เคทจะไปเยี่ยมนะครับ”

ทันทีที่ผละจากร่างเล็ก หญิงสาวก็หันไปบอกแก่ญาติผู้น้องและโอบกอดกันก่อนที่การจากลาจะเกิดขึ้นจริงๆ ในวินาทีต่อมา “ฝากความคิดถึงถึงคุณตาด้วยนะมาช่า”

ร่างบางยืนมองจนเครื่องบินที่ทั้งสามคนโดยสารห่างออกไปลับตาจึงตัดใจหันหลังให้ ดวงตาคู่หวานที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองใบหน้าคนข้างๆ ที่คล้ายกับมีเรื่องให้ครุ่นคิด ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลนองหน้าตัวเอง

“เคทนึกว่าคีย์จะร้องไห้ซะอีก นึกว่าจะมีคนร้องไห้เป็นเพื่อน”

“บังเอิญไม่ได้ชอบเป่าปี่”

“เหอะ แล้วนี่เป็นอะไร มีเรื่องที่ต้องกังวลเหรอ ทำหน้าคิดหนักอยู่ตลอด”

“ก็...นิดหน่อย” คีรินทร์ตอบก่อนจะยักไหล่ “ช่างเถอะ มันอาจจะไร้สาระเกินไป กลับเถอะ”

คริษฐามองตามแผ่นหลังของคนที่เดินนำออกไปด้วยความแปลกใจ...เขาดูแปลกไปจากเดิม ไม่เหมือนคีรินทร์คนเดิมที่เธอรู้จัก

 

คีรินทร์ก้าวนำคริษฐามาจนถึงลานจอดรถของสนามบินก่อนจะหยุด ราวกับตัดสินใจได้ในนาทีต่อมาจึงเอ่ยเรียกคนที่เดินตามหลังมาโดยไม่ได้หันหน้ามามอง “เคท”

“อะไร”

“หย่ากันเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงความรู้สึก ไม่แม้แต่หันมามองคนที่รับฟัง ก่อนจะเอ่ยต่อโดยไม่รีรอให้หญิงสาวได้ตั้งตัว “ไม่มีคิลแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องฝืนอยู่ด้วยกันอีก”

“คีย์”

“เธอเคยบอกว่าถ้าหมดห่วงเรื่องคิล เธออยากจะทำงานมีชีวิตอิสระไปไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ก็หมดเรื่องคิลแล้ว ถึงเวลาคืนอิสรภาพแล้ว ไม่คิดแบบนั้นเหรอ”

คริษฐานิ่งอึ้งราวกับมีคนเอาค้อนปอนด์มาทุบหัวซ้ำๆ เมื่อลองรวบรวมสติและคิดทบทวนกับสิ่งที่ได้ยิน...เขาพูดเรื่องหย่าอย่างนั้นเหรอ

พูดโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกอีกด้วย...เขาไม่ได้อยากให้เธออยู่ในฐานะภรรยาต่อไปอย่างนั้นใช่มั้ย

“แรกเริ่มเราแต่งงานกันเพราะคิล ตอนนี้คิลได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงแล้ว เราก็ควรเดินไปตามทางที่แต่ละคนเคยวาดฝันไว้...จริงมั้ย”

“คะ...คีย์ตัดสินใจดีแล้วเหรอ”

“อื้อ” คำว่าอื้อคำเดียวเป็นการตอบกลับคำถาม 

หญิงสาวตั้งสติเมื่อได้ยินคำตอบที่ต้องการก่อนจะพยักหน้าให้ “โอเค...เราหย่ากัน วันไหนดีล่ะ...วันนี้เลยมั้ย”

“วันนี้เลยก็ดี ถ้าช้าพวกผู้ใหญ่รู้เข้าจะไม่ดี” เขาตอบมาราวกับไม่รู้ถึงความนัยที่หญิงสาวสื่อ...เธอแค่ประชด แต่เขากลับตอบราวกับว่าเธอต้องการคำตอบจริงๆ

ได้...ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว เธอก็จะทำตามที่เขาต้องการ

วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการเป็นสามีภรรยากัน...นี่คือสิ่งที่เขาเป็นฝ่ายเลือกเอง


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น