9

ชะตาเล่นตลกหรือโลกกลม


 

9

ชะตาเล่นตลกหรือโลกกลม

            โลเวลเข้าใจความรู้สึกคนถูกฟ้าฝ่าลงกลางกระบาลก็ตอนนี้เอง ตอนที่เมียของตัวเองที่ตามหามาตลอดกลายมาเป็นเมียของน้องชาย แถมเธอยังมีหลานในท้องเป็นของขวัญที่บัดซบที่สุดในชีวิตมอบให้แก่เขาอีกต่างหาก

หนุ่มลูกครึ่งเนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธและเจ็บปวด เหมือนมีเข็มนับพันเล่มมาทิ่มแทงที่หน้าอกจนทะลุถึงหัวใจ เขานึอยากระบายความเจ็บปวดออกมาให้ห้องนี้ระเบิดกระจุย ให้ผู้หญิงตรงหน้าได้รับรู้ถึงความรวดร้าวที่เธอทำไว้กับเขา แต่สิ่งที่โลเวลทำได้ตอนนี้ มีเพียงแค่นั่งนิ่งงันฟังคำพูดของผู้เป็นน้องชายเท่านั้น

“ลูกในท้องน้ำค้างเป็นลูกของผมจริงๆ ครับ ผมเจอเธอเมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่ผมไปเที่ยวเชียงใหม่”

“เชียงใหม่อย่างนั้นเหรอ” โลเวลบดกรามแน่น นี่เขาวิ่งตามหาเธอตามคำบอกเล่าของครองขวัญว่าหยาดอรุณไปทำงานที่ภูเก็ต แต่ที่ไหนได้เธอแอบหนีไปมีความสุขกับน้องชายของเขาที่เชียงใหม่

โธ่เว้ย! เฮงซวย! ทำไมชีวิตของเขาถึงเฮงซวยขนาดนี้

โลเวลเนื้อตัวร้อนวูบวาบไปหมด และความร้อนนั้นกำลังจะปะทุออกจากร่างกายใหญ่โตเต็มที ชายหนุ่มนึกอยากให้สิ่งที่เห็นและได้ยินตอนนี้เป็นแค่ความฝันเหลือเกิน แต่ภาพตรงหน้า ภาพที่ธีราทรกุมมือเรียวของหยาดอรุณเอาไว้ด้วยความหวงแหนแกมห่วงใย บอกชัดเจนดีเหลือเกินว่านี่คือความจริง

ความจริงบ้าๆ ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเขาและน้องชาย!

“แล้วยังไง นายเลยจะพาน้องสะใภ้กับหลานในท้องมาแนะนำให้พี่รู้จักไว้งั้นรึ”

“ครับ เอ่อ...และผมอยากจะขออนุญาตพี่วูล์ฟพาน้ำค้างมาอยู่ที่บ้านเราด้วย”

“อยู่ที่นี่!” คนเป็นพี่ถลึงตาวาวโรจน์ เขาอยากจะบอกปัด แต่เมื่อเห็นสายตาวิงวอนของน้องชายมองมาและบวกกับความคิดที่ว่า บ้านหลังนี้ธีราทรก็มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง ทำให้โลเวลต้องข่มคำปฏิเสธนั้นไว้ “นายคิดดีแล้วเหรอ บางทีเมียนายอาจจะไม่อยากอยู่”

คนเป็นพี่บอกพลางมองหน้าเมียน้องชายอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทำเอาหยาดอรุณที่เผลอมองเขาต้องรีบหลุบตาหลบแทบจะไม่ทัน

“ผมอยากให้น้ำค้างมาอยู่ใกล้ๆ อีกอย่างบ้านเราก็กว้างขวาง คนรับใช้ก็เยอะ น่าจะสะดวกสบายสำหรับคนที่กำลังท้องอย่างเธอ เอ่อ...แล้วช่วงนี้น้ำค้างเพิ่งท้องอ่อนๆ เธอยังพอเดินเหินไหว ผมเลยว่าจะขออนุญาตพี่วูล์ฟอีกเรื่อง” เขาเว้นจังหวะไปนิดแล้วโอบไหล่หญิงสาวราวรักใคร่เต็มประดา หวังให้พี่ชายเชื่อในการแสดงของตนเองว่ารักและหลงใหลคนตัวเล็กข้างกายแค่ไหน ทว่าธีราทรหารู้ไม่ว่ายิ่งเขาแสดงความรักกับหยาดอรุณมากเท่าไร ก็เหมือนเอามีดคมๆ กรีดลงบนเนื้อตัวของโลเวลมากเท่านั้น

“จะขออะไรอีก” ชายหนุ่มเค้นเสียงถามลอดไรฟัน เรียกว่าฝืนเต็มทน ทั้งๆ ตอนนี้อยากจะลากหยาดอรุณมาบีบคอถามเอาความจริงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร แต่โลเวลก็เกรงใจและคิดถึงความรู้สึกของคนเป็นน้องมากพอ

“ผมจะขอพาน้ำค้างไปช่วยงานที่บริษัท...”

“ไม่ได้” ไม่รอให้น้องชายพูดจบด้วยซ้ำ โลเวลก็ขัดขึ้น ซึ่งหญิงสาวคนเดียวในที่นี้ก็คิดว่ารู้เหตุผลของเขา

แน่นอนว่าโลเวลเคยพาหยาดอรุณไปที่บริษัทบ่อยครั้งตอนเธออยู่ในฐานะผู้หญิงของเขา และถ้าหยาดอรุณกลับไปที่บริษัทอีกครั้งในฐานะภรรยาของธีราทร พนักงานทั้งบริษัทคงได้คุยกันสนุกปากว่าผู้หญิงของพี่ชายสุดท้ายกลายมาเป็นเมียน้อง และธีราทรก็ไม่ควรรับรู้เรื่องน่าบัดสีนี้เช่นกัน

“นายจะเอาเมียมาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้พี่อนุญาต แต่พี่ไม่อนุญาตให้นายพาเธอไปที่บริษัทเด็ดขาด ไม่ว่าจะไปในฐานะอะไรก็ตาม ห้ามให้เธอไปเหยียบที่นั่นเด็ดขาด” เขากัดฟันแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปน

ธีราทรเห็นความโกรธาที่ฉายขึ้นของคนเป็นพี่ และแม้น้องชายจะไม่รู้เหตุผลว่าทำไมโลเวลถึงสั่งห้ามไม่ให้หยาดอรุณไปที่บริษัท แถมทำท่าโกรธมากขนาดนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าขัดใจพี่ชาย เพราะแค่สิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าทำให้โลเวลเสียความรู้สึกมากพออยู่แล้ว

“ก็ได้ครับ ผมจะไม่พาน้ำค้างไปที่บริษัท” ธีราทรหันไปสบตาหญิงสาวแล้วพยักหน้าน้อยๆ สายตาที่ส่งให้เธอบอกว่าไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที

“พี่ไม่อยากให้คนนอกไปวุ่นวายกับธุรกิจของครอบครัวเรา” โลเวลให้เหตุผลเพราะห่วงว่าธีราทรจะสงสัย ในเวลานี้เขาเจ็บก็จริง แต่เขาไม่อยากให้คนที่รักอย่างน้องชายต้องมาเจ็บปวดอีกคนที่รู้ว่ามีเมียคนเดียวกับพี่ชายตัวเอง “ถึงจะเป็นเมียนายก็เถอะ แต่จู่ๆ เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วโผล่ไปทำงาน คนที่บริษัทคงจะพากันมองแปลกๆ อีกอย่างนายก็รู้ว่าคนทั้งบริษัทรู้จักหว่าหวา ถ้าแฟนเก่านายรู้ว่านายพาเมียกลับมากรุงเทพฯ แล้ว บริษัทคงวุ่นวายน่าดู”

โลเวลเน้นท้ายประโยคชัดเจนให้หยาดอรุณได้รับรู้ไปเลยว่าเธอคือมือที่สามที่ทำร้ายผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งให้เสียใจ แถมเธอยังเป็นผู้หญิงแพศยาที่กล้าหนีผัวตัวเองไปหาผู้ชายคนใหม่

 

หลังจากการเจรจากันระหว่างหนึ่งหญิงสองชายภายใต้อุณหภูมิในร่างกายที่ร้อนแทบไหม้ของทุกคนจบลงอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก ธีราทรก็พาหยาดอรุณขึ้นไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ในห้องนอนของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเขาและหญิงสาวกำลังแสดงละครในฐานะสามีภรรยากัน ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องนอนห้องเดียวกันเพื่อให้คนอื่นๆ ไม่ติดใจสงสัย

“นี่ห้องผมครับ ทำตัวตามสบายนะครับคุณน้ำค้าง ยังไงคุณก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนานกว่าลูกจะคลอด เพราะฉะนั้นผมอยากให้คุณอยู่อย่างสบายใจ และคิดว่ามันคือบ้านอีกหลังหนึ่งของคุณ”

หญิงสาวยิ้มรับความมีน้ำใจของชายหนุ่มอย่างไม่เต็มปากนัก เพราะตอนนี้จิตใจเธอประหวั่นพรั่นพรึงเสียเหลือเกิน เธอกลัวว่าหายนะจะเกิดขึ้นกับเธอและลูก รวมไปถึงตัวธีราทรด้วย จะไม่ให้เธอกลัวเช่นนั้นได้อย่างไร ก็สายตา สีหน้า ท่าทางของโลเวลตอนมองเธอมันยิ่งกว่าสัตว์ร้ายที่ไหนในโลกใบนี้เลยก็ว่าได้

“ฉันคิดว่าพี่ชายคุณคงไม่ชอบฉัน บางทีเขาอาจไม่อยากให้ฉันอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ได้นะคะ”

ธีราทรกระอักกระอ่วนใจ เขาไม่กล้าแก้ต่างแทนพี่ชายตนเองเลย เขาเองก็เห็นและรู้สึกได้ไม่ต่างจากหยาดอรุณ โลเวลแสดงอาการชัดเจนเสียขนาดนั้นว่าไม่ชอบพอหญิงสาว แล้วจะให้หยาดอรุณและเขาคิดเป็นอื่นไปได้อย่างไร

“คงไม่มีอะไรหรอกครับ พี่วูล์ฟอาจตกใจนิดหน่อยเลยยังปรับตัวไม่ทัน ยังไงคุณน้ำค้างอยู่ไปสักพัก ได้เจอหน้า พูดจาทักทายกับพี่วูล์ฟบ่อยๆ เขาอาจจะดีขึ้น” ที่สุดชายหนุ่มก็ใช้คำพูดหว่านล้อมที่คิดว่าจะช่วยให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง โดยที่เขาไม่ได้รู้เลยว่าจริงๆ แล้วหญิงสาวมีความลับที่ปิดบังอยู่

หยาดอรุณลอบถอนหายใจ เธอไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับธีราทรว่าผู้ชายสารเลว ไม่มีความรับผิดชอบที่เธอเล่าให้เขาฟังนั้น จริงๆ แล้วก็คือพี่ชายของเขานั่นละ เหตุผลที่เธอไม่กล้าบอกความจริงเพราะคิดว่าเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่ๆ เธอกลัวว่าถ้าโลเวลรู้ว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกเขา เขาจะบังคับให้เธอทำแท้ง อีกข้อหนึ่งเธอรับเงินของธีราทรมาแล้ว เงินที่เปรียบดังค่าจ้างที่เธอต้องแสดงละครตบตาคนอื่น โดยเฉพาะคู่หมั้นของธีราทรให้เข้าใจผิดและตัดใจจากชายหนุ่ม และข้อสำคัญที่สุด เธอยอมรับว่าเธอเห็นแก่ตัว เธอกลัวอับอายและทำให้ป้าทิพย์กับครองขวัญเสียใจ ถ้าต้องกลับไปที่บ้านแล้วท้องโย้โดยที่ลูกของเธอไม่มีพ่อ

สีหน้าของคนท้องดูเครียดจัด หยาดอรุณยกมือขึ้นบีบขมับและหัวตาที่ปวดตุบๆ จนคนที่ยืนมองอยู่เห็นอาการไม่เข้าทีจึงรีบเข้าไปประคอง

“อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยนะครับ คุณกำลังท้องอยู่นะ ควรดูแลสุขภาพตัวเองมากๆ จะดีกว่าครับ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายถึงลูกในท้อง” ธีราทรกล่าวพลางพยุงหญิงสาวไปนั่งบนเก้าอี้นวมตัวนุ่มราคาแสนแพง

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับที่โลเวลโผล่เข้ามา ทำเอาเจ้าของห้องและภรรยาหันมองคนที่ถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตแทบจะพร้อมกัน แม้พวกเขาจะไม่ได้ล็อกกลอน แต่โลเวลก็ไม่ควรเปิดประตูเข้ามาหน้าตาเฉยเช่นนี้ โชคดีที่เมื่อครู่ธีราทรกับหยาดอรุณไม่ได้พูดอะไรที่จะทำให้โลเวลสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขา นอกจากท่าทางแสดงความห่วงใยเท่านั้นซึ่งมันสร้างความอิจฉาแกมเจ็บปวดให้แก่บุคคลที่สามที่มองอยู่ด้วย

“ดูนายจะรักเมียรักลูกจริงนะ ประคบประหงมกันไม่ห่างเลย เห็นบอกว่าท้องได้แค่สี่อาทิตย์นี่ยังเห่อขนาดนี้ ถ้าลูกคลอดเมื่อไหร่นายคงได้พาลูกแห่รอบเมืองแน่ๆ”

หยาดอรุณรู้ว่าน้ำเสียงชื่นชมนั้นเป็นของปลอม เพราะสายตาและรอยยิ้มของเขาบอกว่าเขากำลังประชดประชันมากกว่า

เมื่อครู่ที่พูดคุยกัน ธีราทรโกหกพี่ชายไปว่าเธอเพิ่งท้องได้แค่สี่สัปดาห์เพราะนับเวลาช่วงที่เขาหายออกไปจากบ้านแล้วจะได้ดูสมจริงสมจัง ก็ถือว่าโชคดีที่จะทำให้โลเวลไม่สงสัยว่าเธอท้องกับเขา

หญิงสาวสะดุ้งนิดๆ เมื่อนัยน์ตาคมกริบของโลเวลส่องแสงวาววับมาทางเธอ หยาดอรุณเบือนหน้าไปทางอื่น พยายามจะไม่มองหน้าคนตัวโต ขณะที่ธีราทรผละห่างจากหญิงสาวแล้วเดินไปพูดคุยกับพี่ชายของเขา

“พี่วูล์ฟมีอะไรจะคุยกับผมเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ”

“พี่ไม่มีอะไรหรอก แต่จะมาบอกว่ามีคนอยากพบนาย ตอนนี้รออยู่ห้องรับแขกชั้นล่าง” โลเวลบอกพลางชำเลืองมองเสี้ยวหน้าหญิงสาวที่เอาแต่คอยก้มหน้างุดหลบเขาท่าเดียว

“ใครหรือครับ”

“นายลงไปดูเองจะดีกว่า แต่ว่าจะให้ดีที่สุด นายควรลงไปคนเดียว” ประโยคนั้นบอกกลายๆ ว่าเขาไม่ควรพาหยาดอรุณไปพบเจอแขกคนดังกล่าวเด็ดขาด ซึ่งธีราทรก็ดูเหมือนจะเข้าใจ

แม้จะไม่รู้ว่าใครมารอพบ และไม่สบายใจนักที่ต้องลงไปพบคนคนนั้นที่ชั้นล่าง แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธ ธีราทรจึงลงไปยังห้องรับแขกพร้อมกับพี่ชาย ปล่อยให้หยาดอรุณพักผ่อนอยู่ภายในห้องนอนลำพัง แต่พอมาถึงห้องรับแขกโลเวลก็ขอตัว เปิดโอกาสให้น้องชายต้อนรับแขกผู้มาเยือนเพียงคนเดียว

ด้านโลเวลหลังจากแยกตัวกับน้องชายตรงห้องโถงด้านล่างของบ้าน เขาก็เดินวนกลับมาที่ห้องนอนของธีราทรอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในห้องตอนนี้มีเพียงหยาดอรุณ

เสียงประตูห้องที่เปิดเข้ามาทำให้หญิงสาวที่เพิ่งหย่อนตัวลงนั่งบนขอบเตียงไม่ถึงนาทีรีบเด้งตัวลุกยืน มองไปยังเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่กำลังปิดประตูลงตามหลังช้าๆ ด้วยความตกใจ หยาดอรุณกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากเมื่อเห็นเจ้าของใบหน้าถมึงทึงเดินตรงมาหาเธอ

“คุณ! เข้ามาได้ยังไง” เธอจำได้ว่าหลังจากชายหนุ่มทั้งสองเดินออกจากห้องนี้ไป เธอก็เดินตามไปล็อกกลอนประตูห้องกับมือเอง

“ลืมไปหรือเปล่าว่าที่นี่บ้านผม” เขาบอกเสียงเข้มพอๆ กับแววตาที่จ้องมองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจดเท้า พลางหย่อนกุญแจสำรองลงกระเป๋ากางเกงตนเอง

คนที่กำลังถูกคุมคามด้วยสายตากระถดเท้าถอยหลังอย่างอัตโนมัติเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ กระนั้นก็พยายามใจกล้าต่อกรกลับไป “แต่นี่มันห้องนอนส่วนตัวนะคะ ถึงคุณจะเป็นเจ้าของบ้านก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาโดยพลการแบบนี้”

“ทำไม กลัวนายธีร์จะรู้หรือไงว่าผมเคยเป็นผัวคุณมาก่อน” ไม่ว่าเปล่าเขายังตรงมากระชากแขนเล็กของหญิงสาว แล้วเหวี่ยงร่างบางให้ล้มไปกับเตียงนอนกว้าง “คุณนี่มันนางแพศยาจริงๆ ทำไม มีผัวคนเดียวไม่อิ่มใช่ไหม ไม่พอใช่ไหม!”

“ปล่อยฉันนะ” หยาดอรุณดิ้นรน ผลักไสคนตัวใหญ่ที่ตอนนี้คร่อมอยู่เหนือร่าง เขากดไหล่บอบบางทั้งสองข้างจนแนบชิดกับเตียง ตาคมกริบที่มองเธอดุดันน่ากลัวยิ่งนัก

“คุณหนีผมไปเพื่อจะไปเป็นเมียน้องชายผมแบบนี้น่ะเหรอน้ำค้าง ถามจริงๆ คุณคิดอะไรอยู่ คิดจะทำอะไร คิดจะจับนายธีร์งั้นเหรอ หรืออยากได้ทั้งพี่ทั้งน้องสนองตัณหาตัวเอง”

“คุณน่ะสิทำทุกอย่างเพื่อสนองตัณหาตัวเอง!” คนตกเป็นรองตะคอกใส่หน้าคนที่อยู่เหนือร่างด้วยความโกรธจัด ดวงตากลมแดงเรื่อ รู้สึกอดสูกับชะตาชีวิตตัวเองเต็มกำลัง “ถ้าฉันรู้ว่าคุณธีร์เป็นน้องชายของคุณ ฉันไม่มีทางตามเขามาที่นี่แน่”

“งั้นเหรอ” เขากระตุกยิ้มเยาะมุมปากราวไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอพูด “ถ้าอย่างนั้นรู้ไหมว่านายธีร์มีคู่หมั้นแล้ว และผู้หญิงคนนั้นต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่จู่ๆ นายธีร์ก็จะขอถอนหมั้น เพราะไปหลงผู้หญิงเจ้ามารยาอย่างคุณ รู้ไหมน้ำค้างว่าคุณกำลังทำร้ายคนดีๆ คนหนึ่งให้ต้องตายทั้งเป็น”

โลเวลอยากตะโกนใส่หน้าเธอมากกว่านี้ อยากบอกหยาดอรุณมากกว่าที่เขากำลังพูด เธอไม่ได้แค่ทำร้ายปัญชิกา แต่กำลังทำร้ายความรู้สึกของเขาด้วย คนอย่างเขาไม่เคยต้องเสียใจเพราะผู้หญิงมาก่อน แต่เธอเป็นใครถึงกล้าทำกับเขาแบบนี้ ทั้งๆ ที่เขาหลงใหลเธอมากกว่าผู้หญิงคนไหนที่พบเจอมา

ใช่! เขาหลงใหลเธอจนจะบ้าตายอยู่แล้วตอนที่เธอหนีไปจากชีวิต

หยาดอรุณรู้สึกขมปร่าในลำคอไปหมดเมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ธีราทรต้องเลิกรากับคู่หมั้น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเหตุผลจริงๆ คืออะไร แต่เวลานี้ความลับของชายหนุ่มก็คือความลับของเธอที่ต้องช่วยเขาเก็บไว้

“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ” เธอยังคงพยายามผลักไสอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ร่างกายแทบจะดิ้นไม่หลุดจากเงื้อมมือใหญ่ของโลเวล

“งั้นก็รู้ไว้ซะว่าคุณกำลังทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งจะขาดใจตายเพราะถูกแย่งคนรัก เธอกำลังมาร้องห่มร้องไห้วิงวอนขอให้นายธีร์กลับไปหาอยู่ในห้องรับแขกนั่นไง จะไปดูด้วยกันหน่อยไหม” เขาบีบไหล่เล็กของหญิงสาวแรง จนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด “น้องชายผมกับคู่หมั้นรักกันมาตั้งหลายปี แต่แค่คุณเข้ามาในชีวิตของนายธีร์ไม่นาน คุณก็แย่งเขาไปจากเธอ ทั้งๆ ที่คุณเองก็มีผมเป็นผัวทั้งคน ยังหน้าด้านไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีก”

คำกล่าวหาแรงๆ ของโลเวลทำหยาดอรุณหน้าชา ขอบตาร้อนผ่าวไปหมด แต่หญิงสาวคอยบอกตัวเองในใจว่าเธอทำทุกอย่างเพื่อลูกของเธอ และไม่ใช่เวลามาสำออย ถ้าจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป เธอต้องเข้มแข็ง และอยู่เหนือแรงกดดันของผู้ชายคนนี้ให้จงได้

“เรื่องแบบนี้มันช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต อีกอย่างคุณธีร์ก็ทั้งแสนดี สุภาพบุรุษขนาดนั้น ผู้หญิงคนไหนได้อยู่ใกล้ก็ต้องรักเขาอยู่แล้ว”

 คนฟังกัดฟันแน่น หน้าคมคล้ามแดงจัดด้วยโทสะ “รักอย่างนั้นเหรอ คุณจะบอกว่าคุณรักนายธีร์ถึงมีอะไรกับเขาจนท้องแบบนี้ใช่ไหม”

“ค่ะ” เพียงคำตอบสั้นๆ แต่ยิ่งทำให้โลเวลโกรธจนเนื้อตัวสั่นไปหมด เขาบีบแขนหญิงสาวแรงจนเธอรู้สึกเหมือนกระดูกกำลังจะแตกหัก

“คุณมันนางแพศยาชัดๆ นอนกับพี่ชายแล้วยังมีหน้าบอกรักน้องชายได้ คุณมันเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่”

“ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้นี่ว่าคุณธีร์เป็นน้องของคุณ แต่ก็อย่างที่บอก คุณธีร์ดี ดีมากจนฉันห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ถึงจะรู้ตอนนี้ว่าเขาคือน้องชายของใคร ฉันก็คงห้ามใจตัวเองที่จะไม่รักเขาไม่ได้หรอก”

“แต่ผมไม่เชื่อว่านายธีร์จะรักคุณ” โลเวลไม่อยากยอมรับความจริงที่ได้ยินสักนิด และกำลังปวดร้าวไปทั้งตัวและหัวใจ เขามันบ้าไปแล้ว โง่เง่าที่สุด ทำไมถึงให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหยาดอรุณมามีอิทธิพลเหนือจิตใจตัวเองได้ “คุณใช้มารยากี่เล่มเกวียน ทำอีท่าไหนล่ะถึงทำให้นายธีร์หลงเสน่ห์จนยอมนอนด้วยได้”

หยาดอรุณกัดริมฝีปากแน่นด้วยความโกรธและเจ็บใจที่โลเวลใช้คำพูดแรงๆ ทับถมลงมา นั่นทำให้เธอประสานสายตากร้าวกับคนเหนือกายอย่างไม่ยอมแพ้ เค้นเสียงตอบเขาชัดถ้อยชัดคำว่า

“ก็คงใช้ท่าเดียวกับที่ใช้กับคุณมั้ง”

“น้ำค้าง!” เขาเค้นเสียงลอดไรฟัน ก่อนสติที่เหลืออันน้อยนิดจะขาดผึง

ริมฝีปากหนาของโลเวลฉกวูบบดเคล้าริมฝีปากเล็กหนักหน่วง จูบนี้จาบจ้วง รุนแรง ไร้ความปรานีเพราะความโกรธจนหูอื้อหน้ามืด ขณะที่หยาดอรุณสะบัดหน้าหลบหลีกเอาตัวรอด แต่ก็ไม่อาจพ้นไปได้เมื่อปากหนาร้อนที่เคยมอบจูบนับครั้งไม่ถ้วนก่อนหน้านี้ให้แก่เธอกำลังทำในสิ่งที่เขาเคยทำอีกครั้ง และคราวนี้มันร้อนแรง เร่งเร้า และไม่อ่อนหวานเลยสักนิด

“ปะ...ปล่อยฉันนะ...” เธอรีบร้องบอกเมื่อดิ้นรนจนริมฝีปากได้รับอิสระ แต่โลเวลกลับยังตามเข้ามาหวังจะรุกรานอีกคราว “ตอนนี้ฉันเป็นภรรยาของน้องชายคุณ และมีหลานของคุณอยู่ในท้องนะ”

คนตกเป็นรองหลับหูหลับตาพูดออกไป แม้ไม่รู้ว่าโลเวลกับธีราทรเป็นพี่น้องกันทางไหนอย่างไร เพราะทั้งสองช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในทุกๆ ด้าน แต่เธอคิดว่าอย่างไรเสียโลเวลก็คงจะมีความรักและผูกพันกับคนเป็นน้องบ้าง และเขาน่าจะเกรงใจความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

เหมือนความคิดของหยาดอรุณจะเป็นผล เพราะหลังจากเธอเอ่ยประโยคนั้นจบ โลเวลก็ชะงักงันไป จากนั้นหนุ่มลูกครึ่งก็คลายมือจากร่างบางแล้วผละลุกห่างจากเธอ

หญิงสาวรีบหยัดตัวลุกนั่ง เนื้อตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวที่ถูกผลักออกมาจากในใจ จนต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้ แม้จะบอกตัวเองให้กล้าเผชิญหน้ากับปัญหายิ่งใหญ่ครั้งนี้ แต่ก็ไม่อาจเก็บความเป็นหญิงที่อ่อนแอในบางทีได้มิด เธอกลัวว่าโลเวลจะทำร้ายเธอจนลูกในท้องได้รับอันตราย ทว่าโชคดีที่เขายอมถอย ชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปเฉยๆ ไร้ซึ่งคำพูดและท่าทางเดือดดาลเช่นก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ทำให้หยาดอรุณอึ้งไปพักใหญ่...

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคำพูดเมื่อครู่จะทำให้โลเวลถอยไปได้ง่ายๆ เช่นนี้

 

อีกด้านภายในเวลาเดียวกันที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์กิตติเดชาธร หญิงสาวรูปร่างอรชรน่าทะนุถนอมราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบกำลังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยน โดยมีธีราทรนั่งตรงข้าม และเขาพยายามจะเบือนสายตาหนีจากภาพน่าสงสารจับใจเบื้องหน้า

“พะ...พี่ธีร์ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะคะ พี่ธีร์ไม่รักหว่าหวาแล้วเหรอ ทำไมพี่ต้องหนีหน้าหว่าหวา ทำไมต้องทิ้งจดหมายบอกเลิกแบบนั้นไว้ด้วย...” ปัญชิกาถามเจือสะอื้น แม้น้ำตาจะเอ่อบดบังหน่วยตา แต่เธอพยายามจะมองหน้าชายหนุ่มที่รักสุดใจ ทว่าเขากลับทำเมินหนีหน้าไปทางอื่นเสียอย่างนั้น

“พี่ขอโทษ แต่เรื่องของพี่กับหว่าหวาไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว พี่ไม่เหมือนเดิมแล้ว หว่าหวาตัดใจจากผู้ชายเลวๆ อย่างพี่เถอะ”

“ไม่ค่ะ พี่ธีร์ไม่ใช่คนเลว เราคบกันมาตั้งนาน ทำไมหว่าหวาจะไม่รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง” เธอปาดน้ำตาที่เปียกท่วมหน้า และธีราทรรู้ดีว่าน้ำตาของเธอทำให้เขาเจ็บปวดพอกัน เขาจึงไม่อยากจะมองหน้าเธอตรงๆ

“คนที่นอกใจคู่หมั้นแล้วไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องน่ะเหรอที่เรียกว่าคนดี”

“อะไรนะคะ พี่ธีร์พูดเรื่องอะไร” แม้จะได้ยินชัดเจนเต็มสองหู แต่ปัญชิกาไม่อยากจะเชื่อและไม่อยากรับรู้ว่าเรื่องที่ชายหนุ่มพูดเมื่อครู่คือเรื่องจริง

“ได้ยินไม่ผิดหรอก พี่กำลังจะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่หว่าหวา” เขากลืนก้อนแข็งๆ ลงคออย่างยากเย็น “พี่ไม่ได้รักหว่าหวาแล้ว พี่ขอโทษนะ แล้วพี่จะเข้าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของหว่าหวาเรื่องขอถอนหมั้น พี่ยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้หว่าหวาเสียเวลา รอคอยผู้ชายอย่างพี่มาหลายปี แต่สุดท้ายพี่ก็ทำให้คนดีๆ อย่างหว่าหวาเสียใจ”

คนที่ได้ฟังอย่างนั้นปล่อยโฮ “ฮื้อ...ฮือ...พี่ธีร์ พี่ธีร์ทำไมใจร้ายกับหว่าหวาแบบนี้ล่ะคะ หว่าหวาไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อหรอกว่าพี่ธีร์จะนอกใจไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง เราคบกันมาตั้งนาน พี่ธีร์เป็นคนยังไงทำไมหว่าหวาจะไม่รู้ พี่ไม่เคยทำให้หว่าหวาต้องเสื่อมเสียสักครั้ง...”

“ก็นั่นมันหว่าหวาไง พี่ให้เกียรติหว่าหวามากเกินไป ไม่กล้าแตะต้อง แต่พี่ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดที่จะไม่แตะต้องผู้หญิงคนอื่น” ยิ่งเขาพูดให้เธอรู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวสักเท่าไร ธีราทรก็ยอมรับว่าตนเองเจ็บปวดเท่านั้น และคงไม่ต่างจากเธอ

ทว่าถ้าอยากให้ปัญชิกาเดินออกไปจากชีวิตเขา ทำให้เธอตัดใจได้เร็วๆ เขาก็จำเป็นต้องใจร้าย

“หว่าหวาไม่เคยห้าม ไม่เคยคิดจะปฏิเสธนะคะถ้าพี่ธีร์ต้องการเรื่องแบบนั้น เราเป็นคู่หมั้นกัน แล้วทำไมไม่บอกหว่าหวาล่ะ ทำไมต้องไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นด้วย”

“ก็พี่มันเลวไง” เขากัดฟันตอบ ซ่อนเงาน้ำตาที่พร้อมจะปริ่มหัวตาเอาไว้ “อย่าพยายามพูดอะไรอีกเลย เรื่องของเราขอให้จบแค่นี้เถอะ หว่าหวามีโอกาสดีๆ ในอนาคตต้องพบเจอกับผู้ชายอื่นที่ดีกว่าพี่”

“ไม่เอา หว่าหวารักพี่ธีร์ ถึงพี่จะมีใคร หว่าหวาก็ไม่สนใจ” เธอสะอื้นฮักก่อนจะถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “พี่ไปรู้จักผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ นานแค่ไหนแล้วคะ แล้วที่อ้างเหตุผลว่าอยากท่องเที่ยวล่ะ เพราะพี่ธีร์ต้องการไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ”

ธีราทรเงียบ เขาไม่อยากทำให้เธอเสียใจเลยจริงๆ แต่ไม่มีทางเลือก “ใช่ พี่แอบไปหาเธอ”

ที่สุดเขาก็เอ่ยออกมาเพิ่มน้ำตาให้คนที่นั่งตรงกันข้ามมากยิ่งกว่าเดิม

“แต่หว่าหวาไม่เชื่อ ไม่เชื่อที่พี่ธีร์พูดเลยสักนิด” เธอหอบความมั่นใจมาง้อเขาทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าทำผิดอะไร ธีราทรถึงขอเลิก แต่เธอไม่อยากเสียเขาไปและไม่อาจทำใจได้ “พี่ธีร์โกรธอะไรหว่าหวา บอกมาเถอะค่ะ แต่อย่าตัดสัมพันธ์แบบนี้เลย หว่าหวารักพี่ธีร์นะคะ รักมาก”

“พี่ไม่ได้โกหก พี่กำลังจะเป็นพ่อคนจริงๆ พี่พูดเรื่องจริง” ธีราทรสูดหายใจลึก เหลือบมองหน้าใสที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาด้วยความสะเทือนใจ หากเขาคงต้องเก็บกดมันไว้ “กลับไปเถอะ ถ้าเป็นไปได้อย่ากลับมาเจอหน้าพี่อีกเลย พี่อยากให้หว่าหวาไปเจอคนที่ดีกว่า” พูดจบก็ลุกยืน หวังตัดใจเดินออกไปจากห้องรับแขก แต่หญิงสาวตัวเล็กไม่ยอม เธอลุกและวิ่งตามมาขวางหน้าเขาแล้วสวมกอดร่างสูงไว้แน่น

“ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ฮื้อ...ฮือ...หว่าหวารักพี่ธีร์มากแค่ไหน พี่ก็รู้ จะให้หว่าหวาทำใจได้ยังไงที่ต้องเลิกกับพี่ หว่าหวาทำอะไรให้พี่โกรธหรือคะ บอกสิคะ หว่าหวาปรับปรุงตัวเองก็ได้ หว่าหวาจะทำทุกอย่างที่พี่ชอบ แต่ขอร้องอย่าทิ้งหว่าหวาเลยนะพี่ธีร์...”

ชายหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น เขาไม่รู้ว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่าเขากลับมาบ้านแล้ว แน่นอนว่าคงมีใครสักคนหวังดีกับเธอแล้วบอก แต่ในความเป็นจริงเขายังไม่พร้อมจะพบเจอคู่หมั้นสาวเลย เขากลัวว่าความรักที่มีต่อเธอจะทำให้ตนเองเห็นแก่ตัว และรั้งเธอไว้ให้มาตกนรกอยู่กับเขา

อันที่จริงที่ปัญชิกามาหาธีราทรได้เพราะแม่บ้านที่รู้จักและเอ็นดูหญิงสาวมานานโทร. ไปบอก เนื่องจากเห็นเธอมาตามหาชายหนุ่มที่บ้านกิตติเดชาธรหลายต่อหลายครั้ง ทว่าไม่พบเจอธีราทรสักที แม่บ้านเก่าแก่คนดังกล่าวจึงนึกสงสารและเห็นใจหญิงสาวยิ่งนัก เมื่อปัญชิกาฝากความไว้ว่าถ้าธีราทรกลับมาถึงบ้านเมื่อไรให้โทร. บอกเธอด้วย เหตุนี้วันนี้หญิงสาวจึงมาที่นี่ได้ถูกเวลา

“อย่าหลอกตัวเองอีกเลย พี่พูดเรื่องจริง พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้ให้กับผู้ชายเลวๆ คนนี้เลยนะ” เขาพูดพลางจะปลดแขนเล็กที่กอดเขาไว้แน่นออก

“พี่ธีร์จะผลักไสหว่าหวายังไงก็ได้ค่ะ แต่หว่าหวาจะไม่ไป แล้วไม่เชื่อด้วยว่าพี่ทำใครท้อง”

“พอเถอะหว่าหวา ที่นายธีร์พูดคือเรื่องจริง” เสียงนั้นดังมาจากด้านหลัง ทำให้หญิงสาวที่สะอื้นไห้กอดธีราทรไม่ปล่อยต้องหันไปมอง

“พี่วูล์ฟ...”

“ที่นายธีร์บอกคือเรื่องจริง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย” เขาบอกสีหน้าเรียบนิ่งก็จริง แต่ในใจเต้นเร่าไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย “กลับบ้านเถอะ พี่จะไปส่งเอง”

“ไม่จริง...ไม่จริง หว่าหวาไม่เชื่อ ไม่จริงใช่ไหมคะพี่ธีร์” เธอฟูมฟาย สองมือเล็กเขย่าแขนใหญ่ของคู่หมั้นราวจะคาดคั้นเอาคำตอบที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกแล้วตอนนี้

“มันคือเรื่องจริง พี่บอกได้แค่นี้ เรื่องของเรามันจบแล้ว” ธีราทรกลั้นใจพูด ขอบตาร้อนผ่าวไปหมด เขาค่อยๆ ผลักปัญชิกาออกห่าง

หญิงสาวที่กำลังยืนร้องไห้จนตัวสั่นหมดเรี่ยวแรงจะทัดทานไหว

โลเวลมองหญิงสาวคนเดียวในที่นี้ด้วยความสงสารและเห็นใจ เขากับเธอในเวลานี้คงรู้สึกไม่ต่างกัน ผิดกันนิดเดียวก็คือปัญชิกาเป็นผู้หญิง อ่อนไหวกว่า และเธอรักธีราทรมาก ส่วนเขาน่ะเหรอ เขามันก็แค่สามีชั่วคราวที่ไม่มีความหมายสักนิด ทำได้เพียงสอนบทเรียนเรื่องบนเตียงให้หยาดอรุณ เพื่อให้หล่อนเอาไปใช้กับผู้ชายคนอื่นต่อ

ยัยแม่มดเจ้ามารยาคนนั้นทำเขาเจ็บจนจุกไปหมดแล้ว ทำยังไงดี!

 

ที่ชั้นสองของบ้าน ยัยแม่มดเจ้ามารยาที่กำลังทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยแคร์หรือให้ความสำคัญแก่ผู้หญิงคนไหนอย่าง วูล์ฟ โลเวล เจ็บจนจุก เธอกำลังแง้มผ้าม่านตรงหน้าต่างบานยาวในห้องนอนออก ก่อนจะมองผ่านออกไปยังสนามหญ้าและลานบริเวณด้านหน้าของคฤหาสน์

หญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นในชุดเสื้อกับกางเกงผ้าขายาวสีครีมซึ่งตัดเย็บเรียบหรู กำลังเดินตรงไปยังรถยนต์คันหนึ่ง โดยมีผู้ชายตัวใหญ่คอยประคองไม่ห่าง หยาดอรุณมองภาพตรงหน้าที่เห็นไกลๆ นั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกยามคิดว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะคือคู่หมั้นของธีราทร

เจ้าหล่อนคงกำลังเจ็บปวดมากเป็นแน่ ดูจากสภาพและเรี่ยวแรงที่ไม่มีแม้จะเดินเหินเองจนให้โลเวลช่วยพยุงไปขึ้นรถ มันบ่งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นคงกำลังเสียใจอย่างสุดหัวใจ แม้ไม่รู้จักคู่หมั้นของธีราทรมาก่อน แต่ในความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน หยาดอรุณก็สงสารอีกฝ่ายเหลือเกิน สงสารอย่างที่สงสารตัวเองไม่มีผิด

คนท้องรู้สึกหวิวๆ ในอกข้างซ้ายและเย็นวาบตรงช่องท้อง จนเธอต้องทาบฝ่ามือลงลูบหน้าท้องของตนเบาๆ พลางพูดบางประโยคกับตัวเองด้วยเสียงเบาหวิว ประโยคที่เธออยากจะบอกกับผู้หญิงคนข้างล่างนั้น

“ฉันขอโทษนะคะ เราไม่รู้จักกัน ที่จริงฉันไม่ควรทำร้ายคุณ แต่ว่าฉันก็มีความจำเป็น ฉันจำเป็นจริงๆ ค่ะ” หยาดอรุณมองส่งหญิงสาวคนดังกล่าวที่หายเข้าไปในรถพร้อมกับโลเวล ก่อนรถคันนั้นจะเคลื่อนตัวหายออกไปจากบริเวณคฤหาสน์หลังงามนี้จนสุดสายตา

หญิงสาวถอนหายใจยาวเหมือนเหนื่อยอ่อนเต็มกำลัง เธอหลับตาลงช้าๆ เหมือนกำลังสงบจิตใจอยู่ริมหน้าต่างบานยาวนั้นไปอึดใจหนึ่ง กระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอนพร้อมคนข้างนอกเอ่ยเป็นสัญญาณ

“ผมเองครับ ธีร์”

พอรู้ว่าคนข้างนอกคือธีราทรแน่ๆ เพราะเธอเพิ่งเห็นพี่ชายของเขาขับรถออกไปกับหญิงสาวสวยคนนั้นก็ทำให้หยาดอรุณรีบสาวเท้าเดินมาปลดล็อกกลอนประตู แล้วเปิดต้อนรับเจ้าของห้องตัวจริง

เมื่อชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องก็ทำให้หยาดอรุณเห็นสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวดระคนเศร้าของอีกฝ่ายชัดเจน

“เธอมาใช่ไหมคะ คู่หมั้นของคุณ” เธอถามไปตามที่พอจะรับรู้มาบ้างก่อนหน้านี้

ธีราทรก็พยักหน้าเนือยๆ ยอมรับ “ครับ หว่าหวามาหาผม และผมก็บอกกับเธอตามที่ผมตั้งใจจะบอกไปแล้ว” แม้จะพูดไปตามแผนการที่ตนเองวางไว้ทั้งหมดแล้ว ทว่าธีราทรรู้ดีว่าเรื่องนี้สำหรับปัญชิกาคงจะไม่จบง่ายๆ

“แล้วเธอยอมเชื่อไหมคะ”

“หว่าหวาไม่เชื่อ แถมเอาแต่ร้องไห้จนผมสงสาร โชคดีที่พี่วูล์ฟเข้าไปช่วยพูดยืนยันอีกคนว่าผมกำลังจะมีลูกกับคุณน้ำค้าง แล้วลากหว่าหวากลับไปส่งบ้าน” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหนักอก “นี่ถ้าพี่วูล์ฟไม่เข้ามาช่วยพาหว่าหวากลับไป เธอก็คงจะยังร้องไห้ต่อหน้าผมไม่เลิก ที่สำคัญเธออยากจะมาคุยกับคุณน้ำค้างด้วย”

หยาดอรุณพยักหน้าน้อยๆ “เธอคงเสียใจมากนะคะ ถ้าเป็นฉันเจอสถานการณ์แบบนี้ก็คงจะไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่”

“ต่อไปนี้ผมคงต้องขอความช่วยเหลือจากคุณน้ำค้างมากขึ้น คงต้องแสดงละครตบตาคนอื่น โดยเฉพาะหว่าหวา ผมเชื่อว่ายังไงเธอต้องกลับมาอีกแน่ๆ ครับ” เขาสบตาเธอ มีแววอ้อนวอนในที

หยาดอรุณเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มดี การที่ต้องตัดใจจากคนรักทั้งๆ ที่ยังรักเป็นเรื่องที่แสนทรมาน แต่เธอโชคดีที่ไม่ได้มีความรักหรือแม้แต่ความผูกพันให้โลเวล นอกจากความสัมพันธ์ทางกายที่แสนฉาบฉวย

นั่นคือความจริง...เธอไม่ได้รักเขา เช่นเดียวกับที่เขาไม่ได้รักเธอ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น