ปรารถนาราคี
ประตูห้องที่กำลังถูกเปิดออกช้าๆ เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้แก่ผู้เป็นแขกไม่น้อย หยาดอรุณรู้สึกลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอหลายต่อหลายรอบขณะก้าวตามร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งเข้ามาในคอนโดฯ หรูของเขาในย่านหนึ่งกลางกรุง
“เชิญตามสบายนะ ไปนั่งรอผมตรงนั้นก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้” โลเวลที่เดินนำมาถึงมุมนั่งเล่นพยักพเยิดไปยังเดย์เบดสีควันบุหรี่ที่ตั้งอยู่ในมุมนั่งเล่น ตรงกันข้ามกับทีวีจอยักษ์ติดผนังห้อง
หญิงสาวพยักหน้าอย่างว่าง่าย เวลานี้เธอไม่ต่างอะไรกับจำเลยที่ต้องยอมตามใจอีกฝ่ายทุกอย่าง เพื่อให้ตนเองพ้นผิดในการกระทำที่ก่อไว้ หยาดอรุณเดินช้าและเบากริบราวกลัวว่าฝีเท้าของตนเองจะไปกระทบโสตประสาทของใครคนหนึ่งและเขาอาจไม่พอใจตรงไปยังมุมนั่งเล่น เวลานั้นดวงตากลมโตกวาดสำรวจไปทั่วคอนโดหรูแห่งนี้ แล้วอดชื่นชมความหรูหราอย่างมีระดับของเจ้าของห้องไม่ได้ แถมขนาดกว้างใหญ่ของสถานที่จะว่าไปใหญ่กว่าบ้านที่เธออาศัยอยู่สักสามเท่าได้
ร่างบางสมส่วนไปด้วยหน้าอกกลมกลึง เอวคอด สะโพกผายได้รูปค่อยๆ เดินมานั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างกริ่งเกรง โดยที่ตาก็ยังมองไปทั่วห้องอย่างสำรวจตรวจตราไม่หยุด ทั้งตื่นตาทั้งตื่นเต้น และลึกๆ มีความประหม่าหวาดหวั่น
ไม่รู้โลเวลคิดอะไรอยู่ถึงได้พาเธอมาที่คอนโดของเขาแบบนี้
“พอดีผมมีแต่วิสกี้กับไวน์องุ่น หวังว่าคุณคงดื่มได้”
เสียงทุ้มที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้หญิงสาวที่กำลังหันมองเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงบอกรสนิยมเจ้าของห้องรีบหันขวับกลับมา
“เอ่อ...ฉันก็พอดื่มได้” เธอตอบอย่างไม่เต็มเสียงนักเหมือนไม่มั่นใจ นัยน์ตาประหวั่นจับจ้องไปที่ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รูปทรงเก๋ไก๋ราคาแพงสองขวดในมือใหญ่ ซึ่งยามนี้เขากำลังวางมันลงบนโต๊ะเบื้องหน้าเธอ
“ผู้หญิงทำงานกลางคืนแบบคุณ ผมว่าดื่มได้ทุกรูปแบบแหละ จริงไหม” เขากระตุกยิ้มเหมือนเย้ยหยัน นั่นเป็นรอยยิ้มที่ทำให้หยาดอรุณไม่ชอบใจนัก รู้สึกเหมือนโลเวลกำลังดูถูกเธอเพราะอาชีพที่ทำอยู่
“ผู้ชายอย่างพวกคุณอาจมองแบบนั้น แต่จริงๆ คนทำงานแบบฉันก็ไม่ได้ดื่มเก่งทุกคนหรอกนะคะคุณวูล์ฟ”
“ถ้าดื่มไม่เก่งจะมาทำงานแบบนี้ได้ยังไง คืนๆ หนึ่งพวกคุณคงต้องพยายามทำค่าดื่มให้ได้มากที่สุดอยู่แล้ว อย่างน้อยๆ คืนหนึ่งก็สิบแก้วละมั้ง เก่งๆ หน่อยก็สามสิบแก้ว รายได้ดีน่าดู” เขายังพูดเหมือนเหน็บขณะนั่งลงแล้วรินวิสกี้สีเหลืองอำพันลงในแก้วทรงกว้าง พร้อมใส่น้ำแข็งก้อนเล็กๆ สองสามก้อนและโซดาให้ตนเองและหญิงสาว “นี่ของคุณ ลองดื่มสิ ผมว่าไม่น่าจะเข้มไปสำหรับผู้หญิงอย่างคุณ”
เขาเน้นคำว่า ‘ผู้หญิงอย่างคุณ’ ไม่รู้ว่าต้องการสื่อความหมายอะไร แต่ในความรู้สึกของหยาดอรุณ เธอคิดว่าเจ้านายของพี่สาวเธอคนนี้ต้องการจะกวนประสาทและดูถูกเธอ หญิงสาวเม้มเรียวปากเล็กเข้าหากันแน่น ข่มอารมณ์คุกรุ่นไว้
“ดื่มสิ ผมจ่ายค่าตัวคุณไปไม่น้อยเลยนะ เพราะฉะนั้นคืนนี้ยังไงคุณก็ต้องดื่มกับผมทั้งคืน” เขาว่าพลางยกแก้วของตนเองขึ้นขณะที่ใช้นัยน์ตาคมกริบบังคับให้หญิงสาวยกแก้วของเธอบ้าง
หยาดอรุณประสานสายตากับอีกฝ่าย เธอคิดว่าเห็นความเจ้าเล่ห์จัดในดวงตาคู่นั้น ทว่าเวลาต่อมากลับรู้สึกว่าดวงตาสีน้ำตาลของโลเวลมีพลังแห่งความร้อนบางอย่างที่ทำให้เธอถึงกับเนื้อตัวผะผ่าวจนต้องรีบเบือนหลบ
หญิงสาวก้มมองแก้วตรงหน้าพลางถอนหายใจอย่างอึดอัด แต่ก็ยอมทำตาม ในเมื่อนี่คือข้อแลกเปลี่ยนที่ชายหนุ่มต้องการ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบใจสักเท่าไร แต่ก็ไม่อาจขัดใจอีกฝ่ายได้ ในเมื่อเขากุมความลับของเธออยู่
มือเรียวคว้าแก้วตรงหน้าขึ้นมาแตะกับแก้วของโลเวลเบาๆ แต่ไม่กล้าสบตากับเขามากนัก ก่อนจะเลื่อนแก้วมาชิดริมฝีปากแดงอิ่มแล้วกระดกแก้วจิบเพียงเล็กน้อย
หยาดอรุณรู้ตัวเองดีว่าเธอไม่ได้เก่งเรื่องดื่ม แต่ตลอดเวลาที่ทำงานในผับ เธอใช้ความช่างพูด สดใส ช่างเอาใจกับลูกค้า ซึ่งถึงแม้ต้องเสแสร้งปั้นแต่งบ้าง ทว่าพอคิดถึงเงินที่จะได้รับ เธอก็ฝืนทำจนกลายเป็นว่าลูกค้าต่างพากันพึงพอใจและเรียกหาแต่เธอ พวกเขาซื้อเครื่องดื่มให้เธอคืนๆ หนึ่งเป็นเงินที่เธอได้ก็มากอยู่ ที่จริงแล้วลูกค้าชายพวกนั้นไม่รู้เลยว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พวกเขาซื้อให้เธอเองหรือบางครั้งถูกเธออ้อนหลอกให้ซื้อ เพื่อเธอจะได้เงินจากการดื่มแต่ละแก้วนั้น คนดื่มไม่เก่งอย่างเธอเพียงแค่จิบกลืนลงคอเล็กน้อย ที่เหลือไม่อมไว้ในปากแล้วบ้วนใส่แก้วน้ำทิ้งไป ก็แอบเททิ้งในถังน้ำแข็งบ้าง บางครั้งก็ส่งสัญญาณที่เตรียมไว้กับเด็กเสิร์ฟให้ใช้ชาหรือน้ำอัดลมสีคล้ายๆ เครื่องดื่มนั้นๆ ใส่แก้วให้เธอแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นี่ละเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงดื่มไม่เก่งอย่างหยาดอรุณอยู่เอาใจลูกค้าได้ทั้งคืนโดยไม่เมา และไม่เสียเปรียบลูกค้ามือไวพวกนั้นมากเกินควร เธอหลอกลูกค้าจนเมาคาโต๊ะ เสียเงินค่าทิปค่าดื่มให้เธอแต่ละคืนโดยไม่เปลืองตัว ขณะที่ก็ยังร้องรำทำเพลงให้พวกเขาสนุกสนานได้จนจบงาน และเมื่อลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกก็ยังจดจำเธอได้ และเรียกใช้จนกลายเป็นลูกค้าประจำ
ทว่าเวลานี้ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ละสายตาจากเธอเลย และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่คอกเทลเลานจ์ แสงไฟจึงไม่สลัว มิหนำซ้ำไฟยังสว่างมาก ชนิดที่เรียกว่ายุงบินอยู่ตรงไหนยังมองเห็นเลยทีเดียว ที่สำคัญหยาดอรุณไม่มีตัวช่วยที่จะเรียกใช้ให้เปลี่ยนเครื่องดื่มให้อย่างในร้าน ดังนั้นเธอจึงไม่อาจเลี่ยงที่จะดื่มกับโลเวล
“หมดแก้ว” เขาพูดเสียงทุ้มลึกออกมาเป็นการบังคับกลายๆ ทำให้มือเรียวของคนที่ตั้งใจจะวางแก้วในมือซึ่งมีวิสกี้เหลืออยู่เกือบเท่าเดิมลงกับโต๊ะต้องชะงัก
“เอ่อ...แต่ว่า...”
เขาส่ายหน้าเมื่อเธอเอ่ยเหมือนจะปฏิเสธ “ไม่มีแต่ อย่าขัดใจลูกค้านะน้องกระต่าย”
‘น้องกระต่าย’ ที่รู้ตัวว่าถูกหนุ่มลูกครึ่งเรียกชื่อนี้เป็นการประชดหน้าเง้าตามอารมณ์ แต่ที่สุดก็ต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเลย
เธอสูดลมหายใจลึกแล้วยกแก้ววิสกี้ขึ้น กลั้นใจกระดกจนหมดแก้วด้วยสีหน้าเหยเกเต็มกำลัง และเมื่อวางแก้วที่เหลือเพียงก้อนน้ำแข็งใสๆ กลิ้งไปมาอยู่ข้างในลงบนโต๊ะ เธอก็รีบคว้าแก้วน้ำเปล่าที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาดื่มล้างคอทันที ทว่าหยาดอรุณไม่ทันได้สังเกตว่าแก้วน้ำเปล่านั้นมาอยู่รอคอยเธอตั้งแต่เมื่อไร
โลเวลกระตุกยิ้ม นัยน์ตาฉายความฉลาดทันคนมองสีหน้าไม่สู้ดีของคนที่ถูกบังคับให้ดื่ม เหมือนถูกบังคับให้กลืนยาพิษก็ไม่ปาน ซึ่งขัดกับสิ่งที่เขารับรู้มาในวันนี้เสียจริง...ก็เธอเป็นถึงดาวประจำร้านไม่ใช่เหรอ
“ดาวประจำเลานจ์อย่างคุณ ผมก็นึกว่าจะเก่งกว่านี้ซะอีก หรือว่าไม่ชอบวิสกี้ งั้นเปลี่ยนเป็นไวน์ดีกว่านะ” คนที่สังเกตสีหน้าหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามตลอดเวลา และเตรียมน้ำเย็นรินใส่แก้วคอยเธอเมื่อวินาทีก่อนเพราะดูจากทีท่าของหยาดอรุณแล้วบอกว่าเธอไม่เก่งเรื่องดื่มจริงๆ เอ่ยออกมาราวอยากจะแกล้งอีกฝ่าย
“ไม่นะ!” คนถูกชวนดื่มไวน์ส่ายหน้าดิก “ฉันดื่มไม่เก่ง ดื่มผสมกันแบบนี้ก็ตายพอดี”
“ดื่มไม่เก่งได้ยังไง งานของคุณทำแบบนี้ทุกคืนนี่ น่าจะคอแข็งกว่าผู้ชายบางคนอีกมั้งผมว่า”
“คุณวูล์ฟ!” เสียงของเธอแข็งขึ้นตามอารมณ์ ตากลมตวัดมองเขาอย่างขุ่นใจ “ฉันทำงานแบบนี้ ฉันก็ต้องมีเทคนิค ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาดื่มสักหน่อย”
“เทคนิคงั้นเหรอ คุณคงหมายถึงเทคนิคทำให้ผู้ชายหน้าโง่พวกนั้นยอมจ่ายเงินทีละเยอะๆ ให้คุณสินะ”
“ก็ฉันทำงานเพราะเงิน คุณจะมองว่าฉันเป็นผู้หญิงหน้าเงินก็ได้ ฉันไม่ว่า และฉันยอมรับว่าทำทุกอย่างเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้ชายหน้าโง่พวกนั้น” เธอสะบัดหน้าพรืดใส่คนที่ชอบเหน็บครั้งแล้วครั้งเล่าจนเธอปวดใจ
“หมายถึงผมด้วยไหม”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด วันนี้คุณก็ยอมจ่ายเงินเพื่อเอาตัวฉันมานี่ ก็อาจจะหน้าโง่เหมือนกันก็ได้...มั้งคะ” ลงท้ายเสียงแข็งๆ เหมือนประชด ซึ่งพอเหลือบมองหน้าคมคล้ามของอีกฝ่ายก็เห็นว่าแก้มของเขาแดงก่ำ คงกำลังโกรธที่เธอหลอกด่าเขาว่าหน้าโง่
โลเวลขบกรามแน่น สูดหายใจฮึดฮัดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้นิ่งสนิทแล้วคว้าขวดไวน์มารินใส่แก้วทรงสูงสองใบ โดยไม่ลืมยื่นให้อีกฝ่าย
“ไหนๆ ผมก็หน้าโง่จ่ายเงินเหมาคุณมาทั้งคืนแล้ว คุณก็ควรทำหน้าที่ให้เต็มที่สมกับเงินที่ผมจ่าย เพราะถ้าผมไม่พอใจ เรื่องที่เราตกลงกันไว้ ผมอาจเปลี่ยนใจไม่ทำตาม” ท้ายประโยคเขาขู่ราวเอาคืน
หยาดอรุณทำอะไรไม่ได้เลย ยามนี้เธอได้แต่กำหมัดข่มความโกรธเอาไว้ ไม่กล้าต่อกรกับเขาอีก
หญิงสาวถูกคนบ้าอำนาจที่คิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าหลายแต้มบังคับให้ดื่มไวน์แก้วแล้วแก้วเล่า ไม่รู้ว่าแก้วที่เท่าไรแล้ว แต่หยาดอรุณรู้สึกหน้าชาตัวชาไปหมด สมองเธอเริ่มเบลอๆ ตาพร่าจนมองเห็นนายหมาป่าบ้าๆ ตรงหน้าหล่อราวเทพบุตร...จริงๆ เขาก็อาจหล่ออยู่แล้วละ แต่พอเธอเมาเขาก็ยิ่งดูหล่อ
ไม่นะ! ยายน้ำค้างคิดอะไรอยู่ อย่าไปชื่นชมความหล่อจอมปลอมเด็ดขาด
คนเมาส่ายหน้าเร็วๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่าน
“เอิ๊ก ฉะ...ฉันขอตัวไปห้องน้ำ” ว่าแล้วก็หยัดตัวลุกยืน แต่แค่ยืนยังไม่ตรงเลย หญิงสาวรู้สึกว่าพื้นโคลงเคลงจนยืนไม่อยู่
“น้ำค้าง ระวังหน่อย” เสียงทุ้มต่ำที่ดังใกล้หูเพราะพริ้งเหลือเกิน พร้อมกับความอบอุ่นที่โอบรอบกาย หญิงสาวไล่สายตาปรือหวานมองไปตามร่างกายตนเอง ถึงรู้ว่าตอนนี้เธอตกอยู่ในวงแขนแกร่งของเขา
โลเวลที่เห็นท่าว่าหยาดอรุณจะไม่ไหวเสียแล้วรีบลุกจากเก้าอี้ตรงกันข้ามมารับร่างบางไว้ ก่อนที่เธอจะลุกแล้วล้มหัวฟาดขอบโต๊ะ
ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าสัมผัสใกล้ชิดมากขนาดนี้ระหว่างเขากับเธอจะปลุกความร้อนที่ซ่อนไว้ในกายให้ลุกโชน จนเขาต้องกัดฟันข่มอาการเอาไว้อย่างหนัก
“น้ำค้าง ทำผมอีกแล้วนะ เนื้อตัวคุณ กลิ่นกายของคุณ อาบมาด้วยยาเสน่ห์หรือไง” เขาบ่นพึมพำข้างร่างบางที่ประคองอยู่
หยาดอรุณช้อนสายตามองแล้วเผยยิ้มหวานหยดอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง
“คุณพูดอะไรนะคะ พูดใหม่สิคะ”
“อย่ามาทำเสียงหวานตาหวานใส่ผม เดี๋ยวก็ทนไม่ไหวหรอก” เขาขู่ แต่สายตาเจ้ากรรมกลับลดต่ำไปที่หน้าอกอิ่มที่โผล่ออกมาจากเดรสเกาะอกแสนเซ็กซี่ ใจร่ำร่ำอยากจะก้มหน้าลงไปซุกไซ้สูดกลิ่นหอมๆ และลิ้มลองความหวานที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าชิ้นเล็กนั้นเสียเหลือเกิน
โอ้ย! ร่างกายเขาปวดหนึบไปหมด เด็กบ้านี่ทำเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วนะ
“จะไปห้องน้ำใช่ไหม ผมพาไป”
คนเมาส่ายหน้า “ไม่ ฉันไม่อยากเข้าห้องน้ำ”
“แล้วเมื่อกี้บอกจะไปห้องน้ำไง”
“ไม่ ฉันง่วง อยากจะนอน” ดวงตาปรือปรอยปิดลงช้าๆ แล้วร่างบางก็ทิ้งน้ำหนักทั้งตัวของตนเองอย่างไร้การควบคุม หญิงสาวปล่อยตัวลงนอนยาวไปตามโซฟาเดย์เบด ทำเอาโลเวลที่ประคองอยู่เสียหลักล้มลงไปด้วย
ใบหน้าเรียวซุกซบแนบลำคอใหญ่ของคนที่ทับทาบอยู่บนกาย ปากเล็กยังพร่ำพูดอย่างคนไม่มีสติสัมปชัญญะเต็มร้อย
“ไม่ห่มผ้าห่ม หนัก อึดอัด” เธอผลักคนตัวใหญ่ที่คิดว่าเป็นผ้าห่มผืนหนักออก
โลเวลที่แน่นิ่งอยู่บนกายสาวเจ้าไปชั่ววินาทีรีบขยับตัวลุกห่าง หวังจะข่มอารมณ์ความต้องการดิบเถื่อนอย่างชายลงก่อนที่จะเผลอทำอะไรคนเมา ทว่าพอเขาผละห่างร่างบางได้ ชายหนุ่มก็ต้องเบิกตาค้าง ตะลึงงันเพราะเรือนร่างผุดผาดของคนที่นอนดิ้นขลุกๆ อยู่บนโซฟา
เดรสเกาะอกสั้นสีขาวของเธอยามนี้ช่วงอกเลื่อนหลุดลงมาจากทรวงสวย เผยให้เห็นความนุ่มหยุ่นที่มีบราซิลิโคนสีเนื้อปิดบังอยู่แทบไม่มิด ขณะที่ช่วงกระโปรงถลกขึ้นสูงจนเห็นโคนขาขาวๆ ยั่วยวนตา
“น้ำค้าง คุณยั่วผมเหรอ” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างแหบพร่า ตอนนี้เนื้อตัวเครียดเกร็งไปหมด โดยเฉพาะกลางกายชายที่เริ่มขยายใหญ่ดุนดันภายใต้กางเกง
ตลอดหลายวันมานี้เขาเฝ้าคิดถึงแต่หยาดอรุณ ขณะที่นอนกับผู้หญิงคนไหนก็เห็นแต่หน้าเธอ ฝันว่าร่วมรักกับเธออย่างมีความสุข และเมื่อมาเจอตัวจริงของหญิงสาว เขาก็แทบจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนเธอช่างมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและความต้องการของเขาเสียเหลือเกิน
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะไอ้วูล์ฟ ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ไปนอนกับคนอื่นที่เขายินยอมดีกว่าไหม อย่ายุ่งกับน้ำค้างเด็ดขาด เธอกำลังเมาอยู่นะ
แม้จะเตือนตัวเองเช่นนั้น แต่ร่างกายของเขากลับไม่ฟังเหตุผลเอาเสียเลย โลเวลโน้มหน้าลงไปหาร่างบางที่ยังนอนดิ้นจนเสื้อผ้าปิดเนื้อตัวขาวๆ ของเธอไว้ไม่มิด เขาจูบเบาๆ ที่เนินอกผุดผาดนั้นก่อนจะเลื่อนริมฝีปากร้อนๆ พรมจูบไล่ตามซอกคอและแนวคางมน ขณะที่มือใหญ่ที่ไม่อาจควบคุมได้คืบคลานเข้ามาเกาะกุมทรวงสวยทั้งสองของคนเมา แล้วดึงบราซิลิโคนของเธอโยนทิ้ง
“อื้ม...” หยาดอรุณครางต่ำในลำคอ เธอดิ้นเหมือนจะหลบหลีกการรบกวนที่เกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้หน้าอกอิ่มๆ เบียดเข้าหาฝ่ามือใหญ่มากกว่าเดิม ทำให้เขาบีบเคล้นอย่างได้ใจ
โลเวลครางกระเส่ายามคนใต้ร่างเบียดกายนุ่มนิ่มเข้าหา ทุกส่วนของร่างใหญ่ยามนี้เครียดเกร็งจนแทบจะระเบิด
“น้ำค้าง เป็นของผมเถอะนะ ผมต้องการคุณเหลือเกิน” เขากระซิบเสียงพร่าแนบใบหูของคนที่นอนไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก่อนจะเลื่อนตาคมกริบมาสำรวจดวงหน้าเรียวของสาวเจ้าที่ทำให้เขาเพ้อหาตั้งแต่แรกพบ “เป็นของผมได้ไหม”
เสียงพึมพำที่ดังกวนใจทำให้หยาดอรุณปรือตาหนักๆ ขึ้นมอง แล้วเธอก็ยิ้มหวานหยดให้เขา “คะ...คุณวูล์ฟ มา...มาทำอะไร...ที่นี่คะ”
เขายิ้มบางๆ ตอบรับรอยยิ้มหวานของเธอ ก้มหน้าต่ำลงพูดใกล้ปากบางจนเกือบจะชิด “มานอนกับคุณไง ให้ผมนอนด้วยได้ไหม”
คนเมากลืนน้ำลายลงคอ สติของเธอไม่ได้กลับมาแต่อย่างใด รู้สึกแค่ว่าคอแห้งปากแห้งไปหมดจนต้องแลบลิ้นสีชมพูออกมาเลียริมฝีปาก ภาพนั้นทำให้คนตัวใหญ่ที่อยู่ใกล้จนหน้าแทบแนบชิดใบหน้าหญิงสาวมองด้วยหัวใจเต้นกระหน่ำแรง
ให้ตายเถอะ! เธอกำลังยั่วเขา
จากที่ไม่มีแรงจะควบคุมตัวเองอยู่แล้ว พอเจอท่าทางยั่วยวนของหญิงสาวเข้าไปอีกนิด ทุกอย่างที่ถูกเก็บกดไว้ก็ระเบิดออกทันที โลเวลทาบริมฝีปากจูบคนใต้ร่างอย่างเร่าร้อนราวหิวกระหายมาแสนนาน เขาส่งปลายลิ้นอุ่นๆ เข้าไปทักทายลิ้นสีชมพูที่กล้าโผล่ออกมายั่วเขาให้หมดความอดทนเมื่อครู่อย่างดูดดื่ม ขณะที่คนเมาก็ตอบสนองอย่างไร้เดียงสาและไร้ซึ่งแรงต่อต้าน
“อื้ม...” เสียงครางราวจะหมดลมหายใจของคนถูกจูบทำให้โลเวลยอมถอนริมฝีปากออก จากนั้นเขาก็ไล่ประพรมปากชื้นซุกไซ้หน้าลงกับซอกคอขาวเนียนนุ่ม มือใหญ่ดึงทึ้งเดรสตัวเล็กบนกายหญิงสาวทิ้ง และตามด้วยชั้นในตัวจิ๋วที่กระเด็นออกไปเป็นอย่างสุดท้าย
หนุ่มลูกครึ่งตาพร่าเมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นความงดงามตรงหน้าที่แสนจะยั่วเย้าความปรารถนาร้อนๆ ของเขาให้แข็งขึง
“น้ำค้าง คุณสวยจนผมจะทนไม่ไหวแล้ว” วูบหนึ่งขณะที่โลเวลกำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองทิ้ง เพื่อทำตามไฟปรารถนาที่ลุกร้อน ความคิดสองอย่างที่สวนทางกันอย่างหนักก็กำลังตีรวนวุ่นวาย ระหว่างความต้องการของร่างกายกับเสียงหัวใจที่เต้นแรงผิดไปจากที่เขาเคยรู้สึกกับผู้หญิงอื่น ยามนี้ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ถูกจริงๆ ว่าเขาควรจะเลือกทางไหน แต่ดูเหมือนหยาดอรุณจะช่วยทำให้โลเวลเลือกได้เมื่อเธอเพ้อออกมา
“พะ...พี่ขวัญ น้ำจะช่วยพี่ขวัญเอง...นะ...น้ำจะไปทำงานที่ร้าน หาเงินมาให้พี่ขวัญ...” เธอกอดร่างเปล่าเปลือยของตัวเองแน่น เปลือกตาบางใสเปิดๆ ปิดๆ สลับกันไปมา “น้ำจะหลอกเงินผู้ชายพวกนั้นให้ได้เยอะๆ...น้ำจะไปทำงาน” ว่าแล้วร่างบางที่ไม่มีอาภรณ์ปิดสักชิ้นก็พยายามหยัดลุกนั่ง
โลเวลมองคนเมาที่เพ้อเจ้ออย่างไม่ละสายตา ขบกรามแน่นจนเส้นเอ็นตรงลำคอปูดโปน
“จะไปไหน!” เขาคว้าร่างบางที่ลุกนั่งอย่างไร้สติไว้พลางเค้นเสียงถาม
“น้ำจะไปทำงาน”
“ยังคิดว่าคุณจะมีโอกาสกลับไปทำงานบ้าๆ นั่นอีกเหรอ นึกว่าผมจะยอมปล่อยคุณไปยั่วไอ้ผู้ชายหน้าโง่พวกนั้นหรือไง ฝันไปเถอะ” อะไรที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ในตัวของหยาดอรุณก็ไม่ทราบได้ แต่แค่คิดว่าจะปล่อยให้เธอไปจากเขาแล้วไปเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่น โลเวลก็ปวดแปลบในอกซ้ายแล้ว
เขาหยัดกายลุกยืนด้วยความเร็ว แล้วตวัดร่างขาวนวลเย้ายวนตาของหยาดอรุณสู่วงแขนใหญ่ อุ้มเธอเดินฉับๆ หายเข้าไปในห้องนอนของตนเอง โดยไม่ตรึกตรองเหตุผลใดๆ อีกต่อไป
ร่างขาวผ่องถูกหย่อนลงบนที่นอนนุ่มบนเตียงกว้างในห้องนอนโทนสีอบอุ่น หยาดอรุณนอนดิ้นขลุกๆ ออกอาการมึนงง สลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่น โดยไม่รู้เลยว่ายามนี้ข้างเตียงมีคนตัวใหญ่หน้าตึงจัดกำลังจัดการกับเสื้อผ้าของเขาเอง ปลดทิ้งออกไปจากกายจนหมดสิ้นไม่ต่างจากเธอ และนาทีต่อมาโลเวลก็ก้าวขึ้นมาบนเตียง ทาบกายหนาใหญ่ที่อุ่นจนร้อนเบียดแนบสนิทกับร่างนุ่มนิ่มนั้นอย่างเอาแต่ใจ
“ผมไม่ปล่อยคุณให้หลุดมือไปแน่ เป็นของผมเถอะน้ำค้าง” เขาว่าแล้วลดริมฝีปากร้อนๆ ไปขบเม้มติ่งหูเล็กจนเธอสั่นสะท้านและครางตอบรับอย่างพอใจ
“คะ...ใคร ทำอะไรน้ำ...” เธอถามออกมาเสียงสั่นพร่า ปรือตามองคนตัวใหญ่เหนือกายแล้วก็เห็นว่าเขาคือพ่อเทพบุตรที่หล่อเร้าใจเหลือเกิน “คุณวูล์ฟ ทำอะไรน้ำคะ”
“เล่นผัวเมีย แล้วต่อไปคุณก็คือเมียผม จำไว้นะน้ำค้าง” ตอบเสียงหนักแน่นแค่นั้น แล้วเขาก็ไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลงอีก
เขาลดหน้าลงคลุกเคล้ากับทรวงอกอิ่มทั้งสองข้าง อ้าปากโอบรัดปลายถันสีชมพูสู่อุ้งปาก ดูดดึงสลับกับบีบเคล้นด้วยฝ่ามือตามแรงปรารถนาที่อัดแน่นจนทรมาน ยิ่งได้ยินเสียงครางกระเส่าซ่านของหญิงสาวที่เหมือนจะถูกอกถูกใจสิ่งที่เขาปรนเปรอให้ ชายหนุ่มก็ยิ่งรุกหนักอย่างไม่ให้เหลือช่องว่างพักหายใจ
สองร่างแนบสนิทกอดรัดพันเกลียวราวเป็นคนคนเดียวกัน ปากหนาและมือใหญ่ที่ชำนาญการเรื่องรักลูบไล้สัมผัสกายสาวเจ้าทุกตารางนิ้ว ไม่มีที่หวงห้ามใดในกายของหยาดอรุณเป็นความลับสำหรับโลเวลอีกต่อไป
ปากหนายังคอยวนเวียนประพรมจูบซุกซอนไปทั่วร่างบางอย่างหลงใหล หญิงสาวหยัดตัวบิดเร่าตามสิ่งเร้าที่เขาสรรค์สร้างขึ้น เสียงหวานครางครวญอย่างรัญจวนใจ ปลุกกำหนัดในกายชายให้แรงกล้ายิ่งกว่าเดิม
“อ้า...อื้ม...คะ...คุณวูล์ฟทำอะไรน้ำ...”
“ผมจะพาคุณไปเที่ยวสวรรค์ไง เมียรัก...” เขากระซิบบอก คำท้ายของประโยคนั้นราวกับกำลังแสดงสิทธิ์ของตนเอง ทั้งที่ยังไม่ได้ตีตราจับจองเธออย่างสมบูรณ์เลยด้วยซ้ำ
เขาจูบเธอหนักหน่วงอีกครั้ง หลอกล่อด้วยปลายลิ้นพลิกพลิ้วแสนหวานให้หญิงสาวที่ไม่อาจควบคุมสติได้กระเจิดกระเจิงอย่างไม่มีทิศทาง ระหว่างที่นิ้วโป้งใหญ่ก็วนคลึงยอดถันที่ชูชันทั้งสองข้าง สร้างความวาบหวิวให้แก่หญิงสาวจนไม่อาจปฏิเสธใดๆ
หยาดอรุณสั่นสะท้านไปทั่วร่าง เธอกอดรั้งลำคอแกร่งไว้แน่น เบียดกายเข้าหากายใหญ่ และเมื่ออุ้งปากฉ่ำชื้นเริ่มครอบครองยอดอกอีกคราว หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะตรึงท้ายทอยของเขาให้เข้าหาทรวงอกสวยทั้งสอง ปรนเปรอให้เธอพบพานความสุขที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนยิ่งขึ้น
“คุณชอบใช่ไหมน้ำค้าง”
“อืม” เธอพยักหน้าทั้งที่ดวงตาปิดลงเรื่อยๆ
คนได้รับคำตอบยิ้มในหน้า แล้วเลื่อนริมฝีปากลงต่ำเรื่อยๆ แวะเวียนหยอกเย้าทุกจุดอ่อนไหวบนกายสาวจนเธอสั่นสะท้าน ความสุขถูกส่งต่อมาอย่างไม่หยุดหย่อน นิ้วแกร่งร้ายกาจเคลื่อนต่ำมากรีดกรายลงกลางเนินสาวที่ฉ่ำด้วยน้ำหวานให้เธอได้เรียนรู้ความซาบซ่านขั้นพื้นฐาน ก่อนจะเจอความแข็งแกร่งยิ่งใหญ่แท้จริง
ความแปลกใหม่ทำให้หญิงสาวคราง แอ่นสะโพกขยับโยกเข้าหาปลายนิ้วของเขาที่จุ่มจ้วงสู่ธารอุ่นนั้นอย่างเป็นจังหวะ แต่ไม่นานความเสียวแปลบที่แปลกใหม่ก็จากไป ทำให้คนที่กำลังเพลิดเพลินแทบจะหยุดหายใจ
สองแขนเรียวไขว่คว้าหาความสุขที่ถอยห่างไป โลเวลจึงต้องรีบโอบกอดเธอไว้แน่น
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทิ้งคุณแน่ๆ น้ำค้างคนสวย”
เขาถูไถความใหญ่โตของชายกับหน้าขาอ่อนนิ่มของหญิงสาวให้เธอได้คุ้นชิน ก่อนจะส่งมันเข้าสู่กระแสธาราแสนหวานที่ปรารถนามาตั้งแต่วันได้พบหน้าเธอครั้งแรก
หยาดอรุณกระตุกเฮือก ความสุขละมุนก่อนหน้ากลายเป็นความเจ็บแปลบกลางกายจนต้องส่ายหน้ากับหมอนแรงๆ
“น้ำเจ็บ...” เธอครางน้ำตาซึม ความเจ็บเสียดแปลบผสมความสุขลึกๆ ที่ไม่เข้าใจ ทำให้หญิงสาวไม่แน่ใจว่าจะถอยหรือสู้
“ปล่อยตัวตามสบายนะ ไม่เกร็งนะครับเมียรัก เชื่อผมนะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” เขาปลอบด้วยเสียงทุ้มข้างหูเล็ก แล้วจูบแผ่วเบาที่ข้างแก้มใสซึ่งแดงเรื่ออย่างหวงแหน ก่อนโลเวลจะดันความแข็งแกร่งของตนไปจนสุดทางรัก
“โอ๊ะ! ไม่...ปล่อยน้ำ จะ...เจ็บ” เธอดิ้นแรงขึ้น กระถดตัวห่าง แต่มือใหญ่ยังรั้งตรึงสะโพกผายเอาไว้แน่น
ชายหนุ่มสูดปากเมื่อความคับแคบแสนบริสุทธิ์ของเธอรัดรึงความเป็นชายของเขาเอาไว้แนบแน่น ความสุขซัดสาดสู่กายและใจของเขาจนเกร็งทั้งตัว
“น้ำค้างของผม เมียรัก คุณเป็นของผมเพียงคนเดียว จำเอาไว้ คุณเป็นของผม” ประโยคนั้นราวย้ำเตือนให้หญิงสาวรับรู้ว่าชีวิตเธอจะไม่ได้รับอิสระอีกต่อไป แต่คนที่เมาทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และฤทธิ์รักที่โลเวลมอบให้ยามนี้หูอื้อตาลายไปหมด เธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น นอกจากกอดรัดร่างใหญ่เหนือกายไว้แน่นราวจะปลดปล่อยความเจ็บปวด
เมื่อคนตัวใหญ่จูบเธอจนทั่วร่าง ความเจ็บปวดนั้นก็เลือนรางไป เขาขยับกายเนิบนาบให้เธอคุ้นชิน ปรับตัวยอมรับและผ่อนคลาย ไม่ได้เอาแต่ใจเพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่แสนจะทรมานและต้องการปลดปล่อยตัวตนของเขาสู่กายเธอแทบจะบ้าคลั่งอยู่รอมร่อ ทว่าก็รอจนเธอเปิดทางและโอนอ่อนไปตามแรงชักนำ
เสียงหนุ่มสาวครางกระเส่าเมื่อเกมรักเริ่มไปได้อย่างสวยงาม จากช้าๆ ก็เร่งเร็วตามไฟราคะที่ปลุกปั่นพวกเขายามนี้ สะโพกขยับโยกสอดรับหากันอย่างเป็นจังหวะ ผิวกายเปล่าเปลือยเสียดสีกันจนร้อนผ่าว กระทั่งความร้อนจากเลือดในกายคนบนเตียงพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด โลเวลจึงรีบเร่งความเร็วถี่กระชั้นกว่าเดิมเพื่อส่งตัวเองและคนใต้ร่างสู่ความหอมหวานที่คอยท่า
ทรวงอกสวยคู่นั้นขยับสะท้อนขึ้นลงตามแรงหอบสะท้านอย่างยั่วยวน ชายหนุ่มอดไม่ไหวที่จะแนบใบหน้าคมคล้ามลงไปคลุกเคล้า ขณะที่เขาก็ยังควบจังหวะสะโพกให้จุดสอดประสานนั้นร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พาหญิงสาวล่องลอยขึ้นแตะปุยเมฆสีขาวพร้อมกัน
เสียงครางต่ำลอดออกมาจากปากหนาบอกความสุขไม่ต่างจากสีหน้า สองร่างกระตุกเกร็งก่อนพวกเขาจะปล่อยร่างที่ชุ่มเหงื่อนอนซุกซบเข้าหากันอย่างหมดเรี่ยวแรง เสียงหวานแหลมอย่างสุขสมของหญิงสาวเปล่งออกมาปิดท้ายเกมรัก
“อื้ม...คุณวูล์ฟ...กอดน้ำหน่อยสิคะ”
คำขอของเธอทำให้เขาไม่อยากขัดใจ หรือจริงๆ แล้วเขาก็ไม่อยากจะขัดใจตัวเองด้วยการอยู่ห่างเธอกันแน่ อันนี้โลเวลก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่รู้ๆ คือหลังจากเขาพาหยาดอรุณลอยข้ามผ่านอุปสรรคจนพบพานความสุขครั้งแรก เขาก็ไม่อาจหยุดยั้งตัวเองที่จะเรียกร้องความสุขจากเธออีกเป็นครั้งที่สอง เขารักเธออีกครั้งโดยที่หญิงสาวแสนน่ารักยอมตามใจ และที่สุดเธอก็อ่อนปวกเปียก หลับเป็นตายในอ้อมกอดของเขาจนกระทั่งเช้าของอีกวัน
ความรู้สึกแรกยามรู้ตัวตื่นหยาดอรุณปวดหนึบไปทั้งร่าง และเมื่อขยับตัวก็เจ็บแปลบกลางกายสาวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกอึดอัดแต่ก็อบอุ่นแปลกๆ เพราะบางสิ่งโอบรัดร่างเธอไว้แนบแน่น
หญิงสาวลืมตาขึ้นรับแสงสว่างยามเช้าช้าๆ รับรู้ถึงไออุ่นบางอย่างที่เป่ารดข้างแก้มนวล ทำให้ต้องเพ่งสายตาไปยังจุดนั้นที่แรก ซึ่งก็คือข้างกายเธอนั่นเอง
ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าคมคล้ามหล่อเหลาของชายคนหนึ่ง หยาดอรุณกวาดสายตามองเขานิ่งอย่างนั้นไปอึดใจ ก่อนสติสัมปชัญญะทั้งหมดจะกลับคืนมา
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องดังลั่นพร้อมกับที่ร่างบางผละห่างจากคนตัวใหญ่ที่นอนกอดก่ายเธออยู่ด้วยความรวดเร็ว ทำให้ผ้าห่มที่คลุมกายหลุดไปกองที่เอว ส่งผลให้ผิวกายหญิงสาวเย็นวาบ
หยาดอรุณก้มหน้าสำรวจตัวเองอย่างตื่นตระหนก และพบว่ายามนี้ตนเปล่าเปลือย ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดกายแม้แต่ชิ้นเดียว
“ไม่นะ...ไม่จริง” เธอส่ายหน้าแรงๆ ยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองราวจะปลุกจากฝันร้าย
“เสียงดังอะไรแต่เช้า หืม...ปลุกผมด้วยเสียงกรี๊ดๆ แบบนี้ ผมตกใจหมดเลย” โลเวลบอกนิ่งๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อนพลางหยัดตัวลุกนั่งแล้วคว้าร่างบางที่เริ่มถอยห่างออกไปกลับมากอดไว้แน่น หอมแก้มเธอฟอดใหญ่รับอรุณ “อรุณสวัสดิ์ครับเมียรัก”
“คนเลว ปล่อยฉันนะ!” ฟาดฝ่ามือลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่ายไม่ยั้ง “คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณรังแกฉัน”
“กล่าวหาผมแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้ำค้าง เมื่อคืนใครกันที่ครางเรียกชื่อผมทั้งคืน”
“คนเลว ชั่ว! ไปห่างๆ ฉันเลย” เธอแว้ดใส่พลางผลักคนตัวใหญ่อย่างรังเกียจ แต่โลเวลยังตามไปยื้อคนที่คิดจะหนีห่างเข้ามารวบไว้ในสองแขนอย่างง่ายดาย
“อย่าเพิ่งต่อว่าผมได้ไหม นึกดีๆ ก่อนว่าเมื่อคืนคุณมีความสุขแค่ไหน ถ้าคุณนึกออกรับรองไม่ด่าผมแบบนี้แน่ๆ แต่จะขอบคุณผมมากกว่า...”
เผียะ! คนที่โกรธจนหน้าแดงฟาดฝ่ามือลงกับแก้มสากของเขาด้วยความเดือดดาล เธอสะบัดตัวอย่างแรงออกจากการเกาะกุมของเขา พลางตวาดลั่นด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด
“สารเลวที่สุด! คุณรู้ว่าฉันไม่มีทางสู้ คุณก็ยังรังแกฉันอีก ปล่อยฉัน อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
คนถูกตบหน้าแถมถูกด่าว่าสารเลวกัดฟันแน่น ถลึงตาวาวโรจน์มองเมียตามพฤตินัยที่ออกอาการพยศราวจะปรามให้เธอสงบ แต่หยาดอรุณไม่สนใจสายตาน่าเกรงขามนั้นอีกต่อไปแม้แต่น้อย เธอร้องไห้สะอื้น ปากก็ยังต่อว่าเขาไม่หยุด
“หยุดด่าผมก่อนได้ไหม เรื่องนี้เราต้องคุยกัน”
“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคนชั่วอย่างคุณ ปล่อยฉันเลยนะคุณวูล์ฟ ฉันเกลียดคุณ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” ร่างบางดิ้นแรงส่งผลให้เนื้อแท้นุ่มนิ่มที่ถูไถกับกายแกร่งของชายหนุ่มร้อนผ่าวไปหมด ยิ่งรู้สึกว่าหน้าอกอิ่มของตัวเองต้องเบียดชิดกับอกกว้างของเขาจนแทบกลายเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อตัวสาวเจ้าก็แดงเรื่อ ทั้งความโกรธและอายปะปนกัน
“สงสัยว่าผมคงต้องรื้อฟื้นความทรงจำให้คุณอีกสักสองสามยกละมั้ง จะได้จำได้ว่าเมื่อคืนผมทำให้คุณมีความสุขแค่ไหน แล้วคุณจะได้เลิกด่าผัวตัวเองสักที”
“ไม่นะ ปะ...” เสียงต่อต้านหลุดผ่านริมฝีปากเล็กไม่ทันจบ โลเวลก็ปิดปากเธอด้วยริมฝีปากร้อนของเขารวดเร็ว แล้วกดร่างบางที่ดิ้นขลุกๆ อย่างไม่ยอมแพ้กับที่นอน ก่อนจะทาบทับร่างหนาหนักของตัวเองกักขังหญิงสาวจนไร้เรี่ยวแรงต่อสู้
หยาดอรุณสั่นสะท้านไปหมดเพราะการรุกเร้าอย่างช่ำชองของคนตัวใหญ่ แรงต่อต้านขัดขืนถูกดูดกลืนด้วยกระแสพิศวาสที่เขามอบให้ และจากนาทีนั้นหญิงสาวก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย นอกจากความสุขซาบซ่านที่ชายหนุ่มยัดเยียดให้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ความคิดเห็น |
---|