1

เด็กน้อย...ที่ไม่น้อย


บทนำ

เด็กน้อย...ที่ไม่น้อย

 

หลังจากจบมัธยมและแยกย้ายกันไปเรียน มีชีวิตของตัวเองตามเส้นทางที่เลือกเดิน ร้อยรักและกลุ่มเพื่อนโรงเรียนหญิงล้วนสุดแสบก็ไม่ได้พบปะกันสักเท่าไร แต่ในวันนี้ ด้วยจังหวะอันดีอะไรก็มิอาจทราบได้ จู่ๆ ทุกคนก็ว่างตรงกันและนัดหมายมาเจอกันที่ร้านไก่ย่างส้มตำเจ้าเด็ดได้เฉยเลย

ก่อนออกมาจากบ้าน ร้อยรักโดนปริมากำชับเสียหลายรอบว่า ธีมเสื้อผ้าในวันนี้คือเบาๆ ชิลชิล หญิงสาวเลยแต่งตัวมาด้วยความธรรมดาที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทว่า...เมื่อเดินเข้าร้านมายังโต๊ะที่เพื่อนหญิงพลังหญิงของตนนั่งอยู่ ร้อยรักก็ได้รู้แล้วว่าเบาของเธอกับเบาของเพื่อน มันคนละเบากันโดยสิ้นเชิง

“โห ยายรัก ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้มาแบบธรรมดาๆ ไม่เยอะ” ปริมาบ่น ปรายตามองคนสวมชุดจัมป์สูทเกาะอกขาสั้นสีแดงเลือดหมูอย่างหมั่นไส้

“อะไร้ ฉันว่าวันนี้ฉันมาน้อยมากนะปริม ไม่โซพราวเท่าไรเลย” ปากบอกอย่างนั้น แต่กลับทำกิริยาสะบัดผมดำตรงสลวยของตนให้พลิ้วไหว ราวกับว่าตัวเองคือพรีเซนเตอร์แชมพูสระผมอย่างไรอย่างนั้น

“ไม่พราวอะไรของแก นี่แกสวยมงลงเจิดจรัสฆ่าคนทั้งร้านเลยนะ”

“คือฉันก็พยายามจะกดความสวยแล้วอะปริม แต่มันได้แค่นี้” คนงามเลิศยกมือขวากุมหน้าอก แกล้งทำเป็นถอนใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ...เกิดมาสวยก็ลำบากเหมือนกันเนอะ”

เพื่อนๆ พากันร้องโห่ให้ ส่วนร้อยรักก็หัวเราะคิกคักชอบใจ แกล้งเชิดหน้าใส่ทุกคน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ ปริมา

วาจาที่เธอพูดอาจจะดูน่าหมั่นไส้ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด ตั้งแต่โตจนพอเริ่มรู้ความ ร้อยรักก็รู้แจ้งแก่ใจมาตลอดเลยว่าเธอน่ะ...สวยล้ำ หน้าเป๊ะทุกส่วน

ความสวยทำให้เธอมีอภิสิทธิ์ในอะไรหลายๆ อย่าง นำพาสิ่งต่างๆ ให้เข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะ...ผู้ชาย!

พูดก็พูดเถอะ อย่าหาว่าร้อยรักขี้โม้เลย เธอน่ะฮอตปรอทแตกในทุกช่วงเวลาของชีวิตเลยเชียวละ

อนุบาลไปจนถึงประถม...เธอได้สติกเกอร์รูปหัวใจจากเพื่อนชายทุกคนในห้อง

มัธยม...เธอได้ดอกกุหลาบแดงจากเด็กผู้ชายในโรงเรียนละแวกใกล้เคียงกับโรงเรียนหญิงล้วนของเธอ จนหอบกลับบ้านแทบไม่หวาดไม่ไหว

มหาวิทยาลัย...เธอได้รับคำชวนไปดินเนอร์จากกิ๊กที่มีอยู่เกือบทุกคณะ

พอได้มาทำงานเป็นสไตลิสต์อิสระ เธอก็ยังฮอตเสียจนโดนเพื่อนร่วมวงการแฟชั่นเขม่นจนตาแทบหลุด

ทว่า...แม้เขาเหล่านั้นจะเพียรพิชิตใจเธอเพียงใด เธอก็ขอถือคติว่า ‘มีกิ๊กนับร้อย แต่โนบอยเฟรนด์’

จำกัดสถานะให้เป็นแค่กิ๊กกันพอขำๆ แต่ไม่อาจเป็นอะไรได้มากกว่านี้ ซึ่งถ้าใครมีทีท่าว่าอยากจะเป็นเจ้าของเธอละก็ เธอหยุดความสัมพันธ์ได้ในวินาทีนั้นเลย

การมีแฟนช่างดูเป็นอะไรที่น่าสยดสยอง คงเหมือนการมีห่วงมาผูกคอรัดรึงเรา ร้อยรักไม่โอ!

และเพราะความเป็นแคซาโนวีของเธอนี่เอง เพื่อนๆ เลยพากันตั้งฉายาให้ว่า ‘ร้อยรักแรดเก่ง แหลเก่ง โสดเก่ง ว่างกรุบกริบ ชอบสนิทกับคนหล่อ’

แม้ใจจริงเธออยากแก้ต่างและปฏิเสธฉายาสุดเฟี้ยวนี่ แต่เพราะการกระทำของตัวเองที่เปรียบเสมือนการยืนยันความจริงว่าเป็นไปตามนั้น ร้อยรักเลยจำต้องยอมรับฉายานี้ไปโดยปริยาย

“แล้วนี่แกอาบน้ำหรือยังเนี่ยปริม สภาพเหมือนใส่ชุดนอนออกมาเลยนะยะ” ร้อยรักแกล้งเย้าคนใส่เสื้อยืดสีขาวซีดและกางเกงขายาวขาดๆ ตามสไตล์สาวเซอร์ปากจัด ผลคือโดนอีกฝ่ายมองอย่างขุ่นเคือง

“เรื่องของฉันน่า ใครจะไปเป๊ะอย่างแก มาแดกส้มตำแค่นี้ แต่งตัวอย่างกับมาเดินรันเวย์”

ปากได้รูปเตรียมอ้าเพื่อเปิดศึกทางวาจากับปริมาอีกรอบ ทว่าเพื่อนๆ เริ่มส่งสัญญาณให้หยุดจิกกัดกัน ร้อยรักเลยปล่อยไปก่อน แล้วร่วมจัดการกับส้มตำ พูดคุยสังสรรค์กับเพื่อนๆ แทน

คุยกันไปเรื่อยๆ ก็มาถึงหัวข้อที่น่าเบื่อสำหรับร้อยรัก...เรื่องคู่ครอง

เพื่อนหญิงพลังหญิงในก๊วนเริ่มทยอยมีคู่กันจนจะหมดแล้ว เหลือแค่เธอกับปริมาที่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน

“แกจะมีแฟนเหมือนคนอื่นบ้างไหมเนี่ยยายรัก เอาแต่แรดไปวันๆ นะแก เมื่อไรจะมีคู่เป็นจริงเป็นจังสักที”

ร้อยรักห่อไหล่รับคำถามจากปริมา ส่ายหน้าหวือ “ไม่เอา ไม่มี ฉันชอบชีวีอิสรเสรี มีแฟนแล้วน่าหลอนออกนะ ให้ฟีลเหมือนมีผู้คุมเลยอะแก๊”

“กลัวคนมาคุมไม่ให้แรดได้อีกว่างั้น” ปริมาหรี่ตามองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแกล้งแช่ง “อิคนแบบแกนี่แหละ ระวังไว้เถอะ จะถึงคราวปุบปับได้รับผัวจากเบื้องบนมาโดยไม่ทันตั้งตัว เผลอๆ อาจจะแถมลูกน้อยมาให้เลี้ยงอีกสักคนสองคน”

“ปากเสีย! ฉันยังไม่อยากมีย่ะ โนผัวโนลูก เข้าใจ๊”

“เออ อย่าให้เห็นนะว่าจะมีผัวมีลูกเร็วๆ นี้ แม่จะล้อไปยันลูกโตเลย”

ร้อยรักยักไหล่ เชิดหน้าใส่เพื่อน แล้วตอกกลับ “แกอย่ามาว่าฉันมาก แกด้วยนั่นแหละ จะมีเมื่อไร”

ปริมาส่ายหน้าแรงๆ สองที ก่อนจะประกาศเจตนารมณ์เสียงแข็ง “ฉันจะขึ้นคานโว้ย! ฉันไม่สนผู้ชายหรอก ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำมาก เห็นแกคุยกับผู้ชายเยอะๆ ฉันยังงงเลยว่าแกคุยไปได้ไง”

“เอ้า ก็บริหารเสน่ห์กรุบกริบไงยะ ใครจะไปทื่อมะลื่อแข็งโป๊กเหมือนแกมิทราบ”

“พอๆ เลยพวกแก จิกกัดกันเหมือนสมัยเด็กเลยนะ” หนึ่งในผู้รับชมศึกทางวาจาเอ่ยแทรก โดยเย้าสองสาวที่ต่างกันสุดขั้ว “พวกแกสองคนนี่สุดโต่งกันทั้งคู่ ยายรักก็ลื่นไหลแคซาโนวีจ๋า มีกิ๊กไปเรื่อย ไม่อยากมีใครจริงจัง ส่วนยายปริมก็แข็งจัดจนนิมิตคานทองไว้ให้ตัวเอง นี่ถ้าพวกแกมีผัวมีลูกพร้อมกันขึ้นมา พวกฉันจะฮาให้ดู”

ถ้อยคำที่เปรียบเสมือนการพยากรณ์นั่นทำร้อยรักกับปริมาทำหน้าตื่นตาเหลือกทั้งคู่ ก่อนจะประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ลูกผัวอะไร ไม่มีหรอก!”

 

เพราะมารดาสั่งไว้ว่าให้กลับบ้านเร็ว บอกว่ามีเรื่องเตรียมเซอร์ไพรส์ให้เธอตื่นเต้นดีใจ ร้อยรักเลยต้องขอตัวจากเหล่ามิตรสหายตั้งแต่ยังไม่ค่ำดี

หญิงสาวขับรถเก๋งสีขาวสัญชาติญี่ปุ่นออกจากร้านส้มตำแล้วตรงดิ่งไปยังบ้านสองชั้นของตนซึ่งอยู่ที่ย่านชานเมืองทันที ครั้นถึงที่หมายแล้ว สาวสวยก็ลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน ก่อนจะกลับเข้ามาในรถแล้วขับไปจอดที่โรงจอดรถ แล้วก็ปิดประตูรั้วให้เรียบร้อย

จากนั้นเธอก็ไขกุญแจเข้าไปในบ้าน ก่อนจะต้องขมวดคิ้วและเอะใจเมื่อพบว่าบ้านเงียบผิดปกติ...เจ๊แรมใจเขาไปไหนหว่า...

เดินหามารดาอย่างไรก็ไม่เจอแม้แต่เงา แล้วก็มีอันต้องขมวดคิ้วอีกคราเมื่อได้ยินเสียงกุกกักจากบนชั้นสอง เธอคิดว่าคงเป็นมารดาตน เลยเดินยิ้มขึ้นบันไดไปตามเสียงที่ได้ยิน และพบว่าเสียงนั้นดังมาจากห้องของเธอ

หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่ามารดาเข้าไปในห้องเธอทำไม ด้วยรู้กันอยู่ว่าทั้งแม่ทั้งลูกนั้นไม่มีใครเข้ามายุ่งในเขตแดนของกันและกันสักเท่าไร เพราะนิสัยโลกส่วนตัวสูงปรี๊ดกันทั้งคู่นั่นเอง

พอร้อยรักบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไปก็มีอันต้องอ้าปากค้าง ตะลึงงัน เพราะคนที่พบนั้นไม่ใช่แม่ แต่เป็นหนุ่มละอ่อนหน้าใสกิ๊กคนหนึ่งที่นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว!

“กรี๊ดดด!” เธอกรีดร้อง ปรี่ไปหาแล้วโวยวายใส่เขา “ไอ้บ้า แกเป็นใครฮะ มาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง!”

เธอใช้กระเป๋าสะพายฟาดหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่กลัวเกรง ตัวเขาเองก็พยายามปัดป้องเช่นกัน และในจังหวะพิลึกพิลั่นอะไรก็ไม่รู้ที่นรกแสนชังสวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง จู่ๆ ชายหนุ่มก็สะดุดขาตัวเองจนล้มหงายหลังไปนอนอ้าซ่าอยู่บนเตียง แถมผ้าเช็ดตัวยังหลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นสิ่งที่กำลังตั้งขึ้นและขยายใหญ่บึ้มอยู่!

“กรี๊ดดด...เก็บงูของแกเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

ชายหนุ่มทำหน้าตื่น รีบเก็บงู เอ๊ย! รวบผ้าขนหนูมาผูกเป็นปมไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน เอ่ยเสียงนุ่มอย่างคนกำลังพยายามควบคุมสติ “ใจเย็นๆ นะครับ ผมเอง ผมระ...”

“ผมไหนของแก ฉันไม่รู้จักแก!” สาวสวยโพล่งแทรก ก่อนจะจีบปากจีบคอเอ่ย “แล้วฉันก็ไม่เย็นด้วย ไอ้โรคจิตโชว์งู!”

หญิงสาวใช้กระเป๋าสะพายฟาดเขาอีกครั้งอย่างไม่ยั้งมือ สร้างความเจ็บให้ชายหนุ่มจนเขาต้องตัดสินใจแย่งกระเป๋าจากมือเธอ แล้วขว้างมันไปไว้บนเตียง ก่อนรวบมือน้อยทั้งสองข้างไว้ รีบแก้ต่างให้ตัวเอง

“ผมไม่ใช่โรคจิตโชว์งูนะครับ ผมพะ...”

“ถ้าไม่ใช่โรคจิตแล้วแกจะเป็นใคร!” ร้อยรักพูดแทรกอีก

และในเสี้ยววินาทีนั้น ไม่รู้ว่าสวรรค์จะเกลียดชังอะไรร้อยรักนักหนา ขณะที่กำลังพยายามดึงมือออกจากมือใหญ่ เธอดันเสียการทรงตัวสะดุดหงายหลังลงไปบนเตียง ส่วนเขาก็ล้มตามลงมาทาบทับเธอไว้ทั้งตัว แล้วเธอก็รู้สึกได้ว่าภายใต้ผ้าขนหนูนั้น งูของหมอนี่กำลังชูคอมาสัมผัสเธออยู่

“กรี๊ดดด...อึก...อื้อออ...อ่อยอ๊านนน...”

ชายหนุ่มเอามืออุดปากสาวเจ้าไว้ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่รู้อะไรกันสักที

“พี่รักฟังผมนะครับ ผมพันรบไง จำไม่ได้เหรอ”

การแนะนำตัวของเขาทำเอาร้อยรักชะงักกึก หยุดดิ้นทันควัน ค่อยๆ ทวนชื่อและความจำในสมัยเด็ก

“พันรบ...น้องรบ?”

“ครับ รบเอง รบลูกแม่พรรณีไง” พันรบยืนยันสถานะตนเอง ก่อนจะผละออกจากร่างงาม รีบลุกขึ้นยืนจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนร้อยรักก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพลางนึกถึงพรรณี เพื่อนเก่าชาวสองแควของแม่ ที่เสียชีวิตไปได้หลายปีแล้ว

ในช่วงที่จัดการเรื่องงานศพ แรมใจไปช่วยงานด้วย ร้อยรักในวัยสิบปีที่ไม่สามารถอยู่บ้านคนเดียวได้ อีกทั้งยังไม่อยากไปอยู่กับพ่อจึงตามแม่ไปด้วย นั่นเลยทำให้เธอได้เจอ ‘น้องรบ’ หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักวัยห้าขวบที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างกะทันหัน

ร้อยรักแสนจะสงสารน้องน้อย เลยเข้าไปพูดคุยเล่นด้วย สุดท้ายน้องรบก็ติดพี่รักมาก คอยเดินตามเธอแจ และขอให้เธอคอยดูแล ไม่ว่าจะป้อนข้าว กล่อมนอน และอาบน้ำให้

หลังจากเสร็จสิ้นงานศพแล้ว พันรบก็ต้องย้ายไปอยู่กับญาติที่เชียงใหม่ ส่วนเธอก็ต้องกลับกรุงเทพฯ จากนั้นเธอก็ไม่เคยได้พบน้องชายคนนั้นอีกเลย...

พอหันมาพิจารณาใบหน้าของเขาคนนี้ดีๆ ก็รู้ชัดว่าเขาคือน้องชายตัวน้อยที่เธอเคยอาบน้ำให้จริงๆ

พลันเธอก็อดนึกเปรียบเทียบงูน้อยที่เห็นในตอนนั้นกับงูใหญ่ที่เห็นเมื่อครู่ไม่ได้ ไซซ์ของมันช่างแตกต่างกันเสียจนเธอเผลออุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นระคนประหลาดใจ

“โห ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปี บิ๊กบึ้มขนาดนี้แล้วเหรอ”

“ครับ?”

สีหน้าที่แสดงถึงความสงสัยของพันรบทำร้อยรักหน้าเจื่อน และก่นด่าตัวเองในใจ...‘นังรัก นังบ้า แกพูดอะไรออกป๊ายยย!’

“อะไรบิ๊กบึ้มครับ”

สาวสวยหน้าม้าน ก่อนจะเอ่ยอุบอิบ “กะ...ก็คือพี่หมายถึงตัวน่ะ ตัวใหญ่บิ๊กบึ้มขนาดนี้เลยเหรอ”

แก้ต่างแล้วก็หัวเราะแหะๆ กระดากอายนัก...เรื่องชอบโพล่งอะไรเพี้ยนๆ ออกมานี่ ทำไมแก้ไม่หายสักที

“ครับ ผมสูงขึ้นมากใช่ไหม”

“เอ่อ...จ้ะ สูงกว่าพี่เยอะเลย” เธอตอบรับพลางกะความสูงของเขา ตัวเธอสูง 165 ซม. ยังแค่ไหล่ของเขา พันรบคงจะสูงเกิน 180 ซม. เป็นแน่

“แล้วรบมาบ้านพี่ได้ยังไง พี่งงไปหมดแล้วนะ” บ่นกึ่งถามแล้วก็ตาโตวาว ด้วยนึกรู้อะไรๆ ขึ้นมาได้ “หรือว่า...นี่คือเรื่องเซอร์ไพรส์ของแม่พี่”

“เรื่องเซอร์ไพรส์? พี่รักหมายถึงอะไรเหรอครับ แล้วนี่ป้าแรมไม่ได้บอกพี่รักเหรอครับว่าผมจะมาอยู่ด้วย”

“หือ จะมาอยู่กับพี่เหรอ แม่ไม่ได้บอกอะไรพี่เลย แม่นะแม่” ปากได้รูปบ่นกระปอดกระแปดอย่างไม่ชอบใจ ส่วนสายตาก็ซอกแซกสังเกตเห็นว่าพันรบหุ่นดีนักหนา ซิกซ์แพ็กช่างน่าลูบไล้ที่สุด...‘เย้ย หยุดคิดอกุศลได้แล้ว นังชะนีแก่’

“ผมขอโทษด้วยนะครับ ที่มาใช้ห้องน้ำพี่รัก พอดี...ป้าแรมให้ผมมาใช้น่ะครับ ห้องน้ำห้องผมฝักบัวมันเสีย”

“อ้อ...แล้วนี่แม่พี่ไปไหน”

“เห็นบอกว่าออกไปทำธุระข้างนอกน่ะครับ”

ร้อยรักพยักหน้ารับ ไม่แปลกใจเท่าไร ด้วยแม่เป็นคนนึกจะไปไหนก็ไปเป็นเรื่องปกติ

“ผมเสียใจจริงๆ ครับที่มาเจอพี่รักในสภาพอย่างนี้ แล้วยังจะ...”

เห็นสีหน้าเก้อกระดากของน้อง ร้อยรักก็เข้าใจโดยพลันว่าเขาคงเขินที่เธอมาเห็นงูของเขา แถมมันยังขยายชูคอขึ้นมาให้ได้อายกันทั้งคู่อีกต่างหาก แต่เธอก็เข้าใจได้ว่านี่คือธรรมชาติของผู้ชาย น้องคงไม่ได้ตั้งใจให้มันกลายเป็นแบบนี้

“ผมขอโทษอีกครั้งนะครับพี่รัก ขอโทษจริงๆ”

พันรบยกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด หน้าตาละอ่อนใสซื่อหมองลงจนร้อยรักใจอ่อนยวบ พร้อมกันนั้นก็นึกอยากจะเขกกะโหลกตัวเองนักที่เผลอคิดชั่วร้ายกับเด็กน้อยของเธอ

“ไม่เป็นไร พี่ไม่ว่าอะไรหรอก อย่าคิดมากเลยนะน้องรบ น้องรบไม่ต้องพูด ไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้วละ เดี๋ยวพี่ถามทุกอย่างกับแม่พี่เองนะ”

“ขอบคุณนะครับพี่รัก พี่รักใจดีที่สุดเลย” ละอ่อนน้อยโผเข้ากอดพี่สาวร่วมโลกจนแน่น ก่อนจะรีบผละออกอย่างตกอกตกใจ “ขอโทษครับ พอดีผมดีใจมากไปหน่อยเลยลืมตัว เผลอกอดพี่รักเหมือนตอนเด็กๆ”

แม้จะตาเหลือกด้วยความตกใจและเสียววาบกับการกอดเนื้อแนบเนื้อชวนสยิวกิ้วจากพันรบมากเพียงใด แต่ร้อยรักก็ปล่อยผ่านไป คิดว่าน้องคงหมายความตามนั้นจริงๆ คงไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินเธอ

“งั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ”

พันรบยิ้มบาง ก่อนจะหมุนตัวเดินไปเปิดประตูออกจากห้องร้อยรัก เพื่อกลับห้องตนที่อยู่ถัดไป...

ฉับพลันนั้นเอง สีหน้าไร้พิษภัยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มมุมปากพลางหัวเราะหึในลำคอ ราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่เตรียมวางแผนจับแกะสาวกิน

ร้อยรักคงนึกไม่ถึงว่าน้องชายหน้าตาใสซื่อจะหลอกกอดเธอ และคิดหื่นกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้ากันหลังจากไม่ได้เจอกันมานานหลายปี

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ชายหนุ่มได้เห็นความสวยของร้อยรักจากเพียงแค่รูปถ่าย และเฝ้าจินตนาการว่าร้อยรักตัวจริงจะสวยขนาดไหน ซึ่งพอได้มาเจอกันแล้ว พันรบก็ขอสรุปความว่า เธองามล้ำจับใจยิ่งกว่าที่เห็นในรูปมากนัก

ที่สำคัญกว่านั้น เธอช่าง...ใหญ่โตดีจริงๆ

เปล่า...พันรบไม่ได้หมายถึงตัว เพราะเธอหุ่นดีร่างบางเหลือเกิน

ที่ว่าใหญ่นั้นหมายถึง...หน้าอกหน้าใจ

มองด้วยตาเปล่าก็พอเดาได้ว่าน่าจะคัปซี หากได้สัมผัสลูบไล้ก็คงจะเต็มไม้เต็มมือสุดๆ ไปเลย

ชายหนุ่มยิ้มร่าด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ ก่อนจะหันหลังกลับไปจ้องประตูห้องของร้อยรักอย่างหมายมาด นัยน์ตาวาววับไปด้วยความสมใจ...ในที่สุดก็มาถึงเวลานี้สักที เวลาที่เขาโตพอจนจะมาจับจองเป็นเจ้าของสาวเจ้าเสน่ห์คนนี้

ได้เห็นงูเขาแล้วก็ดี เธอจะได้รู้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ามันบิ๊กบึ้มแค่ไหน เมื่อถึงเวลาที่มันได้บุกเข้าไปหาเธอคราใด เธอจะได้เตรียมรับความหฤหรรษ์ที่เขาตั้งใจจะมอบให้แต่โดยดี!

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น