๗
หมาแสบ
จากการวิดีโอคอลในวันนั้นสู่การติดต่อกันทุกช่องทางที่ศิคาลจะหาได้ วันนี้รู้ตัวอีกทีลานไพลินก็คุยกับชายหนุ่มเป็นระยะตลอดทั้งวันและทุกคืนก่อนนอน มันเริ่มต้นจากการสนทนาว่าด้วยเรื่องหมาๆ แล้วต่อมาก็ค่อยๆ เพิ่มเรื่องราวในชีวิตประจำวันของแต่ละคน ไปจนถึงเรื่องสัพเพเหระ
ศิคาลโทรศัพท์หาเธอเพราะมีเบอร์ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เคยพบหน้าและสนทนากันเพียงเรื่องงาน ดูเหมือนว่าวันนี้สถาปนิกหนุ่มจะค้นพบช่องทางใหม่
เขาส่งข้อความมาทางแอปพลิเคชันไลน์ซึ่งเคยใช้ติดต่องานเมื่อนานมาแล้ว รูปโพรไฟล์ของศิคาลเป็นยิมโนนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวสีเทาอ่อนในสวนซึ่งมีไม้พุ่มตัดเป็นทรงกลมไล่ระดับทับซ้อนอย่างมีชั้นเชิง ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่ริมขวาและซ้ายของภาพ เงาของกิ่งก้านถูกแสงแดดส่องสะท้อนให้ปรากฏเป็นผลงานศิลปะบนผนังสีขาวของอาคาร องค์ประกอบทุกอย่างมีความเก๋ไก๋สบายตา ยิมโนน่าจะอยู่ในสวนซึ่งศิคาลออกแบบนั่นเอง
‘สวัสดีครับ’
เขาส่งสติกเกอร์การ์ตูนสุนัขไซบีเรียนฮัสกีสีน้ำตาลขาวจากเพจ 'หมาแสบ' ที่หญิงสาวเป็นแฟนตัวยง มันชูขาหน้าขึ้นหนึ่งขา กระดิกหางดุ๊กดิ๊กและมีคำ 'Hi' อยู่บนศีรษะ
จากนั้นชายหนุ่มก็ส่งรูปถ่ายริมชายทะเลซึ่งมีผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มตัดกับท้องฟ้าสดใส เป็นทิวทัศน์ที่น่าอิจฉาอย่างยิ่ง
‘ถึงภูเก็ตแล้วเหรอคะ’
‘เพิ่งถึงสักพักครับ แล้วมาทำงานเลย’
ศิคาลส่งรูปถ่ายอาคารซึ่งมีกองดินเขรอะๆ ล้อมรอบ ยังดูไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
หญิงสาวตอบกลับด้วยสติกเกอร์การ์ตูนเจ้าไซบีเรียนฮัสกียืนอยู่บนยอดเขาสูงแหลม ตะโกนเป็นข้อความที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นว่า ‘สุดยอด!’
‘น้องลินใช้สติกเกอร์ของเพจหมาแสบ รู้จักเพจนี้ด้วยเหรอครับ’
‘ค่ะ ลินชอบมากเลย น่ารักดี เป็นการ์ตูนหมาไซโดยเฉพาะด้วย เห็นแล้วอารมณ์ดีค่ะ’
‘ดีจัง น้องลินติดตามมานานแล้วเหรอ’
‘เกือบสองปีแล้วค่ะ ลินเป็นแฟนตัวยงด้วยนะ’
เธอคุยโอ่เพราะติดตามและกด ‘หัวใจ’ บ้าง ‘หัวเราะ’ บ้างสลับกันไปในทุกๆ ครั้งที่เจ้าของเพจโพสต์การ์ตูนใหม่ จนระบบของเฟซบุ๊กมอบเครื่องหมาย ‘แฟนตัวยง’ ของเพจนี้ให้แก่เธอ
ศิคาลส่งสติกเกอร์ ‘สุดยอด’ อันเดียวกับที่ลานไพลินเคยส่งให้
‘เกือบสองปีก็ตั้งแต่เริ่มทำเพจเลย’
‘ค่ะ พี่ครามก็ชอบเพจนี้เหรอ’
ชายหนุ่มตอบด้วยสติกเกอร์ที่เจ้าสุนัขตัวเดิมพยักหน้าหงึกๆ และมีคำว่า ‘Yes’
‘น่ารักดีเนอะ ลินดีใจมากเลยตอนเขาประกาศในเพจว่าทำสติกเกอร์ไลน์ขาย แต่เสียดายอยู่อย่างเดียวค่ะ’
ศิคาลส่งสติกเกอร์เจ้าฮัสกีตัวเดิมเอียงคอไปมาด้วยความสงสัย มีเครื่องหมายคำถามอยู่ข้างๆ ใบหน้า
‘น้องหมาเป็นสีน้ำตาลขาวค่ะ ถ้ามีสติกเกอร์หมาไซสีคล้ายๆ แสนแซ่บก็ดีเนอะ ลินเคยลองหาสติกเกอร์ของคนอื่นๆ แล้ว แต่ไม่น่ารักเท่านี้เลย’ เธอส่งสติกเกอร์เจ้าฮัสกีร้องไห้โฮๆ
‘ถ้าเขาทำเป็นหมาสีเทาอ่อนกับขาวได้ก็น่าจะดีสินะ’
‘ลินจะซื้อทันทีเลยค่ะ’
ศิคาลส่งสติกเกอร์เจ้าฮัสกียิ้มแฉ่งตอบมา
ติ๊ง!
เสียงเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ในแท็บเล็ต ซึ่งลานไพลินใช้สำหรับติดต่องานของสวนเกษตรสักโดยเฉพาะดังขึ้นแสดงว่ามีลูกค้ามาทักในไลน์ออฟฟิเชียลของสวน ซึ่งหญิงสาวได้สมัครใช้งานในช่วงหลังๆ เมื่อมีลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น
ในอดีตสวนเกษตรสักขายพรรณไม้ผ่านร้านค้าในตลาดต้นไม้และผู้รับซื้อล็อตใหญ่เจ้าเดิมๆ เท่านั้น ซึ่งก็ผลิตกันจนแทบล้นมือแล้วเพราะไม่ได้ส่งขายแค่ในเมืองไทยแต่มีลูกค้าประจำเจ้าใหญ่ที่สั่งจองกันข้ามปีจากต่างประเทศด้วย ทว่าหลังจากลานไพลินมาเป็นผู้จัดการสวน เธอเล็งเห็นว่ามีลูกค้าอีกจำนวนมากต้องการต้นไม้ที่กำลังนิยมอยู่ในกระแส สืบเนื่องจากวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปเป็นแบบนิวนอร์มัลตั้งแต่ตอนที่โรคระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นใหม่ๆ จนผู้คนต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลานานและหันมาปลูกต้นไม้กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ลานไพลินจึงเปิดการค้าปลีกแบบออนไลน์โดยเน้นพรรณไม้ในกระแสซึ่งสวนเกษตรสักมีอยู่แล้วมากมาย เธอควบคุมจำนวนต้นไม้ที่ขายเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตได้ทันและมีคุณภาพ ผู้ซื้อยินดีที่จะต่อคิวรอ
ลูกค้าส่วนใหญ่ติดตามมาจากชื่อเสียงของสวนเกษตรสักเอง และจากโซเชียลมีเดียของดารานักแสดงที่ตามมาซื้อถึงสวน รวมถึงช่องยูทิวบ์ต่างๆ ซึ่งมาขอสัมภาษณ์โพธิ์ออกรายการอยู่บ่อยๆ
แน่นอนว่ามีแฟนๆ ตามมาจากรายการใบละโพธิ์ด้วย ลูกค้าคนที่เพิ่งส่งข้อความมาทักทายคนล่าสุดนี้ก็เช่นกัน
Mhee : สวัสดีครับ ผมตามมาจากช่องยูทิวบ์ใบละโพธิ์ครับ
@Kasetsak Garden : สวัสดีค่า
ลานไพลินพิมพ์ตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง พ่อของเธอตกแฟนคลับมาได้อีกคนแล้ว เธอวางแท็บเล็ตลงชั่วครู่ เปลี่ยนเป็นพิมพ์ข้อความหาศิคาลที่ไลน์ส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ
‘พี่ครามคะ พอดีมีลูกค้ามาค่ะ ลินขอไปคุยกับเขาก่อนนะคะ’
‘โอเคครับ ไว้ค่อยคุยกันใหม่ ขอให้ขายดีนะครับ’
หญิงสาวส่งสติกเกอร์เจ้าฮัสกียกมือไหว้มีคำว่า ‘Thank you’ อยู่บนหัวมัน แล้วรีบไปเจรจากับลูกค้ารายล่าสุด
ลูกค้ารายนี้ทำให้ลานไพลินอารมณ์ดีมาตลอดทั้งวันจนถึงก่อนนอนเลยทีเดียว หญิงสาวร้องเพลงงุ้งงิ้งอยู่บนเตียงโดยมีแสนแซ่บหอนคลอไปด้วย
ลูกค้าหน้าใหม่ทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อซื้อไม้หายากราคาแพงซึ่งโพธิ์เพาะพันธุ์ไว้ตั้งแต่ยังผู้คนยังไม่สนใจ ตอนนี้เพียงใบเดียวของมันก็มีราคาราวกับทองคำ ลูกค้าขอซื้อไปหลายต้นซึ่งแต่ละต้นมีอยู่หลายใบ เขาจ่ายเงินเรียบร้อยและจะมารับด้วยตนเอง ไม่ต้องจัดส่ง
หน้าจอโทรศัพท์สว่างวาบเตือนว่ามีข้อความส่งมาทางไลน์ ลานไพลินไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร
‘นอนรึยังครับ’
‘ยังค่ะ’
‘อยู่กับแสนแซ่บเหรอ’
‘ค่ะ’
หญิงสาวส่งรูปแสนแซ่บที่นอนซบหน้าตักของเธอไปให้
‘อิจฉาจัง’
แน่ะ! ลานไพลินไม่กล้าคิดว่าศิคาลอิจฉาอะไร เธอไม่ได้ไร้เดียงสาเสียจนไม่รู้ว่าชายหนุ่มมาคุยด้วยทุกวันทุกคืนทำไม จากที่หญิงสาวเคยเถียงบัวชมพูว่าศิคาลไม่ได้จีบ ตอนนี้ลานไพลินถูกเพื่อนรักล้อเลียนทุกครั้งที่เจอหน้า เสียงบัวชมพูซึ่งพูดว่า ‘ฉันบอกแล้ว!’ ดังขึ้นมาในหัวอีกจนได้
ศิคาลคงไม่ได้จีบแสนแซ่บให้ลูกชายอย่างเดียวแล้วละ!
ชายหนุ่มส่งรูปเซลฟีของตัวเองนั่งอยู่ตรงระเบียงของโรงแรมซึ่งด้านหลังมืดมาก แต่พอจะเดาออกว่าคงเป็นท้องทะเลในยามกลางคืน ยังไม่พอ เขาส่งคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บ้านมียิมโนนั่งๆ นอนๆ อย่างหงอยเหงาอยู่ตามลำพังกับตุ๊กตาเน่าๆ สองสามตัว มันลุกขึ้นมาหอนในตอนท้ายของคลิปชนิดที่ลานไพลินเห็นแล้วใจอ่อนยวบด้วยความสงสาร
‘ยิมโนอยู่บ้านคนเดียวเหรอคะ’
‘อยู่กับคนสวน&แม่บ้านครับ’
เขาส่งคลิปวิดีโอซึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาปลอบยิมโน มันดีใจมาก แต่คงไม่เหมือนเจ้าของที่นอนด้วยกันทุกคืน
‘โถ เหงาแย่เลยยิมโน’
เพียงแค่จินตนาการตามว่าเธอต้องทิ้งแสนแซ่บให้อยู่ตามลำพัง หญิงสาวก็เจ็บปวดหัวใจแล้ว
‘ปกติมันนอนในห้องกับพี่ครับ แต่ถ้าพี่ไม่อยู่บ้าน มันต้องลงมานอนในห้องข้างล่างใกล้ๆ ห้องพักคนงาน’
‘ไม่ร้องแย่เลยเหรอคะ’
‘ร้องครับ บางทีคนงานก็เอาไปนอนในห้องด้วย แต่ตอนนี้เมียเขาเพิ่งคลอดลูกเลยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่’
‘น่าสงสารจัง’
หญิงสาวส่งสติกเกอร์ฮัสกีทำหน้าเศร้า
‘พี่ขอ video call ไปหาได้มั้ย’
ลานไพลินไม่ตอบ แต่กระโจนลงจากเตียงไปส่องกระจกอย่างเร็วรี่จนแสนแซ่บถึงกับผุดลุกตามพร้อมคำรามด้วยความตกใจ
“แม่ขอโทษ แต่แม่ต้องสวยไงแสนแซ่บ”
หญิงสาวอธิบายพลางเอาแป้งฝุ่นมาผัดหน้าบางๆ ทาลิปมันสีอ่อนๆ เล็กน้อยหวีผมลวกๆ ให้ดูเหมือนไม่ตั้งใจแล้วกระโดดกลับมานั่งบนเตียงคลุมผ้าห่ม จัดปกเชิ้ตของชุดนอนให้เรียบร้อยขึ้นมาอีกนิดก่อนจะพิมพ์ตอบชายหนุ่ม
‘โอเคค่ะ’
ศิคาลวิดีโอคอลมาทันทีที่ได้รับอนุญาต
“สวัสดีครับน้องลิน”
เจ้าของใบหน้าคมคายโบกมือข้างที่ว่างให้ เขาไม่ได้อยู่ริมระเบียงแต่นั่งพิงหัวเตียงของโรงแรม แม้จะสวมเพียงเสื้อยืดคอกลมสีเทา ผมข้างหน้ายุ่งลงมาปรกหน้าผากเล็กน้อยเพราะไม่ได้จัดทรง ชายหนุ่มก็ยังดูดีเสมอ
“บรู๊ว์” แสนแซ่บเสนอหน้าเข้ามาในกล้อง
“หวัดดีแสนแซ่บคนสวย”
“บรู๊ว์ๆ” ใช่ค่ะ หนูสวย...มันน่าจะตอบแบบนี้แหละ ลานไพลินยิ้มขบขัน
“เราน่าจะให้แสนแซ่บได้เจอกับยิมโนจริงๆ เสียทีนะครับ” ศิคาลสบตาหญิงสาวผ่านกล้องโทรศัพท์
“แล้วหมาไซฯ จะไม่พากันไปบรรลัยเหรอคะ” ลานไพลินแกล้งเย้า
“นั่นสิครับ” เขาหัวเราะ
เธอกับศิคาลเห็นสมาชิกในกลุ่ม ‘เรารักไซบีลิง’ ลงรูปความหายนะที่น่าขบขันเมื่อมีไซบีเรียนฮัสกีมากกว่าหนึ่งตัวมาอยู่ด้วยกัน
“พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน ไม่เคยเลี้ยงหมาไซฯ พร้อมๆ กันสองตัวเสียด้วย เราน่าจะลองทดสอบดูนะครับว่ามันจะบรรลัยคูณสองจริงๆ มั้ย” ดวงตาคมพริบพราวอย่างขี้เล่น
“ไซบีลิงคูณสองแค่คิดลินก็สยองแล้วค่ะ”
“ยิมโนอาจจะหัดปีนหลังคาตามแสนแซ่บก็ได้”
“ตายแล้ว แค่นึกภาพตามก็ขนลุกเนี่ย!”
“ฮ่าๆ” ศิคาลหัวเราะเต็มเสียงทำให้เขายิ่งมีเสน่ห์ “แสนแซ่บไปหัดปีนหลังคามาจากไหนเหรอครับ”
“มันปีนตามแมวของคนงานในสวนมาอีกทีค่ะ แมวชอบไปนอนเล่นบนหลังคาโรงรถ แสนแซ่บเลยปีนหน้าต่างที่ลินเผลอเปิดทิ้งไว้ออกไปบ้าง มันอยู่ตรงหลังคาโรงรถพอดีเลยค่ะ ตอนเห็นครั้งแรกลินตกใจจนแทบช็อก”
“บรู๊ว์ๆ โบร๊ว์ๆ” แสนแซ่บเถียง
“แก้ตัวเหรอยายจอมแสบ นี่แน่ะ!” ลานไพลินยีหัวมันด้วยความมันเขี้ยว พาให้ศิคาลหัวเราะไปด้วย
ทั้งคู่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความป่วนของเจ้าไซบีลิง สุนัขสายพันธุ์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หรือที่เรียกว่า ‘อินดี’ มันมักจะฉลาดแกมโกง อยากรู้อยากเห็น ซุกซน แข็งแรง และบ้าพลัง ส่วนใหญ่แล้วถ้ามันไม่ได้รับการฝึกฝนก็อาจเลือกฟังคำสั่งจากเจ้าของเฉพาะคนที่มันยอมรับให้เป็นผู้นำ หรือไม่ก็ไม่ฟังและเลือกทำตามคำสั่งต่อเมื่อมันอยากทำ
วีรกรรมของแสนแซ่บกับยิมโนถูกถ่ายทอดจากปากแม่และพ่อ โดยเฉพาะความสามารถในการทำล้างสมัยที่พวกมันยังเด็กมากๆ ไซบีเรียนฮัสกีเป็นมิตรกับมนุษย์ก็จริง แต่สำหรับคนรักบ้านและคนทำสวน พวกเขาต้องสู้รบกับการที่พวกมันเคยกัดเฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ ตลอดจนรถรา ด้วยสาเหตุที่สุนัขสายพันธุ์นี้มีพละกำลังเปี่ยมล้นระดับไฮเปอร์แอ็กทิฟ หากไม่ได้ปลดปล่อยพลังด้วยการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มันจะเกิดความเครียดจนต้องทำลายล้างข้าวของรอบตัวแทน
สิ่งที่สองหนุ่มสาวขบขันร่วมกันคือฝีเท้าของเจ้าฮัสกี พวกมันวิ่งเร็วมากชนิดที่คนเลี้ยงทั้งหลายมักบ่นแกมระอาว่า ‘อย่าปล่อยให้ไซฯ หลุด’ เพราะมันจะวิ่งเร็วสุดๆ จนมนุษย์ตามไม่ทัน มีหลายตัวที่จำทางกลับบ้านไม่ได้ จึงเกิดเหตุการณ์สุนัขไซบีเรียนฮัสกีหายไปจากบ้านหรือมีคนพบเจอพวกมันหลงทางอยู่ตามที่ต่างๆ โชคดีที่แสนแซ่บกับยิมโนถูกเลี้ยงดูในพื้นที่ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด มันจึงหนีออกไปไหนไม่ได้ แต่กระนั้นบ้านและสวนกว้างๆ ของลานไพลินกับศิคาลก็มีพื้นที่ให้มันวิ่งหนีจนทุกคนต้องไล่ตามอย่างหอบแฮกอยู่เหมือนกัน
วีรกรรมล้นๆ ของไซบีเรียนฮัสกีทำให้มีข่าวจากมูลนิธิพิทักษ์สัตว์หลายแห่งว่ามันเป็นหนึ่งในสุนัขอันดับต้นๆ ที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งเนื่องจากเลี้ยงไม่ไหว เพราะไม่เข้าใจธรรมชาติของพวกมัน ประกอบกับไม่มีเวลาและไม่มีความสามารถในการดูแล ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูก็สูงทั้งอาหารการกินและการพบแพทย์ มูลนิธิทั้งหลายจึงขอร้องให้ประชาชนพิจารณาถึงความพร้อมของตนก่อนจะเลือกสุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีมาเลี้ยง
“อยากกลับกรุงเทพฯ แล้วครับ จะได้พายิมโนไปหาแสนแซ่บเสียที ได้มั้ยครับ” ศิคาลถามเสียงอ้อน
แล้วจะให้เธอตอบอย่างไร เธอเป็นผู้หญิงนะ...ลานไพลินเบนกล้องไปยังแสนแซ่บ เขาจะได้ไม่เห็นแก้มแดงระเรื่อของตน
“ต้องถามแสนแซ่บค่ะว่าอยากเจอยิมโนหรือเปล่า”
“บรู๊ว์ บรูว์ บรู๊ว์!” เจ้าหมาสีเทาเงินกระดิกหางอย่างระริกระรี้
“อยากเจอใช่มั้ยแสนแซ่บ ไว้พ่อจะพาพี่ยิมโนไปหาแสนแซ่บนะครับ”
“บรู๊ว์” มันตอบและคุยกับเขาอีกยาวราวกับรู้ความ ลานไพลินนั่งฟังด้วยแก้มร้อนผ่าว เพราะศิคาลเรียกตัวเองว่าพ่ออย่างหน้าตาเฉย
“น้องลิน...น้องลินครับ!”
“ขา” หญิงสาวขานรับเสียงหลงหลังนั่งฟัง ‘พ่อ’ คุยกับ ‘ลูกสาว’ จนเพลิน เธอขยับกล้องให้เขาใบหน้าของตน
“พี่โทร. ไปนัดน้าโพธิ์มาแล้วละว่าจะไปหา” นัยน์ตาของคนพูดระยิบระยับจนหญิงสาวใจเต้นแรงเลยทีเดียว
“พ่อว่ายังไงบ้างคะ”
“น้าโพธิ์บอกว่าให้ไปหาวันอังคารตอนบ่ายๆ ได้เลยครับ”
“อ๋อ” เธอเสหลบตา ทำเป็นเกาคอแสนแซ่บแก้เขิน
“ถ้าน้องลินว่างพี่พายิมโนไปด้วยได้มั้ย”
ปลายเสียงของคนถามทอดอ่อนชวนให้หัวใจของคนฟังเหลวเป็นน้ำเชื่อม
“แล้วพี่ครามจะได้ดูต้นไม้เหรอคะ”
“พี่ก็ฝากแสนแซ่บให้ช่วยดูแลยิมโนไง” ศิคาลยิ้มกว้าง
“ใครจะดูแลใครยังไม่รู้เลย” หญิงสาวย่นจมูก
“บรู๊ว์!” แสนแซ่บเถียงพลางเอาเท้าหน้าปัดกล้องให้หันไปหามัน
สองหนุ่มสาวหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ศิคาลจะนั่งคุยกับเจ้าฮัสกีช่างจ้อแทน
เช้าวันรุ่งขึ้น...เฟซบุ๊กเพจ ‘หมาแสบ’ ได้โพสต์ภาพการ์ตูนใหม่
ช่องที่ ๑ ด้านบน :
‘เมื่อหมามีความรัก’
<ภาพประกอบ สุนัขไซบีเรียนฮัสกีสีน้ำตาลตัดขาวยืนหันหน้าเข้าหาสุนัขไซบีเรียนฮัสกีสีเทาอ่อนกับขาวซึ่งมีขนตางอนๆ พอให้รู้ว่าเป็นตัวเมีย ตรงกลางเหนือศีรษะของพวกมันมีหัวใจสีชมพูพาสเทลหวานๆ ลอยอยู่หนึ่งดวง>
ช่องที่ ๒ ด้านล่าง :
‘เมื่อคนเลี้ยงหมามีความรัก’
<ภาพประกอบ การ์ตูนผู้ชายที่เป็นตัวละครหลักในเพจนี้จูงเจ้าฮัสกีสีน้ำตาลขาวตัวเดิมของเขาเข้าไปหาหญิงสาวซึ่งจูงฮัสกีสีเทาอ่อนกับขาวตัวเดียวกับรูปในช่องด้านบน พวกเขาสบตากันแก้มแดงก่ำอย่างขัดเขิน มีหัวใจสีชมพูลอยอยู่ตรงกลางเหนือศีรษะของทั้งคู่ และหัวใจดวงเล็กกว่าอีกดวงลอยอยู่เหนือศีรษะของเจ้าหมาทั้งสอง
...แสดงให้เห็นว่าทั้งคนและสุนัขต่างมีความรัก>
“นี่มัน...” ลานไพลินจ้องมองภาพการ์ตูนด้วยหัวใจเต้นแรง
ตามปกติเจ้าของเพจมักโพสต์เพียงรูปภาพล้วนๆ โดยไม่เขียนแคปชัน แต่คราวนี้ด้านบนสุดของโพสต์ เขาระบุความรู้สึกว่า ‘กำลังตกหลุมรัก’ พร้อมพิมพ์อิโมติคอนรูปหัวใจสีแดงหนึ่งดวงตรงแคปชัน
อะไรจะประจวบเหมาะขนาดนี้!
เมื่อวานเธอเพิ่งบ่นกับศิคาลไปหยกๆ แล้ววันนี้เพจ ‘หมาแสบ’ ก็เพิ่มตัวละครใหม่เป็นสุนัขสีเทาอ่อนกับขาวละม้ายแสนแซ่บ ปลอกคอเป็นสีแดงลายจุดขาวเหมือนกันอีกต่างหาก ส่วนตัวการ์ตูนผู้หญิง ลานไพลินไม่กล้าคิดเข้าข้างตนเอง ทว่าทรงผม รูปร่างลักษณะ และการแต่งกายคล้ายกับชุดที่เธอใส่ในงานวันคล้ายวันเกิดของบัวชมพู ขณะที่ผู้ชายในภาพก็แต่งตัวเหมือนศิคาลในวันดังกล่าว
ศิคาลไปจ้างเจ้าของเพจให้วาดรูปนี้มาใช่ไหม...หรือว่า...
ลานไพลินรีบค้นหาด้วยมือไม้สั่นว่าใครเป็นคนดูแลเพจนี้ แต่มันไม่มีการระบุชื่อ และไม่ได้เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊กส่วนตัวของศิคาล เธอจึงเปลี่ยนไปดูในแอปพลิเคชันไลน์ว่าคนออกแบบสติกเกอร์ของเพจ ‘หมาแสบ’ ที่ตนเองใช้อยู่นั้นมีชื่อว่าอะไร
‘Khram Sk’
“งื้อ!” ลานไพลินก้มหน้าลงซุกหมอน กรีดร้องไปกับแก้มร้อนๆ ที่เจียนจะระเบิดอยู่รอมร่อด้วยความเขินอาย
ความคิดเห็น |
---|